Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: deertesla ที่ เมษายน 14, 2019, 19:53:06
-
จากการที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นโดยมีสาเหตุมาจากการหลับใน ซึ่งอาการหลับใน คือ การที่เราหลับในขณะที่ตายังเปิดอยู่ มักจะเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ประมาณไม่เกิน 10 วินาที คล้ายๆ กับอยู่ในสภาพหลับๆ ตื่นๆ หรือคล้ายๆ หมดสติไปชั่วครู่หนึ่ง สามารถปลุกได้ง่าย แต่สิ่งที่ร้ายที่สุดของอาการหลับในก็คือ เราไม่สามารถบังคับตัวเองไม่ให้หลับในได้นั่นเอง ซึ่งหากเราเผลอมีอาการหลับในระหว่างขับรถเพียงแค่ไม่กี่วินาที ก็อาจจะกลายเป็นสาเหตุให้เราเกิดอุบัติเหตุจนเกิดความสูญเสียก็เป็นได้
ถ้าหากท่านสมาชิกเกิดอาการง่วงจนตาตาแทบจะปิดหลายครั้ง ท่านจะเลือกวิธีการใดครับ
-
จอดนอนครับ. เพื่อส่วนรวม
-
- จอดงีบซักรอบนึง
- รู้สึกตัวตื่นแล้ว ไปซื้อกาแฟเย็นแก้วนึง แล้วขับรถต่อ
-
จอดนอนครับ. เพื่อส่วนรวม
เห็นด้วยครับเป็นการทำเพื่อส่วนรวม เวลาตาจะปิดนี้มือและระบบประสาทอื่นๆจะชะงักและทำให้รถเสียหลักได้ครับ
- จอดงีบซักรอบนึง
- รู้สึกตัวตื่นแล้ว ไปซื้อกาแฟเย็นแก้วนึง แล้วขับรถต่อ
ของผมถ้าทานกาแฟนี่เป็นการเพิ่มความง่วงได้เลยครับ
-
ปกติ ง่วงจนจะหลับใน สำหรับผม จะเกิดตอนเดินทางกลางคืน ยัน เช้า ช่วงใกล้เช้า สัก ตี 3 เป็นต้นไป จะง่วงมาก แบบนี้ ยังไงก็ต้องจอดนอน เพราะพร้อมจะหลับในตลอด
แต่ถ้ากลางวัน ผมไม่มีปัญหานะ เต็มที่ จอดยืดเส้น ยืดสาย ล้างหน้า จิบกาแฟ / กระทิงแดง ก็ไปได้ไม่ต่ำกว่า 2 ช.ม.แล้วล่ะ
-
ปกติ ง่วงจนจะหลับใน สำหรับผม จะเกิดตอนเดินทางกลางคืน ยัน เช้า ช่วงใกล้เช้า สัก ตี 3 เป็นต้นไป จะง่วงมาก แบบนี้ ยังไงก็ต้องจอดนอน เพราะพร้อมจะหลับในตลอด
แต่ถ้ากลางวัน ผมไม่มีปัญหานะ เต็มที่ จอดยืดเส้น ยืดสาย ล้างหน้า จิบกาแฟ / กระทิงแดง ก็ไปได้ไม่ต่ำกว่า 2 ช.ม.แล้วล่ะ
แสดงว่าคุณพี่นี่สุขภาพร่างกายและสายตาดีมากครับ เพราะว่าขับรถช่วงกลางคืนนี้สามารถทนได้ถึงตี3 และช่วงกลางวันสำหรับบางคนนั้นมีสาเหตุจากการที่ดวงตาแพ้แสง หรืออาการสายตาเอียงหรือเขจนทำให้ง่วงครับ นอกจากนี้ก็พวกป่วยเป็นไซนัสภูมิแพ้อากาศที่ทำให้ง่วงตลอดเวลา เหมือนคนนอนน้อย สำหรับคุณพี่ยืดเส้นสายท่านเครื่องดื่มบำรุงนี้เหมือนชาร์จไฟกลับไปใหม่
-
จอดนอนดีที่สุด ตามมาด้วยน้ำหวานๆ เพิ่มพลังงาน
กาแฟมีผลน้อยสุด เพราะหมดฤทธิ์คาเฟอีน จะง่วงหนักกว่าเดิม
-
จอดนอนดีที่สุด ตามมาด้วยน้ำหวานๆ เพิ่มพลังงาน
กาแฟมีผลน้อยสุด เพราะหมดฤทธิ์คาเฟอีน จะง่วงหนักกว่าเดิม
ของผมก็จอดนอนให้สดชื่นเช่นกันครับ เพราะผมทานกาแฟแล้วรู้สึกง่วงเพิ่มขึ้น แต่น้ำหวานนี่ตัวเพิ่มความสดชื่นได้มากครับ
-
งีบประมาณ 20-25 นาทีกำลังดีครับ
ถ้าเอาครบรอบนอนเลยประมาณ 90 นาที
ไม่แนะนำนอน 60 นาที เพราะจะต้องตื่นช่วงหลับลึก
ตื่นมาจะมึน ๆ ปวดหัว การตัดสินใจช้าครับ
ปกติถ้าคืนก่อนหน้าไม่ได้นอนเลย ผมจะงีบ 20 นาทีก่อนตื่นไปทำงาน ช่วยได้จริง ๆ ครับ
ส่วนคาเฟอีน ผมไม่แนะนำ บางคนจะตอบสนองดี
กรี้ประเปร่า แต่พอหมดฤทธิ์ อาจเผลอหลับไปดื้อครับ
เหมือนม้าแก่ ๆ เอาแซ่ไปเคี่ยน พอหมดแรงแล้วไปเลย
อ. ผมเคยสอนไว้
-
งีบประมาณ 20-25 นาทีกำลังดีครับ
ถ้าเอาครบรอบนอนเลยประมาณ 90 นาที
ไม่แนะนำนอน 60 นาที เพราะจะต้องตื่นช่วงหลับลึก
ตื่นมาจะมึน ๆ ปวดหัว การตัดสินใจช้าครับ
ปกติถ้าคืนก่อนหน้าไม่ได้นอนเลย ผมจะงีบ 20 นาทีก่อนตื่นไปทำงาน ช่วยได้จริง ๆ ครับ
ส่วนคาเฟอีน ผมไม่แนะนำ บางคนจะตอบสนองดี
กรี้ประเปร่า แต่พอหมดฤทธิ์ อาจเผลอหลับไปดื้อครับ
เหมือนม้าแก่ ๆ เอาแซ่ไปเคี่ยน พอหมดแรงแล้วไปเลย
อ. ผมเคยสอนไว้
ขอบคุณมากครับ ผมเคยดูในสกู๊ปรายการทีวีช่องนึงเห็นว่าการหลับประมาณ10-20นาทีนั้นทำให้ร่างกายสดชื่นครับ
-
จอดปั้มน้ำมันแล้วนอนสักพัก
-
บิ๊กกัฟเต็มแก้วน้ำแข็งเยอะๆ สดชื่น ไอพวกเครื่องดื่มชูกำลัง ใจสั่นไปอีก แต่กาแฟขอพวกเย็น แค่นี้สบายครับ
-
เรื่องจอดนอนตามปั๊มนี่ ถ้ากลางคืนยังพอว่า แง้มกระจก ปรับเอนเบาะ แล้วนอนได้ อากาศไม่ร้อนมาก
แต่ถ้าเป็นกลางวัน บ่ายๆ แดดจัดนี่ จอดเปิดแอร์นอนในรถกันเลยเหรอครับ ถ้านอนนานๆ จะโดนรมคาร์บอนไดออกไซด์เหมือนที่เป็นข่าวบ่อยๆ หรือเปล่า
-
ผมไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้กับตัวนะคนับที่เจอคือง่วงนิดหน่อยกินกาแฟ ได้เดินๆนั่งๆตามปั๊มก็ดีขึ้นครับ
-
ถ้าเกิดง่วงในทางสองเลนขึ้นลงเขาไม่มีไหล่ทางกลางดึก แล้วจุดที่น่าจะมีที่ให้จอดได้ยังต้องไปอีกหลายกม.ด้วยนะ
โคตรทรมาณ
อีกสถานการณ์ ขับรถกลางแดด รถติดๆขยับทีละนิดแต่ไม่มีที่ให้จอดเช่นบนทางด่วน ง่วงก็ง่วงแต่จอดไม่ได้
โคตรทรมาณ
-
อยากรูัเหมือนกันครับกลางวันนอนยังไง เปิดแอร์ไหม
-
จอดปั้มน้ำมันแล้วนอนสักพัก
เห็นด้วยครับ เพราะหลายๆคน กาแฟไม่ช่วยให้ดีขึ้นเลยครับบิ๊กกัฟเต็มแก้วน้ำแข็งเยอะๆ สดชื่น ไอพวกเครื่องดื่มชูกำลัง ใจสั่นไปอีก แต่กาแฟขอพวกเย็น แค่นี้สบายครับ
บรรยายไดสดชื่นมากครับ บิ๊กกัฟเต็มแก้วบวกน้ำแข็งคงซ่าน่าดู กระทิง หรือกระบือนี่ทำให้ใจสั่นแต่ไม่หายง่วงเลยนะครับ
-
เปิดหนังดูขับช้าๆในกรณีที่พอเริ่มหนักตา แต่ถ้าได้วูบสักครั้งแล้ว
ต้องเข้าปั๊มนอนหรือพักรถในทันที ที่บอกคือเคยฝืนแล้ว ไม่รอดจริงๆ
อย่าให้มันเกิดขึ้นเลย วันนี้มันแค่เสาต้นเล็กข้างทาง แต่ถ้ามันเป็นคนนี่เราจะรู้สึกยังไง
-
ผมขับทางไกลประจำครับ ทั้งกลางวันและกลางคืน
หากรู้สึกง่วง มันอันตรายมากเลยครับ บางทีก็วูบๆไปไม่รู้ตัว
ถ้าง่วงเมื่อไหร่ จะหาจุดจอดงีบอย่างน้อย 10-20 นาที แล้วค่อยหาเครื่องดื่มชูกำลัง+ล้างหน้าไปต่อ
ถ้าง่วงมาก จะนอนสัก 30-40 นาที ตื่นมาจะหาอะไรเคี้ยว+เครื่องดื่มชูกำลัง+แบรนด์ แล้วไปต่อ
ยิ่งรู้ว่าจำเป็นต้องเดินทางไกล ผมจะวางแผนเวลาและเส้นทางให้ขับไปแล้วมีจุดจอดพักเสมอๆ + หาอะไรกินให้ท้องไม่ว่างก่อนเดินทาง เพราะถ้าท้องว่างจะรู้สึกไม่มีแรง ไม่มีสมาธิขับรถ ถ้าอิ่มเกินหนังตาก็จะหย่อน อยากนอน
**อาหารที่กินก่อนและระหว่างเดินทาง จะงดแป้งครับ พวกขนมปัง คุ้กกี้ เนื่องจากกินแล้วทำให้ง่วง และอ้วนด้วย ดังนั้นผมจะพยายามกินเนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ แทน
มีอีกวิธีครับ ไม่ได้ขายตรงนะ แต่จะกิน Amway ที่เป็นผงๆผสมกินกับน้ำ (กินของที่บ้านครับ คนขายจัดชุดมา ผมไม่รู้ว่ามันเรียกอะไรบ้าง) อันนี้ขับรถไกลๆไม่ง่วงไม่เพลีย หลังๆก่อนเดินทางไกลจะพกชุดนี้ติดตัวไปเสมอครับ
ปล.จะเห็นว่าผมไม่กินกาแฟเลย เนื่องจากเป็นคนที่กินกาแฟแล้วร่างกายรวน ปวดท้อง แถมยังไม่แก้ง่วงอีกด้วย
-
นอนพักสักนิดก็ดีขึ้นแล้วครับ
ผมจะทานกาแฟดำครับ
และเคี้ยวหมากฝรั่ง ช่วยในยามที่ต้องขับเพื่อทำเวลาจริงๆ กลางวันถึง 6 ทุ่ม ผมขับได้ไม่ง่วงเลย แต่ช่วงตี 2-4 เป็นเวลาที่ มักจะง่วงมากๆ ต้อง งนอนพักครับ แต่ถ้าจะเดินทางไกลจริงๆ อบบว่าระยะทาง 500 กม ขึ้นไป คืนก่อนเดินทางต้องนอนแต่หัววันให้ร่างกายได้พักเต็มที่ ตอนขับจะสบายไม่ง่วงและเหนื่อยมาก เราพลาดไม่ได้ครับคนในครอบครัวเต็มคัน ต้องวางแผนให้ปลอดภัย มักง่ายไม่ได้ครับ พลาดครั้งเดียวอะไรจะเกิดขึ้นครับ คำว่าเสียใจคงไม่พอ .... เดินทางปบอดภัยทุกท่านครับ
-
นอนพักสัก 15 นาทีแล้วไปต่อครับ
ของผมส่วนใหญ่จะง่วงต่อเมื่อขับรถเกิน 2 ชมขึ้นไปหรือหลังจากกินข้าวเสร็จช่วงบ่ายๆนี่ตัวดีเลยต้องระวัง
บางทีระหว่างทางไม่มีปั้มน้ำมันเลยเป็นทางเปลี่ยวก็ต้องทนช่วงหลังๆมานี้ถ้าผมจะซื้อรถคงมองหารถที่มีพวก Safety sense เข้ามาช่วยครับ
-
ปกติเวลาเดินทางไกลผมมีคนที่ขับรถเป็นนั่งไปด้วยเสมอฮะ ไม่เพื่อนก้คุณพ่อ
เคยมีอยู่ครั้งนึงไปตจวกับเพื่อนละผมง่วง ก้ให้เพื่อนมาขับให้แทนฮะ
ดื่มกาแฟแล้งแต่รู้สึกเหมือนเพลียแดดด้วยเลยเปลี่ยนคนขับดีกว่า
ไม่อยากให้ใครมาฝากชีวิตตอนสภาพร่ายกายเราไม่พร้อม :D
-
ถ้าผมง่วงมาก ผมหาที่จอดที่เป็นร้านอาหารร้านของฝากให้เพื่อน/แฟนอยู่พักทานขนมอาหาร ส่วนผมก็สัปงกคาโต๊ะ/คาเก้าอี้รอไป..... ตื่นมาก็กาแฟกระป๋องนึงแล้วเดินทางต่อ
-
ถ้าง่วงมากผมไม่ฝืนเลยนะ พักรถหรือแอบงีบเลย บางที20-30นาทีช่วยได้เยอะมากแล้วไปล้างหน้า
แต่ถ้ารู้สึกว่าเริ่มมีเพลียๆหรือง่วงหน่อยๆ ก็อัดพวกM150เลย
-
เคยจอดนอน พอจอด นอนไม่หลับ กินกาแฟก็ไม่หาย
วิธีที่ผมใช้ อาจจะเป็นอันตรายบ้าง แต่คิดว่าไม่มากนัก ผมจะเลือกรถที่ดูวิ่งแรง เร็ว แล้วกดตามว่าความเร็วเขาอยู่ที่เท่าไร ส่วนใหญ่ใช้เวลาไม่เกิน สิบวินาที แล้วก็ผ่อน ช่วงนี้ อดินาลีนจะหลั่ง หัวใจเต้นเร็ว แล้วกลับมาวิ่งร้อยตามปกติ แบบนี้จะอยู่ได้เกินกว่าชั่วโมงกว่าจะง่วงอีกที.
ปล. ผมขับจากอุดร- กทม. โดยไม่พักเลย ยกเว้นเติมแก๊สครั้งเดียว เติมเสร็จฉี่เสร็จก็ออกเลย..
-
หาที่จอดนอนครับ
กาแฟ เครื่องดื่มต่างๆเอาไม่อยู่ครับ ขับเร็วช่วยได้บ้างถ้าไม่ง่วงมาก
ผมเคยหลับในมาแล้ว ไม่เอาอีกแล้วครับ เข็ดไปจนตายครับ
-
ขับเกียร์ธรรมดาครับ
-
สมัยก่อน เคี้ยวหมากฝรัางลอตเต้แบล็คแบล็ค เย็นจี๊ดขึ้นจมูก ตอนนี้ไม่มีขายแล้ว
ตอนนี้กินซุปไก่แบรนด์บ้าง เป็นคนไม่กินเครื่องดื่มชูกำลังและกาแฟ
ผมชอบขับรถทางไกลแบบข้ามภาคตอนกลางคืนครับ รถน้อยขับสบายดี
-
ข้อ1 แต่พอจอดปั้มจะปลุกเพื่อนให้เมาท์เรื่องอะไรก็ได้ให้ฟัง ไม่ก็ให้ร้องเพลง
-
ปกติ ง่วงจนจะหลับใน สำหรับผม จะเกิดตอนเดินทางกลางคืน ยัน เช้า ช่วงใกล้เช้า สัก ตี 3 เป็นต้นไป จะง่วงมาก แบบนี้ ยังไงก็ต้องจอดนอน เพราะพร้อมจะหลับในตลอด
แต่ถ้ากลางวัน ผมไม่มีปัญหานะ เต็มที่ จอดยืดเส้น ยืดสาย ล้างหน้า จิบกาแฟ / กระทิงแดง ก็ไปได้ไม่ต่ำกว่า 2 ช.ม.แล้วล่ะ
แสดงว่าคุณพี่นี่สุขภาพร่างกายและสายตาดีมากครับ เพราะว่าขับรถช่วงกลางคืนนี้สามารถทนได้ถึงตี3 และช่วงกลางวันสำหรับบางคนนั้นมีสาเหตุจากการที่ดวงตาแพ้แสง หรืออาการสายตาเอียงหรือเขจนทำให้ง่วงครับ นอกจากนี้ก็พวกป่วยเป็นไซนัสภูมิแพ้อากาศที่ทำให้ง่วงตลอดเวลา เหมือนคนนอนน้อย สำหรับคุณพี่ยืดเส้นสายท่านเครื่องดื่มบำรุงนี้เหมือนชาร์จไฟกลับไปใหม่
สายตาผมนี่ครบเลยนะครับ
แต่ก่อน สั้น กับ เอียง ... พออายุแตะเลข 4 ก็แถมยาวมาอีก 1 ครับ
เมื่อเช้า ออกจาก สิชล จ.นครศรีธรรมราช มาตอนตี 5 วิ่งมายาวๆ จอดเติมน้ำมัน 1 ครั้ง เข้าห้องน้ำ 2 ครั้ง ซื้อแค่กาแฟแก้วนึง ขนมปังชิ้นนึง
สักบ่ายครึ่ง เลี้ยวเข้าพระราม 2 เริ่มหิว ควานหาข้าวเกรียบของฝาก แกะกินก่อน
สักพัก เริ่มเมื่อยหลัง เริ่มเพลียผิดปกติ ทีแรกกะว่า จะรอขึ้นวงแหวน ต่อบูรพาวิถี ไปลง บ้านโพธิ์ก่อน ค่อยแวะปั๊มประจำ แต่ดูแล้ว อันตราย เลยแวะ ปั๊มแถวสมุทรสงคราม จัดเครื่องดื่มชูกำลัง กับ hotdog สักชิ้น แล้วยืนกระโดดโลดเต้นอยู่ข้างรถ
แล้วก็ไปต่อ พอลงวงแหวน เหมือน ที่กินไป เริ่มออกฤทธิ์ อาการดีขึ้น เลยยาวมายันปราจีนได้ครับ
-
จริงๆอยากกดอีกหัวข้อ เเต่มันไม่มี คือการให้คนอื่นขับครับ เเต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีคนนั่งไปด้วยสิครับ
เเต่ถ้าเอาส่วนตัวผมนะ การให้คนที่ไม่ง่วงขับให้ มันวินวินนะ อย่างเช่นสมมุติ พัทยา กลับ กรุงเทพ ทุกคนเหนื่อยกันหมด คนที่ดูจะเหนื่อยน้อยสุด ให้ขับไปครึ่งทาง เเล้วให้ที่เหลือหลับ
เมื่อคนขับคนเเรกรู้สึกล้า ก็เเวะปั๊ม เปลี่ยนคนขับครับ ผลัดกัน เเล้วคนขับคนเเรกก็ไปพัก อีกคนมาขับ วางแผนก่อนออกเดินทางก็ดีครับ ปลอดภัยที่สุด ที่สำคัญ ไม่ฝืนร่างกายครับ ไม่ไหวคือไม่ไหว
สงกรานต์นี้ ขับขี่ปลอดภัยกันนะครับทุกคน อิอิ ;D
-
ผมนอนครับ
ล่าสุดไปเชียงราย (เวียงป่าเป้า) ออกจากกรุงเทพสองทุ่ม ใช้เส้นลำปาง ตัดเข้าแจ้ห่ม(เส้น 1035) วังเหนือ แล้วออกแม่ขะจาน ระยะทาง 770 กม.
ถ้าเป็นเมื่อก่อนหนุ่มยี่สิบปลายๆ คงหวดรวดเดียวมาจอดพักที่หน้าขนส่งลำปาง แล้วถึง วปป. ตั้งแต่หกโมงเช้า
แต่พออายุใกล้หลักสี่ ง่วงครับ ต้องจอดแวะพักหลายที่
เช่น
1. ปตท.เถิน เข้าห้องน้ำล้างน้ำ ทำธุระ เข้า 7-11 ซี้อกาแฟกระป๋องกับผ้าเช็ดหน้าและน้ำเปล่า
บิดขี้เกียจแล้วไปต่อ
2. ปตท.แม่พริก เข้าห้องน้ำ ล้างหน้า
3. จอดเติมน้ำมันที่ ปตท. หน้าขนส่งลำปาง เข้าห้องน้ำ ทำธุระ ล้างหน้าล้างตา
4 .เส้นแจ้ห่ม ช่วงนั้นหกโมงกว่า ไม่ไหวแล้วครับ LDW เตือนจนหน้าจอบอกให้พักได้แล้ว
เลยตัดสินใจเข้าปั้ม PT เขียว แล้วจอดนอนชั่วโมงนึง ตื่นมาก็ล้างหน้าล้างตา เข้าห้องน้ำ ค่อยไปต่อ
กว่าจะถึง วปป.ได้ ล่อไปเกือบเก้าโมงเช้า ในชีวิตไม่เคยขับรถถึงช้าขนาดนี้มาก่อน
แต่ทำไงได้ ร่างกายไม่เหมือนหนุ่มๆแล้วครับ
-
จอดพักละครับ ไม่ฝืน ต้องดูสภาพร่างกายเราด้วย ถ้ามเื่อก่อนตอนวัยรุ่นสบาย อัดยาวๆได้ทั้งคืน ตอนนี้แตะเลข 4 แล้ว ได้แค่ไหนแค่นั้นครับ
ง่วงก็พักครับ ตอนขับแล้วง่วงมากๆมันทรมานครับ พร้อมจะวูบได้ตลอดเวลา และหลีกเลี่ยงการขับช่วงเที่ยงคืน-เช้าครับ
และสำคัญสุดๆ จะไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล ถ้ารู้ว่าจะต้องเดินทางไกลหรือขับรถ
-
ต้องจอดครับ จะงีบหรือไม่ก็ได้ แต่ต้องพักครับ ไม่งั้นฝืนไป อันตรายครับ
-
ถ้าไปคนเดียว ง่วงก็จอดรถนอนที่ปั๊มน้ำมัน
ถ้าไป2คนขึ้นไปและมีคนขับรถเป็นก็สลับกันขับ
-
สิ่งสำคัญ นอนหลับให้เพียงพอ อย่างน้อย 6 ชั่วโมง
ง่วงๆ จอดนอนพัก สัก 30 นาที ตื่นมา ล้างหน้า ซื้อนมกาแฟสักกล่อง หรือ ซุปไก่แบรนด์ ไปต่อได้ครับ
-
ผมขับรถกลางคืนบ่อย เดินทางออกต่างจังหวัดทุกๆ 2 อาทิตย์ ไปหาลูก ระยะยาง 550 กิโลเมตร(ไปกลับพันกว่า)
วันศุกร์เลิกงาน ก็กลับไปนอน ตั้งแต่ประมาณ 3 ทุ่ม ถึง ตี 1 - ตี 2 ก็ตื่นมา ได้นอนสัก 4-5 ชั่วโมง อาบน้ำหน่อยร่างกายกระปี้กระเป่าละ แล้วก็ออกจากกรุงเทพฯ ถึงปลายทางก็ เช้าๆ กินข้าวเช้าพอดี
การ ง่วงนอน = อยากนอนหลับ เพลีย เมื่อยล้า => ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็ต้อง "นอน" ครับ
ตัวเองรู้ตัวดี คนที่หลับใน ไม่ใช่ไม่รู้ตัวว่าง่วงนะ แต่ "ฝืน!!!!" ต่างหาก
ส่วนตัวมองว่า ฝืนไป ทนไป อาจจะเสียใจภายหลัง ได้ไม่คุ้มเสีย ถึงเป้าหมายเร็วขึ้นก็จริง แต่ความเสี่ยงก็มากเช่นกัน ไม่ใช่เสี่ยงเฉพาะกับตัวเองนะ ทั้งเพื่อร่วมทาง และ คนใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย(บางทีวิ่งเข้าบ้านเรือน supermarket ก็มี ซึ่งไม่ใช่คนใช้ถนนด้วยซ้ำ) และไหนจะคนที่อยู่ข้างหลังที่ต้องรับผิดชอบและเสาหลักอีก ไม่คุ้มเสี่ยงเลย
ปล.ผมเห็นบางคนบอกว่า การขับช้าแล้วง่วง จึงต้องขับเร็ว เป็นความคิดที่ผิดมหันต์เลย ทั้งหลักการก็ไม่ใช่ละ และยังมองว่าเป็นเหตุผลที่เป็นข้ออ้างมากกว่านี้ ผมว่ามันไม่ใช่เลย