Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: sukhontha ที่ กันยายน 12, 2018, 10:28:28

หัวข้อ: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: sukhontha ที่ กันยายน 12, 2018, 10:28:28
 

   ผมและครอบครัว ฐานะปานกลางค่อนข้างต่ำ  รายได้จริง ๆ ต่อเดือน ใกล้ ๆแสน แค่นั้น เงินเก็บมีแค่หลักแสน

ต้น ๆ  ผมมีความสุขกับการใช้เงิน  และไม่ค่อยสนใจการเก็บออม

   เมื่อก่อน   รถยนต์  ต้องออกป้ายแดง  เงินไม่พอผ่อนเอา  5-8 ปี  ขายทิ้ง  แล้วออกใหม่    ไม่เคยมีรถสำรอง

   จนปี 52 ไม่ต้องผ่อนรถและแฟนให้ซื้อรถมือสองมาลอง  และได้รถมือสองคันแรก...จากนี้ความคิดของผม

เปลี่ยนไป  รถป้ายแดงคันสุดท้าย ไม่ขายแล้ว  เอาไว้เป็นรถสำรอง  แล้วใช้รถมือสองเป็นหลัก  กะว่า มือสองเสีย

ก็ใช้คันป้ายแดง..  ทำไปทำมา  ผมซื้อรถมือสอง ทั้งหมด 8 คัน  ยังเหลืออยู่  3 คัน  ที่เหลือขายออกไป  รวม ๆ

 ขาดทุนไม่เกินสองแสน... 

   สิ่งที่พบเจอ  ครอบครัวเริ่มมีเงินเก็บ  แฟนผมเก็บเงินเก่งอยู่แล้ว  พอไม่มีหนี้สิน  เขาเก็บเงินได้ปีละหกหลัก

ใกล้ ๆ เจ็ดหลัก...  ผมมีความสุขกับการไม่เป็นหนี้  และใช้รถเก่า ๆ  แฟนผม มีความสุขในการเก็บเงิน..  ในแต่ละ

ปี  สิ้นปี  เขาจะถาม ปีนี้อยากได้อะไรไหม?  ถ้าบอกว่าไม่  เงินเก็บก็จะเข้าแช่แข็ง...ตอนนี้กำลังจะเข้าปีที่ 10...

ถ้าผมจะซื้อผมสามารถซื้อรถในฝัน(มัสแตง)ด้วยเงินสดได้แล้ว  ...แต่  ผมก็ปล่อยให้มันเป็นความฝันอยู่อย่างนั้น

   ความเป็นจริง  ผมยังใช้รถมือสองคันละสองแสนอยู่ดี  สิบปีที่ผ่านมา  ทำให้ผมกลายเป็นคนงก  ...ขี้เหนียว....

ยิ่งกว่าแฟนแล้วซิครับ

  มือถือผมหรือ ไอโฟนไหม?    หรือแบรนด์อื่นใช้รุ่นเรือธงหรือเปล่า  ไม่ครับ  ผมรอซื้อรุ่นที่ต้องการหลังจากมัน

ตกรุ่นแล้วโน่นเครื่องปัจจุบัน  ยังใช้ เคซูมอยู่เลย  (อย่าหัวเราะเยาะผมเลย)   ตอนนี้  กำลังมอง a6+  แต่ราคา

ยังสูงอยู่...

    อยากรู้ท่านอื่นเมื่อมองย้อนหลังไปจุดยืนแต่ละเรื่องเปลี่ยนไปไหม?  แต่ผมเปลี่ยนไปเยอะมาก  อาจจะเป็น

เพราะความกลัว   เงินหายากขึ้นทุกวัน..


  สุดท้ายเจ้า คันนี้ใช้มาเข้าปีที่ 6  ไมล์ไปแสนเจ็ด ก็ยังสวยดีอยู่  ใครจะลอกเลียนแบบไม่ว่ามีความสุขครับ
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: Tien.W ที่ กันยายน 12, 2018, 10:53:27
แหม รายได้ต่อเดือนใกล้ๆแสน นี่ ไม่น้อยนะครับ

SAAB นี่ รถในฝันของผมเหมือนกัน อยากได้ อยากเอามาซน เหมือนกัน แต่นั่นแหละ ไม่มีที่จอด และกลัวไม่มีเวลาดูแลเค้า

.............

จุดยืนของแต่ละคนต่างไปครับ

ผมชอบใช้ของใหม่ ของตัวบนๆ ตัว Top แต่ผมใช้ยาวนะ ใช้จนพังไปข้างนึง แล้วถึงเปลี่ยนน่ะครับ

อย่าง มือถือ ผมใช้ flagship ของค่ายมาตลอด เพราะ ด้วยงานที่ผมใช้ ต้องลง app บริษัท หลายตัว ที่ต้องใช้ performance เครื่องเต็มๆ ซึ่งมันก็มีความสุขที่ได้ใช้มัน (เคยลองใช้ เครื่องละ 5 พัน ด้วยเหตุผลว่า เครื่องบริษัทเอาอะไรมาก ผลคือ 7 วันครับ ขายทิ้ง ทำงานไม่ได้เลย) มือถือผมก็ 3 - 4 ปี เปลี่ยนที เปลี่ยนเมื่อแบตเสื่อม เริ่มช้า เริ่มอืด น่ะครับ

หรือ อย่างอื่น เช่น เครื่องเสียงบ้าน ชุดลำโพง Hometheater ที่ใช้อยู่นี่ ตอนนั้นราคา 6 หลัก แต่ก็ใช้มาสิบกว่าปีนะ ไม่พัง ไม่เสีย ก็ไม่เปลี่ยน อุปกรณ์เครื่องเสียงแต่ละตัว ฟังราคาแล้วก็สะดุ้ง แต่ก็ใช้ยาวครับ มีแอมป์ตัวเดียวที่ซื้อมือสอง แต่เป็นมือสองอายุปีเดียว ราคามือสอง หกหลัก น่ะครับ

รถยนต์ก็เช่นกัน ซื้อป้ายแดงมา ถ้าถูกใจ พอใจ ผมก็ใช้ยาว อย่าง CRV ก็ 7 ปีละ หรือ pulsar ไปได้รถค้างสต็อค ส่วนลด 3 แสนมา ผมก็ว่าคุ้ม เพราะราคาเหลือพอๆ eco car ตัว top เอง

..............
สิ่งที่ผมเปลี่ยน ตอนอายุเริ่มเยอะขึ้น ก็คงเป็นมุมมองเรื่องการเก็บเงินนี่แหละ

แต่ก่อนผมเก็บเงินเก่งนะ อยากได้อะไร ผมเก็บอย่างเดียว ไม่ใช้ ไม่เที่ยว ไม่อะไรเลย แต่พอจะซื้อ ก็จัดหนัก จัดเต็มกันไป เงินออมเลยขึ้นๆลงๆ

พออายุเยอะขึ้น เริ่มเห็นคนเกษียณอายุ บางคนก็ไปได้ดี บางคนก็ไม่เหลืออะไร ก็เลยเริ่มคิด เริ่มวางแผนทางการเงินละ ด้วยอายุงานที่เหลือเกือบ 20 ปี เกษียณแล้ว อยากนั่งๆ นอนๆ มีเงินใช้ ขับรถเที่ยว เดือนละเท่าไหร่ แล้วต้องเก็บให้ได้ปีเท่าไหร่ เพื่อให้มีเงินใช้ตอนเกษียณไปอีกสัก 20 ปี อะไรประมาณนี้แหละ
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: Fong ที่ กันยายน 12, 2018, 11:18:53
น่าอิจฉาครับ ได้เล่นรถ เปลี่ยนรถ ได้ซ่อม ไม่แกะ ได้เกา น่าจะมีความสุขครับ

ผมก็อยากทำแบบนั้น เพราะจะมีความสุขเมื่อได้แก้ไขอะไรได้ด้วยตัวเอง

แต่หน้าที่ที่ต้องทำ ทำให้ไม่มีเวลาที่จะทำได้ตามที่คิด ก็ต้องใช้รถเล็กป้านแดงต่อไป เพราะจะได้ไม่ต้องซ่อม

ยินดีด้วยครับ ชีวิตเป็นสุขและมีเงินเก็บ  :) :) :) :)
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: zuneo ที่ กันยายน 12, 2018, 11:24:06
ยินดีด้วยครับ  ค้นพบความสุขในแบบที่ตัวเองมีความสุขจริงๆ
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: bankiesdluffy ที่ กันยายน 12, 2018, 11:26:21
การไม่ต้องผ่อนอะไร นี่มันรู้สึกสบายใจจริงๆนะครับ

ตอนนี้ผมก็ใช้ชีวิตอยู่บนความเสี่ยงพอสมควร
ย่ามใจว่า 30 ต้นๆ ไม่มีครอบครัว ไม่มีภาระต้องเลี้ยงดูพ่อแม่
ก่อนหน้านี้ ผมใช้รถคันดียวลุยไปทุกที่มาตลอด 13 ปี
เพิ่งซื้อรถยุโรปมือสองมาใช้ ในราคาที่ยังต้องผ่อนต่ออีกปีนึง ส่วนรถคันเดิมก็เก็บไว้สำรอง
ก่อนซื้อคันนี้ก็อยากได้มาก
พอได้มาใช้ก็รู้สึกว่า เออ มันก็ดีนะ แต่ก็เสียดายเงินปนๆกันไป
เงินก้อนเดียวกันนี่ เอาไปทำอะไรได้หลายอย่าง
ตอนนี้ก็ผ่อนไปแบบ เงินเก็บไม่ได้เหลือมากมายเท่าไหร่นัก
แต่กลั้นใจเอา แค่ปีเดียว เดี๋ยวก็ครบแล้ว
จากเดิมที่กินใช้ไม่ต้องคิดอะไรมาก
ก็ต้องหันมาบันทึกรายจ่ายตัวเอง เข้าห้างกินหรูน้อยลง

สิ้นปีนี้ ผมก็จะผ่อนหมดแล้ว จะได้รู้สึกเป็นไทเสียที
คันนี้กะว่าจะใช้ยาวๆ อาจจะแบ่งเงินไว้ทำนู่นทำนี่กับรถบ้าง นอกเหนือจากดูแลรักษาทั่วไป

ผมคงหายซ่าไปพักใหญ่ๆ ในการที่คิดจะผ่อนอะไรแพงๆ
อย่างน้อยถ้าจะผ่อนอะไร ต้องมั่นใจว่ามีเงินสดมากกว่าก้อนที่ต้องผ่อนสัก 4-5 เท่า
ส่วนเรื่องการซื้อรถมือสอง รถมือสองคันที่ซื้อมานี่ ก็รู้สึกมีประสบการณ์ไม่ดีเท่าไหร่
ซื้อรถบ้าน แต่เจ้าของไม่ค่อยจริงใจ บอกไม่หมด
ตัวเองก็ดูรถไม่ค่อยเป็น ไม่ละเอียดพอ
พอมาอยู่กับเรา ก็มาเจอตำหนิตรงนู้นตรงนี้ที่เจ้าของเดิมใช้งานแบบไม่ค่อยดูแล ต้องมาตามเก็บให้รำคาญใจ
ถ้าจะซื้อมือสองคันถัดไป อย่างน้อยตอนนี้ก็พอจะมีประสบการณ์เพิ่มเติมในการดูรถ แต่ซื้อจากคนรู้จักที่สนิทกัน รู้ประวัติ น่าจะดีสุด
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: NoName__??? ที่ กันยายน 12, 2018, 11:50:28
รายได้ใกล้แสน ถือว่าปานกลางค่อนข้างต่ำ แล้วถ้ารายได้ 2-3หมื่นนี่จะขนาดไหนนี่  ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: mongolias ที่ กันยายน 12, 2018, 11:59:16
ผมก็เปลี่ยนไปเมื่อมีลูกครับ

ก่อนหน้านี้ ไม่เคยคิดว่าจะซื้อรถเกิน B-Segment เลย ด้วยว่ามันก็ไปถึงจุดหมายได้เหมือนกัน เมื่อก่อนคิดว่าผมซื้อรถเล็ก 2 คัน ใช้คนละคันกับแฟนก็พอละ
พอมีลูก เริ่มมองถึงความปลอดภัยมากขึ้น ต้องขนของมากขึ้น ปลายปีที่แล้วเลยตัดสินใจเปลี่ยนรถใหม่ หลังจากคันเก่าใช้มา 11 ปี เริ่มต้องซ่อม ด้วยภาระงานประจำ ทำให้ต้องลางานไปซ่อมรถหลายรอบ เลยตัดสินใจเปลี่ยนดีกว่า

ตอนแรกกะว่าอยากจะได้รถราคาไม่เกิน 7 แสน แต่มันก็หาตรงสเปคยากเหลือเกิน สุดท้ายก็ได้ออกรถราคาเกินล้านคันแรกในบ้านจนได้ เริ่มเข้าสู่วังวนมนุษย์เงินผ่อนอีกรอบ เฮ้อ แค่คิดก็เหนื่อย เหลืออีกร่วม 50 งวด 5555

ผมมองว่าชีวิตมันมีความเสี่ยงเยอะ ยิ่งผมใช้รถวันละเกือบ 100 ก.ม. เวลาไปเที่ยวก็ไปทีละหลายร้อยก.ม. หรือบางทริปไป-กลับ ร่วม 2,000 ก.ม. เลยตัดสินใจเลือกรถที่ให้ความปลอดภัยกับครอบครัวและความสบายมากขึ้นครับ ถือเป็นรางวัลชีวิตด้วย ก็คงใช้ยาวเป็น 10 ปีแหละครับ

ตัวผม บอกตรงๆ ไม่มีเงินเก็บเลยครับ เพราะให้ภรรยาจัดการหมด เงินมีเท่าไหร่ตอนนี้ผมก็ไม่รู้หรอก ครอบครัวผมมีลงทุนซื้อที่ดินเก็บไว้ 3 แปลงไว้เมื่อ 2 ปีก่อน ตอนนี้ก็พยายามมองว่าจะหาอะไรทำเพิ่มเติม กรณีไม่อยากทำงานประจำกันแล้ว แต่ก็ยังไม่รู้จะทำอะไร ที่ให้ผลตอบแทนใกล้กับเงินเดือน เลยต้องทำงานประจำกันต่อไปก่อน

ตอนนี้เริ่มใช้จ่ายเงินประหยัดขึ้น เพราะต้องเตรียมไว้สำหรับเจ้าตัวน้อย ครอบครัวผมถือคติจ่ายให้ลูกก่อน พ่อแม่ว่ากันทีหลัง 5555
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: El Hombre ที่ กันยายน 12, 2018, 12:04:59
ที่บ้านผมเดิมทีก็เล่นรถยุโรปมาตลอดนะครับ
มาตอนนี้ฐานะดีขึ้นหลายสิบเท่าแต่กลายเป็นว่าขับรถญี่ปุ่นธรรมดาๆกันทั้งบ้าน แพงสุดคือ Alphard
แต่เวลาซื้อคือแบบสั่งกับข้าวไลน์แมน คือคุณพ่อเห็นโฆษณานึกอยากได้ปุ๊บ ถามที่บ้านเอามั้ยแล้วโทรหาเจ้าของศูนย์ให้เอารถมาส่ง
จะตัวทอปตัวรองก็ตัดสินใจตอนโทรสั่ง ส่วนสีรถมาลุ้นว่าได้สีอะไรเอาตอนเอารถมาส่ง เรื่องเอกสารเรื่องอะไรให้คุยกับเลขากับการเงิน
มาล่าสุดเกือบจะสอยรถราคา 4ล้านกว่า แต่ทำไปทำมาใช้งบเท่ากันเอาเงินไปเปลี่ยนกระบะบริษัทแล้วซื้อเก๋งญี่ปุ่นให้ตัวเองอีกคัน

ประเด็นคือเคสพ่อผมคือสร้างตัวด้วยตัวเอง มาตอนนี้เห็นคุณค่าของเงิน พอมีก็เอาไปลงทุนต่อดีกว่าซื้อรถแพงๆ
ไม่มีผิดถูกหรอกครับ ถ้าไม่ได้ใช้เงินเกินตัว สุดท้ายแล้วรถมันก็แค่ยานพาหนะ แต่จะใช้แบบไหนก็แล้วแต่ความต้องการ
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: diamond4me ที่ กันยายน 12, 2018, 12:07:25
ถ้าเงินหาง่ายขึ้น(เช่น ถูกลอตเตอรี่)  ...จุดยืนก็คงเปลี่ยนอีก   จุดยืนมันเปลี่ยนได้เสมอตามเงิน+อารมณ์ครับ
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: raygun ที่ กันยายน 12, 2018, 12:11:21
.
.
ผมคิดต่างออกไปครับ
สำหรับผมชีวิตกับการเก็บออมต้องไปด้วยกัน มีเงินต้องใช้บ้าง
เกิดเป็นอะไรไปมีเงินเก็บไว้ก็เท่านั้น มีคนเคยกล่าวไว้ว่า
เป็นคนรวยทำตัวเหมือนคนจน จะรวยทำไม ซึ่งผมเห็นด้วย
เราต้องบาลานซ์ดีๆ

อย่างผมชอบรถ เวลาผมซื้อรถ ผมไม่เคยมองความคุ้มค่าใดๆ
มองเป็นความสุขทางใจล้วนๆ บางคนอาจจะชอบไปเที่ยว
กินของแพงๆ แต่ผมชอบรถ เวลาขับไปทำงานก็มีความสุข
เป็นความสุขเล็กๆน้อยๆระหว่างวัน เช้า-เย็น

เงินเก็บ / เงินลงทุน ผมกันไว้เลย 40% ของรายได้
ไม่มากกว่านั้น ที่เหลือใช้เกลี้ยงครับ


หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: NINENOI ที่ กันยายน 12, 2018, 12:31:51
รายได้ใกล้แสน ถือว่าปานกลางค่อนข้างต่ำ แล้วถ้ารายได้ 2-3หมื่นนี่จะขนาดไหนนี่  ;D ;D ;D


ของผมรายได้ครัวเรื่อนครึ่งแสนเรียกว่าไงดีน้อ ต่ำปานกลางละกัน  :) :) :) ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: raygun ที่ กันยายน 12, 2018, 12:35:13
รายได้ใกล้แสน ถือว่าปานกลางค่อนข้างต่ำ แล้วถ้ารายได้ 2-3หมื่นนี่จะขนาดไหนนี่  ;D ;D ;D

ผมงงตรงนี้มากกว่า รายได้ต่อเดือนใกล้แสน แต่มีเงินเก็บต่อปี เกือบล้าน
แสดงว่าหามาไม่ใช้เลยหรอครับ
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: Arado_kung ที่ กันยายน 12, 2018, 13:24:03
ผมมีรถหลายคันนะ อย่างรถใช้งานทั่วไปนี่อายุปาเข้าไปสิบกว่าปีแล้ว แต่รถเอาไว้เดินทางจะซื้อป้ายแดงผ่อน 4-5 ปี ขายตอน 8-10 ปี ถามว่าคุ้มมั้ยก็คงคุ้มเพราะพึ่งรอดตายจากอุบัติเหตุมา ถ้าเป็นรถรุ่นเก่าผมอาจจะไม่รอดมาตอบกระทู้นี้แล้ว เงินเก็บไม่ค่อยมีครับ เพราะพอมีเงินเอาไปลงอสังหาหรืออย่างอื่นมากกว่า 555 เอาจริงๆก็แล้วแต่ความชอบความถนัดแต่ละคนล่ะครับ
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: bluecef169 ที่ กันยายน 12, 2018, 13:27:13
ผมกับแฟนรายได้รวมกันก็ไม่ถึงแสนครับ เงินเก็บก็แสนต้นๆเหมือนกัน แต่ไม่สามารถออกรถใหม่ได้อีก เพราะมีภาระต้องผ่อนบ้าน(ยันเกษียร)+ค่าเลี้ยงดูลูกน้อย
ใจที่อยากเปลี่ยนรถ เพราะคันเดิมเข้าปีที่7แล้วและคันเล็กเวลาไปไหนมาไหนทั้งบ้าน ขนของกันทีเต็มคันรถ(ของเจ้าตัวน้อยทั้งนั้น) เลยอยากเปลี่ยนเป็นคันใหญ่ขึ้นและเพื่อความปลอดภัยด้วย แต่แฟนไม่อนุมัติและไม่ชอบเป็นหนี้ เธอคงกะเก็บเงินซื้อสดเลย ตัวผมเองแค่เอาเงินเดือนมาผ่อนบ้าน ก็แทบไม่เหลือให้เก็บละครับ ต้องใช้ของแฟนเก็บเอาและให้ตัวเล็กด้วย ส่วนเรื่องรถมือสอง ก่อนนี้ก็เคยใช้นะ แต่พอเริ่มต้องซ่อมบ่อยๆเข้า ผมก็มองว่ามันยุ่ง+เยอะ มากกว่าซื้อรถป้ายแดง เลยอยากมองที่รถป้ายแดงอย่างเดียวสำหรับคันใหม่และใช้ไปยาวๆเช่นกันครับ
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: palma ที่ กันยายน 12, 2018, 13:31:14
จุดยืนเดิมตลอดครับ เก็บก่อนใช้ ใช้เท่าที่มี

ออมก่อนใช้ บ้าน/คอนโด ต้องมาก่อนรถ รถเอาเท่าที่ใช้

มีครบๆ พอแล้ว(รวมออมสำหรับเกษียณ) ก็ซื้อเท่าที่ใช้ ที่ชอบ ไม่ผ่อน เพิ่มจำนวนคัน

มีสองคัน ดีกว่าคันเดียว มีสำรองใช้ แบ่งประเภทรถที่ใช้ได้
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: HHHsung ที่ กันยายน 12, 2018, 13:32:35
บุญ กรรม คนเราต่างกัน ถ้าผมไม่มีหนี้ ผมก็น่าจะสุขสบายไม่ต่างจาก จขกท. พ่อแม่ผม ไม่มีสมบัติให้ แต่ก็ไม่ได้เสียใจ สร้างด้วยตัวเองก็ได้

ตอนนี้มีหนี้ต้องผ่อนบ้าน  2 หลัง รถ 1 คัน กองทุนที่ทำงาน เหลือเงินเดิอนๆ นึงไม่เท่าไหร่ แต่ไม่คิดมากยังงัยสุดท้ายก็มีมูลค่า เป้นทรัพย์สิน

การซื้อรถ แต่ละคนมีแนวคิดที่แตกต่างกัน ความรู้ต่างกัน โอกาสก็ต่างกัน อย่าเอามาเปรียบเทียบว่าทำไมไม่ทำเหมือนกัน เพราะมันไม่มีทางเหมือน

ที่เล่ามาก็ดูภูมิใจ อยากอวดให้รู้กัน ไม่แปลกใจ นิสัยคนไทยทั่วไป บางคนมีความสุขจากการเก็บเงิน บางคนมีความสุขจากการใช้เงิน

พ่อท่าน สอนเราเรื่องทางสายกลาง และ การใช้ชีวิตแบบพอเพียง ใช้ให้สมฐานะ สุขภาพสำคัญกว่าเงินครับ ดูจาก สติฟ จ็อบ รวยขนาดนั้นยังยื้อชีวิตไม่ได้
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: Symphonic ที่ กันยายน 12, 2018, 13:39:42
พี่ครับ.....

รูปกลับหัวอ่ะครับ 🙏🙏 😊😊
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: sukhontha ที่ กันยายน 12, 2018, 13:58:01
ผมงงตรงนี้มากกว่า รายได้ต่อเดือนใกล้แสน แต่มีเงินเก็บต่อปี เกือบล้าน
แสดงว่าหามาไม่ใช้เลยหรอครับ

ใช้เดือน ๆ ราว ๆ สามสี่หมื่นแค่นั้น 

ผม  ห้าพัน /เดือน -  ค่าน้ำมันรถ -ส่วนตัว

แฟน  หมื่นห้า/เดือน 

กับช้าว- ห้าพัน/เดือน

ที่เหลือ  ลูก...

เมื่อมีเงินเก็บ  ยอดเงินมันย่อมงอกขึ้นมาช่วยด้วยอีกทาง..
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: sukhontha ที่ กันยายน 12, 2018, 13:59:28
พี่ครับ.....

รูปกลับหัวอ่ะครับ 🙏🙏 😊😊

ผมก็งง  ของผม ปกติดีครับ  ไม่ได้หงายท้องนะ.
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: sukhontha ที่ กันยายน 12, 2018, 14:02:46
บุญ กรรม คนเราต่างกัน ถ้าผมไม่มีหนี้ ผมก็น่าจะสุขสบายไม่ต่างจาก จขกท. พ่อแม่ผม ไม่มีสมบัติให้ แต่ก็ไม่ได้เสียใจ สร้างด้วยตัวเองก็ได้

ตอนนี้มีหนี้ต้องผ่อนบ้าน  2 หลัง รถ 1 คัน กองทุนที่ทำงาน เหลือเงินเดิอนๆ นึงไม่เท่าไหร่ แต่ไม่คิดมากยังงัยสุดท้ายก็มีมูลค่า เป้นทรัพย์สิน

การซื้อรถ แต่ละคนมีแนวคิดที่แตกต่างกัน ความรู้ต่างกัน โอกาสก็ต่างกัน อย่าเอามาเปรียบเทียบว่าทำไมไม่ทำเหมือนกัน เพราะมันไม่มีทางเหมือน

ที่เล่ามาก็ดูภูมิใจ อยากอวดให้รู้กัน ไม่แปลกใจ นิสัยคนไทยทั่วไป บางคนมีความสุขจากการเก็บเงิน บางคนมีความสุขจากการใช้เงิน

พ่อท่าน สอนเราเรื่องทางสายกลาง และ การใช้ชีวิตแบบพอเพียง ใช้ให้สมฐานะ สุขภาพสำคัญกว่าเงินครับ ดูจาก สติฟ จ็อบ รวยขนาดนั้นยังยื้อชีวิตไม่ได้

ครับ  ต่อไป  บ้านหมด ก็จะดีขึ้นเยอะ   ส่วนทางสายกลาง  ก็คงปฎิบัติ  และต้องไม่ลืมความประมาทด้วยครับ
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: sukhontha ที่ กันยายน 12, 2018, 14:05:15
จุดยืนเดิมตลอดครับ เก็บก่อนใช้ ใช้เท่าที่มี

ออมก่อนใช้ บ้าน/คอนโด ต้องมาก่อนรถ รถเอาเท่าที่ใช้

มีครบๆ พอแล้ว(รวมออมสำหรับเกษียณ) ก็ซื้อเท่าที่ใช้ ที่ชอบ ไม่ผ่อน เพิ่มจำนวนคัน

มีสองคัน ดีกว่าคันเดียว มีสำรองใช้ แบ่งประเภทรถที่ใช้ได้

ถูกต้องครับ
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: sukhontha ที่ กันยายน 12, 2018, 14:09:01
ผมกับแฟนรายได้รวมกันก็ไม่ถึงแสนครับ เงินเก็บก็แสนต้นๆเหมือนกัน แต่ไม่สามารถออกรถใหม่ได้อีก เพราะมีภาระต้องผ่อนบ้าน(ยันเกษียร)+ค่าเลี้ยงดูลูกน้อย
ใจที่อยากเปลี่ยนรถ เพราะคันเดิมเข้าปีที่7แล้วและคันเล็กเวลาไปไหนมาไหนทั้งบ้าน ขนของกันทีเต็มคันรถ(ของเจ้าตัวน้อยทั้งนั้น) เลยอยากเปลี่ยนเป็นคันใหญ่ขึ้นและเพื่อความปลอดภัยด้วย แต่แฟนไม่อนุมัติและไม่ชอบเป็นหนี้ เธอคงกะเก็บเงินซื้อสดเลย ตัวผมเองแค่เอาเงินเดือนมาผ่อนบ้าน ก็แทบไม่เหลือให้เก็บละครับ ต้องใช้ของแฟนเก็บเอาและให้ตัวเล็กด้วย ส่วนเรื่องรถมือสอง ก่อนนี้ก็เคยใช้นะ แต่พอเริ่มต้องซ่อมบ่อยๆเข้า ผมก็มองว่ามันยุ่ง+เยอะ มากกว่าซื้อรถป้ายแดง เลยอยากมองที่รถป้ายแดงอย่างเดียวสำหรับคันใหม่และใช้ไปยาวๆเช่นกันครับ

   ค่อย ๆ เก็บไปครับ  ผมกว่าจะมายืนตรงนี้  เพราะแฟนผมเก่ง  ดึงผมเข้ามาอยู่ในกรอบได้ 
ส่วนใช้รถเก่า ใหม่  ไม่ใช่ประเด็น  ประเด็น  คือถ้าเราไม่เป็นหนี้  เงินเก็บเราจะเพิ่มขึ้นเร็วมาก  ..
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: boogie2020 ที่ กันยายน 12, 2018, 14:11:33
ของแบบนี้ก็แล้วแต่มุมมองอะคับ พีทำแล้ว happy ก็ทำไป  มันไม่มีถูกผิดหรอกคับ

บางคนชอบเห็นเลขเงินในบัญชี
บางคนชอบเห็นเงินในพอร์ทหุ้นโต
บางคนชอบเห็นโฉนดที่ดินเป็นปึก ๆ
บางคนชอบเห็นยอดปันผลเยอะ ๆ
บางคนชอบมีรถสะสมเยอะ ๆ
บางคนชอบมีพระสะสมเยอะ ๆ
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: sukhontha ที่ กันยายน 12, 2018, 14:12:22
รายได้ใกล้แสน ถือว่าปานกลางค่อนข้างต่ำ แล้วถ้ารายได้ 2-3หมื่นนี่จะขนาดไหนนี่  ;D ;D ;D


ของผมรายได้ครัวเรื่อนครึ่งแสนเรียกว่าไงดีน้อ ต่ำปานกลางละกัน  :) :) :) ;D ;D ;D

ผมอาจจะใช้คำผิด  แต่เห็นหลาย ๆ ท่าน(ในเวปฯ)รายได้เกินแสนกันทั้งนั้นนี่ครับ  ผมก็คิดว่า ผมค่อนข้างต่ำครับ
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: sukhontha ที่ กันยายน 12, 2018, 14:15:39
แหม รายได้ต่อเดือนใกล้ๆแสน นี่ ไม่น้อยนะครับ

SAAB นี่ รถในฝันของผมเหมือนกัน อยากได้ อยากเอามาซน เหมือนกัน แต่นั่นแหละ ไม่มีที่จอด และกลัวไม่มีเวลาดูแลเค้า

.............

จุดยืนของแต่ละคนต่างไปครับ

ผมชอบใช้ของใหม่ ของตัวบนๆ ตัว Top แต่ผมใช้ยาวนะ ใช้จนพังไปข้างนึง แล้วถึงเปลี่ยนน่ะครับ

อย่าง มือถือ ผมใช้ flagship ของค่ายมาตลอด เพราะ ด้วยงานที่ผมใช้ ต้องลง app บริษัท หลายตัว ที่ต้องใช้ performance เครื่องเต็มๆ ซึ่งมันก็มีความสุขที่ได้ใช้มัน (เคยลองใช้ เครื่องละ 5 พัน ด้วยเหตุผลว่า เครื่องบริษัทเอาอะไรมาก ผลคือ 7 วันครับ ขายทิ้ง ทำงานไม่ได้เลย) มือถือผมก็ 3 - 4 ปี เปลี่ยนที เปลี่ยนเมื่อแบตเสื่อม เริ่มช้า เริ่มอืด น่ะครับ

หรือ อย่างอื่น เช่น เครื่องเสียงบ้าน ชุดลำโพง Hometheater ที่ใช้อยู่นี่ ตอนนั้นราคา 6 หลัก แต่ก็ใช้มาสิบกว่าปีนะ ไม่พัง ไม่เสีย ก็ไม่เปลี่ยน อุปกรณ์เครื่องเสียงแต่ละตัว ฟังราคาแล้วก็สะดุ้ง แต่ก็ใช้ยาวครับ มีแอมป์ตัวเดียวที่ซื้อมือสอง แต่เป็นมือสองอายุปีเดียว ราคามือสอง หกหลัก น่ะครับ

รถยนต์ก็เช่นกัน ซื้อป้ายแดงมา ถ้าถูกใจ พอใจ ผมก็ใช้ยาว อย่าง CRV ก็ 7 ปีละ หรือ pulsar ไปได้รถค้างสต็อค ส่วนลด 3 แสนมา ผมก็ว่าคุ้ม เพราะราคาเหลือพอๆ eco car ตัว top เอง

..............
สิ่งที่ผมเปลี่ยน ตอนอายุเริ่มเยอะขึ้น ก็คงเป็นมุมมองเรื่องการเก็บเงินนี่แหละ

แต่ก่อนผมเก็บเงินเก่งนะ อยากได้อะไร ผมเก็บอย่างเดียว ไม่ใช้ ไม่เที่ยว ไม่อะไรเลย แต่พอจะซื้อ ก็จัดหนัก จัดเต็มกันไป เงินออมเลยขึ้นๆลงๆ

พออายุเยอะขึ้น เริ่มเห็นคนเกษียณอายุ บางคนก็ไปได้ดี บางคนก็ไม่เหลืออะไร ก็เลยเริ่มคิด เริ่มวางแผนทางการเงินละ ด้วยอายุงานที่เหลือเกือบ 20 ปี เกษียณแล้ว อยากนั่งๆ นอนๆ มีเงินใช้ ขับรถเที่ยว เดือนละเท่าไหร่ แล้วต้องเก็บให้ได้ปีเท่าไหร่ เพื่อให้มีเงินใช้ตอนเกษียณไปอีกสัก 20 ปี อะไรประมาณนี้แหละ

ขอบคุณท่าน "เด็ก..."  หลาย ๆ เรื่องได้มาจากท่านด้วยครับ

หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: CJ. ที่ กันยายน 12, 2018, 14:20:00
บางคนชอบเห็นเลขเงินในบัญชี
บางคนชอบเห็นโฉนดที่ดินเป็นปึก ๆ
บางคนชอบเห็นยอดปันผลเยอะ ๆ
บางคนชอบมีรถสะสมเยอะ ๆ
บางคนชอบมีพระสะสมเยอะ ๆ

ผมชอบหมดเลยครับเนี่ย ทุกวันนี้เลยหาจุดยืนไม่ค่อยได้  ::)
แต่เอาเป็นว่าอยู่สบายๆ มีเงินเก็บ ผมว่าพอเพียงสำหรับตัวผมและครอบครัวแล้วครับ
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: sukhontha ที่ กันยายน 12, 2018, 14:30:11
ของแบบนี้ก็แล้วแต่มุมมองอะคับ พีทำแล้ว happy ก็ทำไป  มันไม่มีถูกผิดหรอกคับ

บางคนชอบเห็นเลขเงินในบัญชี
บางคนชอบเห็นเงินในพอร์ทหุ้นโต
บางคนชอบเห็นโฉนดที่ดินเป็นปึก ๆ
บางคนชอบเห็นยอดปันผลเยอะ ๆ
บางคนชอบมีรถสะสมเยอะ ๆ
บางคนชอบมีพระสะสมเยอะ ๆ

อันนี้ทุกคนชอบครับ  แต่ขีดจำกัดมีครับ  ผิดพลาดก็ย่อมมี  ความเสียงก็มี 

  ยังไม่เห็นคำตอบที่ผมถาม  "ในรอบสิบปีที่ผ่านมา  ใครมีจุดยืนในเรื่องใดเปลี่ยนไปบ้าง  หรือเหมือนเดิม"  เพราะผมเปลี่ยนไปเยอะ 
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: Minister of Joy ที่ กันยายน 12, 2018, 14:42:22
คติผมอาจจะแปลกกว่าเพื่อนๆ ครับ คือ ใช้ชีวิตให้เต็มที่ อยากทำอะไร ก็ไปทำ อยากกินอะไรก็กิน ตายไป เงินก็เอาไปไม่ได้ ส่วนลูก ให้มันหาของมันเอง ผมยังทำด้วยตัวของผมเอง ทำไมมันจะต้องมีมรดกไว้อยู่อย่างเจ้าหญิง?

ผมกับแฟนชอบเดินทางครับ เปิดหูเปิดตา เกิดมาครั้งเดียว (มั้ง :)) ตายไปได้ไม่เสียดายว่าทำไมไม่ทำตามใจตัวเอง หนี้สินก็มีครับ หุ้น ทอง เงินสด ก็มี หนี้หมด เดี๋ยวมันก็มาใหม่ เงินหมด เดี๋ยวมันก็มาอีกรอบ

เงินมันก็ต้องมีบ้างครับ ถ้าอยู่ในสังคมโลกปัจจุบัน ไม่มีเงินก็ทำอะไรได้ยาก

Live life to the fullest and have no regrets...

หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: NINENOI ที่ กันยายน 12, 2018, 15:08:32
รายได้ใกล้แสน ถือว่าปานกลางค่อนข้างต่ำ แล้วถ้ารายได้ 2-3หมื่นนี่จะขนาดไหนนี่  ;D ;D ;D


ของผมรายได้ครัวเรื่อนครึ่งแสนเรียกว่าไงดีน้อ ต่ำปานกลางละกัน  :) :) :) ;D ;D ;D

แหะๆ ไม่ได้ว่าอะไรครับแซวนิดหน่อย

ตอนผมได้เงินเดื่อนๆละ 9000 ก็คิดว่าได้ 15000 แล้วจะสบาย พอ 15000 ก็คิดว่า 20000 จะสบาย พอ 20000 ก็คิดว่า 30000 จะสบาย คิดมาเรื่อยๆจนตอนนี้ 50000 ทำไมยังรู้สึกว่าลำบากอยู่เลยหว่าคงเพราะความต้องการของคนเรานั้นไม่สิ้นสุดกระมังครับ สุดท้ายผมมองแค่ว่าสิ่งที่ต้องการจริงๆคืออะไรนั่นคือครอบครัวได้อยู่ด้วยกันพ่อแม่ลูกๆ (ญาติเห็นเราลำบากก็อยากจะขอลูกผมไปเลี้ยงหลายคนละแต่ปัดไปหมดใครอยากช่วยส่งตังมาก็พอ 555) จากนั้นก็อยู่กันแบบไม่อดอยาก จากนั้นก็มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความสุข

ผมอาจจะใช้คำผิด  แต่เห็นหลาย ๆ ท่าน(ในเวปฯ)รายได้เกินแสนกันทั้งนั้นนี่ครับ  ผมก็คิดว่า ผมค่อนข้างต่ำครับ
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: Sleepy Boy ที่ กันยายน 12, 2018, 15:20:04
ยินดีด้วยครับที่หาจุดยืนเจอ ผมเองยังหาไม่เจอเลย ตอนหนุ่มอยากได้รถสปอร์ต เห็นพ่อตัวเองประหยัดไม่กล้าซื้อรถแพงๆ ไม่กล้าเที่ยวตปท.แพงๆ ทั้งที่เขาอยากได้ใจจะขาด ผลสุดท้ายตายไปแบบไม่ทันได้ใช้เงิน ตอนนี้ตัวผมเองอายุมากแล้ว ฐานะมั่นคง ชักเสียดายเงินซะงั้น เริ่มคิดเหมือนพ่อตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ ...เฮ้อ
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: boogie2020 ที่ กันยายน 12, 2018, 15:29:06
อ่อ  ถ้าแบบเปลียนไปก็คง  ผมแยกรถใช้งาน กับ boy toy ออกจากกันอย่างเด็ดขาด

สมัยก่อน  ผมจะซื้อแต่รถมือ 2  .....เน้นประสิทธิภาพ ประมาณว่าเงินเท่ากัน ซื้อทำไมป้ายแดง  ถ้าไปซื้อมือสอง ได้รถ segment สูงกว่า ดีกว่าทุกอย่าง  แต่มันก็ต้องแลกกับการดูแลรักษาที่มากขึ้น  นั่งเฝ้าบอร์ด ดูเคส ดูปัญหา ดูอู่

แต่

สมัยนี้พอมีครอบครัว มีลูก เวลาและธุรกิจเป็นเรื่องสำคัญ ....สิ่งที่ผมเน้นกลายเป็น รถต้องเป็นรถ !   เมือจะใช้ มันต้องใช้ได้  ตอนนี้กลายเป็น ผมจะต้องมีรถป้ายแดง อายุไม่เกิน 5 ปี ที่ไม่ต้องซ่อม ไม่ต้องนอนอู่เป็นรถหลักของบ้านเท่านั้น   ประสิทธิภาพเป็นเรื่องรองลงมาแทน ซื้อตามที่กำลังพอซื้อได้ และไม่ต้องซ่อมแค่นั้นเพียงพอ

รถที่ชอบ รถที่อยากได้  ก็จะกลายเป็น รถคันที่ 2 ที่ 3 ของบ้านแทน  ซึ่งจะเป็นรถมือ 2 มือ 3 อันนี้ ผมไม่แคร์  มีเงินเหลือเก็บ ก็สะสมมาซื้อ ถือว่าเป็น boy toy กันไป
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: ภูมิใจไหม? ที่ กันยายน 12, 2018, 15:40:50
สุดยอดความสุขในชีวิตนี้ คือมีความสุขความสงบอิ่มเอมในทุกนาทีครับ

ลองนึกถึงคนบ้าไม่ค่อยเต็มบาท ไม่มีอะไรติดตัวเลย แต่มีความสุขในจินตนาการของตัวเองก็ดีพอแล้ว

ไม่ดีอย่างเดียวคือเป็นภาระต่อสังคมแค่นั้นจริง ๆ ครับ 5555
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: jaesz ที่ กันยายน 12, 2018, 16:19:36
ไม่มีความรู้เรื่องรถทำแบบนี้ไม่ได้แน่ๆครับ
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: 20TRF ที่ กันยายน 12, 2018, 16:37:26
คติผมอาจจะแปลกกว่าเพื่อนๆ ครับ คือ ใช้ชีวิตให้เต็มที่ อยากทำอะไร ก็ไปทำ อยากกินอะไรก็กิน ตายไป เงินก็เอาไปไม่ได้ ส่วนลูก ให้มันหาของมันเอง ผมยังทำด้วยตัวของผมเอง ทำไมมันจะต้องมีมรดกไว้อยู่อย่างเจ้าหญิง?

ผมกับแฟนชอบเดินทางครับ เปิดหูเปิดตา เกิดมาครั้งเดียว (มั้ง :)) ตายไปได้ไม่เสียดายว่าทำไมไม่ทำตามใจตัวเอง หนี้สินก็มีครับ หุ้น ทอง เงินสด ก็มี หนี้หมด เดี๋ยวมันก็มาใหม่ เงินหมด เดี๋ยวมันก็มาอีกรอบ

เงินมันก็ต้องมีบ้างครับ ถ้าอยู่ในสังคมโลกปัจจุบัน ไม่มีเงินก็ทำอะไรได้ยาก

Live life to the fullest and have no regrets...



ผมคิดเหมือนพี่ครับ 555 พ่อผมก็คิดแบบนี้ ปู่ผมก็คิดแบบนี้ ตระกูลผมเลยไม่มีมรดก มีแต่ความรู้ในการทำมาหากิน

เรียนจบมาคือเริ่มจากศูนย์แบบมือเปล่าๆเลย พร้อมกับหนี้กยศ.ก้อนนึง 555
ปล.เป็นกระทู้ที่ดีครับ สร้างแรงบันดาลใจได้เยอะเลย ผมเป็นสาวก BM E36แบบเข้าเส้น ใช้อยู่หลายปี จนแต่งงานถึงเปลี่ยนเป็นแจ้สป้ายแดง แต่ก็ยังฝันที่จะได้ E36 คูเป้มาใช้เท่ห์ๆสักคัน ตอนที่สภาพการเงินคล่องกว่านี้สักหน่อย
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: FyGI ที่ กันยายน 12, 2018, 16:50:05
อ่อ  ถ้าแบบเปลียนไปก็คง  ผมแยกรถใช้งาน กับ boy toy ออกจากกันอย่างเด็ดขาด

สมัยก่อน  ผมจะซื้อแต่รถมือ 2  .....เน้นประสิทธิภาพ ประมาณว่าเงินเท่ากัน ซื้อทำไมป้ายแดง  ถ้าไปซื้อมือสอง ได้รถ segment สูงกว่า ดีกว่าทุกอย่าง  แต่มันก็ต้องแลกกับการดูแลรักษาที่มากขึ้น  นั่งเฝ้าบอร์ด ดูเคส ดูปัญหา ดูอู่

แต่

สมัยนี้พอมีครอบครัว มีลูก เวลาและธุรกิจเป็นเรื่องสำคัญ ....สิ่งที่ผมเน้นกลายเป็น รถต้องเป็นรถ !   เมือจะใช้ มันต้องใช้ได้  ตอนนี้กลายเป็น ผมจะต้องมีรถป้ายแดง อายุไม่เกิน 5 ปี ที่ไม่ต้องซ่อม ไม่ต้องนอนอู่เป็นรถหลักของบ้านเท่านั้น   ประสิทธิภาพเป็นเรื่องรองลงมาแทน ซื้อตามที่กำลังพอซื้อได้ และไม่ต้องซ่อมแค่นั้นเพียงพอ

รถที่ชอบ รถที่อยากได้  ก็จะกลายเป็น รถคันที่ 2 ที่ 3 ของบ้านแทน  ซึ่งจะเป็นรถมือ 2 มือ 3 อันนี้ ผมไม่แคร์  มีเงินเหลือเก็บ ก็สะสมมาซื้อ ถือว่าเป็น boy toy กันไป

ผมคิดแบบนี้เหมือนกันครับ
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: palma ที่ กันยายน 12, 2018, 17:05:35
พออายุเยอะขึ้น เริ่มเห็นคนเกษียณอายุ บางคนก็ไปได้ดี บางคนก็ไม่เหลืออะไร ก็เลยเริ่มคิด เริ่มวางแผนทางการเงินละ ด้วยอายุงานที่เหลือเกือบ 20 ปี เกษียณแล้ว อยากนั่งๆ นอนๆ มีเงินใช้ ขับรถเที่ยว เดือนละเท่าไหร่ แล้วต้องเก็บให้ได้ปีเท่าไหร่ เพื่อให้มีเงินใช้ตอนเกษียณไปอีกสัก 20 ปี อะไรประมาณนี้แหละ

ความตายจริงๆ ไม่น่ากลัวนะครับสำหรับคนหมดภาระ หรือ  เกษียณแล้ว

น่ากลัวกว่าถ้า ไม่ตายแต่ไม่มีเงินทำให้ชีวิตหลังเกษียณ อยู่สบายๆ

สูงอายุ รายจ่ายจะมากกว่าตอนทำงานมากนัก  ค่าดูแลสุขภาพ ของที่ใช้ช่วยอำนวยความสะดวก ฯลฯ

มีใช้ก็ต้องออมนะครับ
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: i-dine ที่ กันยายน 12, 2018, 17:24:48
รายได้ใกล้ๆกับจขกท.ครับ

เงินเก็บตอนนี้ไม่มาก เพราะเมื่อก่อนสร้างหนี้ไว้เยอะเหมือนกัน ตอนนี้เกือบหมดแล้ว รถก็ผ่อนหมดทุกคันแล้ว

ใจอยากได้คันใหม่อยู่ แต่ก็ห้ามใจไว้ตลอด  เพราะถ้าซื้อคันใหม่ก็ทำใจขายคันเก่าไม่ลง

ตอนนี้เน้นเก็บเงินไว้ใช้ยามแก่ดีกว่าครับ  โชคดีที่บ้าน มีที่ทางเยอะพอสมควร อยากกลับไปใช้ชีวิตที่บ้านเกิด นอนใช้ชีวิตท่ามกลางอากาศดีๆ ภูเขาล้อมรอบ น่าจะฟินพอควรเลยละครับ
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: OXYGEN2 ที่ กันยายน 12, 2018, 17:39:33
อยากคิดแบบนั้นได้อยู่เหมือนกันครับ แต่ตอนนี้ยังรู้สึกว่าทำงานเหนื่อยมากๆ ครับ ขอใช้เงินกับสิ่งที่ชอบไปก่อน อายุสัก 35 ค่อยเริ่มเก็บเงินและซื้ออสังหาครับ
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: Nonlamer ที่ กันยายน 12, 2018, 17:45:50
ผมเน้นเลือกของให้เข้ากับการใช้งานของตัวเองครับ ให้เหมาะที่สุด ในราคาที่เหมาะสมครับ

อย่างเช่น นาฬิกา เมื่อก่อนพกเรือนละหลายร้อยบาท แต่พอใช้มือถือก็ไม่พก เพราะผมคิดแค่ว่ามีไว้ดูเวลา ไม่ใช่เครื่องประดับ ไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายเมื่อครอบครอง
มือถือ ไว้เล่นเนต โทรศัพท์ แชท ไม่ต้องเอาสเปคแรงสุดดีสุด ณ เวลานั้น เอาแค่พอใช้ได้ราบรื่น และราคาไม่แพงจนเกินไป อย่างพวกเรือธงที่ตกรุ่นแล้วเป็นต้น เพราะเท่าที่เคยลอง ตัวที่ไม่ใช่เรือธงมันพังง่ายกว่าเยอะ
กาต้มน้ำ อันละ 3-4 ร้อยใช้สี่เดือนพัง ขี้เกียจมาเจอปัญหาบ่อยๆ ก็ตามหาอันที่ดีขึ้น เป็นอันละ 9 ร้อย ใช้มาสองปีไม่งอแงอย่างนี้เหมาะครับ
คอม ซื้อสเปคไว้ทำงาน เมื่อไม่ได้เล่นเกมก็ไม่ต้องมีการ์ดจอ ใช้ PC เพราะไม่ต้องย้ายที่หรือพกไปไหนมาไหน และทนทานกว่าโน๊ตบุ๊ค
รถยนต์ ชอบแบบที่เดินทางสบายผ่อนคลาย เก็บเสียงภายนอกดี ภายในไม่มีเสียงกวนใจ การเดินทางใช้ความเร็วต่ำอยู่แล้ว(รถติดมากมาย) ขอเน้นช่วงล่างนุ่มสบาย ก็ไป D-Seg ครับ มีดีกว่านั้นแต่แค่นี้ก็พอกับความต้องการแล้ว

ว่าง่ายๆใช้ให้พอเพียงกับความต้องการของตัวเองนั่นล่ะครับ ในราคาที่เหมาะสมด้วยครับ
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: sukhontha ที่ กันยายน 12, 2018, 18:27:18
คติผมอาจจะแปลกกว่าเพื่อนๆ ครับ คือ ใช้ชีวิตให้เต็มที่ อยากทำอะไร ก็ไปทำ อยากกินอะไรก็กิน ตายไป เงินก็เอาไปไม่ได้ ส่วนลูก ให้มันหาของมันเอง ผมยังทำด้วยตัวของผมเอง ทำไมมันจะต้องมีมรดกไว้อยู่อย่างเจ้าหญิง?

ผมกับแฟนชอบเดินทางครับ เปิดหูเปิดตา เกิดมาครั้งเดียว (มั้ง :)) ตายไปได้ไม่เสียดายว่าทำไมไม่ทำตามใจตัวเอง หนี้สินก็มีครับ หุ้น ทอง เงินสด ก็มี หนี้หมด เดี๋ยวมันก็มาใหม่ เงินหมด เดี๋ยวมันก็มาอีกรอบ

เงินมันก็ต้องมีบ้างครับ ถ้าอยู่ในสังคมโลกปัจจุบัน ไม่มีเงินก็ทำอะไรได้ยาก

Live life to the fullest and have no regrets...

ผมเมื่อก่อนก็แบบนี้แหละ  ใช้เงินเป็นเบี้ย  แต่เมื่อถึงจุดหนึ่ง  มันจะเปลี่ยนแปลงเอง
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: sukhontha ที่ กันยายน 12, 2018, 18:30:58
อ่อ  ถ้าแบบเปลียนไปก็คง  ผมแยกรถใช้งาน กับ boy toy ออกจากกันอย่างเด็ดขาด

สมัยก่อน  ผมจะซื้อแต่รถมือ 2  .....เน้นประสิทธิภาพ ประมาณว่าเงินเท่ากัน ซื้อทำไมป้ายแดง  ถ้าไปซื้อมือสอง ได้รถ segment สูงกว่า ดีกว่าทุกอย่าง  แต่มันก็ต้องแลกกับการดูแลรักษาที่มากขึ้น  นั่งเฝ้าบอร์ด ดูเคส ดูปัญหา ดูอู่

แต่

สมัยนี้พอมีครอบครัว มีลูก เวลาและธุรกิจเป็นเรื่องสำคัญ ....สิ่งที่ผมเน้นกลายเป็น รถต้องเป็นรถ !   เมือจะใช้ มันต้องใช้ได้  ตอนนี้กลายเป็น ผมจะต้องมีรถป้ายแดง อายุไม่เกิน 5 ปี ที่ไม่ต้องซ่อม ไม่ต้องนอนอู่เป็นรถหลักของบ้านเท่านั้น   ประสิทธิภาพเป็นเรื่องรองลงมาแทน ซื้อตามที่กำลังพอซื้อได้ และไม่ต้องซ่อมแค่นั้นเพียงพอ

รถที่ชอบ รถที่อยากได้  ก็จะกลายเป็น รถคันที่ 2 ที่ 3 ของบ้านแทน  ซึ่งจะเป็นรถมือ 2 มือ 3 อันนี้ ผมไม่แคร์  มีเงินเหลือเก็บ ก็สะสมมาซื้อ ถือว่าเป็น boy toy กันไป
แสดงว่าจุดยืน แต่ละคนไม่ตายตัว พร้อมจะเปลี่ยนเมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป  แต่คล้าย ๆกันครับ
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: sukhontha ที่ กันยายน 12, 2018, 18:36:28
.
.
ผมคิดต่างออกไปครับ
สำหรับผมชีวิตกับการเก็บออมต้องไปด้วยกัน มีเงินต้องใช้บ้าง
เกิดเป็นอะไรไปมีเงินเก็บไว้ก็เท่านั้น มีคนเคยกล่าวไว้ว่า
เป็นคนรวยทำตัวเหมือนคนจน จะรวยทำไม ซึ่งผมเห็นด้วย
เราต้องบาลานซ์ดีๆ

อย่างผมชอบรถ เวลาผมซื้อรถ ผมไม่เคยมองความคุ้มค่าใดๆ
มองเป็นความสุขทางใจล้วนๆ บางคนอาจจะชอบไปเที่ยว
กินของแพงๆ แต่ผมชอบรถ เวลาขับไปทำงานก็มีความสุข
เป็นความสุขเล็กๆน้อยๆระหว่างวัน เช้า-เย็น

เงินเก็บ / เงินลงทุน ผมกันไว้เลย 40% ของรายได้
ไม่มากกว่านั้น ที่เหลือใช้เกลี้ยงครับ

ยังไม่มีสิ่งเร้ามากระทบครับ  เมื่อเจอ  มันจะเปลี่ยนเอง

เอาเป็นว่าถ้าคุณเห็นเพื่อนรุ่นน้องผม  แล้วผมบอกว่า ทำธุรกิจพันล้าน  คุณคงไม่เชื่อ  ใส่กางเกงสายรูด  ถอดเสื้อ  มีเสื้อยืดพาดบ่าตัวหนึ่ง  ใช้รถโตโยต้า  บิ๊กฟุค(ทำเอง ยกเอง  มีใครซื้อก็ขาย แล้วทำใหม่) เป็นหลัก  งานในออฟฟิต ให้ลูกน้องทำ..นั่นก็เพราะเขาทำแล้วมีความสุข
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: sukhontha ที่ กันยายน 12, 2018, 18:40:44
พออายุเยอะขึ้น เริ่มเห็นคนเกษียณอายุ บางคนก็ไปได้ดี บางคนก็ไม่เหลืออะไร ก็เลยเริ่มคิด เริ่มวางแผนทางการเงินละ ด้วยอายุงานที่เหลือเกือบ 20 ปี เกษียณแล้ว อยากนั่งๆ นอนๆ มีเงินใช้ ขับรถเที่ยว เดือนละเท่าไหร่ แล้วต้องเก็บให้ได้ปีเท่าไหร่ เพื่อให้มีเงินใช้ตอนเกษียณไปอีกสัก 20 ปี อะไรประมาณนี้แหละ

ความตายจริงๆ ไม่น่ากลัวนะครับสำหรับคนหมดภาระ หรือ  เกษียณแล้ว

น่ากลัวกว่าถ้า ไม่ตายแต่ไม่มีเงินทำให้ชีวิตหลังเกษียณ อยู่สบายๆ

สูงอายุ รายจ่ายจะมากกว่าตอนทำงานมากนัก  ค่าดูแลสุขภาพ ของที่ใช้ช่วยอำนวยความสะดวก ฯลฯ

มีใช้ก็ต้องออมนะครับ

  เห็นด้วยครับ   ผมตั้งใจว่าเมื่อแก่ ทำอะไรไม่ได้ เงินที่เก็บ ๆ คงจ้างพยาบาลส่วนตัวดูแลแบบตัวต่อตัวครับ  ตั้งใจไม่ให้เป็นภาระกับลูก
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: sukhontha ที่ กันยายน 12, 2018, 18:43:57
รายได้ใกล้ๆกับจขกท.ครับ

เงินเก็บตอนนี้ไม่มาก เพราะเมื่อก่อนสร้างหนี้ไว้เยอะเหมือนกัน ตอนนี้เกือบหมดแล้ว รถก็ผ่อนหมดทุกคันแล้ว

ใจอยากได้คันใหม่อยู่ แต่ก็ห้ามใจไว้ตลอด  เพราะถ้าซื้อคันใหม่ก็ทำใจขายคันเก่าไม่ลง

ตอนนี้เน้นเก็บเงินไว้ใช้ยามแก่ดีกว่าครับ  โชคดีที่บ้าน มีที่ทางเยอะพอสมควร อยากกลับไปใช้ชีวิตที่บ้านเกิด นอนใช้ชีวิตท่ามกลางอากาศดีๆ ภูเขาล้อมรอบ น่าจะฟินพอควรเลยละครับ

  เดี๋ยวพอมีหมดหนี้  แล้วจุดยืนยังไม่เปลี่ยน  เงินจะไหลมาเองครับ  แต่ไม่อยากให้เข้าสู่เกษตรกรรมเต็มตัว  (ทำสนุก ๆ ออกกำลังได้)  เป็นธุรกิจที่ราคาผันผวนมาก  อันตราย  ปลูกต้นไม้ยืนต้นดีกว่า...
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: sukhontha ที่ กันยายน 12, 2018, 18:46:19
ผมเน้นเลือกของให้เข้ากับการใช้งานของตัวเองครับ ให้เหมาะที่สุด ในราคาที่เหมาะสมครับ

อย่างเช่น นาฬิกา เมื่อก่อนพกเรือนละหลายร้อยบาท แต่พอใช้มือถือก็ไม่พก เพราะผมคิดแค่ว่ามีไว้ดูเวลา ไม่ใช่เครื่องประดับ ไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายเมื่อครอบครอง
มือถือ ไว้เล่นเนต โทรศัพท์ แชท ไม่ต้องเอาสเปคแรงสุดดีสุด ณ เวลานั้น เอาแค่พอใช้ได้ราบรื่น และราคาไม่แพงจนเกินไป อย่างพวกเรือธงที่ตกรุ่นแล้วเป็นต้น เพราะเท่าที่เคยลอง ตัวที่ไม่ใช่เรือธงมันพังง่ายกว่าเยอะ
กาต้มน้ำ อันละ 3-4 ร้อยใช้สี่เดือนพัง ขี้เกียจมาเจอปัญหาบ่อยๆ ก็ตามหาอันที่ดีขึ้น เป็นอันละ 9 ร้อย ใช้มาสองปีไม่งอแงอย่างนี้เหมาะครับ
คอม ซื้อสเปคไว้ทำงาน เมื่อไม่ได้เล่นเกมก็ไม่ต้องมีการ์ดจอ ใช้ PC เพราะไม่ต้องย้ายที่หรือพกไปไหนมาไหน และทนทานกว่าโน๊ตบุ๊ค
รถยนต์ ชอบแบบที่เดินทางสบายผ่อนคลาย เก็บเสียงภายนอกดี ภายในไม่มีเสียงกวนใจ การเดินทางใช้ความเร็วต่ำอยู่แล้ว(รถติดมากมาย) ขอเน้นช่วงล่างนุ่มสบาย ก็ไป D-Seg ครับ มีดีกว่านั้นแต่แค่นี้ก็พอกับความต้องการแล้ว

ว่าง่ายๆใช้ให้พอเพียงกับความต้องการของตัวเองนั่นล่ะครับ ในราคาที่เหมาะสมด้วยครับ

ผมว่าดีแล้วครับ  ปัจจุบัน  ผมไม่ใช้นาฬิกา.. อยากดู ก็ในโทรศัพท์..
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: flat6 ที่ กันยายน 12, 2018, 19:18:20
แต่ก่อนอยากแต่รถซิ่งๆ แข็งๆ 2 ประตู

เดี๋ยวนี้ SUV ไม่ก็ Luxury sedan ร่างกายไม่ไหวแล้ว

แต่ถ้ามีตังก็ยังจะซื้ออยู่ดีครับ แต่ไม่ใช้ประจำวัน
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: raygun ที่ กันยายน 12, 2018, 20:45:39
.
.
ผมคิดต่างออกไปครับ
สำหรับผมชีวิตกับการเก็บออมต้องไปด้วยกัน มีเงินต้องใช้บ้าง
เกิดเป็นอะไรไปมีเงินเก็บไว้ก็เท่านั้น มีคนเคยกล่าวไว้ว่า
เป็นคนรวยทำตัวเหมือนคนจน จะรวยทำไม ซึ่งผมเห็นด้วย
เราต้องบาลานซ์ดีๆ

อย่างผมชอบรถ เวลาผมซื้อรถ ผมไม่เคยมองความคุ้มค่าใดๆ
มองเป็นความสุขทางใจล้วนๆ บางคนอาจจะชอบไปเที่ยว
กินของแพงๆ แต่ผมชอบรถ เวลาขับไปทำงานก็มีความสุข
เป็นความสุขเล็กๆน้อยๆระหว่างวัน เช้า-เย็น

เงินเก็บ / เงินลงทุน ผมกันไว้เลย 40% ของรายได้
ไม่มากกว่านั้น ที่เหลือใช้เกลี้ยงครับ

ยังไม่มีสิ่งเร้ามากระทบครับ  เมื่อเจอ  มันจะเปลี่ยนเอง

เอาเป็นว่าถ้าคุณเห็นเพื่อนรุ่นน้องผม  แล้วผมบอกว่า ทำธุรกิจพันล้าน  คุณคงไม่เชื่อ  ใส่กางเกงสายรูด  ถอดเสื้อ  มีเสื้อยืดพาดบ่าตัวหนึ่ง  ใช้รถโตโยต้า  บิ๊กฟุค(ทำเอง ยกเอง  มีใครซื้อก็ขาย แล้วทำใหม่) เป็นหลัก  งานในออฟฟิต ให้ลูกน้องทำ..นั่นก็เพราะเขาทำแล้วมีความสุข

.
.
ผมว่าผมไม่เปลี่ยนหรอกครับ 5555
เผลอๆผมอายุมากกว่าคุณอีก ไม่ใช่เด็กๆ เอาง่ายๆก่อน ถ้าคุณผ่านอะไรมามากกว่านี้
คุณจะรู้เองว่าทุกคนไม่จำเป็นต้องคิดเหมือนกัน ต่อให้มีสิ่งเร้าเหมือนกัน
ผลที่ทำในแต่ละคนยังไม่เหมือนกันเลย และอย่าไปคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำแล้วมีความสุข
คนอื่นก็จะมีความสุขเหมือนกัน มันไม่ใช่ครับ ความสุขคนเราไม่เหมือนกัน

เงินในบัญชีผมมีมากพอแล้ว ใช้ยันลูกยังใช้ไม่หมด ไม่ต้องถึงพันล้านหรอก
แล้วผมก็ไม่สนด้วยว่าใครจะรวยแล้วจะทำตัวสังๆยังไง เพราะมันเรื่องของเค้า
แต่ผมไม่ทำครับ คนเราชอบไม่เหมือนกัน ไม่งั้น Ferrari คงต้องผิดบริษัทไปนานแล้ว

บางคนเจอสิ่งเร้าเรื่องโน้นเรื่องนี้ก็เปลี่ยน เพราะอาจจะไม่มั่นคงในจุดยืนที่เลือก
แต่ผมเป็นแบบนี้ตั้งแต่เด็กยันแก่ ผมไม่เปลี่ยนครับ และมีความสุขดี  ;)

หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: DriveOnly ที่ กันยายน 12, 2018, 21:29:18
.
.
ผมคิดต่างออกไปครับ
สำหรับผมชีวิตกับการเก็บออมต้องไปด้วยกัน มีเงินต้องใช้บ้าง
เกิดเป็นอะไรไปมีเงินเก็บไว้ก็เท่านั้น มีคนเคยกล่าวไว้ว่า
เป็นคนรวยทำตัวเหมือนคนจน จะรวยทำไม ซึ่งผมเห็นด้วย
เราต้องบาลานซ์ดีๆ

อย่างผมชอบรถ เวลาผมซื้อรถ ผมไม่เคยมองความคุ้มค่าใดๆ
มองเป็นความสุขทางใจล้วนๆ บางคนอาจจะชอบไปเที่ยว
กินของแพงๆ แต่ผมชอบรถ เวลาขับไปทำงานก็มีความสุข
เป็นความสุขเล็กๆน้อยๆระหว่างวัน เช้า-เย็น

เงินเก็บ / เงินลงทุน ผมกันไว้เลย 40% ของรายได้
ไม่มากกว่านั้น ที่เหลือใช้เกลี้ยงครับ

ยังไม่มีสิ่งเร้ามากระทบครับ  เมื่อเจอ  มันจะเปลี่ยนเอง

เอาเป็นว่าถ้าคุณเห็นเพื่อนรุ่นน้องผม  แล้วผมบอกว่า ทำธุรกิจพันล้าน  คุณคงไม่เชื่อ  ใส่กางเกงสายรูด  ถอดเสื้อ  มีเสื้อยืดพาดบ่าตัวหนึ่ง  ใช้รถโตโยต้า  บิ๊กฟุค(ทำเอง ยกเอง  มีใครซื้อก็ขาย แล้วทำใหม่) เป็นหลัก  งานในออฟฟิต ให้ลูกน้องทำ..นั่นก็เพราะเขาทำแล้วมีความสุข

.
.
ผมว่าผมไม่เปลี่ยนหรอกครับ 5555
เผลอๆผมอายุมากกว่าคุณอีก ไม่ใช่เด็กๆ เอาง่ายๆก่อน ถ้าคุณผ่านอะไรมามากกว่านี้
คุณจะรู้เองว่าทุกคนไม่จำเป็นต้องคิดเหมือนกัน ต่อให้มีสิ่งเร้าเหมือนกัน
ผลที่ทำในแต่ละคนยังไม่เหมือนกันเลย และอย่าไปคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำแล้วมีความสุข
คนอื่นก็จะมีความสุขเหมือนกัน มันไม่ใช่ครับ ความสุขคนเราไม่เหมือนกัน

เงินในบัญชีผมมีมากพอแล้ว ใช้ยันลูกยังใช้ไม่หมด ไม่ต้องถึงพันล้านหรอก
แล้วผมก็ไม่สนด้วยว่าใครจะรวยแล้วจะทำตัวสังๆยังไง เพราะมันเรื่องของเค้า
แต่ผมไม่ทำครับ คนเราชอบไม่เหมือนกัน ไม่งั้น Ferrari คงต้องผิดบริษัทไปนานแล้ว

บางคนเจอสิ่งเร้าเรื่องโน้นเรื่องนี้ก็เปลี่ยน เพราะอาจจะไม่มั่นคงในจุดยืนที่เลือก
แต่ผมเป็นแบบนี้ตั้งแต่เด็กยันแก่ ผมไม่เปลี่ยนครับ และมีความสุขดี  ;)

เห็นด้วยครับ
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: e:smart Hybrid ที่ กันยายน 12, 2018, 21:35:07
ผมเป็นคนเรียนเยอะมากครับ อายุ 30 กว่าๆ ก็ยังเรียนอยู่เลย

รายได้ไม่ต้องพูดถึง เหมือนถูกแช่เเข็งเอาไว้

ตอนนี้เหลือตัวสุดท้ายแล้ว จะจบสักที ตอนนี้ผมตั้งใจไว้ว่า จะเดินสายทำงาน อิสระงานนึง ซึ่งรายได้ดี (มาก) พอสมควร

น่าจะเริ่มปีหน้าครับ...ก็หวังว่าจะได้ และอาจจะได้ทำงานพวกที่ถนัด อีกงาน คือ ตามหนี้ ฟ้องคดี

ขอให้ทุกท่านช่วยเป้นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ

...ต่อมา ตอบ จขกท ผมก็คล้ายๆ กันครับ แต่ผมมีก้าวนึงที่พลาดมากๆ

คือ ตอนจากคันแรก AE100 ไป March

เป็นความผิดพลาดที่ร้ายแรง (มากที่สุด) ในชีวิตผมครั้งนึงครับ...ผมจะจำไปจนวันตาย สำหรับ Nissan

รถมันห่วยและมีปัญหามาก ตั้งแต่ศูนย์บริการ ที่ยัดรายการมั่วๆ ไม่ยอมให้ใช้คูปองเช็คระยะ ช่างขี้โกง+อู่เอาเปรียบ
รถเอามาวิ่งงานพอเก่า มันเริ่มงองแง พาผมกินข้าวลิง (เสียกลางทางไป 2 รอบ)

ผมเรียนตามตรง เสียดายมากที่ต้องมาขายรถตอน ปีที่ 6 นิด จากราคา 459,000 เหลือ 203,000 บาท (เหลือ 40 กว่า %)

เป็นบทเรียนทีทรงคุณค่ามาก...ถ้าเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ผมตัดสินใจ ซื้อ Vios J Eco AT โง่ๆ ที่ไม่มี ABS Airbag ราคาตั้ง 5.49 แสน

ผมก็ไม่ต้องเสียตังซื้อรถ 2 รอบ (ไม่ต้องมาซื้อ Ativ อีก) ยังใช้รถวิ่งงานต่อไปได้อย่างสบายๆ

มันคงเหมือนรักครั้งแรก ที่ผมเจอ ซึ่งทำให้ผมเสียอะไรไปมาก Nissan ก็เช่นกัน (...ฟิวเดียวกันครับ)

คนเราเจ็บแล้วจำ และจะไม่ทำผิดซ้ำครับ...ผมเลือกแล้วว่า อนาคต ผมก็คงจะใช้รถ บ้านๆ พวก Toyota Honda Isuzu
แต่คงเน้น Toyota มากกว่า เพราะผมชอบที่ คนขายเยอะ ตัวเลือกมาก

อนาคตผมเล็งๆ ไว้ครับ ว่า จะใช้คันนึงไปจึงถึงปีที่ 9 ย่าง 10 หลังจากนี้ ถ้ามีเงิน ผมอยากขับ Lexus ตัวล่างๆ
หรือไม่ถ้าเสียดังตัง ผมอาจจะไปเอา Toyota Sure (Vios หรืออะไรก็ได้ที่ราคาไม่สูงมาก เกียร์ AT) ที่อายุรถสัก 1-2 ปี ซึ่งราคาจะตกลงมา 20% เป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากๆ ครับ

ส่วนรถกระบะ ผมคงออก Revo ตัวเตี้ย...แต่ดูตามสถานะการณ์ว่า งานที่ผมทำจะต้องขนของหรือไม่ (ดูแล้วไม่จำเป็นมาก เพราะเพื่อนผมจะซื้อรถให้ใช้ครับ)
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: กด9เพื่อกลับสู่เมนูหลัก ที่ กันยายน 12, 2018, 22:03:01
ผมเคยเป็นแบบคุณนะ มีความสุขกับการเก็บเงิน มีความสุขกับการที่เห็นตัวเลขในบัญชีมันเพิ่มขึ้นในแต่ละปี

จนกระทั่งผมไปตรวจสุขภาพ พบว่าไต และ ตับ ผมไม่ค่อยดี รวมทั้งโรคประจำตัวทั้งโรคเก๊า ไขมันในเลือดสูง ภูมิแพ้
ด้วยวัยเพียงแค่สามสิบกลางๆ ผมกับมีโรคภัยแฝงมาขนาดนี้ เพราะทางบ้านผมมีกรรมพันธุ์เป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจ เรียกว่าเป็นทำบอลลูนที่หัวใจกันทุกคน

ผมเลยมานั่งทบทวนดู ถ้าอยู่ดีๆ ผมตาย  มันจะมีประโยชน์อะไรกับการที่ผมตั้งหน้าตั้งตาทำงานเก็บเงินมาขนาดนี้
ผมรู้สึกว่าตัวเองตกเป็นทาสของเงินตรา ที่จริงแล้วเงินเป็นเพียงสิ่งสมมติในการแลกเปลี่ยน ตัวเลขในบัญชีก็ไม่มีความหมายอะไร ถ้าผมไม่ได้ใช้มัน

ผมจึงสร้างสมดุลใหม่ โดยการใช้เงินมากขึ้นกว่าเดิม  คิดถึงอนาคตบ้าง แต่ไม่ใช่คิดแต่เรื่องอนาคต จนละเลยปัจจุบัน
ผมกลับพบว่า ชีวิตผมโอเคขึ้นเยอะ 

คุณลองถามตัวเองว่า ถ้าคุณใช้เงินแค่เดือนละ3หมื่นอย่างที่คุณบอก แถมขับรถมือสองเก่าๆคันละแสนกว่าบาท คุณจะมีเงินมากมายไปเพื่ออะไร
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: e:smart Hybrid ที่ กันยายน 12, 2018, 22:14:17
ผมเคยเป็นแบบคุณนะ มีความสุขกับการเก็บเงิน มีความสุขกับการที่เห็นตัวเลขในบัญชีมันเพิ่มขึ้นในแต่ละปี

จนกระทั่งผมไปตรวจสุขภาพ พบว่าไต และ ตับ ผมไม่ค่อยดี รวมทั้งโรคประจำตัวทั้งโรคเก๊า ไขมันในเลือดสูง ภูมิแพ้
ด้วยวัยเพียงแค่สามสิบกลางๆ ผมกับมีโรคภัยแฝงมาขนาดนี้ เพราะทางบ้านผมมีกรรมพันธุ์เป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจ เรียกว่าเป็นทำบอลลูนที่หัวใจกันทุกคน

ผมเลยมานั่งทบทวนดู ถ้าอยู่ดีๆ ผมตาย  มันจะมีประโยชน์อะไรกับการที่ผมตั้งหน้าตั้งตาทำงานเก็บเงินมาขนาดนี้
ผมรู้สึกว่าตัวเองตกเป็นทาสของเงินตรา ที่จริงแล้วเงินเป็นเพียงสิ่งสมมติในการแลกเปลี่ยน ตัวเลขในบัญชีก็ไม่มีความหมายอะไร ถ้าผมไม่ได้ใช้มัน

ผมจึงสร้างสมดุลใหม่ โดยการใช้เงินมากขึ้นกว่าเดิม  คิดถึงอนาคตบ้าง แต่ไม่ใช่คิดแต่เรื่องอนาคต จนละเลยปัจจุบัน
ผมกลับพบว่า ชีวิตผมโอเคขึ้นเยอะ 

คุณลองถามตัวเองว่า ถ้าคุณใช้เงินแค่เดือนละ3หมื่นอย่างที่คุณบอก แถมขับรถมือสองเก่าๆคันละแสนกว่าบาท คุณจะมีเงินมากมายไปเพื่ออะไร

คล้ายๆ กันครับ ผมเองก็เป็นโรค ภูมิแพ้ ความดัน ไขมัน

ตอนนี้ค่าตับอักเสบ งดกินยาไขมันไปครับ

พยายามใช้เงินเหมือนกันครับ เลยตัดสินใจ ไม่ทนกับรถคันเก่า ออกรถใหม่ที่อยากได้ครับ
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: BN` ที่ กันยายน 12, 2018, 22:15:52
ผมเองก็เริ่มจะประหยัดมาได้ 2-3 ปีแล้วครับ เมื่อก่อนยอมรับว่าใช้เงินฟุ่มเฟือยมากครับ

iPhone ต้องซื้อรุ่นใหม่ ซื้อเสื้อผ้า กางเกง รองเท้า เป็นพันๆ กินข้าวบนห้างร้านแพงๆอาทิตย์ละ 3-4 วัน

ปัจจุบันคุณพ่อคุณแม่ผมอายุมากขึ้น แล้วก็เลิกทำงานแล้ว ทำให้ผมเริ่มคิดได้ และเริ่มใช้เงินประหยัด

ปัจจุบันผมซื้อโทรศัพท์ที่ตกรุ่นแล้วไปสักพักเพราะทำให้ราคาถูกลงเกือบครึ่ง

เสื้อผ้า กางเกง ก็ซื้อเปลี่ยนแค่ปีละ 1 ครั้ง ส่วนรองเท้าก็ใส่คู่ละ 1-2 ปี

ส่วนเรื่องของการกิน ผมก็กินบนห้างเหมือนเดิม แต่เลือกกินเฉพาะใน Food Park ที่มีราคาไม่แพง

และช่วงเย็นก็กลับมากินข้าวที่บ้าน มีนานๆทีเดือนละ 1-2 ครั้ง ที่จะกินร้านดีๆบ้างตามโอกาส

ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ผมอยากจะเปลี่ยนรถคันใหม่ แต่พอผมคิดไปคิดมา ก็คิดได้ว่าจะใช้คันเดิมต่อดีกว่า

ซึ่งรถคันปัจจุบันก็อายุใกล้จะ 12 ปีแล้ว พร้อมกับเลขไมล์ 150,000 โล คิดว่าจะใช้ต่อไปเรื่อยๆ

เป้าหมายในอนาคตคือ การลงทุน อย่างเดียวเท่านั้น ผมคิดว่าจะลงทุนไปเรื่อยๆจนกว่าจะถึงเป้าหมาย

หลังจากนั้นคิดว่าจะซื้อรถในฝัน 1 คันมาจอดเป็นรางวัลชีวิตเพื่อความสุขของตัวเอง เพียงแค่ครั้งเดียว

แล้วก็คิดว่าจะไม่ใช้เงินทำอะไรอีกแล้ว เก็บเงินรอกินปันผลยาวๆไปตลอดชีวิตครับ :D
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: +@ Krishna @+ ที่ กันยายน 12, 2018, 23:15:48
ผมขับมือสอง 4 คัน / ใช้รถบริษัทฟรีช่วงนึง  / มือหนึ่ง 3 คัน

เอาจริง ๆ ชีวิตถ้าอยู่กทม.แล้วไม่ค่อยได้ใช้รถอย่างผม
ควรซื้อมือสอง เพราะปีนึงใช้รถไม่เกิน 8000 โล
หรือไม่ต้องซื้อรถส่วนตัว โบกแท็กซี่ เช่ารถตู้ก็ได้

ก่อนที่จะมาซื้อคันปัจจุบัน ใจอยากได้รถมือสอง หล่อ ๆ ราคาสัก 6 แสน +- ซื้อสดไปเลย
แต่พ่อแม่พี่น้อง บังคับให้ซื้อแต่มือ 1 เท่านั้น
ด้วยเหตุผลทีว่า สบายใจ รู้รถ ญาติพี่น้องครูบาอาจารย์ เพื่อน ๆ แต่ละท่านก็ซื้อแต่มือ 1
ซื้อมาก็ใช้ยาว 5-10 ปี  ทุกคน

ซึ่งผมมีประสบการณ์ที่เลวร้ายเกี่ยวกับมือสอง ซึ่งไม่สบายใจอย่างแรง เข็ด!!
รถเสียกลางถนน ตอนรถติด ๆ อากาศร้อน ๆ  มีแต่ปัญหาจุกจิก เจอแต่รถไม่ดีครับ
เพราะดูรถไม่เป็น + ไม่ค่อยรู้จักอู่นอกที่ไว้ใจได้ +อะไหล่ การซ่อมบำรุงรถยุโรป แพงโคตร :'(
ขับ ๆ ซ่อม ๆ
คุณ เจ้าของกระทู้ โชคดีจริง ๆ ที่เจอรถดีครับ
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: Arado_kung ที่ กันยายน 13, 2018, 03:21:52
ผมเคยเป็นแบบคุณนะ มีความสุขกับการเก็บเงิน มีความสุขกับการที่เห็นตัวเลขในบัญชีมันเพิ่มขึ้นในแต่ละปี

จนกระทั่งผมไปตรวจสุขภาพ พบว่าไต และ ตับ ผมไม่ค่อยดี รวมทั้งโรคประจำตัวทั้งโรคเก๊า ไขมันในเลือดสูง ภูมิแพ้
ด้วยวัยเพียงแค่สามสิบกลางๆ ผมกับมีโรคภัยแฝงมาขนาดนี้ เพราะทางบ้านผมมีกรรมพันธุ์เป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจ เรียกว่าเป็นทำบอลลูนที่หัวใจกันทุกคน

ผมเลยมานั่งทบทวนดู ถ้าอยู่ดีๆ ผมตาย  มันจะมีประโยชน์อะไรกับการที่ผมตั้งหน้าตั้งตาทำงานเก็บเงินมาขนาดนี้
ผมรู้สึกว่าตัวเองตกเป็นทาสของเงินตรา ที่จริงแล้วเงินเป็นเพียงสิ่งสมมติในการแลกเปลี่ยน ตัวเลขในบัญชีก็ไม่มีความหมายอะไร ถ้าผมไม่ได้ใช้มัน

ผมจึงสร้างสมดุลใหม่ โดยการใช้เงินมากขึ้นกว่าเดิม  คิดถึงอนาคตบ้าง แต่ไม่ใช่คิดแต่เรื่องอนาคต จนละเลยปัจจุบัน
ผมกลับพบว่า ชีวิตผมโอเคขึ้นเยอะ 

คุณลองถามตัวเองว่า ถ้าคุณใช้เงินแค่เดือนละ3หมื่นอย่างที่คุณบอก แถมขับรถมือสองเก่าๆคันละแสนกว่าบาท คุณจะมีเงินมากมายไปเพื่ออะไร

คล้ายๆ กันครับ ผมเองก็เป็นโรค ภูมิแพ้ ความดัน ไขมัน

ตอนนี้ค่าตับอักเสบ งดกินยาไขมันไปครับ

พยายามใช้เงินเหมือนกันครับ เลยตัดสินใจ ไม่ทนกับรถคันเก่า ออกรถใหม่ที่อยากได้ครับ

งดอาหารหวาน,มัน,เค็ม นับแคลลอรี่ด้วยว่าวันนึงกินไปเท่าไหร่ มื้อเย็นกินให้น้อยลงถ้าเป็นไปได้สลัดผักจานเดียว ออกกำลังกายวันละนิดหน่อย 3 เดือนน้ำหนักผมลงมา 10 โลล่ะ ค่าทุกอย่างดีขึ้นหมดเหลือกินยาความดันตัวเดียว หมอบอกถ้าทำได้เรื่อยๆแบบนี้อีกไม่นานก็ปกติไม่ต้องกินยาแล้ว คุณเขียมทุกอย่างอยู่แล้วก็เขียมให้ได้เรื่องสุขภาพด้วย ถ้าไม่รีบจัดการเดี๋ยวเจอเบาหวานตามมาอีกนะ รุ่นน้องผมคนนึงเป็นก่อนผมแต่มันไม่ดิ้นรนอะไรเลย กินยาอย่างเดียวทุกวันนี้มันกินยาหนักกว่าเดิม
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: sukhontha ที่ กันยายน 13, 2018, 07:27:50
ผมเคยเป็นแบบคุณนะ มีความสุขกับการเก็บเงิน มีความสุขกับการที่เห็นตัวเลขในบัญชีมันเพิ่มขึ้นในแต่ละปี

จนกระทั่งผมไปตรวจสุขภาพ พบว่าไต และ ตับ ผมไม่ค่อยดี รวมทั้งโรคประจำตัวทั้งโรคเก๊า ไขมันในเลือดสูง ภูมิแพ้
ด้วยวัยเพียงแค่สามสิบกลางๆ ผมกับมีโรคภัยแฝงมาขนาดนี้ เพราะทางบ้านผมมีกรรมพันธุ์เป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจ เรียกว่าเป็นทำบอลลูนที่หัวใจกันทุกคน

ผมเลยมานั่งทบทวนดู ถ้าอยู่ดีๆ ผมตาย  มันจะมีประโยชน์อะไรกับการที่ผมตั้งหน้าตั้งตาทำงานเก็บเงินมาขนาดนี้
ผมรู้สึกว่าตัวเองตกเป็นทาสของเงินตรา ที่จริงแล้วเงินเป็นเพียงสิ่งสมมติในการแลกเปลี่ยน ตัวเลขในบัญชีก็ไม่มีความหมายอะไร ถ้าผมไม่ได้ใช้มัน

ผมจึงสร้างสมดุลใหม่ โดยการใช้เงินมากขึ้นกว่าเดิม  คิดถึงอนาคตบ้าง แต่ไม่ใช่คิดแต่เรื่องอนาคต จนละเลยปัจจุบัน
ผมกลับพบว่า ชีวิตผมโอเคขึ้นเยอะ 

คุณลองถามตัวเองว่า ถ้าคุณใช้เงินแค่เดือนละ3หมื่นอย่างที่คุณบอก แถมขับรถมือสองเก่าๆคันละแสนกว่าบาท คุณจะมีเงินมากมายไปเพื่ออะไร
  ก็ไม่แปลกครับ  ถ้าเปลี่ยนแล้วมีความสุขมากขึ้น   อะไรที่ทำแล้วมีความสุข  และไม่สร้างปัญหาให้ตัวเองในอนาคต ทำเลยครับ

  เมื่อก่อน  ผมมีความสุขในการทำงานเพื่อส่วนรวมมาก  ไม่มีเงิน  ผมกู้เงินทำให้  ทุ่มเททั้งกาย-ใจ
  อายุมากขึ้นเริ่มทำงานเพื่อตัวเอง  ทุ่มเท แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ  ทำมาก แต่ใช้มาก  เหนื่อยมาก..
  ผมเลิกทำงานหนัก ๆ กลับมาทำงานปกติ  ลดการใช้จ่ายเงิน 
  สิบห้าปีที่ผ่านมา  ที่ทำงานผมห่างบ้าน150เมตร  ปั่นจักรยานไปทำงาน  ข้าวที่บ้านเป็นหลัก  ถ้าอยากกินสเต็ก  นั่งรถไป เทพประทาน.. แล้วก็กลับ..ก็มีความสุขดี  สุขภาพดี -ดีมาก
 
  ถ้าผมตายก่อน  ไม่ได้ใช้เงินที่เก็บไว้  เสียดายไหม  ไม่เสียดายครับ  ทุกวันนี้  ผมมีความสุขกับกิจกรรมที่ทำมากกว่าเมื่อก่อนที่ผมใช้เงินเป็นเบี้ยเสียอีก 

  ว่างผมปลูกต้นไม่  ตัดหญ้า  ล้างรถ  ดูแลส่วนควบรถแต่ละคัน อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ดีไหม?  รถผมทุกคัน แม้จะเก่าแต่ มีปัญหาระหว่างทางน้อยมาก  ถึงมีก็เล็กน้อยกลับบ้านได้  และสิ่งที่ผมทำนี่คือความสุขของผมครับ  มีความสุขมาก
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: sukhontha ที่ กันยายน 13, 2018, 07:33:59
.
.
ผมคิดต่างออกไปครับ
สำหรับผมชีวิตกับการเก็บออมต้องไปด้วยกัน มีเงินต้องใช้บ้าง
เกิดเป็นอะไรไปมีเงินเก็บไว้ก็เท่านั้น มีคนเคยกล่าวไว้ว่า
เป็นคนรวยทำตัวเหมือนคนจน จะรวยทำไม ซึ่งผมเห็นด้วย
เราต้องบาลานซ์ดีๆ

อย่างผมชอบรถ เวลาผมซื้อรถ ผมไม่เคยมองความคุ้มค่าใดๆ
มองเป็นความสุขทางใจล้วนๆ บางคนอาจจะชอบไปเที่ยว
กินของแพงๆ แต่ผมชอบรถ เวลาขับไปทำงานก็มีความสุข
เป็นความสุขเล็กๆน้อยๆระหว่างวัน เช้า-เย็น

เงินเก็บ / เงินลงทุน ผมกันไว้เลย 40% ของรายได้
ไม่มากกว่านั้น ที่เหลือใช้เกลี้ยงครับ

ยังไม่มีสิ่งเร้ามากระทบครับ  เมื่อเจอ  มันจะเปลี่ยนเอง

เอาเป็นว่าถ้าคุณเห็นเพื่อนรุ่นน้องผม  แล้วผมบอกว่า ทำธุรกิจพันล้าน  คุณคงไม่เชื่อ  ใส่กางเกงสายรูด  ถอดเสื้อ  มีเสื้อยืดพาดบ่าตัวหนึ่ง  ใช้รถโตโยต้า  บิ๊กฟุค(ทำเอง ยกเอง  มีใครซื้อก็ขาย แล้วทำใหม่) เป็นหลัก  งานในออฟฟิต ให้ลูกน้องทำ..นั่นก็เพราะเขาทำแล้วมีความสุข

.
.
ผมว่าผมไม่เปลี่ยนหรอกครับ 5555
เผลอๆผมอายุมากกว่าคุณอีก ไม่ใช่เด็กๆ เอาง่ายๆก่อน ถ้าคุณผ่านอะไรมามากกว่านี้
คุณจะรู้เองว่าทุกคนไม่จำเป็นต้องคิดเหมือนกัน ต่อให้มีสิ่งเร้าเหมือนกัน
ผลที่ทำในแต่ละคนยังไม่เหมือนกันเลย และอย่าไปคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำแล้วมีความสุข
คนอื่นก็จะมีความสุขเหมือนกัน มันไม่ใช่ครับ ความสุขคนเราไม่เหมือนกัน

เงินในบัญชีผมมีมากพอแล้ว ใช้ยันลูกยังใช้ไม่หมด ไม่ต้องถึงพันล้านหรอก
แล้วผมก็ไม่สนด้วยว่าใครจะรวยแล้วจะทำตัวสังๆยังไง เพราะมันเรื่องของเค้า
แต่ผมไม่ทำครับ คนเราชอบไม่เหมือนกัน ไม่งั้น Ferrari คงต้องผิดบริษัทไปนานแล้ว

บางคนเจอสิ่งเร้าเรื่องโน้นเรื่องนี้ก็เปลี่ยน เพราะอาจจะไม่มั่นคงในจุดยืนที่เลือก
แต่ผมเป็นแบบนี้ตั้งแต่เด็กยันแก่ ผมไม่เปลี่ยนครับ และมีความสุขดี  ;)

เคารพในความเห็นครับ
 
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: aum_nattha ที่ กันยายน 13, 2018, 07:41:09
เปลี่ยนไปเหมือนกันครับ สมัยก่อนต้องได้ของใหม่แกะกล่องเท่านั้น ต้องเป็นคนแกะกล่องแกะห่อแกะพลาสติกเองด้วย ไม่งั้นโกรธงอแงเลย 555 พอโตขึ้น หาเงินเอง เดี๋ยวนี้ใช้แต่ของมือสองสภาพดีแทบทั้งนั้นครับ อันไหนมีคนปล่อยมือ 2 รีบคว้าเลย หาไม่ได้ค่อยซื้อมือ 1 เอา กล้อง นาฬิกา กระเป๋า รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ ด้วยความที่เป็นคนอยากรู้ อยากลองอะไรใหม่ๆ ด้วยมั้งครับ อันไหนไม่ถูกใจก็ขายไป หาใหม่มาลองใช้แทน มันไม่เจ็บตัวดีครับ  ::)
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: sukhontha ที่ กันยายน 13, 2018, 09:21:10
ขอบคุณทุกความเห็นครับ  ผมไล่ตอบไม่ได้หมด  เริ่มมั่ว อันไหนตอบแล้ว อันไหนยัง...

อยากจะแชร์ว่า   การก้าวเดินจากฐานรากของปิรามิดนั้นมันยาก  ยอดของปิรามิดแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน 

ผมเองปฏิสัมพันธ์ในแนวดิ่ง  และเคยทำงานตั้งแต่ เกษตรกร กุลี รับจ้าง ราชการ รับเหมา ผมเข้าใจพื้นฐานของชีวิตในระดับล่าง  จนถึงระดับกลาง 

การจะก้าวเข้าสู่ความมั่นคง(ของตนเอง)  มันยากลำบาก  โชคดีที่ผมพบทางของตัวเอง  ไม่จำเป็นที่จะต้องหาให้มาก  แต่ใช้จ่ายให้น้อย  มันก็จะพอกพูนขึ้นมาเอง   

สำหรับผม  ณ ปัจจุบัน   คิดว่าความมั่นคงในชีวิตตน -ครอบครัว  น่าจะไม่ต้องห่วงนัก  และผมยังคงปฏิบัติตนเองเช่นเดิม  แต่ละปีที่ตรวจสุขภาพ  ร่างกายยังสมบูรณ์  แข็งแรงดี แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว

ท่านอื่นอาจจะไม่เดินแบบผม  แต่ถ้าเดินแล้วสามารถเข้าสู่เป้าหมายตัวเองได้  นั่นก็ประสบความสำเร็จแล้วครับ

หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: tadto ที่ กันยายน 13, 2018, 10:04:21
จุดเปลี่ยนทางความคิดคนมักจะไม่ค่อยเหมือนกันครับ

จุดเปลี่ยนของผมคือเมื่อผมและแฟนป่วยกระทันหันกันทั้งคู่ครับ

ปีที่ผ่านมาเข้าออก รพ.กันเป็นว่าเล่น แฟนออกผมเข้า ผมออกแฟนเข้าต่อกันแบบนี้

เลยมามองอีกเรื่องนึงว่า ชีวิตมันสั้น ผมสองคนอายุไม่เยอะทั้งคู่ครับ ราวๆ30 ปลาย

ผมเลยมีคติว่า อยากทำอะไรที่ทำแล้วมันไม่เดือดร้อนตัวเอง จงทำเสียก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้ทำครับ

เก็บบ้างใช้บ้าง หาความสุขใส่ตัวเข้าไว้ครับ โรคภัยมันไม่แน่ไม่นอน

ชีวิตจะตายวันไหนก็ไม่รู้ ใช้ชีวิตให้ดีที่สุดดีกว่าครับ ดีกว่ามานั่งเสียใจทีหลังว่า "ถ้าวันนั้นเราได้......"

แต่ต้อง base ที่เงินของเรานะครับ ต้องไม่เดือดร้อนตัวเองและครอบครัวด้วย
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: MyBabe ที่ กันยายน 13, 2018, 10:20:28
ความฝันของผมตั้งแต่วัยหนุ่มๆคือเมื่อมีครอบครัวมีลูกก็อยากมีรถบ้านที่เดินไปเดินมาได้ทั่ว เวลาไปเที่ยวจะได้สบาย จะลุกมานั่งหน้าข้างคนขับบ้าง ลุกไปนอนด้านหลังบ้างก็ได้ มองหาก็ไม่เจอสักที (ราวๆสิบกว่าปีก่อน แต่เดี๋ยวนี้มีในไทยเยอะแยะเลย) แต่พอมามีลูกจริงๆ จุดยืนเลยต้องเปลี่ยนไป เพราะไม่มีเวลาพาไปเที่ยวเลย แถมต้องใช้เงินเยอะมาก เลยต้องหาแต่เงิน 555 กู้มาทำเงินอย่างเดียว มีเท่าไรก็ส่งให้กิจการหมด เลยซื้อได้แต่กระบะกับเก๋งเล็กสักคัน ไม่แน่พอลูกโตขึ้น อะไรๆเริ่มเข้าที่เข้าทาง จุดยืนอาจจะเปลี่ยนมาเหมือนแต่แรกก็เป็นได้ รถบ้านในฝัน คันใหญ่แบบ6ล้อไปเลย อิอิอิ
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: @MIN ที่ กันยายน 13, 2018, 11:17:30
ชีวิตคนเรา เท่านี้จริงๆ...

0 ขวบ เปิดฉากชีวิต
10 ขวบ สนุกสนานเติบโต
20 ขวบ ลังเลไม่แน่
30 ขวบ เข็มมุ่ง เห็นชัด
40 ขวบ มุ่งมั่นให้สำเร็จ
50 ขวบ สร้างความมั่นคง
60 ขวบ เกษียณอายุ
70 ขวบ ดูแลลูกหลาน
80 ขวบ นั่งๆ นอนๆ รอคอยการกลับบ้าน

ดังนั้น
อยากกิน .. กิน
อยากเที่ยว .. เที่ยว
เรื่องกลุ้มอย่าเก็บไว้
สุขสบายทุกเพลา
เวลาที่ยังจับมือไหว ให้เชิญเพื่อนมาสังสรรค์
เวลาที่ยังกอดไหว ให้โอบกอด ให้ชื่นใจ
ทำหน้าที่พ่อ แม่ ลูก สามี ภรรยา พี่ น้อง เพื่อนที่ดีต่อไป
เวลาอยู่ด้วยกัน อย่าได้โกรธกันง่ายๆ ...
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: mongolias ที่ กันยายน 13, 2018, 12:26:04
เข้ามาอีกรอบ

ผมว่าความชอบคนเรามันไม่เหมือนกัน
ใครชอบแบบไหน ทำแล้วมีความสุขก็ทำไปครับ กระทู้นี้ จขกท ตั้งเพื่อแชร์ ปสก ส่วนตัว ซึ่งผมว่ามีประโยชน์นะครับ เผื่อบางคนจะเอาไปปรับใช้ได้ครับ
ส่วนตัวผม เคยโดนทางครอบครัวภรรยาบ่นเหมือนกันว่า ใช้เงินเปลือง ชอบหาของกินแพงบ้าง ไปเที่ยวหรือซื้อของอะไรกันบ้างครับ
แต่ผมกับภรรยาก็ไม่เคยเถียงอะไรเค้า เรามองเหมือนกันว่า ในเมื่อเราหาเงินมาได้ ก็ให้รางวัลตัวเองบ้างครับ
ตอนนี้มีตัวเล็ก อาจจะประหยัดมากขึ้น เพื่อเก็บเงินให้เขา แต่ก็ยังมีให้รางวัลตัวเองบ้างเหมือนเดิมครับ

ตอนซื้อรถปีที่แล้ว ก็คิดเหมือนกันว่าจะโดนบ่น แต่ก็คิดว่า ถ้าไม่ซื้อตอนนี้ แก่ตัวไปก็ไม่มีปัญญาขับแล้วล่ะครับ
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: ttcl ที่ กันยายน 13, 2018, 12:31:20
ยินดีด้วยกับทุกท่านที่ค้นพบความต้องการของตัวเองในขณะนั้นๆ
และเห็นด้วยกับคุณ raygun ครับ ว่าความสุขของคนเราไม่เหมือนกัน

ตัวผมก็ไม่ใช้นาฬิกา ตั้งแต่มีมือถือก็ใช้ดูจากมือถือเอา
แต่ก็ไม่เคยมองว่าคนที่ชอบนาฬิกาหรือสะสมนาฬิกา เป็นคนฟุ่มเฟือยหรืออย่างไร
โดยไม่เกี่ยวกับว่านาฬิกานั้นจะลดค่าหรือเพิ่มมูลค่าด้วย
แค่ผมมองว่าความสุขของคนเราไม่เหมือนกัน
คนมีความสุขกับนาฬิกาก็ซื้อนาฬิกา คนมีความสุขกับการท่องเที่ยวก็เดินทางท่องเที่ยว ฯลฯ
ประเด็นสำคัญอยู่ที่ทำแล้วไม่เดือดร้อนต่อทั้งตนเองและคนอื่น ทั้งในปัจจุบันและอนาคต

ซึ่งการ "ไม่เดือดร้อนต่อทั้งตนเองและคนอื่น ทั้งในปัจจุบันและอนาคต"
ก็ต่างกันไปตามแต่ละบุคคล เนื่องจากเหตุปัจจัยของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
ทั้งทุนที่มีมาในอดีตของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน ทั้งความสามารถที่จะสร้างอนาคตก็ไม่เท่ากัน
จึงเอามาตรฐานของเราไปวัดคนอื่นไม่ได้

ความต้องการของผมในแต่ละช่วงก็เปลี่ยนไป
เว็บนี้เว็บรถ ก็ขอยกตัวอย่างเรื่องรถ

สมัยมัธยม มหาลัย ผมก็ชอบรถซีดานยุโรปใหม่ๆ 5 series , 7 series , e class ประมาณนี้
หลังจากนั้นก็ชอบรถคูเป้ เวลาผ่านไปก็ชอบรถสปอร์ต supercar
(แต่ในระหว่างช่วงเวลาข้างบน ก็มีช่วงที่ไปชอบรถตู้ด้วย เพราะช่วงนั้นเดินทางต่างจังหวัดทั้งครอบครัวบ่อย อยากให้คนในครอบครัวหลายคนได้นั่งสบายๆ)
แล้วพออยู่กับการลงทุนนานเข้า ก็ติดเอานิสัยในการลงทุนมาเป็นความชอบในรถด้วย
คือ ชอบเป็นพิเศษในรถที่มูลค่าไม่ค่อยตก หรือถ้ามูลค่าขึ้นด้วยก็ยิ่งชอบมากขึ้นไปอีก

ผมก็คล้ายๆคุณ sukhontha เรื่อง mustang
สมัยก่อนผมมีรถที่ชอบรุ่นนึง ตอนนั้นคิดว่าในอนาคตเมื่อมีเงินเกินราคารถป้ายแดงรุ่นนั้น
จะซื้อรถป้ายแดงรุ่นนั้นด้วยเงินผ่อน (อ้าว ทำไมอย่างนั้นล่ะ 55 คือ เอาเงินที่เหลือไปลงทุน มันได้ผลตอบแทนมากกว่าดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายไฟแนนซ์)

พอเวลานั้นมาถึงจริง ปัจจุบัน มีเงินเกินราคารถป้ายแดงรุ่นนั้นแล้วเช่นกัน
แต่ปรากฎเป้าหมายเปลี่ยนไปอีก กลายเป็นว่าตั้งเป้าในการลงทุนขยับขึ้นไปอีก
ความชอบในรถก็มีอยู่ แต่ตอนนี้เป้าหมายเรื่องการลงทุนมาก่อนรถ
พอถึงเป้าแล้วคงมาซื้อรถในฝันซักคัน ตอนนี้ก็ใช้รถที่มีอยู่ไปก่อน  :D
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ กันยายน 13, 2018, 15:39:27
ผมก็เปลี่นยไปนะ ตามอายุ ตามสิ่งที่ต้องรับผิดชอบที่เข้ามาในชีวิต แต่บางอย่างก็ไม่เปลี่ยน

ผมเชื่อเสมอว่าคนเรามีความบ้าทุกคน บ้าคนละเรื่อง แต่คนในนี้ คงบ้ารถเหมือนๆกัน อาจจะต่างกันที่ความเข้มข้น และแนวทางบ้าง เช่น บ้าแต่งรถ บ้าเครื่องเสียง บ้าโมดิฟายรถ บ้าดูรถ และบ้าติดตามเรื่องรถ เป็นต้น

และด้วยความบ้านี่เองครับ อาจจะทำให้คนเรายอมจ่ายเงินในเรื่องที่เราบ้าได้มากกว่าคนอื่นที่เค้าไม่ได้บ้าเรื่องเดียวกับเรา

เราอาจจะเคยได้ยินคนอื่นพูดว่า รถแพงๆ supercar ซื้อมาทำไม แพง ไร้สาระ ผมไม่เคยว่าคนพวกนั้นเลย เพราะเข้าใจ เค้าไม่ได้บ้ารถ แต่ถ้าถามผม ถ้าผมมีเงินเหลือเฟือ ผมก็ซื้อ ซื้อมาจอดเล่นๆ ผมก็จะซื้อ
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: Slipknot` ที่ กันยายน 13, 2018, 17:48:26
รถมือสองถ้าได้สภาพดียังไงก็คุ้ม เพราะซื้อถูก
ตอนขายก็ไม่เจ็บตัวเยอะเพราะเจ้าของมือแรกเจ็บมาให้แล้ว
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: JikorokunG ที่ กันยายน 14, 2018, 13:10:30
นุึกว่ามีผมคนเดียวที่คิดแบบนี้   รายได้พอๆกับเจ้าของกระทู้ ทุกอย่างที่พูดมามันจริง 555 ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: แชร์ เมื่อจุดยืนเปลี่ยนไป...
เริ่มหัวข้อโดย: XyteBlaster ที่ กันยายน 14, 2018, 14:44:55
ทำที่ชอบแล้วมีความสุขครับ ดีที่สุด ไม่เดือดร้อน เก็บตามสมควร ใช้ตามสมควรครับ