Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: HOMY_DEMIO ที่ กรกฎาคม 20, 2010, 00:25:21
-
ผมไปอ่านเจอจากชาว Thaimarch.com ครับ
เขาบอกว่าไปอ่านเจอจากนิตยสารรถวันนี้ (ฉบับไหนไม่ทราบ แต่เท่ากับว่ามีที่มาที่ไปแน่)
--------
ล่าสุด ข่าวมาจากวารสาร รถวันนี้ นะครับ คอลัมนิสต์ ของ นิตสารได้ไปคุยกับ agency ของบริษัทรับทำโฆษณา ซืั่งทาง honda ได้จ้างมาว่า จะใช้สโลแกน ว่าอะไรดี เพราะว่า ตอนนี้ รถต้นแบบ เสร็จแล้ว ไม่ใช่เป็นแบบร่าง แต่เป็นตัวรถจริง ๆ 100 %ที่จะวางขาย ต้นปีหน้าแน่นอน
ข่าวออกมาว่า รถสวย เฉี่ยว ดูนำสมัย ล้ำยุค เส้นสายดูปราดเปรียว คล้าย ๆ ฟอร์ดเฟียสต้า ถ้าเทียบกัน น้องมาร์ชของเรา เขาเปรียบ น้องมาร์ช เป็นคุณ ป้า ไปเลย (ขนาดนั้น)
แต่ข่าวร้ายคือ ตัวรถ ได้รับได้รับการยืนยันว่า เล็กกว่า มาร์ชทุกมิติ แคบกว่า สั้นกว่า เพราะเน้น ความปราดเปรียวนั่นเอง(เน้นขายกลุ่มวัยรุ่น)
และที่สำคัญ ราคาครับ พี่น้องครับ เค้ายืนยันมาว่า ราคาไม่ถูก กว่ามาร์ช แน่นอน ล้านเปอร์เซ็น (เค้ายืนยันอยู่ที่ว่าจะต่างกันหลักหมื่น หรือหลักแสน)
เพราะ honda ไม่เคยขายของถูกครับ
เพื่อน ๆ คิดว่าไง ครับ
http://www.thaimarch.com/index.php?topic=3764.msg155295#msg155295
-----------
โดยส่วนตัวชัดเจนแล้วว่า Honda Ecocar โฟกัสจุดเด่นคนละกลุ่ม Nissan March 100% แล้วล่ะ
คราวนี้ถ้าอีโคคาร์เบอร์ 3 อย่าง suzuki นี่ไม่น่าห่วงเท่าไร แฮะ
แต่เบอร์ 4 ในตลาดจะต้องหาจุดแข็งมาสู้แล้วแฮะ
เราก็เดาใจไม่ถูกเหมือนกันว่า mitsu จะพัฒนารถออกมาแนวไหน
เพราะตอนนี้ไฟต์บังคับว่าต้องทำรถให้เด่นกว่า 3 เจ้าแรกให้ได้
-
นั่นซิครับ
เหนื่อยแทนมิตซูจริงๆ :'(
ไม่มีที่จะให้ยืนอยู่แล้ว
คงต้องวางเครื่อง ฉีดตรง ทวินเทอร์โบ เลยมั้ง ;D
-
Honda Eco car จะกล้าทำร้ายตัวเอง(ด้านราคา)เหมือนที่เคยทำกับ Freed หรือป่าว หรือคิดว่าประชาชนคนไทยทำรถอะไรออกมา ตั้งราคาเท่าไหร่ ตูก็ขายได้ยังงั้นหรือ ออฟชั่นเทียบกับรถระดับเดียวกันก็น้อยกว่า เฮ้อ
-
แพงกว่าเท่าไรหนอ ;)
-
ราคา คงแพงกว่าแค่หลักหลายหมื่น ไม่ถึงแสนครับ
ดู Freed เป็นตัวอย่าง
ขายน้อยคัน แต่ กำไรต่อคัน เยอะกว่าอีกหลายเท่า น่าทำกว่าขายถูก ๆ แล้วขายเยอะคัน
แต่ มันจะทำอย่างนั้นกับ ECO CAR ไม่ได้ เพราะมีเงืื่อนไขกำลังการผลิตที่ต้องได้ตามเป้า
ฉะนั้น ผมเดาว่า HONDA คงได้เรียนรู้ตัวเลขจาก Freed และ ไม่ฆ่าตัวตายจากราคาสูง ๆ แน่ ๆ และยิ่งถ้าแพงกว่าเป็นหลักแสน คู่แข่งก็จะมีช่องว่างด้านราคาให้ตีได้เยอะ รับรองปิดประตูโรงงาน ส่งออกอย่างเดียวได้เลยครับ
-
"...และที่สำคัญ ราคาครับ พี่น้องครับ เค้ายืนยันมาว่า ราคาไม่ถูก กว่ามาร์ช แน่นอน ล้านเปอร์เซ็น..."
ถ้า Honda ไปคุยกับ agency ผมว่า เค้าคงไม่น่าจะแจ้งว่าราคา ไม่ว่าจะถูกกว่า หรือแพงกว่า march ถ้าบอกก็ว่ารถ eco car ราคาก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่มากกว่า
แล้ว agency กล้ามากที่จะออกคุยกับคอลัมนิสต์ นิตยสารรถ เกี่ยวกับงานของ HONDA ที่ยังไม่ได้เปิดตัวเป็นทางการเนี่ยน่ะ
-
"...และที่สำคัญ ราคาครับ พี่น้องครับ เค้ายืนยันมาว่า ราคาไม่ถูก กว่ามาร์ช แน่นอน ล้านเปอร์เซ็น..."
ถ้า Honda ไปคุยกับ agency ผมว่า เค้าคงไม่น่าจะแจ้งว่าราคา ไม่ว่าจะถูกกว่า หรือแพงกว่า march ถ้าบอกก็ว่ารถ eco car ราคาก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่มากกว่า
แล้ว agency กล้ามากที่จะออกคุยกับคอลัมนิสต์ นิตยสารรถ เกี่ยวกับงานของ HONDA ที่ยังไม่ได้เปิดตัวเป็นทางการเนี่ยน่ะ
ใช่ ผมไม่เชื่อว่า เอเยนซี่จะมาคุย แต่อาจเป็นได้ ว่าพนักงานในเอเยนซี่ ที่อาจรู้แค่งูๆ ปลาๆ คงมาคุยกับเพื่อนๆ มากกว่า ไม่ใช่คอลัมนิสต์หรอกครับ เพราะอะไร เพราะถ้าเอเยนซี่มาคุย มีหวังโดนปรับหัวโตเลยครับ เพราะก่อนทำงานพวกนี้เขามีเซ็นต์สัญญารักษาความลับอยู่ครับ
-
แล้วแจ็สกับซิติ้ มันเริ่มต้นที่เท่าไหร่เหรอครับ
ยังไงอีโคคาคงไม่แพงกว่าซิตี้หลอกมั้งครับ
แหมไอเราก็ดู บทความ อีโคคาของพี่จิม เห็นรถฮอนด้ามันสวย
กำลังอยากได้มาเป็นคันa-bแบบพี่แพน ดันมีราคาแพงซได้ :(
-
คำว่า ราคาไม่ถูกไปกว่า March แน่นอน นั้น
ผมจำได้ว่า มีคน Honda สักคนหนึ่ง พูดให้ฟัง เมื่อ นานมาแล้ว เหมือนกันครับ
ดังนั้น ผมยืนยันเรื่องนี้ให่้ได้อีกเสียง
แต่ ผมเชื่อว่า ไม่น่าหลุดมาจาก ปากเอเจนซี
และอันที่จริงแล้ว รถวันนี้ รู้สึกว่า คุ้นๆนะ ลูกชายเจ้าของ ก็ไม่ใช่อื่นไกลไปเท่าใดนัก
ตา Kyopi เพื่อนผมเอง นั่นแหละ อิอิ
อันนี้ ถือเป็น คราวซวยเล็กๆ ของ Honda เพราะว่า Nissan ดันใช้มุขแจ้งเกิด
ในตลาด Eco Car ด้วยการ เอา B-Segment Lower อย่าง March มาทำเป็น ECo Car
ซึ่ง ขนาดตัวรถ มันก็จะใหญ่ กว่า รถ ECO Car A-Segment ไปอยู่แล้ว
แล้วยิ่งคราวนี้ มีความเป็นไปได้สูงมากว่า Suzuki อาจเอา Swift ใหม่ มาทำ ECO Car
ซึ่งถ้าเป็นไปตามนี้จริง Honda เหนื่อยแน่ๆ
ข่าวร้ายก็คือ ทั้ง 3 โครงการนี้ ดันเข้าสู่่ช่วงเวลาที่ไม่อาจปรับเปลี่ยนอะไรกับตัวรถได้แล้วด้วยเนี่ยสิ
เพราะใกล้จะออกขาย กันเต็มแก่แล้ว
ดังนั้น เหลือแต่ Mitsubishi กับ Toyota รายหลัง หนะ ไม่น่าห่วง แต่ Mitsubishi ก็เพิ่งปรกาศไปแล้ว
ว่าจะทำ Global Small Car ที่เมืองไทย ตั้งโรงงานใหม่กันอยู่ด้วย
คราวนี้ สำหรับ มิตซูบิชิ ขอแผนการตลาดที่เจ๋งกว่า ทุกคันที่เจอมา อย่าให้พลาดอีก
โอกาสแก้ตัว เหลือน้อยเต็มทีแล้วนะ
-
เอา สวิฟท์ใหม่มาทำอีโคคาร์ ถ้าทำแบบนั้นจริงๆ จะจำแนกตลาดยากน่ะเนี่ย
เพราะจะมีปัญหากับกลุ่มลูกค้าเก่า และยังต้องหากลุ่มลูกค้าใหม่อีก
-
เอา สวิฟท์ใหม่มาทำอีโคคาร์ ถ้าทำแบบนั้นจริงๆ จะจำแนกตลาดยากน่ะเนี่ย
เพราะจะมีปัญหากับกลุ่มลูกค้าเก่า และยังต้องหากลุ่มลูกค้าใหม่อีก
คงมีแค่กลุ่มเก่าที่กลุ้ม แต่ของใหม่ บ.แม่คงต้องปรับตัวรถหน่อยถ้าจะเอา B-sec 1.5มาขาย อาจจะต้องจับยัดชุดR ใส่ SPCharge มา หรืออะไรก็ได้ที่สร้างจุดต่างได้
แต่นั้น ผมว่า Swift คงไปได้รุ่งกว่านี้ อีกอย่างของศูนย์บริการเยอะๆหน่อยเน้อ (เพื่อจะซื้อมาใช้เอง)
-
ที่บอกอย่างนั้น เพราะลูกค้าเดิมที่ใช้สวิฟท์อยู่ เป็นลูกค้าที่ไม่สนใจในแบรนด์ แต่สนใจในคุณภาพของรถ และรูปลักษณ์ของรถมากกว่า ซึ่งเท่ากับลูกค้ากลุ่มนี้คือฐานเป้าหมายในการขยายตลาดต่อไป
ถ้ามีอะไรไปกระทบกับลูกค้ากลุ่มนี้ อาจเสียหายกับฐานลูกค้าเดิม และต้องมาสร้างภาพเพื่อขายลูกค้าใหม่ ผมว่ามันยาก ถ้ามองในแง่การตลาด
เพราะฉะนั้น สิ่งที่เป็นไปได้ อีโคคาร์ไม่ควรเป็นสวิฟท์ใหม่ แต่เป็นรุ่นอื่น และนำสวิฟท์ใหม่เข้ามาเพื่อขยายตลาดในส่วนบีเซ็กเม้นท์ เพราะเห็นว่าจะมี เอสเอ็กซ์ 4 มาทำตลาด อันนั้นจะได้กลายเป็น ซีเซ็กเม้นท์ ที่นี้ผลิตภัณฑ์จะได้ครบวงจรมากขึ้นครบ
แต่ถ้าเอาสวิฟท์ใหม่มาเป็น อีโคคาร์จริงๆ จะกระทบฐานลูกค้าเดิม อย่างจัง และเกิดความไม่เชื่อมั่นขึ้นมา ที่นี้เรื่องใหญ่แล้วล่ะ ต้องรอดูว่าจะกล้าเสี่ยงหรือเปล่า
-
ผมคิดว่าสิ่งที่ชัดเจนที่สุดก็คือ เมื่อ Honda ถึงเวลาเปิดตัว Eco car ของตัวเองในเดือนมีนาคมปีหน้า (คิดว่านะ)
ด้วยฐานราคาที่แพงกว่า March ซึ่งชาวประชาต่างรู้ราคาเป็นอย่างดีว่าเิริ่มต้นอยู่ที่ 375,000 บาท (น่าจะจำตัวเลขราคา
นี้ได้ดีกว่าของรุ่นอื่นๆ ทั่วๆ ไป Vios ผมยังจำไม่ได้เลยว่าราคาเริ่มต้นเท่าไหร่)
Honda จะโปรโมทเป็นรถ Eco car คันที่สองในท้องตลาด "จะไหวมั๊ย !?" โดยเฉพาะเรื่องที่คนทั่วๆ ไป
ฝังหัว (แบบผิดๆ) ไปแล้วว่า Eco car ต้องราคาถูก ไอเรื่องที่คนจาก Honda หรือ Nissan ที่เคยมาให้ข่าวปาวๆ
ว่า Eco car ไม่ใช่รถถูก เพราะต้องมีเทคโนโลยี่ที่สูง เหล่านั้นมันไม่ได้ทำให้ความคิดของคนทั่วไปเปลี่ยนไปซักนิด
ส่วนตัวผมคิดว่า
กรณีที่ 1
-ถ้า Honda ขาย Eco car โดยโปรโมท ความเป็น Eco car แต่ราคาสูงกว่า March มาก Honda จะลำบาก
กรณีที่ 2
-ถ้า Honda ขาย Eco car ในฐานะ รถ A-segment คันหนึ่ง ที่ทันสมัย ประหยัดน้ำมัน จากอนุกรมค่าย Honda มันน่าจะพอไปได้
เพราะ จะสามารถหลีกเลี่ยงการปะทะด้านราคากับ March ได้ระดับนึง
และพอมองไปถึงชั้นที่สอง
-ถ้ากรณีแรก Honda ขาย Eco car และยืนยันโปรโมทในฐานะ Eco car สู้กับ March ถัดมา Honda
ต้องสู้กับ Nissan ด้วยการตลาดแบบที่ดีอย่างไม่มีที่ติ แบบไม่เคยมีมาก่อน option มาแบบครบครันตั้งแต่รุ่นล่างๆ หน่อย
-ถ้าเป็นกรณีที่สอง โปรโมทการขายแบบรถ A-segment ที่ออกแบบอย่างโดดเด่นของค่าย Honda สามารถ
ทำตลาดแบบเดิมๆ แบบที่ตัวเองทำกันอยู่ปัจจุบัน ยอดขายก็พุ่งๆๆ แล้ว แค่ราคาอย่าให้ไปทับ Jazz/ City มากนัก
ก็พอ
และกรณีที่ 3 ทุกอย่างอาจจะไม่ใช่อย่างที่เราๆ กลัวแทน Honda หาก Honda ทำรถ A-segment คันนี้
ออกมาได้สมบูรณ์แบบ ไร้ที่ิติ ซึ่งแบบที่ March เป็นอยู่ปัจจุบัน มันก็ยังมีข้อติอยู่หลายๆ ประการ เพราะ
สิ่งบางอย่างถูกตัดออกไปอย่างน่าเสียดาย แต่ถ้า Honda มาแบบว่า ทุกอย่างทำได้สุดจริงๆ สำหรับรถ
ึคันเล็กคันนี้ ไม่ว่าจะ การออกแบบ การขับขี่ สมรรถนะ และสไตล์ ที่ดูไม่ใช่รถถูก หรือดูไม่ใช่รถที่ลดต้นทุนเลย
ผมว่า ยอดขาย ก็น่าจะกระฉูด ถึงแม้ว่า Honda จะโปรโมทมันเป็น Eco car ชนกับ March ตรงๆ ก็ตาม
แต่งานนี้ ยอดขาย อาจจะได้เต็มๆ ในเมือง จากเด็กวัยรุ่นหนุ่มสาวที่รักรถ Honda ส่วนในต่างจังหวัด
คาดว่ายังไง Nissan ก็สามารถรักษาฐานลูกค้า่ Eco car ของตัวเองที่สร้างไว้ตลอด 1 ปีที่ผ่านมาได้
หากรุ่นใหม่ไม่สามารถทำออกมาได้ถูกกว่าMarch ก็คงจะตีตลาดต่างจังหวัดได้ยากมากๆ
-
4P: Product, Price, Place, Promotion
จะตกม้าตายก็ตรง Price เนี่ยแหละ :-\
-
ต้องดูกันก่อนว่าฮอนด้สให้อะไรบ้าง เช่น รุ่นเกียร์ออโต้ถูกสุดแพงกว่า มีนา สัก 1หมื่น แต่มี ABS ถุงลมคู่ อะไรประมาณนี้ให้ก็น่าสนครับ
ปล. ขอให้ ซูซูกิเอา swift มาเป็น eco car และ มิตซูบิชิขายราคาถูกที่สุดในตลาด(จะได้ซื้อสักทีเรา)
-
ถ้าฮอนด้าใส่ทุกอย่างมาครบในราคาเหมาะสม คือแพงกว่ามาร์ชไม่มาก
จะเกิดปรากฏการณ์ ไมเนอร์เชนท์ มาร์ช แบบใส่ออฟชั่นเพิ่ม ราคาเดิม หรือเปล่า เพื่อแข่งขันกันในตลาด และทางฮอนด้า ก็อาจเสียเปรียบด้านราคาทันที
เพราะอีโค คาร์ ในความหมายของผู้บริโภคทุกวันนี้ คือ อีโคโนมี คาร์ หรือ รถราคาประหยัด ไม่ได้หมายถึงเพื่อสิ่งแวดล้อมแต่อย่างใด
-
Eco Car กลายเป็นการแข่งขันกันทางด้านราคาซะและ หุหุ :D
-
ทำไม เอเยนซี่ จะรู้ไม่ได้ว่า ราคาจะแพงกว่า March
คนทำงานโฆษณา เค้าอาจจะไม่รู้เรื่องเทคนิคลึกๆ อะไรเลย
แต่ข้อมูลแวดล้อม ของความเป็นรถรุ่นนั้น เค้าต้องรู้หมดครับ
ไม่งั้นก็ตีโจทย์ที่เจ้าของผลิตภัณฑ์ตั้งมาให้ ไม่แตกสิ
เค้าอาจยังไม่รู้ราคาขายที่แน่ชัด แต่ช่วง/ย่านไหน เค้าน่าจะมีข้อมูลครับ
-
http://www.headlightmag.com/webboard/index.php?topic=6425.0
ตามนี้ เพราะพี่เค้าคอนเฟิร์มมาแล้วว่า ออกมาแน่นอนประมาณต้นปีหน้า
-
แพงกว่า ก็ไม่จำเป็นว่า ต้องแพงกว่ามาก นิครับ
ภาพลักษณ์ Honda ในไทย ย้ำนะครับว่าในไทย ไมใ่ช่ระดับโลก
Honda ยังมีภาพที่เป็นต่ออยู่ แพงกว่าระดับนึงคงไม่มีปัญหา
-
" สุดท้าย Honda ก็ทิ้งท้ายไว้ใน Press Release ส่วนที่เป็นกิจการรถยนต์ยืนยันว่ารถยนต์ขนาดเล็กระดับ A-segment ที่พัฒนาขึ้นบนพื้นฐาน Honda New Small Concept จะมีราคาเริ่มต้นต่ำกว่า 5 แสนรูปีย์หรือราว 5 แสนบาท
และรถยนต์คันนี้ก็จะถูกเปิดตัวในไทยในฐานะอีโคคาร์ภายในปี 2011 และจะส่งออกทำตลาดในกลุ่มประเทศอาเซียน "
เขียนมาแบบนี้ ยังไงๆ ก็ไม่ต่ำกว่า 4 แสนแหงๆ ล่ะ อาจเริ่มที่ 4 แสนกลางๆ 4.3 แสนขึ้นไป
-
" สุดท้าย Honda ก็ทิ้งท้ายไว้ใน Press Release ส่วนที่เป็นกิจการรถยนต์ยืนยันว่ารถยนต์ขนาดเล็กระดับ A-segment ที่พัฒนาขึ้นบนพื้นฐาน Honda New Small Concept จะมีราคาเริ่มต้นต่ำกว่า 5 แสนรูปีย์หรือราว 5 แสนบาท
และรถยนต์คันนี้ก็จะถูกเปิดตัวในไทยในฐานะอีโคคาร์ภายในปี 2011 และจะส่งออกทำตลาดในกลุ่มประเทศอาเซียน "
เขียนมาแบบนี้ ยังไงๆ ก็ไม่ต่ำกว่า 4 แสนแหงๆ ล่ะ อาจเริ่มที่ 4 แสนกลางๆ 4.3 แสนขึ้นไป
ไปแก้ไขเพิ่มเติมแล้วครับ ราคาไม่ถึง 5 แสนรูปีย์ นี่หมายถึงอินเดียครับ วิธีแปลงค่าเงินง่าย ๆ คือแปลงรูปีย์เป็นบาท แต่ค่าเงินอินเดียจะอ่อนกว่าไทยเล็กน้อย
Honda เองก็ยืนยันว่ารถคันนี้ไม่ได้ลดต้นทุนมโหฬารอะไรมาก แล้วเขาเองก็ไม่เน้นตลาดรถต้นทุนต่ำครับ
-
ลองมีใครเก่งๆ มาเรียงตารางราคา Honda ดูกันเล่นๆ ดีกว่า หุหุหุ ไล่จาก D car, C car, B car,... จนถึง A car น้องใหม่ล่าสุดคันนี้