Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: propo ที่ ธันวาคม 13, 2018, 08:52:56
-
ขายดีขึ้นแทบทุกรุ่น จนแปลกใจ ถ้าจะไปต่อ น่าจะเสริมกำลังพล คิดว่าน่าเอารุ่นไหนมาเพิ่มครับ ส่วนตัวอยากได้
mz6
cx-4
cx-9
cx-8
ตามลำดับ
-
Mazda ไม่ได้ขายดีทุกรุ่นนะครับ เอามามั่วๆ ไม่ใช่ว่าจะขายได้เพราะชื่อแบรนด์เหมือนโตโยต้า
ตอนนี้มีแต่ Mazda2 กับ CX5 ที่ขายดี รุ่นอื่นๆ ขายได้ไม่มากครับ โดยเฉพาะกระบะกับ CX3 นี่ขายได้น้อยมากๆ
-
D-seg ขาลง คงยากครับ สำหรับ มาสด้า 6 ส่วนตัวผมเองก็ชอบมาตั้งแต่ โครโนส ละ ทุกวันนี้ยังมองมันสวยอยู่เลยทั้งๆที่ผ่านมาตั้ง 20 กว่าปีละ
-
D-segment ยอดขายน้อยมาก เอามาก็ไม่คุ้ม ทั้งค่าการตลาด ค่าสต็อคอะไหล่ สู้อยู่เฉยๆ ไม่เจ็บตัวนะครับ
ขายดี คือ MZ2 กับ CX5
ไปดู BT50 กับ CX3 สิ แป้ก ยาวๆ
-
มารอตัวsuvแพลตฟอร์มm2กันดีกว่า(แต่จริงๆแล้วคือcx3เปลี่ยนชื่อ) 8)
-
กลุ่มลูกค้ามาสด้าในไทยไม่น่าจะตอบโจทย์ mz6 นะครับ
Mazda ไม่ได้ขายดีทุกรุ่นนะครับ เอามามั่วๆ ไม่ใช่ว่าจะขายได้เพราะชื่อแบรนด์เหมือนโตโยต้า
ถึงแบรนด์ดีแต่ทำหน้าตาแปลกๆออกมา คนก็ยี้เหมือนกันนะครับ อย่างรีโว่ตัวแรกนั่นไง
-
Cx3 นี่ขับดีมากน่ะครับ ลองขับแล้วชอบการขับขี่มาก แต่พื้นที่มันพอๆกับมาสด้า2 จ่ายราคาเป็นล้าน สุดท้ายคนก็ยังไม่ซื้อ cx5 มันขายได้เพราะตัวรถใหญ่
-
Mazda3 ถ้าเก็บเสียงดีกว่ารุ่นปัจจุบัน ขายดีแน่นอนครับ
-
D-seg ลองเอา 6 wagon มามั้ย ;) ;) แปลกใหม่ดี
https://www.youtube.com/watch?v=U5f3BA9IsYU (https://www.youtube.com/watch?v=U5f3BA9IsYU)
-
เสริมทัพ ควรจะเสริมเพื่อความแข็งแกร่ง ไม่ใช่เสริมเพื่อถ่วง เขาคงจะมองออกครับ
แค่แก้ไขปัญหาปัจจุบันให้ดีขึ้น ปรับปรุงรถให้ดีกว่านิดๆ ศูนย์บริการมาตรฐานหน่อย
กินยาวๆครับ
-
D-segment พักไว้ก่อนดีกว่าครับ ยังไม่สมควรเอามา ที่อยากให้เอามาคือ Cx-8 มากกว่า เพราะเดี๋ยวปีหน้า 3 ใหม่ก็มา จริงๆอยากให้ปรับทัศนคติที่มีต่อลูกค้าให้มากกว่านี้ครับ เรื่องฟ้องลูกค้า คุณเป็นค่ายรถต้องให้ความสำคัญและใส่ใจรวมถึงแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้ครับ ไม่ใช่ฟ้องลูกค้า รู้แหละว่าลูกค้าบางคนหัวหมอแต่ก็มีคำอธิบายหรือจัดการลูกค้าพวกนี้ได้ครับ ไม่ใช่มาฟ้อง ความน่าเชื่อถือมันจะหาย ศูนย์บริการยังต้องปรับปรุง อีกเยอะ
ไอ้ที่ขายดีอยู่แล้วก็ดูแลดีๆ แค่นี้ก็เพียงพอแล้วครับ
-
แนะนำให้ติดตามยอดขายประจำเดือนในนี้ดูครับ
-
เก็บกำไรไว้พัฒนาศูนย์บริการก่อน กับแก้จุดอ่อนตัวเดิม รักษาจุดแข็งดีกว่าครับ
เอารุ่นใหม่มาลุย พลาดมาก้อต้องมานับ 1 ใหม่
-
เก็บเงินไว้พัฒนา 0 เถอะครับ เน้นขาย ไม่เน้นดูแลเวลามีปัญหา เตรียมรับกรรมนะครับ
-
เอาเวลาไปพัฒนาบริการหลังการขายก่อนเถอะครับ แล้วค่อยคิดเอารุ่นอื่นๆมาขาย
-
สำหรับ6 มันก้อไม่แน่นะ ถ้ามาแบบ D segment แนว performance car มันก้อแตกต่างจากสองยี่ห้อเจ้าตลาดอยู่นะครับ
-
ไม่แน่ ผ่านไปสักพักอาจจะสะดุดขาตัวเองก็เป็นได้
-
ทำให้เห็นว่าคนยุคนี้ยอมรับได้กับช่วงล่างที่แข็งขึ้น
เพื่อให้ได้สมถรรณะการขับขี่ที่ดี
ส่วนคนรุ่นผม เริ่มจากชอบนิ่มๆย้วย หลายปีต่อมาก็ แข็งๆสไตล์ช่วงล่างBMWตัวM-sportแท้ แข็งระดับMini พออีกไม่กี่ปีต่อมากลับมาชอบช่วงล่างนิ่มๆซับแรงดีๆ อย่างช่วงล่างถุงลมBenz ขับสบายถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่าง 8)
-
มาสด้าเอ๋ย จะบอกอีกทีว่า
เอามาสด้า 3 มาใส่ 2.5 L ทำตัวถังคูเป้ 2 ประตู
แล้วตั้งชื่อใหม่ไฉไลว่า มาสด้า 4 เถอะนะ ๆๆๆๆ
-
MZ6 มายาก
เพราะโดนเจ้าตลาดตีกินมานานกว่า 30 ปี ตั้งแต่สมัยยุค 626TTL แข่งกับโคโรน่า
และ D-Seg ก็ขาลง เอามาประกอบไทยไม่คุ้ม
นอกจากสั่งอินโดเข้ามาจากสิทธิ์ AFTA เหมือน CX5 ยุคแรกครับ
ส่วน CX-8 หาคนซี้อยาก เพราะตัวรถใหญ่บ้านบึมมาก
ผมเจอที่ Shenyang ประจำ ยังคิดเลยว่าสั่งมาบ้านเราคงไม่รอด ราคาแพงเกินไป
-
เท่าที่ดู เสี่ยงน้อยสุดคือ
เอาCX8 เครื่อง2.5T
หรือใจถึงๆเอา CX9 ไปเลย
ลืมดีเซล ไปเลย ไม่ต้องเอามาให้โดนด่า หมดอนาคตแล้วครับกับเครื่องนี้ในไทย
จริงๆแล้วมันเปนเรื่องที่ดีนะเพราะใน ตผท ก็เริ่มจะเลิกใช้หมด เน้นเครื่องเบนซินแรงๆไปเลย
-
ขายดีแค่ Mazda 2 นะครับ นอกนั้นก็ ........
CX-5 ก็ไม่ได้ว่าขายดีขนาดนั้นด้วย
Mazda 3 Cx-3 ขนาดว่า MC แล้วก็ยอดตามที่เห็นครับ
Mazda 6 ไม่ต้องเอามาหรอกครับ
-
3 ผมว่ามันตายเพราะขนาดนี่ล่ะ เพราะ civic ขนาดห้องโดยสารพอๆกับ d-seg แต่ของตัวเองใหญ่กว่า b-seg ของ honda ไม่มาก
-
เอามาตามใจกองเชียร์นี่บ.รถเจ้งกันหมดล่ะครับ ดูแต่ละรุ่นราคาล้าน++ทั้งนั้น
-
เอามาเถอะ อย่ามองว่ามันเป็นแค่ D seg ตลาดๆ
แต่มาแบบยกระดับ MZ6 คือพรีเมี่ยม ออปชั่นจัดเต็ม
นำเข้าจากฮิโรชิม่า สติ๊กเกอร์ตัวอักษรภาษาญี่ปุ่นเต็มคัน
แบบ JDM แท้ๆ ไม่เน้นขายถูก ไม่แคร์ตลาดล่าง
และต้องไม่แมส ไม่เน้นขายเยอะ โควต้าจำกัด
เช็คประวัติผู้ยื่นเรื่องขอซื้อ ต้องเป็นครอบครัวมาสด้า
มาก่อน (กระบะแม็กนั่ม, BT-50 ไม่นับ)
รถจะได้ Rare ไม่โหล ขายเพื่อเน้นส่งเสนิมภาพลักษณ์
แบรนด์โดยรวม
ถ้าวาง positioning อย่างนั้น เอามาได้เลยครับ
-
เอามาเถอะ อย่ามองว่ามันเป็นแค่ D seg ตลาดๆ
แต่มาแบบยกระดับ MZ6 คือพรีเมี่ยม ออปชั่นจัดเต็ม
นำเข้าจากฮิโรชิม่า สติ๊กเกอร์ตัวอักษรภาษาญี่ปุ่นเต็มคัน
แบบ JDM แท้ๆ ไม่เน้นขายถูก ไม่แคร์ตลาดล่าง
และต้องไม่แมส ไม่เน้นขายเยอะ โควต้าจำกัด
เช็คประวัติผู้ยื่นเรื่องขอซื้อ ต้องเป็นครอบครัวมาสด้า
มาก่อน (กระบะแม็กนั่ม, BT-50 ไม่นับ)
รถจะได้ Rare ไม่โหล ขายเพื่อเน้นส่งเสนิมภาพลักษณ์
แบรนด์โดยรวม
ถ้าวาง positioning อย่างนั้น เอามาได้เลยครับ
เจ๊งครับ ไม่มีทางเป็นอย่างอื่นแน่
จำ 626 ตัวสุดท้ายก่อนเลิกขายได้ไหม
นำเข้ามาครับ ข้างในนี้ก็โปรตีเจ้อัพขนาดดีๆนี่แหละ
สรุปแทบไม่มีใครซื้อ
Mazda 6 ปัจจุบัน นำเข้ามาเห็นราคาแพง แต่ข้างในต่อให้ประกอบจากญี่ปุ่นก็จะไม่หนีจาก Mazda 2 นะครับ
ก็คงไม่พ้นยอดขายแบบ MX5 ปัจจุบัน
ถ้าจะส่งเสริมภาพลักษณ์ ต้องมั่นใจก่อนนะครับว่าคนจะไม่มองมันเป็น Mazda 3 อัพไซส์ ขายสองล้าน
เพราะเอาจริงๆแล้ว มันก็ไม่ได้เป็นอะไรมากกว่านั้น
-
สิ่งที่มาสด้าต้องทำก่อนหาตัวเสริม
1.เสริมจุดแข็ง2และcx5ต่อไป
2.หาทางปิดจุดด้อยbt50,3,cx3 รถดีแต่ยังไม่ตอบโจทย์คนซื้อ เพราะเจ้าตลาดชนะด้วยขนาดและแบรนด์
รุ่นที่เสริมทัพระยะนี้ผมมีความเห็นว่าไม่ต้องเปิดsecmentใหม่ เอาแค่ออกรุ่นอัพเกรดอย่างTRDของพี่โต,หรือรุ่นพิเศษmazda speed ให้มันมีความต่างและชัดเจนมีความเป็นเอกลักษณ์ สร้างให้มันขลังให้ได้ในตลาดเมืองไทย โดยให้ศึกษาดูพี่โตและพี่x-series เป็นต้นแบบ น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีครับ
-
น่าจะเปลี่ยนเป็น mazda ขายดีขนาดนี้ คิดจะเพิ่มศูนย์บริการบ้างไหม
-
อยากให้ Mazda เน้นที่บริการหลังการขายมากกว่าครับ โดยเฉพาะค่าแรง และค่าอะไหล่ ที่ยังสูงกว่าคู่แข่ง
ถ้าแก้จุดนี้ได้ผมว่ายอดขายจะโตขึ้นกว่านี้อีกครับ เพราะ Mazda 2 และ CX5 ก็ขายได้ด้วยตัวมันเองอยู่แล้ว
และยังมี Mazda 3 โฉมใหม่ที่กำลังรอที่จะเปิดตัวในตลาดบ้านเราอีกครับ ซึ่งโดยรวมแล้วยังถือว่าไปได้ดี
เมื่อคุณภาพของสินค้าผ่าน ต้องเพิ่มคุณภาพของบริการหลังการขาย และจำนวนโชว์รูม ตามมาด้วยครับ
-
ควรเอามาครับ. จะได้รุ่ว่าจะเอาเข้ามาอีกมั้ย
-
6ตัดไปเลยครับ ยอดเซ็กเม้นนี้น้อยมาก นับวันจะยิ่งน้อย
ผมว่าควรเอาCX-4 กับ CX-8 แล้วทำราคาดีๆ ขายดีแน่ แต่CX-4สงวนไว้เฉพาะตลาดจีน
ส่วนCX-9 เอามายังไงก็ขายยากเพราะแพงขนาดนี้คนส่วนใหญ่ก็ไปยุโรป
-
ทำศูนย์บริการให้รองรับเพียงพอ จะดีกว่าครับ อีกอย่าง D-segment ยอดขายเดือนละไม่กี่ร้อยคัน ทำมาจะได้ส่วนแบ่งตลาดเท่าไหร่ สู้เมื่อ BT-50 Pro หมดอายุตลาด ทำรถกระบะใหม่ให้ปัง จากเดือนละไม่กี่ร้อยคัน มีโอกาสทำให้ถึงหลักพัน ยังง่ายกว่าทำ D-segment นะครับ
-
ที่สำคัญ ควรแก้ปัญหาที่เป็นอยู่ให้จบก่อน
ดึงให้ลูกค้าซื้อรถครั้งแรกว่ายาก
แต่ให้ลูกค้าซื้อซ้ำคันที่ 2 ยากกว่า
-
เอาcx8มาน่าจะดีละ
เพราะ 6 ตลาดมันเล็ก
คนยุคนี้ชอบsuvกัน cx8 จะมาจับตลาดที่สูงกว่า cx5แต่จะสูงไปขนาดไหนขึ้นกับราคาที่จะตั้งได้หละครับ
ถ้าตั้งล้านปลาย สองล้านต้น
ก็มอง harrier ยุคก่อนเปลี่ยนภาษีเป็นตัวอย่าง ว่าจะขายได้ประมาณนั้น แต่ทั้งนี้ harrierคือรถเกรย์ คน d seg sedan หรือ suv ppv รุ่นบนๆคงมีมองๆบ้างหละครับ
แต่ถ้ามาเป็น 6 sedan โดนทั้ง toyota hondaรอดยาก จะมาเป็น 6wagonก็แหวกแนวดี น่าจะขายได้แบบ volvo v60
แต่ถ้าต้องเลือกมาแค่ 1 ผมว่า cx8มีจุดขายและโอกาสดีกว่า ที่เหลือแค่ราคา และเครื่องยนต์
-
เจ้าตลาดแท้ ๆ ยอดขายแต่ละเดือนยังได้แค่หลักร้อย ถ้ามาสด้าเอา mz6 คงขายได้แค่ไม่เกินหลักสิบหรอกครับ
-
ผมว่ามี cx-8 กับเจ้า 3 ตัวใหม่ ที่น่าจะขายได้ แต่จะขายดีไหม ต้องทำราคาดีๆ ออปชั่นเด่นๆ ไปได้แน่นอน
-
แก้ไขเรื่องบริการหลังการขายก่อนเหอะครับ รถไม่ได้เทพขนาดนั้น แต่พังทีต้องรอคิวศูนย์
-
6 น่าใช้จริงๆ ครับ แต่คงไม่เหมาะที่จะเอาเข้ามาขายที่บ้านเรา
-
3 แถว 6-7 ที่นั่ง
แบบผู้ใหญ่นั่งได้ สบายๆ
ออก ตจว. วิ่ง นิ่มๆ เกาะๆ
แย่งตลาด PPV พอได้มั๊ย