Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Wangleehom ที่ พฤษภาคม 19, 2018, 12:18:39
-
ถามคนที่ใช้รถยุโรป
ใจอยากกลับไปใช้รถญี่ปุ่นอีกไหมครับ
ไม่ว่าด้วยเหตุ ค่าบำรุงรักษาถูกกว่า หรืออะไรก็ตาม
-
กลับได้ครับ
ปัจจุบันผมใช้ estima ก่อนหน้านั้นใช้ A250 เปลี่ยนไปตามวัตถุประสงค์การใช้งานครับ ;)
-
ขอตอบกลับข้างได้ไหมครับ
ผมใช้ยุโรปมาก่อน เปลี่ยนมาใช้ญี่ปุ่น .. คันต่อๆไปถึึึึึึงจะยังชอบยุโรปอยู่ แต่ยััััััังประทับใจความทนของญี่ปุ่น ให้กลับไปใช้ยุโรปมีคิดหนักครับ
-
ผมใช้คู่กันครับ
รถยุโรปแข็งแรง น่าจะ safety ตัวเราได้มากกว่ารถญี่ปุ่น แต่ออฟชั่น ความเอนกประสงค์ ความทนทาน ความไม่จุกจิกแพ้รถญี่ปุ่น อันนี้คือเข้าศูนย์ บำรุงรักษาตามมาตราฐานของแต่ละแบรนด์นะครับ ไม่เข้าอู่นอกนะครับ
รถญี่ปุ่น เสียตรงที่มันบอบบางจริงๆครับ อยากให้มันแข็งแรง safety มากกว่านี้
-
แล้วแต่วัตถุประสงค์ครับ ถ้ารถใช้งานสมบุกสมบัน รถญี่ปุ่นทนทานดี แต่เดินทางไกลยังไงก็ยุโรป
-
ใช้ACV50ก่อนขาย มาใช้E350e เอาจริงๆ ผมว่าแคมรี่ไม่ได้แย่เรยนะครับ เผลอๆเบาะหลังนั่งกว่าE350e อีกครับ ตอนอยากได้เบนซ์ ก็คิดว่าจะเอามาให้ได้ พอมีตอนนี้เฉยๆ มากครับ เทียบกับL33อีกคัน หลัง140ไป เบนซ์น่ะ ขับดีกว่าอยู่แล้ว แต่ถามว่า มีโอกาสขับได้เร็วบ่อยๆมั้ย ก็ไม่ครับ เดียวแคมรี่ ตัวใหม่มา คงเอาL33ไปเทินครับ ติดใจในรถญี่ปุ่น คือมันทนเอามากๆ ขับเข้าศูนย์เช็คระยะ ตามปกติ ไม่มีไรเสียเรย เทียบกับเบนซ์ วันก่อน ที่ป้ดน้ำฝนปัดไม่ได้ เอาเข้าศูนย์ รอของ2อาทิตย์ ระหว่าง2อาทิตย์นี้ก็ใช้ระหว่างฝนตกไม่ได้ รถคัน4ล้าน ออกได้5เดือน ปัญหามาแล้วครับ
-
รถญี่ปุ่น ส่วนใหญ่เบาะนั่งฟองน้ำหนานิ่มดี (แต่ผมนั่งเกินชั่วโมงแล้วปวดก้นมาก) ค่าดูแลรักษายังไม่หนักกระเป๋าตังค์มากนัก ซื้อง่าย/ขายคล่อง (รุ่นตลาด)
รถยุโรป โครงสร้างแข็งแรงไว้ใจได้ว่าไม่มีชิ้นไหนตกทะเล เบาะนั่งส่วนใหญ่ฟองน้ำจะแน่น (บางรุ่นก็ไม้กระดานชัดๆ) นั่งนานๆ ไม่ยักกะปวดก้นแฮะ ระบบไฟฟ้าเหมือนนั่งยานอวกาศ พร้อมจะงอแงได้ถ้าดูแลรักษาไม่ดี (บางรุ่นก็งอแงเป็นกิจวัตรเลยทีเดียว)
-
ถ้าเงินไม่จำกัดก็อยากซื้อครับ ขึ้นกับเงินล้วนๆ
แต่ชนที่ 180kmph ยุโรปคันไหนก็ไม่รอด
-
คำถามนี้ผมอยากถามมากๆเพราะคิดจะเปลี่ยนเป็นรถยุโรปเหมือนกัน
-
ผมว่ามีคนอยากเปลี่ยนนะ ที่ผมรู้จักก็หลายคนอยู่
-
ถ้าอยากได้รถขับแล้ว feeling สมรรถนะแบบยุโรป แต่ทนทาน ไม่จุกจิก
Lexus เป็นตัวเลือกที่ดีอีกตัวหนึ่งครับ
-
มีความอยากครับ ถ้าจะเลือกให้ดูดีก็คง เลกซัสครับ ชนกับยุโรปได้อยู่
-
เคยขับยุโรป มือ 2 2 คัน
ตอบว่า ถ้ามีเงินก็ขับครับผม ;D
-
ใช้อยู่ทั้งคู่ แต่มั่นใจยุโรปว่าปลอดภัยมากกว่า
ขับคนเดียว ใช้ซาบ
มีคนข้าง ๆ ไปเอ็กซ์ มันนุ่มนวลดี แต่มันบอบบางกว่าเยอะ ขับเร็ว ๆ สักร้อยยี่สิบก็ กลัวแล้ว
-
ถ้าตลาดในบ้านเรา มั่นใจว่า ยุโรปปลอดภัยกว่ารถญี่ปุ่นที่ผลิตในบ้านเราแน่นอนด้านโครงสร้างรถ (ถ้าตลาดโลกก็พอกัน)
ลองคิดว่า ถ้าเราเกิดเหตุไม่คาดฝัน รถช่วยชีวิตเราแค่ครั้งเดียว ก็คุ้มที่สุดแล้วครับ
ถามว่าถ้าเปลี่บนรถยุโรปได้ทุก5-8 ปี หรือซ่อมไหว ก็อยากใช้ต่อครับ ถ้าไม่เจอคันที่มีปัญหาจริงๆ
-
ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องราคา ต้องรถยุโรปสิครับ โดยเฉพาะเบนซ์ ใช้แล้วชอบมากๆ :-*
-
บ้านผมเนี่ยแหละ เอียงมาหา Lexus แล้ว แต่ยุโรปอื่นๆก็ยังใช้นะครับ
ถ้าพูดถึงญี่ปุ่นทั่วๆไป ก็ใช้เป็นบางรุ่นครับ ที่เน้นใช้อย่างเดียวซ่อมง่ายๆถูกๆ
ประเด็นคือ Lexus แพง แต่ผมก็นิยม Jag ซึ่งราคาก็สูงกว่าชาวบ้านอยู่แล้ว
ดังนั้นทำให้คิดว่าคันต่อไป ผมอาจไม่ยี่หระที่จะซื้อ Lexus LS มาใช้ครับ
-
มีงบใช้รถยุโรป ก็จะมีรถหลายคัน สลับกันใช้ตามความเหมาะสม
ซื้อรถ 4 ล้านสบาย ๆ ทำไมจะซื้อรถล้านกว่าบาทไว้ใช้สำรองไม่ได้ครับ
แต่ถ้าใครคิดจะใช้รถยุโรปเป็นคันเดียวของบ้าน ผมว่าแตกออกเป็นรถญี่ปุ่น 2 คันดีกว่าครับ
สามีคันนึง ภรรยาคันนึง
ก็ว่ากันไปครับ
-
ผมใช้ค่ายเยอรมัน. mb bmw. ญี่ปุ่นhonda Toyota. เมกา ford
คิดว่า คิดว่ายังไงก้อยุโรป เมกา รวมๆดีกว่า สุนทรีกว่าในมิติของการขับขี่ ยิ่งทางไกล คงามเร็วสุงๆ
ส่วนควรมเรวเดินทาง ก้อพอได้นะครับ
ส่วนเริ่องบำรุงรักษา มันก้อตามราคาครับ
-
ใช้รถยุโรปมาตั้งแต่ขับรถเป็นครับ รถในบ้านทุกคันก็เป็นรถยุโรปมาตลอด แต่ก็มีโอกาสได้ขับรถญี่ปุ่นของเพื่อนหรือคนรู้จักบ้างตามโอกาส ความรู้สึกมั่นใจและมั่นคงที่ความเร็วเดียวกัน ต่างกันชัดเจนครับ แต่หลายปีก่อน คุณพ่อออก LS460 มา ยอมรับว่าเบาะหลังนั่งสบายที่สุดในบรรดาเก๋งใหญ่ที่เคยนั่งมาทุกรุ่น (ถ้าไม่นับพวกแบรนด์ระดับ ultra luxury) แต่พอขับเอง ก็ยังรู้สึกว่าช่วงล่างไม่ถูกใจเท่าเก๋งใหญ่ฝั่งยุโรปอยู่ดี
สรุปแล้วถ้าถามว่าจะข้ามฝั่งไปใช้รถญี่ปุ่นมั้ย ส่วนตัวตอนนี้คงตอบว่าไม่ครับ แต่ถ้าอนาคตเลิกขับเอง แล้วย้ายมานั่งเบาะหลังถาวร อาจจะกลับไปพิจารณา LS เป็นหนึ่งในออปชั่นครับ
-
ใช้ยุโรปมาตั้งแต่หัดขับรถ และใช้มาตลอดตั้งแต่มหาลัยจนทำงาน เพิ่งมาเปลี่ยนเป็นญี่ปุ่นตอนมีลูกครับ
เมื่อก่อนอคติกับรถญี่ปุ่น แต่จากที่ใช้มาสามปี ผมค่อนข้างประทับใจรถญี่ปุ่นมากครับ คือคุณภาพคุ้มราคามากๆ จากที่เคยคิดว่ามันจะนิ่งที่ความเร็วสูงไหวหรือเปล่า กลายเป็นผมขับเร็วได้ไม่ต่างจากยุโรป ไม่ได้รู้สึกแย่หรือไม่มั่นคงอะไรเลย แต่มันก็แรงได้เท่าที่เครื่องมันได้ อันนี้ต้องทำใจ
สิ่งที่ผมรู้สึกได้คือ ผมจ่ายแพงไปกับการตกแต่งภายใน เครื่องเสียง ม่านหลังไฟฟ้า และออปชั่นต่างๆ ที่ผมไม่ได้ให้ความสำคัญเลย พอมาจับที่เครื่องยนต์ และช่วงล่าง และระบบความปลอดภัย กลายเป็นรถญี่ปุ่นสมัยใหม่ ทำได้ดีมากกว่าเมื่อก่อน จนอัตราส่วนคุณภาพและราคา คุ้มกว่ายุโรปเยอะเลยครับ
อย่างตอนนี้จะหารถมาใช้ ผมกลับไม่มองยุโรปเลย จ้องแต่ Subaru กับ Lexus เท่านั้นครับ
-
ไม่คิดครับ รถยุโรปมีประสิทธิภาพการขับขี่สูงกว่ารถญี่ปุ่นทั่วไปเยอะ ในขณะที่ค่าบำรุงรักษาสูงกว่าไม่ได้มากจนรับไม่ได้ รถญี่ปุ่นราคาแพงขึ้นทุกวัน แต่รถยุโรปราคาถูกลงเรื่อยๆ ราคาตกตอนขายเทียบเป็น % ก็ไม่ได้ต่างกันมาก แล้วจะขับรถญี่ปุ่นไปทำไมครับ
-
ตอนนี้อยากกลับไปเล่นรถสปอรต์ญี่ปุ่นครับ สนใจ Supra ที่กำลังจะมาแต่กลัวจะกลายเป็น BMW ที่ติดตราโตโยต้า ส่วนตัวเป็นคนที่ชอบรถญี่ปุ่นอยู่แล้วแต่หารถรุ่นที่ตอบโจทย์การใช้งานแบบรถยุโรปที่ใช้อยู่ยังไม่ได้ครับ (หรือได้ก็เกินงบไปไกล)
-
อยากไปใช้รถญี่ปุ่น ตอนซ่อมครับ
ใช้ volvo อยู่ อุปกรณ์ที่เปลี่ยน ใรช่วงแสน กม คือ เพลาขับ หม้อน้ำ พัดลมไฟฟ้า คอมแอร์ ยางแท่นเครื่อง หลอดไฟหน้า และหลอดไฟท้ายอีกครึ่งโหล
ขณะที่ crv อายุแก่กว่า 2 ปี แต่วิ่งแค่ เจ็ดหมื่น เปลี่ยนแค่ยางแท่นเครื่อง และ ปั้มพาวเวอร์เท่านั้น
-
บ้านผมนี้ถือว่าแปลกไหมเดิมใช้ JP มาตลอด สักพักเริ่มมาใช้ตราดาวตั้ง 2 คันแนะ ใช้ไปสักพักเริ่มคิดละครับว่าอยากได้แบบพรีเมี่ยมแต่ซ่อมถูกพอเป็นไปได้ไหม หลังจากนั้นก็เริ่มมอง Lexus ฮ่่าๆ ;D
-
ญี่ปุ่นได้เรื่องทนมือทนเท้า ขับยังไงก็ไม่พังข้างทาง
ยุโรปได้ประสิทธิภาพ ขับเร็วๆยังไงก็มั่นใจ แต่พวกอยากจะเสียก็เสียเลย ค่าซ่อมก็แพง
ตอนนี้กลับมาใช้ญี่ปุ่นพรีเมี่ยมละครับ ซื้อแพงหน่อยแต่สบายใจไม่งอแง เสียอย่างเดียว ไม่แรง
-
ถ้าอยากได้รถขับแล้ว feeling สมรรถนะแบบยุโรป แต่ทนทาน ไม่จุกจิก
Lexus เป็นตัวเลือกที่ดีอีกตัวหนึ่งครับ
+1
ถ้าจะซื้อรถเกินสามล้านซักคันคงเป็นLexus อะไหร่แพงไม่เป็นไรอย่าจุกจิกซ่อมไม่จบ คนทำงานไม่มีเวลาให้
แต่คงไม่ซื้อครับ ผมนิยมD segพี่ยุ่น แค่นี้พอแล้วสำหรับผม รถมันกว้างดีผมขับไม่เร็วอยู่ละกลัวตาย
ที่บ้านไม่ให้ผ่อนอะไรที่ไม่0% เวลาจ่ายล้านกว่าบาทกับสามล้านกว่ามันต่างกันไปหน่อย :-X
-
ผู้ใหญ่ที่ผมรู้จักขาย CLS มาเล่น Land Cruiser ครับ
-
ไม่อยากใช้ครับ
แต่อิจฉารถญี่ปุ่นอยู่อย่างเดียวคือ มันซ่อมง่าย ทนทานกว่า
นอกนั้นยุโรปก็ดีอยู่แล้วครับ
เทียบ premium vs premium, normal vs normal นะครับ อย่างข้ามราคากัน
-
ใช้ Honda Subaru Nissan มา จนเป็น V40 มา 5 ปี 160000 km แล้ว ถือว่า ประทับใจ ไม่จุกจิก
แต่ มันมีศูนย์ Toyota กะ Nissan อยู่ปากซอยบ้านเลย
คันหน้า ถ้า Camry มันขับดี ก็คงไป Toyota ครับ ไม่เข็ดอะไรกะ Volvo
แต่ เหตุผลคือ อยากมีอารมณ์แบบ เอารถเข้าศูนย์ ปากซอย และ เดินกลับบ้าน ตอนไปรับรถ ก็ เดินไปเอาบ้าง สะดวกดี
-
อันนี้สงสัยครับ หลายท่านบอกว่า ยุโรปปลอดภัยกว่า safety กว่า คือมันเป็นภาพจำฝังใจ หรือว่าของจริงเป็นแบบนั้นด้วยครับ? เท่าที่ดูผลทดสอบการชนจากหลายๆที่ ทั้ง Euro NCAP ANCAP หรือของทางอเมริกาเอง พวกรถญีปุ่นนี่ไม่ได้ด้อยกว่าเลยนะครับ บางรุ่นก็ดีกว่าด้วย (แต่สำหรับบ้านเราต้องเทียบรุ่นที่ออพชั่นพวก active safety เท่าๆกันครับ) เข้าใจว่ารถในบ้านเรา บางรุ่นก็มีลดเกรดเหล็กโครงสร้างลงบ้างในบางจุด อันนี้เป็นไปได้ถ้าจะบอกว่ามันปลอดภัยไม่เท่ากัน
แต่ที่อยากทราบคือ มันเป็นแค่ความเชื่อที่เชื่อกันต่อๆมา หรือว่า ทุกวันนี้มันก็ยังเป็นแบบนี้อยู่กันแน่ครับ
-
อันนี้สงสัยครับ หลายท่านบอกว่า ยุโรปปลอดภัยกว่า safety กว่า คือมันเป็นภาพจำฝังใจ หรือว่าของจริงเป็นแบบนั้นด้วยครับ? เท่าที่ดูผลทดสอบการชนจากหลายๆที่ ทั้ง Euro NCAP ANCAP หรือของทางอเมริกาเอง พวกรถญีปุ่นนี่ไม่ได้ด้อยกว่าเลยนะครับ บางรุ่นก็ดีกว่าด้วย (แต่สำหรับบ้านเราต้องเทียบรุ่นที่ออพชั่นพวก active safety เท่าๆกันครับ) เข้าใจว่ารถในบ้านเรา บางรุ่นก็มีลดเกรดเหล็กโครงสร้างลงบ้างในบางจุด อันนี้เป็นไปได้ถ้าจะบอกว่ามันปลอดภัยไม่เท่ากัน
แต่ที่อยากทราบคือ มันเป็นแค่ความเชื่อที่เชื่อกันต่อๆมา หรือว่า ทุกวันนี้มันก็ยังเป็นแบบนี้อยู่กันแน่ครับ
นิตยสารฝรั่งเคยไปเก็บข้อมูลอุบัติเหตุจริงมารวมทั้งผู้ประสบเหตุตัวจริงด้วยก่อนจะพบว่ารถทางฝั่งเอเชียหลายรุ่นเวลาชนแล้วความเสียหายมากกว่าที่ทดสอบการชนหากว่ามุมการชนไม่เหมือนกัน(เช่นทดลองครึ่งคัน+เต็มคันด้านหน้า แต่เวลาชนจริงๆมุมชนแค่ไฟหน้าข้างเดียว) ในขณะที่รถยุโรปถึงแม้จะชนจากหลากหลายมุมความเสียหายส่วนใหญ่ไม่ได้ต่างกันมากนัก (แต่ small overlap crash test ตอนแรกๆนี่ fail กันเยอะพอสมควร)
-
อันนี้สงสัยครับ หลายท่านบอกว่า ยุโรปปลอดภัยกว่า safety กว่า คือมันเป็นภาพจำฝังใจ หรือว่าของจริงเป็นแบบนั้นด้วยครับ? เท่าที่ดูผลทดสอบการชนจากหลายๆที่ ทั้ง Euro NCAP ANCAP หรือของทางอเมริกาเอง พวกรถญีปุ่นนี่ไม่ได้ด้อยกว่าเลยนะครับ บางรุ่นก็ดีกว่าด้วย (แต่สำหรับบ้านเราต้องเทียบรุ่นที่ออพชั่นพวก active safety เท่าๆกันครับ) เข้าใจว่ารถในบ้านเรา บางรุ่นก็มีลดเกรดเหล็กโครงสร้างลงบ้างในบางจุด อันนี้เป็นไปได้ถ้าจะบอกว่ามันปลอดภัยไม่เท่ากัน
แต่ที่อยากทราบคือ มันเป็นแค่ความเชื่อที่เชื่อกันต่อๆมา หรือว่า ทุกวันนี้มันก็ยังเป็นแบบนี้อยู่กันแน่ครับ
ยุโรปแข็งกว่าเยอะจริงครับ ลองดูรถญี่ปุ่นชนยุโรป
การทดสอบมันคนละแบบครับ คือ ชนวัตถุที่แข็งเท่ากัน รถชนรถ รถแข็งกว่าได้เปรียบครับ
-
อันนี้สงสัยครับ หลายท่านบอกว่า ยุโรปปลอดภัยกว่า safety กว่า คือมันเป็นภาพจำฝังใจ หรือว่าของจริงเป็นแบบนั้นด้วยครับ? เท่าที่ดูผลทดสอบการชนจากหลายๆที่ ทั้ง Euro NCAP ANCAP หรือของทางอเมริกาเอง พวกรถญีปุ่นนี่ไม่ได้ด้อยกว่าเลยนะครับ บางรุ่นก็ดีกว่าด้วย (แต่สำหรับบ้านเราต้องเทียบรุ่นที่ออพชั่นพวก active safety เท่าๆกันครับ) เข้าใจว่ารถในบ้านเรา บางรุ่นก็มีลดเกรดเหล็กโครงสร้างลงบ้างในบางจุด อันนี้เป็นไปได้ถ้าจะบอกว่ามันปลอดภัยไม่เท่ากัน
แต่ที่อยากทราบคือ มันเป็นแค่ความเชื่อที่เชื่อกันต่อๆมา หรือว่า ทุกวันนี้มันก็ยังเป็นแบบนี้อยู่กันแน่ครับ
เขาดูจากภาพอุบัติเหตุบนท้องถนนที่เจอมาครับ รถยุโรปเจอรถญี่ปุ่นเมื่อไร รถญี่ปุ่นจะเสียหายและคนในรถได้รับบาดเจ็บมากกว่าเกือบทุกครั้งครับ
-
ผมครับ หลังผ่านประสบการณ์
วัสดุอันแสนแพ้แดดเมืองไทย
ช่วงล่างอันแสนเปราะบางเมื่อเจอถนนเมืองไทย
เสียง่ายโคตรจนน่าโมโห
เลยมาเล่นรถญี่ปุ่นขับๆไปเรื่อยๆเป็นมิตรกระเป๋า
-
ถ้าตังเหลือก็คงเลือกรถที่ดีที่สุดอะครับแบบมีตังพันล้านหมื่นล้านจะมาขับรถตลาดทำไม
แต่ถ้าเป็นญี่ปุ่น อย่าง GT-R ก็ว่าไปอย่างนะครับ 555
-
ช่วงปี 97 เคยใช้ 940GLE ติดใช้ในความหนักแน่นของตัวรถ ความกว้างสบาย และความเงียบ
อัตราเร่ง โชคดีเป็นเกียร์ธรรมดา เลยเร่งติดเท้าหน่อยนึง แต่กินน้ำมันโหดใช้ได้ ในเมือง 6 นอกเมือง 11 - 12
แต่ปัญหาคือช่วงล่างหน้าที่แสนจะอ่อนแอ และแร็คพวงมาลัยที่แสนจะ (โคตร) แพง
ปัญหาระบบไฟฟ้า เช่น ไฟหน้าติดบ้างไม่ติดบ้าง วิทยุอยู่ๆก็ล็อคตัวเอง ต้องเข้าศูนย์หัวหมากเพื่อปลดล็อค
ขับๆไปเข้าเกียร์ 5 ไม่ได้ (ใช้กดปุ่ม) ซ่อมโซลินอยด์เกียร์ไปสองพันกว่าๆ
ปี 01 ที่บ้านซี้ออัลติสหน้าหมูป้ายแดง ถึงจะเป็นรถคนละชั้นและเทียบกันไม่ได้ก็จริง แต่ขับสบายกว่าเยอะ
อัตราเร่งก็ดีแถมประหยัด ค่าซ่อมที่เป็นมิตร รวมถึงอุปกรณ์ภายในที่แอบดีกว่าในบางจุด
เลยขาย 940 ไปโดยไม่ลังเล และไม่คิดจะกลับมาเล่นรถยุโรปอีกครับ เข็ดแล้ว
-
ใช้มาทั้ง ญี่ปุ่นและยุโรป ทำให้รู้เลยว่าถ้าจะเล่นรถญี่ปุ่นต้องตัวนำเข้าเท่านั้น ตัวประกอบไทยลดต้นทุนกระจาย ห่วยมาก
ปัจจุบันลงตัวกับ Lexus
-
เอาตามความจริง
กลับครับ ที่บ้านใช้ e class มาก่อน ทุกวันนี้ ก็กลับมาใช้ camry
โจทย์แต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนบ้านมีรถยุโรป แต่ก็ไม่วาย มีรถญี่ปุ่น ด้วย ซึ่งเอาไว้ใช้งานต่างกัน
แต่ถ้าเขาแบบ ตัดเรื่องค่าบำรุงรักษา ค่าอะไหล่ ศูนย์บริการ ปัญหาจุกจิก ราคาขายต่อ บลาาาา ออกไปให้หมด เอาเป็นว่า เติมน้ำมันขับอย่างเดียว คำตอบมันอาจจะพุ่งไปหารถยุโรป ซะส่วนใหญ่
-
รถยุโรปขับดีครับ
ถ้าไม่ต้องซ่อม
:'( :'( :'(
-
.
.
ถ้าผมยังขับรถเองอยู่ คงไม่กลับไปใช้รถญี่ปุ่นครับ
แต่ ถ้าไม่อยากขับแล้ว มีคนขับรถ ผมคงอยากได้ alphard
-
ตีเส้นที่ปี2011
ถ้าออารถยุโรป กับรถญีุ่ปุ่น segment เดียวกัน ขนาดเท่าๆกัน มาหันหน้าชนกัน รถยุโรปก่อนปี2011 ยี่ห้อ Benz BMW จะยุบถึงโครงสร้างน้อยกว่ารถญี่ปุ่น ปีเดียวๆกัน
แวะไปเดินเล่นตามอู่ซ่อมตัวถัง ขอดูภาพถ่ายประสานงาตากประกันครับ แล้วจะเข้าใจว่าทำไมหลายคนไม่กลับไปใช้รถยุ่นอีกเลย
-
บ้านผมมีรถพอดีจำนวนคน มีทั้งยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลี รถยุโรปก็ไว้วิ่งทางไกล ออกงาน สลับกันใช้ รถญี่ปุ่นก็ไว้ใช้ในชีวิตประจำวัน รถเกาหลีเป็นรถตู้ ก็ไว้ขนคน และคุณพ่อบอกว่า ขอ Limit จำนวนรถยุโรปในบ้านไว้แค่นี้ถ้าต้องซื้อเพิ่ม จะซื้อรถญี่ปุ่น
-
อันนี้สงสัยครับ หลายท่านบอกว่า ยุโรปปลอดภัยกว่า safety กว่า คือมันเป็นภาพจำฝังใจ หรือว่าของจริงเป็นแบบนั้นด้วยครับ? เท่าที่ดูผลทดสอบการชนจากหลายๆที่ ทั้ง Euro NCAP ANCAP หรือของทางอเมริกาเอง พวกรถญีปุ่นนี่ไม่ได้ด้อยกว่าเลยนะครับ บางรุ่นก็ดีกว่าด้วย (แต่สำหรับบ้านเราต้องเทียบรุ่นที่ออพชั่นพวก active safety เท่าๆกันครับ) เข้าใจว่ารถในบ้านเรา บางรุ่นก็มีลดเกรดเหล็กโครงสร้างลงบ้างในบางจุด อันนี้เป็นไปได้ถ้าจะบอกว่ามันปลอดภัยไม่เท่ากัน
แต่ที่อยากทราบคือ มันเป็นแค่ความเชื่อที่เชื่อกันต่อๆมา หรือว่า ทุกวันนี้มันก็ยังเป็นแบบนี้อยู่กันแน่ครับ
เขาดูจากภาพอุบัติเหตุบนท้องถนนที่เจอมาครับ รถยุโรปเจอรถญี่ปุ่นเมื่อไร รถญี่ปุ่นจะเสียหายและคนในรถได้รับบาดเจ็บมากกว่าเกือบทุกครั้งครับ
ยกเว้น Subaru ที่ขายใน North America ครับ คนที่นี่ให้ความไว้ใจเรื่องความปลอดภัยมากกว่า
รถบ้านเกิดตัวเองบางยี่ห้ออีกนะครับ ลองไปหาดูสถิติดูได้
ส่วน Kia , Hyundai รุ่นใหม่ๆนี่ก็ได้การทดสอบการชนที่ดีมากๆเลยครับ
-
ผมไม่ยึดติดกับสัญชาติครับ รุ่นไหนดี ตอบโจทย์ความต้องการ ณ เวลานั้นก็รับได้หมด ยกเว้นราคาอย่าแพงเว่อร์ครับ
-
ผมใช้โฟกัส เสียบ OBD ง่ายมากเวลาเสียไฟโชว์ซ่อมก็สบาย
ร้านซ่อมไหนไม่มีเครื่องตัวนี่ ถือว่าโบราญมาก กว่าจะหาเจออะไรเสีย เสียเวลาไปตั้งนาน
มีอัลติส 2011 อีกคัน ก็ไม่ทนอะไรนะ ถึงเวลาก็ซ่อมเหมือนกัน
-
ใช้ACV50ก่อนขาย มาใช้E350e เอาจริงๆ ผมว่าแคมรี่ไม่ได้แย่เรยนะครับ เผลอๆเบาะหลังนั่งกว่าE350e อีกครับ ตอนอยากได้เบนซ์ ก็คิดว่าจะเอามาให้ได้ พอมีตอนนี้เฉยๆ มากครับ เทียบกับL33อีกคัน หลัง140ไป เบนซ์น่ะ ขับดีกว่าอยู่แล้ว แต่ถามว่า มีโอกาสขับได้เร็วบ่อยๆมั้ย ก็ไม่ครับ เดียวแคมรี่ ตัวใหม่มา คงเอาL33ไปเทินครับ ติดใจในรถญี่ปุ่น คือมันทนเอามากๆ ขับเข้าศูนย์เช็คระยะ ตามปกติ ไม่มีไรเสียเรย เทียบกับเบนซ์ วันก่อน ที่ป้ดน้ำฝนปัดไม่ได้ เอาเข้าศูนย์ รอของ2อาทิตย์ ระหว่าง2อาทิตย์นี้ก็ใช้ระหว่างฝนตกไม่ได้ รถคัน4ล้าน ออกได้5เดือน ปัญหามาแล้วครับ
นิแหละคับในคลับ mb ถึงพูดว่าจะใช้ mb ใหม่ต้องมีรถญี่ปุ่นติดบ้านไว้ด้วย นิออก GLC มาให้คุณแม่ใช้ประจำผมยังเสียวๆเลยคับ mb ยุคใหม่วัดดวงล้วนๆ
-
ไม่อยากครับ ขับยุโรปมาสามคันยุ่นสี่คันที่ผ่านเท้ามาบอกเลยคนละอารมณ์เลย แค่เสียงปิดประตูก็ต่างกันแล้วตึบๆกับแป๊กๆ
อย่างซีวิคหรือซิตี้แค่เข็นหรือยืนพิงยังบุบเลย จะกดเช็คโช๊คสปริงยังกดไม่ได้เลยแก้มปริกระโปรงยุบบอบบางสุดๆ ผิดกับฝั่งยุโรปขึ้นไปนั่งเล่นได้เลยตอนไม่มีเก้าอี้ สมัยก่อนเคยขับ e34 ถอดแก้มข้างมาเจาะพอร์ทแอร์เวนท์เจาะยากสุดๆหนาพอๆกับเหรียญบาทเลยแล้วยังพ่นยางกันเสียงไว้ด้านในอีก เทียบกับซิตี้รถแฟนนี่นิ้วกดก็บุบแล้ว
เล่าให้ฟังเล่นๆมีครั้งนึงขับไปชนท้ายเขาอย่างแรงจนกันชนหลังเขาหลุดมากองบนพื้น ส่วนรถผมไม่เป็นอะไรเลยแค่ป้ายทะเบียนพลาสติกแตกไม่ต้องซ่อมอะไรข้างในเหล็กหนาๆสองชั้นกับโช๊คกันชนซ่อนไว้ และอีกคันนึงแม่ผมขับซีคลาสเผลอไหลไปชนประตูบ้านงอเป็นกุ้งเลยเปลือกกันชนแค่ร้าวเท่านั้นไม่ต้องซ่อมเช่นกัน ลองสังเกตุดูครับเวลาชนกันใครเสียหายกว่ากัน
-
ผมใช้ทั้ง ford ทั้ง honda รถ class เดียวกันครับ fiesta กับ jazz ถ้าขับเองผมเลือก fiesta เพราะว่าให้ความรู้สึกมั่นใจกว่าในเวลาขับ แต่ถ้าถ้าเป็นคนนั่งบอกเลยว่าเอา jazz เพราะว่าให้ความรู้สึกสบายกว่า fiesta จะยุโรปหรือญี่ปุ่น ต่างมีข้อดีของตัวเองครับมันอยู่ที่ว่า อันไหนตอบโจทย์มากกว่า