Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: basboths ที่ มกราคม 21, 2019, 09:06:19
-
เนื่องจากรถหม้อน้ำรั่วตรงรอยต่อระหว่างส่วนที่เป็นอลูมิเนียมกับพลาสติก จึงได้นำรถเข้าศูนย์เจอ
SR SA แจ้งต้องจ่ายค่าตรวจเช็คก่อน 778 บาท ถ้าสั่งเปลี่ยนหม้อน้ำเลยจะไม่รับประกันงานซ่อม ผมเลยต้องถอยมาตั้งหลักก่อน ค่าหม้อน้ำ 4387 บาท ค่าแรง 1541 บาท สรุปค่าแรง+ค่าตรวจเช็ค 2319 บาท
นี้ถ้าแจ้งว่ารถมีเสียงสายพานดัง ต้องเสียค่าสายพาน 715 บาท ค่าแรงเปลี่ยน + ค่าตรวจเช็ค 778+ 778 = 1556 บาท !!!! ค่าแรง = 2 เท่าค่าอะไหล่ !!!!!
ถ้าเป็นเมื่อก่อน ถ้าเปลี่ยนอะไหล่ที่เกี่ยวข้องกับอาการที่แจ้งเสียจะไม่เสียค่าตรวจเช็ค 778 บาท
สรุป ศูนย์ Mazda เก็บค่าตรวจเช็คครั้งละ 778 บาท ไม่ว่าอาการเล็กน้อยยังไง !!!! ถ้าสั่งเปลี่ยนอะไหล่ไปเลยจะไม่รับประกันงานซ่อม !!!! (ผมถาม SR SA แล้วครับ ไม่ว่าจะเป็นงานเล็กน้อยยังไงก็ต้องเสีย)
-
รถหมดประกันแล้วใช่ไหมครับ ...
และก็ถ้าเปลี่ยนอะไหล่โดยที่ช่างเค้ายังหาสาเหตุไม่เจอ เค้าก็ไม่รับประกันอยู่แล้วครับ เช่น ถ้าเค้าเปลี่ยนหม้อน้ำให้แล้วมันไม่หาย เปลี่ยนตามคำสั่งลูกค้า โดยไม่มีการวิเคราะอาการก่อน คุณจะมาโวยเรียกร้องประกันงามซ่อมไม่ได้ครับ
แต่ถ้าคุณทราบอาการแน่ชัดแล้วว่าเป็นที่หม้อน้ำแน่ๆ ก็แนะนำไปทำอู่นอกได้ครับ ค่าแรงอาจจะถูกกว่า แล้วเบิกอะไหล่แท้ไปใส่เอา
ส่วนการตรวจเช็คอาการต่างๆ ถ้าเราเอารถเข้าศุนย์เช็คระยะเป็นประจำ ช่างจะตรวจเช็คอาการต่างๆให้โดยไม่ได้เสียค่าตรวจเช็คอื่นๆเพิ่มนิครับ เพราะเค้าก็คิดเหมาพร้อมกับการเช็คระยะนั้นไปแล้ว ถ้าเจออะไรเสียหรือหมดอายุเค้าก็แจ้งเราว่าจะเปลี่ยนเลยหรือไม่ ถ้าเปลี่ยนก็ไม่มีค่าตรวจเช็คเพิ่มนะ
-
รถหมดประกันแล้วใช่ไหมครับ ...
และก็ถ้าเปลี่ยนอะไหล่โดยที่ช่างเค้ายังหาสาเหตุไม่เจอ เค้าก็ไม่รับประกันอยู่แล้วครับ เช่น ถ้าเค้าเปลี่ยนหม้อน้ำให้แล้วมันไม่หาย เปลี่ยนตามคำสั่งลูกค้า โดยไม่มีการวิเคราะอาการก่อน คุณจะมาโวยเรียกร้องประกันงามซ่อมไม่ได้ครับ
แต่ถ้าคุณทราบอาการแน่ชัดแล้วว่าเป็นที่หม้อน้ำแน่ๆ ก็แนะนำไปทำอู่นอกได้ครับ ค่าแรงอาจจะถูกกว่า แล้วเบิกอะไหล่แท้ไปใส่เอา
ส่วนการตรวจเช็คอาการต่างๆ ถ้าเราเอารถเข้าศุนย์เช็คระยะเป็นประจำ ช่างจะตรวจเช็คอาการต่างๆให้โดยไม่ได้เสียค่าตรวจเช็คอื่นๆเพิ่มนิครับ เพราะเค้าก็คิดเหมาพร้อมกับการเช็คระยะนั้นไปแล้ว ถ้าเจออะไรเสียหรือหมดอายุเค้าก็แจ้งเราว่าจะเปลี่ยนเลยหรือไม่ ถ้าเปลี่ยนก็ไม่มีค่าตรวจเช็คเพิ่มนะ
ผมว่าตามนี้ มันก็สมเหตุสมผลครับ เพียงแค่ค่าประเมินมันอาจจะสูงไปหน่อย และเป็นเรื่องใหม่สำหรับลูกค้าบ้านเรา ที่เคยชินกับการบริการแบบคิดเหมาๆรวมๆ
ส่วนตัวผมว่า มาสด้า ควรฟังเสียงสะท้อนจากลูกค้าในหลากหลายมุมมองมากขึ้นแล้วปรับบางอย่างบ้างก็ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีนะครับ
หลายแบรนด์มาตกม้าตายตรงที่ "ไม่พยายามรู้ใจคนไทย" แล้วก็ไปพังเอาตอนท้าย มีให้เห็นมาหลายแบรนด์แล้ว
-
ค่าแรง + ค่าตรวจเช็ค อะไรจะขนาดนั้น
-
Toyota ก็ 500 บาทครับ >:(
-
ปกติครับ ผมเอาซีวิค เข้าเช็ครายการอื่นหลังหมดประกันก็โดนคิดค่าแรงตรวจเช็คเป็นรายการๆไป แต่เราสามารถขอต่อรองค่าแรงเช็คได้ครับ ส่วนนึงค่าแรงมาสด้าแพงมากครับเลยพอรวมมาเลยยิ่งแพง ของฮอนด้า 4xx บาทเอง
-
ปกติครับ ผมเอาซีวิค เข้าเช็ครายการอื่นหลังหมดประกันก็โดนคิดค่าแรงตรวจเช็คเป็นรายการๆไป แต่เราสามารถขอต่อรองค่าแรงเช็คได้ครับ ส่วนนึงค่าแรงมาสด้าแพงมากครับเลยพอรวมมาเลยยิ่งแพง ของฮอนด้า 4xx บาทเอง
ค่าแรงHonda คิดแยกย่อยตามรายการ บางรายการจัดว่าต่ำกว่ายี่ห้ออื่น
เช่น เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ 0.3ชม.
น้ำมันเฟืองท้าย 0.3ชม.
ของเหลวศูนย์Honda น้ำมันเกียร์ ถูกกว่าร้านอะไหล่ครับ
-
จริงเหรอคับ ที่ศูนย์ วิริยะแพร่มาสด้า ล่าสุดผมไปเปลี่ยนมอเตอร์พัดลมหม้อน้ำ ก้ไม่เห็นเสียค่าดังกล่าวระคะบ มีแต่ค่าแรง ตามชั่วโมงงาน 400 กว่าบาทเท่านั้นเอง ผมว่ามันเป๋นบางศุนยหรือเปล่าคับที่มีการเรียกเก็บเงินเพิ่ม 778 บาท :-\
-
เหมือนแต่ก่อนตอนรถมีปัญหาเขาจะตรวจเชคให้ฟรีนิครับ หรือตอนนั้นเค้าคงมีน้ำใจ
แต่พอขายรถได้มากขึ้น ช่างserviceรถไม่ทันเลยมีนโยบายนี้เพื่อลดปริมาณงานหรือเพิ่มกำไรรึเปล่า เดา
ส่วนตัวเคยเจอกับฟอร์ด ตอนนั้นลำโพงฝั่งประตูคนขับแตก เลยเข้า0ให้ช่างรื้อแผงประตูเชค เค้าก็ไม่คิดค่าใช้จ่าย เลยมัดจำละสั่งอะไหล่
พอวันอะไหล่มาจะเข้าไปติดตั้งแต่คิดค่าแรงเปลี่ยนลำโพงตัวเดียว 1ชม. 8ร้อยมั้ง เลยเอาไปเปลี่ยนร้านนอกค่าแรง200บาทสบายใจ
-
มาสด้านี่ขึ้นชื่อมานานแล้วครับเรื่องแพงทุกอย่าง
-
ค่าบริการส่วนใหญ่สูงกว่าเจ้าตลาดครับ แต่มีน้อยที่จะ 500-600 นะครับ
ถ้าหมดประกันแล้ว นิดๆหน่อยๆ หาอู่ข้างนอกครับ ค่าแรง2-300 สบายใจกว่า
-
เดียวนี้เหมือนจะเป็นกันหมดละครับ หลังหมดระยะเวลารับประกันเข้าศุนย์โดนค่าตรวจอาการ ล่าสุดผมโดน lexus หน้าปัดขึ้น check hybrid system ขับเข้าไปโดนก่อนเลย 1,000 กว่าบาท
-
ถ้าไม่เสีย คงมีลูกค้ามาให้เช็คแล้วออกไปทำข้างนอก 0 ก็ไม่ได้อะไร
-
ถ้าเห็นอาการอยู่ตำตาแล้วยังจะคิดค่าตรวจสอบผมว่าก็เกินไปแล้วครับ
-
แปลกดี
จริงถ้า เป็นรายการที่ต้องเสียบคอม รื้อแคะ แกะ เกา อันนี้ไม่ว่ากัน ที่จะเก็บค่าตรวจเช็ค แต่ถ้าแบบ มองเห็นชัดๆว่า หม้อน้ำรั่ว อันนี้ไม่ควรเก็บนะ
อย่าง HONDA เอา Jazz GE เข้าศูนย์ 2 ครั้ง
ครั้งแรก หัวฉีดพัง เครื่องสั่น ... ก็มีแต่ค่าเปลี่ยนหัวฉีด กับ หัวฉีด นะ
ครั้งสอง คอยล์จุดระเบิดพัง เครื่องสั่น ... ก็มีแต่ค่าคอยล์จุดระเบิด กับ ค่าแรง นะ
คิดยิบย่อยไป หมดประกันแล้ว ลูกค้าก็หนีหมดล่ะครับ พอลูกค้ารถเก่าหาย โอกาสที่เค้าจะซื้อรถใหม่ ในแบรนด์เดิม ก็น้อยลง ล่ะครับ .. อย่างบ้านผม เป็น HONDA ทั้งบ้าน ทุกคันเข้าศูนย์หมด แม้อายุสิบกว่าปีแล้ว ถามว่า ซื้อใหม่ ให้ซื้อค่ายไหน ก็ค่ายเดิมนั่นแหละ ศูนย์รู้ใจ เข้าไปแล้วจบ ไม่แพง ไม่คิดยิบย่อย
ฝากไว้ให้คิด
-
แพงดุเดือดมาก หมดประกันก็อู่นอกดีกว่า
-
หมดประกัน ไม่มีใครเข้าศูนย์กันหรอกครับ โดนทุกยี่ห้อ ขั้นต่ำก็ 500 (778 บ. mazda มันแพงเป็นปกติ) แนะนำไปอู่ ช่างเก่งกว่าเยอะ
-
778 ต่อครั้ง หรือ ต่อชั่วโมง
แพงครับ เพราะยี่ห้อที่ใช้ ประมาณ 500 กว่าบาท
-
รถหมดประกันแล้วใช่ไหมครับ ...
และก็ถ้าเปลี่ยนอะไหล่โดยที่ช่างเค้ายังหาสาเหตุไม่เจอ เค้าก็ไม่รับประกันอยู่แล้วครับ เช่น ถ้าเค้าเปลี่ยนหม้อน้ำให้แล้วมันไม่หาย เปลี่ยนตามคำสั่งลูกค้า โดยไม่มีการวิเคราะอาการก่อน คุณจะมาโวยเรียกร้องประกันงามซ่อมไม่ได้ครับ
แต่ถ้าคุณทราบอาการแน่ชัดแล้วว่าเป็นที่หม้อน้ำแน่ๆ ก็แนะนำไปทำอู่นอกได้ครับ ค่าแรงอาจจะถูกกว่า แล้วเบิกอะไหล่แท้ไปใส่เอา
ส่วนการตรวจเช็คอาการต่างๆ ถ้าเราเอารถเข้าศุนย์เช็คระยะเป็นประจำ ช่างจะตรวจเช็คอาการต่างๆให้โดยไม่ได้เสียค่าตรวจเช็คอื่นๆเพิ่มนิครับ เพราะเค้าก็คิดเหมาพร้อมกับการเช็คระยะนั้นไปแล้ว ถ้าเจออะไรเสียหรือหมดอายุเค้าก็แจ้งเราว่าจะเปลี่ยนเลยหรือไม่ ถ้าเปลี่ยนก็ไม่มีค่าตรวจเช็คเพิ่มนะ
คือเค้าไม่รับประกันงานเปลี่ยนหม้อน้ำครับ ปกติถ้าไม่หายเค้าก็คิดค่าแรงกับค่าอะไหล่ที่ต้องเปลี่ยนเพิ่มเติมอยู่แล้วนิครับ ไม่ใช่ว่าครั้งนี้ไม่หาย ครั้งถัดไปเข้าไปแก้งานแล้วเค้าไม่คิดค่าแรง คิดแต่ค่าอะไหล่อะไรแบบนี้นิครับ
-
778 ต่อครั้ง หรือ ต่อชั่วโมง
แพงครับ เพราะยี่ห้อที่ใช้ ประมาณ 500 กว่าบาท
เป็นค่าตรวจเช็คเบื้องต้นต่อครั้งครับ
-
ถ้าไม่เสีย คงมีลูกค้ามาให้เช็คแล้วออกไปทำข้างนอก 0 ก็ไม่ได้อะไร
ถ้าเป็นเมื่อก่อน ถ้าเปลี่ยนอะไหล่ที่เกี่ยวข้องกับอาการที่แจ้งเสียจะไม่เสียค่าตรวจเช็ค 778 บาท
แต่ปัจจุบันเปลี่ยนไม่เปลี่ยนเสียหมดครับ
-
Honda ศูนย์ต่างจังหวัดหนึ่งใกล้กทม
ศูนย์ จะไม่คิดค่าตรวจเช็คถ้าเปลี่ยนอะไหล่กับทางศูนย์ และคิดค่าเปลี่ยนอะไหล่ตามปกติ ไม่บวกค่าตรวจเช็ค 500 เข้าไปในบิล
แต่ถ้าตรวจเช็คแล้วสั่งอะไหล่ไปเปลี่ยนเองนอกศูนย์ แบบนี้จะเสียค่าตรวจเช็คประมาน 500
-
หัวเทียน 3 ผมก็แพงกว่ายี่ห้ออื่น ในคลับมีแต่แนะนำข้างนอกคับ แต่ก็ทำๆกับศูนย์ไปคับ บริการใช้ได้อยู่ มีปัญหาขี้เกียจไปทะเลาะ
-
ปัญหาใหญ่ของสาวก มาสด้า หาอู่นอกดีๆยาก ไม่แพร่หลายเท่าเจ้าตลาด
-
ปกติที่ผมเจอคือ ถ้าเช็คอย่างเดียวแล้วไม่ซ่อมกับเขานี่ เขาจะคิดค่าตรวจเช็คครับ แต่ถ้าซ่อมจะคิดแค่ค่าแรง
อีกอย่างยี่ห้อที่เคลมตัวเองว่าเป็นเจ้าตลาดรถนั่งก็เป็นครับ แถมผมแจ๊คพ็อตเจอปัญหาเคลมไม่จบ ไปลงในเว็บบอร์ด ก็ไม่เห็นมีใครสนใจให้คำตอบได้ มีแต่บอกเป็นปกติๆ บ้านผมถึงกับขยาดกับยี่ห้อนี้กันทั้งบ้าน เวลามีปัญหาคนที่อวยก็ไม่เห็นจะมาช่วยอะไรได้ครับ
-
ผมพึ่งเอา มาสด้า3 2.0BL ไปเช็คกระจกหลังเปิดขึ้นไม่ได้
ก็ไม่เห็นเสียค่าเช็คนะ โดนแต่ค่าแรงเปลี่ยนเซนเซอร์2ร้อยกว่าๆ
กับค่าอะไหล่4900
-
Toyota รถอยู่ในประกันกันยังเสียค่าตรวจเช็คอาการเบื้องต้นเลยครับ
ผมเอารถไปเช็คระยะ 3หมื่นโล บอกว่าตอนเบรคมีเสียงดังแต๊กๆ ช่วยดูให้ด้วย พนง.รับรถบอกว่ามีค่าใช้จ่ายเช็คอาการเบื้องต้นนะครับ ประมาณ 300 บาท :-X
-
ผมพึ่งเอา มาสด้า3 2.0BL ไปเช็คกระจกหลังเปิดขึ้นไม่ได้
ก็ไม่เห็นเสียค่าเช็คนะ โดนแต่ค่าแรงเปลี่ยนเซนเซอร์2ร้อยกว่าๆ
กับค่าอะไหล่4900
ขอชื่อศูนย์ด้วยครับ ส่งมาทาง inbox ก็ได้ครับ ถ้าไม่ไกลเกินไปจะลองโทรไปสอบถามดู
-
ปกติที่ผมเจอคือ ถ้าเช็คอย่างเดียวแล้วไม่ซ่อมกับเขานี่ เขาจะคิดค่าตรวจเช็คครับ แต่ถ้าซ่อมจะคิดแค่ค่าแรง
อีกอย่างยี่ห้อที่เคลมตัวเองว่าเป็นเจ้าตลาดรถนั่งก็เป็นครับ แถมผมแจ๊คพ็อตเจอปัญหาเคลมไม่จบ ไปลงในเว็บบอร์ด ก็ไม่เห็นมีใครสนใจให้คำตอบได้ มีแต่บอกเป็นปกติๆ บ้านผมถึงกับขยาดกับยี่ห้อนี้กันทั้งบ้าน เวลามีปัญหาคนที่อวยก็ไม่เห็นจะมาช่วยอะไรได้ครับ
ขอชื่อศูนย์ด้วยครับ ส่งมาทาง inbox ก็ได้ครับ ถ้าไม่ไกลเกินไปจะลองโทรไปสอบถามดู