Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: MoO Cnoe ที่ ตุลาคม 30, 2018, 09:17:47
-
Preview ผลทดสอบ อัตราเร่ง อัตราสิ้นเปลือง Toyota Camry 2.5 Hybrid
Dynamic Force THS II (TNGA) พร้อมตารางเปรียบเทียบกับคู่แข่ง
ใน Segment เดียวกัน
อ่านข้อมูลทั้งหมดได้ที่นี่
http://www.headlightmag.com/preview-acce-fuel-toyota-camry-hybrid-tnga/
(https://www.img.in.th/images/50c1f476bd05c7251ca74d45124dd1a5.jpg)
-
อัตราเร่ง0-100นี้ไม่ว้าวมากครับ แต่ 80-120 5 วิกว่าเลยทีเดียว ที่พีคสุดคือ ประหยัดน้ำมันมากกก มากกว่าเดิมตั้ง 3โลลิตรแหน่ะ
-
ไมล์เพี้ยนมากกก
-
จากที่ลองขับที่ jpn ก้ว่ามันพอได้อยู่นะอัตราเร่ง พอมาเห็นตัวเลขก้ดูธรรมดาไปนิดแทบไม่ได้เหนือกว่า ไฮบริด G9 แต่โดยรวมโอเคนะผมว่า พอได้ลงตัวอยู่แถมประหยัดด้วย มีใครพอรู้มั้ยครับว่าแบตเตอรี่ตัวที่ขายใน jpn & usa เหมือนกับตัวที่ขายในไทยมั้ย สำหรับไฮบริด
-
น่าจะทำเวอร์ชั้นที่จูนเครื่องเหมือนกับ 2.5G แต่ว่ามีเครื่องไฟฟ้ามาช่วยทำให้แรงม้าไป 240-250
-
เกียร์ D : Normal Mode อัตราเร่ง 0-100 km/h ทำได้เฉลี่ย 8.84 วินาที อัตราเร่ง 80-120 km/h ทำได้เฉลี่ย 5.72 วินาที
เกียร์ D : Sport Mode อัตราเร่ง 0-100 km/h ทำได้เฉลี่ย 8.76 วินาที อัตราเร่ง 80-120 km/h ทำได้เฉลี่ย 5.66 วินาที
ต่างกันแค่เสี้ยววินาที ปุ่มนี้แลดูไม่จำเป็นเลยเสียเวลากด
-
ขอบคุณครับ
ไวแท้พี่น้องงงง :-*
-
คิดว่า 0-100 ของรุ่น hybridg จะต่ำกว่า 8, รอ ผล อัตราสิ้นเปลืองกับอัตราเร่งของ 2.5 G สนใจ จดจ่อกับตัวนี้..
-
ดูอัตราสิ้นเปลืองสิ ประหยัดดีจัง
เดาว่า เพราะบอดี้หนัก แล้วก็ รถกลุ่มนี้ มันรถผู้บริหาร ไม่เน้นออกตัวดึงหลังติดเบาะอยู่แล้ว เซ็ทให้ออกนุ่มๆ แต่ลอยตัวแล้ว ถ้าต้องแซง ก็กดแล้วหายเลยดีกว่า ไปแบบนุ่มๆ
-
ถ้าไม่ติดว่าเป็น Dsegment สเป็คนี้น่าใช้มากๆ
-
- ชอบการตลาด toyota ยุคนี้นะครับ เปิดตัวปุ๊ป มีรถเทสปั๊ป ไม่เหมือนบางยีห้อ เปิดตัววันนี้อีก หลายเดือนกว่าจะขายจริง
- 80-120 เร็วดีครับ ประหยัดน้ำมันอีก ดูน่าสนใจมาก
ปล. คันนี้กระแสดี อาจจะดึงความต้องการ d segment กลับมาได้อีกครั้ง
-
คาใจนิดนึงครับ เรื่องการทดสอบ
รถแต่ละรุ่นไมล์เพี้ยนไม่เท่ากัน
คันไหนไมล์อ่อน ก็เอาตัวเลขสวยๆไปครอง
ทางทีมงานขับรถเทียบค่า GPS
ถ้าชดเชยค่าให้เท่ากันจะดีมั้ย
มันจะได้ตัวเลขแท้จริงทั้ง อัตราเร่ง ระยะทาง ความสิ้นเปลือง
ทีมงานว่าไงครับ
-
เกียร์ D : Normal Mode อัตราเร่ง 0-100 km/h ทำได้เฉลี่ย 8.84 วินาที อัตราเร่ง 80-120 km/h ทำได้เฉลี่ย 5.72 วินาที
เกียร์ D : Sport Mode อัตราเร่ง 0-100 km/h ทำได้เฉลี่ย 8.76 วินาที อัตราเร่ง 80-120 km/h ทำได้เฉลี่ย 5.66 วินาที
ต่างกันแค่เสี้ยววินาที ปุ่มนี้แลดูไม่จำเป็นเลยเสียเวลากด
คิดเหมือนกันเลย คงเอาไว้เล่นสนุกๆ แก้ง่วง
-
คาใจนิดนึงครับ เรื่องการทดสอบ
รถแต่ละรุ่นไมล์เพี้ยนไม่เท่ากัน
คันไหนไมล์อ่อน ก็เอาตัวเลขสวยๆไปครอง
ทางทีมงานขับรถเทียบค่า GPS
ถ้าชดเชยค่าให้เท่ากันจะดีมั้ย
มันจะได้ตัวเลขแท้จริงทั้ง อัตราเร่ง ระยะทาง ความสิ้นเปลือง
ทีมงานว่าไงครับ
คิดแบบนี้เหมือนกันเลยครับผม
เอาแค่อัตราสิ้นเปลืองก็ได้ครับ จับที่ความเร็ว110บนgpsเดียวกัน
เพราะถ้าจับไปถึงอัตราเร่งอาจจะลำบากคนจับเวลา
-
เกียร์ D : Normal Mode อัตราเร่ง 0-100 km/h ทำได้เฉลี่ย 8.84 วินาที อัตราเร่ง 80-120 km/h ทำได้เฉลี่ย 5.72 วินาที
เกียร์ D : Sport Mode อัตราเร่ง 0-100 km/h ทำได้เฉลี่ย 8.76 วินาที อัตราเร่ง 80-120 km/h ทำได้เฉลี่ย 5.66 วินาที
ต่างกันแค่เสี้ยววินาที ปุ่มนี้แลดูไม่จำเป็นเลยเสียเวลากด
Sport modeไม่ได้มีไว้ 0-100 เท่านั้น. แต่มันคือ. การตอบสนองในสถานการณต่างๆจ่ะ
-
ไมล์เพี้ยนมากกก
ผมว่ามันก็เท่ามาตรฐานโตโยต้านะ คือ เพี้ยน7%เกือบทุกรุ่น
ถ้าไม่เชื่อคุณลองย้อนไปดูที่เทสอัตราเร่งของโตโยต้าทุกรุ่นดูสิ มันก็ประมาณนี้หมด
อันน้อยเพี้ยนน้อยกว่ามาตรฐานด้วยนะ แค่6.5
-
คาใจนิดนึงครับ เรื่องการทดสอบ
รถแต่ละรุ่นไมล์เพี้ยนไม่เท่ากัน
คันไหนไมล์อ่อน ก็เอาตัวเลขสวยๆไปครอง
ทางทีมงานขับรถเทียบค่า GPS
ถ้าชดเชยค่าให้เท่ากันจะดีมั้ย
มันจะได้ตัวเลขแท้จริงทั้ง อัตราเร่ง ระยะทาง ความสิ้นเปลือง
ทีมงานว่าไงครับ
คิดแบบนี้เหมือนกันเลยครับผม
เอาแค่อัตราสิ้นเปลืองก็ได้ครับ จับที่ความเร็ว110บนgpsเดียวกัน
เพราะถ้าจับไปถึงอัตราเร่งอาจจะลำบากคนจับเวลา
อัตราสิ้นเปลืองจับจากระยะทางจริงนี้ครับ ไม่ได้วัดจากไมล์รถ เพราะงั้นเรื่องไมล์เพี้ยนไม่มีผลกับอัตราสิ้นเปลือง
แล้วก็ถึงไมล์จะเพี้ยน แต่ไมล์เลสตรงนะ ลองเอาไปวัดระยะทางเทียบกับหลักกิโลดูได้เลย
-
จริงๆก็อยากให้ปรับให้ใช้เครื่องวัด 0-100 จะได้มี standard หน่อยแต่ว่ามันก็จะเสียความคลาสสิกไป
แล้วก็จริงๆอันนี้ไมล์เพี้ยนน้อยแล้วนะครับ toyota ตะก่อนเพี้ยนเยอะกว่านี้อีก
-
คาใจนิดนึงครับ เรื่องการทดสอบ
รถแต่ละรุ่นไมล์เพี้ยนไม่เท่ากัน
คันไหนไมล์อ่อน ก็เอาตัวเลขสวยๆไปครอง
ทางทีมงานขับรถเทียบค่า GPS
ถ้าชดเชยค่าให้เท่ากันจะดีมั้ย
มันจะได้ตัวเลขแท้จริงทั้ง อัตราเร่ง ระยะทาง ความสิ้นเปลือง
ทีมงานว่าไงครับ
คิดแบบนี้เหมือนกันเลยครับผม
เอาแค่อัตราสิ้นเปลืองก็ได้ครับ จับที่ความเร็ว110บนgpsเดียวกัน
เพราะถ้าจับไปถึงอัตราเร่งอาจจะลำบากคนจับเวลา
อัตราสิ้นเปลืองจับจากระยะทางจริงนี้ครับ ไม่ได้วัดจากไมล์รถ เพราะงั้นเรื่องไมล์เพี้ยนไม่มีผลกับอัตราสิ้นเปลือง
แล้วก็ถึงไมล์จะเพี้ยน แต่ไมล์เลสตรงนะ ลองเอาไปวัดระยะทางเทียบกับหลักกิโลดูได้เลย
มีสิครับ ถ้าคันหนึ่งวิ่ง 110 ความเร็วจริง 100
อีกคันวิ่ง 110 ความเร็วจริง 110
คันแรกก็ได้เปรียบเพราะจริงๆวิ่งช้ากว่า ก็น่าจะประหยัดกว่า
ส่วนเรื่องควรใช้ gps จับแทนความเร็วไมล์ไหม? อันนี้ทีมงานเคยพูดไปแล้วนานมาก ผมก็จะไม่พูดละกัน
-
คาใจนิดนึงครับ เรื่องการทดสอบ
รถแต่ละรุ่นไมล์เพี้ยนไม่เท่ากัน
คันไหนไมล์อ่อน ก็เอาตัวเลขสวยๆไปครอง
ทางทีมงานขับรถเทียบค่า GPS
ถ้าชดเชยค่าให้เท่ากันจะดีมั้ย
มันจะได้ตัวเลขแท้จริงทั้ง อัตราเร่ง ระยะทาง ความสิ้นเปลือง
ทีมงานว่าไงครับ
คิดแบบนี้เหมือนกันเลยครับผม
เอาแค่อัตราสิ้นเปลืองก็ได้ครับ จับที่ความเร็ว110บนgpsเดียวกัน
เพราะถ้าจับไปถึงอัตราเร่งอาจจะลำบากคนจับเวลา
อัตราสิ้นเปลืองจับจากระยะทางจริงนี้ครับ ไม่ได้วัดจากไมล์รถ เพราะงั้นเรื่องไมล์เพี้ยนไม่มีผลกับอัตราสิ้นเปลือง
แล้วก็ถึงไมล์จะเพี้ยน แต่ไมล์เลสตรงนะ ลองเอาไปวัดระยะทางเทียบกับหลักกิโลดูได้เลย
ไม่เหมือนกันครับ เพราะรถขับที่ความเร็ว 100km/h กับรถขับด้วยความเร็ว 80 km/h เป็นระยะเท่ากันจะกินน้ำมันไม่เท่ากันครับ
เนื่องจากเมื่อความเร็วสูงขึ้นแรงต้านอากาศจะมากขึ้นด้วยครับ
เป็นฟังก์ชั่นกำลังสองของความเร็วด้วยซ้ำ
-
ผลทดสอบเหมือนสื่อเมืองนอกเลยครับ
อัตราเร่ง 0-100 ช้าลง แต่อัตราสิ้นเปลืองดีขึ้น
คิดว่า 2.5G ธรรมดาก็อาจจะไม่ได้เร็วกว่าเดิม แม้ว่าแรงม้าจะเกิน 200
-
ภาวนาให้ 2.5G 0-100 ไม่เกิน 8.5 Sec 80-120 6.0 Sec
ผมขอมากไปไหม ;D ;D
-
ประหยัดดีนะ เร่งแซงกดสปอร์ตนี่หายห่วงถ้าแบตไม่เหลือน้อย
-
ใช้งานเหลือๆ เลยครับ ประหยัดจริงๆ
-
ซีเรียสอะไรนักหนากับไมล์เพี้ยน..
ผมจำไม่ได้ว่ามีคันไหนบ้างที่ไมล์ตรงป๊ะ จำได้แค่ มาสด้า2 รุ่นแรก
คันอื่นมันก็เพี๊ยน แค่เพี้ยนต่างกันนิดหน่อย
94.5 กับ 97 ต่างแค่นี้มีนัยสำคัญกับการใช้งานจริงแค่ไหน
ผมมองว่าอัตราสิ้นเปลืองที่ทางเว็บทำออกมา เอาแค่เป็นบรรทัดฐานเพื่อให้รู้ว่า รุ่นนี้ประหยัดประมาณนี้
พอซื้อมา ไม่มีคนไหนที่มันจะขับเหมือนกันขนาดนั้นหรอก ปัจจัยแวดล้อมมันเยอะเกินควบคุม
รถรุ่นเดียวกัน คนละเว็บ อัตราสิ้นเปลืองก็ไม่เหมือนกันมีเยอะแยะ
-
ไมล์เพี้ยนมากกก
ไทเกอร์ วีโก้ รีโว่ ก็เพี้ยนประมาณนี้แหละครับ
-
อัตราเร่งยังคงสู้แอคคอร์ดไม่ได้ทั้งๆที่เครื่องแค่2พัน มาจากแบตเตอรี่ล้วนๆเลย
-
รอชมตัวเลข รุ่น2.5เลย
-
อัตราสิ้นเปลืองจากการวิ่งตามมาตรฐานเว็บ ประหยัดกว่า CHR Hybrid อีกแน่ะ
-
อัตราสิ้นเปลืองจากการวิ่งตามมาตรฐานเว็บ ประหยัดกว่า CHR Hybrid อีกแน่ะ
จริงเลย ตามตัวเลขทดสอบแอบมีเคืองครับ ;D
-
คาใจนิดนึงครับ เรื่องการทดสอบ
รถแต่ละรุ่นไมล์เพี้ยนไม่เท่ากัน
คันไหนไมล์อ่อน ก็เอาตัวเลขสวยๆไปครอง
ทางทีมงานขับรถเทียบค่า GPS
ถ้าชดเชยค่าให้เท่ากันจะดีมั้ย
มันจะได้ตัวเลขแท้จริงทั้ง อัตราเร่ง ระยะทาง ความสิ้นเปลือง
ทีมงานว่าไงครับ
คิดแบบนี้เหมือนกันเลยครับผม
เอาแค่อัตราสิ้นเปลืองก็ได้ครับ จับที่ความเร็ว110บนgpsเดียวกัน
เพราะถ้าจับไปถึงอัตราเร่งอาจจะลำบากคนจับเวลา
เห็นด้วยครับ อัตราเร่งผมจะฟังหูไว้หู คือ เชื่อไม่มาก แต่จะบวกไปกี่%อันนี้ต้องเดา ส่วนตัวผมเชื่อสื่อฝรั่งมากกว่า เพราะเค้าใช้ เครื่องgpsวัดทั้งหมด ต่างกัน5-7% แต่พอไปจัดตารางที่เทียบกันกับรถไมล์แข็งหลายๆคัน อันดับก็เปลี่ยนหลายอันดับนะครับ
สมัยก่อนเค้าจับอัตราเร่ง ต้องติดล้อไว้ข้างๆรถ
ต่อมาติดเครื่องมือนอกรถแล้วใช้เลเซอร์ยิงลงพื้น
พอเข้าใจได้ว่ายุ่งยาก
สมัยนี้มีเครื่องจับอัตราเร่งgpsที่น่าเชื่อถือ เยอะแยะ แปะกระจกก็วัดได้แล้วโดยไม่ต้องมานั่งเถียงกัน ก็ไม่เห็นเอามาใช้
อันนี้เป็นจุดสำคัญที่อยากให้เวปแก้ไขครับ เพราะผมว่าคนทำก็รู้ๆอยู่ว่าข้อมูลมันไม่เที่ยง จะไปอ้างอิงอะไรก็ลำบาก อันนี้ติเพราะอยากจะมห้พัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้นครับ
ส่วนอัตราเสิ้นเปลือง ผมว่าเชื่อถือได้ เพราะระยะทางทดสอบมันไกล
-
แรง + ประหยัด ดีแฮะ
ขอบคุณครับ
-
มันก็ไม่มีอะไร 100% หรอกครับ
-ต้องใส่ล้อขนาดเดียวกันด้วยไหม
-ต้องใส่ยางยี่ห้อเดียวกัน รุ่นเดียวกันด้วยไหม สูบลมเท่ากันหมดไหม
-ต้องทดสอบอุณหภูมิเท่ากันด้วยไหม
-ความชื้นต้องควบคุมด้วยไหม
-แรงลมต้องควบคุมด้วยไหม
ปัจจัยเหล่านี้มันก็มีผลหมด
อะไรมันคุมยาก ก็ไม่ต้องไปสนใจ มันไม่มีอะไร 100% ทั้้งนั้น
ชนะกันหลัก ทศนิยม ก็ไม่ต้องไปคิดอะไรมาก คิดซะว่าพอๆกันนั่นแหละ
ปล่อยวางเสียบ้าง
-
ไมล์เพี้ยนตามประสาโตโยต้า 555+ เร่งดีอยู่ครับ ประหยัดดีมากครับ เพียงแต่อัตตราเร่งไม่ได้ขึ้นดีตามตัวเลขแรงม้าในกระดาษ
-
เกียร์ D : Normal Mode อัตราเร่ง 0-100 km/h ทำได้เฉลี่ย 8.84 วินาที อัตราเร่ง 80-120 km/h ทำได้เฉลี่ย 5.72 วินาที
เกียร์ D : Sport Mode อัตราเร่ง 0-100 km/h ทำได้เฉลี่ย 8.76 วินาที อัตราเร่ง 80-120 km/h ทำได้เฉลี่ย 5.66 วินาที
ต่างกันแค่เสี้ยววินาที ปุ่มนี้แลดูไม่จำเป็นเลยเสียเวลากด
5555 ใช่ครับ ดูเหมือนจะช้ากว่าเดิมเยอะเลยถ้ารวมเวลาไปกด sport mode
-
มันก็ไม่มีอะไร 100% หรอกครับ
-ต้องใส่ล้อขนาดเดียวกันด้วยไหม
-ต้องใส่ยางยี่ห้อเดียวกัน รุ่นเดียวกันด้วยไหม สูบลมเท่ากันหมดไหม
-ต้องทดสอบอุณหภูมิเท่ากันด้วยไหม
-ความชื้นต้องควบคุมด้วยไหม
-แรงลมต้องควบคุมด้วยไหม
ปัจจัยเหล่านี้มันก็มีผลหมด
อะไรมันคุมยาก ก็ไม่ต้องไปสนใจ มันไม่มีอะไร 100% ทั้้งนั้น
ชนะกันหลัก ทศนิยม ก็ไม่ต้องไปคิดอะไรมาก คิดซะว่าพอๆกันนั่นแหละ
ปล่อยวางเสียบ้าง
+1 ครับ ผมว่าดูเป็นไกด์ไลน์ก็พอครับ ถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งข้อมูล ทีนี้ก็ลองดูสื่อเจ้าอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศเทียบดูว่ามันสอดคล้องกันมั้ย และสุดท้ายก็ไปทดลองขับก่อนซื้อ ถ้า feeling รถมันตอบโจทย์จริตเราก็ซื้อ ไม่ตอบโจทย์ก็ข้าม เพราะถ้าใช้ในชีวิตประจำวันผมว่าตัวเลข 1-2 วินาที แทบไม่มีความหมาย แต่ถ้าลงสนาม นั่นอีกเรื่องนึง
-
Accord ล้อ18ก็ยังทำผลงานได้ดีกว่า เจ้าdynamic forceล่อ17
แอบผิดหวังนิดๆ นึกว่าตัวเลขจะดีกว่าหรือเท่ากัน
ปล.hlmทำมาตรฐานการวัดตัวเลขได้ขนาดนี้ก็ดีมากแล้วครับ ผมยังไม่เห็นสื่ออื่นในไทยรักษามาตรฐานได้เท่านี้เลย
-
ตัวเลขขนาดนี้ กับรถขนาดนี้ แรงเหลือๆ แล้วครับ บนถนนสภาพจราจร ปัจจุบันนี้ ถ้า ม้าต่างกัน ไม่มากจริงๆ แทบจะหนีกันไม่ออก
-
มันก็ไม่มีอะไร 100% หรอกครับ
-ต้องใส่ล้อขนาดเดียวกันด้วยไหม
-ต้องใส่ยางยี่ห้อเดียวกัน รุ่นเดียวกันด้วยไหม สูบลมเท่ากันหมดไหม
-ต้องทดสอบอุณหภูมิเท่ากันด้วยไหม
-ความชื้นต้องควบคุมด้วยไหม
-แรงลมต้องควบคุมด้วยไหม
ปัจจัยเหล่านี้มันก็มีผลหมด
อะไรมันคุมยาก ก็ไม่ต้องไปสนใจ มันไม่มีอะไร 100% ทั้้งนั้น
ชนะกันหลัก ทศนิยม ก็ไม่ต้องไปคิดอะไรมาก คิดซะว่าพอๆกันนั่นแหละ
ปล่อยวางเสียบ้าง
ถูกครับ เอาจริงๆเราก็ไม่ได้กดเล่นกันแบบนี้สักหน่อย
-
อัตราเร่งขนาดถึงไม่ได้ดีกว่าตัวเดิมแต่รถใหญ่ขึ้น หนักขึ้นได้เท่านี้ผมว่าก็แรงเหลือๆละ
แต่ความประหยัดนี่โอเคเลยดีขึ้นชัดเจน
รอดูผลทดสอบตัว 2.0 กับ 2.5 ครับ
-
รอชมตัวเลข รุ่น2.5เลย
ผมก็รอลุ้นเครื่องตัวนี้เหมือนกันครับ
แต่ทำใจล่วงหน้าไว้แล้วครับ 2.5 ใหม่ หลายๆสำนักของต่างประเทศทดสอบไม่ได้เร็วกว่าตัวเดิม มีค่ายนึงบอก 0-100 เร็วขึ้น 0.1วิ และ 80-110 ช้าลง 0.4วิ แต่อัตราประหยัดน้ำมันน่าจะดีขึ้น
แอบหวังเล็กๆว่าคันประกอบบ้านเราจะดีกว่าทางต่างประเทศ
-
เกียร์ D : Normal Mode อัตราเร่ง 0-100 km/h ทำได้เฉลี่ย 8.84 วินาที อัตราเร่ง 80-120 km/h ทำได้เฉลี่ย 5.72 วินาที
เกียร์ D : Sport Mode อัตราเร่ง 0-100 km/h ทำได้เฉลี่ย 8.76 วินาที อัตราเร่ง 80-120 km/h ทำได้เฉลี่ย 5.66 วินาที
ต่างกันแค่เสี้ยววินาที ปุ่มนี้แลดูไม่จำเป็นเลยเสียเวลากด
Sport modeไม่ได้มีไว้ 0-100 เท่านั้น. แต่มันคือ. การตอบสนองในสถานการณต่างๆจ่ะ
ลองดูของพวกยุโปรสิครับ ต่างกันอย่างน้อย 0.8วิ ไม่ก็วิเต็มๆ งี้ถึงจะเรียกว่า Sport mode จริงๆครับ
กรณี Camry นี่ผมว่าไม่ต้องมีก็ได้ครับ หรือมีก็ไม่ต้องใช้ก็ได้ครับ ถ้าต่างแค่นี้
________________________________________________
อัตราเร่งไม่ดีเท่าไหร่ครับ ถ้าเทียบกับพวกยุโรปขับหลังที่หนักกว่าและม้าน้อยกว่า แต่ก็เพียงพอครับ
ไมล์ก็อ่อนเยอะเหมือนเดิม ผมใช้ ACV50 ก็อ่อน 6% เหมือนกัน รุ่นใหม่ก็ยังไม่ยอมปรับ
-
GPS กับความเร็วจริงเท่าตัวเดิมเป๊ะเลยครับ
ตัวรถหนักขึ้น 15 กิโล อัตราเร่ง 0-100 ช้ากว่าที่คิด ส่วน 80-120 ทำได้ดีเลยครับ อัตราประหยัดน้ำมันนี่ดีงามมากครับ :-*
-
สุดยอดมากครับมาไวจริงๆ ผมว่าการทดสอบของ HLM ที่กำหนดตามมาตรฐานแบบนี้ OK แล้วครับ
เครื่องมือวัดมีค่า Error อยู่แล้วยึดวิธีการเป็นมาตรฐาน
ถ้าจะให้ดีแต่ละคนต้องไปลองขับเองครับ
ส่วนตัวกำลังจะไปขอลองขับอยู่ ถ้ามีโอกาส เป็นเจ้าของจะมา review ให้ครับ
-
แสดงว่า accord นี่โคตรแรงเลย
-
เครื่องใหญ่กว่าน่าจะได้เปรียบเรื่องแรงปลายนะ แต่2.5วิ่งได้เกือบ22Km/L ความเร็วเท่านี้ก็ ถ้าเทียบกับรุ่นก่อนๆก็หรูมากแล้ว
-
Headlightmag เคยให้เหตุผลไปแล้วนะครับว่า ที่ไม่ใช้ GPS ก็เพราะ สัญญาณ GPS ไม่ค่อยเสถียร
วันไหนเมฆเยอะก็จับสัญญาณได้ไม่ดี สัญญาณดีเลย์ก็มี ตัวแปรเรื่องดินฟ้าอากาศควบคุมไม่ได้
และการใช้คนจับมันควบคุุมตัวแปรได้ดีกว่า สังเกตุจากการจับ 4 ครั้ง แต่ละครั้งตัวเลขใกล้เคียงมาก
แสดงว่าการใช้มือค่อนข้างแม่น Headlightmag ก็เลยใช้คนจับเวลาตลอดมา
ส่วนตัวเคยอยากให้ทางเว็บใช้ GPS แต่คิดไปคิดมาอยากให้เอาคนจับเวลาเหมือนเดิมนั่นแหละ เพราะ
1. การจับเวลาของ Headlightmag เริ่มตั้งแต่เหยียบคันเร่งลงไปเลย ทำให้รู้ว่ารถคันไหนคันเร่ง delay หรือคันไหนเหยียบปุ๊บพุ่งปั๊บ
คันไหนคันเร่งช้ามากๆ ก็ถือว่าเป็นข้อเสียของรถรุ่นนั้นเอง เพราะในชีวิตจริงคนขับย่อมต้องการให้รถพุ่งทันทีที่เหยียบคันเร่งอยู่แล้วโดยเฉพาะตอนที่เร่งแซง
2. การจับเวลาโดยใช้เครื่องมือ เช่น Vercicom vc3000 หรือการใช้ล้อพ่วงข้าง หรืออะไรก็แล้วแต่ ไม่ได้รวมการ delay ของคันเร่งเข้าไปด้วย
ทำให้รถบางคันคันเร่งช้าแต่ตัวเลขอาจจะออกมาดี ทั้งที่ในการขับจริงให้ feeling ไม่ดีในตอนเร่งแซงที่กระแทกคันเร่งลงไปแต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอยู่ 1-2 วินาที
แคมรี่รุ่นนี้ก็อัตราเร่งดีนะ โดยเฉพาะเร่งแซงที่เอาชนะ E220d หรือ 525d ใน mode ปกติไปได้สบายๆ
-
คาใจนิดนึงครับ เรื่องการทดสอบ
รถแต่ละรุ่นไมล์เพี้ยนไม่เท่ากัน
คันไหนไมล์อ่อน ก็เอาตัวเลขสวยๆไปครอง
ทางทีมงานขับรถเทียบค่า GPS
ถ้าชดเชยค่าให้เท่ากันจะดีมั้ย
มันจะได้ตัวเลขแท้จริงทั้ง อัตราเร่ง ระยะทาง ความสิ้นเปลือง
ทีมงานว่าไงครับ
คิดแบบนี้เหมือนกันเลยครับผม
เอาแค่อัตราสิ้นเปลืองก็ได้ครับ จับที่ความเร็ว110บนgpsเดียวกัน
เพราะถ้าจับไปถึงอัตราเร่งอาจจะลำบากคนจับเวลา
อัตราสิ้นเปลืองจับจากระยะทางจริงนี้ครับ ไม่ได้วัดจากไมล์รถ เพราะงั้นเรื่องไมล์เพี้ยนไม่มีผลกับอัตราสิ้นเปลือง
แล้วก็ถึงไมล์จะเพี้ยน แต่ไมล์เลสตรงนะ ลองเอาไปวัดระยะทางเทียบกับหลักกิโลดูได้เลย
ไม่เหมือนกันครับ เพราะรถขับที่ความเร็ว 100km/h กับรถขับด้วยความเร็ว 80 km/h เป็นระยะเท่ากันจะกินน้ำมันไม่เท่ากันครับ
เนื่องจากเมื่อความเร็วสูงขึ้นแรงต้านอากาศจะมากขึ้นด้วยครับ
เป็นฟังก์ชั่นกำลังสองของความเร็วด้วยซ้ำ
ลองเทียบกับตัว acv50 สิครับ ไมล์ก็เพี้ยนเท่าๆกับตัวนี้เลย เพราะงั้นก็ตัวเรื่องไมล์เพี้ยนออกไปได้ ดูยังไงมันก็ประหยัดขึ้นอะ อีกอย่างอันนี้มันเอาไว้ดูไกด์ไล นะ มันไม่ได้เป๊ะๆอยูแล้ว ถ้าจะเอาเทียบกันจริงๆต้อง เอารถมา2คันวิ่งตามกันไปเลยต่อให้ตัวเลยในตารางมันเท่ากัน แต่เวลามาวิ่งจริงผมเอาแบบวิ่งตามตูดกันเลย ผมเชื่อว่ามันกินไม่เท่ากันอยู่ดี คุณเชื่อผมไหม
-
ผมอ่านเว็บนี้ เพราะได้ข้อมูลด้านการขับขี่ ฟิลลิ่งและองค์ประกอบอื่น ที่ทีมนักทดสอบให้ความรู้สึก วิจารณ์ ครับ
ผมไม่ได้ใช้ ผลการทดสอบด้านอัตราเร่งและอัตราการกินเชื้อเพลิงมาอ้างอิงใดๆ ในการตัดสินใจเลย
เนื่องจากทีมทดสอบ ไม่ได้ใช้เครื่องมือพิเศษอื่นใดอะไรมาช่วยในการวัด นอกจากใช้นิ้วคนกดปุ่มนาฬิกาจับเวลา เทียบกับ ไมล์ติดรถ เท่านั้น
(แค่ปรับอุณภูมิแอร์ ให้ต่างกัน ในรถคันเดียวกัน สมรรถนะ ก็เปลี่ยนไปแล้วครับ)
ก็ขอขอบคุณทีมทดสอบ ที่ทำผลงานมาให้พวกเราได้อ่าน/ชมกัน
แล้วพวกเราก็จะเป็น กองเชียร์ ที่สร้างยอดวิว ยอดอ่าน ให้ทีมทดสอบ ได้ชื่นใจด้วย ซึ่งกันและกันครับ ;)
-
อัตราเร่งก็ยังแพ้accord
-
มาไวมากๆๆๆ
-
มันก็ไม่มีอะไร 100% หรอกครับ
-ต้องใส่ล้อขนาดเดียวกันด้วยไหม
-ต้องใส่ยางยี่ห้อเดียวกัน รุ่นเดียวกันด้วยไหม สูบลมเท่ากันหมดไหม
-ต้องทดสอบอุณหภูมิเท่ากันด้วยไหม
-ความชื้นต้องควบคุมด้วยไหม
-แรงลมต้องควบคุมด้วยไหม
ปัจจัยเหล่านี้มันก็มีผลหมด
อะไรมันคุมยาก ก็ไม่ต้องไปสนใจ มันไม่มีอะไร 100% ทั้้งนั้น
ชนะกันหลัก ทศนิยม ก็ไม่ต้องไปคิดอะไรมาก คิดซะว่าพอๆกันนั่นแหละ
ปล่อยวางเสียบ้าง
นั่นสิครับ นี่เป็นรีวิวเนอะ ใช้เป็น"แนวทาง"เปรียบเทียบสมรรถนะและช่วยตัดสินใจซื้อรถ
ไม่ใช่งานวิจัยตีพิมพ์หรือวิทยานิพนธ์สักหน่อย
-
ดูอัตราเร่ง 0-100 แล้ว แบต ลิเทียม ดีกว่า นิกเกิล ใช่หรือเปล่าครับ
ถ้าเทียบกับ บทความ
Exclusive First Impression : รีวิว ทดลองขับ Toyota Camry Hybrid (TNGA) ใหม่ เช่าขับก่อนใคร ไกลถึง Tokyo
-
ดูอัตราเร่ง 0-100 แล้ว แบต ลิเทียม ดีกว่า นิกเกิล ใช่หรือเปล่าครับ
ถ้าเทียบกับ บทความ
Exclusive First Impression : รีวิว ทดลองขับ Toyota Camry Hybrid (TNGA) ใหม่ เช่าขับก่อนใคร ไกลถึง Tokyo
ใช่ครับ Li-ion ปล่อยกระแสได้ไวกว่าครับ
-
ประหยัด แรง
-
ถือว่าประหยัดมากครับ
-
ดูอัตราเร่ง 0-100 แล้ว แบต ลิเทียม ดีกว่า นิกเกิล ใช่หรือเปล่าครับ
ถ้าเทียบกับ บทความ
Exclusive First Impression : รีวิว ทดลองขับ Toyota Camry Hybrid (TNGA) ใหม่ เช่าขับก่อนใคร ไกลถึง Tokyo
ถ้าดูจากอัตราเร่ง ใช่ครับ Li-ion ทำได้ดีกว่า เหตุผลคือน้ำหนักเบากว่า ปล่อย output ได้แรงกว่า ชาร์จไวกว่า และมีการสูญเสียประจุเมื่อไม่ได้ใช้งานน้อยกว่าครับ
แต่สำหรับการใช้งานในรถยนต์ไฮบริดแบบไม่เสียบปลั๊ก ผมคิดว่าข้อดีของ Ni-MH นั้นเหมาะสมมากกว่าในการใช้งานครับ โดยเฉพาะในบ้านเรา
-
โหมดสับเกียร์เอง (S + -) ใน Camry Hybrid ผมอยากทราบครับ ว่า
1. มันมีให้สับกี่เกียร์ครับ (6 หรือ 7 speed ครับ)
2. พอเข้า mode สับเอง มีมาตรวัดรอบ ให้ดูแทน hybrid meter ด้วยไหมครับ
-
ดูอัตราเร่ง 0-100 แล้ว แบต ลิเทียม ดีกว่า นิกเกิล ใช่หรือเปล่าครับ
ถ้าเทียบกับ บทความ
Exclusive First Impression : รีวิว ทดลองขับ Toyota Camry Hybrid (TNGA) ใหม่ เช่าขับก่อนใคร ไกลถึง Tokyo
ถ้าดูจากอัตราเร่ง ใช่ครับ Li-ion ทำได้ดีกว่า เหตุผลคือน้ำหนักเบากว่า ปล่อย output ได้แรงกว่า ชาร์จไวกว่า และมีการสูญเสียประจุเมื่อไม่ได้ใช้งานน้อยกว่าครับ
แต่สำหรับการใช้งานในรถยนต์ไฮบริดแบบไม่เสียบปลั๊ก ผมคิดว่าข้อดีของ Ni-MH นั้นเหมาะสมมากกว่าในการใช้งานครับ โดยเฉพาะในบ้านเรา
เพราะอะไรครับ NiMH ถึงดีกว่า ในกรณีไม่เสียบปลั๊ก