Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Wangleehom ที่ มิถุนายน 23, 2018, 13:06:15
-
ถ้าอยากออกเบนซ์สักคัน
เราควรมีเงินเดือนประมาณเท่าไรครับ ถึงจะผ่อน Benz e class ได้
แบบไม่กระทบกับการใช้จ่ายอื่นๆในชีวิตประจำวัน ถ้าอยู่แบบสบายๆ ไม่ได้ฟุ่มเฟือยอะไร
-
ผมว่ามันขึ้นอยู่กับว่าคุณดาวน์เท่าไหร่และคุณมีภาระอื่นที่ต้องรับผิดชอบหรือไม่ ของอย่างนี้ไม่มีใครตอบแทนคุณได้หรอกครับ คุณเองน่ะแหละจะรู้ศักยภาพทางการเงินตัวเองดีที่สุด อย่างตอนนี้ผมเงินเดือนแค่ 6 หมื่น แต่ผมผ่อน e220d คันละ 4 ล้าน เพราะผมดาวน์ไปแล้วสามล้าน ผมผ่อนเดือนละไม่ถึง 2 หมื่น เหลือเงินเดือนละ 4 หมื่น ผมไม่มีภาระอื่น เช่น ผ่อนบ้าน หรือลูกเมีย (ผมเป็นโสด และเป็นลูกคนเดียว พ่อแม่มีบ้านอยู่แล้วหลายหลัง) ตอนนี้ก็เลยสบายๆ
-
แต่ก่อนพ่อผมสอนไว้ อยากซื้อรถ 10 ล้าน ต้องมีเงินเก็บ 100 ล้านก่อน ไม่งั้นจะลำบาก
ดอกเบี๊ยเบนซ์แพงมากนะครับ คำนวณดีๆ 10% ขึ้นทั้งนั้น ยิ่งบอลลูนนี่หลุดไปไกล 25-30%กันเลยทีเดียว
ผมเทียบก่อนเสมอถ้าส่วนลดต่างๆซื้อสดถูกกว่าก็ซื้อสด แต่ถ้าส่วนลดเทียบดอกเบี้ยแล้วลดถูกกว่าก็ผ่อน(หลายครั้งซื้อสดเค้าไม่ลดให้เลย)
แต่นี่เป็นบทเรียนของผม ผมเพิ่งออกรถ s class ได้ 2 เดือน คุณพ่อต้องเข้าโรงบาล เสียเงินค่ารักษากระทันหันภายในเดือนเดียวไปล้านกว่า โดยรวม 3 ล้านกว่า ถ้าไม่ใช่เพราะมีเงินเก็บสำรองไว้ ป่านนี้ไม่รู้จะเป็นยังไง
หวังว่าจะได้ข้อคิดคร่าวๆแล้วนะครับว่าต้องเท่าไหร่
-
รายได้มั่นคงแบบหมออยากผ่อนเท่าไรผ่อนไป
แต่ถ้าค้าขาย เอาดาวน์ให้เหลือผ่อนเดือนละ 2-3หมื่นก็พอครับคหสต นะครับ
-
อยู่ที่ใจ แต่สำหรับผมแล้วต้องมีเงินจากการผ่อนชำระต่างๆประมาณเดือนละสี่ถึงห้าหมื่นจึงจะอยู่ได้แบบไม่อึดอัด
-
พูดยากครับ ภาระแต่ละคนไม่เหมือนกัน
-
ประสบการณ์จากคนใกล้ตัว
ที่ดาวน์ตามตาราง เช่น 25% 30%
ญาติฝั่งภรรยาเป็นเจ้าของหอพักกับโรงงานเล็กๆ รายได้สองแสนกว่าต่อเดือน
-
มองเงินเก็บต่อเดือนครับ ไม่ใช่เงินเดือนเท่าไร
-
ถ้าท่านไม่ใช่คนมีเงินเป็นถุงเป็นถังจริงๆแต่ใจรัก แต่อยากเติมเต็มฝัน อยากได้รถพรีเมี่ยมสักคัน ก็พยายามอดทนเก็บเงินไปดาวน์
ให้ได้เยอะๆก่อนครับ เวลาผ่อนจะได้สบาย ดอกเบี้ยก็น้อยด้วย เวลาดาวน์เยอะ ดาวน์สัก 50-60% ไปเลย แต่รายได้น่าจะมีสัก 100,000/เดือน
เพราะดาวน์ 50-60% รถราคา 3.5ล้าน ดาวน์ไปเลย 2ล้าน แล้วผ่อน 5ปี ดอกเบี้ยจะประมาณ 2-3% E class หรือ S5 ก็จะเหลือผ่อนประมาณ 30,000/เดือน ครับ
จะซื้อรถคันละ 3.5ล้าน ไม่จำเป็นต้องมีเงินเป็นสิบล้านครับ ถ้าใจรักก็จัดได้ ขอแค่รู้รายได้ได้เฉลี่ยที่แน่นอนของท่านเอง
และไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของตัวเอง อย่างถ้าคนกินเก่งเที่ยวเก่ง ก็เสียเปรียบหน่อย แต่ถ้าท่านเป็นคนที่กินแค่เพื่อพออยู่ สมถะ
ไม่ได้เที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ สุขภาพดี รายได้ 1แสนต่อเดือนมั้นคง ก็ไม่ใช่เรื่องเกินฝันครับ สบายๆด้วยซ้ำ
ลองดูชาวบ้านหาเช้ากินค่ำระดับพื้นๆที่เค้าใช้รถกระบะกันสิครับ กระบะคันละ 5-9แสน แล้วท่านว่าเค้ามีเงินในบัญชีขนาดนั้นกันทุกคนมั๊ยครับ?
ผมว่า 80% เลยมีเงินในบัญชีไม่ถึงครึ่งของราคารถ มีเงิน 3-4 แสน ไปออกรถคันละ 8แสน ดาวน์แล้วก็ทำงานผ่อนไปเรื่อยๆครับ
มันก็เป็นอย่างนี้ทั้งนั้นแหละครับ ไม่แปลก
แต่ ภาระ ใจ และการใช้ชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ เรื่องแบบนี้ใครก็ตอบแทนกันไม่ได้หรอกครับ ตัวท่านเองรู้ดีสุด ว่าตัวเองได้แค่ไหน
ผมเพียงแค่บอกแนวททางให้เท่านั้นเองครับ
-
อยู่ที่ว่ารายได้เท่าไหร่ และต้องมีค่าใช้จ่ายต่อเดือนเท่าไหร่ และมีเงินดาว์นเท่าไหร่ และๆๆๆๆๆ มีค่าใช้จ่ายตอนเชคระยะด้วยนะครับ ราว 1 หมื่น/ครั้ง แบบนี้ต้องถามใจตัวเองครับ
-
วัดจากคนรอบตัวผม ถ้าเป็นมนุษย์เงินเดือน5หลักปลายๆคือขั้นต่ำสุดที่ถอยป้ายแดงระดับ E-Class มาขับกันครับ
-
ผมว่าไม่ได้ดูที่เงินเดือนนะ น่าจะดูว่าแต่ละเดือนเหลือเท่าไรมากกว่า
และต้องเหลือมากกว่าค่างวดพอสมควร เพราะต้องกันเงินไว้สำหรับค่าซ่อมบำรุงด้วยนะครับ
-
ค่าเสื่อม+ค่าน้ำมัน+ค่าบำรุงรักษา
คิดคร่าวๆว่าใช้รถสัก7ปีขาย ปีละ 15000กม เข้าศูนย์เฉพาะโปรถูกสุดฟรีค่าแีงเฉลี่ยกลม ๆ7ปี
200,000+ 30000+60000
ปีนึงก็ราวๆ 3 แสนบาท คิดถอยหลังเอาว่าค่าใช้จ่ายส่วนตัวคุณเท่าไหร่ รายได้เท่าไหร่ถึงจะพอดี
สำหรับผมปีละ1ล้ายยังรู้สึกเกินตัวไปจะออกเบนซ์ป้ายแดง
-
ของแบบนี้ต้องประเมินเองเลยครับ
ผมกับแฟนรวมกัน 150k ต่อเดือน รายจ่ายมีผ่อนบ้าน 25k กับรายจ่ายทั่วๆไป
จะออก GLA ยังไม่กล้าเลยครับ
-
ถ้าท่านไม่ใช่คนมีเงินเป็นถุงเป็นถังจริงๆแต่ใจรัก แต่อยากเติมเต็มฝัน อยากได้รถพรีเมี่ยมสักคัน ก็พยายามอดทนเก็บเงินไปดาวน์
ให้ได้เยอะๆก่อนครับ เวลาผ่อนจะได้สบาย ดอกเบี้ยก็น้อยด้วย เวลาดาวน์เยอะ ดาวน์สัก 50-60% ไปเลย แต่รายได้น่าจะมีสัก 100,000/เดือน
เพราะดาวน์ 50-60% รถราคา 3.5ล้าน ดาวน์ไปเลย 2ล้าน แล้วผ่อน 5ปี ดอกเบี้ยจะประมาณ 2-3% E class หรือ S5 ก็จะเหลือผ่อนประมาณ 30,000/เดือน ครับ
จะซื้อรถคันละ 3.5ล้าน ไม่จำเป็นต้องมีเงินเป็นสิบล้านครับ ถ้าใจรักก็จัดได้ ขอแค่รู้รายได้ได้เฉลี่ยที่แน่นอนของท่านเอง
และไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของตัวเอง อย่างถ้าคนกินเก่งเที่ยวเก่ง ก็เสียเปรียบหน่อย แต่ถ้าท่านเป็นคนที่กินแค่เพื่อพออยู่ สมถะ
ไม่ได้เที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ สุขภาพดี รายได้ 1แสนต่อเดือนมั้นคง ก็ไม่ใช่เรื่องเกินฝันครับ สบายๆด้วยซ้ำ
ลองดูชาวบ้านหาเช้ากินค่ำระดับพื้นๆที่เค้าใช้รถกระบะกันสิครับ กระบะคันละ 5-9แสน แล้วท่านว่าเค้ามีเงินในบัญชีขนาดนั้นกันทุกคนมั๊ยครับ?
ผมว่า 80% เลยมีเงินในบัญชีไม่ถึงครึ่งของราคารถ มีเงิน 3-4 แสน ไปออกรถคันละ 8แสน ดาวน์แล้วก็ทำงานผ่อนไปเรื่อยๆครับ
มันก็เป็นอย่างนี้ทั้งนั้นแหละครับ ไม่แปลก
แต่ ภาระ ใจ และการใช้ชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ เรื่องแบบนี้ใครก็ตอบแทนกันไม่ได้หรอกครับ ตัวท่านเองรู้ดีสุด ว่าตัวเองได้แค่ไหน
ผมเพียงแค่บอกแนวททางให้เท่านั้นเองครับ
ผมก็ว่าตามนี้
ขอเสริมที่ว่าซื้อรถ 4 ล้านก็ควรมีเงินเก็บพอๆกับราคารถ
ส่วนผ่อนต่อเดือนไม่ควรเกิน 35% ของรายได้ต่อเดือน
-
มองรายได้ในปัจจุบัน
มองรายได้ในอนาคต
ความเสี่ยงของหน้าที่การงาน
ถ้า 3อย่างนี้ ดี อยากได้ ไม่มีปัญหาครับ
-
ของแบบนี้ต้องประเมินเองเลยครับ
ผมกับแฟนรวมกัน 150k ต่อเดือน รายจ่ายมีผ่อนบ้าน 25k กับรายจ่ายทั่วๆไป
จะออก GLA ยังไม่กล้าเลยครับ
เห็นด้วยครับ เรื่องแบบนี้ต้องประเมินกันเอง บางคนใจรักจริงๆ ก็อยากได้รถดีๆ มาขับ แต่บางท่านรายได้สูง แต่ขับอะไรก็ได้ ขอให้มันอย่าตายกลางทางก็พอ
ส่วนตัวผมเองใช้หลักว่าการผ่อนในแต่ละเดือนห้ามเกิน 20% ของรายได้ต่อเดือน(เงินเดือน 100000 ผ่อนไม่เกิน 20000) ไม่งั้นก็ซื้อสดครับ
-
รถเบนซ์อีคลาส ถือเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยแล้ว อย่าเอาไปเทียบกับรถกระบะ หรือเก๋งญี่ปุ่น
ขั้นต่ำๆ เลย คือรายได้ทั้งปี ไม่ควรน้อยกว่าราคารถ ของฝรั่งนี่ให้แค่ครึ่งเดียวของรายได้ทั้งปีเท่านั้น
3.6 ล้านบาท รายได้ไม่ควรน้อยกว่าเดือนละ สามแสนบาท ถึงจะเหมาะสม ครับ
https://economictimes.indiatimes.com/automobiles/how-much-should-you-spend-on-a-car/articleshow/33280999.cms
https://www.moneyunder30.com/how-much-car-can-you-afford
-
ถ้าถามแบบนี้ ผมคิดว่าไม่ควรซื้อครับ ไม่ลองหาe class มือ2 เศรษฐกิจตกต่ำแบบนี้ น่าจะมีให้เลือกเยอะ
-
ตอบแบบ ตรงคำถาม ถ้าไม่มีภาระอะไร 2 แสน ครับ Benz Service แพง และไม่มี BSI คุมค่าใช้จ่ายลำบาก
ถ้ารายรับ ระดับ แสน ผมว่า BM หรือ Volvo ครับ
-
ต้องวางแผนการเงินดี ๆ เลยครับ ถ้าซื้อแล้วยังคิดว่าจะมีความลำบากตอนผ่อน ผมว่าลองลดระดับตัวรถลงมาก็ได้
ผ่อนรถเหนื่อยนะครับ ผ่อน 3 - 4 ปียังเหนื่อยเลย เพราะเงินสดในมือหายไปทุกเดือน จะซื้ออะไร ไปเที้ยวไหนก็ลำบาก
แต่ถ้าเงินเหลือเยอะ ผ่อนไม่เดือนร้อน ก็ซื้อเลย เพราะมันเป็นความสุข ยังไงรถก็ได้ขับทุกวัน ผมแนะนำลองกันเงิน สัก 3 เดือนดูก่อน ซึ่ง E class ถ้าดาวน์ไม่สูงมาก สัก 30% ผ่อนสัก 4 ปี น่าจะตกเดือนละประมาณ 50000 ได้ ถ้าหัก รายได้ เดือนละ 50000 แล้ว ใช้จ่าย ไม่ติดขัด ผมก็คิดว่าน่าจะซื้อได้
ตอนก่อนซื้อรถ ผมก็ทำแบบนี้ ตอนนี้ ผมใช้จ่ายได้ตามปกติ ไม่อึกอัด แล้วยังมีความสุขกับรถใหม่
-
ควรเป็นเจ้าของกิจการ ไม่ควรเป็นพนักงานรับเงินเดือนครับ หรือไม่ก็เป็นผู้บริหาร แล้วรถประจำตำแหน่งเป็น E-Class
ถ้ารับเงินเดือน (แบบมนุษย์เงินเดือน, ยกเว้นอาชีพพิเศษเช่นหมอหรือนักบิน) ผมเห็นผ่อนกันแบบสบายๆ ไม่เครียดกันในระดับ Series 3 หรือ C-Class ครับ คือช่วงราคาประมาณ 2-3 ล้านบาท ผ่อน 60 เดือน เดือนละ 3-4 หมื่นบาท เงินเดือน 2 แสนผ่อนแบบสบายๆ
แต่พอมาในรถระดับ 3.5-4 ล้าน ผ่อน 60 เดือนจะไปอยู่ที่เดือนนึงประมาณ 5 หมื่น มันเริ่มตัน ส่วนเจ้าของกิจการผ่อน 48 เดือน เดือนละ 6-7 หมื่นสบายๆ ครับ
-
ถ้าเอาตามทฤษฎีนะครับ
ยอดผ่อนรถ และของฟุ่มเฟือยอื่นๆ ไม่เกิน 15-20% ของรายได้ต่อเดือน
ถ้ารวมยอดผ่อนบ้านด้วย ให้ ไม่เกิน 35-45% ของรายได้ต่อเดือน
คุณก็ลองคำนวณดูว่า ยอดผ่อนที่คุณเลือก คือเท่าไร ต้องมีเงินเดือนเท่าไรครับ
-
สำหรับผมอาจจะแปลกจากคนทั่วไป ระยะเวลา 4ปีไม่นานสำหรับผม และอย่างที่คำตอบก่อนหน้านี้ ดอกเบี้ยเบนซ์แพงมาก ผมเก็บเงิน 4 ปีแล้วซื้อดีกว่า พอดี Model Change พอดี
-
ผมว่าน่าจะมีเงินเดือนซัก 2แสนต่อเดือน มีเงินดาวน์ซัก 50%ที่เหลือจะผ่อนสบาย
-
อย่าว่าผมนะครับ ถ้าจะตอบตรงๆเรื่องนึง
รถเป็นส่วนผสมระหว่างความสุข และภาระ
10 ล้านแรก ผมเก็บไปลงทุนอสังหา กองทุนดีๆ และความรู้บวกประสบการณ์ เช่นบินไปดูเวิลด์ เอ็กซโปร์ที่เซี่ยงไฮ้ (ตอนนั้น)
50 ล้่านแรก ลงทุนอสังหาเพิ่ม เพิ่มพอร์ทหุ้น และเดินทางเก็บประสบการณ์กับคนหลากหลายมากขึ้น ซื้อหนังสือดีๆ (ที่ไม่ใช่ how to)
รถที่ใช้เป็นรถญี่ปุ่น ทนทาน ไม่ต้องมีกังวล
100 ล้่านแรก ผมถึงมาซื้อ E-class ครับ
-
ต้องถามว่ามีภาระอะไรบ้าง ดาวน์เท่าไหร่มากกว่าครับ
-
เรื่องเงินยังไม่น่ากลัวเท่า เมื่อเอามาแล้ว ไอ้ที่เราเคยใช้จ่ายสบาย มันจะไม่สบาย มันมักจะมีปัญหานั่นนี่ มาให้เรา เสียเงินกว่าตอนเราไม่ผ่อน นี่สิ ทันชอบทำให้เราโดนยึด ตรงนี้สิน่ากลัวกว่าอีก ถ้าเงินไม่ถึงจริงๆ
-
อยู่ที่ชอบคับ ถ้าไม่มีภาระอะไรรายได้มั่นคง 150,000+. ก็ซื้อได้คับผ่อน1ใน3ของรายได้ ย้ำว่าใจรักจริง แต่ถ้าอยากสบายขึ้นลงมา c class. 3series ก็ผ่อนน้อยลงเดือนละหมื่นกว่าๆได้เลยนะคับ
-
ส่วนตัวผมคิดว่า ขั้นต่ำควรจะ 300,000 up ครับ
เพราะในความเป็นจริงแล้วยังมีค่าใช้จ่ายอย่างอื่นด้วย
ไม่ว่าจะเป็นค่าผ่อนบ้าน ค่ากิน เที่ยวต่างประเทศ ชอปปิ้ง ค่าน้ำมัน ค่าประกัน
และที่สำคัญ ค่าเทอมลูก กับ ค่าเลี้ยงดูครอบครัว ครับผม
-
อยู่ที่ภาระครับ .. ถ้าตัวเปล่าเล่าเปลือย ... ไม่ต้องส่งอะไรเลย .. ราว ๆ 4 เท่าของค่างวด คือ 2 แสน ก็ผ่อนได้สบายแล้วครับ
แต่แน่นอน คนจะมีรายได้ 2 แสน รายจ่ายเพียบครับ . ต่างคนต่างภาระ คิดแทนกันไม่ได้ครับ
-
มีเงินเหลือซัก 1 แสน โดยหักทุกอย่างหมดแล้ว
จะเจ้าของกิจการ หรือ พนักงานประจำก็ได้ครับ
เรื่องความมั่นคง นั้นเรื่องของอาชีพแล้วละครับ
-
ถ้ามองกลมๆ e class ก็ควรมีสัก 2แสนครับ แต่หลักๆมันขึ้นอยู่กับการใช้เงินของเราเองมากกว่า
ตอนมี f30 ผมรายได้หักค่าบ้านแล้วแค่ 6หมื่นหน่อยๆเองครับดาวไป 25% บอลลูน แต่ก็เป้นช่วงงานกำลังโตพอดี ย้อนไปตอนนั้นถ้าเอา E ก็ยังไหวนะครับ แต่ชีวิตก็คงทำไรไม่ได้เลยนอกจากขับไปกลับบ้าน ออฟฟิศ
รอ 10% ตอนนี้ผมยังคงไม่ได้ใช้เลย ถ้าที่บ้านมีฐานะดีละสอนแบบ 10% ก็ดีครับ ถือว่าคาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิดก็เติมเต็มฝันได้ไวกว่าคนอื่น
แต่ก่อนพ่อผมสอนไว้ อยากซื้อรถ 10 ล้าน ต้องมีเงินเก็บ 100 ล้านก่อน ไม่งั้นจะลำบาก
ดอกเบี๊ยเบนซ์แพงมากนะครับ คำนวณดีๆ 10% ขึ้นทั้งนั้น ยิ่งบอลลูนนี่หลุดไปไกล 25-30%กันเลยทีเดียว
ผมเทียบก่อนเสมอถ้าส่วนลดต่างๆซื้อสดถูกกว่าก็ซื้อสด แต่ถ้าส่วนลดเทียบดอกเบี้ยแล้วลดถูกกว่าก็ผ่อน(หลายครั้งซื้อสดเค้าไม่ลดให้เลย)
แต่นี่เป็นบทเรียนของผม ผมเพิ่งออกรถ s class ได้ 2 เดือน คุณพ่อต้องเข้าโรงบาล เสียเงินค่ารักษากระทันหันภายในเดือนเดียวไปล้านกว่า โดยรวม 3 ล้านกว่า ถ้าไม่ใช่เพราะมีเงินเก็บสำรองไว้ ป่านนี้ไม่รู้จะเป็นยังไง
หวังว่าจะได้ข้อคิดคร่าวๆแล้วนะครับว่าต้องเท่าไหร่
คำนวนยังไงครับได้ 10 15 20 ??? แล้วไม่ใช่แค่รถพรีเมียมนะครับ honda สบายดีบอลลูนก็เรทเดียวกัน ส่วนรถพรีเมียมถ้าไม่ผ่อนบอลลูนก็เรทเดียวกันครับ คำนวนดีๆครับ ไม่ถึง 10% คิดเล่นๆบอลลูนได้ราวๆ 6.5-7 ครับ
ส่วนซื้อสดไม่ลดให้เลยน่าเปลี่ยนศูนย์นะครับ ถ้าไม่ได้ซื้อตัวที่คนแย่งกันจริงๆ ผมว่ายังไงก็มีลด เคยถาม cla ตอนรอรถกันข้ามปียังมีส่วนลดเลย หลายๆคันที่ซื้้อมารุ่นไหนบ้างครับเนี้ย ศูนย์หยิ่งน่าดูลองเปลี่ยนไปศูนย์อื่นดูนะครับ
-
ง่ายๆสบายๆ หลักค่าใช่จ่ายพื้นฐานแล้ว เหลือซัก 50000-100000
-
รถเป็นของฟุ่มเฟือย ถ้าดึงเงินออม(เงินอนาคต)มาจ่ายถึง50% ขึ้นไปมีผลกระทบต่อชีวิตประจำวันและอนาคตแน่นอนครับ อย่างน้อยก็คงต้องกระทบต่อการกินเที่ยวใช้จ่ายแน่นอน ส่วนตัวผ่อน 15% ผมยังว่ากระทบเลย เคยอ่านจากคอลัมเศรษฐกิจหลายๆที่วิเคราะห์ไว้อย่างนั้น บางทีก็ย้อนคิดเล่นๆไปว่าเอาดีเซกเมนต์ญี่ปุ่นก็พอ เอาส่วนต่างหลักหมื่นต่อเดือนไปเที่ยวกินออกต่างจังหวัดได้เพิ่มทุกเดือน ส่วนต่างหลักแสนต่อปีไปเที่ยวต่างประเทศปีละ 2-3 ครั้งดูชีวิตจะมีความสุขมากกว่า
-
แล้วแต่ความชอบนะผมว่า ผมอายุ26 รายได้ 130 k ไม่มีภาระครอบครัว
ผ่อนรถเดือนละ 26 k ก็ขี้เกียจผ่อนแล้วอะ เอาเงินไปกินไปเที่ยวสบายใจกว่า ;D
-
แล้วแต่ความชอบนะผมว่า ผมอายุ26 รายได้ 130 k ไม่มีภาระครอบครัว
ผ่อนรถเดือนละ 26 k ก็ขี้เกียจผ่อนแล้วอะ เอาเงินไปกินไปเที่ยวสบายใจกว่า ;D
+ 1
-
3 เท่าของค่างวด
-
จะรอ จน 60 ถึงได้ขับเบนซ์เหรอ มีเงินซื้อไปเหอะ ไม่ต้องรอ 50 ล้าน ถึงได้ซื้อรถ 5 ล้านหรอก แก่ตายพอดี
-
ทำตามบางคนบอก ชาติใหนก็ไม่ขับ
ทำตามบางคน ได้ขับแต่ไม่รุู้ ได้นานแค่ใหน ความสุขที่เคยมีก็อาจหายไป
ถ้าเป็นผม มีเงินดาวน์50% ค่างวดสำรองไว้12 งวด พอแล้วครับ