Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: RhythmCaster ที่ มิถุนายน 07, 2018, 13:27:22
-
EDIT:
ก่อนอื่นขอบคุณพี่ ๆ ทุกคนนะครับ ทั้งตอบตรงประเด็น และให้คำแนะนำเป็นตัวเลือกไว้ด้วย
น่ารักมาก ๆ ครับ :-*
สรุปว่าตอนนี้ใจเย็นขึ้นเยอะแล้วครับ ความเห่อ (Hype) กับ C-HR ลดลงมาก
ความรู้ใหม่คือ 1.) City 2012 เป็นรถที่ไว้ใจได้เหมือนกัน ไม่จุกจิก
และ 2.)Swift เสียงตอบรับดีเกินคาดทั้งตัวรถ และศูนย์บริการ
ส่วน 3.) C-HR เป็นรถใหม่เพิ่งเปิดตัว ต้องรอดู(เผื่อเกิด)ปัญหาจากผู้ใช้ไปสักปีสองปีก่อน
/
ถ้าวางแผนจะซื้อ Swift 2018 ตัวท็อปสุดเป็นรถยนต์ "ซื้อเอง" คันแรกในชีวิต โดยจะมาแทนที่ City 2012 V ในภายภาคหน้า
แต่! ยังไม่รีบซื้อครับ เพราะหลังจากอ่านรีิวิวแล้วคิดว่ารอปรับอุปกรณ์ก่อนดีกว่า อีกทั้ง City เองก็เพิ่งจะผ่าน หนึ่งแสน กม. เมื่อไม่นานนี้เอง
ถามว่า:
1. เทียบกับ City 2012, Swift อึดอัดกับอัตราเร่งไหม - เดินทางกับบ้าน กทม. - นครสวรรค์ เดือนละ 2 ครั้ง
(ในเมือง/ทางไกล ขับตาม Speed Limit, ทางไกลนาน ๆ ทีสูงสุดที่ 120 กม./ชม.)
วางแผนเที่ยว ถ้าการขับขี่ทางไกลเมื่อยล้าน้อยลงกว่า City
2. ความจุกจิกของรถ และ อะไหล่ - ราคา/ความคงทน
3. ศูนย์บริการ - การบริการลูกค้า แก้ปัญหา ความวางใจ (Reliability)
กระนั้นใจก็ชอบ C-HR เหมือนกัน ทดลองขับแล้วประทับใจ ติดตรงที่ราคาแพง (รุ่น 1.8 Entry)
คิดว่าไหน ๆ ก็รอ Swift MC แล้ว จนป่านนั้นน่าจะมีเงินมากพอถอย C-HR ได้
ถาม(ต่อ)
4. จากคำถามข้อ 1 - 3, C-HR เหนือกว่า Swift แค่ไหนครับ
ขอบคุณครับ
ปล. ทั้งแฟนและผมต่างชอบทั้ง Swift และ C-HR (สีแดง) เลยจบที่ตัวเลือก 2 คันนี้ครับ
ปลล. City นั่งไม่สบายสำหรับคนสูง 180 cm ปรับเบาะสบายขา ระยะพวงมาลัยกลายเป็นไกลเกินไป คันเร่ง และ ที่พักเท้าซ้ายมีความสูงของไม่เสมอกัน
-
ถ้าคำนึง ข้อ 1 - 3 . ใช้ city ต่อไป
เก็บเงินซื้อ c-hr เลย
-
รถคนละ Size เลย เก็บอีกครึ่งล้านเลยนะครับ
-
ราคามันต่างกันมาก ไม่มีใครตอบให้คุณได้หรอกครับเรื่องเงิน
ถ้าลังเลแบบนั้น งั้นไม่ซื้อ CHR แล้วเก็บเงินอีกสักพัก ก็ได้ Camry, Benz เเล้วนะ
CHR เหนือกว่า Swift ทุกด้าน ยกเว้นความประหยัดตัวธรรมดา ไม่ไฮบริด
แต่ก็แพงกว่าเท่าตัว
-
ตอบคำถาม
1. ถ้าในกลุ่ม Eco Car Swift อัตราเร่งน่าจะดีสุดแล้ว
2. มีเพื่อนใช้โฉมเก่าอยู่ ก็ไม่เห็นบ่นเรื่องจุกจิกนะครับ และศูนย์บริการก็ค่อนข้างโอเค แต่ก็มีคนคอมเม้นเรื่องอะไหล่มันเปราะเหมือนกัน (ต้องลองไปสิงตามคลับดูครับ เก็บข้อมูลดูเองอีกที)
3. ศูนย์น้อย แต่รถก็ไม่ได้เยอะครับ เท่าที่ติดตามก็โอเคอยู่ครับ
4. C-HR ขนาดใหญ่กว่า ช่วงล่างดีกว่า อัตราเร่งดีกว่า และแพงกว่า
C-HR ที่ไม่ใช่ตัว hybrid จะมีแต่สีพื้นๆ นะครับ
ผมแนะนำเก็บเงินรอซื้อ C-HR เลยครับ ต้องดูอนาคตด้วยว่า เดี๋ยวแต่งงาน มีลูก รถอย่าง swift จะพอตอบสนองความต้องการไหมครับ แต่ถ้าจะเดินทางสายพ่อบ้าน ก็แนะนำ HR-V อีกคันครับ 555
-
ถ้าจะซื้อสวิฟ ผมคงใช้ซิตี้ต่อไป
ถ้าจะซื้อรถใหม่จริงๆ ก็คงไป CHR
-
ขอบคุณสำหรับทุก ๆ คำตอบนะครับ :-*
รถคนละ Size เลย เก็บอีกครึ่งล้านเลยนะครับ
จริงครับ ผมเอารถคนละ segment มีเปรียบเทียบกันอีกต่างหาก :-\
แต่ด้วยความอยากได้รถประเภทนี้ จึงลองถามดูครับ
ราคามันต่างกันมาก ไม่มีใครตอบให้คุณได้หรอกครับเรื่องเงิน
ถ้าลังเลแบบนั้น งั้นไม่ซื้อ CHR แล้วเก็บเงินอีกสักพัก ก็ได้ Camry, Benz เเล้วนะ
CHR เหนือกว่า Swift ทุกด้าน ยกเว้นความประหยัดตัวธรรมดา ไม่ไฮบริด
แต่ก็แพงกว่าเท่าตัว
555 ;D จริงครับเก็บอีกหน่อย (ไปเรื่อย ๆ เลย ไม่ได้ซื้อสักที)
ที่หยุดแค่ C-HR 1.8 Entry เพราะโดยรวมน่าจะกลาง ๆ ดูแลง่าย เท่าที่ฟังรายการวิทยุพี่จิมมี่ (กุญแจยังธรรมดาเลย (ฮา))
แต่ถ้าให้ขึ้นไประดับ Benz คงจ่ายค่าบำรุงฯไม่ไหวแน่ ๆ
Edit: จากหลาย ๆ เสียง ผมเทใจให้กับ C-HR ครับ (เหมือนมาถามเอาคำตอบที่อยากได้ในใจมากกว่าเลย) ถึงอดทนรอหน่อย แต่คุ้มกว่า
(คุ้ม เช่น ประสบการณ์ดีกว่าคันปัจจุบัน ดูแลง่ายหรือง่ายกว่าคันปัจจุบัน)
-
ต้องถามย้อนกลับไปว่า ขับรถกรุงเทพ นครสวรรค์แล้วเหนื่อยไหมครับ
ถ้ายังไม่เหนื่อย สวิฟต์ก็เป็นตัวเลือกที่ดี ในแง่ของประหยัดเงินไปทำอย่างอื่นได้หลายบาท
แต่ถ้าเหนื่อย อยากหารถที่ขับทางไกลสบายขึ้น ก็ไป CHR ครับ
ปล. สมัยผมอายุ 20 กว่าๆ นี่ B-segment ชิลด์ๆ จากศรีราชายันเชียงใหม่ พอหลัก 30 เริ่มเหนื่อย พอเปลี่ยนรถเลยต้องอัพขนาดขึ้นโดยปริยายครับ
-
ต้องถามย้อนกลับไปว่า ขับรถกรุงเทพ นครสวรรค์แล้วเหนื่อยไหมครับ
ถ้ายังไม่เหนื่อย สวิฟต์ก็เป็นตัวเลือกที่ดี ในแง่ของประหยัดเงินไปทำอย่างอื่นได้หลายบาท
แต่ถ้าเหนื่อย อยากหารถที่ขับทางไกลสบายขึ้น ก็ไป CHR ครับ
ปล. สมัยผมอายุ 20 กว่าๆ นี่ B-segment ชิลด์ๆ จากศรีราชายันเชียงใหม่ พอหลัก 30 เริ่มเหนื่อย พอเปลี่ยนรถเลยต้องอัพขนาดขึ้นโดยปริยายครับ
ผมขับไม่เร็ว ใช้เวลารวมประมาณ 3 ชม. ครับ ออกไปทางเส้นสุพรรณบ้าง สายเอเชียบ้าง
ในช่วง 2 ชม. แรกพอรับได้ครับ แต่ชม. ท้าย ๆ จะเริ่มเมื่อยล้าครับ
โดยต้องเลือกระหว่าง 1. นั่งใกล้พวงมาลัย (ที่ถูกดึงเข้าหาตัวจนสุดแล้ว) แต่เข่าชันเมื่อยขา หรือ 2. ถอยเบาะนั่งไกล แต่เมื่อยหัวไหล่เพราะระยะแขนถึงพวงมาลัยตึงมาก
(อาจต้องหาทาง ยืดแกนพวงมาลัยให้ยาวขึ้น)
สุดท้ายแล้วยังทนได้ครับ เพื่อ C-HR ;)
-
อีกทางเลือกก็คือขาย City 2012 ก็ได้ 300,000 - 400,000 + เงินเก็บ เป็นเงินดาวน์
ผ่อน 48 เดือน มีเงินก้อน ค่อยปิด
-
ออก ตจว. เดือนละ 2 ครั้ง
ผมว่าไป CHR ตัวล่างเถอะครับ
รถeco car ต่อให้รุ่น Super Top ยังไงก็ขับไม่ดีเท่ารถที่ Seg ใหญ่กว่า
เลือกรถที่เครื่องยนต์และขนาดบอดี้ครับ อย่าเลือกที่ออฟชั่น
-
ต้องถามย้อนกลับไปว่า ขับรถกรุงเทพ นครสวรรค์แล้วเหนื่อยไหมครับ
ถ้ายังไม่เหนื่อย สวิฟต์ก็เป็นตัวเลือกที่ดี ในแง่ของประหยัดเงินไปทำอย่างอื่นได้หลายบาท
แต่ถ้าเหนื่อย อยากหารถที่ขับทางไกลสบายขึ้น ก็ไป CHR ครับ
ปล. สมัยผมอายุ 20 กว่าๆ นี่ B-segment ชิลด์ๆ จากศรีราชายันเชียงใหม่ พอหลัก 30 เริ่มเหนื่อย พอเปลี่ยนรถเลยต้องอัพขนาดขึ้นโดยปริยายครับ
ผมขับไม่เร็ว ใช้เวลารวมประมาณ 3 ชม. ครับ ออกไปทางเส้นสุพรรณบ้าง สายเอเชียบ้าง
ในช่วง 2 ชม. แรกพอรับได้ครับ แต่ชม. ท้าย ๆ จะเริ่มเมื่อยล้าครับ
โดยต้องเลือกระหว่าง 1. นั่งใกล้พวงมาลัย (ที่ถูกดึงเข้าหาตัวจนสุดแล้ว) แต่เข่าชันเมื่อยขา หรือ 2. ถอยเบาะนั่งไกล แต่เมื่อยหัวไหล่เพราะระยะแขนถึงพวงมาลัยตึงมาก
(อาจต้องหาทาง ยืดแกนพวงมาลัยให้ยาวขึ้น)
สุดท้ายแล้วยังทนได้ครับ เพื่อ C-HR ;)
Fix ตำแหน่งขนาดนี้ ไปลองขับเลยเถอะ ตอบโจทย์กว่า ทั้งคู่อะ
-
ออก ตจว. เดือนละ 2 ครั้ง
ผมว่าไป CHR ตัวล่างเถอะครับ
รถeco car ต่อให้รุ่น Super Top ยังไงก็ขับไม่ดีเท่ารถที่ Seg ใหญ่กว่า
เลือกรถที่เครื่องยนต์และขนาดบอดี้ครับ อย่าเลือกที่ออฟชั่น
จริงด้วย ผมลืมนึกข้อนี้ไป ถึงผมเป็นคนขับรถไม่เร็ว
แต่ก็ต้องมีกำลังเผื่อแซง และหลบรถด้านหลังที่เร็วกว่าหรือรถปาดเข้ามาด้วย
อีกทางเลือกก็คือขาย City 2012 ก็ได้ 300,000 - 400,000 + เงินเก็บ เป็นเงินดาวน์
ผ่อน 48 เดือน มีเงินก้อน ค่อยปิด
ขอบคุณครับ
แต่ตอนไปทดลองขับ C-HR แล้วประทับใจมาก เลยลองให้พนง. Toyota Sure ประเมินราคาเทิร์นรถด้วยสายตาคร่าว ๆ
ได้แค่ไม่เกิน 240,000 เองครับ :'( สงสัยรถไม่ได้ล้าง เล่มก็ไม่ได้พกไว้อีกต่างหาก ทาง พนง. แจ้งว่ากลัวไม่ใช่รุ่น 2012 แท้
กระนั้น ถ้าได้ 3 ถึง 4 แสนนี้ สุดยอดเลยครับ
-
ถ้าวางแผนจะซื้อ Swift 2018 ตัวท็อปสุดเป็นรถยนต์ "ซื้อเอง" คันแรกในชีวิต โดยจะมาแทนที่ City 2012 V ในภายภาคหน้า
แต่! ยังไม่รีบซื้อครับ เพราะหลังจากอ่านรีิวิวแล้วคิดว่ารอปรับอุปกรณ์ก่อนดีกว่า อีกทั้ง City เองก็เพิ่งจะผ่าน หนึ่งแสน กม. เมื่อไม่นานนี้เอง
ถามว่า:
1. เทียบกับ City 2012, Swift อึดอัดกับอัตราเร่งไหม - เดินทางกับบ้าน กทม. - นครสวรรค์ เดือนละ 2 ครั้ง
(ในเมือง/ทางไกล ขับตาม Speed Limit, ทางไกลนาน ๆ ทีสูงสุดที่ 120 กม./ชม.)
วางแผนเที่ยว ถ้าการขับขี่ทางไกลเมื่อยล้าน้อยลงกว่า City
2. ความจุกจิกของรถ และ อะไหล่ - ราคา/ความคงทน
3. ศูนย์บริการ - การบริการลูกค้า แก้ปัญหา ความวางใจ (Reliability)
กระนั้นใจก็ชอบ C-HR เหมือนกัน ทดลองขับแล้วประทับใจ ติดตรงที่ราคาแพง (รุ่น 1.8 Entry)
คิดว่าไหน ๆ ก็รอ Swift MC แล้ว จนป่านนั้นน่าจะมีเงินมากพอถอย C-HR ได้
ถาม(ต่อ)
4. จากคำถามข้อ 1 - 3, C-HR เหนือกว่า Swift แค่ไหนครับ
ขอบคุณครับ
ปล. ทั้งแฟนและผมต่างชอบทั้ง Swift และ C-HR (สีแดง) เลยจบที่ตัวเลือก 2 คันนี้ครับ
ปลล. City นั่งไม่สบายสำหรับคนสูง 180 cm ปรับเบาะสบายขา ระยะพวงมาลัยกลายเป็นไกลเกินไป คันเร่ง และ ที่พักเท้าซ้ายมีความสูงของไม่เสมอกัน
ไปลอง swift ก่อนดีกว่าครับ
ส่วน CHR ข้ามไปครับ พี่บอกว่าแพงไป
-
ข้อดีของ swift รุ่นท้อป คือพวงมาลัยนอกจากปรับสูง-ต่ำได้แล้ว ยังปรับเข้า-ออกได้ ทำให้คุณน่าจะหมดปัญหาเรื่องตำแหน่งการขับไปได้ครับ
ส่วนอัตราเร่งแซง ผมว่าจะติดตรงนี้ เพราะถึง swift จะอัตราเร่งคอนข้างดีในรถระดับ eco car เหมือนกัน แต่ในการขับจริง โดยเฉพาะทางนอกเมือง ผมคิดว่าจะเหนื่อยกว่า honda city เครื่อง 1.5 ยกเว้นว่าคุณเป็นคนขับรถไม่เร็ว ขับแบบสบายๆ ไปเรื่อยๆ อยู่แล้ว ส่วนถ้าแค่อัตราเร่งแซงรถคันหน้าในบางจังหวะผมว่า swift พอเอาอยู่ครับ
เรื่องความคงทนของรถและศูนย์บริการ เท่าที่ลองถามจากคนรู้จัก เพื่อนในบอร์ดนี้ และก็เพื่อนในกลุ่มที่เคยใช้ suzuki ก็บอกว่าใช้ได้ครับ
แล้วราคารถระหว่าง swift ตัวท้อปกับ c-hr ตัวล่างมันก็ต่างกันเยอะอยู่ครับ
ยังไงไปลองขับ swift ดูก่อนดีที่สุด
-
สวิฟท์ตัวท็อปมีครุยส์คอนโทรลทำให้เวลาขับทางไกลมีโอกาสพักขามาหน่อยนึง ผมว่าลองลงทุนเช่าขับดูมั๊ยหละครับ ไปกลับซักรอบก็รู้แล้ว
-
ถ้าวางแผนจะซื้อ Swift 2018 ตัวท็อปสุดเป็นรถยนต์ "ซื้อเอง" คันแรกในชีวิต โดยจะมาแทนที่ City 2012 V ในภายภาคหน้า
แต่! ยังไม่รีบซื้อครับ เพราะหลังจากอ่านรีิวิวแล้วคิดว่ารอปรับอุปกรณ์ก่อนดีกว่า อีกทั้ง City เองก็เพิ่งจะผ่าน หนึ่งแสน กม. เมื่อไม่นานนี้เอง
ถามว่า:
1. เทียบกับ City 2012, Swift อึดอัดกับอัตราเร่งไหม - เดินทางกับบ้าน กทม. - นครสวรรค์ เดือนละ 2 ครั้ง
(ในเมือง/ทางไกล ขับตาม Speed Limit, ทางไกลนาน ๆ ทีสูงสุดที่ 120 กม./ชม.)
วางแผนเที่ยว ถ้าการขับขี่ทางไกลเมื่อยล้าน้อยลงกว่า City
2. ความจุกจิกของรถ และ อะไหล่ - ราคา/ความคงทน
3. ศูนย์บริการ - การบริการลูกค้า แก้ปัญหา ความวางใจ (Reliability)
กระนั้นใจก็ชอบ C-HR เหมือนกัน ทดลองขับแล้วประทับใจ ติดตรงที่ราคาแพง (รุ่น 1.8 Entry)
คิดว่าไหน ๆ ก็รอ Swift MC แล้ว จนป่านนั้นน่าจะมีเงินมากพอถอย C-HR ได้
ถาม(ต่อ)
4. จากคำถามข้อ 1 - 3, C-HR เหนือกว่า Swift แค่ไหนครับ
ขอบคุณครับ
ปล. ทั้งแฟนและผมต่างชอบทั้ง Swift และ C-HR (สีแดง) เลยจบที่ตัวเลือก 2 คันนี้ครับ
ปลล. City นั่งไม่สบายสำหรับคนสูง 180 cm ปรับเบาะสบายขา ระยะพวงมาลัยกลายเป็นไกลเกินไป คันเร่ง และ ที่พักเท้าซ้ายมีความสูงของไม่เสมอกัน
ทดลองมาแล้วทั้งสองรุ่น ผมตัด Swift ทิ้งทันที เพราะรู้สึกว่า รับไม่ได้กับอัตราเร่งของรถพวก Ecocar ไม่ทันใจเท่าไหร่ จริงๆมันก็ไม่ได้ช้านะครับ แต่ฟีลเวลาขับ รู้สึกว่ามันไม่ทันใจประมาณนั้น
C-HR แพงกว่าอีกเยอะ ถ้าคิดว่าผ่อนไหว รอได้ก็เป็นรถที่ดีครับ แค่รุ่น Entry จริงๆก็ครบหมดแล้วยกเว้นเบาะหนังแค่นั้นเลย ถ้างบถึงมันก็ย่อมดีกว่าครับเพราะราคาห่างกันตั้งหลายแสน รถก็ใหญ่กว่าด้วย ดีกว่าแทบทุกอย่าง ยกเว้นออพชั่นบางตัวที่ Swift ตัวท๊อปจะให้มากกว่า
-
โจทย์เดียวกันเลยครับ สุดท้ายผมออก Swift มา รู้สึกตัดสินใจไม่ผิด ประหยัดไปครึ่งล้าน
อัตราเร่ง Reflash แล้วจบครับ วิ่งไม่ต่างจาก City แต่ประหยัดกว่ามาก ถ้าเทียบแล้วไวกว่า CHR Hybrid เดิมๆ ด้วย
ข้อเสียหลักๆ ที่เจอคือพวกอ็อปชั่นเช่น กระจกคนขับไม่ออโต้ขาขึ้น กับไม่มีออโต้สปีดล็อค
นอกนั้นพวกกล้องจอด เซนเซอร์ ที่วางแขน ซื้อเพิ่มได้
-
ออก ตจว.บ่อย น่าจะใช้เครื่องใหญ่หน่อยนะครับ แต่ swift ก็ใช่ว่าจะขับไปไม่ได้ :-*
ต้องคำนวณค่าใช้จ่ายส่วนตัวก่อนนะครับ ถ้าผ่อนสบาย จะได้มีเงินเหลือเที่ยว ฯ บ้างครับ 8)
-
ขี่ city ต่อไป รอรถไฟฟ้าล้วนๆ มาค่อยคิดอีก ก็ได้
-
ถ้าซิตี้เดิมยังดีก็ใช้ต่อไปครับ
ยิ่งวิ่งเส้นนครสวรรค์ ถนนโล่ง ต่อให้ขับเรื่อยๆยังไงก็ต้องมีเร่งแซงบ้าง
รวมถึงมารยาทบนถนนระหว่างจังหวัด พอเห็นรถเล็กคิดจะปาดก็ปาด ไม่สนใจ
ยิ่งขับ 1.5 พอมาเจอ 1.2 แล้วจะหัวร้อน ต้องเค้นต้องลุ้น ไม่มีความสุขในการขับ เหนื่อยเปล่าๆ
เก็บเงินไว้ออก C-HR ดีกว่าครับ
-
ถึง จขกท ถ้าจะขายซิตี้ อย่าไปให้เต้นท์กดครับ โตโยต้าชัวร์ก็คือเต้นท์ของโตโยต้าครับ
ลองเปิดราคาในเว็บตลาดรถดูได้ ขายเองยังไงก็ไม่ต่ำกว่าสามแสนครับ
-
ขอบคุณทุก ๆ คำตอบอีกทีนะครับ
Edit: (จริง ๆ แล้วอ่านของทุกท่าน แต่ไม่ได้กดอ้างอิง)
ส่วนตอนนี้สติกลับมาแล้ว หายฟีเวอร์กับ C-HR
เพิ่งคุยกันแฟน แฟนก็บอกว่ายังขับได้อยู่ใช้ไปก่อน (ฮา)
ขี่ city ต่อไป รอรถไฟฟ้าล้วนๆ มาค่อยคิดอีก ก็ได้
จริงครับ เพราะผมกะเก็บเงินรอ Swift MC (ไม่ก็ทบไปถึง C-HR) ป่านนั้นรถยนต์ไฟฟ้าน่าจะกลายมาเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ
ระยะวิ่งทางไกลไปกลับ ตจว. แบตฯ คงเหลือเฟือแล้วล่ะ
-
ตัวใหม่ไม่รู้นะครับแต่ถ้าเทียบกับตัวเก่า
1. ช้ามาก อาจจะเพราะชินกะรถที่มีแรงดึงประมาณนึง
2. ใช้แค่ปีเดียว แต่ขายให้ญาติไปใช้ต่อก็ไม่จุกจิกเลยครับ แรคพวกมาลัยที่ว่ามีปัญหากันผมก็ไม่เจอ
3. ศูนย์สาขาสิรินธรดีนะ เทรนมาเหมือนไปเรียวกัง ญป เลย ของกินอาจจะไม่หรูหราแต่ก็พอดีๆ พนักงานพูดจาดีกว่า bmw อีก
ตอนรับรถมียืนบายๆ จนเลี้ยวออกจากตรงจุดรับรถด้วยครับ
โดยรวมประทับใจครับ
แต่เป็นผมคงไป ch-r
-
ผมก็เคยคับ มีโอกาสเอื้อมแล้วไม่เอื้อม คิดว่าตังอนาคตไม่แน่นอน เก็บตังในกระเป๋าอุ่นๆดีกว่า
ก็ไม่เสียใจนะ เพราะเดี๋ยวก็มีรถใหม่ๆออกมาเรื่อยๆ แต่ก็คาใจ ขนาดตกรุ่นไปแล้วก็ยังเหลียวหลังมองทุกทีที่วิ่งผ่านเรยย 555
-
ผมเคยใช้สวิฟมา5ปี
1.ตัวใหม่ถึงจะดีกว่าเดิม แต่ดูจากตัวเลขยังห่างชั้นครับ 1.5ขับดีกว่าเยอะในแง่อัตาเร่ง
2.อะไหล่ไม่แพงแต่เบิกนานเปล่าไม่รู้ไม่เคยเคลมชนหนักหรือเปลี่ยนชิ้นส่วน
ความทนทานถือว่าปกติดีแต่ผมเองก็ใช้ไม่ได้นาน
จุกจิกรุ่นผมหลายคันมีปัญหาเยอะ แต่ของผมแทบไม่มี
3.0บริการ เข้ามา3ที่ถือว่าดีอยู่ครับไม่ขนาดเจ้าตลาดแต่ถือว่าดีระดับนึง ไม่แย่ แต่0อื่นไม่ทราบ
chr ผมไปลองนั่งมาเผลอๆซิตี้กว้างกว่าหน่อยๆด้วยมั้ง โดยเฉพาะข้างหลัง เคยไปลองนั่งตอนเปิดตัวนานละ
-
ถ้าคุณไม่รีบ และมีปัญหากับข้อ 1-3
ผมว่า รอดูไปเรื่อยๆ ครับ สมัยนี้ รถก็ออกบ่อย พอๆ กับมือถือ เดี๋ยวมีปรับ มีออกใหม่ทุกปี
เพราะ 2 ตัวนี้ ยังไม่ตอบโจทย์พอสำหรับคุณ
-
ตัวใหม่ไม่รู้นะครับแต่ถ้าเทียบกับตัวเก่า
1. ช้ามาก อาจจะเพราะชินกะรถที่มีแรงดึงประมาณนึง
2. ใช้แค่ปีเดียว แต่ขายให้ญาติไปใช้ต่อก็ไม่จุกจิกเลยครับ แรคพวกมาลัยที่ว่ามีปัญหากันผมก็ไม่เจอ
3. ศูนย์สาขาสิรินธรดีนะ เทรนมาเหมือนไปเรียวกัง ญป เลย ของกินอาจจะไม่หรูหราแต่ก็พอดีๆ พนักงานพูดจาดีกว่า bmw อีก
ตอนรับรถมียืนบายๆ จนเลี้ยวออกจากตรงจุดรับรถด้วยครับ
โดยรวมประทับใจครับ
แต่เป็นผมคงไป ch-r
ศูนย์ suzuki ที่สิริทร เป็นศูนย์ของ suzuki motor เปิดเองครับ
-
ใจเทไป CHR แล้วมั้ง ;D สวยครับตัวนี้ ผมยังมองเลย
เอาที่ชอบเลยครับ เดี๋ยวจะมาเสียดายทีหลัง
สุดท้ายถ้าเงินมันมี จ่ายไปแล้วได้สิ่งที่ชอบ มันไม่เสียดายหรอกครับ
รถเครื่องใหญ่เล็กมันไปได้หมดแหละครับ ใจเย็นๆ ดูให้แม่นๆ
แซง ตจว ก็ไม่ยาก ถ้ารู้จังหว่ะ รู้จักรอบเครื่อง รู้จังหว่ะรถตัวเอง
ผมก็แซงตามตูดพวกเครื่อง 1.5 1.8 กระบะ ได้น้ะครับ ::)
คนส่วนใหญ่ขับรถไม่เร็วหรอกครับ ผมออก ตจว บ่อย
ส่วนมากผมจะแซงเค้ามากกว่า
ถ้าเป็นคนที่ชอบขับทางไกล ลองดูเรื่องความนุ่มนวลของช่วงล่าง พวงมาลัย เบาะ
จะช่วยเรื่องการเมื่อยได้เยอะ สวิฟตัวเก่ายังเมื่อยอยู่บ้าง ผมเคยขับนานสุด 6 ชม.
-
จริงๆ เค้าบอกว่าห้ามไปลองรถใหญ่เครื่องแรงครับ เพราะสมรรถนะ ช่วงล่าง มันดีกว่าทุกประการ ลองเมื่อไหร่ กิเลสมันพาไปแน่นอน
ก่อนที่จะใช้ซีวิค ก้ขับ ซิตี้ 2010 มาก่อน ซีวิคดีกว่าแทบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป้นช่วงล่าง การซับถนน อัตราเร่ง มีแย่กว่าก็คือ เสียงเข้าห้องโดยสาร และ กินน้ำมันกว่า
โจทย์ เหมือนจะอยากได้รถ 5 ประตู วิ่งทางไกลได้ด้วย ขับ 1.5 อย่างซิตี้มาก่อน ถ้าคิดว่า 1.5 พอ ก็เอา 1.5 เหมือนเดิม ถ้าคิดว่าไม่พอก็เพิ่มเป็น 1.8
ในกลุ่มรถ 5 ประตู เครื่องแรงกว่า ซิตี้ ในราคาไม่เกินล้าน ก็มี 3 CX 3 CIVIC HRV MG GS แล้วก็ CHr ส่วนตัวแล้ว แนะนำแค่ 2 ตัวคือ CIVIC กับ CHr
ซึ่งแนวทางการออกแบบสวยเฉียบทั้งคู่ ต่างกันเล็กน้อยคือ CIVIC ยังคงเป็นรถครอบครัว ที่นั่งหลังโล่งโปร่ง ส่วน CHr เป็นแนวสังคมสมัยใหม่ครอบครัวเล็กไม่เน้นที่นั่งหลัง
ซิตี้ตัวนี้ ทนไม่จุกจิก ค่าบำรุงต่ำ แนะนำว่าใช้ไปก่อน เก็บเงินเล่นเซกเมนต์ใหญ่ดีกว่าครับ เสียเงินทั้งที ควรใช้ของที่ดีกว่าเดิม
-
ซื้อรถคันละล้าน ต้องผ่อนเดือนละ ประมาณ 15,000 ค่าน้ำมัน ประกัน ภาษี ยาง ซ่อมบำรุง 1เดือนต้องมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับรถ 20,000-22,000 บาท ลองคำนวณดูครับ พร้อมลุย C-HR ได้เลยครับ
-
ถ้าซื้อ chr ไหว ก็ chr เลย กรุงเทพ-นครสวรรค์ไกลนะครับ เมื่อยแน่ครับ
-
ผมเสนออีก ตัวเลือกได้ไหมครับ
Swift อืดไป เล็กไปไม่เหมาะกับวิ่งต่างจังหวัด
C-HR แพงไป
ผมอยากแนะนำ Altis 1.6G 869,000
หรือ 1.8E 874,000 ถึงแม้มันจะเก่าปี แต่หน้าตาภายนอกก็พอได้ ภายในเชยๆ แต่กว้างกว่า CHR
และก็แรงกว่า Swift แรงพอๆกับ CHR ผมว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ และแถมเพิ่มเงินจาก Swift ไม่เยอะมากด้วย
-
ผมขับ swift 1.25 ตัวเก่า ขับทางไกลเครียดกว่า city นิดหน่อย และอืดกว่านิดหน่อย
ผมคิดว่าใช้ city ไปก่อน รออีกปี หรือ 2 ปี จะซื้อ CHR ก็ค่อยดูคอมเม้นต์ของผุ้ใช้จริง
ว่ามีปัญหาอะไรบ้างไหม และรถเพิ่งเปิดตัว ต้องดูว่ามี defect อะไรไหม และอีกอย่าง อีก ปี
หรือ 2 ปี ความจำเป็นของครอบครัว จะเป็นตัวตัดสินใจว่า จะซื้อรถรุ่นไหนอย่างไร เช่นเดียวกับตัว
ผมในเวลานี้ ถ้าจะออกรถใหม่คงไปปิ๊กอัพ 4 ประตู
-
ผมมีรถอยู่แล้ว 1 คัน ยังอยากได้ Swift เพิ่มอีกคันนึงเลยครับ ภายนอกสวยดูดี ขับในเมืองก็คล่อง
เรื่องอัตราเร่งถ้าเป็นการใช้งานในเมืองเทียบกับรถ 1.5 หรือ 1.8 ผมว่าพอฟัดพอเหวี่ยงกันครับ
แต่ถ้าเป็นการเดินทางไกล รถเครื่องเล็กมักจะเสียเปรียบในเรื่องอัตราเร่งที่ความเร็วสูงๆ เช่นจะแซงรถที่วิ่ง 100 Km/h ข้างหน้า บางทีมันต้องกดไปถึง 120-130 จึงจะแซงขาด
รถที่เครื่องเล็กแรงม้าไม่มาก จะทำอัตราเร่งช่วงความเร็วสูงได้ช้ากว่า
พูดใช้งานจริงมันก็ไม่แย่หรอกครับ ให้ขับแซงรถบรรทุกหรือรถขนอ้อยมันแซงได้สบายๆอยู่
จะเครียดก็ตอนแซงรถกระบะขับช้า หรือรถ SUV ขับช้า พอเห็นเราแซงแล้วดันกดคันเร่งสู้ซะอย่างงั้น
-
ถ้ายังไม่รีบอย่างที่ว่า ผมว่าอย่าเพิ่งคิดเลยครับ เก็บเงินไปก่อนยาวๆ พอจะซื้อ ค่อยดูอีกที ในตลาดตอนนั้นมีอะไรน่าสนใจบ้าง แล้วเก็บเงินได้เท่าไหร่
-
ผมเสนออีก ตัวเลือกได้ไหมครับ
Swift อืดไป เล็กไปไม่เหมาะกับวิ่งต่างจังหวัด
C-HR แพงไป
ผมอยากแนะนำ Altis 1.6G 869,000
หรือ 1.8E 874,000 ถึงแม้มันจะเก่าปี แต่หน้าตาภายนอกก็พอได้ ภายในเชยๆ แต่กว้างกว่า CHR
และก็แรงกว่า Swift แรงพอๆกับ CHR ผมว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ และแถมเพิ่มเงินจาก Swift ไม่เยอะมากด้วย
น่าสนใจครับ โดยเฉพาะรุ่นถัดไปที่ใช้พื้นฐาน TNGA และเป็นรถ 5 ประตูอีกต่างหาก (ถ้าเข้าไทยนะ ;D)