Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: jaesz ที่ พฤศจิกายน 29, 2018, 07:54:52

หัวข้อ: ระหว่างรถที่เสี่ยงเกียร์พัง vs รถที่กินน้ำมันกว่า 50%
เริ่มหัวข้อโดย: jaesz ที่ พฤศจิกายน 29, 2018, 07:54:52
ตอนนี้ชอบรถสองรุ่นครับ

รุ่นนึง Beetle ดีเซล
MX5 ND

นำเข้าทั้งคู่ ไม่ได้ห่วงศูนย์

สถิติแล้วแสนโลแรก Beetleจะเคลมเกียร์/complain 25%

NDดูดีหมดครับ แค่กินหนักกว่าbeetle


คงใช้สัก10ปี 250,000โล  ประมาณนี้ครับ

เกียร์ซ่อมเองได้

การขับขี่สองคันนี้ไม่มีให้ลอง เคยขับ Scirocco พื้นเดียวกันกับBeetle ชอบนะครับ
เคยขับNC ก็ชอบติดแค่แข็งไปนิด แต่ได้ฟังมาหลายรีวิวว่าnd นิ่มกว่า
..เพิ่มข้อความส่วนที่ขาดไป...

พยายามหาข้อด้อย แล้วดูว่ารับได้แค่ไหนน่ะครับ

ชอบ ก็ไม่ได้ชอบมาก แต่ก็ชอบที่สุดตอนนี้ วางแผนจะใช้ยาว มาหาคนช่วยติ จะได้คิดล่วงหน้าไว้รับมือในอนาคตครับ
หัวข้อ: Re: ระหว่างรถที่เสี่ยงเกียร์พัง vs รถที่กินน้ำมันกว่า 50%
เริ่มหัวข้อโดย: Niti ที่ พฤศจิกายน 29, 2018, 08:15:02
ND ครับ เปิดหมวกได้ ฟีลมันดีกว่าเยอะ volk ต่อให้ขับดี ซ่อมได้ผมว่าก็ยังไม่เหมาะกับการใช้งานบ้านเราแบบยาวๆ อยู่ดี (ความเห็นส่วนตัวนะครับ)
หัวข้อ: Re: ระหว่างรถที่เสี่ยงเกียร์พัง vs รถที่กินน้ำมันกว่า 50%
เริ่มหัวข้อโดย: JIRATH ที่ พฤศจิกายน 29, 2018, 08:22:07
คันนึงอารมณ์การขับขี่แน่นๆสไตล์รถยุโรป ช่วงล่างแน่นๆ

อีกคันขับขี่ญี่ปุ่นๆ พวงมาลัยคมๆ ช่วงล่างกระด้างแข็งๆหน่อย

ถ้าเรื่องน้ำมันไม่ใช่ปัญหา ผมจะวิ่งไป ND ครับ อารมณ์ล้วนๆ
หัวข้อ: Re: ระหว่างรถที่เสี่ยงเกียร์พัง vs รถที่กินน้ำมันกว่า 50%
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขับสี่ ที่ พฤศจิกายน 29, 2018, 08:52:45
ND หล่อกว่า น่าเก็บกว่าครับ
หัวข้อ: Re: ระหว่างรถที่เสี่ยงเกียร์พัง vs รถที่กินน้ำมันกว่า 50%
เริ่มหัวข้อโดย: Sit: ) ที่ พฤศจิกายน 29, 2018, 09:09:48
ไม่ได้กวน แต่อยากให้เก็บมาทั้งสองคัน
เจอคันไหนสวย เอามาก่อนเลย

ND ไม่ต้องอธิบายอะไร
เต่า ผมเคยขับแต่เบนซิน ผมว่ามันขับดีเบาะหน้านั่งสบายเกินหน้าตา ไม่ได้แรงอะไรมาก แต่ขับสนุกขับแล้วมีความสุข ความรู้สึกเหมือนอยู่เกือบจะนั่งตรงกลางระหว่างสี่ล้อ มุดไปมุดมาคล่องดี กระจกใหญ่กว้าง มองแทบไม่เห็นกระโปรงหน้าหลัง ยังกับเรามุดไประหว่างรถข้างๆ แต่อันนี้บางคนอาจไม่ชอบ เพราะมันกะเลี้ยวยากสำหรับบางคน

ลงจากรถนั่งมองก็เพลินตาดี อาจจะมีเรื่องวัสดุร่อนแตก กรอบบ้าง ถึงขนาดก้านวัดน้ำมันเครื่องหัวขาดคามือ ผมเพิ่งเจอคันแรกและคันเดียวตั้งแต่ขับรถเป็น

ไม่ comment เรื่องซ่อมเลย เพราะคุณ Jae สบายอยู่ละ

แต่โดยรวมเป็นรถ(เพื่อน)ที่ผมชอบมาก ถ้าป็นดีเซลจะเปลี่ยนขนาดไหนเดาไม่ถูกเหมือนกันครับ
หัวข้อ: Re: ระหว่างรถที่เสี่ยงเกียร์พัง vs รถที่กินน้ำมันกว่า 50%
เริ่มหัวข้อโดย: WASADM ที่ พฤศจิกายน 29, 2018, 09:31:13
ND แล้วกันครับ กินหน่อย แต่เปิดหลังคารับลมได้
หัวข้อ: Re: ระหว่างรถที่เสี่ยงเกียร์พัง vs รถที่กินน้ำมันกว่า 50%
เริ่มหัวข้อโดย: Tien.W ที่ พฤศจิกายน 29, 2018, 09:52:16
ND ครับ
หัวข้อ: Re: ระหว่างรถที่เสี่ยงเกียร์พัง vs รถที่กินน้ำมันกว่า 50%
เริ่มหัวข้อโดย: ภูมิใจไหม? ที่ พฤศจิกายน 29, 2018, 10:09:17
ND รถใหม่ ๆ น้ำหนักเบา ๆ ไม่น่าจะกินน้ำมันนะครับ

คือไม่ทราบจริง ๆ ครับ
หัวข้อ: Re: ระหว่างรถที่เสี่ยงเกียร์พัง vs รถที่กินน้ำมันกว่า 50%
เริ่มหัวข้อโดย: tatum0022 ที่ พฤศจิกายน 29, 2018, 10:15:58
ND จบกว่าครับ มีอนาคตกว่า
หัวข้อ: Re: ระหว่างรถที่เสี่ยงเกียร์พัง vs รถที่กินน้ำมันกว่า 50%
เริ่มหัวข้อโดย: SETTHASART ที่ พฤศจิกายน 29, 2018, 10:29:19
วันดีคืนดีเกิดพังขึ้นมาในช่วงเวลาสำคัญ หรืออยู่ห่างไกลผู้คนไม่ไหวนะครับ
หัวข้อ: Re: ระหว่างรถที่เสี่ยงเกียร์พัง vs รถที่กินน้ำมันกว่า 50%
เริ่มหัวข้อโดย: Ty ESC ที่ พฤศจิกายน 29, 2018, 10:52:21
เอา ND  ถ้ายัดตัวลงนะครับ กับรับได้กับการไม่มีที่วางอะไรเลย
กล่องทิชชู่ยังต้องถือไว้


ผมว่า ND มันประหยัดมากๆแล้วนะ
แต่ถังมันเล็ก เลยต้องเติมบ่อย

หัวข้อ: Re: ระหว่างรถที่เสี่ยงเกียร์พัง vs รถที่กินน้ำมันกว่า 50%
เริ่มหัวข้อโดย: panjap ที่ พฤศจิกายน 29, 2018, 11:20:24
nd นี่เหยียบหนักๆ ผมว่า ยังราวๆ 9 -10 โลลิตร ขับธรรมดา ราว 12 ขึ้นผมว่ามันประหยัดมากแล้วนะ อันนี้ประสบการณ์จากที่ผมเคยใช้ nc อยู่นะ  ซื้อรถคันละเกือบสามล้าน มาห่วงเรื่องกินน้ำมันอีกเหรอ   อีกอย่าง nd จะออกเครื่องที่โมเป็น 184 ม้า เร็วๆนี้ น่าจะรอดูก่อนนะ
หัวข้อ: Re: ระหว่างรถที่เสี่ยงเกียร์พัง vs รถที่กินน้ำมันกว่า 50%
เริ่มหัวข้อโดย: paulmoderndog ที่ พฤศจิกายน 29, 2018, 11:24:34
ถ้า10ปี มันอาจพอเป็นรถสะสมได้หรือเปล่า  +/- ราคาขายต่อไป-กับค่าบำรุงคุ้มหรือไม่ เป็นสิ่งที่น่าคิด  ถ้ามีอู่ประจำ ผมว่าเอาที่ใจชอบ
หัวข้อ: Re: ระหว่างรถที่เสี่ยงเกียร์พัง vs รถที่กินน้ำมันกว่า 50%
เริ่มหัวข้อโดย: madboy ที่ พฤศจิกายน 29, 2018, 11:25:53
ND ครับ  ;)

เพราะน้าเจ มีรถที่ขับประหยัดน้ำมันคันอื่นอยู่แล้ว  ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: ระหว่างรถที่เสี่ยงเกียร์พัง vs รถที่กินน้ำมันกว่า 50%
เริ่มหัวข้อโดย: Polonium ที่ พฤศจิกายน 29, 2018, 11:40:17
ND ครับผม รถสวย
หัวข้อ: Re: ระหว่างรถที่เสี่ยงเกียร์พัง vs รถที่กินน้ำมันกว่า 50%
เริ่มหัวข้อโดย: flat6 ที่ พฤศจิกายน 29, 2018, 15:33:02
ND ครับ miata ที่ดีที่สุดตั้งแต่ออกมา
หัวข้อ: Re: ระหว่างรถที่เสี่ยงเกียร์พัง vs รถที่กินน้ำมันกว่า 50%
เริ่มหัวข้อโดย: jaesz ที่ ธันวาคม 01, 2018, 09:36:41
ขอบคุณสำหรับความเห็นนะครับ เอาไปคิดต่ออีกที