Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ismael ที่ มีนาคม 19, 2019, 12:51:46
-
เชิญสนทนา
ปล.1รถเราควรเป็นอะไรที่เราชอบ? เราซื้อ ไม่ใช่มาเสียใจมองตาปริบๆ หวังแค่มีโลโก้ เพราะรถไม่ใช่พาหนะของใครบางคนที่ มีแค่กระดอง กับยาง แต่รถต้องมีเครื่องยนต์ที่ดี สิ่งอำนวยความสะดวกentertainment และ ความปลอดภัยsafety โครงสร้าง ช่วงล่าง บลาๆ นิยามของรถ ไม่ใช่แค่พาหนะที่พาจากจุด A - ไป B ถ้าใช่ในนิยามของคุณ รถไม่ต้องมีวิศวะพัฒนาไปเลยย
ปล.2รถอะไรราคาก็ตกหมดแหละ กา3ห่วง ราคาโอ้ยไม่ตก555 เห็นจะมีแค่บางรุ่นๆไป เช่น Jaสส ยี่ห้อ H ฯลฯ
ปล.3รถ N รถ M โอ้ยยไม่ใช่รถตลาด ราคาตก ถาม?? คุณซื้อคุณไม่ไปตลาดคุณเข้าป่าไปซื้อ???
รถในนิยามตลาด คือแค่ราคาขายต่อที่คุณสนใจ
รถที่มันขายได้ มีราคาขาย? คุณเคยศึกษาไหม ว่าkeyมันคือ อะไหล่ที่พร้อม มีไว้สำหรับลค ที่เข้าซ่อม เข้า ศ.บริการ รถจึงยังมีในตลาดซื้อขาย แต่นี่คุณพูดแต่รถตลาดๆๆๆ ราคาขายต่อๆๆๆ ตกๆ คุณเคยศึกษามันไหม
-
ถ้าคิดว่าเป็นแค่พาหนะ ก็จริงครับ
แต่ผมว่าคนไม่คิดแบบนั้น เพราะถ้าจะซื้อ ต้องมีความชื่นชอบมาเกี่ยวแน่นอน และหลากคนหลายแบบ
แต่ถ้าสำหรับคนซื้อมือสอง มันคือ สวรรค์ ชัดๆ
-
ผมซื้อรถไม่คิดถึงการขายต่อ
-
ต่างกรรมต่างวาระ
ถ้าจะซื้อป้ายแดงก็คงซื้อ toyota กับ honda แหล่ะราคาไม่ตก
ถ้าจะซื้อมือสอง ก็ชอบมอง nissan รถดี ราคาโอเค
-
แต่ถ้าผมจะซื้อรถมือสอง พวกรถตลาดที่ราคามือสองแข็งๆผมก็ไม่ซื้ออ่ะ
ยิ่งซื้อผ่อนด้วยเผลอๆรวมดอกรวม vat ราคาพอๆกับมือ 1 เลย
-
อยู่ที่คนซื้อว่าอยากได้อะไร
-
ผมอ่านเนื้อหาในกระทู้แล้วไม่ค่อยเข้าใจประเด็นเท่าไหร่ก็ขออภัยด้วยครับ เอาเป็นว่าผมแสดงความเห็นตามหัวกระทู้ก็แล้วกัน
บางทีเราต้องลองมองในมุมของคนที่ไม่ได้อินในเรื่องรถหรือคนทั่วไป ที่ซื้อรถมาใช้และขายไปเมื่อเปลี่ยนคันใหม่คับ
ซึ่งปัจจัยเรื่องราคาขายต่อ และความง่ายยากในการปล่อยขายมือสองจะมีความสำคัญขึ้นมาทันที เพราะสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องรถก็คงประเมินการซื้อจากปัจจัยภายนอกพวกนี้แหล่ะ
ลองสมมุติให้เป็นเรื่องอื่นบ้างเช่นการเลือกซื้อตู้เย็น ผมว่าน้อยคนที่จะมามองว่ามันต้องเจ๋ง ต้องใช้งานดีสุดยอดอะไรแบบนั้น
หลักๆก็คงมองเรื่องคุณภาพภาพรวม ยี่ห้อ ความสวยภายนอก มีฉลากประหยัดไฟกับ มอก. ราคาได้ก็โอเคแล้ว เวลาจะเปลี่ยนก็ขายต่อคนรู้จักไป
-
ถ้าผมจะซื้อรถสักคัน เวลาอยู่หลังพวงมาลัยต้องมีความสุขครับ
-
ซื้อรถมาใช้ อยากใช้อย่างมีความสุข
ความสุขพื้นฐานจากรถยนต์สักคันคือ
เป็นรถที่ใช้งานได้ดี ไม่เกเร ก็เท่านั้นครับ
ราคาขายต่อ เป็นราคาที่คนซื้อยินดีกับราคานั้น
คงไม่มีใครอยากซื้อรถที่ขึ้นชื่อว่างอแง เสียบ่อย
ซ่อมไม่อยู่ ในราคาแพงๆ หรอกครับ
สิ่งที่ผมจะสื่อคือ สำหรับคนใช้งานแล้ว
ต้องการรถที่ใช้งานได้ดี และรถที่ใช้งานได้ดี
เมื่อจะขายต่อก็มีคนอยากรับไปใช้ต่อ
ราคาขายต่อเลยไม่แย่
ในทางกลับกัน ถ้ารถยังใช้งานได้ดีอยู่
แม้จะไม่มีมูลค่าในการขายต่อ ถึงเก็บเอาไว้
มันก็ยังรับใช้เราได้
แต่กับรถที่ปัญหาเยอะ คนก็ไม่อยากรับไปดูแลต่อ
อย่าว่าแต่ราคาตกเลย บางทีก็ไม่มีคนรับซื้อด้วยซ้ำ
รถซื้อมาใช้ ไม่ได้ซื้อมาขาย ....
แต่ก็เพราะจะใช้ แล้วมันใช้ไม่ได้ ตายกลางทางบ่อยๆ
เดี๋ยวโน่นเสีย นี่เสีย จึงต้องขาย พอจะขาย
ก็ไม่มีคนรับซื้ออีก
อันนี้ต่างหากที่น่าลำบากใจครับ
นี่คือมุมมองของคน ใช้ รถนะครับ
คน เล่น รถจะมองอีกแบบครับ
-
มันคือเรื่องจริงตามนั้นแหละครับ
-
นอกจากรถ Classic , Limited รถเก่าที่มีคนนิยมจริงๆ
ผมเห็นก็ตกกันหมดนะครับ
ต่อให้เป็นรถตลาดยอดนิยมเลย คัมรี่ตัวก่อน ราคาน่าสอยมาก
-
อยากใช้ก็ไม่ต้องแคร์ขนาดนั้นครับ ไม่กล้าก็กลับไปรถตลาดมีแค่นั้นแหละ
-
ผมไม่ค่อยสนราคาต่อเลยก็ว่าได้ครับ
เพราะตอนซื้อแต่ละคัน ก็ไม่เคยได้ไปตามดูราคาขายของรุ่นไหน ยี่ห้อไหนๆ ทั้งนั้น
เลือกรถที่ตอบสนองความต้องการใช้งานในแต่ละด้าน ให้มากที่สุด เพราะมันจะให้ความพอใจเราขณะใช้งานได้ดีที่สุด ในช่วงที่รับใช้เรา
และรถที่ราคาขายต่อมือสองย่อลงมาเยอะ ราคาขายใหม่ก็มักลดเยอะด้วยเหมือนกัน รวมๆก็ไม่ต่างมากนัก
ขอแค่ให้เป็นยี่ห้อที่อยู่ในไทยมานาน มีศูนย์บริการมากพอควร มีอะไหล่ทางเลือกบ้าง (บางยี่ห้ออะไหล่แท้ก็ไม่ได้แพงเลย) มีช่างนอกให้เลือกได้จำนวนไม่น้อยเกินไป
ปัจจุบัน มีคลับรถยนต์เยอะมาก ซึ่งดีต่อการรับรู้ปัญหา และ มีแนวทางแก้ป้ญหาได้ชัดเจน ถ้าหมั่นดูศึกษา ปัญหามันก็ไม่ได้ใหญ่และน่ากลัวเลย สำหรับคนพอที่จะมีความรู้เรื่องรถยนต์
สรุป คือ ไม่ได้สนใจราคาขายต่อครับ สนใจราคาลดตอนซื้อมากกว่าครับ
-
เมื่อถึงวันที่ต้องขาย
จะรู้ซึ้งครับ
สั้นๆ เจ็บมาเยอะกับรถแบรนด์อินดี้
-
ของแบบนี้อยู่ที่ใจ ตอนจะซื้อพูดอะไรก็หอมหวานครับ
ตอนจะขายน้ำตาตกแทบขาดใจก็จะรู้เอง โดยเฉพาะเกิดจังหวะซวยยี่ห้อ/รุ่นนั้นมีดราม่าด้วยละก็ หึหึ
-
ถ้าคิดว่าต้องซื้อรถตลาด ก็ใช้รถสมรรถนะแย่ๆ ต่อไปครับ คงมีแต่ Toyota, Honda, Isuzu
บ้านผมชอบใช้รถแปลก ไล่มาตั้งแต่สมัยก่อนมากๆ Lancia, Jaguar, Alfa, Holden, Jeep Crysler, Volvo, VW, BMW
รถพวกนี้ไม่ได้ซื้อเพราะความแปลก แต่ซื้อเพราะจุดเด่นของมัน ที่เจ้าตลาดไม่มีให้ ถามว่าพอผ่านมาแล้ว ปัจจุบันคิดยังไงกับรถพวกนั้นที่เคยใช้ เข็ดไหม ช้ำใจมั้ย
ก็ขอบอกว่า ไม่เลยครับ กลับกัน...ประทับใจมากๆ หลายคัน โดยเฉพาะพวก Lancia, Jaguar ผ่านมาหลายสิบปี ก็ยังจำฟิลลิ่งและสมรรถนะของมันที่แม้กระทั่งรถปัจจุบัน พวก Toyota ก็ยังไม่สามารถให้ฟิลลิ่งนั้นได้เลย
แต่ถามว่า ถ้าต้องเป็นรถคันเดียวของบ้าน จะซื้อมั้ย ก็ขอบอกเลยครับ ว่าไม่ ต้องมีรถเจ้าตลาดสำรองไว้ที่บ้านครับ ;)
-
.
.
ผมซื้อรถที่อยากได้ และมีกำลังซื้อไม่ลำบากครับ
เรื่องอื่นไม่สน
-
แล้วแต่มุมมองครับ
ความต้องการแต่ละคนไม่เหมือนกัน นานจิตตังครับ
เอาตอบโจทย์ตัวเองก็พอ ส่วนตัวใช้รถตลาดศูนย์เยอะดี ของแต่งหาง่าย ราคาขายไม่ตกมาก เพราะไงก็ต้องปลี่ยนรถ ไม่ขับรถคันเดียวไปตลอดแน่ๆ
ส่วนสมถนะอันนี้รับได้ ไม่ได้เป็นนักแข่งอยู่แล้ว
-
รถตลาดก็ดี รถไม่ตลาดก็มีข้อดี มันแล้วแต่เราอยากได้อะไร ชอบกลางๆ กินข้าวผัด ข้าวกระเพรา ก็อิ่มได้ บางคนชอบฟีเจอร์แปลกๆคุ้มๆกับรถบางยี่ห้อที่เขากล้าใส่มาให้ก็กล้าแลกด้วยความเจ็บตอนขายต่อ ถามว่ารถตลาดญี่ปุ่นดีมั้ยก็โอเคนะ...ฟังก์ชั่นโล้นๆ เครื่องบล็อคโบราณ เกียร์ซีวีทีถูกๆช่วงล่างเหล็กแน่นๆทนๆ ถามว่าคุณภาพมันจะเท่ารถยุโรปช่วงล่างอลูมิเนียม วงล้ออัลลอย diamond cut มั้ย สำหรับบางคนก็ตอบว่าขับดีๆไม่ต่างกัน...
-
มันไม่มีหรอก ไอ้รถตลาดในฝันนั้น อะไหล่แพงทุกรุ่นทุกยี่ห้อ ยิ่งรถดีเท่าไหร่ อะไหล่ก็แพงตาม
มียี่ห้อเดียวที่พอจะถูกบ้าง แต่รับได้กับดีไซน์ไหม IZUSU ใช่คำตอบของคุณไหมล่ะ
-
คำพูดของคนไม่รู้จริงเรื่องรถ
ทุกวันนี้ Swift ปีเดียว ไมล์เดียวกับ Yaris ราคาพอๆ กัน
-
มันไม่มีหรอก ไอ้รถตลาดในฝันนั้น อะไหล่แพงทุกรุ่นทุกยี่ห้อ ยิ่งรถดีเท่าไหร่ อะไหล่ก็แพงตาม
มียี่ห้อเดียวที่พอจะถูกบ้าง แต่รับได้กับดีไซน์ไหม IZUSU ใช่คำตอบของคุณไหมล่ะ
ตรงใจมากครับที่พูดถึงอะไหล่แพงทุกยี่ห้อ
กับเรื่องการออกแบบของอีผุผุ ซึ่งผมชอบแค่รุ่นเดียวคือยุค TFR และ dragon eye จะมาตกต่ำก็สมัยdmac ตัวแรกเลยครับ
-
ผมซื้อเพราะชอบครับ ไม่ห่วงเรื่องขายต่อ แต่หลังๆเลือกยี่ห้อแล้วครับ เพราะบางยี่ห้อขายต่อราคาตกไม่กลัว กลัวจะขายไม่ได้นี่สิครับ
-
ชีวิตคือการเปลี่ยนแปลง วันนี้อยากได้รถเก๋ง B-Segment สักคันหนุ่ม-สาว ออฟฟิศขับไปทำงาน พออายุมากขึ้นมีครอบครัว ก็อยากได้รถที่ขนาดใหญ่ขึ้น
ก็ต้องเอาคันเก่าไปขายเพื่อใช้เป็นเงินดาวน์เปลี่ยนเป็นคันใหม่ ขายได้ราคาก็ดาวน์คันใหม่ได้เยอะ ยอดผ่อนต่อเดือนก็น้อย
ขายได้ราคาต่ำก็ต้องเอาเงินส่วนตัวเพิ่ม หรือไม่ก็ต้องยอมผ่อนต่อเดือนมากขึ้น ดูอย่าง Festa ปี 17 ราคาขายเท่ากับ Jazz,City ปี 13
-
ปัจจัยรถตลาดกับราคาขายต่อมีผลมากกับผู้ซื้อที่
1. มีรถคันเดียวหรือมีความจำเป็นต้องใช้มันแทบทุกวัน
2. ฐานะไม่ได้ร่ำรวยจนไม่ต้องแคร์ว่าจะตกขนาดไหน
3. เปลี่ยนรถบ่อย
4. คิดอะไรไม่ออก ไม่มีความรู้เรื่องรถ ซื้อตามคนอื่นดีกว่า
โดยส่วนตัว รู้สึกเสียดายเหมือนกัน เวลาซื้อหมดเป็นล้านๆแต่เวลาขายเหลือไม่กี่แสน
-
ตามความเข้าใจของผมรถตลาดคือรถที่ใช้งานกันอย่างแพร่หลายในประเทศนั้นๆหรือภูมิภาคนั้นๆ มีการผลิตหรือประกอบในประเทศนั้นๆ ตัวอย่างรถตลาดเช่น Toyota Honda Isuzu Nissan Mitsubishi Mazda Suzuki Benz BMW เป็นต้น แต่ถ้าหมายถึง Toyota Honda Isuzu Benz น่าจะหมายถึง รถเจ้าตลาด หรือผู้นำตลาด ส่วนรถไม่ตลาดน่าจะหมายถึงรถนำเข้าที่ผลิตในภูมิภาคอื่น หรือรถรุ่นที่ไม่มีใครเล่นไม่มีใครสนใจ
ในปัจจุบันคำว่าราคาแข็งนั้นไม่เด่นชัดแล้ว ราคาตกลงมาพอๆกันหมด ที่บางยี่ห้อราคามือสองแพงกว่าก็เพราะตอนซื้อมือหนึ่งราคาแพงกว่า เมื่อเทียบสัดส่วนเป็นเปอร์เซ็นต์แตกต่างกันน้อยมาก ขึ้นอยู่กับสภาพรถคันนั้นๆและระยะเวลาที่ผ่านการใช้งาน สภาพการณ์ในปัจจุบันรถมือสองล้นตลาดครับ
รถมือหนึ่งเจนใหม่ๆกำลังทะยอยเข้ามาและก็มีฟีเจอร์เด่นๆและอ็อปชั่นใหม่ๆที่น่าสนใจ ทำให้รถมือหนึ่งในปัจจุบันมีความแตกต่างจากรถในยุคก่อนๆเยอะขึ้นเรื่อยๆ ฉะนั้นไม่ว่าแบรนดไหนปัจจุบันราคาตกหมด ถ้าตกรุ่นแล้ว
ในสภาวะปัจจุบันผู้ผลิตเกือบทุกรายมีความกระตือรือร้นและความรับผิดชอบมากกว่าแต่ก่อน และรู้ความต้องการของคนในภูมิภาค ผมคิดว่าคุณภาพความทนทานไม่ได้แตกต่างกันมากในแต่ละแบรนด์ ถ้าหากใช้งานอย่างถูกวิธี ได้รับการดูแลรักษาและซ่อมบำรุงตามระยะเวลาอันเหมาะสม
-
รถไม่ตลาดซ่อมนานมาก อะไหล่ไม่มาสักทีครับ
Subaru Legacy อะไหล่ติด Back order ดีที่รถใช้งานได้ปกติ เลยยังไม่จอดอู่
Volvo S90 ชนด้านหน้านิดเดียว ชนตั้งแต่สิ้นปี จนวันนี้ยังรออะไหล่ชิ้นที่ขาดไปอยู่เลยครับ นอนอู่มาหลายเดือนแล้ว
อู่ยังแนะนำผมเลยว่าถ้าไม่อยากรออะไหล่นาน แนะนำซื้อพวก Toyota Camry, Honda Accord หรือพวก Benz C, E-Class
-
รถตลาด กับรถเจ้าตลาด มันแตกต่างกัน
เมื่อก่อนผมก็คิดแบบนั้นแหละ ไม่สนใจยี่ห้อ
แต่เมื่อเปิดใจไปแล้ว ลองใช้มาหมดแล้ว สรุปสั้นๆเลยว่า เข้าใจแล้วทำไมรถถึงขายไม่ค่อยดี
เดี๋ยวนี้ผมกลายเป็นคนแก่ปิดใจ ให้เด็กๆรุ่นใหม่ว่าไปแล้ว
ถามว่าราคาขายต่อมีผลมากมั๊ย มาก เช่น ซื้อแล้วไม่เหมือนที่คิดไว้ รถมีปัญหา จุกจิก หรือเกิดอุบัติเหตุแล้วเบื่อๆอยากขาย
ก่อนซื้อก็ว่าใช้ยาวกันทุกคน
-
ผมงง เสนเซอร์ชื่อรถเพื่ออะไรครับ
-
ของแบบนี้ขึ้นอยู่กับความพอใจของคนขายด้วยครับ
สองปีก่อนผมขายนิสสัน March VL ตัวท้อป ปี 12 รุ่นปรับเพิ่มอุปกรณ์
รถห้าปีครึ่งไมล์ 3.7 หมื่นโล
รถซี้อป้ายแดง 5.42 แสน ผ่านไปห้าปีครึ่ง ขายได้ 2.5 แสน และขายแบบเทิรน์รถด้วยนะครับ
หลังผมออกคันใหม่แล้ว ก็เห็นรถคันเก่าลงประกาศขายอยู่ ราคาเพิ่มจากที่ผมขายแค่สามหมื่นเท่านั้น (2.8 แสน)
หรืออย่างเฟียสต้า 1.6 ตัวท้อป วิ่ง 5.7 หมื่นโล ปี 2012
ขายได้ 1.5 แสน คนขายก็พอใจรีบปล่อยทันที เพราะมีเบี้องหลังคือ
1. ปัจจุบันไฟเครื่องโชว์ ศูนย์ SCAN แล้ว แก้ตรงจุดๆนั้นแล้วก็ไม่หาย ได้แต่ลบโค้ด ซักพักก็เป็นอีก
2. เปลื่ยนชุดคลัตช์ + ก้ามปูคลัตช์ไปแล้วรอบนึงตอนสามหมื่นกิโลเพราะเกียร์กระตุก
หายไปพักนึง ตอนนี้อาการกระตุกกลับมาอีกแล้ว
3. ขับๆไปประตูเปิดเอง ดีที่อยู่ในหมู่บ้าน ต้องเปลื่ยนกลอนประตูใหม่ทั้งชุด
4. ล่าสุด อยู่ๆรถมีอาการวูบและดับไปเอง พอสตาร์ทใหม่ก็หาย
เลยรีบตัดใจขาย ก่อนจะไม่ได้ราคาครับ
-
นานาจิตตังครับ เป็นหัวข้อที่ยังไงก็ถกกันไม่จบครับ555+
ผมเคยเล่นรถไม่ตลาดมาบ้าง ตอนนั้นรู้สึกว่าเจ๋งดีเล่นรถไม่เหมือนชาวบ้าน จ่ายราคาเท่ากันแต่ได้รถสวยกว่า วัสดุดีกว่า ช่วงล่างเทพงั้นงี้
แต่พอเจอปัญหาต่างๆตั้งแต่ศูนย์บริการจนถึงราคาขายต่อ (อย่าว่าแต่ราคาเลยแค่จะหาคนซื้อก็ยากกว่าแล้ว)
ตอนนี้เข้าใจแล้วว่าทำไมบางคนยังยึดติดกับเจ้าตลาด
ส่วนตัวยังไงคันต่อไปผมก็ซื้อแค่เจ้าตลาด3ยี่ห้อเท่านั้นหละครับ
-
เรื่องราคาขายต่อไม่ใช่ประเด็นหลัก อะไหล่และบริการหลังการขาย งานซ่อม สำคัญกว่าการขายรถครับ
-
ก็จริงตามที่เค้าว่า
แต่การเลือกรถแต่ละคนมีปัจจัยไม่เหมือนกัน
แต่ถ้าใครไม่สนเรื่องราคาขายต่อ
หรือเลือกรถที่ไม่ใช่รถตลาดแล้วรู้ว่าราคาตกเยอะ
เวลาขายก็ต้องเข้าใจด้วย ไม่ควรบ่น
ผมรู้จักบางคนตอนซื้อบอกไม่สนเรื่องราคาขายต่อหรือไม่คิดจะขาย
แต่ถึงเวลาขายจริง ราคาตกมากก็บ่นเยอะ ลืมไปหมดว่าตอนซื้อคิดยังไง
ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้คิดราคาขายต่อ แต่ก็ไม่ใช่คนที่ซื้อรถแล้วไม่คิดจะขาย
ถึงเวลาผมก็ต้องขาย ผมคงไม่เก็บเอาไว้ตลอดไปหรอก แต่ถ้ารุ่นที่ขายราคาตกเยอะอันนี้ก็ต้องเข้าใจมัน
-
ราคาขายต่อเป็นปัจจัยนึงที่คนจะเลือกซื้อรถนั้นๆหรือไม่ บางคนให้น้ำหนักกับปัจจัยนี้เยอะ บางคนให้น้อย สรุปแล้วแต่คน
-
สำหรับผมให้ความสำคัญเรื่องราคาขายต่อสูงสุดครับ
เพราะผมเห็นมากับตา รถบางคันขายราคาตกปีละเกินกว่า 10%
ส่วนตัวผมรับไม่ได้ครับ พวกนี้เงินทั้งนั้น
รถผมวิ่งไม่ต่ำกว่า 6 ปี ราคาขายต่อ เพื่อไปซื้อ Eco car ใหม่จึงสำคัญมาก
ส่วนตัวผมยอมรับว่าคันต่อไป อาจจะขยับไป Jazz ละครับ เพราะศึกษามา ราคาขายต่อดีกว่า
Toyota และ Nissan (Eco car)
-
เลือกรถที่ไม่ใช่รถตลาดแล้วรู้ว่าราคาตกเยอะ
เวลาขายก็ต้องเข้าใจด้วย ไม่ควรบ่น
ผมรู้จักบางคนตอนซื้อบอกไม่สนเรื่องราคาขายต่อหรือไม่คิดจะขาย
แต่ถึงเวลาขายจริง ราคาตกมากก็บ่นเยอะ ลืมไปหมดว่าตอนซื้อคิดยังไง
เห็นด้วยครับ เป็นกันเยอะครับ ไม่เคยก็ต้องลอง
ได้ลองซักครั้ง ก็จะเข้าใจเอง
-
ไม่มีความเห็นอะไรเป็นพิเศษ ขึ้นกับการให้น้ำหนักในการใช้งานและความพอใจของผู้ซื้อ ต่างคนต่างความคิดต่างปัจจัย และให้ความสำคัญในหลายๆสิ่งต่างกัน
ไม่มีผิดไม่มีถูกครับ เงินใครเงินมัน ทางเลือกใครทางเลือกมัน จะศึกษาก่อนซื้อมั้ยก็เรื่องของคนซื้อครับ ผมไม่เดือดร้อนแทนใคร แค่เลือกสิ่งที่ดีและเหมาะสมสำหรับตัวเองและคนใกล้ตัว ส่วนวิธีเลือกของคนอื่นก็เรื่องของเขา เข้าใจได้ไม่ยากแค่เปิดใจแล้วมองในอีกมุมมองนึงก็เท่านั้น
-
- มีทั้งจริงและไม่จริง .. บางยี่ห้อบางรุ่น ไม่ตลาด แต่ราคาแข็ง / บางยี่ห้อบางรุ่น ตลาด แต่ราคาก็ลงโหด ... แต่เรื่องพวกนี้บางทีตอนซื้อป้ายแดงดูไม่ออกว่ามันจะตกหนักหรือราคาแข็ง
- บางคนว่ารถซื้อมาขับ ไม่ได้ซื้อมาขาย .. ชั่งใจดูระหว่างความสุขระหว่างที่ใช้ถ้าซื้อรถที่ชอบ กับ เม็ดเงินที่ต้องขาดทุนตอนขาย กับความประสาทเสียตอนต้องขายแล้ว"ติดมือ" ว่าสมดุลอยู่ตรงไหน
.
.
.
.
.
ปล. รถบางรุ่น บางยี่ห้อ ... ว่ากันว่าทำให้เจ้าของมีความสุขมากได้ถึง 2 ครั้ง คือ ตอนได้เป็นเจ้าของ กับ ตอนขายได้ :-X
-
ผมใช้รถ 2 คัน ในเวลาเดียวกัน
และเปลี่ยนรถทุกๆ 6-7 ปี
ราคาขายต่อ มีผลต่อการตัดสินใจเลือกรถสำหรับผมครับ
แต่ก็ไม่ได้ใช้แค่ โตโยต้านะครับ มาสด้า ผมก็ใช้ครับ
-
ผมไม่กังวลเรื่องราคาขายต่อ แต่กังวลเรื่องรถที่ซื้อมาใช้แล้วขับไปไหนมาไหนแล้วสวนกันเลยอะแยะ อันนี้ผมขอไม่ซื้อ ผมสนใจซื้อรถที่มีคนใช้น้อยๆ ไม่โหล เรื่องราคาขายต่อจะเป็นกลุ่มคนที้กำลังซื้ออยู่อีกระดับหนึ่ง คนงานผมซื้อรถมีแค่สองยี่ห้อคือ โตต้า กับอีสุ เหตุผลในนั้นหนึ่งข้อคือราคาขายต่อไม่ตก แต่ตั้งแต่ซท้อมายังไม่มีคนงานคนไหนเปลี่ยนรถเลย เพราะการซื้อรถคันหนึ่งของเขานี้คือทั้งชีวิต ผมก็เลยงงว่าสูไม่ขายอยู่แล้ว แล้วสูจะมาคิดเรื่องราคาขายต่อทำไม อย่าลืมว่าตอนซื้อใหม่รถยี่ห้อที้รนนิยมก็ราคาแพงกว่ารถที่คนไม่นิยม(คือเทียบรถระดับค่าแบรนด์เท่ากัน)พอขายต่อราคาพอเทียบอัตราส่วนราคาตอนซื้อบวกค่าเงินแต่ละปีที่หายไป ราคาก็ต่างกันนิดเดียว คือถ้าคุณมีกำลังเงินระดับหนึ่งก็จะไม่คิดเรื่องราคาขายต่อเลยครับ
-
ผมนี่ขนาดขยับจาก ToyotaไปHonda ที่เป็นรถตลาดกันเองยังทำใจอยู่นานมาก
เป็นคนหนึงที่ลักษณะการใช้ชีวิตเหมาะกับToyota ครับ
-ไม่เคยสนใจเทคโนโลยีอะไรในรถ
-ไม่เคยเปิดเว็ปเพื่อค้นหาราคารถ ก็ถึงวลาก็ให้ศูนย์เทรินขายไปเลยทุกๆ5ปี
-เป็นรถคันเดียวในบ้าน จุดประสงค์คือขับ 1วัน จอด 6วัน ปีหนึงถึง 5,000โลก็น่าจะเก่งและ
-ขออย่างเดียวจริงๆคือไม่กระด้างถนน
รู้ใหมครับHonda Accord ที่ผมมีเนี่ยไม่ได้ให้ข้อกระด้างถนนดีนัก
แต่ผมก็ซื้อนะใช้อารมณ่มาก่อนเหตุผลเลยคันนี้สวยถูกใจ
คันหน้าไม่ Toyota ก็ Isuzu
ผมเชื่อมั่นว่ามีคนคืดอย่างผมเยอะนะ เหอะๆ
-
สุขตอนซื้อ ตอนขับทุกวัน ทุกข์ตอนขายวันเดียว
เพราะขายแล้วก็ซื้อคันใหม่อยู่แล้ว เลือกสุขดีกว่า
-
ปัญหาคือเลือกรถที่ชอบแล้วดันมีคนมาว่า ตามเน็ตเห็นแล้วน้อยใจ ด่าว่าโง่บ้างเตือนแล้วไม่ฟังบ้าง
-
ที่เคยเจอ Np300 King cap 4x4 V MT รุ่นแรก รถ4ปี ราคาเต้นท์ปล่อยมือ2 4.7แสนบาท
ราคานี้ได้แค่ VIGO Champ Prerunner Smart cap รุ่น E ปี2012 เท่านั้น
-
ใช้ยี่ห้ออินดี้ ที่คนด่าทั้งประเทศ
ตอนนี้เตนท์ไม่ค่อยรับละ ว่าจะขายเองถ้าขายไม่ได้ก็เก็บไปยาวๆละกัน 55+
-
ที่ราคามันตกอย่างมาก กว่าอีกยี่ห้อ มันมีเหตุผลมากกว่าตลาดหรือไม่ตลาดครับ
-
ถ้ามีรถแค่คันเดียว เน้นใช้งาน ถึงกำหนดเวลาเปลี่ยนรถคันใหม่มาใช้แทน ราคาขายต่อก็เป็นสิ่งที่น่าพิจารณา เพราะเวลาไปเริ่มคันใหม่ได้ง่าย ไม่หนักในการหาเงินมาซื้อ
ถ้าเป็นรถคันที่สอง ไว้ใช้งานเฉพาะกิจ ใช้งานน้อย อยู่กับเราไปอีกนานแสนนาน ราคาขายต่อเป็นเรื่องลอง
-
ใครเคยปวดหัวหรือได้ใกล้ชิดกับเพื่อน-ญาติที่ใช้รถในตำนาน
พวก Ford Ranger Fiesta Mazda 2 Mazda CX5
จะเข้าใจครับ ไม่เคยเจอกับตัวก็ยังมองโลกในแง่ดีกันได้สิครับ
ซื้อรถอินดี้ไม่ได้ทุกข์วันเดียววันขายแค่มันมูลค่าตกต่ำเท่านั้น
ถ้าขับแล้วมีความสุขได้ทุกวัน ไม่มีความห่วยแตกใดๆเลยตลอดอายุการใช้งาน
ตลาดมือสองก็ต้องนินม ราคามันก็ไม่รูดมหาราชสิครับ
คุณและครอบครัวจะต้องกลัวว่าเครื่องมันจะดับกลางถนน เกียร์มันจะพัง ตายกันยกคันขึ้นมาวันไหน
เวลามันเสีย รอซ่อมยาวๆ 2-3 งานการจะเสียไหม
ล่าสุดผมดูเคส Ford Ranger ซื้อมาวิ่งงานส่งของมีรถคันเดียว
วิ่งได้ 6 เดือนเสียรออะไหล่ซ่อม 2 เดือน
แล้วลูกค้าจะทำไงเขาจะรอได้ 2 เดือนไหม เขาก็ต้องไปจ้างคนอื่นวิ่งสิ
สุดท้ายต้องยอมเขาอู่นอก เสียสิทธิหมดประกันตั้งแต่ 3 เดือนแรก
-
ผมซื้อรถ ก็ไม่คิดเรื่องขายต่อ คิดเรื่องใช้สบายๆ ไม่ชอบนอนอู่ และไม่ลำบากกระเป๋าตังค์ครับ
-
อ่านแล้วอยากขาย forester ขึ้นมาเลยครับ ราคาตกเป็นน้ำเลย
555 ล้อเล่นครับ ซื้อมันมา ผ่านการศึกษาข้อมูลในคลับมาพอสมควร แล้วก็มีแจ้สผู้ไม่เคยซ่อมเลยอยู่คันนึงอยู่แล้ว
ซึ่งเจ้าฟอนี่มันตอบโจทร์แทบทุกอย่าง ติดแค่อะไหล่บางตัวที่รอนานมากกก เท่าที่ศึกษาในไลน์กลุ่มนะครับ แต่ยังไม่เคยเจอกับตัว (ลุ้นให้ไม่เจอ)
แต่ข้อดีหลักๆที่ผมหาไม่ได้จากแจ้สคือ เจ้าแจ้สถ้าเอารถเข้าศูนย์ไม่ว่าจะเช็คระยะเท่าไหร่ เวลาผมก็จะหายไปวันนึงเต็มๆ เพราะรถเยอะมากกกกก
แต่พอเอาฟอร์เข้าศูนย์ อย่างมาก 3ชม.สำหรับการเช็คระยะ แล้วก็ไปยืนดูได้(อันนี้ชอบมากๆ)
สรุปคือ แล้วแต่คนครับเรื่องอย่าซื้อรถไม่ตลาด ถ้าตอบโจทย์เราได้มันก็ให้ความสุขกับเราได้
*** แก้คำผิดครับ
-
เครื่องจักรมันมีค่าเสื่อมเป็นธรรมดา ถึงเวลาก็ต้องเปลี่ยน ผมเคยใช้hyundai excel ตอนซื้อ480,000 พอตอนขายหลังผ่านไปสามปีเหลือ160,000 ยังเข็ดหลาบมาถึงทุกวันนี้ ตอนนี้เลยซื้อแต่toyota honda isuzu
-
มันขึ้นว่าจะให้ "น้ำหนัก" กับเรื่องอะไร
อย่างแรก
"คนข้างเคียง" หรือ "ตัวรถ"
คนข้างเคียง นั้นมีผลกับต่อคุณและครอบครัวไหม ถ้ามี น้ำหนักก็มา
ตัวรถ คุณให้น้ำหนักกับอะไร ราคาขายต่อ, ความปลอดภัย, option ที่โดนใจ ฯลฯ
อย่างหลัง
"รถ"
Jap, Euro or ETC.
Jap ตลาด ราคาขายต่อตกน้อยกว่า
แต่เมื่อเทียบราคาตั้ง หักส่วนลด เมื่อเทียบกับ "ตัวรอง" คิดเป็น % แล้วต่างกัน "ไม่เยอะ"
และส่วนใหญ่ "ตัวตลาด" option และความปลอดภัย ที่ให้มาน้อยกว่า "ตัวรอง" เยอะพอควร
Euro ตลาด กับไม่ตลาด ราคามือสอง อันนี้ต่างกันมาก
แต่ไม่ว่าอันไหน ขึ้นชื่อว่า Euro "เจ็บหนัก" ทั้งนั้น
เพียงแค่ว่าจะ "ICU" or "CCU"
ขึ้นอยู่กับความอินดี้ในตอนซื้อ
ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการให้ "น้ำหนัก"
แต่ถ้าไม่รู้จะ "จิ้ม" ตัวไหน ถาม ผบทบ. ดีที่สุด
"ไม่เจ็บทั้งตอนซื้อ มีเหตุผลที่ดีในการออกตัวในตอนขาย!!??"
-
บางคนเป็นทุกข์ตั้งแต่ยังไม่ได้ซื้อ ;D ;D
-
ชอบคันไหนก็ซื้อคันนั้น ไม่เคยใช้เหตุผลในการซื้อ ใช้อารมณ์ล้วนๆ
และก็ไม่เคยเสียใจกับการที่ตัดสินใจไปแบบนั้น
รถยังไงมันก็ลด :-\
-
เมื่อถึงวันที่ต้องขาย
จะรู้ซึ้งครับ
สั้นๆ เจ็บมาเยอะกับรถแบรนด์อินดี้
+ 1 ตามนั้นคับ และการเป็นรถตลาดหมายถึงหาอะไหล่ง่าย
-
ต้องถามกลับว่า รถตลาด หมายถึง "รถแบรนด์ที่น่าเชื่อถือทั่วไป" หรือ "แบรนด์เจ้าตลาดไม่กี่แบรนด์" อีกทีนึง
เพราะบางคน แค่ "ไม่ใช่แบรนด์เจ้าตลาด" ก็ไม่ใช่รถตลาดในนิยามของเขาละ
______________________
คหสต. ผมคือ ถ้ารถตลาด หมายถึง "รถแบรนด์ที่น่าเชื่อถือทั่วไป"
นอกจากนั้นเป็นอินดี้หมด ก็เห็นด้วย เพราะความน่าเชื่อถือระยะยาวต่างกันจริงๆ
แต่ถ้ารถตลาด หมายถึง "แบรนด์เจ้าตลาดไม่กี่แบรนด์" อันนี้ไม่ใช่ครับ
-
ตอนผมซื้อก็โดนไซโคให้ซื้อวีออสเห็บหมา ก็เกลียดรูปทรงมันนี่นาชอบรถเหลี่ยมๆมากกว่า ไงๆผมก็ไม่ซื้อครับมองข้างนอกแล้วไม่ถูกใจแล้วเสียอารมณ์
-
ง่ายๆเลย ถ้ารถคันเดียวเป็นทุกอย่างในครอบครัว ฝากชีวิตปากท้องไว้กับมันก็ต้องเลือกที่คุ้มเงินหน่อย ซ่อมง่ายขายคล่อง แต่ถ้าเป็นคันที่2-3 ที่บ้านรวยซะอย่างก็เลือกรถที่ขับแล้วมองแล้วมีความสุข
-
ผมเป็นคนตัดสินใจเลือกรถใหม่ให้พ่อกับแม่ใช้แทนa170ที่แก่มาก(แต่วิ่งแค่70000) ผมรักcx5 ตัวใหม่มากๆ โดยเฉพาะสีแดง ตามดูมานาน แต่มันมีแต่ปัญหา ถ้าเลือกให้ท่านใช้ผมคงไม่มีความสุขแน่ ยิ่งเจอค่าอะไหล่ยิ่งไม่อยากครับ ลูกปืนล้อ 14000 ไม่รวมค่าแรงนี่ไม่ไหวจริงๆ ท่อยางอินเตอร์เส้นเกือบ5000
แม่ผมชอบ foresterกับXv แต่พอศึกษาแล้ว แม่คงไม่มีเวลาไปต่อคิว สุดท้ายผมก็เลือกcrv5ที่นั่งให้ท่าน เพราะเป็นรถกลางๆ ขับไม่ดีมากแต่ไม่แย่ ศูนย์เยอะ บางครั้งอารมณ์ก็ใช้ไม่ได้ทั้งหมดครับ
-
มี Saab อยู่คันนึง ตอนที่ที่บ้านซื้อ ก็ซื้อเพราะสมรรถนะและชื่อเสียงด้านความปลอดภัย
ตั้งแต่ขับมาก็ได้ใช้สมรรถนะกับระบบความปลอดภัยไป 3 ครั้ง (การควบคุม การหลบหลีก การทรงตัว) ล่าสุดก็เมื่อเดือนที่แล้ว
ตอนนี้ก็ยังใช้ต่อไปเรื่อยๆ ไม่ได้ดูราคาขายต่อแล้วครับ เพราะ 3 ครั้งที่รอดมาได้ก็โคตรคุ้มกับราคาตอนที่ซื้อและค่าบำรุงรักษาที่่จ่ายไปแล้ว