Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Darkart ที่ กุมภาพันธ์ 04, 2019, 19:28:37
-
ศิริ จ่อบีบคอผู้ค้าลดราคาน้ำมันดีเซลเกรดพรีเมียมลง 1-2 บาทต่อลิตร คาดได้ข้อสรุปภายใน 1 สัปดาห์ หวังช่วยลดฝุ่นละออง
บี้หั่นราคาดีเซลพีเมียม นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังหารือเพื่อขอความร่วมมือกับผู้ค้าน้ำมันทุกราย
ช่วยลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว เกรดพรีเมียม ซึ่งเป็นน้ำมันยูโร 5 เพื่อกระตุ้นการใช้เป็นการช่วยลดปัญหาฝุ่นละออง
ขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอนระยะเร่งด่วน โดยจะนำร่องในสถานีบริการน้ำมัน (ปั๊ม) ของปตท. และบางจาก
ปัจจุบันราคาน้ำมันดีเซลเกรดพรีเมียมแพงกว่าดีเซลปกติเฉลี่ยประมาณ 3.60 บาทต่อลิตร จึงขอความร่วมมือให้ผู้ค้าปรับลดราคาลง
มาอย่างน้อย 1-2 บาทต่อลิตร คาดว่าจะได้ข้อสรุปชัดเจนภายใน 1 สัปดาห์ รวมทั้งกำลังพิจารณาความเป็นไปได้ที่จะลดปริมาณ
สำรองน้ำมันดิบและสำเร็จรูปลงจากปัจจุบันอยู่ที่ 7% ของปริมาณการจำหน่าย เพื่อลดต้นทุนให้ผู้ค้ากรณีที่อาจต้องนำเข้าน้ำมัน
สำเร็จรูปยูโร 5 เข้ามาระยะสั้นเพราะขณะนี้มีเพียงโรงกลั่นปตท. และบางจากเท่านั้นที่ผลิตได้นายศิริกล่าว
อย่างไรก็ตาม กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) ได้หารือถึงการลงทุนเพื่อผลิตน้ำมันตามมาตรฐานยูโร 5 ซึ่งต้องใช้เวลาอีก 4-5 ปีข้างหน้า
ระหว่างนี้กระทรวงพลังงานจึงส่งเสริมให้เกิดการใช้น้ำมันไบโอดีเซลบี 20 จำหน่ายผ่านปั๊มน้ำมันได้เพื่อรองรับรถยนต์ขนาดใหญ่
เป็นอีกหนึ่งในมาตรการระยะยาว นอกจากจะช่วยดูดซับปริมาณสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบที่ล้นตลาดให้สมดุล เพื่อยกระดับราคาปาล์ม
ให้เกษตรกรแล้ว ยังช่วยลดปัญหามลพิษด้วย
ปัจจุบัน กฟผ. ได้เริ่มนำน้ำมันปาล์มดิบมาใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าบางปะกง ส่งผลให้ราคาผลปาล์มสดเริ่มขยับขึ้น
มาสู่ระดับราคาเป้าหมายที่ 3.04 บาทต่อกิโลกรัม (ก.ก.) และตั้งเป้าหมายดูดซับปริมาณสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบอยู่ที่ 1.6 แสนตัน
ภายใน 3-6 เดือน คาดสิ้นปี 2562 จะมีการใช้น้ำมันปาล์มอีก 15 ล้านลิตรต่อวัน หรือคิดเป็นปริมาณปาล์มดิบ 4 แสนตันต่อปี
ในระยะยาว ทำให้ราคาปาล์มมีเสถียรภาพมากขึ้น
ที่มา https://www.khaosod.co.th/economics/news_2173027 ครับ
-
ดีครับ หรือ เอาเป็นน้ำมันดีเซลธรรมดา ที่เป็น Euro 5 แล้วเติม additive เหมือนสูตรธรรมดาครับ
-
ดีๆๆ จะได้กินของดีๆบ้างลูกพ่อ ปกติกิน ฟิวเซฟ ตลอดเลย ;D ;D ;D แต่จอดมา 3 อาทิตย์ละไม่ได้ขับเลยตั้งแต่ปีใหม่มา ช่วงนี้เน้นขับเก๋ง E20
-
กระทรวงรู้มาตลอดว่าน้ำมันพรีเมี่ยมส่วนต่างราคาเกินความเป็นจริงไปเยอะ ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าจะจัดการเรื่องนี้แต่ก็ทำอะไรไม่ได้. ส่วนเรื่องยูโร 5 อยากให้น้ำมันเป็นยูโรไหนเมื่อไหร่ ก็อยู่ที่ออกกฎหมายมาบังคับใช้เหมือนที่ผ่านมาได้ มันไม่ต้องรอ 4-5 ปีก็ได้มันนานไป ควรเริ่มเร็วกว่านั้นก็ดี
-
ตาถลนเลย
-
ประเทศไทย ขอไปที
มากกว่านี้ ไปทีไม่ได้แล้ววว
-
สงสัยครับ ดีเซลพรีเมี่ยมช่วยลดฝุ่นละอองได้หรือครับ ได้ทุกคันรึเปล่า
เเราะผมเข้าใจว่าเีเซลพรีเมี่ยมเกิดจากความสมัครใจ จะเติมก็ได้ หรือจะเติมธรรมดาก็ได้
-
จะลดลงได้เท่าไหร่หนอ แล้วคุณภาพจะลดลงด้วยมั๊ย
-
ทำไมไม่พัฒนาตลาดหลัก มาตรฐานดีเซลทั้งหมด ให้ต่ำสุดที่ euro 5-6
ไปเล่นตลาดดีเซลพรีเมี่ยม ถ้าคนไม่เติมก็ค่าเท่าเดิม
-
ทำไมไม่พัฒนาตลาดหลัก มาตรฐานดีเซลทั้งหมด ให้ต่ำสุดที่ euro 5-6
ไปเล่นตลาดดีเซลพรีเมี่ยม ถ้าคนไม่เติมก็ค่าเท่าเดิม
น้ำมันแพงขึ้นนะครับ รถก็แพงขึ้นนะครับ และถ้าถึง 6 แล้วน่าจะมี adblue เพิ่มนะครับ ;D ;D
-
สงสัยครับ ดีเซลพรีเมี่ยมช่วยลดฝุ่นละอองได้หรือครับ ได้ทุกคันรึเปล่า
เเราะผมเข้าใจว่าดีเซลพรีเมี่ยมเกิดจากความสมัครใจ จะเติมก็ได้ หรือจะเติมธรรมดาก็ได้
เอาประสบการณ์ตรงนะครับ ควันดำน้อยลง ไอเสียไม่เหม็นเว่อร์ ถ้าเคยได้กลิ่นเครื่องมังกร ลองเอามาเติมบางจากแล้วจะงงเลยครับกลิ่นดีเซลมังกรหายไปเลย
ทำไมไม่พัฒนาตลาดหลัก มาตรฐานดีเซลทั้งหมด ให้ต่ำสุดที่ euro 5-6
ไปเล่นตลาดดีเซลพรีเมี่ยม ถ้าคนไม่เติมก็ค่าเท่าเดิม
ค่าใช้จ่ายเพิ่มสูงครับ ค่าน้ำมันนี่ก็ต่างกัน 1-2 ลิตรแล้วครับ
-
อ่านแล้วอยากเปลี่ยนรถทุกคันที่มีไปใช้ดีเซล
-
ทำไมมันดีจัง ทำไมมันดีกว่าชาวบ้าน จะไปบังคับให้เขาลดราคา 5555+++
-
แก้ผิดจุดรึเป่า กลายเป็นรถหรูดีเซลได้ประโยชน์มากกว่าไหม
-
แก้ผิดจุดรึเป่า กลายเป็นรถหรูดีเซลได้ประโยชน์มากกว่าไหม
คิดเหมือนกันเลยครับ
ภาคขนส่ง หรือประชาชนกระบะทั่วไปก็จะมองหาน้ำมันดีเซลที่ถูกที่สุดอยู่ดี ไม่น่าจะช่วยลดปัญหาฝุ่นอะ
-
ดีครับดี จริงๆน่าจะทำ Euro 5 เป็น มาตรฐานไปเลย ส่วน พรีเมี่ยมจะเติม สารปรุงแต่งอะไรก็ว่าไป
ตอนนี้ก็เติม Euro 5 ทุกถัง ถึงจะขับรอบๆเมืองก็เถอะ
-
ผมถามแบบโง่ๆ นะ
ถ้ารถยนต์เป็นตัวการในการเกิดฝุ่น(เอาเฉพาะสาเหตุนี้ก่อน) น้ำมันเชื้อเพลิงงต่อให้ EURO10 แต่รถยนต์ยังเป็น EURO3-4 อยู่ มันใช่เหรอ?? มันต้องแก้ที่รถยนต์ ไม่ใช่แก้ที่น้ำมัน หรือป่าว???
เพราะต่อให้น้ำมันดีแค่ไหน แต่รถยนต์มาตรฐานยังต่ำกว่าน้ำมัน มันก็เหมือนเดิมหรือป่าว หรือผมเข้าใจผิด
มันเหมือนกินคนกินน้ำแร่แล้วฉี่เป็นน้ำแร่หรือป่าว เพราะไตกรองแร่ธาตุไปใช้งานไม่ได้ มันต้องแก้ที่ไต ไม่ใช่แก้ที่น้ำแร่ ไหม
ผมเพิ่งรู้ว่า รถเติมน้ำมันพรีเมี่ยม แล้ว ฝุ่นลดลง ก็คราวนี้ละ
-
แทนที่จะดันทุกเกรด ทุกปั๊มไปเป็นขั้นต่ำ euro 5 ดันไปบีบอะไรก็ไม่รู้
รถดีเซลจะมีสักกี่คันที่ใช้พรีเมียม
และตัวดีเซลพรีเมียมเองตอนนี้ที่เป็น euro 5 แบบเป็นรูปธรรมจริงๆก็มีแค่ 2 เจ้า ที่ข่าวว่าจะนำร่อง
ส่วนเจ้าที่เหลือ พรีเมียมก็ยังเป็น euro 4 อยู่ ตรงนี้ทำไงครับ
-
สงสัยครับ ดีเซลพรีเมี่ยมช่วยลดฝุ่นละอองได้หรือครับ ได้ทุกคันรึเปล่า
เเราะผมเข้าใจว่าเีเซลพรีเมี่ยมเกิดจากความสมัครใจ จะเติมก็ได้ หรือจะเติมธรรมดาก็ได้
ไม่ทุกคันครับ ถ้ารถที่ใช้เป็นเครื่องยนต์ดีเซล Euro 5 อยู่แล้วเติมน้ำมัน Euro 5 (ซึ่งคือพรีเมื่ยมของ ปตท. กับ บางจาก) สามารถลดฝุ่นได้เยอะครับ แต่ถ้าเครื่องยนต์ไม่ใช้ Euro 5 เติม น้ำมัน Euro 5 ก็ไม่ค่อยช่วยอะไรเท่าใดครับ เท่าที่ผมทราบ แต่ถ้าลดราคาลง ก็ช่วยให้คนส่วนหนึ่งหันมาสนใจเติมกันมาขึ้น เพราะ รถดีเซลใหม่ๆก็ Euro 5 กันแล้ว
-
สงสัยครับ ดีเซลพรีเมี่ยมช่วยลดฝุ่นละอองได้หรือครับ ได้ทุกคันรึเปล่า
เเราะผมเข้าใจว่าเีเซลพรีเมี่ยมเกิดจากความสมัครใจ จะเติมก็ได้ หรือจะเติมธรรมดาก็ได้
ไม่ทุกคันครับ ถ้ารถที่ใช้เป็นเครื่องยนต์ดีเซล Euro 5 อยู่แล้วเติมน้ำมัน Euro 5 (ซึ่งคือพรีเมื่ยมของ ปตท. กับ บางจาก) สามารถลดฝุ่นได้เยอะครับ แต่ถ้าเครื่องยนต์ไม่ใช้ Euro 5 เติม น้ำมัน Euro 5 ก็ไม่ค่อยช่วยอะไรเท่าใดครับ เท่าที่ผมทราบ แต่ถ้าลดราคาลง ก็ช่วยให้คนส่วนหนึ่งหันมาสนใจเติมกันมาขึ้น เพราะ รถดีเซลใหม่ๆก็ Euro 5 กันแล้ว
ใช่ครับ เรื่องนี้ผมทราบละ
แต่กลุ่มที่เป็นรถยนต์ EURO5-6 ผมว่าเขาก็เติมพรีเมี่ยมกันอยู่แล้วนะ (ผมก็อยู่ในกลุ่มนี้ด้วย)
แต่ประเด็นคือ รถส่วนใหญ่ในบ้านเราเป็น EURO3-4 ไงครับ มันควรแก้จุดนี้ก่อนหรือป่าวครับ มันถึงจะตรงจุด
-
ผมถามแบบโง่ๆ นะ
ถ้ารถยนต์เป็นตัวการในการเกิดฝุ่น(เอาเฉพาะสาเหตุนี้ก่อน) น้ำมันเชื้อเพลิงงต่อให้ EURO10 แต่รถยนต์ยังเป็น EURO3-4 อยู่ มันใช่เหรอ?? มันต้องแก้ที่รถยนต์ ไม่ใช่แก้ที่น้ำมัน หรือป่าว???
เพราะต่อให้น้ำมันดีแค่ไหน แต่รถยนต์มาตรฐานยังต่ำกว่าน้ำมัน มันก็เหมือนเดิมหรือป่าว หรือผมเข้าใจผิด
มันเหมือนกินคนกินน้ำแร่แล้วฉี่เป็นน้ำแร่หรือป่าว เพราะไตกรองแร่ธาตุไปใช้งานไม่ได้ มันต้องแก้ที่ไต ไม่ใช่แก้ที่น้ำแร่ ไหม
ผมเพิ่งรู้ว่า รถเติมน้ำมันพรีเมี่ยม แล้ว ฝุ่นลดลง ก็คราวนี้ละ
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ
น้ำมันก็แค่ส่วนเล็กๆ แต่หัวใจหลักคือเครื่องยนต์
ถ้าแต่งซิ่ง โมเต็ม ควันดำเป็นปลาหมึก ต่อให้ใช้ Euro ระดับ 9999 ก็ไม่มีทางแก้ควันดำได้
-
เห็นด้วยกับหลายๆท่านเลย
ปกติ พรีเมี่ยม มีแต่รถหรู รถราคาล้านอัพเติมกัน
ตาสี ตาสา ขับมังกรเก่าๆ ขับไทเกอร์ ต่อให้ ราคาพรีเมี่ยมลงมาอีก 2 บาท เค้าก็ไม่เติมหรอก ในเมื่อ มีของถูกกว่าขายอยู่ จริงไหม ?
ดังนั้น ไปส่งเสริม สนับสนุน ให้โรงกลั่นผลิต Euro5 ออกมาให้ได้ จะด้วยวิธีการไหนก็ว่าไป แล้วบังคับให้ยกเลิกการขายดีเซลเกรดต่ำลงไป แค่นั้นเอง ส่วนพรีเมี่ยม ก็ปล่อยมันไว้งั้นแหละ
ดีกว่าไหม ?
-
งงๆ แทนที่จะไปเข้มงวดกับพวกควันดำ อุด EGR ตัดแคท ไปบีบผู้ประกอบการอย่างนี้แล้วจะทำให้ลดคุณภาพลงรึเปล่าน้อ
-
ไม่ต้องลด แต่เลิกขาย ที่ต่ำกว่า Euro 5 ไปเลย แล้วก็ใช้ราคาตามจริงไม่ต้องอุ้ม
สุดท้ายก็จะเหลือแต่ผู้ใช้ที่ต้องใช้จริงเท่านั้น พวกบริษัท เขาไม่เดือดร้อนหรอก กฏหมายไม่บังคับก็ลากขายตัวเก่าไปได้ไม่เดือดร้อน
ทีนี้ ถึงมันจะประหยัดน้ำมันกว่า แต่ถ้าหาร กิโลเมตรเอาแล้ว เผลอๆ ลูกค้าก็ตัดสินใจเองได้
ที่ผ่านมา มันบิดเบี้ยวไปหมด รอรัฐบาลนี้คงไม่ทันแล้ว คิดได้แค่ละอย่าง คงต้องรอคนที่จะเข้ามาใหม่แก้เอา ได้แต่หวัง ยังดีกว่า ไม่มีหวังอะไรเลย
-
ผมอยากรู้ว่าปิกอัพใหม่ ๆ ของไทย ยี่ห้อไหนเป็น Euro5 ยี่ห้อไหน Euro4 หรือ ยังมี Euro3 อยู่ไหม ใครมีข้อมูล แชร์หน่อยครับ อยากรู้
-
EURO 5 มีแค่ ปตท.กับบางจาก แถมบางจากหลายๆปั้ม ยังไม่ลง Hi premium ด้วยซ้ำ หาได้เฉพาะปั้มใหญ่หน่อย
เติมพรีเมียมเชล ก็ euro4 เหมือนน้ำมันตัวถูก จะไปช่วยอะไรละ แถมหลายๆคน ยังบอกด้วยว่า พรีเมียมปั้มฝรั่งเท่านั้น
ถ้าค่อยเป็นค่อยไป บังคับ พรีเมียมต้อง euro5 เท่านั้นก่อน ถึงจะขายราคาพรีเมียมได้
จากนั้นก็ค่อยๆ ปรับไป ปั้มเฉพาะ กทม. ก็เริ่มบังคับขายเฉพาะ euro5 จากนั้นก็ไล่ๆ ไปตามหัวเมือง
ค่อยๆ เป็น ค่อยๆไปครับ เราควร"ลด" การใช้ ไม่ใช่เพิ่มโอกาสการใช้นะ
...............
นี่ขนาดผมได้รับผลประโยชน์เต็มๆ จากนโยบายนี้(ผมใช้ 2 ดีเซล) ยังไม่ค่อยจะเห็นด้วยเลยนะ
ปล.ถึงเครื่องยนต์ euro เก่า เติมน้ำมัน euro ใหม่ๆ ก็ช่วยให้ไอเสียสะอาดขึ้นกว่าเติมน้ำมัน euro เก่าครับ แต่ให้ดีสุดคือ ใหม่+ใหม่ ครับ
-
ผมอยากรู้ว่าปิกอัพใหม่ ๆ ของไทย ยี่ห้อไหนเป็น Euro5 ยี่ห้อไหน Euro4 หรือ ยังมี Euro3 อยู่ไหม ใครมีข้อมูล แชร์หน่อยครับ อยากรู้
ปิคอัพใหม่ๆทุกค่ายที่ขายเป็น euro4 ครับ ไร้ DPF เพราะกฎหมายกำหนดแค่นี้
แต่ทุกค่ายสามารถผลิตให้ได้มาตรฐาน euro 5 หรือ 6 กันหมดแล้ว อยู่ที่แค่ว่าจะหยิบให้คนไทยใช้ได้เมื่อไรแค่นั้น
ค่ายสามห่วง เครื่อง GD เหมือนที่ขายในไทย spec ที่ส่งไป:
ออสเตรเลียมี EGR+DOC+DPF เป็น Euro5
ส่งไปญี่ปุ่น ยุโรป EGR+DOC+DPF+SCR(adblue) เป็น Euro6
สเปกที่ขายไทยมี EGR+DOC (แค่เนี้ย และยังไม่นับพวกอุดตัด นู่นนี่) เป็น Euro4
ค่ายอื่นๆที่เป็นกลุ่มปิคอัพก็น่าจะราวๆนี้ คงพอเห็นภาพนะครับ
ลองดูข้อมูลใน link นี้ครับ. https://toyota-club.net/files/faq/15-10-20_faq_gd-engine_eng.htm
ข้อมูลอาจดูเหยียดๆหน่อยนะ แต่ผมว่าเป็นคนในองค์กรแหละที่ทำข้อมูลชุดนี้ และค่ายรถเองก็คงไม่ค่อยอยากให้คนในบางประเทศเห็นข้อมูลนี้เท่าไรหรอกมั้ง
-
คือ ดีเซลพรีเมี่ยมเนี่ย ทราบกันอยู่แล้วมันคือ ดีเซลล้วนๆ+สารเพิ่มประสิทธิ์ภาพ และราคาน้ำมันดีเซลในตลาดโลกมันลงมาเยอะ จริงๆควรจะถูกกว่านี้ ....
แต่ถ้าจะรักษาสิ่งแวดล้อม จริงๆ ก็ต้องสนับสนุนน้ำมัน B5,B10 ไม่ใช่ไปบีบให้ลดราคาน้ำมันพรีเมี่ยมเพื่อให้คนไปใช้ ... ผมคิดว่าท่านคงเข้าใจอะไรผิดไปมาก
โดยทางเทคนิค ** ข้อแตกต่างระหว่างไบโอดีเซลกับน้ำมันดีเซล **
1.ลดการนำเข้าน้ำมันปิโตรเลียมทำให้ประหยัดเงินตราไว้ในประเทศ
2.มีค่าซีเทน (Cetane Index) สูงกว่าน้ำมันดีเซลทำให้เครื่องยนต์สตาร์ทติดง่ายเครื่องยนต์เดินเรียบ
3.มีความปลอดภัยในการใช้งานมากกว่าน้ำมันดีเซลเพราะจุดติดไฟสูงกว่า (น้ำมันดีเซล 69 องศาเซลเซียสน้ำมันไบโอดีเซล 150 องศาเซลเซียส) มีกลิ่นสะอาดไม่เป็นอันตรายเพราะผลิตจากไขมันพืชและสัตว์
4.ลดควันดำถึง 75 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับน้ำมันดีเซล
5.ลดมลภาวะจากคาร์บอนมอนอกไซด์
6.ไม่มีกำมะถันจึงไม่ก่อให้เกิดสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ เหมือนน้ำมันดีเซล
7.จุดวาบไฟของน้ำมันดีเซลต่ำ ประมาณ 50 กว่า ในขณะที่จุดวาบไฟของน้ำมันไบโอดีเซล ประมาณ 100 กว่าขึ้นไป
ดังนั้นที่คนใช้ดีเซลพรีเมี่ยมแล้วรู้สึกแรงกว่าก็เพราะมันจุดติดไฟง่ายกว่า เป็นธรรมดาของน้ำมันดีเซลปรกติที่ไม่ได้ผสม เอทานอลอยู่แล้ว ... (โดยไม่รู้ตัวว่าเป็นเหยื่อการตลาดของบริษัทฯน้ำมัน)
ไม่เชื่อลองสังเกตุกปลายท่อรถ BMW หรือ รถแพงๆที่เติมดีเซลพรีเมี่ยมประจำน่ะ ปลายท่อจำดำกว่ารถกระบะบ้านๆทั่วไป(รุ่นใหม่ๆหน่อยนะ)ที่เติม B5 มาตลอดด้วยซ้ำ
-
คือ ดีเซลพรีเมี่ยมเนี่ย ทราบกันอยู่แล้วมันคือ ดีเซลล้วนๆ+สารเพิ่มประสิทธิ์ภาพ และราคาน้ำมันดีเซลในตลาดโลกมันลงมาเยอะ จริงๆควรจะถูกกว่านี้ ....
แต่ถ้าจะรักษาสิ่งแวดล้อม จริงๆ ก็ต้องสนับสนุนน้ำมัน B5,B10 ไม่ใช่ไปบีบให้ลดราคาน้ำมันพรีเมี่ยมเพื่อให้คนไปใช้ ... ผมคิดว่าท่านคงเข้าใจอะไรผิดไปมาก
โดยทางเทคนิค ** ข้อแตกต่างระหว่างไบโอดีเซลกับน้ำมันดีเซล **
1.ลดการนำเข้าน้ำมันปิโตรเลียมทำให้ประหยัดเงินตราไว้ในประเทศ
2.มีค่าซีเทน (Cetane Index) สูงกว่าน้ำมันดีเซลทำให้เครื่องยนต์สตาร์ทติดง่ายเครื่องยนต์เดินเรียบ
3.มีความปลอดภัยในการใช้งานมากกว่าน้ำมันดีเซลเพราะจุดติดไฟสูงกว่า (น้ำมันดีเซล 69 องศาเซลเซียสน้ำมันไบโอดีเซล 150 องศาเซลเซียส) มีกลิ่นสะอาดไม่เป็นอันตรายเพราะผลิตจากไขมันพืชและสัตว์
4.ลดควันดำถึง 75 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับน้ำมันดีเซล
5.ลดมลภาวะจากคาร์บอนมอนอกไซด์
6.ไม่มีกำมะถันจึงไม่ก่อให้เกิดสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ เหมือนน้ำมันดีเซล
7.จุดวาบไฟของน้ำมันดีเซลต่ำ ประมาณ 50 กว่า ในขณะที่จุดวาบไฟของน้ำมันไบโอดีเซล ประมาณ 100 กว่าขึ้นไป
ดังนั้นที่คนใช้ดีเซลพรีเมี่ยมแล้วรู้สึกแรงกว่าก็เพราะมันจุดติดไฟง่ายกว่า เป็นธรรมดาของน้ำมันดีเซลปรกติที่ไม่ได้ผสม เอทานอลอยู่แล้ว ... (โดยไม่รู้ตัวว่าเป็นเหยื่อการตลาดของบริษัทฯน้ำมัน)
ไม่เชื่อลองสังเกตุกปลายท่อรถ BMW หรือ รถแพงๆที่เติมดีเซลพรีเมี่ยมประจำน่ะ ปลายท่อจำดำกว่ารถกระบะบ้านๆทั่วไป(รุ่นใหม่ๆหน่อยนะ)ที่เติม B5 มาตลอดด้วยซ้ำ
คำถาม ก่อนจะออกทะเล
เติม B5 B10 ลดมลพิษอย่างไร ต้องมีหลักฐานครับ ไม่เอา กลิ่นดีกว่า หรือความรู้สึกเข้าว่าครับ
-
คือ ดีเซลพรีเมี่ยมเนี่ย ทราบกันอยู่แล้วมันคือ ดีเซลล้วนๆ+สารเพิ่มประสิทธิ์ภาพ และราคาน้ำมันดีเซลในตลาดโลกมันลงมาเยอะ จริงๆควรจะถูกกว่านี้ ....
แต่ถ้าจะรักษาสิ่งแวดล้อม จริงๆ ก็ต้องสนับสนุนน้ำมัน B5,B10 ไม่ใช่ไปบีบให้ลดราคาน้ำมันพรีเมี่ยมเพื่อให้คนไปใช้ ... ผมคิดว่าท่านคงเข้าใจอะไรผิดไปมาก
โดยทางเทคนิค ** ข้อแตกต่างระหว่างไบโอดีเซลกับน้ำมันดีเซล **
1.ลดการนำเข้าน้ำมันปิโตรเลียมทำให้ประหยัดเงินตราไว้ในประเทศ
2.มีค่าซีเทน (Cetane Index) สูงกว่าน้ำมันดีเซลทำให้เครื่องยนต์สตาร์ทติดง่ายเครื่องยนต์เดินเรียบ
3.มีความปลอดภัยในการใช้งานมากกว่าน้ำมันดีเซลเพราะจุดติดไฟสูงกว่า (น้ำมันดีเซล 69 องศาเซลเซียสน้ำมันไบโอดีเซล 150 องศาเซลเซียส) มีกลิ่นสะอาดไม่เป็นอันตรายเพราะผลิตจากไขมันพืชและสัตว์
4.ลดควันดำถึง 75 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับน้ำมันดีเซล
5.ลดมลภาวะจากคาร์บอนมอนอกไซด์
6.ไม่มีกำมะถันจึงไม่ก่อให้เกิดสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ เหมือนน้ำมันดีเซล
7.จุดวาบไฟของน้ำมันดีเซลต่ำ ประมาณ 50 กว่า ในขณะที่จุดวาบไฟของน้ำมันไบโอดีเซล ประมาณ 100 กว่าขึ้นไป
ดังนั้นที่คนใช้ดีเซลพรีเมี่ยมแล้วรู้สึกแรงกว่าก็เพราะมันจุดติดไฟง่ายกว่า เป็นธรรมดาของน้ำมันดีเซลปรกติที่ไม่ได้ผสม เอทานอลอยู่แล้ว ... (โดยไม่รู้ตัวว่าเป็นเหยื่อการตลาดของบริษัทฯน้ำมัน)
ไม่เชื่อลองสังเกตุกปลายท่อรถ BMW หรือ รถแพงๆที่เติมดีเซลพรีเมี่ยมประจำน่ะ ปลายท่อจำดำกว่ารถกระบะบ้านๆทั่วไป(รุ่นใหม่ๆหน่อยนะ)ที่เติม B5 มาตลอดด้วยซ้ำ
คำถาม ก่อนจะออกทะเล
เติม B5 B10 ลดมลพิษอย่างไร ต้องมีหลักฐานครับ ไม่เอา กลิ่นดีกว่า หรือความรู้สึกเข้าว่าครับ
ไม่ใช่ความรู้สึกครับ
http://www.scimath.org/lesson-chemistry/item/7096-biodiesel
(http://image.free.in.th/v/2013/it/190205043346.jpg) (http://picture.in.th/id/0e390db1779bdc1c45024df46aec3869)
ตามไปอ่านในลิ้งค์นี้นะครับ หัวข้อขวามือ คลิกอ่านให้ครบนะครับจะได้มีความรู้มากขึ้นครับ .... ข้อมูลวิชาการล้วนๆแหล่งข้อมุลเชื่อถือได้ไม่มโน ...
-
คันไหนดำเกินกฏหมายกำหนด ก็ยึดรถ แก้จนกว่าจะไม่ดำ จบปัญหา 8)
-
แทนที่จะเลิกอุดหนุนน้ำมันดีเซลและขึ้นภาษีรถกระบะ จะได้เลิกใช้รถผิดประเภทซะที นี่จะไปบังคับคนขาย
กะจะเป็นคอมมิวนิสต์หรอครับ
-
มีอย่างอื่นให้แก้ตั้งมากมายนะครับ เพื่อลดปริมาณฝุ่นมลพิษ
-
แก้ที่ปลายเหตุ เหมือนเชิญชวนให้คนมาใช้ดีเซล ยิ่งลดคนยิ่งแห่มาใช้กระบะ ยิ่งใช้ยิ่งฝุ่น เจริญครับประเทศ
-
ผมจำได้ว่ารัฐประกาศแล้วนะครับว่าจะทำ euro 5 ในน้ำมัน แต่กว่าจะได้ใช้ปี 2564 หรือไง เพราะต้องแก้ไขโรงกลั่นทั้งระบบใช้เงินเยอะมาก ส่วนน้ำมัน euro5 กำมถันมันต่ำกว่า 4 ต่อให้เครื่องเป็น 4 ก็น่าจะลดมลพิษได้อีกหน่อยไม่ใช่เหรอครับ
ส่วนการบีบให้ใช้ b20 อัพ เป็นเรื่องดีแต่ถามว่า เราต้องอุ้มน้ำมันปาล์มมากขึ้น กองทุนจะรับภาระไหวรึเปล่าในอนาคต แต่ถ้ามองมุมกลับมันก็ดีกับเกษตรบ้านเราอยู่นะ
-
ไม่ต้องลด แต่เลิกขาย ที่ต่ำกว่า Euro 5 ไปเลย แล้วก็ใช้ราคาตามจริงไม่ต้องอุ้ม
สุดท้ายก็จะเหลือแต่ผู้ใช้ที่ต้องใช้จริงเท่านั้น พวกบริษัท เขาไม่เดือดร้อนหรอก กฏหมายไม่บังคับก็ลากขายตัวเก่าไปได้ไม่เดือดร้อน
ทีนี้ ถึงมันจะประหยัดน้ำมันกว่า แต่ถ้าหาร กิโลเมตรเอาแล้ว เผลอๆ ลูกค้าก็ตัดสินใจเองได้
ที่ผ่านมา มันบิดเบี้ยวไปหมด รอรัฐบาลนี้คงไม่ทันแล้ว คิดได้แค่ละอย่าง คงต้องรอคนที่จะเข้ามาใหม่แก้เอา ได้แต่หวัง ยังดีกว่า ไม่มีหวังอะไรเลย
+1 ครับ มัน"ต้อง" เป็นแบบนี้ได้แล้ว เจ็บระยะสั้น แต่ระยะยาวมันเข้าที่แล้วผมก้อเชื่อว่าจะดี
ที่ผ่านมา รัฐไม่กล้าเพราะกลัวผลกระทบทางการเมืองมากเกินไป จนมันเละเทะจริงๆครับ
-
ตัดยูโร 4 แล้วทำแต่ 5 เลยครับบบบ เชียร์ ๆ ทุกวันนี้เติมทีแพงเหลือเกิน
-
ผมอยากรู้ว่าปิกอัพใหม่ ๆ ของไทย ยี่ห้อไหนเป็น Euro5 ยี่ห้อไหน Euro4 หรือ ยังมี Euro3 อยู่ไหม ใครมีข้อมูล แชร์หน่อยครับ อยากรู้
กระบะบ้านเรา เอาสเปคขายในไทยนะ ไม่นับสเปคส่งนอก
ตอนนี้เป็น EURO4 หมดครับ มีแค่ EGR+CAT เท่านั้น ยังไม่ใส่ DPF มา
ถ้าจำไม่ผิด เหมือนจะมี RANGER RAPTOR สเปคเมืองไทยก็เป็น EURO5 หรือป่าว เหมือนว่าจะมี DPF ด้วยนะ ไม่แน่ใจ
ใครได้แอบส่องห้องเครื่อง RANGER RAPTOR แจ้งข้อมูลที
-
ผมอยากรู้ว่าปิกอัพใหม่ ๆ ของไทย ยี่ห้อไหนเป็น Euro5 ยี่ห้อไหน Euro4 หรือ ยังมี Euro3 อยู่ไหม ใครมีข้อมูล แชร์หน่อยครับ อยากรู้
กระบะบ้านเรา เอาสเปคขายในไทยนะ ไม่นับสเปคส่งนอก
ตอนนี้เป็น EURO4 หมดครับ มีแค่ EGR+CAT เท่านั้น ยังไม่ใส่ DPF มา
ถ้าจำไม่ผิด เหมือนจะมี RANGER RAPTOR สเปคเมืองไทยก็เป็น EURO5 หรือป่าว เหมือนว่าจะมี DPF ด้วยนะ ไม่แน่ใจ
ใครได้แอบส่องห้องเครื่อง RANGER RAPTOR แจ้งข้อมูลที
ไม่มี dpf เช่นกันครับ
-
รีบขาย B20 ให้ทั่ว ๆสิครับ ถูกกว่า 5 บาท แถม pm2.5 น้อยกว่า
-
รีบบังคับรถบรรทุกติดDPFด้วยโดยด่วนครับ พร้อมทั้งทบทวนการออกแบบโครงสร้างและเครื่องยนต์รถบรรทุกทั้งเล็กและใหญ่ว่ามีการเผื่อน้ำหนักบรรทุกเกินกฎหมายกำหนดหรือไม่? ถ้าตรวจสอบจริงจังจะพบเองครับว่าตัวรถเผื่อไว้หลายเท่า ทำให้ใช้ทั้งเชื้อเพลิงมากเกินไปและเผาไหม้ไม่หมดด้วย
-
ลดเบนซินพรีเมี่ยมด้วยจิ :P
-
ได้ผลจริงๆครับ
น้ำมันดีเซลเกรดพรี่เมี่ยม ปตท.-บางจาก ปรับราคาลง 1 บาท มีผลพรุ่งนี้ครับ
-
ผมอยากรู้ว่าปิกอัพใหม่ ๆ ของไทย ยี่ห้อไหนเป็น Euro5 ยี่ห้อไหน Euro4 หรือ ยังมี Euro3 อยู่ไหม ใครมีข้อมูล แชร์หน่อยครับ อยากรู้
กระบะบ้านเรา เอาสเปคขายในไทยนะ ไม่นับสเปคส่งนอก
ตอนนี้เป็น EURO4 หมดครับ มีแค่ EGR+CAT เท่านั้น ยังไม่ใส่ DPF มา
ถ้าจำไม่ผิด เหมือนจะมี RANGER RAPTOR สเปคเมืองไทยก็เป็น EURO5 หรือป่าว เหมือนว่าจะมี DPF ด้วยนะ ไม่แน่ใจ
ใครได้แอบส่องห้องเครื่อง RANGER RAPTOR แจ้งข้อมูลที
โฆษณารับอุด EGC ยังมีให้เห็นอยู่ทั่วไปเลยครับ มีติดรถมาคนไทย ไม่รับผิดชอบต่อสังคมก็ไม่สนใจอยู่ดี จะว่าไปขนาดรถ Premium ยังมีรับจูนปิด Adblue เลยครับ
-
ผมอยากรู้ว่าปิกอัพใหม่ ๆ ของไทย ยี่ห้อไหนเป็น Euro5 ยี่ห้อไหน Euro4 หรือ ยังมี Euro3 อยู่ไหม ใครมีข้อมูล แชร์หน่อยครับ อยากรู้
กระบะบ้านเรา เอาสเปคขายในไทยนะ ไม่นับสเปคส่งนอก
ตอนนี้เป็น EURO4 หมดครับ มีแค่ EGR+CAT เท่านั้น ยังไม่ใส่ DPF มา
ถ้าจำไม่ผิด เหมือนจะมี RANGER RAPTOR สเปคเมืองไทยก็เป็น EURO5 หรือป่าว เหมือนว่าจะมี DPF ด้วยนะ ไม่แน่ใจ
ใครได้แอบส่องห้องเครื่อง RANGER RAPTOR แจ้งข้อมูลที
ไม่มี dpf เช่นกันครับ
อ้อ ขอบคุณครับ
ผมอยากรู้ว่าปิกอัพใหม่ ๆ ของไทย ยี่ห้อไหนเป็น Euro5 ยี่ห้อไหน Euro4 หรือ ยังมี Euro3 อยู่ไหม ใครมีข้อมูล แชร์หน่อยครับ อยากรู้
กระบะบ้านเรา เอาสเปคขายในไทยนะ ไม่นับสเปคส่งนอก
ตอนนี้เป็น EURO4 หมดครับ มีแค่ EGR+CAT เท่านั้น ยังไม่ใส่ DPF มา
ถ้าจำไม่ผิด เหมือนจะมี RANGER RAPTOR สเปคเมืองไทยก็เป็น EURO5 หรือป่าว เหมือนว่าจะมี DPF ด้วยนะ ไม่แน่ใจ
ใครได้แอบส่องห้องเครื่อง RANGER RAPTOR แจ้งข้อมูลที
โฆษณารับอุด EGC ยังมีให้เห็นอยู่ทั่วไปเลยครับ มีติดรถมาคนไทย ไม่รับผิดชอบต่อสังคมก็ไม่สนใจอยู่ดี จะว่าไปขนาดรถ Premium ยังมีรับจูนปิด Adblue เลยครับ
เรื่องอุด EGR และตัด CAT มันเป็นค่านิยม เทรน แฟชั่น และความเชื่อ ของคนแต่งรถกลุ่มหนึ่ง ไม่เฉพาะดีเซลด้วย(คนแต่งรถดีๆ คิดถึงสังคมและเพื่อนร่วมทางก็มีอีกเยอะ)
เหมือนเรื่องท่อไอเสีย ที่บอกถอดพักกลาง พักปลาย ยิงตรง แลัวมันดี มันแรง มันเจ๋ง มันเทห์ แต่เสียงดันสนั่นลั่นบ้าน รบกวนคนอื่น ฉันไดก็ฉันนั้น ต่างกันแค่อย่างหนึ่งเป็นมลพิษเรื่องเสียง อีกอย่างเป็นมลพิษเรื่องก๊าซและฝุ่น อะครับ
มันต้องแก้ที่บุคคล ที่จิตสำนึก มาไล่จับคนจับก็ขี้เกียจบ้าง ปล่อยปะละเลยบ้าง เส้นสายนายโตบ้าง เงินๆ ทองๆ บ้าง สุดท้ายปัญหาก็คือปัญหา มีแต่จะบานปลาย(เหมือนตอนนี้) ไปเรื่อยๆ
-
ภาพโฆษณาของ ปตท. บอกดีเซลพรีเมี่ยมลดถึงแค่สิ้นเดือน 28 ก.พ. จะเป็นยังไงต่อคงต้องรอดู
ได้ผลจริงๆครับ
น้ำมันดีเซลเกรดพรี่เมี่ยม ปตท.-บางจาก ปรับราคาลง 1 บาท มีผลพรุ่งนี้ครับ
-
ลดราคาน้ำมัน เกรดพรีเมียม แก้ปัญหาที่ปลายเหตุแล้วละครับ แค่รถติดจอดไฟแดงนานๆก็ปล่อยไอเสียออกมาทุกคัน เกิดมลพิษสะสม
รถเครื่องยนต์ดีเซลหลายๆคันที่ตกแต่งเครื่องยนต์มา ก็เติมเกรดพรีเมียมกันเยอะ ก็ควันดำออกมาเหมือนกัน
ควรจะไปแก้ไขระเบียบการตรวจสภาพรถ ที่ขนส่งดีกว่าครับ คันไหนตกแต่งเครื่องยนต์มา ควันดำเกินค่ามาตรฐาน ก็ให้กลับไปแก้ไขให้ผ่าน
-
ข้อเท็จจริงก็คือ
-ดีเซลพรีเมียมทุกปั้ม ผสมไบโอดีเซล เป็น B5-B7 เช่นเดียวกับดีเซลธรรมดา
-ดีเซลพรีเมียม Euro5 มีแค่ปั้ม บางจาก และ ปตท. เท่านั้น (ดีเซล Euro5 +ไบโอดีเซล +additiveคุณภาพสูง)
-ดีเซลพรีเมียมปั้มฝรั่งเป็นแค่ Euro4 สารเติมแต่งหรือ additive ไม่สามรถทำให้น้ำมัน Euro4 เป็น Euro5 ได้
(ดีเซล Euro4 +ไบโอดีเซล +additiveคุณภาพสูง)
-Euro5 สะอาดกว่า Euro4 แน่นอน
แต่ไม่ได้หมายถึงดีเซลพรีเมียมปั้มไทยจะดีกว่าปั้มฝรั่งในทุกเรื่อง เพราะความแรง ความประหยัดและเรื่องอื่นๆก็ขึ้นอยู่กับสารเติมแต่งหรือ additive ของแต่ละค่ายด้วย
-
แก้ผิดจุดรึเป่า กลายเป็นรถหรูดีเซลได้ประโยชน์มากกว่าไหม
คิดเหมือนกันเลยครับ
ภาคขนส่ง หรือประชาชนกระบะทั่วไปก็จะมองหาน้ำมันดีเซลที่ถูกที่สุดอยู่ดี ไม่น่าจะช่วยลดปัญหาฝุ่นอะ
แล้วควรจะแก้ตรงไหน แก้ยังไงครับ
ผมเห็นเขาออกมาตรการอะไรมา ก็มีแต่คนติ
-
แทนที่จะเลิกอุดหนุนน้ำมันดีเซลและขึ้นภาษีรถกระบะ จะได้เลิกใช้รถผิดประเภทซะที นี่จะไปบังคับคนขาย
กะจะเป็นคอมมิวนิสต์หรอครับ
ผมก็อยากให้ทำแบบนี้
แต่รับประกันได้ว่า รัฐบาลชุดไหนทำ ก็จะโดนด่าเละ
รังแกเกษตรกรที่ต้องใช้รถกระบะบ้าง ค่าขนส่งสินค้าจะแพงขึ้นบ้าง
-
งงๆ แทนที่จะไปเข้มงวดกับพวกควันดำ อุด EGR ตัดแคท ไปบีบผู้ประกอบการอย่างนี้แล้วจะทำให้ลดคุณภาพลงรึเปล่าน้อ
ต้นตออยู่ที่ไอพวกนี้เลยครับ โดยเฉพาะร้านรับทำ เห็นแก่ตัวมาก
และอีกจำพวกคือ รถดีเซลเก่ามากๆ ที่สภาพไม่ได้แล้ว ก็เอามาวิ่งกัน (ขสมก รถร่วม รถ กทม. ตัวดีเลย)