Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Tpol ที่ มกราคม 26, 2019, 17:05:57
-
ปัญหาโลกแตก. ถ้ารบกวนขออภัยล่วงหน้า.......ความคุ้มค่าของเม็ดเงินที่จะต้องจ่ายระหว่าง D-seg <1.8mกับ ยุโรป <2.5m ไม่นับภาพลักษณ์ ค่าซ่อมบำรุง เอาแค่เงินที่จ่ายไปตอนซื้อ สมช. ว่ามันคุ้มกับเงินที่จ่ายไหม. เครื่องยนต์ เทคโนโลยี ความปลอดภัย ความสบาย ....ต่างกัน 7-9แสน. มันคุ้มไหม ถ้าไม่คุ้มแสดงว่าเป็น ภาพลักษณ์หรือพวกบช.เรียก goodwill อย่างเดียวเลยหรอครับ
-
หลักๆอยู่ที่ว่ามันตอบสนองความต้องการขั้นต่ำของคนซื้อจริงๆได้แค่ไหน
มันต้องลองสัมผัสเองครับ ถึงจะตอบได้จริงๆ
-
สำหรับผม ไม่คุ้มครับ
- ไม่ค่อยวิ่งเกิน 140 , ขับสุภาพ D-seg ยี่ปุ่นตอบโจทย์หมด ถ้าไม่แน่ใจทำช่วงล่างสัก 5-7 หมื่นก็เนี้ยบ
- อาชีพไม่ต้องใช้รถแสดงฐานะ ขับอะไรเขาก็เลือกเรา ยิ่งเก่าๆยิ่งดูดี
- 7-8 แสน เอามาซื้ออีกคันขับเล่น / ลงทุน สบายใจกว่า
- ยุโรปสมัยนี้ ชวนปวดหัวมากขึ้น
- จ่ายเพิ่ม 7-8 แสน คนนั่งบ่นนะครับ จ่ายเยอะกว่า แคบกว่า อึดอัดกว่า ลูกสาวผมบ่นตลอดเวลานั่ง C
seg ยุโรป บอกมันจะสบายเมื่อเร็วเกิน 140 แต่บ้านเรา จะวิ่งตอนไหน 140
-
ขึ้นกังพฤติกรรมการขับรถครับ
ตีนโหดๆนี่ควรไปEurope
-
ส่วนตัวมีตังค์ไม่เยอะ อายุก็เลยกลางคนมาแล้ว ชีวิตที่เหลือ คงซือรถอีกไม่กี่คัน หรืออาจจะไม่ได้ซื้ออีกเลย ก็เลย ก็เลือกมาที่รถยุโรบ เพราะถ้าเลือก d segment คงไม่จบ คาใจ เสียน้อยเสียยาก ถึงแม้ไม่ได้ใช้ความเร็ว เกิน 140 แต่ 80-120 ก็มีความสำคัญซึ่งรถยุโรบส่วนใหญ่ทำได้ดีกว่า และส่วนตัวก๋ไม่ได้บ้า option หรือความสบายเบาะหลังเท่าไหร่ คุ้มหรือไม่อยู่ที่คนซื้อครับ อย่าได้แคร์คนอื่นเลย
-
ตามที่ได้อ่าน ๆ มารถยุโรปตลาดในปัจุจุบันก็ปัญหาไฟฟ้าจุกจิกเยอะอยู่นะครับ
มีแต่คนบ่น
สำหรับผม camry / accord hybird + ทำช่วงล่างก็พอแล้วครับ
ไหนจะค่าบำรุง ฯลฯ อีก
แต่ถ้ามีเงินเหลือ มีรถหลายคืน ผมไปยุโรปครับ 8)
-
ในแง่ความสบายเช่น ห้องโดยสานฝรกว้างโปร่งโล่ง เบาะใหญ่นั่งสบาย D-seg ตอบโจทย์กว่าชัดเจนมากครับ รถเล็กยุโรปรุ่นเริ่มต้นจะเน้นคนขับอย่างเดียว
-
เอาตรงๆนะครับตอนนี้ ช่วงล่าง D-Segment ญี่ปุ่น(camry ใหม่) ดีพอๆกันกับยุโรปเลยนะครับ ไปลองมาแล้วแบบไม่มโนด้วยครับ
......ตอบความคุ้มค่าผมว่า D-seg ตัวท็อปคุ้มกว่าครับทั้งออปชั่น การขับขี่และอื่นๆ ภาพลักษณ์ก็ไม่ได้ดูแย่อะไรนะครับ
-
ถ้าขับ ออก ตจว ข้ามจังหวัด แล้วยังอายุไม่เกิน 30 ขับเร็ว ไม่มีครอบครัว ความเร็วที่ใช้ ยกตัวอย่างผมวิ่ง ราชบุรี-กทม เส้นมันวิ่งยาวๆ ดึกๆ 140+ กันหมด แบบนี้ ยุโรป ขับดีกว่าครับ ถ้าเอื่อยๆ ขับไม่ไว เรื่อยๆ เน้นนั่งหลัง D-seg ญี่ปุ่นครับ เทียบจาก accord hybrid ช่วงล่างเดิมๆ กับ e92 bmw ใส่ล้อ 18 โหลดนิดๆ นะครับ
-
ถ้าเป็นเมื่อก่อนอาจจะมองแต่ยุโรป
แต่ตอนนี้ ผมว่าแทบไม่ต่างกันมากแล้ว ผมขับแต่ยุโรปมาก่อน ตอนนี้แม้แต่ญี่ปุ่นรถเล็กรุ่นช่วงล่างดีๆผมก็ขับ 160-180 สบายๆ ก็ยังไม่เข้าใจทำไมหลายคนยังยึดติดว่าความเร็วสูงต้องยุโรป
ถ้าจะดีกว่าแบบเห็นชัดๆผมว่าเหลือแค่ วัสดุภายใน กับการเก็บเสียง แค่นั้นหรือเปล่า
-
ลองรถยุโรปบ้างก็ดีครับ หรือไม่ก็รอเก็บเงินซื้อ 3ล้านกว่าได้ ยุโรป d segment ผมว่า work กว่าครับ
-
ถ้าไม่นับภาพลักษณ์ จ่ายเพิ่ม 7-9 แสน ผมว่าไม่คุ้มอย่างแรงครับ
เพิ่มเงิน 7-9 แสนเพื่อ
รถคันเล็กกว่า แคบกว่า ความสบายน้อยกว่า
ถึงแม้จะขับดีกว่าบ้างก็เฉพาะตอนใช้ความเร็วสูงๆและไม่ได้ต่างกันขนาดฟ้ากับเหว
-
ขับเองคนเดียว มีแฟนนั่ง ลูกนั่งหลังบ้าง งบเหลือ(เหลือนะครับไม่ใช่แค่ถึง)ผมเอายุโรป
แต่ถ้าต้องนั่งหลังบ่อยหรือต้องติดคาร์ซีต d-seg หรือ suv ญี่ปุ่นอย่างไม่ต้องสงสัย
เพราะถ้าไปกับลูกและแม่บ้าน ไม่มีทางได้ขับเร็วหรือใช้เต็มประสิทธิภาพรถแน่นอน
-
สมัยหนุ่มๆผมขับรถยุโรป ขับรถเร็วไปตจว.ประจำ ยังไม่มีเมียเอาไว้ให้สาวๆนั่ง
ตอนนี้ลูกโตแล้วใช้camry ขับไม่เร็วไปเรื่อยๆ คันใหญ่นั่งสบาย optionเยอะ
เคยคิดจะไปซื้อCLA GLAเหมือนกัน ผมสูง180+ลองไปนั่งแล้วมันแคบ จะไปE classมันก็เกินงบไปมาก
เลิกคิดกลับมาขับcamryคันเก่าอย่างเดิม เงินยังอยู่ในกระเป๋าประมาณ2ล้าน เอาไปทำอย่างอื่นดีกว่า555555
-
ผมใช้ camry hybrid รุ่นที่แล้วอยู่ พร้อมกับ e class w211 ครับ
ทั้ง 2 คัน วิ่ง 260,000 km เท่ากัน camry อายุ 6 ปี Benz อายุ 12 ปีครับ
ค่าบำรุงรักษา camry อยู่ที่ 250,000
ส่วน Benz เข้าศูนย์บริการ หลังๆเข้าอู่นอก ค่าบำรุงรักษาโดนไป 1.5 ล้าน ครับ ซ่อมจนเห็นทุกข์ ซื้อทองได้เป็นกิโล
สรุป ขายหมดทั้ง 2คัน camry hybrid ราคาตกมาก เหลือ ห้าแสน Benz ขายได้ 3.5 แสน
ชื้อคันใหม่คือ camry hybrid 2 คันครับ
-
ถ้าเน้น+ซีเรียสความเงียบ สบาย ในห้องโดยสาร ผมว่าไม่คุ้มครับ
เพราะ C-class กับ Series 3 ก็ไม่ได้เก็บเสียงดีหรือนั่งสบายไปกว่า Teana หรือ Camry เท่าไหร่
แต่ถ้าเน้นขับสนุก ขับมันส์ ชอบมุด 320d C220d น่าจะตอบโจทย์มากกว่า
-
ส่วนตัวคิดว่า....ความคุ้มค่าคือ....ความพึงพอใจ ความสุขใจ ที่ได้ขับ ได้ล้าง ได้มอง แค่นี้ก็คุ้มค่าแล้วครับ ถ้าคิดว่า เงินแตกต่างกัน 7-8 แสน เเล้วเสียดายไปD,seg ผมว่า มันคาใจ...คุ้มค่าที่อย่ากได้ ชอบ อย่างนี้ถืว่าคุ้มแล้วครับ มันสุขใจ ซึ่งเงิน สามารถซื้อความสุขตรงนี้ได้
ผมเคยคิดว่าเสียดายเงินขนาดนี้ เลยซื้อ accord G9 ใช้อยู่ 2 ปี แต่อยากได้F30 คิดเป็นปี สุดท้าย ทำในสิ่งที่อยากได้ และ พอมีกำลัง เลยขายG9 ไป F30 เลยรู้ว่าความสุขใจ .......คือ ...ความคุ้มค่าที่ใด้ใช้อยู่
และความทุกข์ใจคือ..ต้องทนใช้ในสิ่งที่ใจไม่อยากได้ ไม่อยากมี แต่ เหลือเงินส่วนต่างเยอะ...
เลือกเอาครับ...ถ้าเสียดายเงินแล้ว =D,seg
ถ้าเลือกความสุขที่ใจต้องการ=Europe
แต่..ต้องไม่ลำบากภายหลังนะครับ แบบว่า มีงบที่เพียงพอ
-
ถ้าคุ้มเป็นเรื่องเงิน ยังไงก็ไม่คุ้มครับ Camry / Accord มีให้พอแล้วสำหรับคนไม่ได้คิดอะไรเรื่องรถมากนัก จุด A>B เป็นพอ
แต่ถ้าชอบ ใจรัก อันนั้นอีกเรื่อง อย่างผมชอบขับรถ ชอบเจ้าใบพัดฟ้า ยังไงๆผมก็ให้ BMW คุ้มสำหรับผม ต่อให้มันเป็นมือสองก็เหอะ ประมาณนั้นแหละครับ
รถสำหรับคนไม่ได้ชอบอะไรเป็นพิเศษมันก็แค่ยานพาหนะ แค่นั้นจริงๆ อาจจะมีเรื่องความปลอดภัยนิดหน่อย
แต่สำหรับคนที่อินกับมัน มันจะพิเศษขึ้นมาทันทีครับ
ปล.ไม่นับเรื่องภาพลักษณ์เลยนะ
-
จ่ายแพงกว่าเพื่อรถเล็กกว่า แถมในอนาคตคันที่ซื้อแพงก็ซ่อมแพงกว่าอีก คิดในแง่ตัวเงินยังไงก็ไม่คุ้ม
แต่ถ้าคิดว่า ขับดีกว่า(ในกติกาของแต่ละคน) ขับแล้วดูดีกว่า ก็แล้วแต่ความต้องการหละครับ
-
- นั่งสบาย d seg
- ทนทาน ปัญหาน้อย d seg
- ขับเร็ว ยุโรป
- ภาพลักษณ์ ยุโรป
ผมว่าพอๆกันขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการอะไร
แต่ d seg เดี๋ยวนี้ราคาตกน่าเกลียด
3 series หรือ c class ขายต่อราคาแข็งกว่านะครับ
-
เอางบประมาณ 2 ล้านบวกลบเป็นตัวตั้ง รถญี่ปุ่นคุ้มกว่ามากครับ ในหลายๆแง่มุม
ผมมองว่ายุโรปค่าตัวเท่านี้ ไม่ห่างญี่ปุ่นขนาดนั้น ถ้าค่าตัว 4-5 ล้านขึ้นไปจึงน่าใช้จริงๆครับ
-
คุ้มไม่คุ้มมาอยุ่ที่เราครับ เอาที่คิดว่าจบ ตอบสนองความต้องการได้พอ และไม่ลำบากตัวเอง สำหรับผมขอd segสักคันพอ อยากได้รถนั่งสบายกับเค้าบ้าง อิอิ
-
ท่าทางจะเป็นเงินเหลือจริงๆ กับตามความฝัน ถึงจะจ่ายสองล้าน ถ้าเอาเหตุผลก็ไม่ค่อยจะมีเหตุให้จ่ายแพงกว่าทำไม...น่าจะสรุปแบบนี้นะครับ. ขอบคุณครับ
-
ตอบแทบไม่ต้องคิด ถ้าเอาความคุ้ม ไม่สนภาพลักษณ์ ก็ D-seg แน่นอนครับ เหตุผลหลายๆท่านพูดไปละ
แต่มีสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ "กิเลส" ของเราเนี่ยแหล่ะครับ น้องที่ทำงานก็คิดคล้ายๆแบบนี้ สุดท้ายไปเอาซีวิคเทอร์โบตัวก่อน MC เพิ่งซื้อได้ 6 เดือน MC มานั่งบ่นจิตตก บอกว่าจริงๆอยากได้ตราดาว แต่คิดแล้วไม่คุ้มค่า ซื้อซีวิคดีกว่า เงินเหลือ บลาๆๆๆ แต่พอเอามาใช้ ใจมันมองแต่ตราดาว เวลาเห็ฯตราดาวขับผ่าน ก็มองตลอด สุดท้ายมันตัดใจขายซีวิคไม่ถึงปี โคตรแห่งความขาดทุน เพื่อไปจอง CLA ใหม่เรียบร้อยโรงเรียนกิเลส 555
ส่วนผมกำเงินไปจะถอย E Class AMG แต่มันมีแต่เสียบปลั๊ก สุดท้ายได้ใบจอง Camry Hybrid พอ CLA ประกอบไทยออก ว่าจะทิ้งใบจองละ แต่ช่วงนี้เห็นข่าวเบนซ์ขึ้นยานแม่เยอะเลย เลยช่างมัน เอา Camry ไปก่อน รอดู MBTH ว่าจะมีแนวโน้มยังไงต่อ เงินก็ยังอยู่ กำตังไว้อีกเยอะ ค่อยว่ากัน
ปล.ส่วนตัวผมจะไม่เอา D-seg ญี่ปุ่นไปเทียบ C-seg ยุโรปเลยครับ เพราะยังไง D_seg ญี่ปุ่นดีและคุ้มกว่าแน่นอน ผมจะมองไปที่ D-seg ยุโรปเลย ไม่ E-class ก็ S5
-
ซื้อแล้วคุ้ม ก็ d seg
แต่ ถ้าเป็นผมมันไม่จบที่ใจนะครับ สุดท้ายก็ไปจบตราดาว และปัจจุบัน ก็ให้มีมันทุกฟีลลิ่ง จะได้จบๆไปครับ
ต่อให้เจอจุกจิก ต่อให้เสียค่าบำรุงแพงกว่า แต่มันสุขที่ใจครับ 555
-
คุ้มค่าที่ใจ
คุ้มค่าที่เงิน
สองความหมายนี้มันแย้งกันตลอดไม่ว่าจะถามเมื่อไร ถามตัวเองให้ดีว่าจะเอาคุ้มค่าอะไร บางครั้งมัวแต่คุ้มค่าที่เงินคุณก็อาจพลาดอะไรในชีวิตไปได้ เลือกเองตัดสินใจเองเพราะถ้าคุณถามคนอื่นเขาก็ตัดสินใจในมุมมองของตัวเขา ซึ่งไม่ใช่ตัวคุณเอง
-
JP D-Segment 1.7 ล. คุ้มค่ากว่าสำหรับผมครับ เพราะ.......
1. ส่วนต่าง 8 แสนค่อนข้างเยอะมาก ซื้อ JP B-Segment ได้ 1 คัน หรือเป็น Daytona / PP มือสอง ก็ยังได้
2. ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาหลังเกินจาก 5 ปี หรือหมด warranty
3. ใช้รถเยอะ BSI 10 ปี 1 แสนโลก็ ไม่พอ
4. ศูนย์บริการ
สุดท้าย แต่ละคนความพอใจไม่เหมือนกัน
-
คุ้มไม่คุ้ม มันแล้วแต่บุคคลครับ
ถ้าถามผม ที่ไม่ได้มีเงินถุงเงินถัง D-segment ญี่ปุ่น ยังไงก็คุ้มกว่าครับ
-
ถ้าอยู่ ตจว. D seg ก็ได้ภาพลักษณ์ครับ
เอาความสบายเป็นหลักดีกว่าครับ
เดี๋ยวนี้รถเยอะ เราขับรถอะไรมา ไม่ค่อยมีใครรู้ใครเห็นครับ
เพราะฉะนั้นความคุ้มค่ามันก็เห็นกันอยู่แล้วครับ อิอิ
-
จะเอาคุ้มค่า หรือคุ้มใจ คำตอบก็อยู่ในตัวครับ ถ้าคุ้มค่ายังไงพวก D-seg ญี่ปุ่นผมว่ามันมากเกินพอแล้ว คุ้มและดูแลง่ายไม่จุกจิกเท่ารถยุโรป
แต่ถ้าจะเอาคุ้มใจ ยังไงไปเล่นยุโรป มันก็รู้สึกดี มีแต่คนเรียกเสี่ย เฮีย เวลาเรามองรถเราก็มีความสุข ถ้าเงินเหลือเยอะเพียงพอจริงๆไม่เสียดายค่าซ่อม และมีรถสำรองไว้ใช้งาน ก็จัดไว้ใช้งานได้ครับ
-
ความคุ้มค่าของแต่ละคนอาจจะต่างกันครับ ถ้าซื้อรถมาเพื่อขับหรือนั่งโดยสารสบายยังไง D segment ญี่ปุ่นก็คุ้มกว่า แต่ถ้าซื้อรถเน้นใช้งานได้ทุกวันแถมขับสนุกได้ผมกลับคิดว่ารถยุโรปไซส์ C segment ปัจจุบันก็ถือว่าคุ้มค่าเช่นกัน อย่างผมใช้รถมาหลายคันรวมไปถึง D segment ยุโรปด้วย สรุปรถแนวซีรี่ย์ 3 หรือ C Class กลับลงตัวที่สุด
-
เอาตรงๆนะครับตอนนี้ ช่วงล่าง D-Segment ญี่ปุ่น(camry ใหม่) ดีพอๆกันกับยุโรปเลยนะครับ ไปลองมาแล้วแบบไม่มโนด้วยครับ
......ตอบความคุ้มค่าผมว่า D-seg ตัวท็อปคุ้มกว่าครับทั้งออปชั่น การขับขี่และอื่นๆ ภาพลักษณ์ก็ไม่ได้ดูแย่อะไรนะครับ
+1 เลยครับ ตั้งแต่รุ่นพี่ที่ผมเคารพแกไปลอง Camry hybrid ใหม่แล้วบอกว่าขับดีกว่า 520d F10 ของแกอีก จากนั้นผมไม่มีความอยากครอบครองรถยุโรปราคา 2-3 ล้านเลยครับ
-
ไหวก็จัดไปเลยครับคุ้มแต่ละคนไม่เหมือนกัน ถ้ามีเงินเก็บสักสิบล้านขึ้นไปผมว่าขับยุโรปยังไงก็คุ้มกว่ากำไรชีวิตกว่าฟีลลิ่งพวงมาลัยก็ต่างกันเยอะแล้วยังไม่นับความเงียบนิ่งและวัสดุ
แต่ถ้าต้องผ่อน เหนื่อย กังวลนู้นซ่อม เงินยังจำเป็นเอาดีญี่ปุ่นมันก็คุ้มและดีในระดับนึงนะครับ
-
ถ้าเงินไม่ใช่ปัญหา ยุโรปสิครับ
แต่ ฐานะปานกลาง ต้องมีภาระ ไปญี่ปุ่นสบายใจกว่า
แต่ D Sec สมัยนี้ อย่าหวังว่า ราคาอะไหล่จะถูกกว่า นะครับ ลองเช็คดูได้ ไม่หนีกับยุโรปแล้ว
แต่ ได้เปรียบมากๆ เรื่องศูนย์บริการ สมัยก่อน ญี่ปุ่นได้เปรียบมากๆ เรื่อง มีแะไหล่เชียงกง แต่ เดี๋ยวนี้ รถมัน Electronic ทั้งคัน ระบบแยะ อะไหล่เชียงกง ปัญหาเยอะ
-
.
.
d seg นี่ไม่เคยอยู่ในความคิดผมเลย
เพราะโดยส่วนตัวคิดว่ามันเหมาะกับคนแก่ มีลูก ประมาณนั้น
ส่วนใหญ่ผมขับรถกับแฟนสองคน ชอบขับเร็ว
d seg มันจึงไม่เหมาะทุกประการ
-
ยุโรปไม่คุ้มถ้าเอาเงินมาคำนวน แต่ถ้าเอาใจมาคำนวน คุณจะไม่กลับไปมอง D-sec อีกเลย เหมือนตอนที่ผมซื้อ w204 ก็เปลียบเทียบแบบนี้ และทุกวันนี้ D-sec ไม่มีในหัวเป็นตัวเลือกอีกเลย
-
ผมว่าที่ต่างจริงๆคือขนาดรถครับ ถ้าชอบใหญ่ๆไป D Seg ถ้านั่งแต่ด้านหน้าไปยุโรปครับ
-
สำหรับรถยุโรป
ในแง่ตัวเงิน การซ่อมบำรุง ความสบายของผู้โดยสาร ไม่คุ้มครับ
ในแง่การขับขี่ ความมั่นใจ ความปลอดภัย คุ้มครับ
ผมซื้อตราดาว เพราะอยากมีสักคันครับ ก็เลยได้รุ่นราคาเล็กสุดมาครอง (ให้ภรรยาขับ)
ส่วนตัวก็ยังชอบ D-Segment พี่ยุ่นมากกว่าครับ (ขับ Accord อยู่ครับ)
และหลังจากนี้ เหล่ารถยุโรปคงจะได้เงินจากผมยากละครับ
-
คุ้มค่าเงิน ยังไงก็ต้อง D-Seg ญี่ปุ่นครับ เมื่อเทียบกับ ยุโรป 2.5 ล้าน
-
ความคุ้มค่าของแต่ละคนไม่เท่ากันครับ
D-Seg ผมเอาไว้นั่งแล้วมีคนขับ รถติดๆแบบนี้ วันไหนทำงานเยอะนอนน้อย นั่งหลับเบาะหลังโคตรสบายครับ
-
ดีกันคนละแบบ แต่ C-segment รถยุโรปด้านหลังก็ไม่เล็กแล้ว F30 ข้างหลังก็ยาวอยู่ครับ แต่ D-segment ทำไม 1.7 ถ้าเอาประมาณ 1.4-1.5 ยิ่งเห็นความคุ้มค่าแตกต่างมากขึ้น
มองถึงการซ่อมบำรุง, ราคาตก ยังไงรถญี่ปุ่นก็คุ้มค่ากว่า
-
เรื่องคุ้มไม่คุ้มแล้วแต่ความชอบ
ผมเลือก D-seg ตัวเริ่มต้นครับ เน้นสบายไม่เน้นแรง option ครบตามสมควร
คิดว่าคุ้มสุดแล้วเพราะตรงกับความต้องการมากที่สุด
-
เห็นด้วยครับ d segment ตัวเริ่มต้นคุ้มกว่า
-
ถ้าไม่เคยซื้อรถยุโรปมาก่อน จัดไปเลย อนาคตเบื่อๆจะกลับมาDก็ได้ สักครั้งในชีวิต
-
มันจะคุ้มได้ไง
Jap = D-seg
Euro = C-seg
ไม่รวมค่าบำรุงรักษา+อื่นๆ
บางท่านว่า ตีนโหด ขับเร็ว = Euro
จะไป Euro ให้อุ่นใจต้อง "ตังค์โหด" ด้วย
-
ผมเองก็เพิ่งจัด G9 Hybrid มาครึ่งปีได้ เทียบกับ F30 อยู่เหมือนกัน ยอมรับว่าใจนึงก็อยากจัด BMW บ้าง เคยใช้แต่ Volvo แต่พี่ผมใช้ F10 อยู่ ผมได้ขับหลายทีละ ฟีลลิ่งดี แต่คนนั่งข้างหลังชอบบ่นว่าแคบ จนจะไปไหน ผู้ใหญ่ในบ้านมักชอบบอกให้ไปด้วยรถตู้หรือ Accord G9 อีกคันของพี่มากกว่า(ที่บ้านมี accord 2คัน) ขนาดซีรีย์5นะ ผมเลยเปลี่ยนใจมา D-Segment ดีกว่า ประหยัดเงิน ประหยัดน้ำมัน และนั่งสบาย ไม่อึดอัด
แต่ช่วงนี้เห็น BMW รุ่นเล็กๆป้ายแดงเกลื่อนเลย เข้าใจว่าลดราคา เห็นบางคนบอก iconic นี่ 1.8X ล้านเอง ก็น่าสนนะครับ แต่ส่วนตัวเห็นคนขับ C-Segment ยุโรป ไม่เคยมองว่ามันดูรวยกว่าขับ D-Segment ยุ่นเลยนะ
-
ตั้งแต่ขับรถมาผมยังไม่เจอ D-Seg รุ่นไหนที่ขับดีเท่า f30 นะครับ
แต่ถ้าจะถามถึงความคุ้มก็ D-Seg แหละครับ กว้างกว่า ใช้งานสะดวกว่า บำรุงรักษาง่ายกว่าครับ
-
ถ้ามองแค่เรื่องเงิน ยังไง D ญี่ปุ่นก็คุ้มกว่าครับ
แต่ถ้ามองเรื่องสมรรถนะทุกอย่างคือ เบรค พวงมาลัย chassis วัสดุ ภาพลักษณ์ เกียร์ ยุโรปอย่าง BMW ซีรี่3 ก็ไม่เป็นรอง D ญี่ปุ่นแน่ๆ ครับ
ปล. ยังไม่ได้ลอง Camry Hybrid ใหม่ครับ
-
Camry ใหม่ น่าจะเอา เครื่องเกียร์ F30 มาใส่น่าจะขายดี
-
ถ้าเป็นผม ผมจะดูที่การใช้งานจริงๆเป็นหลักครับ
ถ้าเน้นนั่งสบาย ผมจะเลือก D-Segment แน่นอนครับ
แต่ถ้าผมต้องการสมรรถนะการขับขี่ ขับสนุก ผมจะเลือก รถยุโรป ครับ