Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: bravo ที่ มกราคม 30, 2019, 18:36:20

หัวข้อ: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: bravo ที่ มกราคม 30, 2019, 18:36:20
อยากรู้ วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
วิธีแบบเร่งด่วน ที่คิดว่าได้ผลในระยะสั้นนี้ จะมากหรือน้อยก็ตามครับ
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: AboveGod ที่ มกราคม 30, 2019, 18:50:08
ประกาศให้เป็นวันหยุดครับ ให้คนกลับต่างจังหวัดกัน ก็จะเหมือนปีใหม่ที่กรุงเทพรถโล่งมาก
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: Odrecranon ที่ มกราคม 30, 2019, 18:50:18
ผมว่าปัญหานี้เป็นมานานแล้ว แต่เราเพิ่งมาให้ความสนใจกัน

แก้ไขแบบฉับพลัน คือ เอาตัวเองให้รอดก่อนครับ
ตามคำแนะนำทั่วไปเลย
- ลดกิจกรรมกลางแจ้ง
- ใส่หน้ากากเวลาออกนอกบ้าน
- พยายามอยู่ในอาคาร

ส่วนตัวผม
- ซื้อเครื่องฟอกที่มี HEPA ในบ้าน
- ปรับอากาศรถผมสามารถกรองฝุ่น 2.5 ug ได้

งานผมอยู่แต่ในตึก คิดว่าคงได้รับผมกระทบบ้าง แต่ไม่มาก

ระยะยาว
ผมไม่ได้เป็นผู้ชำนาญด้านนี้นะครับ พยายามอ่านจาก scientific resources
- ลดการใช้พลังงานดีเซล; ยากมาก ๆ
- หยุดเผาป่า; ยากมาก ๆ

สรุป ผมว่าขอ prevention ตัวเองกับครอบครัวพอครับ
จากสภาพสังคมเราแล้ว น่าจะทำอะไรได้ไม่มาก
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: NINENOI ที่ มกราคม 30, 2019, 19:06:21
ตอนตัดผมบอกช่างไม่ต้องเล็มขนจมูกออก
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: Clint Barton ที่ มกราคม 30, 2019, 19:06:35
เราว่าปัญหานี่เป็นมานานกว่า 20 ปีแล้วละ แต่เราแค่มองมันไม่เห็นเท่านั้นเอง (เมื่อก่อนอาจไม่หนักเท่านี้)

วิธีแก้ระยะสั้น ก็ตามๆที่หลายๆสำนักข่าว หลายๆคนว่ากัน
- ใส่หน้ากากป้องกัน N95
- ถ้าไม่จำเป็นอย่าออกมาทำกิจกรรมกลางแจ้ง
** ฉีดน้ำนี่ไม่ได้ช่วยเลย **

ส่วนระยะยาวที่เราคิดนะ เราไม่สามารถห้ามรถดีเซลได้หรอก และอีกอย่างทุกอย่างก็มีข้อเสียทั้งนั้น ทั้งเบนซิน และดีเซล เราต้องลดการใช้ให้มากที่สุดมากกว่า
1. ออกกฏหมายให้รถเลขคู่ เลขคี่สลับกันวิ่ง ในเมืองหลวง (ช่วยลดรถยนต์ภายในเมือง)
2. พัฒนาระบบขนส่งให้มีประสิทธิภาพ (คิดว่าถ้าทำข้อข้างบนได้ รถเมย์น่าจะมาตรงเวลาขึ้น เนื่องจากรถยนต์ส่วนตัวน่าจะหายไปครึ่งนึงของกรุงเทพเลย) คนก็จะหันมาใช้ขนส่งสารธารณะมากขึ้น ใช้ลดน้องลง
3. ทำข้อ 1, 2 ได้แล้วก็ทำที่จอดรถชาญเมือง ถ้ารถคันไหนจะเข้ามาในเมืองต้องเสียค่าเข้า และค่าที่จอดรถก็ปรับราคาขึ้นให้แพงไปเลย
4. ออกกฏหมายควบคุมโรงงานอุตสาหกรรม ให้เข้มงวดเรื่องการปล่อยมลพิษทุกรูปแบบ
5. ออกกฏหมายห้ามเผาในที่โล่งทุกประเภท
6. เลิกใช้โรงไฟฟ้าถ่ายหิน หันมาใช้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์แทน หรือโรงไฟฟ้ารูปแบบอื่นที่สะอาด อาทิโรงไฟฟ้าขยะ
7. ควบคุมการตรวจสภาพรถให้เข้มงวด ควันดำห้ามวิ่ง รถอายุเกิน 7ปีห้ามวิ่ง
8. ยกระดับรถดีเซลที่ใช้ในประเทศต้อง Euro 5 ขึ้นไป
9. อื่นๆ..
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: The Mechanics of Emotions ที่ มกราคม 30, 2019, 19:10:38
เราว่าปัญหานี่เป็นมานานกว่า 20 ปีแล้วละ แต่เราแค่มองมันไม่เห็นเท่านั้นเอง (เมื่อก่อนอาจไม่หนักเท่านี้)

วิธีแก้ระยะสั้น ก็ตามๆที่หลายๆสำนักข่าว หลายๆคนว่ากัน
- ใส่หน้ากากป้องกัน N95
- ถ้าไม่จำเป็นอย่าออกมาทำกิจกรรมกลางแจ้ง
** ฉีดน้ำนี่ไม่ได้ช่วยเลย **

ส่วนระยะยาวที่เราคิดนะ เราไม่สามารถห้ามรถดีเซลได้หรอก และอีกอย่างทุกอย่างก็มีข้อเสียทั้งนั้น ทั้งเบนซิน และดีเซล เราต้องลดการใช้ให้มากที่สุดมากกว่า
1. ออกกฏหมายให้รถเลขคู่ เลขคี่สลับกันวิ่ง ในเมืองหลวง (ช่วยลดรถยนต์ภายในเมือง)
2. พัฒนาระบบขนส่งให้มีประสิทธิภาพ (คิดว่าถ้าทำข้อข้างบนได้ รถเมย์น่าจะมาตรงเวลาขึ้น เนื่องจากรถยนต์ส่วนตัวน่าจะหายไปครึ่งนึงของกรุงเทพเลย) คนก็จะหันมาใช้ขนส่งสารธารณะมากขึ้น ใช้ลดน้องลง
3. ทำข้อ 1, 2 ได้แล้วก็ทำที่จอดรถชาญเมือง ถ้ารถคันไหนจะเข้ามาในเมืองต้องเสียค่าเข้า และค่าที่จอดรถก็ปรับราคาขึ้นให้แพงไปเลย
4. ออกกฏหมายควบคุมโรงงานอุตสาหกรรม ให้เข้มงวดเรื่องการปล่อยมลพิษทุกรูปแบบ
5. ออกกฏหมายห้ามเผาในที่โล่งทุกประเภท
6. เลิกใช้โรงไฟฟ้าถ่ายหิน หันมาใช้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์แทน หรือโรงไฟฟ้ารูปแบบอื่นที่สะอาด อาทิโรงไฟฟ้าขยะ
7. อื่นๆ..

เห็นด้วยมากๆ ครับ แต่ผมเชื่อเลยว่าพอมีข่าวจะร่างกฎหมายออกมา โดนค้านจนตกไปแน่ครับ ตั้งแต่นั่งท้ายกระบะแล้ว บอกตรงๆ เลยว่าแก้ยากมาก เหมือนปม แก้ตรงนั้นติดตรงนี้
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: ixoxi999 ที่ มกราคม 30, 2019, 19:17:25
ปีที่แล้วก็มี เราก็อยู่กันได้ ไม่เห็นต้องทำอะไรกันขนาดนี้ครับ
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: Jacob ที่ มกราคม 30, 2019, 19:35:23
ปีที่แล้วก็มี เราก็อยู่กันได้ ไม่เห็นต้องทำอะไรกันขนาดนี้ครับ
งั้นทำตัวแบบปีที่แล้วละกันนะ ออกจากบ้านก็ไม่ต้องใส่หน้ากาก เรื่องฝุ่นก็แค่อุปทานหมู่กันไปเอง
ปล. ขนาดยุโรปไม่เกิดปัญหาเรื่องฝุ่น เค้ายังรู้จักป้องกันแต่เนิ่นๆ พยายามลดการใช้รถดีเซล ผลักดันรถไฟฟ้า บ้านเราเหมาะสมแล้วที่เป็นประเทศโลกที่สาม ปัญหาเกิดขนาดนี้ยังไม่เห็นความสำคัญ ป่วยก็เข้ารพ. หมอไม่พอก็ผลิตเพิ่ม เอางบส่วนใหญ่ไปสร้างรพ.เพิ่ม งบไม่พอก็รอพี่ตูนมาวิ่ง  แต่ไรู้จักป้องกันสุขภาพ  :(
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: เนื้อน่องไม่หนัง ที่ มกราคม 30, 2019, 19:58:24
มลพิษจากรถยนต์..
ระยะสั้น ทันที ตรวจสอบสภาพมถเมล์ รถสาธารณะ รถเก็บขยะ รถขนส่ง รถบรรทุกของหน่วยงานรัฐ รถบัส ให้จัดการไอเสียได้ดีขึ้น รถคันใหญ่ เก่าหลายสิบปี มาตรฐานมลพิษ ระดับไหนไม่รู้ แต่ใช้วิ่งทั้งวัน ทุกวัน ปล่อยมลพิษเยอะแน่นอน
// อันนี้เหมือนเขาตรวจแล้ว แต่บอกว่าปรกติ....

กระบะ แต่งไม่ห้าม แต่ถ้าควันดำ จับ/ปรับหนักๆ กระบะดีเซลใหม่ มลพิษจริงๆอาจไม่มากถ้าไม่ปรับแต่ง
ตรวจสอบกวดขัน มลพิษช่วงต่อทะเบียน จะแต่งไม่ห้าม แต่ต้องควบคุมมลพิษได้

คนใช้รถ เปลี่ยนกรองแอร์ ที่กัน PM 2.5 ได้ เพื่อตัวเอง...

ระยะยาว
เพิ่มภาษีประจำปีตามระดับมลพิษ หรือ ลดภาษีหากเปลี่ยนรถเป็นรถที่ปล่อยมลพิษน้อยลง เพื่อกระตุ้นให้คนใช้รถที่สะอาดมากขึ้น
เป้าหมายให้ดีเซลเหลือใช้ในกลุ่มที่จำเป็นเท่านั้น

ภาษีรถนำเข้า ปรับเกณภาษีที่ใช้ ประเมินจากส่วนอื่นนอกจาก CO2 เพิ่ม NOx/PM2.5 เพราะปัจจุบันกลุ่มรถหรูที่ดีเซลขายดี เพราะโดนภาษีน้อย ราคาสูงไม่มาก
รถดีเซลภาษีถูกกว่าเบนซิลเพราะ CO2 ต่ำกว่า (แต่ NOx/PM สูง) ตัวอย่างที่เหนชัดคือ Forturner 2.7 ตัวปัจจุบัน

ส่งเสริม Hybrid // แน่นอนว่า Carbon Footprint ของ Hybrid สูงกว่า แต่ยังไงการผลิตและกำจัดก็อยู่ในระบบปิดที่ถูกควบคุม

ส่วนหนึ่งของมลพิษ มาจากรถ โดยเฉพาะ จุดที่รถติดหนัก... และหลายๆจุดที่รถติดมากๆ ก็มาจากความมักง่ายของบางคน ถนนสามเลน เปิดวิ่งกันสี่เลน แล้วแทรกเอาข้างหน้า จอดรถข้างทาง จอดส่งลูก จอดซื้อหมูปิ้งหน้าเซเว่น
จัดการจราจรให้ดีขึ้น ไหล่ทางห้ามวิ่ง เส้นทึบห้ามเปลี่ยนเลน ติดกล้อง ปรับจริงจัง
ทางออกนอกเมือง เช้นทางด่วนช่วงบางนา ถนนราชพฤกษ์ ที่รถเยอะ แต่ยังไม่ถึงกับติด ให้บังคับใช้ Speed limit 80-90 เพื่อเปลี่ยนนิสัยการขับรถ เน้นให้รถใช้ความเร็วคงที่ เกียร์สูง-รอบต่ำ ไหลตามกันด้วยความเร็วที่เหมาะสม ไม่ใช่เร่งเบรค เร่งเบรค เมื่อเผาไหม้น้อย มลพิษน้อยก็ลด แถมประหยัดน้ำมัน (ตัวอย่างเส้น นครอินทร์ ช่วงมีกล้อง รถจะขับ 80 เว้นระยะพอประมาน ค่อยๆไหลไป)

การที่ใช้ความเร็วสูงขึ้น จาก 80 เป็น 120 ที่ระยะทาง 20 กิโลเมตร เร็วจะถึงเร็วขึ้น 5 นาทีเองครับ แต่ชนที่ 80 กับ 120 นี้ต่างกันมากเลย

หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: Krongbun ที่ มกราคม 30, 2019, 19:58:37
 ;) ผมว่าแค่รัฐเอาจริง กวดขันวินัยทางกฏหมายก็จบแล้วครับ
ง่ายๆแต่ทำจริงยาก  ;D
    อีกวิธีคือ ลดภาษีซื้อรถ เพิ่มภาษีรถเก่า บังคับ Auto start stop
ขับเคลื่อนผลักดันรถไฟฟ้า และพลังงานทดแทนจากธรรมชาติ
ลองศึกษาของจีนดู เค้าทำไปหลายอย่างมากละ
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: fishfinger ที่ มกราคม 30, 2019, 20:01:07
เมืองไทยไม่ได้ขาดความคิดดีๆหรือการแก้ปัญหาที่ชาญฉลาด ปัญหาตอนนี้ไม่ใช่อยู่ที่วิธีทีแก้หรอกครับ
อยู่ที่ว่าคนที่มันต้องทำ มันไม่ทำหน้าที่ คนที่มีอำนาจมันนั่งมองปัญหาเฉยๆ

บอกเลยว่าให้พวกที่เผาอะ มันเหมือนสิ่งมีชีวิตที่เดิน2เท้าและรู้จักวิธีใช้ไฟเท่านั้น
ไปสร้างจิตสำนึกหรือรณรงค์อะไรไม่ได้หรอกครับ จับปรับอย่างเดียว
Moral ระดับนี้ควบคุมได้ด้วย Punishment
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: arte ที่ มกราคม 30, 2019, 20:11:07
1.ปล่อยน้ำจากเขื่อนให้น้ำท่วมเมืองประมาณ ข้อเท้า เพือลดฝุ่นจากพื้น ปรับท่อไอเสีย ยิงลงน้ำ
2.ขอความร่วมมือเอกชนบางส่วน ทำงานกะกลางคืน แล้วช่วยเหลือทางภาษี
3.ต่อท่อที่ปัดน้ำฝนมาจ่อที่ปลายท่อไอเสีย ทุกครั้งที่ เร่งให้น้ำจากที่ปัดน้ำฝน พ่นให้ควันฝุ่นตกลงพื้น
4.จัดงานสงกานต์ทุกเดือน  ให้คนทยอยกลับต่างจว.รถจะได้ไม่ติด สาดน้ำกันทุกเดือนจะช่วยล้างฝุ่น ทำอุโมง ละอองน้ำ
5.จัดโซนพื้นที่ภาษี พื้นที่คนเยอะ เศรฐกิจดีๆเก็บเรทเยอะๆ พื้นที่กันดาน จัดเก็บน้อยหรือไม่เก็บ กระจายคนออกนอกเมือง
6.กดปุ่มระเบิด nuclear เพื่อให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ จากการชนระดับอนุภาคและย่อยสลาย ของ pm2.5
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: lexus ที่ มกราคม 30, 2019, 20:21:09
นอกจากปัจจัยภายในประเทศแล้ว ปัจจัยภายนอกก็หนักไม่แพ้กันครับ
ประเทศเพื่อนบ้านเราฝั่งทางตะวันออกขยันเผาไร่เผานามาก ละกระแสลมพัดมาเข้าประเทศเราพอดี
อันนี้แหละ ยาก เพราะเป็นปัจจัยที่เราไม่สารมารถควบคุมได้เลย

แต่ถ้าเริ่มจากประเทศเราผมมองว่า
1.ตอนตรวจสภาพรถยนต์ประจำปี ขอให้วัดค่ามลพิษท่อไอเสียอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะกระบะซิ่งควันดำทั้งหลาย ถ้าไม่ผ่านก็ต่อทะเบียนไม่ได้หรือยึดรถไปเลยยิ่งดี ละขอให้มีด่านตำรวจตรวจวัดควันรถด้วยโดยเฉพาะโซนที่มีนิคมอุตสาหกรรม กระบะซิ่งเป็นอะไรที่ชาวผู้ใช้แรงงานฮอตฮิตกันมาก

2.ห้ามเกษตรกรเผาทุ่ง เผาไร่ (อันตรายต่อผู้ใช้ถนนด้วย) ถ้าเกิดควันเจ้าของที่ดินต้องรับผิดชอบจะมาอ้างว่าใครไม่รุ้มาแอบจุดไฟไม่ได้ ปรับหนักๆไปเล้ย

3.จากภาคอุตสาหกรรม ปล่อยมลพิษมากก็สั่งปรับเงิน เจออีกก็สั่งปิดไปเลย ผมว่าอันนี้ยากสุด อำนาจเงินค้ำคอ จ่ายใต้โต้ะกันลึ่มเห้อออ

4.ลดภาษีสรรพสามิตรรถยนต์ใหม่ที่ปล่อยมลพิษน้อยๆ Ev hybrid ทำคล้ายๆญี่ปุ่นได้จะดีมาก

5.ไม่เก็บvatสินค้าเครื่องฟอกอากาศ Maskต่างๆ

6.จำกัดจำนวนtaxi ผมว่าตอนนี้taxiเยอะเกินไปละ คุณภาพก็แย่
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: Fly to dream ที่ มกราคม 30, 2019, 20:42:20
เอา​รถ​ออกจากถนน​เช่น​รถที่ไปแบบไม่มีเหตุผล​เช่น​ Taxi ว่าง​ ควรมีจุดจอดและศูนย์​วิทยุ​เรียก

บัสเลนที่เข้มงวด​ให้รถสาธารณะ​วิ่งและเพิ่มไปหลายถนนหน่อย​ ไม่ก็​แถม​รถยนต์​ที่มีคนนั่งในรถ​ 2 คนขึ้นไปมาวิ่งได้
และให้รถยนต์​ Hybrid, EV วิ่งได้ด้วยโดยไม่โดนจับ

รถ​ Hybrid, EV ได้สิทธิ์​พิเศษ​จากรัฐ​ เช่นสัดส่วนภาษีรายปี
ไม่ก็ลดหย่อนภาษีได้​ จูงใจ​สุดๆ​ไปเลย​ เดี๋ยว​พฤติกรรม​คนเปลี่ยน​เอง​ ค่ายรถก็ต้องปรับตัว​

เพิ่ม​ shuttle bus ฟรีวิ่งถนนที่ไม่มีรถไฟฟ้า​มาส่งที่สถานีรถไฟ
จูงใจ​คนออกจากบ้านมาขึ้นรถไฟฟ้า​ ยกตัวอย่าง​ถนนราชพฤกษ์​โซนนี้หมู่บ้าน​เยอะแต่ไม่มีรถไฟฟ้า​ ต้องมาขึ้นแถวๆรัตนาธิเบศ  นู่น

Cradit สำหรับ​คนใช้รถสาธารณะ​ อันนี้​ควรผลักดัน​ไอ้บัตรแมงมุมตั๋วร่วมให้เสร็จ​สักที​ มีส่วนลดเติมบัตร​ให้
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: Tien.W ที่ มกราคม 30, 2019, 20:46:09
ถ้ากับตัวเอง ... กรองแอร์ในรถ ผมใช้ HEPA มาตั้งแต่ยุค Civic FD ละ สมัยก่อน ของนำเข้า อันละพันกว่าบาท จนมีคนสั่งกระดาษมาผลิตในไทย ราคาประหยัดก็ใช้ของเค้าเรื่อยมา ตอนนั้นไม่รู้หรอก ฝุ่น PM2.5 เป็นยังไง รู้แต่ ไส้กรองเค้า จีบกระดาษมันถี่มาก (หมายถึง พื้นที่กรองฝุ่นเยอะ) ใช้แล้วลมไม่ drop ก็เลยใช้มายาวๆ

ส่วนมาตรการในระยะยาว ถ้าเป็นผมนะ ...

1. ผมเล่นรถสาธารณะ รถของรัฐทั้งหลายก่อน
รถเมล์ ทั้ง ขสมก ทั้งรถร่วม ต้องส่งรถเข้าตรวจให้ครบทุกคัน คันที่ตรวจแล้ว จะทำ stk ติดไว้ รวมถึง มี checklist เบอร์รถที่มือผู้ตรวจด้วย คันไหนไม่ตรวจ เจอบนถนนโดนหนัก (อาจจะให้เวลาสัก 15 - 30 วัน)

รถบัสรับส่งพนักงาน รถทัวร์ คือ รายต่อไปครับ พวกเอาเครื่องเก่า แซสซีส์เก่า มาต่อกันเอง พ่นหมึกกัน

2. จากนั้น ตั้งด่านตรวจกระบะพ่นหมึกครับ
พวกนี้ดูไม่ยาก stk เยอะๆ รกๆ ล้อยื่นๆ ตรวจเจอ สั่งระงับใช้รถ ให้แก้ไขทันที แล้วกลับมาตรวจซ้ำ .. ถ้าหาย ไม่กลับมา เพิกถอนทะเบียน / ถ้าตรวจแล้วผ่าน แล้วเจออีก (ภายในกี่เดือนก็ว่าไป) คราวนี้ อาจจะต้องมีมาตรการยึดรถ

3. สถานรับตรวจสภาพเอกชนทั้งหลาย
ประเภทลักไก่ ไม่ตรวจตามข้อกำหนด ต้องเอาให้หนัก (เคยเจอกับตัวไง เอารถไปตรวจสภาพ ผมก็ถามว่า ค่าไอเสียเป็นยังไงบ้าง .. เค้าตอบผมว่า "ยังไงก็เอาให้ผ่าน ไม่ผ่าน ผมก็ไม่ได้เงินสิ" อ้าวว เฮ้ยยย  !!

4. โรงงานอุตสาหกรรม
ให้กรมโรงงานลงตรวจ รับรอง แล้ว ซ้ำด้วย จนท. ของรัฐหน่วยอื่น ถ้าบอกว่าผ่าน แต่ไปตรวจแล้วเจอ คนตรวจกลุ่มแรกโดนหนัก

ส่วนมาตรการระยะยาว

1. คุณภาพน้ำมันดีเซล ต้องสูงขึ้น

2. มาตรฐานไอเสียของรถทั้งดีเซล และ เบนซิน ต้องสูงขึ้น

3. อัตราภาษีประจำปี สำหรับรถที่ตรวจแล้ว ค่าไอเสียเกินเกณฑ์ น่าจะต้องสูงขึ้น สูงแบบมากๆด้วย เพื่อบีบให้คนดูแลสภาพรถตัวเอง

4. ภาษีในส่วนของอุปกรณ์กรองไอเสีย เช่น CAT / DPF / EGR พวกนี้ ต้องไม่เก็บ หรือ เก็บน้อยที่สุด เพื่อส่งเสริมให้คนที่ใช้รถเก่า แล้ว พวกนี้เสียหาย ยอมซื้อของใหม่เปลี่ยน แทนการถอดทิ้ง (ซึ่งก็จะล้อกับข้อ 3)

ประมาณนี้ ที่คิดได้

หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: Weetting ที่ มกราคม 30, 2019, 21:01:57
เอาตอนนี้เลยนะครับ 
1. Gk รถผมใช้ E85 ได้ผมก็เติมครับ  Pm 2.5 อย่าโทษดีเซลอย่างเดียวครับ เบนซินก็ปล่อย
2.ดีเซลรุุ่นเก่าครับตอนนี้ผมเติมบางจาก Hi-premium Euro5 ครับ รถดีเซลเก่าผมเติมน้ำมันปาล์มไปผสมอัตราส่วน 2/10 ครับ  กลิ่นไอเสียกับควันดำแทบไม่มีครับ 
3. Focus MkII  ตามคู่มือรองรับแค่ E20  แต่เคยดูแมฟกล่องมันคิดเองได้มันคิดได้ถึงค่า E85  ผมก็เติม E20กับE85 อย่างละครึ่งครับ

คันอื่นผมไม่กล้าซนก็เลย เติมน้ำมันที่สะอาดที่สุดเท่าที่ทำได้ครับ    ::) ::) ::)

4.ขับรถให้ช้าลงครับแต่ก่อน Limit ตัวเองบนทางด่วนที่ 120 ตอนนี้เหลือ 90 ครับ มองออกไปเห็นหมอกควันทั่วเมือง  เท้ามันก็เบาเองครับ
5. ใส่หน้ากากป้องกันครับ 
ุ6.เปลี่ยนกรองแอร์ในรถ
7. งดกินอาหารปิ้งย่างครับ 

*** ขอบ่นหน่อยละกันครับ  ผมว่าเมืองไทยที่บ่นๆกันเนี่ยมันแก้ปัญหาผิดที่ผิดทางมาตลอดครับ ประเทศอื่นพยายามผลักดันไปใช้ขนส่งสาธารณะแต่ไทย  กลับลดพื้นที่ฟุตบาทแล้วทำถนน  พอรื้อฟุตบาทต้นไม้ก็หายไปด้วย พอคนหลายคนเห็นฟุตบาทแคบๆก็ไม่อยากเดินกัน พากันเอารถออกมาใช้ รัฐก็ทำแบบเดิมเพิ่มพื้นที่ถนนไปเรื่อยๆ  หายทั้งคนเดินถนนหายทั้งต้นไม้ ปัญญาอ่อนมากครับ     

และที่สำคัญที่สุด    นิสัยของคนไทยส่วนใหญ่ที่รักสบายเนี่ยละครับที่สุดแล้ว
พื้นที่เศรษฐกิจชั้นใน ตรงสีลมมีรถไฟฟ้าและ BRT ครอบคลุมใช้ได้เลยผมมองว่าเส้นสีลมจากแยกศาลาแดง ไปถึงแยกสาทรขนราธิวาสและสาทรเหนือสามารถห้ามไม่ให้รถเข้าพื้นที่ได้ด้วยซ้ำ แล้วขยายทางเดินเท้าออกมาอย่างละเลน  ให้คนสามารถปั่นจักรยานรึเดินเท้าได้ 

แต่ถามว่าทำได้ไหม?  ตอบเลยไม่ได้ครับ  ประท้วงอีก   รักสบายอีก เหงื่อออกอีก  สารพัดจะอ้าง   ถถถถถถถถถถถถถถถถถ   



เราว่าปัญหานี่เป็นมานานกว่า 20 ปีแล้วละ แต่เราแค่มองมันไม่เห็นเท่านั้นเอง (เมื่อก่อนอาจไม่หนักเท่านี้)

วิธีแก้ระยะสั้น ก็ตามๆที่หลายๆสำนักข่าว หลายๆคนว่ากัน
- ใส่หน้ากากป้องกัน N95
- ถ้าไม่จำเป็นอย่าออกมาทำกิจกรรมกลางแจ้ง
** ฉีดน้ำนี่ไม่ได้ช่วยเลย **


ลองหารายงานอ่านดูครับ น้ำช่วยได้ครับ  มีเอกสารอ้างอิงหลายตัวมาก 
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: bodin ที่ มกราคม 30, 2019, 21:29:29
จากตนใช้กระบะ4ประตูนะครับ รัฐบาลอุ้มทั้งรถดีเซลและน้ำมันมานานมากๆซึ่งเป็นต้นเหตุ50%ของฝุ่น

ระยะสั้น
1.เจ็บหน่อยขึ้นราคาน้ำมันไปเลยครับ 10 บาท/ลิตร รถดีเซลคงหายไปจากถนนพอสมควรแต่คงต้องยอมให้กระทบค่าครองชีพบ้าง
2.เอาพวกกระบะแต่งพ่นหมึกไปจำคุกหรือยิงเป้าครับ ปรับให้ตายมันก็พ่นต่อเดนคนพวกนี้ห่วย+ต่ำระดับDNAแก้ไม่ได้
ระยะกลาง
1.ขึ้นภาษีรถดีเซลที่ไม่ได้ใช้ในการขนสินค้า PPV กระบะ4ประตู
2.หาทางดีๆให้ชาวนาเลิกเผานาเผาไร่
ระยะยาว
รถไฟฟ้าทั้งส่วนบุคลและระบบราง
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: YenChar ที่ มกราคม 30, 2019, 21:41:21
ไม่ต้องทำอะไรครับ ตำรวจตรวจแล้ว ไม่พบควันดำ  8)
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: koko86 ที่ มกราคม 30, 2019, 21:45:05
มลพิษจากรถยนต์..
ระยะสั้น ทันที ตรวจสอบสภาพมถเมล์ รถสาธารณะ รถเก็บขยะ รถขนส่ง รถบรรทุกของหน่วยงานรัฐ รถบัส ให้จัดการไอเสียได้ดีขึ้น รถคันใหญ่ เก่าหลายสิบปี มาตรฐานมลพิษ ระดับไหนไม่รู้ แต่ใช้วิ่งทั้งวัน ทุกวัน ปล่อยมลพิษเยอะแน่นอน
// อันนี้เหมือนเขาตรวจแล้ว แต่บอกว่าปรกติ....

กระบะ แต่งไม่ห้าม แต่ถ้าควันดำ จับ/ปรับหนักๆ กระบะดีเซลใหม่ มลพิษจริงๆอาจไม่มากถ้าไม่ปรับแต่ง
ตรวจสอบกวดขัน มลพิษช่วงต่อทะเบียน จะแต่งไม่ห้าม แต่ต้องควบคุมมลพิษได้

คนใช้รถ เปลี่ยนกรองแอร์ ที่กัน PM 2.5 ได้ เพื่อตัวเอง...

ระยะยาว
เพิ่มภาษีประจำปีตามระดับมลพิษ หรือ ลดภาษีหากเปลี่ยนรถเป็นรถที่ปล่อยมลพิษน้อยลง เพื่อกระตุ้นให้คนใช้รถที่สะอาดมากขึ้น
เป้าหมายให้ดีเซลเหลือใช้ในกลุ่มที่จำเป็นเท่านั้น

ภาษีรถนำเข้า ปรับเกณภาษีที่ใช้ ประเมินจากส่วนอื่นนอกจาก CO2 เพิ่ม NOx/PM2.5 เพราะปัจจุบันกลุ่มรถหรูที่ดีเซลขายดี เพราะโดนภาษีน้อย ราคาสูงไม่มาก
รถดีเซลภาษีถูกกว่าเบนซิลเพราะ CO2 ต่ำกว่า (แต่ NOx/PM สูง) ตัวอย่างที่เหนชัดคือ Forturner 2.7 ตัวปัจจุบัน

ส่งเสริม Hybrid // แน่นอนว่า Carbon Footprint ของ Hybrid สูงกว่า แต่ยังไงการผลิตและกำจัดก็อยู่ในระบบปิดที่ถูกควบคุม

ส่วนหนึ่งของมลพิษ มาจากรถ โดยเฉพาะ จุดที่รถติดหนัก... และหลายๆจุดที่รถติดมากๆ ก็มาจากความมักง่ายของบางคน ถนนสามเลน เปิดวิ่งกันสี่เลน แล้วแทรกเอาข้างหน้า จอดรถข้างทาง จอดส่งลูก จอดซื้อหมูปิ้งหน้าเซเว่น
จัดการจราจรให้ดีขึ้น ไหล่ทางห้ามวิ่ง เส้นทึบห้ามเปลี่ยนเลน ติดกล้อง ปรับจริงจัง
ทางออกนอกเมือง เช้นทางด่วนช่วงบางนา ถนนราชพฤกษ์ ที่รถเยอะ แต่ยังไม่ถึงกับติด ให้บังคับใช้ Speed limit 80-90 เพื่อเปลี่ยนนิสัยการขับรถ เน้นให้รถใช้ความเร็วคงที่ เกียร์สูง-รอบต่ำ ไหลตามกันด้วยความเร็วที่เหมาะสม ไม่ใช่เร่งเบรค เร่งเบรค เมื่อเผาไหม้น้อย มลพิษน้อยก็ลด แถมประหยัดน้ำมัน (ตัวอย่างเส้น นครอินทร์ ช่วงมีกล้อง รถจะขับ 80 เว้นระยะพอประมาน ค่อยๆไหลไป)

การที่ใช้ความเร็วสูงขึ้น จาก 80 เป็น 120 ที่ระยะทาง 20 กิโลเมตร เร็วจะถึงเร็วขึ้น 5 นาทีเองครับ แต่ชนที่ 80 กับ 120 นี้ต่างกันมากเลย

อห็นด้วยอย่างยิ่งเลยครับ หลายๆวิธีที่บอกมา แก้ได้ง่ายและเร็วที่สุด
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: toonze ที่ มกราคม 30, 2019, 21:45:16
จับรถเถื่อนรถผิดกฎหมายรถลักที่แอบมาใช้ให้หมดผมว่าลดรถออกไปได้เยอะเลย
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: paulmoderndog ที่ มกราคม 30, 2019, 21:46:43
ถ้านะยะยาว คือ ลดการimport ใช้ของท้องถิ่นมากขึ้นครับ  เพราะการเดินทางไม่ว่าจะเป็นสิ่งของหรือคนโดยพาหนะ ล้วนสร้างมลภาวะครับ
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: U9WS ที่ มกราคม 30, 2019, 21:59:59
สำหรับรถดีเซล
-งดจอดติดเครื่องทิ้งไว้
-เติมน้ำมัน Euro5 หรือหา additive ล้างหัวฉีดมาเติม
-ทำความสะอาดระบบไอดี มีร้านรับทำทั้งถอดไอดีออกมาล้าง และใช้เครื่อง+น้ำยาหรือสเปร์ยล้าง
-ถ้ารถเก่ามากทำเพิ่มจากข้างบนคือ เข้าเช็คหัวฉีด/เทอร์โบ
-ใครอุด egr อยู่ไปเอาออก
-ใครจูนรีแมพแบบเอาแรงเป็นหลัก ช่วงนี้ก็ลดละ ลองติดต่อไปที่จูนว่ามีโปรแกรมรักษ์โลกไหม คนจูนก็ควรจัดโปรแกรมรักษ์โลกแบบฟรีๆให้ลูกค้าเก่า ลูกค้าใหม่ก็งดรับจูนควันท่วมไปก่อนก็ยังดี

สำหรับภาครัฐก็เร่งผลักดันน้ำมัน Euro5 และกรอง DPF จากโรงงานให้้เร็วขึ้น (มีในแผนอยู่แล้ว)

และอยากให้เพิ่มเติมเรื่องการเก็บภาษีประจำปีที่ปัจจุบันคิดจากปีและขนาดของเครื่องยนต์ ให้เปลี่ยนเป็นตามมลพิษปล่อยจริงของแต่ละคัน เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการดูแลสภาพรถของตัวเองให้มากขึ้น ต่อให้รถรุ่นเดียวกันปีเดียวกันวิ่งกิโลพอๆกันถ้าคันที่ดูแลรถดีปล่อยมลพิษน้อยก็จ่ายภาษีน้อยกว่า
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: andy_duf ที่ มกราคม 30, 2019, 22:18:17
เห็นชัดว่าฉีดน้ำไม่ช่วย แต่ฝนตกช่วยแน่ๆ และช่วยบรรเทามาแล้ว

ทำฝนหลวง ปัญหาก็จบแล้ว
ทำ 6ครั้ง สำเร็จ 1ครั้ง ก็ไม่เป็นไร ก็ทำไปเรื่อยๆ ถ้าทำ 24 ครั้งก็สำเร็จได้ 4 ครั้ง
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: BN` ที่ มกราคม 31, 2019, 01:09:25
ถ้าสำหรับระยะสั้น

1. เปลี่ยน รถเมล์, รถโดยสาร และรถยนต์ทั้งหมดของภาครัฐให้เป็นรถยนต์เบนซิน

2. หยุดผลิตและหยุดจำหน่ายรถเก๋ง และ รถกระบะ เครื่องดีเซลทั้งหมดในประเทศทั้งมือ 1 และ มือ 2

3. รถบรรทุกเครื่องดีเซลต้องได้มาตรฐานรับรอง ได้รับการตรวจทุกปี และห้ามใช้นานเกิน 7 ปี


ส่วนระยะยาว

ต้องผลักดันให้รถทุกประเภทเป็นระบบ Hybrid และ EV ทั้งหมดให้ได้โดยเร็วที่สุด
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: No Trespassing ที่ มกราคม 31, 2019, 01:17:00
เห็นชัดว่าฉีดน้ำไม่ช่วย แต่ฝนตกช่วยแน่ๆ และช่วยบรรเทามาแล้ว

ทำฝนหลวง ปัญหาก็จบแล้ว
ทำ 6ครั้ง สำเร็จ 1ครั้ง ก็ไม่เป็นไร ก็ทำไปเรื่อยๆ ถ้าทำ 24 ครั้งก็สำเร็จได้ 4 ครั้ง

การทำฝนหลวง ต้องมีความชี้นเป็นส่วนประกอบหลักครับ
ล่าสุดที่ตรวจสอบ ลมบนระดับ 850-925 hpa (ราวๆ 1.5 กิโลเมตรจากระดับน้ำทะเล) ยังเป็นลมตะวันออกเฉียงเหนือครับ ซึ่งเป็นอากาศแห้ง

รวมถึงลม Anti-Cyclonic ซึ่งอยู่ระดับ700-850 hpa (ราวๆ 2-3 กิโลเมตรจากระดับน้ำทะเล) ยังคงปกคลุมในย่านนี้อยู่
ทำให้ลมจากด้านบนกดลงมา ความชี้นก็ไม่สามารถกระจายตัวออกด้านบนได้

ประกอบกับช่วงนี้ลมทะเลค่อนข้างอ่อน และในเมื่อลมไม่พัดความชี้นเข้ามา ก็ไม่สร้างเมฆ เมื่อไม่มีเมฆก็ไม่มีฝน
การทำฝนหลวงจึงไม่ได้ผลในช่วงนี้ครับ

---

วิธีแก้ไขเรื่องฝุ่น ท่านสมาชิกในนี้กล่าวกันไปหมดแล้ว ผมคงไม่ซ้ำแล้วละครับ
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: Ji.Cl. ที่ มกราคม 31, 2019, 01:37:16
ถ้าสำหรับระยะสั้น

1. เปลี่ยน รถเมล์, รถโดยสาร และรถยนต์ทั้งหมดของภาครัฐให้เป็นรถยนต์เบนซิน

2. หยุดผลิตและหยุดจำหน่ายรถเก๋ง และ รถกระบะ เครื่องดีเซลทั้งหมดในประเทศทั้งมือ 1 และ มือ 2

3. รถบรรทุกเครื่องดีเซลต้องได้มาตรฐานรับรอง ได้รับการตรวจทุกปี และห้ามใช้นานเกิน 7 ปี


ส่วนระยะยาว

ต้องผลักดันให้รถทุกประเภทเป็นระบบ Hybrid และ EV ทั้งหมดให้ได้โดยเร็วที่สุด
ต่อให้ไม่นับเรื่องความเป็นไปได้ในการทำ

ผมว่า ระยะสั้นทั้ง 3 ข้อนี่ไม่ใช่การ "แก้ปัญหา" นะครับ ผมว่านั่นคือการ "เปลี่ยนปัญหา" มากกว่า

อย่าลืมว่าเบนซินก็ยังมี Unburned HC กับ CO อยู่นะครับ ถึงจะมีแคทก็เถอะ ในขณะที่ดีเซลปล่อยน้อยกว่าหลายเท่าตัวเลย

ซึ่งถ้าค่าพวกนี้เกินขึ้นมา แก้ยากและน่ากลัวไม่แพ้ PM2.5 เลยครับ Air4Thai ทุกวันนี้ก็รายงานค่า CO 1-3 ppm กันแล้ว

จากที่กำหนดไว้ 6.4 ที่ AQI=50 ถ้าเปลี่ยนมาใช้เบนซินหมด ผมว่ามีสิทธิ์เกินครับ ไหนจะมี CO2 ที่เบนซินปล่อยมากกว่าดีเซลอีกหลายช่วงตัว

Greenhouse Effect อีก รวมๆ หนีเสือปะจระเข้นะครับผมว่า เสียเงินมหาศาลลงทุนเพื่อไปเจออีกปัญหาหนึ่งซึ่งไม่รู้ว่าจะแรงแค่ไหน ไม่น่าคุ้มครับ

การลดปัญหาควรเปลี่ยนจาก "รุ่นเก่า" มาเป็น "รุ่นใหม่" มากกว่าครับ คือ...

ข้อ 1. ผมว่า เปลี่ยนเครื่องยนต์ในรถเมล์ รถราชการ เป็นเครื่อง "ดีเซลใหม่" Euro 4-5 เข้าท่ากว่าครับ ลดฝุ่นลงตรงๆ โดยไม่เพิ่มตัวอื่น

ข้อ 2 และ 3 ผมว่า เป็นมาตรการระยะสั้นไม่ได้ครับ แต่อาจบังคับใช้มาตรฐานยูโร 5 ทั้งรถและน้ำมันโดยเร็วที่สุด (ซึ่งมีในแผนแล้ว)

ระยะยาว ผมว่า เน้นรถที่มี Regenerative Braking ทุกประเภท โดยเฉพาะ EV และแบบเครื่องยนต์ปั่นไฟ แบบ Nissan E-power ครับ

ถึงจุดๆ หนึ่งแล้ว รถที่ไม่มี Regenerative Braking ทั้งประเภท EV และ Fossils ควรถูกห้ามจำหน่าย หรือจำหน่ายโดยเก็บภาษีเพดานสูงสุดครับ

.

ส่วนตัวผมสนับสนุนให้บังคับใช้น้ำมันยูโร 5 โดยเร็วที่สุดครับ แพง 1-2 บาท ไม่เป็นไร ผมถือว่าไม่เป็นการเอาเปรียบคนเดินถนน
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: NoName__??? ที่ มกราคม 31, 2019, 06:27:23
วิธีการมีเยอะแยะ แต่ยังไม่เห็นมาตราการที่จริงจัง รูปธรรมมากกว่า
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: GOBBS ที่ มกราคม 31, 2019, 06:59:31
ฟัง drive by jimmy ก็รู้สึกแปลกๆ กับข้อมูลที่ออกมา พอมาอ่านกระทู้นี้ยิ่งรู้สึกว่า เราควรจะตามข้อมูลมากกว่านี้นะ
1.ฉีดน้ำช่วยได้ครับ แต่มันเห็นผลไม่ชัดเจน อย่างข้างบนบอกมีผลวิจัยมาแล้ว
2.ทำฝนเทียม ยากมากในเขต กทม. นอกจากต้องดูความชื้นและเมฆแล้ว ไฟล์บินใน กทม. เยอะมากแถมสองสนามบิน โอกาสที่เครื่องบินจะขึ้นไปทำให้ตรงจุดยากมากครับ
3.ควันไม่ได้มาจากเพื่อนบ้าน สำรวจมาแล้วว่ามีผลที่ตราด แต่ไม่ได้ยาวมาจนมีผลอย่างเป็นนัยยะใน กทม. (ไม่งั้น ปราจีน นครนายกก็ค่าสูงสิ)
คนไทยโทษตัวเองบ้างเถอะครับ อะไรๆก็โทษคนอื่นจัง
4.คนไปติดภาพ รถเมล์ดีเซล กทม.ควันดำจากรูปที่ชอบประชดส่งๆ กันมา ... แต่ตอนนี้รถเมล์ส่วนมากเป็นก๊าซ(ลองมาขี่จักรยานไปทำงานแบบผมดูสิ แล้วจะรู้) ครับ และรุ่นเก่าๆกำลังจะถูกแทนด้วย ล็อตใหม่แล้ว(หลังจากอยู่มานานเกิน 30ปี) ... และกำลังทดลองรถเมล์ไฟฟ้าล้วน/ไฮบริดกันอยู่ ว่ากันจริงๆ ถ้าไม่ติดคราม่ากับงบประมาณ รถเมล์นี่นำรถคนทั่วไป ไปนานแล้วด้วยซ้ำครับ ถ้าย้อนไปก็ลองคิดถึงตอน euro2 ส้มมาใหม่ๆ(จนตอนนี้โครตเก่า) ดูสิครับ
5.ทะเบียนคู่ / คี่ ไม่ได้ช่วยอะไรครับ ถ้าคนไทยยังคิดแบบเดิมอยู่ อย่าลืมว่าแต่ละบ้านเดี๋ยวนี้ มีรถสองคันไม่ใช่เรื่องยาก...และพอมีสองคัน การเปลื่ยนรถให้เป็นคันใหม่ที่มลพิษต่ำลง จะนานกว่าเดิมนะ....
6.น้ำมัน ไทยมีถึง euro5 แล้ว แต่มีแต่พรีเมียมไทยสองเจ้า หลายๆคนติดปัมท์ฝรั่งก็ไม่ได้เติม ... ส่วนมาตราฐานน้ำมัน ไทยฟึ่งขยับเป็น euro4 ล้วนได้ไม่นานครับ(ถ้าไม่ขยับ ปัมท์ฝรั่งบางเจ้ายังขาย euro3 ด้วยซ้ำไปนะ) จะบังคับ euro5 ก็ดีนะ(แต่สัน..คนไทย EGR ยังอุด CAT ยังตัด DPF จะเหลือเหรอ)
แต่ยุคหน้าเป็นรถไฟฟ้ากันแล้วละครับ ตอนนี้หลายๆคนก็ใช้ไฮบริดกันแล้ว ผมไม่ค่อยห่วงตรงนี้นะ
7.อาจจะต้องไปด่าคนวางผังเมืองตั้งแต่เก่าก่อน รวมถึงนักพัฒนาอสังหาด้วยครับ ว่าเอะอะอะไรก็สร้างในกรุงเทพ และเรารู้ไหมครับ ถ้าไปเปิดแผนที่ นิคมอุตสหกรรมล้อมกรุงเทพอยู่นะครับ แล้วรถไฟฟ้าไปไหน คอนโดตามไป จนผมรู้สึกว่า คอนโดมันจะมากกว่าคนอยู่แล้วนะ
............................................................
แก้ปัญหาไง
1.ใส่หน้ากากแล้วมาขึ้นรถสาธารณะครับ เริ่มจากตัวเองเลย
อย่างผม ปกติ ขี่จักรยานมาทำงานตั้งแต่เริ่มทำงาน จนตอนนี้เป็นระดับหัวหน้าก็ขี่มาทำงาน
รถไฟฟ้า มียาวจนจะลงทะเลแล้ว(มาถึงปากอ่าวบางปูแล้วนะ) ใครบ้านไกลก็ขับมาจอดแล้วขึ้นก็ได้ แต่เท่าที่เห็นคือ ขับเข้ามาเลย บางคน(ที่ทำงานผมด้วยละ) รถไฟฟ้าผ่านคอนโด แต่ถ้าที่ทำงานมีที่จอดรถก็ขับมาอยู่ดี ... สำรวจได้เลยครับ office building ในกรุงเทพแทบทั้งหมด วันทำงาน ที่จอดรถหายากมากกก
แก้ค่านิยม กับความขี้เกียจตัวเองก่อนเหอะ
2.พัฒนาระบบขนส่งมวลชนต่อไปครับ เอาให้คนขี้เกียจอายไปเลย ตอนนี้รถไฟฟ้าถึงบางปูแล้ว ต่อไปก็ไปถึงมหาชัย คลองหก เชียงราก กันไปเลยเอาให้ไม่มีข้ออ้างกันไปเลย
3.ทำกรุงเทพให้เล็กลง ทำประเทศไทยให้ใหญ่ขึ้น ราชการนี่ละ ย้ายไปเลย(แต่ดันไปทำศูนย์ราชการที่แจ้งวัฒนะไปแล้วหนะสิ) หรือเอกชน บ.ไหนพอออกไปได้ก็ออกไปเถอะครับ เดี๋ยวนี้ vdo. conference ง่ายขึ้นเยอะ ใครๆก็ทำได้ ... พองานใน กทม.น้อยลง คนก็เข้ามาน้อยลง ใช้พลังงานก็น้อยลง
4.อีกหน่อยหลายๆคนก็ทำงานที่บ้านแล้วละครับ อย่างผมอีก 2ปีหลายๆ บ. ก็เริ่มมีนโยบายให้ลดคนทำงาน office (ลดค่าเช่าที่ ค่าอื่นๆมากมาย)ผมว่าอีก 4-5ปี กทม.งานจะน้อยลงนะ
5.โรงเรียนคุณหนูทั้งหลาย ถ้าเด็กเล็กๆ พอเข้าใจได้ แต่ถ้าจะให้ดี มีรถโรงเรียนคุณภาพดีๆมารับส่งก็จะดีกว่าผู้ปกครองมาจอดรถแช่หน้า รร. นะ ส่วนเด็กโข่งไม่รู้จักโตบางที่รถไฟฟ้าจ่อหน้าสถานศึกษาแล้วยังจะไปส่งก็ไม่รู้จะว่าไงนะ
6.ลดการใช้พลังงานทุกๆเรื่อง ครับ นิดหน่อยก็ยังดี อย่าเป็นนักอนุรักษ์ปลอมๆที่ไล่ไม่ให้ทำโรงไฟฟ้าแต่ตัวเองเฝ้าหน้าFB ตลอดเวลาละ
พิมพ์เสร็จปิดคอม.....  ไปละ
...เรื่องอื่นๆ หลายๆคนก็ตอบได้ดีอยู่แล้วครับ......
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: HHHsung ที่ มกราคม 31, 2019, 09:38:48
ภาครัฐจริงจังและเด็ดขาด แก้ได้ครับ แต่..........รู้กันนะ

ปล. เบิ้องต้นผมไม่ขับรถมาทำงานตั้งแต่ต้น ธ.ค. ปีที่แล้ว มารถไฟฟ้า ใส่หน้ากาก N95 กรองแอร์รถใช้ HEPA นอนเปิดเครื่องฟอกอากาศ งดกิจกรรมกลางแจ้ง ครับ
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: Gottinho ที่ มกราคม 31, 2019, 09:56:07
แนวความคิดแก้ไขปัญหามลพิษระยะยาว 3-5 ปี

1.รัฐอุดหนุนให้คนใช้รถไฮบริด/ไฟฟ้า ในราคาถูกกว่าปัจจุบัน 20-30% ให้คนเข้าถึงได้ง่าย (ลดภาษี+เงินอุดหนุนจากรัฐ ฯลฯ)
2.รัฐค่อยๆ ยกเลิกการใช้น้ำมันดีเซลในรถยนต์ส่วนบุคคล ส่วนเสปครถเบนซินอนาคตต้องใช้เฉพาะ E85 ขึ้นไป
3.รัฐจำกัดการอนุญาตก่อสร้างอาคารสูงมากๆ / โครงการใหญ่ๆ ปีละไม่เกิน......โครงการ (ต้องศึกษาตัวเลขที่เหมาะสม)
4.เร่งรัดก่อสร้างระบบรถไฟฟ้า/รถราง ให้ครอบคลุมพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ให้แล้วเสร็จภายใน 3-5 ปี
5.รถเมล์ขนส่งมวลชนบังคับให้ใช้ระบบไฟฟ้าเท่านั้น

หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: ๐NoMoRE-LiKELY๐ ที่ มกราคม 31, 2019, 10:11:40
รัฐบาลต้องกำหนดข้อตกลงการซื้อของคนในประเทศ ใหเหมือน แบบ ญี่ปุ่น และ แหล่งอุตสาหกรรมต้องตั้งอยู่ถูกที่
งานก่อสร้างต้องน้อยกว่านี้
งานก่อสร้างต่อนี้ยังยังกะ Sim City ใช้สูตรโกงเงินเลย
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ มกราคม 31, 2019, 10:13:59
เรื่องมลพิษ มี กม ออกมามากมายครับ ผมว่า กม เราดีนะ ไม่ได้ด้อยกว่าใครเลย แต่คนปฏิบัตินี่สิ ทั้งฝ่ายที่ต้องทำตาม กม และฝ่ายที่ดูแล กม
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: MUK ที่ มกราคม 31, 2019, 10:19:23
ออกมาอยู่ต่างจังหวัดครับ
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: sukhontha ที่ มกราคม 31, 2019, 10:20:20
ออกมาอยู่ต่างจังหวัดครับ
จากตนใช้กระบะ4ประตูนะครับ รัฐบาลอุ้มทั้งรถดีเซลและน้ำมันมานานมากๆซึ่งเป็นต้นเหตุ50%ของฝุ่น

ระยะสั้น
1.เจ็บหน่อยขึ้นราคาน้ำมันไปเลยครับ 10 บาท/ลิตร รถดีเซลคงหายไปจากถนนพอสมควรแต่คงต้องยอมให้กระทบค่าครองชีพบ้าง
2.เอาพวกกระบะแต่งพ่นหมึกไปจำคุกหรือยิงเป้าครับ ปรับให้ตายมันก็พ่นต่อเดนคนพวกนี้ห่วย+ต่ำระดับDNAแก้ไม่ได้
ระยะกลาง
1.ขึ้นภาษีรถดีเซลที่ไม่ได้ใช้ในการขนสินค้า PPV กระบะ4ประตู
2.หาทางดีๆให้ชาวนาเลิกเผานาเผาไร่
ระยะยาว
รถไฟฟ้าทั้งส่วนบุคลและระบบราง

เห็นด้วยอุ้มมานานมาก

  เอาแบบเลิกอุ้มทุกอย่าง  เก็บภาษีน้ำมันเท่ากันทุกชนิด  เลิกกองทุน   

  การตรวจวัด ความเข็มแข็งของกฎหมาย  เอามาใช้ให้เป็นประโยชน์   อากาศสะอาดขึ้นเยอะแน่..
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: Teera ที่ มกราคม 31, 2019, 10:44:42
ฟัง drive by jimmy ก็รู้สึกแปลกๆ กับข้อมูลที่ออกมา พอมาอ่านกระทู้นี้ยิ่งรู้สึกว่า เราควรจะตามข้อมูลมากกว่านี้นะ
1.ฉีดน้ำช่วยได้ครับ แต่มันเห็นผลไม่ชัดเจน อย่างข้างบนบอกมีผลวิจัยมาแล้ว
2.ทำฝนเทียม ยากมากในเขต กทม. นอกจากต้องดูความชื้นและเมฆแล้ว ไฟล์บินใน กทม. เยอะมากแถมสองสนามบิน โอกาสที่เครื่องบินจะขึ้นไปทำให้ตรงจุดยากมากครับ
3.ควันไม่ได้มาจากเพื่อนบ้าน สำรวจมาแล้วว่ามีผลที่ตราด แต่ไม่ได้ยาวมาจนมีผลอย่างเป็นนัยยะใน กทม. (ไม่งั้น ปราจีน นครนายกก็ค่าสูงสิ)
คนไทยโทษตัวเองบ้างเถอะครับ อะไรๆก็โทษคนอื่นจัง
4.คนไปติดภาพ รถเมล์ดีเซล กทม.ควันดำจากรูปที่ชอบประชดส่งๆ กันมา ... แต่ตอนนี้รถเมล์ส่วนมากเป็นก๊าซ(ลองมาขี่จักรยานไปทำงานแบบผมดูสิ แล้วจะรู้) ครับ และรุ่นเก่าๆกำลังจะถูกแทนด้วย ล็อตใหม่แล้ว(หลังจากอยู่มานานเกิน 30ปี) ... และกำลังทดลองรถเมล์ไฟฟ้าล้วน/ไฮบริดกันอยู่ ว่ากันจริงๆ ถ้าไม่ติดคราม่ากับงบประมาณ รถเมล์นี่นำรถคนทั่วไป ไปนานแล้วด้วยซ้ำครับ ถ้าย้อนไปก็ลองคิดถึงตอน euro2 ส้มมาใหม่ๆ(จนตอนนี้โครตเก่า) ดูสิครับ
5.ทะเบียนคู่ / คี่ ไม่ได้ช่วยอะไรครับ ถ้าคนไทยยังคิดแบบเดิมอยู่ อย่าลืมว่าแต่ละบ้านเดี๋ยวนี้ มีรถสองคันไม่ใช่เรื่องยาก...และพอมีสองคัน การเปลื่ยนรถให้เป็นคันใหม่ที่มลพิษต่ำลง จะนานกว่าเดิมนะ....
6.น้ำมัน ไทยมีถึง euro5 แล้ว แต่มีแต่พรีเมียมไทยสองเจ้า หลายๆคนติดปัมท์ฝรั่งก็ไม่ได้เติม ... ส่วนมาตราฐานน้ำมัน ไทยฟึ่งขยับเป็น euro4 ล้วนได้ไม่นานครับ(ถ้าไม่ขยับ ปัมท์ฝรั่งบางเจ้ายังขาย euro3 ด้วยซ้ำไปนะ) จะบังคับ euro5 ก็ดีนะ(แต่สัน..คนไทย EGR ยังอุด CAT ยังตัด DPF จะเหลือเหรอ)
แต่ยุคหน้าเป็นรถไฟฟ้ากันแล้วละครับ ตอนนี้หลายๆคนก็ใช้ไฮบริดกันแล้ว ผมไม่ค่อยห่วงตรงนี้นะ
7.อาจจะต้องไปด่าคนวางผังเมืองตั้งแต่เก่าก่อน รวมถึงนักพัฒนาอสังหาด้วยครับ ว่าเอะอะอะไรก็สร้างในกรุงเทพ และเรารู้ไหมครับ ถ้าไปเปิดแผนที่ นิคมอุตสหกรรมล้อมกรุงเทพอยู่นะครับ แล้วรถไฟฟ้าไปไหน คอนโดตามไป จนผมรู้สึกว่า คอนโดมันจะมากกว่าคนอยู่แล้วนะ
............................................................
แก้ปัญหาไง
1.ใส่หน้ากากแล้วมาขึ้นรถสาธารณะครับ เริ่มจากตัวเองเลย
อย่างผม ปกติ ขี่จักรยานมาทำงานตั้งแต่เริ่มทำงาน จนตอนนี้เป็นระดับหัวหน้าก็ขี่มาทำงาน
รถไฟฟ้า มียาวจนจะลงทะเลแล้ว(มาถึงปากอ่าวบางปูแล้วนะ) ใครบ้านไกลก็ขับมาจอดแล้วขึ้นก็ได้ แต่เท่าที่เห็นคือ ขับเข้ามาเลย บางคน(ที่ทำงานผมด้วยละ) รถไฟฟ้าผ่านคอนโด แต่ถ้าที่ทำงานมีที่จอดรถก็ขับมาอยู่ดี ... สำรวจได้เลยครับ office building ในกรุงเทพแทบทั้งหมด วันทำงาน ที่จอดรถหายากมากกก
แก้ค่านิยม กับความขี้เกียจตัวเองก่อนเหอะ
2.พัฒนาระบบขนส่งมวลชนต่อไปครับ เอาให้คนขี้เกียจอายไปเลย ตอนนี้รถไฟฟ้าถึงบางปูแล้ว ต่อไปก็ไปถึงมหาชัย คลองหก เชียงราก กันไปเลยเอาให้ไม่มีข้ออ้างกันไปเลย
3.ทำกรุงเทพให้เล็กลง ทำประเทศไทยให้ใหญ่ขึ้น ราชการนี่ละ ย้ายไปเลย(แต่ดันไปทำศูนย์ราชการที่แจ้งวัฒนะไปแล้วหนะสิ) หรือเอกชน บ.ไหนพอออกไปได้ก็ออกไปเถอะครับ เดี๋ยวนี้ vdo. conference ง่ายขึ้นเยอะ ใครๆก็ทำได้ ... พองานใน กทม.น้อยลง คนก็เข้ามาน้อยลง ใช้พลังงานก็น้อยลง
4.อีกหน่อยหลายๆคนก็ทำงานที่บ้านแล้วละครับ อย่างผมอีก 2ปีหลายๆ บ. ก็เริ่มมีนโยบายให้ลดคนทำงาน office (ลดค่าเช่าที่ ค่าอื่นๆมากมาย)ผมว่าอีก 4-5ปี กทม.งานจะน้อยลงนะ
5.โรงเรียนคุณหนูทั้งหลาย ถ้าเด็กเล็กๆ พอเข้าใจได้ แต่ถ้าจะให้ดี มีรถโรงเรียนคุณภาพดีๆมารับส่งก็จะดีกว่าผู้ปกครองมาจอดรถแช่หน้า รร. นะ ส่วนเด็กโข่งไม่รู้จักโตบางที่รถไฟฟ้าจ่อหน้าสถานศึกษาแล้วยังจะไปส่งก็ไม่รู้จะว่าไงนะ
6.ลดการใช้พลังงานทุกๆเรื่อง ครับ นิดหน่อยก็ยังดี อย่าเป็นนักอนุรักษ์ปลอมๆที่ไล่ไม่ให้ทำโรงไฟฟ้าแต่ตัวเองเฝ้าหน้าFB ตลอดเวลาละ
พิมพ์เสร็จปิดคอม.....  ไปละ
...เรื่องอื่นๆ หลายๆคนก็ตอบได้ดีอยู่แล้วครับ......

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: PeterC ที่ มกราคม 31, 2019, 10:49:03
1.เปลี่ยนมาตรฐานตรวจไอเสีย ตรอ. ให้สูงและเข้มงวดขึ้น เราคงเคยเห็นรถขนส่ง รถเมล์ รถปิ๊กอัพ ควันดำ แล้วตั้งคำถามว่าผ่านตรอ.ได้อย่างไร แสดงถึงช่องโหว่มันอยู่ที่ ตรอ. ก้อต้องแก้ที่ตรอ.
2.มาตรการเร่งด่วนที่สามารถทำได้ตอนนี้คือ รถขนส่งและรถเมล์ จะต้องไปตรอ.ใหม่เพื่อจะได้ใบรับรองไอเสียจึงจะอนุญาติให้วิ่งในเขตกรุงเทพและปริมณฑล
3.เพิ่มเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจจับรถควันดำ และเพิ่มเครื่องไม้เครื่องมือด้วย เปลี่ยนจากตรวจแอลกอฮอร์มาตรวจควันดำ
4.หลายคนลืมรถมอร์เตอร์ไซด์ นี่ก็เป็นแหล่งปล่อยควันเช่นกัน แล้วในเขตกรุงเทพและปริมณฑลมีมอร์ไซต์หลายสิบล้านคัน ซึ่งมีมากมายที่เครื่องหลวมปล่อยควันไอเสีย ต้องมีมาตรการสำหรับมอร์ไซต์ด้วย
5.ส่งเสริมพลังงานทดแทน B100/ รถไฟฟ้า / E85 / NGV./LNG. เป็นวาระแห่งชาติ
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: alpha14 ที่ มกราคม 31, 2019, 10:53:19
ถ้า!..........ผมเป็นผู้มีอำนาจสั่งการได้ทุกกระทรวง อันดับแรกผมจะชี้นิ้วไปที่กระทรวงอุตสาหกรรม บรรดาโรงงานใหญ่ๆต่างๆทั้งประเทศจะต้องถูกตรวจค่ามลพิษที่ปล่อยออกมาแล้วแก้ไขให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย  2กระทรวงมหาดไทย ต้องสั่งการไปทุกจังหวัดตำบลหมู่บ้านงดการเผาพิ้นที่เกษตรโดยสิ้นเชิง แนะวิธีไถกลบ หรือช่วยเก็บเศษซากพืชโดยเทศบาลแล้วนำไปแปรสภาพเป็นปุ๋ยกลับมาให้เกษตกร ถ้าการเผาที่มาจากประเทศเพื่อนบ้านต้องให้มหาดไทยทำหนังสือแจ้งไปยังประเทศต้นตอ 3 กระทรวงคมนาคม สั่งการไปที่กรมขนส่งต่างๆ ทั้งบก น้ำ อากาศ ต้องตรวจสอบค่ามลพิษจากท่อไอเสียให้เข้มงวดอย่างจริงจัง ทั้งรถเมล์ รถบรรทุกต่างๆ รถส่วนบุคคล จับปรับเต็มจำนวน สั่งเลิกวิ่งถ้าเกินค่า รถที่ตรวจสภาพเอกชนต้องเอาจริงเข้มงวดไม่ใช่ปล่อยผ่านโดยวิธีซิกแซก  อันนี้ระยะสั้นที่ควรทำภายใน1-3ปีนี้ และต้องทำอย่างจริงจังจริงใจ ไม่สนหน้าอินทร์พรหม ส่วนตัวผมที่ทำมานานแล้วคือเติมe85มา7ปี งดการเผาเศษไม้ใบหญ้าที่บ้านใช้วิธีกวาดมารวมกัน แล้วนำไปคลุมดินโคนต้นไม้ แต่ที่ยังงดทิ้งไม่ได้คือขยะประจำวันที่ยังทิ้งอยู่ แต่ก็คัดแยก ขวดกระป๋องไว้ต่างหากเอาที่พอทำได้ ก็แค่นี้ครับ
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: koko86 ที่ มกราคม 31, 2019, 11:06:30
ฟัง drive by jimmy ก็รู้สึกแปลกๆ กับข้อมูลที่ออกมา พอมาอ่านกระทู้นี้ยิ่งรู้สึกว่า เราควรจะตามข้อมูลมากกว่านี้นะ
1.ฉีดน้ำช่วยได้ครับ แต่มันเห็นผลไม่ชัดเจน อย่างข้างบนบอกมีผลวิจัยมาแล้ว
2.ทำฝนเทียม ยากมากในเขต กทม. นอกจากต้องดูความชื้นและเมฆแล้ว ไฟล์บินใน กทม. เยอะมากแถมสองสนามบิน โอกาสที่เครื่องบินจะขึ้นไปทำให้ตรงจุดยากมากครับ
3.ควันไม่ได้มาจากเพื่อนบ้าน สำรวจมาแล้วว่ามีผลที่ตราด แต่ไม่ได้ยาวมาจนมีผลอย่างเป็นนัยยะใน กทม. (ไม่งั้น ปราจีน นครนายกก็ค่าสูงสิ)
คนไทยโทษตัวเองบ้างเถอะครับ อะไรๆก็โทษคนอื่นจัง
4.คนไปติดภาพ รถเมล์ดีเซล กทม.ควันดำจากรูปที่ชอบประชดส่งๆ กันมา ... แต่ตอนนี้รถเมล์ส่วนมากเป็นก๊าซ(ลองมาขี่จักรยานไปทำงานแบบผมดูสิ แล้วจะรู้) ครับ และรุ่นเก่าๆกำลังจะถูกแทนด้วย ล็อตใหม่แล้ว(หลังจากอยู่มานานเกิน 30ปี) ... และกำลังทดลองรถเมล์ไฟฟ้าล้วน/ไฮบริดกันอยู่ ว่ากันจริงๆ ถ้าไม่ติดคราม่ากับงบประมาณ รถเมล์นี่นำรถคนทั่วไป ไปนานแล้วด้วยซ้ำครับ ถ้าย้อนไปก็ลองคิดถึงตอน euro2 ส้มมาใหม่ๆ(จนตอนนี้โครตเก่า) ดูสิครับ
5.ทะเบียนคู่ / คี่ ไม่ได้ช่วยอะไรครับ ถ้าคนไทยยังคิดแบบเดิมอยู่ อย่าลืมว่าแต่ละบ้านเดี๋ยวนี้ มีรถสองคันไม่ใช่เรื่องยาก...และพอมีสองคัน การเปลื่ยนรถให้เป็นคันใหม่ที่มลพิษต่ำลง จะนานกว่าเดิมนะ....
6.น้ำมัน ไทยมีถึง euro5 แล้ว แต่มีแต่พรีเมียมไทยสองเจ้า หลายๆคนติดปัมท์ฝรั่งก็ไม่ได้เติม ... ส่วนมาตราฐานน้ำมัน ไทยฟึ่งขยับเป็น euro4 ล้วนได้ไม่นานครับ(ถ้าไม่ขยับ ปัมท์ฝรั่งบางเจ้ายังขาย euro3 ด้วยซ้ำไปนะ) จะบังคับ euro5 ก็ดีนะ(แต่สัน..คนไทย EGR ยังอุด CAT ยังตัด DPF จะเหลือเหรอ)
แต่ยุคหน้าเป็นรถไฟฟ้ากันแล้วละครับ ตอนนี้หลายๆคนก็ใช้ไฮบริดกันแล้ว ผมไม่ค่อยห่วงตรงนี้นะ
7.อาจจะต้องไปด่าคนวางผังเมืองตั้งแต่เก่าก่อน รวมถึงนักพัฒนาอสังหาด้วยครับ ว่าเอะอะอะไรก็สร้างในกรุงเทพ และเรารู้ไหมครับ ถ้าไปเปิดแผนที่ นิคมอุตสหกรรมล้อมกรุงเทพอยู่นะครับ แล้วรถไฟฟ้าไปไหน คอนโดตามไป จนผมรู้สึกว่า คอนโดมันจะมากกว่าคนอยู่แล้วนะ
............................................................
แก้ปัญหาไง
1.ใส่หน้ากากแล้วมาขึ้นรถสาธารณะครับ เริ่มจากตัวเองเลย
อย่างผม ปกติ ขี่จักรยานมาทำงานตั้งแต่เริ่มทำงาน จนตอนนี้เป็นระดับหัวหน้าก็ขี่มาทำงาน
รถไฟฟ้า มียาวจนจะลงทะเลแล้ว(มาถึงปากอ่าวบางปูแล้วนะ) ใครบ้านไกลก็ขับมาจอดแล้วขึ้นก็ได้ แต่เท่าที่เห็นคือ ขับเข้ามาเลย บางคน(ที่ทำงานผมด้วยละ) รถไฟฟ้าผ่านคอนโด แต่ถ้าที่ทำงานมีที่จอดรถก็ขับมาอยู่ดี ... สำรวจได้เลยครับ office building ในกรุงเทพแทบทั้งหมด วันทำงาน ที่จอดรถหายากมากกก
แก้ค่านิยม กับความขี้เกียจตัวเองก่อนเหอะ
2.พัฒนาระบบขนส่งมวลชนต่อไปครับ เอาให้คนขี้เกียจอายไปเลย ตอนนี้รถไฟฟ้าถึงบางปูแล้ว ต่อไปก็ไปถึงมหาชัย คลองหก เชียงราก กันไปเลยเอาให้ไม่มีข้ออ้างกันไปเลย
3.ทำกรุงเทพให้เล็กลง ทำประเทศไทยให้ใหญ่ขึ้น ราชการนี่ละ ย้ายไปเลย(แต่ดันไปทำศูนย์ราชการที่แจ้งวัฒนะไปแล้วหนะสิ) หรือเอกชน บ.ไหนพอออกไปได้ก็ออกไปเถอะครับ เดี๋ยวนี้ vdo. conference ง่ายขึ้นเยอะ ใครๆก็ทำได้ ... พองานใน กทม.น้อยลง คนก็เข้ามาน้อยลง ใช้พลังงานก็น้อยลง
4.อีกหน่อยหลายๆคนก็ทำงานที่บ้านแล้วละครับ อย่างผมอีก 2ปีหลายๆ บ. ก็เริ่มมีนโยบายให้ลดคนทำงาน office (ลดค่าเช่าที่ ค่าอื่นๆมากมาย)ผมว่าอีก 4-5ปี กทม.งานจะน้อยลงนะ
5.โรงเรียนคุณหนูทั้งหลาย ถ้าเด็กเล็กๆ พอเข้าใจได้ แต่ถ้าจะให้ดี มีรถโรงเรียนคุณภาพดีๆมารับส่งก็จะดีกว่าผู้ปกครองมาจอดรถแช่หน้า รร. นะ ส่วนเด็กโข่งไม่รู้จักโตบางที่รถไฟฟ้าจ่อหน้าสถานศึกษาแล้วยังจะไปส่งก็ไม่รู้จะว่าไงนะ
6.ลดการใช้พลังงานทุกๆเรื่อง ครับ นิดหน่อยก็ยังดี อย่าเป็นนักอนุรักษ์ปลอมๆที่ไล่ไม่ให้ทำโรงไฟฟ้าแต่ตัวเองเฝ้าหน้าFB ตลอดเวลาละ
พิมพ์เสร็จปิดคอม.....  ไปละ
...เรื่องอื่นๆ หลายๆคนก็ตอบได้ดีอยู่แล้วครับ......

เม้นต์นี้สุดมากครับ ชอบๆ
ชื่นชมจากใจครับ ขี่จักรยานมาทำงาน
เป็นตัวอย่างที่ทำให้ตัวผมเองคงต้องคิดหาทางลดมลพิษที่สร้างจากตัวเองให้น้อยกว่านี้

ระยะยาวคงต้องหาทางย้ายเขตอุตสาหกรรมรอบๆ กทม ออกไป แต่กว่าจะสำเร็จนี่คงนานหลายปี ตอนนี้คงต้อง่วยตัวเองไปก่อน
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: DiKiBoyZ ที่ มกราคม 31, 2019, 11:14:42
แก้ที่ตัวเองก็จบครับ เพราะต้นกำเนิดหรือที่มาของปัญหา PM2.5 ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในปัญหา PM2.5 คือ คิดว่าตัวเองไม่ใช่ปัญหา ไม่ใช่ต้นตอ หรืออีกเหตุผล คือ ช่างหัวมัน ฉันไม่แคร์ ก็เลยถูกเพิกเฉย

เพราะผมไม่ใช่ข้าราชการ ไม่ใช่คนปกครองหรือดูแลคนอื่น ไม่ใช่หน่วยงานรับผิดชอบ ไม่ใช่เขตหรือเทศบาล ไม่ใช่คนออกนโยบาย

ผมมั่นใจว่า ผมไม่มีส่วนโดยตรงในการสร้างมลพิษ PM2.5 ครับ(ทางอ้อมอาจจะมี คือ เงินที่ผมเสียภาษีไป มันถูกใช้สร้างอะไรสั่งอย่าง :() แต่ถ้า PM10 อาจจะมีส่วนไม่มากก็น้อย
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: NS ที่ มกราคม 31, 2019, 12:48:33
ต้องช่วยกันทุกคน ทุกหน่วยงาน ส่วนบุคคลก็เรื่องลดการใช้รถที่ทำให้เกิดมาลพิษ ใช้แค่จำเป็น ส่วนรวมก็ต้องดูหน่วยงาน ขสมก หันมาใช้ ngv ให้หมด รถบรรทุกที่ควันดำๆก็ต้องเก็บภาษีเพิ่ม โรงงานที่ปล่อยมลพิษ พวกนี้นอกจากเก็บภาษีเพิ่มยังต้องมีหน่วยงานกำกับให้ถูกต้อง ไม่ปล่อยทิ้งมั่ว ปัญหาทั้งหมดเกิดจากเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าส่วนรวมครับ ตอนนี้นึกถึงประเทศจีนที่หลายเมืองมีแต่ฝุ่น บ้านเราจะค่อยๆทะยานไปเป็นคู่แข่งจีนอย่างเต็มตัวในเรื่องนี้ 😁
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: Beats ที่ มกราคม 31, 2019, 13:25:40
;) ผมว่าแค่รัฐเอาจริง กวดขันวินัยทางกฏหมายก็จบแล้วครับ
ง่ายๆแต่ทำจริงยาก  ;D

นี่ครับ คือรากของปัญหาเกือบทุกอย่างในประเทศ ทั้งเรื่องฝุ่น อุบัติเหตุบนท้องถนน อาชญากรรม คือกฎหมายไม่ได้ถูกบังคับใช้
อย่างเรื่องการเผา เรื่องรถไม่ได้มาตรฐาน โรงงานปล่อยควัน พอมีข่าวเรื่องฝุ่นทีนึง ก็จะมีข่าวว่าเจ้าหน้าที่เร่งออกภาคสนามตรวจสอบกันทีนึง ก็อยากทราบเหมือนกันว่าถ้าไม่มีข่าวออก ประเทศนี้ก็กลายเป็นเมืองไร้กฎหมายตลอดไปใช่หรือไม่

ซึ่งถ้าจะถามต่อว่าแก้อย่างไร ผมคิดว่าแก้ได้โดยเราต้องมีระบบ check and balance และระบบตรวจสอบรัฐอีกขั้นนึงครับ เช่น ประชาชนที่ได้ผลกระทบเรื่องฝุ่น รวมตัวกันฟ้องร้อง ขสมก กรมตำรวจ กรมควบคุมมลพิษ เป็นเงินหลายๆล้าน เพื่อชดเชยค่าเสียหายทางสุขภาพกาย สุขภาพจิต การทำงาน ครับ
เหมือนอย่างกรณีถ้าโดนชนบนฟุตบาท ผมจะไม่ฟ้องแค่คนขับมอเตอร์ไซค์ ผมจะเก็บหลักฐานว่ามอเตอร์ไซค์วิ่งฟุตบาทตรงนั้นกันประจำ แล้วฟ้องตำรวจสนนั้นด้วย กรณีถนนไม่ได้มาตรฐาน เช่นคุณเซนติเมตร ผมจะฟ้องทั้งคู่กรณี และกรมทางหลวง และตำรวจสนนั้น ที่ออกแบบถนนชุ่ย และสนับสนุนให้รถวิ่งกันแบบผิดๆ อันตราย กันมานาน หรือกรณีรถเมล์วิ่งย้อนศร รถตู้วิ่งไหล่ทาง แบบที่ทำกันประจำมาหลายๆปี แล้วถ้ามาชนผม ผมก็จะฟ้องกรมตำรวจ บริษัทรถตู้ ขสมก ด้วยครับ ไม่ใช่เอาผิดแค่คนขับครับ ซึ่งการที่ประชาชนคนนึงอยู่ๆจะลุกขึ้นมาฟ้องก็ไม่ง่าย ผมจึงพยายามบริจาคเงินให้พวกองค์กรอิสระ มูลนิธิ อะไรพวกนี้ ที่เขามีทีมงาน มีทนาย เอาไว้ช่วยเหยื่อสู้กับรัฐบาลครับ องค์กรอิสระ มูลนิธิ พวกนี้ยังไม่ค่อยแพร่หลายมากในไทย ไม่แข็งแกร่งในไทยเหมือนกับที่ต่างประเทศ ไม่ค่อยมีการประชาสัมพันธ์ ผมติดตามอยู่บ้างแต่ไม่ใช่ issue เรื่องจราจร สิ่งแวดล้อม ทางจราจรผมเคยได้ยินแต่มูลนิธิเมาไม่ขับ ซึ่งเดาว่าก่อตั้งมาจากเหยื่อเมาแล้วขับ แต่ไม่เคยไปอ่านแนวการทำงานของเขา ไม่เคยไปร่วมบริจาคหรือร่วมเสนอไอเดีย ในเรื่องฝุ่น ตั้งแต่นี้ไปผมก็คงจะคอยๆฟังข่าวมูลนิธิด้าน สิ่งแวดล้อม ให้มากขึ้น เพื่อเลือกสนับสนุนครับ

เราอยากให้หน่วยงานรัฐทำหน้าที่ แต่ถ้าหน่วยงานพวกนี้ไม่ได้รับผลจากการกระทำเขาเลย ไม่ว่าอีกกี่ปีหน่วยงานพวกนี้ก็ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงได้ครับ

และผมก็เห็นด้วยกับการที่แก้กันทุกคน คนละไม้คนละมือ เท่าที่ทำได้แล้วค่อยๆเพิ่มขึ้นไปครับ เพราะต้นตอฝุ่นมีมากกว่าหนึ่งแน่นอนครับ มากบ้างน้อยบ้างแต่ถ้าลดได้ทุกด้านมันย่อมดีที่สุด
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: kiwiwi ที่ มกราคม 31, 2019, 14:15:18
ถ้า!..........ผมเป็นผู้มีอำนาจสั่งการได้ทุกกระทรวง อันดับแรกผมจะชี้นิ้วไปที่กระทรวงอุตสาหกรรม บรรดาโรงงานใหญ่ๆต่างๆทั้งประเทศจะต้องถูกตรวจค่ามลพิษที่ปล่อยออกมาแล้วแก้ไขให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย  2กระทรวงมหาดไทย ต้องสั่งการไปทุกจังหวัดตำบลหมู่บ้านงดการเผาพิ้นที่เกษตรโดยสิ้นเชิง แนะวิธีไถกลบ หรือช่วยเก็บเศษซากพืชโดยเทศบาลแล้วนำไปแปรสภาพเป็นปุ๋ยกลับมาให้เกษตกร ถ้าการเผาที่มาจากประเทศเพื่อนบ้านต้องให้มหาดไทยทำหนังสือแจ้งไปยังประเทศต้นตอ 3 กระทรวงคมนาคม สั่งการไปที่กรมขนส่งต่างๆ ทั้งบก น้ำ อากาศ ต้องตรวจสอบค่ามลพิษจากท่อไอเสียให้เข้มงวดอย่างจริงจัง ทั้งรถเมล์ รถบรรทุกต่างๆ รถส่วนบุคคล จับปรับเต็มจำนวน สั่งเลิกวิ่งถ้าเกินค่า รถที่ตรวจสภาพเอกชนต้องเอาจริงเข้มงวดไม่ใช่ปล่อยผ่านโดยวิธีซิกแซก  อันนี้ระยะสั้นที่ควรทำภายใน1-3ปีนี้ และต้องทำอย่างจริงจังจริงใจ ไม่สนหน้าอินทร์พรหม ส่วนตัวผมที่ทำมานานแล้วคือเติมe85มา7ปี งดการเผาเศษไม้ใบหญ้าที่บ้านใช้วิธีกวาดมารวมกัน แล้วนำไปคลุมดินโคนต้นไม้ แต่ที่ยังงดทิ้งไม่ได้คือขยะประจำวันที่ยังทิ้งอยู่ แต่ก็คัดแยก ขวดกระป๋องไว้ต่างหากเอาที่พอทำได้ ก็แค่นี้ครับ

เมื่อคืน จส.100
มีคนโพสภาพรง.หลอมอลูฯปล่อยควันพิษขึ้นมาตอนกลางคืน

และอีกหลายๆโรงงานในละแวกนั้นที่ยังแอบปล่อยตอนกลางคืน

มันเหมาะเจาะกับลมในช่วงนี้ที่หอบเอาฝุ่นพิษมาสะสมในกทม.

เสียดาย พวกเราเป็นแค่ผู้น้อยตัวเล็กๆ ที่แหกปากยังไงก็ไม่ถึงผู้ใหญ่เสียที

หรือว่าผู้ใหญ่มัน้ห็นแล้ว แต่รับเงินไว้เยอะจัด เลยแกล้งไม่เห็น

ผมจะสั่งปิดพวกนี้ชั่วคราวเลยจริงๆนะครับ
แล้วก็หาทางย้ายพวกนี้ออกไปให้อยู่ในที่ๆควรจะอยู่

ตอนนี้นักวิชาการด้านนี้ยังมึนเลย ว่าทำไมลมถึงได้เปลี่ยนแปลงได้ขนาดนี้ โลกร้อนขึ้น อุณหภูมน้ำทะเลเปลี่ยน กระแสลมก็เปลี่ยน ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด

แล้วรถที่ก่อมลพิษ ก็ควรห้ามเด็ดขาดได้แล้วครับ

ปีหน้าลมอาจจะดีขึ้น หรือแย่ลงไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ ปีนี้ต้องเริ่มทำกันแล้ว
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: CarameLon ที่ มกราคม 31, 2019, 14:18:14
แหมแต่ละท่านหลายมุมจริงๆ
คิดว่าฝุ่นควันจะหายไปตามกระบวนการธรรมชาติเอง
ตอนนี้จะให้แก้ไขแล้วเห็นผลทันที คงไม่ได้

แต่เดี๋ยวพอปรากฎการณ์นี้หายไป คนไทยมันก็ลืมไปเอง
ไปดราม่ากันเรื่องอื่นต่อ เป็นงี้เสมอ  8)
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: dht_tubes ที่ มกราคม 31, 2019, 14:21:29
ดีทุกความเห็นเลยครับ

เรื่องใหญ่ก็หวังคนมีอำนาจ จะกล้าตัดสินใจ

ส่วนเราก็เริ่มที่เรา ครอบครัว ทำให้เข้มงวด ซักวันมันต้องดีขึ้นครับ ผมคิดแบบนี้แหละ อย่างน้อยก่อนตาย ยังเหลืออะไรที่น่าภูมิใจไว้บอกกับตัวเองได้ว่า ยังเหลือสิ่งที่ดีไว้ให้ลูกหลานเราบ้าง

ท่านที่ยังไม่เริ่มก็ลองกันครับ ท่านที่ทำอยู่ ก็ขอให้หนักแน่น อดทนทำกันต่อๆไป
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: zenten ที่ มกราคม 31, 2019, 15:16:36
ผมขอแนะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน เพราะเนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นอาจจะไม่ไช่่มาจากภายในประเทศโดยตรง
โดยให้ใช้ประกาศ ม. 44 ทุก 10 โมงตรง ให้ตึกสูง (ไม่ต่ำกว่า 3 ชั้น) ในโซนกรุงเทพและปริมณฑลทั้งหมดให้
ช่วยกันฉีดน้ำเป็นแบบกระจายรอบตึกของตัวเอง พร้อมกันเป็นเวลา 10 นาที ผมเชือว่า น่าจะลดลงได้ระดับนึง
เพราะจะทำให้อากาศโดยรวมถ่ายเท ถ้าทำแล้ว work ให้ทำ บ่าย 3 อีกรอบครับ
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิด
เริ่มหัวข้อโดย: tongtom ที่ มกราคม 31, 2019, 15:53:36
1.- ม.44 ประกาศหยุดราชการ 3วัน ช่วงตรุษจีนนี้เลย  พอปิดปั๊บ รถจะหายไปครึ่งเมือง โรงงาน หน่วยงานปิด เหมือนปีใหม่ สงกรานต์ (ไปสูดpm2.5 ที่บ้าน ตจว แทนจ้า)  แต่มันก็เยอะเหมือนกัีนนะ ทางเหนือๆกับอีสานบางแห่ง 140+อ่ะ หน้าโรงเรียน หน้าโรงพยาบาลเลย คนต่างจังหวัดจะรู้ตัวเปล่าว่าไม่ได้มีแต่กรุงเทพ )

2.- ล้างทำความสะอาด รถทุกคัน เป็นจุดๆ ฉีดน้ำล้างให้หมด ฝุ่นอะไรก็ไม่เอาไว้ 

3.- เพิ่มจุดฉีดน้ำ ไม่ต้องไปเอาน้ำมาจากไหน สะพานข้ามแม่น้ำไง ฉีดให้เป็น มหกรรมโชว์แสงสีเสียง เหมือนสะพานข้ามแม่น้ำแคว  คนไทยเราต้องสนุกๆ ไว้ก่อน เอาให้หนำใจ ค่ำๆ ติดไฟด้วย สวยๆ งามๆ

4.- รางวัล นำจับ (แจ้ง) รถควันดำ  พร้อมเพิ่มค่าปรับเป็น 1หมื่นบาทต่อคัน(คนแจ้งได้ 20เปอร์เซ็นต์) หรือสูงสุด 20เปอร์เซ้นต์ ของราคากลางรถ(สำหรับรถที่เจตนาแต่งเครื่องฯ และปล่อยมลพิษเกินฯ)   ตั้งศาลจราจร ฟ้องศาล ยึดรถเป็นของกลาง

5.- จำกัดเขตการใช้รถ รถดีเซล ในบางถนน ยกเว้น รถที่ยินดี รับการตรวจมลพิษ ถึงให้เข้าได้
6.- รถทุกคัน ที่ไม่แน่ใจ มีเขม่า ปลายท่อไอเสีย หรือมีคราบดำ บริเวณท้ายรถ ให้หยุดวิ่ง (สร้างสำนึกและขู่ผ่านการปรับที่หนักขึ้น)


*** ข้อแรก ถ้าประกาศเป็นวันหยุด มันจะปิดหมด ทั้งโรงงาน ธุรกิจ ราชการ ... เอาแบบฉุกเฉินไปก่อน ระยะยาว ค่อยแก้ **


ระยะกลาง

1.- ตรวจสภาพใหม่ ทั้ง SMEs   โรงงาน ออกกฏหมายค่าปรับให้หนัก มากๆ ชนิดเกือบล่มจม เหมือนที่บริษัทรถยนต์เขาโดน

2.  การเผาไร่ นา  ทั้งหมด   อันนี้คิดไม่ออก .........

3.- การก่อสร้าง ให้ทุกตึก มีจุดฉีดน้ำ  เพื่อลดฝุ่นจากการก่อสร้างโดยต้องฉีดทุกๆ ชั่วโมง และเมือ่สร้างเสร็จแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคอนโดฯ หรืออะไรก็ตาม ที่เกิน 5ชั้น ต้องมีจุดฉีดน้ำ ที่ดาดฟ้า เผื่อในปีต่อๆไป มันจะมาอีก จะได้ฉีด ได้


ระยะยาว ....

1.- ส่งเสริม รถไฟฟ้าล้วน ฟรีภาษี ไม่จำกัดการนำเข้า เปิดเสรีชั่วคราวเลย 3เดือน ก็ได้ รถไฮบริด เบนซิน ลดภาษีเพิ่ม

2.- ห้าม กทม ... ตัด ต้นไม้ ใบไม้ ในช่วงหน้าใบไม้ร่วง แบบนี้ เพราะตัดโกร๋น หมดแล้ว สังเกตุดู มันจะเอาใบที่ไหนจับฝุ่น (พืชบางชนิดจับฝุ่นได้ดี แต่โดนตัดกิ่งหมด เพราะกลัวใบร่วงลงท่อ และขี้เกียจกวาด)

อื่นๆ เยอะนะ ที่จริงแล้ว ลองๆ ดูได้หมด
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: +@ Krishna @+ ที่ มกราคม 31, 2019, 16:34:55
ฟัง drive by jimmy ก็รู้สึกแปลกๆ กับข้อมูลที่ออกมา พอมาอ่านกระทู้นี้ยิ่งรู้สึกว่า เราควรจะตามข้อมูลมากกว่านี้นะ
1.ฉีดน้ำช่วยได้ครับ แต่มันเห็นผลไม่ชัดเจน อย่างข้างบนบอกมีผลวิจัยมาแล้ว
2.ทำฝนเทียม ยากมากในเขต กทม. นอกจากต้องดูความชื้นและเมฆแล้ว ไฟล์บินใน กทม. เยอะมากแถมสองสนามบิน โอกาสที่เครื่องบินจะขึ้นไปทำให้ตรงจุดยากมากครับ
3.ควันไม่ได้มาจากเพื่อนบ้าน สำรวจมาแล้วว่ามีผลที่ตราด แต่ไม่ได้ยาวมาจนมีผลอย่างเป็นนัยยะใน กทม. (ไม่งั้น ปราจีน นครนายกก็ค่าสูงสิ)
คนไทยโทษตัวเองบ้างเถอะครับ อะไรๆก็โทษคนอื่นจัง
4.คนไปติดภาพ รถเมล์ดีเซล กทม.ควันดำจากรูปที่ชอบประชดส่งๆ กันมา ... แต่ตอนนี้รถเมล์ส่วนมากเป็นก๊าซ(ลองมาขี่จักรยานไปทำงานแบบผมดูสิ แล้วจะรู้) ครับ และรุ่นเก่าๆกำลังจะถูกแทนด้วย ล็อตใหม่แล้ว(หลังจากอยู่มานานเกิน 30ปี) ... และกำลังทดลองรถเมล์ไฟฟ้าล้วน/ไฮบริดกันอยู่ ว่ากันจริงๆ ถ้าไม่ติดคราม่ากับงบประมาณ รถเมล์นี่นำรถคนทั่วไป ไปนานแล้วด้วยซ้ำครับ ถ้าย้อนไปก็ลองคิดถึงตอน euro2 ส้มมาใหม่ๆ(จนตอนนี้โครตเก่า) ดูสิครับ
5.ทะเบียนคู่ / คี่ ไม่ได้ช่วยอะไรครับ ถ้าคนไทยยังคิดแบบเดิมอยู่ อย่าลืมว่าแต่ละบ้านเดี๋ยวนี้ มีรถสองคันไม่ใช่เรื่องยาก...และพอมีสองคัน การเปลื่ยนรถให้เป็นคันใหม่ที่มลพิษต่ำลง จะนานกว่าเดิมนะ....
6.น้ำมัน ไทยมีถึง euro5 แล้ว แต่มีแต่พรีเมียมไทยสองเจ้า หลายๆคนติดปัมท์ฝรั่งก็ไม่ได้เติม ... ส่วนมาตราฐานน้ำมัน ไทยฟึ่งขยับเป็น euro4 ล้วนได้ไม่นานครับ(ถ้าไม่ขยับ ปัมท์ฝรั่งบางเจ้ายังขาย euro3 ด้วยซ้ำไปนะ) จะบังคับ euro5 ก็ดีนะ(แต่สัน..คนไทย EGR ยังอุด CAT ยังตัด DPF จะเหลือเหรอ)
แต่ยุคหน้าเป็นรถไฟฟ้ากันแล้วละครับ ตอนนี้หลายๆคนก็ใช้ไฮบริดกันแล้ว ผมไม่ค่อยห่วงตรงนี้นะ
7.อาจจะต้องไปด่าคนวางผังเมืองตั้งแต่เก่าก่อน รวมถึงนักพัฒนาอสังหาด้วยครับ ว่าเอะอะอะไรก็สร้างในกรุงเทพ และเรารู้ไหมครับ ถ้าไปเปิดแผนที่ นิคมอุตสหกรรมล้อมกรุงเทพอยู่นะครับ แล้วรถไฟฟ้าไปไหน คอนโดตามไป จนผมรู้สึกว่า คอนโดมันจะมากกว่าคนอยู่แล้วนะ
............................................................
แก้ปัญหาไง
1.ใส่หน้ากากแล้วมาขึ้นรถสาธารณะครับ เริ่มจากตัวเองเลย
อย่างผม ปกติ ขี่จักรยานมาทำงานตั้งแต่เริ่มทำงาน จนตอนนี้เป็นระดับหัวหน้าก็ขี่มาทำงาน
รถไฟฟ้า มียาวจนจะลงทะเลแล้ว(มาถึงปากอ่าวบางปูแล้วนะ) ใครบ้านไกลก็ขับมาจอดแล้วขึ้นก็ได้ แต่เท่าที่เห็นคือ ขับเข้ามาเลย บางคน(ที่ทำงานผมด้วยละ) รถไฟฟ้าผ่านคอนโด แต่ถ้าที่ทำงานมีที่จอดรถก็ขับมาอยู่ดี ... สำรวจได้เลยครับ office building ในกรุงเทพแทบทั้งหมด วันทำงาน ที่จอดรถหายากมากกก
แก้ค่านิยม กับความขี้เกียจตัวเองก่อนเหอะ
2.พัฒนาระบบขนส่งมวลชนต่อไปครับ เอาให้คนขี้เกียจอายไปเลย ตอนนี้รถไฟฟ้าถึงบางปูแล้ว ต่อไปก็ไปถึงมหาชัย คลองหก เชียงราก กันไปเลยเอาให้ไม่มีข้ออ้างกันไปเลย
3.ทำกรุงเทพให้เล็กลง ทำประเทศไทยให้ใหญ่ขึ้น ราชการนี่ละ ย้ายไปเลย(แต่ดันไปทำศูนย์ราชการที่แจ้งวัฒนะไปแล้วหนะสิ) หรือเอกชน บ.ไหนพอออกไปได้ก็ออกไปเถอะครับ เดี๋ยวนี้ vdo. conference ง่ายขึ้นเยอะ ใครๆก็ทำได้ ... พองานใน กทม.น้อยลง คนก็เข้ามาน้อยลง ใช้พลังงานก็น้อยลง
4.อีกหน่อยหลายๆคนก็ทำงานที่บ้านแล้วละครับ อย่างผมอีก 2ปีหลายๆ บ. ก็เริ่มมีนโยบายให้ลดคนทำงาน office (ลดค่าเช่าที่ ค่าอื่นๆมากมาย)ผมว่าอีก 4-5ปี กทม.งานจะน้อยลงนะ
5.โรงเรียนคุณหนูทั้งหลาย ถ้าเด็กเล็กๆ พอเข้าใจได้ แต่ถ้าจะให้ดี มีรถโรงเรียนคุณภาพดีๆมารับส่งก็จะดีกว่าผู้ปกครองมาจอดรถแช่หน้า รร. นะ ส่วนเด็กโข่งไม่รู้จักโตบางที่รถไฟฟ้าจ่อหน้าสถานศึกษาแล้วยังจะไปส่งก็ไม่รู้จะว่าไงนะ
6.ลดการใช้พลังงานทุกๆเรื่อง ครับ นิดหน่อยก็ยังดี อย่าเป็นนักอนุรักษ์ปลอมๆที่ไล่ไม่ให้ทำโรงไฟฟ้าแต่ตัวเองเฝ้าหน้าFB ตลอดเวลาละ
พิมพ์เสร็จปิดคอม.....  ไปละ
...เรื่องอื่นๆ หลายๆคนก็ตอบได้ดีอยู่แล้วครับ......

โห... ชัดเจนเลยครับ

คนไทยที่มีความรู้ความสามารถ และพร้อมจะทำสิ่งดี ๆ มีเยอะนะครับ
แต่ด้วยนิสัยมักง่ายของคนไทยซึ่งก็มีเย๊อะเหมือนกัน + ข้าราชการคอรัปชั่น จึงยากที่จะแก้ปัญหายิ่งนัก  :P

ผมเคยไป ทำความสะอาดกวาดลานวัดที่จังหวัดกาญจนบุรี เขาเผาไร่อ้อยกันลมพัดลอยเป็นหิมะดำเต็มวัดไปหมด
และเป็นทุกปี ๆ ละหลายเดือน  ก็ได้แต่บ่นจริง ๆ ครับ ทำอะไรไม่ได้เลย

ดูข่าวเมื่อครู่ "บิ๊กตู่" โวยแก้ฝุ่นใช้ยาแรงไม่ได้ ต้องดูที่พฤติกรรมคนไทย...
ซึ่งถ้าจับปรับคงมีผลต่อคะแนนเสียงแน่ครับ :P  Rip.
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: bravo ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2019, 18:59:59
ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ

เมื่อวานผมใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ บางนา-บางปะอิน ประมาณ กม.ที่ 21 เห็นมีการเผาในที่โล่ง ไม่รู้เผาอะไร ควันดำมากเลย

จุดนี้ผมเห็นมาการเผามานานหลายปีแล้วครับ สงสัยจังว่า เผาอะไร แล้วหน่วยงานของรัฐเขาไม่รู้ไม่เห็นกันเลยหรือยังไง
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: V221 ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2019, 16:20:32
เอาแบบตรงประเด็นเลยนะครับ กำหนดให้ผู้ผลิตรถบรรทุกในไทยทุกยี่ห้อแสดงรายการคำนวณพร้อมให้สถาบันยานยนต์เข้าตรวจสอบกับวิศวกรรมสถานว่าการออกแบบคัสซีและเครื่องยนต์เหมาะสมกับมาตรฐานน้ำหนักบบรทุกหรือไม่? ผมกล้าทายเลยว่าทุกรุ่นทุกยี่ห้อOver Designไว้หลายเท่ามากกว่ากฎหมายครับ พูดสั้นๆแค่นี้ก็คงทราบว่าควันพิษจากรถดีเซลของจริงมีมากกว่าที่บริษัทรถเคลมไว้มากมายครับ
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: bravo ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2019, 19:04:03
เจอแบบนี้ จะแก้ไขยังไงครับ
เอาสะดวกตัวเอง ใครจะเดือดร้อนช่างมัน
อ้างเอาปีละไม่กี่วัน
(https://hilight.kapook.com/img_cms2/user/ammod/dust5.jpg)
(https://hilight.kapook.com/img_cms2/user/ammod/dust.jpg)
(https://hilight.kapook.com/img_cms2/user/ammod/dust3.jpg)
(https://hilight.kapook.com/img_cms2/user/ammod/dust4.jpg)
หัวข้อ: Re: วิธีแก้ปัญหา PM 2.5 ในความคิดของแต่ละท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: Beats ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2019, 00:12:28
เจอแบบนี้ จะแก้ไขยังไงครับ
เอาสะดวกตัวเอง ใครจะเดือดร้อนช่างมัน
อ้างเอาปีละไม่กี่วัน
(https://hilight.kapook.com/img_cms2/user/ammod/dust5.jpg)
(https://hilight.kapook.com/img_cms2/user/ammod/dust.jpg)
(https://hilight.kapook.com/img_cms2/user/ammod/dust3.jpg)
(https://hilight.kapook.com/img_cms2/user/ammod/dust4.jpg)

นี่เลยครับ รวมพลคนในหมู่บ้าน ฟ้องร้องเทศบาล หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบ เลยครับ โดนหนักขนาดนี้ หาทนายเก่งๆ น่าจะคุ้มค่าทนายนะครับ ฟ้องเอาเป็นตัวเงิน เสียหายอะไรเท่าไหร่คำนวณมา เอาแบบมีเอกสารหลักฐาน ไปหาหมอก็เอาบันทึกมา ค่าเครื่องกรองอากาศ ค่าคนทำความสะอาด คิดไปเลยกี่ชั่วโมง คูณค่าแรงไป ค่าเสียเวลา opportunity cost คิดไปด้วย ที่เคยแจ้งเทศบาลไปแล้วกี่รอบ แจ้งวันไหน ก็ถ่ายรูป เก็บเอกสารหลักฐานไว้ให้หมด เพราะการที่รัฐละเลยในการปฎิบัติหน้าที่ คือต้นเหตุใหญ่ที่ปัญหาไม่หมดไป วิธีแก้อื่นที่ตรงจุดกว่านี้ ได้ผลยั่งยืนระยะยาวกว่านี้ ผมก็นึกไม่ออกจริงๆครับ บ้านเมืองที่ไม่มีกฎหมาย มันก็เป็นแบบนี้ครับ