Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: กด9เพื่อกลับสู่เมนูหลัก ที่ ตุลาคม 03, 2018, 02:09:02

หัวข้อ: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: กด9เพื่อกลับสู่เมนูหลัก ที่ ตุลาคม 03, 2018, 02:09:02
ปี 2014 ผมซื้อ nissan teana 2.5 xv sunroof ตัวท็อป ราคา 1.6ล้าน
วันนี้ ใช้รถมาประมาณ4ปีนิดๆ ผมเอาไปให้เต้นท์ตีราคา เพื่อจะซื้อคันใหม่ เต้นท์รับไม่เกิน 7แสน (ไมล์ผม7หมื่นโล)
ในปี 2014 เป็นปีที่เพื่อนผมออก C-class และ ลุงผมออกอัลติส  (ทั้ง2คันนี้ ผมทำหน้าที่ไปเจรจาต่อรองให้)

ผมก็เลยแกล้งเอารถของลุง และเพื่อนไปตีราคาที่เต้นท์เดิม

ปรากฏว่า ในระยะเวลาการใช้รถประมาณ4ปี D-segment ราคาตกกว่ารถยุโรป (ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์) และตกมากกว่า C-segment มากๆ (คิดเป็นเปอร์เซ็นต์)

ถ้ามองในแง่ต้นทุนการใช้งาน และเงินที่หายไป ผมก็ไม่แปลกใจว่าทำไม ยอดขาย D-segment มันถึงลดลงเรื่อยๆ

ปัจจุบัน C-segment ก็คันใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ถ้าใช้งานขับคนเดียว หรือนั่งไม่เกิน4คน มันก็แทบไม่ต่างกันแล้วในแง่ขนาด

ส่วน compact ยุโรปราคาก็ลงมาใกล้กับ d-segment ญี่ปุ่นมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่รถยุโรปราคาจับต้องได้มากขึ้น แต่รถญี่ปุ่นกลับแพงขึ้นเรื่อยๆ
แถมความเข้าใจผิดของคนส่วนใหญ่ ที่คิดว่า รถยุโรปราคาตกมากกว่า กลายเป็นว่าความจริงวันนี้คือ รถ d-segment ญี่ปุ่น ราคาตกมากกว่ารถยุโรปอีก(คิดเป็นเปอร์เซ็นต์)

ผมก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ตลาดรถมือสองมันถึงเป็นแบบนี้ ผมคงไม่ไปหาเหตุผลอะไร ตอนนี้รู้แค่ว่า ถ้าใช้รถประมาณ5ปีแล้วขาย D-segment ญี่ปุ่น คือการซื้อที่ทำให้เกิดการขาดทุนมากที่สุดในบรรดากลุ่มรถทั้งหมด 

สำหรับคนที่ไม่สนใจเรื่องราคาขายต่อ ก็คงไม่มีผลอะไร
แต่สำหรับคนที่สนใจราคาขายต่อ(เช่นผม) เพราะผมต้องนำเงินก้อนนี้เป็นทุนในการไปซื้อรถคันใหม่
ผมจึงคิดว่า รถญี่ปุ่น d-segment คือรถที่ไม่คุ้มค่าที่สุดถ้ามองในแง่การเงิน และผมคิดว่าคนส่วนใหญ่ก็คงคิดเช่นเดียวกัน จึงทำให้ยอดขายรถกลุ่มนี้ตกต่ำลงทุกวันจนน่าใจหาย  และราคาขายต่อที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดินขนาดนี้ ก็ไม่ใช่ว่าจะเอาไปขายต่อเองได้ง่ายๆ  มันกลายเป็นรถที่ปล่อยมือสองยากที่สุดด้วย

หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: r0u0g0e0k ที่ ตุลาคม 03, 2018, 02:47:50
เพราะมันคือ นิสสันรึปล่าวครับ  เลยตกเเยอะ ต้องลองเทียบกับเซกเมนท์เดียวกันเเต่คนละค่ายดูครับ ว่าเค้าได้กันเท่าไหร่
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: Coat145 ที่ ตุลาคม 03, 2018, 02:51:07
    ในส่วนตัวผม ขายACV50 HV ไปต้นปีได้800000 รถปี2013 ซื้อมาตอนนั้น 1709000 เต๊นท์ตีมาแบบกลับบ้านไม่ทัน สุดท้ายขายคนรู้จักไป ส่วนL33 ผม 2.0XL ไมล์แสนโลแล้ว กะ ทำช่วงล่าง เก็บไว้ใช้สำรองยาวๆไปเรยครับ รถรักเจ้าของต้องทำใจค รับ
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: OXYGEN2 ที่ ตุลาคม 03, 2018, 05:10:18
เคยขาย CR-V Gen 4 ตอนยังไม่ตกรุ่น ราคาก็ตกสุดๆ เหมือนกันครับ รุ่น 2.4EL 4WD ใช้ 3 ปี วิ่ง 2 หมื่น ขายได้ 9 แสน หายไปน่าจะ 6 แสนครับ

ตอนนี้ผมคิดว่ารถญี่ปุ่นที่รับเรื่องราคาตกได้จะเป็น C-Segment ลงไป อย่าง Civic นี่กำลังดีเลย หรือจะเล่น Ecocar ก็ได้

แต่ถ้าให้ซื้อรถญี่ปุ่นราวๆ 1.5 ล้าน ผมขอเพิ่มเงิน(ผ่อน) อีกนิด แล้วไปหารถยุโรปตัว Entry ดีกว่าครับ ยังไงก็ได้ภาพลักษณ์ที่ดีกว่ารถญี่ปุ่นครับ
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: Magl ที่ ตุลาคม 03, 2018, 05:41:48
ตกหมดทุกยี่ห้อ แต่Nissan ตกเยอะกว่าเขาราวๆ 1 แสนบาท เพราะปล่อยยากกว่า เป็นโอกาสดีของคนซื้อมือสองสภาพดีๆมากกว่า คนส่วนใหญ่ใช้รถ d segment เป็นผู้ใหญ่มากกว่าวัยรุ่น ใช้รถถนอม รถสภาพสวยๆดีๆเยอะในราคาไม่ถึงล้าน ส่วนตัวผมยังชอบ d segment น่ะ ภายในมันอลังการกว่า c segment เยอะ ให้เลือกขับ civic ป้ายแดงกับ teana มือสอง ผมเอา teana
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: Nonlamer ที่ ตุลาคม 03, 2018, 06:13:53
Teana เข้าเต้นโดนกดยับครับ หรือค่าย Nissan ในส่วนของรถเก๋งก็เป็นครับ ตอนผมขาย Tiida อายุ 8 ปี เต้นท์ตีมาให้ 1 แสนถ้วนครับ คุยไปคุยมาได้แค่ 1.2 เลยหาปล่อยทางอื่นแทน ได้มา 2 แสนครับ (เต้นท์อยู่ดีครับ)

ลองสังเกตดูครับ ค่ายนี้ราคาตีเข้าเต้นท์ตกหนัก แต่ถ้าปีใหม่ๆเต้นท์จะตั้งขายแพงมาก แพงกว่า Accord/Camry ปีเดียวกันด้วยตอนที่ผมไล่หาดูเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ทั้งๆที่ราคาจากศูนย์มือ 1 ถูกกว่าคู่แข่ง (ณ ตอนนั้น)
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: Tien.W ที่ ตุลาคม 03, 2018, 07:19:35
C-segment นี่ราคาดีมาก โดยเฉพาะ civic รองมาก็ Altis

D-segment ตกค่อนข้างเยอะ แต่ นิสสัน ตกเยอะกว่าเพื่อน

พวก suv อย่าง CRV ก็หล่นแบบใจหายไม่แพ้กันนะครับ อาจจะดีกว่า Teana หน่อย แต่ถือว่า ตกมากมาย ถ้าเทียบกับ Mu-X, Fortuner ครับ (พวกนี้ราคาดีมาก)

ส่วนตัวกลับรู้สึกว่า D-segment มันรถคนแก่ ใหญ่เทอะทะ ไม่คล่องตัว แม้ภายในจะอลังการ วัสดุดีกว่าก็เถอะ การใช้งานก็ไม่ได้หลากหลายกว่า C-segment เลยเป็นเหตุกว่า ทำไมผมถึงเลือก suv แทน D-segment น่ะครับ เพราะอย่างน้อย suv ก็ยังอเนกประสงค์กว่า ทัศนวิสัยดีกว่า แม้วัสดุภายในจะสู้ไม่ได้ก็ตาม
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: auntoto ที่ ตุลาคม 03, 2018, 07:26:18
ประเด็นราคาตกก็ตามนั้นครับ แต่ที่บอกว่ารถยุโรปตอนนี้ราคาถูก แต่ญี่ปุ่นกลับแพงขึ้น
แปลว่าเมื่อก่อนรถยุโรปนี่กำไรต่อคันคงจะเยอะมากๆเลยนะครับ ถึงขนาดใส่เทคโนโลยี กับ เงินเฟ้อไปแล้ว ปัจจุบันยังทำราคาถูกลงได้ ;D >:( ;D
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: bodin ที่ ตุลาคม 03, 2018, 07:38:30
ผมใช้L33 คงใช้ยาวๆ10ปีขึ้นไป 8)

คันหน้าไม่เอาแล้วเพราะเมืองไทยมีน้ำรอระบายทั้งประเทศและไม่รู้ว่าต้องเจอวันไหน :-X :-X

คงเป็น SuvหรือMPV ที่มีระยะลุยน้ำท่วมได้ซัก 20-30cm พวกเตี้ยๆไม่เอาแล้ว
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: Amnaj ที่ ตุลาคม 03, 2018, 07:46:21
ถ้ามีงบซื้อ D-seg ผมเอา SUV หรือ PPV ดีกว่าตอบโจทย์ชีวิตได้
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: kiwiwi ที่ ตุลาคม 03, 2018, 07:54:00
เหตุผลข้อเดียวเลยครับ

เพราะมันไม่มีความต้องการของตลาดแล้ว

เอาแค่ป้ายแดง ยอดขายหลักร้อยต่อเดือน
แต่กลุ่ม c-seg ยอดขาย หลักพันต่อเดือน = เทียนน่า เมื่อหล่นมาจาก 1.6 เหลือ 1.1 คนก็ยังซื้อ c seg ป้ายแดง

เอ้า ในเมื่อ 1.1 ขายไม่ออก ลงมาอีกหน่อย ซัก 8-9 แสน
ก็ไปเจอตลาด sub compact suv ป้ายแดง ที่มียอดขายหลักพันต่อเดือน + c seg สภาพมือสองใหม่กริ๊ป คนรับไปขาย ก็คงเหนื่อย

สรุปง่ายๆเลย มันไม่มี demand เลยล่ะครับ

หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: Altima ที่ ตุลาคม 03, 2018, 07:57:47
ประเด็นราคาตกก็ตามนั้นครับ แต่ที่บอกว่ารถยุโรปตอนนี้ราคาถูก แต่ญี่ปุ่นกลับแพงขึ้น
แปลว่าเมื่อก่อนรถยุโรปนี่กำไรต่อคันคงจะเยอะมากๆเลยนะครับ ถึงขนาดใส่เทคโนโลยี กับ เงินเฟ้อไปแล้ว ปัจจุบันยังทำราคาถูกลงได้ ;D >:( ;D

จริงครับ ตอนที่ Mini ประกอบไทยมันยังจะราคาเท่ารถนำเข้าเลย ใครโง่พอที่จะเชื่อว่าBMWไม่ได้ตั้งราคาหลอกลูกค้าก็ผมเสียใจด้วย
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: NS ที่ ตุลาคม 03, 2018, 08:33:57
ในความคิดผม คนที่ออก D-Seg และรถยุโรปจะคิดถึงคุณภาพของตัวรถมากกว่า เพราะการได้นั่งรถดีสบายและรีแร็กซ์คือความคุ้มค่าของเงินที่จ่ายไป   :D
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: kiwiwi ที่ ตุลาคม 03, 2018, 08:36:28
ประเด็นราคาตกก็ตามนั้นครับ แต่ที่บอกว่ารถยุโรปตอนนี้ราคาถูก แต่ญี่ปุ่นกลับแพงขึ้น
แปลว่าเมื่อก่อนรถยุโรปนี่กำไรต่อคันคงจะเยอะมากๆเลยนะครับ ถึงขนาดใส่เทคโนโลยี กับ เงินเฟ้อไปแล้ว ปัจจุบันยังทำราคาถูกลงได้ ;D >:( ;D

จริงครับ ตอนที่ Mini ประกอบไทยมันยังจะราคาเท่ารถนำเข้าเลย ใครโง่พอที่จะเชื่อว่าBMWไม่ได้ตั้งราคาหลอกลูกค้าก็ผมเสียใจด้วย

อันนี้ เรียกว่า รู้เค้าหลอก แต่เต็มใจให้หลอก
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: recycleman ที่ ตุลาคม 03, 2018, 08:38:03
นิสสันถ้าเป็นเก๋ง ก็คงจะมีแต่อัลเมร่านั้นแหละครับที่ซื้อง่ายขายคล่อง ราคามือสองไม่ตกมาก

นอกนั้นราคาตีเต๊นท์ได้ยินแล้วอยากกลับบ้าน

หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: NoName__??? ที่ ตุลาคม 03, 2018, 08:46:09
D seg ตกไม่แปลก พฤติกรรมคนเริ่มเปลี่ยนไป SUV กันมากขึ้นแล้ว อะไรขายยากก็ราคาตกเป็นธรรมดา
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: No Trespassing ที่ ตุลาคม 03, 2018, 08:46:53
ไม่เฉพาะนิสสันหรอกครับ แอคคอร์ทผมก็เป็น

ตอนซี้อ G9 ไม่เนวิ MY2013 ป้ายแดงราคา 1.3 ล้าน
แต่ขายเต้นท์รับไม่เกิน 6 แสน

ต้องวิ่งขายอยู่พักใหญ่ ถึงจะได้ 6.6 แสน ขายกับโชว์รูมฮอนด้าแถวๆสุขา 3 รามคำแหง
รถใช้ทั้งหมด 5 ปี ไมล์ 8 หมื่น 

ที่ขายเพราะเบื่อมานั่งซ่อม สามวันดีสี่วันพัง สมกับชื่อแอคคอร์ทจริงๆ

เมื่อเทียบกับมาร์ช VL ปี 2012 ราคา 5.42 แสน แต่ขายออกปี 2016
ใช้ห้าปีเหมือนกัน แต่ขายได้ 2.7 แสน (หักค่าโอน ค่าบลาๆ เหลือ 2.6 นิดๆ)

D-Seg มือสอง รถขายยาก คนซี้อน้อย ต้องซ่อมบำรุงเยอะ อะไหล่ค่อนข้างแพง
ราคาจะตกก็ไม่แปลก 
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: testmaster ที่ ตุลาคม 03, 2018, 08:48:01
เฉพาะ nissan ครับคุณไปดู camry accord สิ
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: coolcarrera ที่ ตุลาคม 03, 2018, 09:04:35
เพราะการดันราคาขึ้นไปอย่างไม่มีเหตุผลของค่ายรถด้วยหรือเปล่าครับที่นับวันมือ 1 จะแพงขึ้นๆ (โดยเฉพาะ d-segment ที่มองยังไงราคารถก็ไม่น่าเลยล้านกลาง เลยเถิดไปถึงล้านปลายได้เลย) ซึ่งมันเกินมูลค่าที่แท้จริงของตัวรถไปมาก

พอมามือ 2 ราคาซื้อขายสะท้อน value ที่แท้จริงของตัวรถมากขึ้น เลยเป็นอย่างที่เห็น
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: stm ที่ ตุลาคม 03, 2018, 09:15:47
คนไทยส่วนใหญ่ รูปร่างเล็ก เช่นผม สูงแค่165 หนัก 70 
ผมเคยใช้ D seg แล้วรู้สึกว่ามันใหญ่เกินความจำเป็น ในขณะที่ใช้ C seg แล้วรู้สึกว่าพอดีๆ คล่องตัวกว่า
มาดูค่าใช้จ่าย D seg สุงกว่าทุกด้าน ค่าตัว ค่าซ่อม ค่าน้ำมัน ค่าเสื่อม ค่าทะเบียน ค่ายาง ในขณะที่ภาพลักษณ์ดีกว่า
แต่ผมไม่ได้สนใจเรื่องภาพลักษ์เลย  ตรงข้ามผมไม่อยากดูรวย (จริงๆก็ไม่ได้รวย) ดูรวยแล้วมันเหนื่อยหลายอย่าง
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: off_033 ที่ ตุลาคม 03, 2018, 09:16:25
เพราะการดันราคาขึ้นไปอย่างไม่มีเหตุผลของค่ายรถด้วยหรือเปล่าครับที่นับวันมือ 1 จะแพงขึ้นๆ (โดยเฉพาะ d-segment ที่มองยังไงราคารถก็ไม่น่าเลยล้านกลาง เลยเถิดไปถึงล้านปลายได้เลย) ซึ่งมันเกินมูลค่าที่แท้จริงของตัวรถไปมาก

พอมามือ 2 ราคาซื้อขายสะท้อน value ที่แท้จริงของตัวรถมากขึ้น เลยเป็นอย่างที่เห็น

มูลค่าที่แท้จริงของรถคิดยังไงครับ  ทำไมถึงบอกว่าไม่ควรเลยล้านกลาง

แล้วราคาควรจะเป็นเท่าไหร่ครับ 
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: spn ที่ ตุลาคม 03, 2018, 09:18:01
ด้วยอายุตลาดด้วย และ ราคา D - C segment ที่สูงขึ้น คนคงไปจบที่ C-Segment หรือ HRV CHR ดีกว่า กระแสรถยกสูงมันมาแรงจริงๆ
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: BOBBY_7 ที่ ตุลาคม 03, 2018, 09:24:46
ตลาดมือ 2 ราคาตกทุกกลุ่ม แต่จะมากน้อยขึ้นอยู่กับความต้องการตลาด
เป็นเรื่องที่เข้าใจกันว่าความต้องการน้อย และรถมือ 2ก็ล้น

-คนรุ่นใหม่ไม่สนใจรถมือ2 เหมือน10-20 ปีที่แล้ว เรียนจบทำงานใหม่ๆ หารถมือ 2ใช้ก่อน
ปัจจุบันค่ายรถก็ต้องการกลุ่มคนรุ่นใหม่  มีหลายรุ่นให้เลือกเยอะ.. ซื้อก็ง่าย ถูกจริต
เมื่อคนรุ่นหนึ่งหมดไป ยุครถมือ 2 ก็กำลังหมดไป

ผมมองว่าตลาดรถมือ 2 กลับมายาก ซื้อขายกันกลุ่มเล็กๆ
(อนาคตถ้าเลวร้าย อาจเหมือน ทีวี ตู้เย็น พังแล้วทิ้ง ไม่ซ่อม ไม่ขาย ขายได้ชั่ง กก.) :P
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: @MIN ที่ ตุลาคม 03, 2018, 09:32:48
มีงบซื้อรถราคา 9แสน - 1 ล้านบาท
ระหว่าง d segment มือสอง อายุ 4 ปี, วิ่ง 7 หมื่นโล กับ c segment ป้ายแดง ประกันยาว 3 ปี ..

ลองเอาคำถามนี้ ไปถามเพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง คนรอบข้างดู แล้วคุณจะได้คำตอบ ว่าคนส่วนใหญ่ เค้าเลือกอะไรกันครับ

คนส่วนใหญ่ ใครๆ ก็อยากขับป้ายแดงกันครับ นี่เป็นเหตุผลหลักๆ เลย
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: No Trespassing ที่ ตุลาคม 03, 2018, 09:33:41
เฉพาะ nissan ครับคุณไปดู camry accord สิ

D-Seg ทุกคันละครับ

แอคคอร์ท G9 ไม่เนวิของผม MY2013 ป้ายแดงราคา 1.3 ล้าน
แต่ขายเต้นท์รับไม่เกิน 6 แสน

กว่าจะขายได้ 6.6 วิ่งกันหูดับ รถสภาพดี ไม่มีชน ไม่มีทำสี

ที่เห็นขายๆกัน 7 - 7.5 แสน นั้นคือราคาหน้าเต้นท์ แต่รับซี้อจริงๆ 6 ต้นๆ ยัน 6 ปลายๆ
ขายแบบไม่เทิรน์รถ ยิ่งถูกกดราคาหนักครับ
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: Benzecar ที่ ตุลาคม 03, 2018, 10:41:19
D-seg เทียบเป็นตัวเงินหายไปเยอะแบบเห็นๆจริงครับ

เมื่อเดือนที่แล้วผมเพิ่งปล่อย Fortuner 2.7 4WD ปี 2005
สภาพสวย ไป ตอนที่ขายรถวิ่งไป 2.4 แสนกิโล

เอาเข้าไปตีราคาตามเตนท์ ให้ราคาตั้งแต่ 2.9-3.5แสน
ราคายังไม่โดนใจ ผมเลยมาปล่อยเองได้ราคา 3.95 แสน
รถใหม่ราคา1.2ล้าน ถือว่ารับได้

ราคาหายไป 67% ใช้มา13ปี เฉลี่ยตกไปปีละ 6.2หมื่น

อีกคัน แอคคอร์ด 2.4 EL ปี 2008 ราคาหล่นแบบน่าใจหายเลยครับ
ซื้อแพงกว่าคัน Fortuner 3แสน และปีรถยังใหม่กว่าอีก 3 ปี
แต่ขายตามเตนท์ตอนนี้น่าจะได้ซัก 4แสน พอๆกัน มันน่าช้ำใจ!!!
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: Narong Lith ที่ ตุลาคม 03, 2018, 10:45:18
มีงบซื้อรถราคา 9แสน - 1 ล้านบาท
ระหว่าง d segment มือสอง อายุ 4 ปี, วิ่ง 7 หมื่นโล กับ c segment ป้ายแดง ประกันยาว 3 ปี ..

ลองเอาคำถามนี้ ไปถามเพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง คนรอบข้างดู แล้วคุณจะได้คำตอบ ว่าคนส่วนใหญ่ เค้าเลือกอะไรกันครับ

คนส่วนใหญ่ ใครๆ ก็อยากขับป้ายแดงกันครับ นี่เป็นเหตุผลหลักๆ เลย

เป็นอะไรที่เห็นภาพมากเลยครับท่าน ตรงประเด็นเด๊ะ
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: tvm ที่ ตุลาคม 03, 2018, 10:46:12
ความนิยมถดถอย ราคาเลยตกครับ
น่าจะไม่ใช่ราคาตก คนเลยไม่นิยม 555
ผมก็ อดีต J32
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: e:smart Hybrid ที่ ตุลาคม 03, 2018, 11:08:17
ตลาดมือ 2 ราคาตกทุกกลุ่ม แต่จะมากน้อยขึ้นอยู่กับความต้องการตลาด
เป็นเรื่องที่เข้าใจกันว่าความต้องการน้อย และรถมือ 2ก็ล้น

-คนรุ่นใหม่ไม่สนใจรถมือ2 เหมือน10-20 ปีที่แล้ว เรียนจบทำงานใหม่ๆ หารถมือ 2ใช้ก่อน
ปัจจุบันค่ายรถก็ต้องการกลุ่มคนรุ่นใหม่  มีหลายรุ่นให้เลือกเยอะ.. ซื้อก็ง่าย ถูกจริต
เมื่อคนรุ่นหนึ่งหมดไป ยุครถมือ 2 ก็กำลังหมดไป

ผมมองว่าตลาดรถมือ 2 กลับมายาก ซื้อขายกันกลุ่มเล็กๆ
(อนาคตถ้าเลวร้าย อาจเหมือน ทีวี ตู้เย็น พังแล้วทิ้ง ไม่ซ่อม ไม่ขาย ขายได้ชั่ง กก.) :P

+1 ครับ ยุคสิบกว่าปีก่อน ที่ มือ 2 มันบูม เพราะว่ารถเมื่อเทียบกับค่าครองชีพแพงด้วยครับ

ผมก็เคยซื้อ AE101 สามห่วงสีเขียวขี้เป็ด สุดเชย มาในราคา 2.3 แสน (แพงมากๆ)

ซึ่งยุคนี้ผมเพิ่มงบอีกนิด ได้มือ 2 almera ไม่เกิน 5 ปีละ

ราคายุคนี้สมเหตุผลมากขึ้นครับ คือ ลงปีละ 10%

ไม่เฉพาะนิสสันหรอกครับ แอคคอร์ทผมก็เป็น

ตอนซี้อ G9 ไม่เนวิ MY2013 ป้ายแดงราคา 1.3 ล้าน
แต่ขายเต้นท์รับไม่เกิน 6 แสน

ต้องวิ่งขายอยู่พักใหญ่ ถึงจะได้ 6.6 แสน ขายกับโชว์รูมฮอนด้าแถวๆสุขา 3 รามคำแหง
รถใช้ทั้งหมด 5 ปี ไมล์ 8 หมื่น 

ที่ขายเพราะเบื่อมานั่งซ่อม สามวันดีสี่วันพัง สมกับชื่อแอคคอร์ทจริงๆ

เมื่อเทียบกับมาร์ช VL ปี 2012 ราคา 5.42 แสน แต่ขายออกปี 2016
ใช้ห้าปีเหมือนกัน แต่ขายได้ 2.7 แสน (หักค่าโอน ค่าบลาๆ เหลือ 2.6 นิดๆ)

D-Seg มือสอง รถขายยาก คนซี้อน้อย ต้องซ่อมบำรุงเยอะ อะไหล่ค่อนข้างแพง
ราคาจะตกก็ไม่แปลก 

March เหมือนกันครับ รถ 6 ปีกว่าๆ

รุ่น E CVT สีเงิน ราคา 4.59 แสน

ขายได้ 2.03 แสน ผมว่าไม่แย่ แต่คิดว่าถ้าไม่ใช่ นิสสัน น่าจะราคาดีกว่านี้
และความที่เป็น Eco car เลยขายได้ดีและง่ายกว่านิสสันทั่วไปมาก
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: mongolias ที่ ตุลาคม 03, 2018, 11:36:31
ตัวเลือกรุ่นล่างๆมันเยอะขึ้น มีรถมือ 1 ให้เลือกเล่นได้หลากหลาย
รถแต่ละ Segment ก็ขยายขนาดขึ้นเรื่อยๆ C-segment นั่งสบายขึ้น
ราคาน้ำมันแพง หลายคนอยากหารถที่ประหยัดมากขึ้น
ความนิยมรถ SUV , PPV
พวกนี้เป็นปัจจัยที่ทำให้ราคา D-Segment มันตกมากครับ
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: bankiesdluffy ที่ ตุลาคม 03, 2018, 11:53:59
เคสนี้ เพราะมันคือ Nissan Teana รึป่าวครับ...
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: Symphonic ที่ ตุลาคม 03, 2018, 12:30:10
เร็วๆ นี้ เพิ่งมีคนตั้งกระทู้ว่าราคารถมือสองในเมืองไทยมันแพงไปไงครับ

#โลกคู่ขนาน
#ความย้อนแย้งของกระทู้

หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: bingoman ที่ ตุลาคม 03, 2018, 13:21:35
D-segment ราคาตกเยอะกว่า segment อื่น - ใช่

แต่ของจขกท. มัน Teana ด้วยครับ  จุดนี้ต้องเข้าใจว่าราคาร่วงกว่าคู่แข่งไปอีก แล้วยิ่งเป็นตัวแรง ราคาแพงตอนมือ1  อันนี้ผมเห็นด้วยว่ามันตั้งราคาเว่อเกินไป  ราคาเกิน 1.5 ล้าน คือการแสวงหาผลกำไรแบบน่าเกลียดพอสมควร  ถ้าเทียบกับรุ่นเดียวกันตัวล่าง เครื่องเล็ก ที่ราคา 1 ล้านต้นๆ
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: flat6 ที่ ตุลาคม 03, 2018, 13:57:02
ไม่ใช่ค่ายอื่นตกไม่เยอะนะครับ แต่ Teana ตกเยอะสุด

ผมเล็งๆ ไว้ปีก่อนแล้วว่าจะซื้อ แต่ตอนนั้นเห็นขายกันประมาณ 8-9 กว่าๆ (เครื่อง 2.5)

ปีนี้ 7 กว่าๆ แล้ว ก็คงรับต่ำกว่า 7 ตามที่ว่าแหละครับ

จริงๆ Segment นี้ผมชอบ Camry 2.0 ตัวเครื่องใหม่นะ แต่ราคาแข็งจริงๆ ลองดูครับ
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: +@ Krishna @+ ที่ ตุลาคม 03, 2018, 14:19:44
ความต้องการคนไม่เหมือนกัน ผมว่า D segment มันขับสบายนุ่มนะครับ ยิ่งทางไกลนี่สบายเลย
ถ้าราคาตกเยอะ
ควรหามือสองสภาพดี อายุ 2-3 ปี มาขับชิล ๆ ไปอีก 5 ปีสบายเลย  8)

แต่ถ้าซื้อมือ 1 ผมมอง ppv / suv อ่ะครับ  8)
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: No Trespassing ที่ ตุลาคม 03, 2018, 15:41:24

March เหมือนกันครับ รถ 6 ปีกว่าๆ

รุ่น E CVT สีเงิน ราคา 4.59 แสน

ขายได้ 2.03 แสน ผมว่าไม่แย่ แต่คิดว่าถ้าไม่ใช่ นิสสัน น่าจะราคาดีกว่านี้
และความที่เป็น Eco car เลยขายได้ดีและง่ายกว่านิสสันทั่วไปมาก

ผมชิงปล่อยมาร์ชตอนครบห้าปีเมื่อช่วงเมษายน ปี 2017 ครับ

ตอนที่ผมขาย โครงการรถคันแรก 90% ยังไม่สามารถเปลื่ยนมือได้ (รวมถึงบางส่วนที่ครบกำหนดแล้วแต่ไม่สามารถเปลื่ยนมือได้ เพราะติดล็อคที่กรมสรรพสามิต เป็นข่าวอยู่พักนึง)
https://www.khaosod.co.th/car-vehicle/news_732114

และผมซี้อรถช่วงมีนาคมปี 2012 ตอนที่คนยังเฉยๆกับโครงการ เลยได้สิทธิปล่อยรถเร็ว

รวมถึงตัวรถเป็นรุ่นท้อป VL ตัวปรับอุปกรณ์ ใช้แค่สามหมื่นโลนิดๆ เข้าศูนย์ตลอด
ผมขายแบบเทืรน์รถ แก้มบังคับไปว่า ถ้าไม่ได้ 2.7 แสนก็ไม่เอา และจะไม่ซี้อรถใหม่ด้วย

สุดท้ายก็ได้ราคานี้ครับ
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment
เริ่มหัวข้อโดย: simcity ที่ ตุลาคม 03, 2018, 15:52:49
เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ และ หลายๆ ความเห็นครับ

อย่าลืมว่าคนไทยซื้อรถ มักจะเอางบประมาณเป็นตัวตั้ง

เช่นมีงบ 1.5 ล้าน ซื้ออะไรดี ดังนั้น D-segment ก่อนหน้านี้ คู่แข่งมีแค่เพื่อนต่างค่าย

จะซื้อ Accord ก็เทียบแค่ Camry, Teana

แต่เด่วนี้ SUV, PPV ในช่วง Range ราคานี้ มีเต็มไปหมด เลยมาแย่งส่วนแบ่งตรงนี้ไป

รวมถึง รถยุโรปตัวล่างๆ ดัมพ์ราคาลงมา 2 ล้าน +- ได้ขับยุโรปป้ายแดงแล้ว

บางยี่ห้อ Maintenance ฟรีอีก  ตลาด D-segment เลยค่อยๆ เล็กลงเรื่อยๆ 
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: Carrera ที่ ตุลาคม 03, 2018, 16:49:27
ยุโรปใครว่าไม่ตก   ยิ่งพวก Hybrid นี่จุก  ราคารับซื้อเข้าก็โดนกด  ถ้าโพสขายเองก็อาจจะพอทน

ผมว่ามันลงกันหมดตอนนี้ บรรดา Sedan เพราะคนเริ่มทยอยไปขับ SUV กันหมดละ
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: voyager ที่ ตุลาคม 03, 2018, 17:00:38
สำหรับผม ที่ขายอยู่เครื่องยนต์ล้าสมัย ประสิทธิภาพต่ำเกินไป
ถ้ามี เครื่องสองพัน เทอรโบ  260 HP  Co2<150
ขายราคาไม่เกิน 1.6 ล้าน จะน่าสนใจขึ้นมากทีเดียว
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: Auto Messe ที่ ตุลาคม 03, 2018, 17:40:44
ถ้าจะเอาความกว้างนั่งสบาย รถ ppv หรือกระบะ มันกว้างพอๆกับรถ d segment แค่ความนุ่มนวลสดวกสบายอาจจะไม่เท่า แต่ความทนทานและค่าบำรุงรักษานี่ถูกกว่าเยอะ
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: Slipknot` ที่ ตุลาคม 03, 2018, 18:10:11
ตกมานานแล้วครับ มือสองไม่เป็นที่ต้องการของตลาด
ใครชอบDsegment ไม่แคร์ใช้ของต่อคนอื่น มือสองนี่แหละคุ้ม
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: golf8023 ที่ ตุลาคม 03, 2018, 18:49:53
G9 Hybrid Tech ตัวล่าสุด ใช้มาเกือบ2ปี ไมล์4หมื่น
ขายหน้าเฟส1.25ล้าน (รถบ้านด้วย)
แบบนี้ถือว่าราคาตกมากมกั้ยครับ
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: tongtom ที่ ตุลาคม 03, 2018, 19:56:51
โอกาส ของคนจ้องจะซ์ื้อมือสอง เหมือนกันนะครับ แค่ว่ารถสวยไหม ประวัติดีไหม แล้วก็หาคนซื้อเจอคนที่จะซ้อไปใช้จริงๆได้ไหม ...

ผมยังเล็ง 2.5xv sport navi อยุ่เลย มีอยุ่คันนึง ที่สำคัญผมไม่สนใจสี ว่าจะสีอะไรราคาดี ผมสนใจแค่ รุ่น สภาพ ซื้อมาใช้ได้ดี พอละ...


ส่วนเต็นท์นี่ สีน้ำเงิน ไม่เอา สีดำ เอาบ้าง สีขาวเอาเลย .... หลายๆอย่างก็ตามตลาดครับ
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: BN` ที่ ตุลาคม 03, 2018, 21:11:54
ณ ปัจจุบัน D-Segment ถ้าซื้อให้คุ้มต้องซื้อมือสองครับ

ถ้าซื้อมือหนึ่งต้องใช้ยาว อย่างน้อยๆต้อง 7-10 ปีถึงจะคุ้ม

อีกอย่างตอนนี้หลายคนก็ยอมเพิ่มเงินไปออกรถยุโรปแทนครับ

จ่ายประมาณ 1 ล้านปลายๆ - 2 ล้านต้นๆ ก็ได้ขับรถยุโรปพรีเมี่ยมแล้วครับ

ดังนั้นความต้องการรถ D-Segment ในตลาดจึงลดลง
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: BigCat ที่ ตุลาคม 03, 2018, 23:48:18
หัวอกเดียวกันครับ กับ จขกท
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: Fat ที่ ตุลาคม 04, 2018, 00:40:38
คัมรี่ไฮบริด โฉมปัจจุบันก่อน mc ปี12-13 เต็นท์รับเข้า 5แสนกลางๆนี่ยิ่งไม่หนักกว่าหรอครับ แต่ผมไม่รู้รายละเอียดรุ่นย่อย ออกป้ายแดงก็ 1.6-1.8 ล้าน แต่ราคาขายหน้าเต็นท์เห็นอยู่7แสนต้น ต่ำกว่า7แสนก็มีให้เห็น

ผมว่ายุคนี้คนที่พอมีตังค์ ไปออกป้ายแดงกันหมด ใครก็อยากใช้รถใหม่ๆกัน หมดปัญหาเรื่องซ่อมรถ เรื่องเจอรถย้อมแมวสภาพไม่ดี 

ผมว่า d-seg หลายคนที่เข็ดกับความจุกจิกของยุโรป จะกลับมาใช้ ยอดขายน้อยๆในอนาคตไม่แน่ อาจจะเป็นที่ต้องการในตลาดก็ได้ครับ
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: mothsan ที่ ตุลาคม 04, 2018, 12:46:06
D segement Genใหม่ ญป ที่จะมาตัวท๊อปราคาก็ไม่ควรเกิน 1.8 ล้านแล้วครับ ถ้าเกินนี้ไปรถยุโรปกันหมด
พอโดนราคาอะไหล่แพง ก็จะกลับมา SUV ญป แทน หรืออาจจะไป C segment ที่คันใหญ่ๆแทน
สรุปอนาคตในไทย รถคงมีแค่ (ตามราคา)
Eco car (B segment) > C segment > Crossover > SUV/PPV > Compact ยุโรป
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: Arado_kung ที่ ตุลาคม 04, 2018, 17:02:29
ตลาดมือ 2 ราคาตกทุกกลุ่ม แต่จะมากน้อยขึ้นอยู่กับความต้องการตลาด
เป็นเรื่องที่เข้าใจกันว่าความต้องการน้อย และรถมือ 2ก็ล้น

-คนรุ่นใหม่ไม่สนใจรถมือ2 เหมือน10-20 ปีที่แล้ว เรียนจบทำงานใหม่ๆ หารถมือ 2ใช้ก่อน
ปัจจุบันค่ายรถก็ต้องการกลุ่มคนรุ่นใหม่  มีหลายรุ่นให้เลือกเยอะ.. ซื้อก็ง่าย ถูกจริต
เมื่อคนรุ่นหนึ่งหมดไป ยุครถมือ 2 ก็กำลังหมดไป

ผมมองว่าตลาดรถมือ 2 กลับมายาก ซื้อขายกันกลุ่มเล็กๆ
(อนาคตถ้าเลวร้าย อาจเหมือน ทีวี ตู้เย็น พังแล้วทิ้ง ไม่ซ่อม ไม่ขาย ขายได้ชั่ง กก.) :P

+1 ครับ ยุคสิบกว่าปีก่อน ที่ มือ 2 มันบูม เพราะว่ารถเมื่อเทียบกับค่าครองชีพแพงด้วยครับ

ผมก็เคยซื้อ AE101 สามห่วงสีเขียวขี้เป็ด สุดเชย มาในราคา 2.3 แสน (แพงมากๆ)

ซึ่งยุคนี้ผมเพิ่มงบอีกนิด ได้มือ 2 almera ไม่เกิน 5 ปีละ

ราคายุคนี้สมเหตุผลมากขึ้นครับ คือ ลงปีละ 10%

ไม่เฉพาะนิสสันหรอกครับ แอคคอร์ทผมก็เป็น

ตอนซี้อ G9 ไม่เนวิ MY2013 ป้ายแดงราคา 1.3 ล้าน
แต่ขายเต้นท์รับไม่เกิน 6 แสน

ต้องวิ่งขายอยู่พักใหญ่ ถึงจะได้ 6.6 แสน ขายกับโชว์รูมฮอนด้าแถวๆสุขา 3 รามคำแหง
รถใช้ทั้งหมด 5 ปี ไมล์ 8 หมื่น 

ที่ขายเพราะเบื่อมานั่งซ่อม สามวันดีสี่วันพัง สมกับชื่อแอคคอร์ทจริงๆ

เมื่อเทียบกับมาร์ช VL ปี 2012 ราคา 5.42 แสน แต่ขายออกปี 2016
ใช้ห้าปีเหมือนกัน แต่ขายได้ 2.7 แสน (หักค่าโอน ค่าบลาๆ เหลือ 2.6 นิดๆ)

D-Seg มือสอง รถขายยาก คนซี้อน้อย ต้องซ่อมบำรุงเยอะ อะไหล่ค่อนข้างแพง
ราคาจะตกก็ไม่แปลก 

March เหมือนกันครับ รถ 6 ปีกว่าๆ

รุ่น E CVT สีเงิน ราคา 4.59 แสน

ขายได้ 2.03 แสน ผมว่าไม่แย่ แต่คิดว่าถ้าไม่ใช่ นิสสัน น่าจะราคาดีกว่านี้
และความที่เป็น Eco car เลยขายได้ดีและง่ายกว่านิสสันทั่วไปมาก
ยี่ห้ออื่นก็ร่วงครับ Revo 2.4E+ 4ประตูออกป้ายแดงมา8แสนกว่า รถ2ปีเตนท์ตีเข้า4แสนปลายไม่ถึง5แสนแล้วครับ ราคาขายหน้าเตนท์กับตามเวปขายรถ 5.5-6แสนไม่เกินนี้เหมือนกัน
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: LateTeenager ที่ ตุลาคม 04, 2018, 17:18:03
ผมใช้Civic Turbo RS 2ปี ไมล์25000กม. กะว่าจะเปลี่ยนเป็นcx-5 เจอราคารับซื้อ760,000บาท ถอยแทบไม่ทันเลย
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: boy_mubmub ที่ ตุลาคม 05, 2018, 12:23:26
อย่าคิดมากครับ มันตกทุกยี่ห้อ ทุุกรุ่นแหล่ะ  ยิ่งรถแพงยิ่งตกมาก  พอมาคิดสัดส่วนเลยดูตกมากกว่ามากกกก
320i F30  ผมใช้2ปี 2014-2016   จาก 2.2 ล้าน เต็นให้ 1.3ล้าน
mazda3 BL 2.0   2012-2016   จาก 1.06 ล้าน เต็นตีให้ 3.6แสน
520d M sport F10   ปี 2016-2018   จาก 3 ล้าน ( ราคาเต็ม 3.6 ล้าน )  เดือนก่อน เต๊นตีให้ 1.6 ล้าน

ทุกคันที่ผมมี ราคาตกกว่าเทียนาของ จขกท อีกครับ
ยิ่งรถราคาแพงยิ่งโดนกดเยอะครับ
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: AuNaraKa ที่ ตุลาคม 05, 2018, 12:38:59
ประเด็นราคาตกก็ตามนั้นครับ แต่ที่บอกว่ารถยุโรปตอนนี้ราคาถูก แต่ญี่ปุ่นกลับแพงขึ้น
แปลว่าเมื่อก่อนรถยุโรปนี่กำไรต่อคันคงจะเยอะมากๆเลยนะครับ ถึงขนาดใส่เทคโนโลยี กับ เงินเฟ้อไปแล้ว ปัจจุบันยังทำราคาถูกลงได้ ;D >:( ;D

จริงครับ ตอนที่ Mini ประกอบไทยมันยังจะราคาเท่ารถนำเข้าเลย ใครโง่พอที่จะเชื่อว่าBMWไม่ได้ตั้งราคาหลอกลูกค้าก็ผมเสียใจด้วย

Mini ประกอบไทยราคาลง 8 แสนบาทนะครับ ก่อนจะด่าใครโง่ ดูตัวเองด้วยนะ
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ ตุลาคม 05, 2018, 22:26:20
ราคามือสอง สะท้อนความต้องการของตลาดจริงๆ
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: oatekung ที่ ตุลาคม 05, 2018, 22:50:32
ซื้อ d seg ยังไงผมก็ว่าขยับไปยุโรปตัวเริ่มต้นดีกว่า
ภาพลักษณ์ และ performance การขับดีกว่าเยอะ
ถ้างบยังไม่พร้อม ซื้อc seg หรือตัวที่เล็กลงมาหน่อยก็ได้ อย่าง chr โคตรน่าขับเลย  แต่ที่ตกหนักจริงๆ คงเป็นที่ยี่ห้อนิสสันด้วยแหละ เต๊นท์ตีราคาแล้วอยากกลับบ้านเลย
หัวข้อ: Re: วันนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม D-segment ถึงค่อยๆตายไปจากตลาด เมื่อเอาเทียน่าไปตีราคา
เริ่มหัวข้อโดย: Azur3 ที่ ตุลาคม 11, 2018, 12:56:13
ราคารถก็ตกทุกรุ่นแหละครับ ซื้อถูกขายแพงมันเป็นอาชีพเค้า จริงๆแล้วผมว่าเดี๊ยวนี้คนนิยมพวก

ครอสโอเวอร์หรือ ppv suv ซะมากกว่าเพราะมันสะดวกกว่า สมัยนี้ฝนตกแป๊ปๆน้ำขังซะสูงเลย