Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: sixmund35 ที่ มิถุนายน 01, 2019, 11:24:23

หัวข้อ: รถ EV สะอาดกว่าจริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: sixmund35 ที่ มิถุนายน 01, 2019, 11:24:23
ผมเป็นคนหนึ่งที่สนใจซื้อรถที่เน้นรักษ์โลกมาตลอดครับ โดยเฉพาะตอนนี้ที่กำลังเริ่มมาแรงคือรถ EV ก็เลยอยากศึกษาก่อนซักหน่อย คนส่วนใหญ่มีความเชื่อว่ารถ EV นั้นสะอาด ไม่ปล่อยสารพิษเลย ซึ่งผมก็คิดอย่างนั้น

แต่เมื่อลองไปนั่งคิดเอง + ค้นตามอินเตอร์เนตเพิ่มเติมก็มีข้อกังวลอยู่ประมาณนี้ครับ

1. รถไฟฟ้า ไม่ปล่อยไอเสียจริง แต่แหล่งกำเนิดไฟฟ้าบ้านเรานั้น เกือบทั้งหมดมาจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ดังนั้นคือที่จริงแล้ว มันก็เหมือนแค่เราเปลี่ยนที่ทำลายโลกรึเปล่าครับ
2. กระบวนการในการผลิตรถไฟฟ้า เน้นโดยเฉพาะแบตเตอรี่ ก่อสารพิษและสารที่ทำลายชั้นบรรยากาศสูงมาก และกระบวนการทำลายแบตเตอรี่ก็เช่นกัน

เลยมีความคิดว่า ถ้ารถไฟฟ้ามันไม่ได้สะอาดขนาดนั้น มันอาจจะดีกว่ามั้ยถ้าผมเลือกไปเติมน้ำมันอย่าง e85 เพราะเอทานอลนั้นพิสูจน์แล้วว่าเผาไหม้สะอาดมาก และราคารถจับต้องได้มากกว่า
หัวข้อ: Re: รถ EV สะอาดกว่าจริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: ภูมิใจไหม? ที่ มิถุนายน 01, 2019, 11:33:58
ผมคิดว่า มลพิษจากโรงงานนั้นควบคุมได้

แต่ไอเสียจากรถทุกคันบนท้องถนนนั้นคุมอะไร หรือกรองอะไรไม่ได้เลยครับ

ลองจินตนาการถึง กทม ที่ไม่มีรถเครื่องสันดาปเลย ทั้งมอไซและรถยนต์

เราก็จะสามารถกินอาหารข้างทางได้สนิทปากมากขึ้นครับ 555
หัวข้อ: Re: รถ EV สะอาดกว่าจริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: porasit33 ที่ มิถุนายน 01, 2019, 11:38:54
ถ้าเปรียบไอเสีย เหมือนคนสูบบุหรี่
ถ้าสูปในที่ให้สูบ
กับสูบตามท้องถนน

มลพิษที่ว่านี้อาจเกิดเท่ากัน แต่ผลกระทบมันคงต่างกัน
คิดแบบนี้ได้มั้ยครับ 55
หัวข้อ: Re: รถ EV สะอาดกว่าจริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: O_o" ที่ มิถุนายน 01, 2019, 11:45:22
น้ำมันเชื้อเพลิง ก็ไม่ต่างกันครับ กว่าจะกลั่นออกมาได้ ก็สร้างมลพิษ​ไม่น้อยเหมือนกัน

หลายสิ่งหลายอย่างมีที่มาที่ไป กว่าจะได้มามันผ่านขั้นตอน​ กระบวนการ​หลายอย่าง
หัวข้อ: Re: รถ EV สะอาดกว่าจริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: sixmund35 ที่ มิถุนายน 01, 2019, 11:59:44
ผมคิดว่า มลพิษจากโรงงานนั้นควบคุมได้

แต่ไอเสียจากรถทุกคันบนท้องถนนนั้นคุมอะไร หรือกรองอะไรไม่ได้เลยครับ

ลองจินตนาการถึง กทม ที่ไม่มีรถเครื่องสันดาปเลย ทั้งมอไซและรถยนต์

เราก็จะสามารถกินอาหารข้างทางได้สนิทปากมากขึ้นครับ 555
ถ้าเปรียบไอเสีย เหมือนคนสูบบุหรี่
ถ้าสูปในที่ให้สูบ
กับสูบตามท้องถนน

มลพิษที่ว่านี้อาจเกิดเท่ากัน แต่ผลกระทบมันคงต่างกัน
คิดแบบนี้ได้มั้ยครับ 55

ถ้าพูดถึงใน กทม ก็เข้าใจครับ ว่าอากาศมันในเมืองมันควรจะสะอาดขึ้น แต่ผมมองในภาพรวมทั้งโลกเลยน่ะครับ ซึ่งแค่ถ้าเปลี่ยนที่ปล่อยสารพิษ สำหรับผมมันก็ดีขึ้นแต่ก็น้อยมากเมื่อเทียบกับเงินที่ต้องจ่ายมากขึ้น สู้เอาไปบริจาคองค์กรปลูกป่า หรือปลูกป่าซะเองอาจจะยังคุ้มกว่า

น้ำมันเชื้อเพลิง ก็ไม่ต่างกันครับ กว่าจะกลั่นออกมาได้ ก็สร้างมลพิษ​ไม่น้อยเหมือนกัน

หลายสิ่งหลายอย่างมีที่มาที่ไป กว่าจะได้มามันผ่านขั้นตอน​ กระบวนการ​หลายอย่าง

นั่นแหละครับ ผมจึงกำลังคิดว่าถ้าใช้น้ำมันประเภท e85 ก็คือเหมือนผมลดการกลั่นน้ำมันลงทันที และการเผาไหม้ก็สะอาดขึ้นด้วยครับ
หัวข้อ: Re: รถ EV สะอาดกว่าจริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: I_AM_IM ที่ มิถุนายน 01, 2019, 12:27:03
ย้ายโรงงานไปที่อื่น เหมือนผลักภาระไปที่อื่นชีวิตคนกรุงสำคัญสุด ที่อื่นช่างแม่งเหรอครับ
หัวข้อ: Re: รถ EV สะอาดกว่าจริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: koko86 ที่ มิถุนายน 01, 2019, 13:11:20
สำหรับเมืองไทยอาจไม่ค่อยเห็นผลโดยรวมในแง่ของมลพิษทั้งประเทศ เพราะพพลังงานไฟฟ้าของไทย เกือบ85%มาจากฟอสซิล และถ่านหิน อ้างอิงจาก  https://workpointnews.com/2018/08/07/ไฟฟ้าไทยมาจากไหน/

แต่ต่างประเทศที่มีวิชั่น และให้ความสำคัญกับมลพิษทางอากาศมากๆอย่างนอร์เวย์นั้น พลังงานจากฟอสซิล เค้าใช้แค่2-3%เท่านั้นเอง https://en.m.wikipedia.org/wiki/Electricity_sector_in_Norway

ดังนั้นประเทศเค้าจึงสนับสนุนให้รถไฟฟ้าเกิดเต็มที่ น่าจะเป็นประเทศแรกในโลกที่ยอดขายรถไฟฟ้าแซงรถน้ำมันไปแล้ว

ดังนั้นถ้าถามว่าโดยรวมทั้งโลกทำให้มลพิษ ทางอากาศดีขึ้นไหม ผมว่าดีขึ้นแน่ๆ เพราะประเทศที่พัฒนาแล้ว ต่างพยายามลดการสร้างพลังงานไฟฟ้าจากฟอสซิลกันไปมาก
แต่ข่าวร้ายคือเมืองไทยยังไม่มีแผนการชัดเจนในแง่ของการใช้พลังงานทดแทนเลย

แต่คิดว่ารถไฟฟ้าถ้าใช้แพร่หลายไม่ว่าที่ไหนในโลกก็จะส่งผลในแง่ลดมลพิษทางอากาศแน่นอนเพราะ
1. การผลิตและการทำลายมีมลพิษก็จริง แต่แบตลูกนึงใช้ได้10ปี หรือหลายแสนกิโลในเทสล่า
2. มลพิษที่เข้มข้นและหนาแน่นมากๆในเมือง มีความสัมพันธ์โดยตรงกับโรคต่างไเช่นมะเร็ง นอกจากนี้มีผลในเรื่องความร้อนด้วย
3. การผลิตไฟฟ้าที่ใดที่หนึ่ง ย่อมควบคุมมลพิษได้ง่ายกว่ารถหลายล้านคันที่คุมไม่ได้ ลองนึกภาพ สิบล้อ กระบะควันดำ
4. ถ้าอนาคต รัฐบาลเปลี่ยนมาใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น ย่อมเห็นทางออกในการลดมลพิษได้มากขึ้นถ้าคนส่วนใหญ่มาใช้รถไฟฟ้าแล้ว ดีกว่าสนับสนุนภายหลัง

ปัจจุบันนี้ โลกเราร้อนขึ้น มีการวิเคราะห์ว่าถ้าอุณหภูมิโลกสูงขึ้น เกิน2-3องศา ปะการังจะตายหมดซึ่งอาจจะมีผลต่อจำนวนปลาในทะเลและอาหารของเรา น้ำทะเลในโลกจะสูงขึ้นอีกหลายเมตร แผ่นดินจะหายไปอีกมาก รวมถึงกรุงเทพเมืองหลวงของไทยด้วย

จึงมีข้อตกลงปารีส ว่าจะป้องกันเรื่องนี้โดยไม่ให้อุณหภูมิโลกสูงเกินอีก1.5 องศา รถไฟฟ้ากับพลังงานทดแทนน่าจะเป็นส่วนนึงที่ช่วยตรงนี้ได้

ส่วนตัวถ้าที่คอนโด ติดpower chargeได้ ผมคงถอยaudi etron แน่นอน ไม่ใช่เพราะแค่แรงและเงียบ แต่เป็นเรื่องมลพิษและความร้อน ที่คิดว่าใน กทม ทุกวันนี้มันเยอะเกินไปมากๆแล้ว

หัวข้อ: Re: รถ EV สะอาดกว่าจริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: Weetting ที่ มิถุนายน 01, 2019, 13:17:46
ลองอ่านตรงนี้ครับ    แต่ศัพท์เฉพาะทางค่อนข้างเยอะครับ

https://pubs.acs.org/doi/full/10.1021/acs.est.6b00177 .



ถ้าไม่มีเงินซื้อพวกรถไฟฟ้าก็ขับรถประหยัด  ลดใช้พลังงาน    เวลาไปซื้อของหน้าหมู่บ้านก็ลอง   เดิน  ปั่นจักรยาน 
ผลิตไฟฟ้า  ผลิตน้ำมัน  ผลิตแบต  ทำให้โลกร้อนทั้งนั้นครับ 

เอารอบๆตัวผมนะ   เวลาจะไปสยาม บอกให้นั่งรถไฟฟ้าก็บอกว่าแพง   ขับรถไปประหยัดกว่า     

สิ่งแวดล้อมคนไทยส่วนใหญ่ไม่เห็นความสำคัญหรอกครับ  มันเรื่องไกลตัวและสังคมเราไม่เน้นให้คนคิดถึงสาธารณะครับ   คิดแต่เรื่องส่วนบุคคล     :-\ :-\   



หัวข้อ: Re: รถ EV สะอาดกว่าจริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: dht_tubes ที่ มิถุนายน 01, 2019, 13:30:27
ก็คงต้องรอดูกันยาวๆครับ เพราะลำพัง ณ ปัจจุบัน การใช้งานรถของบ้านเรา ก็แทบจะไม่ตรงตามมาตรฐานที่ควรเป็นอยู่แล้ว ส่วนตัวผมไม่มองไกลขนาดนั้น

เอาแค่ รณรงศ์ให้ผู้ใช้รถ ดูแลรถตัวเอง ไม่สร้างมลพิษเพิ่ม โละรถที่เกินอายุมากๆ ยังไม่สามารถทำได้ เพราะมันมีเงื่อนไขต่างๆ ทั้งจำเป็นจริงๆ เพราะเมืองไทย คนหมู่มากกว่า 80-90% รายได้ไม่สูงพอ ไม่สามารถดูแลรถยนต์ให้อยู่ในสภาพที่ดีตามมาตรฐานได้ด้วยซ้ำไป

ไม่นับรวมพวกที่แต่งตามความพอใจ เพิ่มมลพิษต่างๆ โดยไม่สนใจส่วนรวมซึ่งเรื่องนี้เป็นประเด็นถกเถียง สร้างดราม่า สารพัดมานักต่อนัก ก็ยังไม่สามารถหาเหตุผล มาสร้างแรงจูงใจ ให้คนที่ไม่เห็นความสำคัญเปลี่ยนใจได้เลยด้วยซ้ำไป

ดังนั้น อะไรที่ทำได้ จะปลายเหตุ ต้นเหตุ ผมว่าก็ต้องเริ่มทำ จะรอสมบูรณ์แบบ คงไม่มีทางถึงวันนั้นได้

คนเรา ไม่ใช้รถ เราก็ปล่อยของเสียสู้โลกใบนี้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ผมว่าอะไรที่ทำได้ เริ่มได้ที่ตัวเรา ทำตรงนั้นก่อนดีที่สุดครับ
หัวข้อ: Re: รถ EV สะอาดกว่าจริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: baipai ที่ มิถุนายน 01, 2019, 14:30:12
การจัดการมลพิษ ประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง รวมถึงต้นทุนเชื้อเพลิง ของโรงไฟฟ้า สูงกว่าเครื่องยนต์ของรถแต่ละคันมากครับ ไม่นับการที่ปัจจุบันมีแนวโน้มของพลังงานไฟฟ้าสะอาดมากขึ้นเรื่อยๆ
ดังนั้นในแง่ของการลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล EV ทำได้แน่นอน

ส่วนเรื่องการผลิต กำจัดแบตเตอรี่ คิดว่าในอนาคตคงมีเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ เพื่อลดผลกระทบส่วนนี้
หัวข้อ: Re: รถ EV สะอาดกว่าจริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: rapee001 ที่ มิถุนายน 01, 2019, 14:55:58
ev เบื้องหน้าสะอาดกว่าเพราะไม่ปล่อยไอเสียต่อหน้า

แต่การเตรียมการผลิตและกำจัดซากนั้นสกปรกกว่าเพราะสารพิษโลหะหนักจากการผลิตและกำจัดแบต

ส่วนเรื่องแหล่งต้นกำเนิดพลังงานไฟฟ้านั้นขึ้นอยู่กับการจัดการในแต่ละประเทศ
หัวข้อ: Re: รถ EV สะอาดกว่าจริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: Jacob ที่ มิถุนายน 01, 2019, 15:32:25
เรื่องการผลิตไฟฟ้ามันพัฒนาไปใช้พลังงานสะอาดได้ ถ้าดูคลิปเทสล่า เค้าไม่ใช่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเดียว แต่ยังคิดค้นอะไรหลายอย่าง แม้แต่หลังคาโซล่าเซล์ที่เหมือนกระเบื้องที่ใช้กันทั่วไป เป็นต้น
น้ำมันใช้แล้วหมดไป ถึงจะมีเอธานอลมาใส่ก็ยังต้องใช้น้ำมัน มลฟิษก็ไม่ใช่แค่ก๊าซอย่างเดียว ยังหมายถึงฝุ่น กลิ่น เสียง ...
การกำจัดแบตที่ได้มาตรฐาน มีการควบคุมตรวจสอบที่ดี ผมว่าทำได้ และง่ายกว่า ต่างจากรถทุกวันนี้ที่ผลิตให้ลดมลพิษคนเอาไปแปลงกันหมด ไปอุด ไปทะลวง แค่นี้ก็รู้แล้วว่าคุมไม่ได้

แต่กว่าจะถึงยุครถไฟฟ้าคงอีกนาน เราก็คงต้องช่วยกันหาทางประหยัดพลังงาน ลดการใช้รถโดยไม่จำเป็น พัฒนาระบบขนส่งมวลชนไปด้วย 

โดยส่วนตัวผมมองว่ารถไฟฟ้ามันสะอาดกว่าอยู่ดี ประเทศที่เค้าพัฒนาแล้วเค้าคงคิดอย่างรอบคอบถึงให้มีนโยบายเลิกใช้รถยนต์สันดาป

สรุป ในอนาคต คงไม่ใช้ไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าอย่างเดียว แต่ควรมีการพัฒนาให้แต่ละบ้านผลิตกระแสไฟฟ้าใช้เองได้ เช่น จากพลังงานแสงอาทิตย์ ถ้าคนในสังคมช่วยกัน สิ่งแวดล้อมก็น่าอยู่เอง พอมลพิษลดลง คนก็อยากหันมาใช้จักรยานกันมากขึ้น ทุกวันนี้อยากปั่นแต่ต้องไปปั่นนอกเมือง ไม่ก็ปั่นแต่ในฟิตเนส :'(

ปล. การปลูกต้นไม้ไม่ได้แปลว่าจะลดมลพิษได้เสมอไป เพราะฝุ่นก็เกิดจากไฟป่านะ แล้วชุมชนเมืองก็ปลูกป่าไม่ได้อีก (จริงๆหญ้าต่างหากที่ช่วยลดอากาศเสียได้ดีกว่า) ส่วนการจะป้องกันไฟป่าก็ยาก ต้องสร้างระบบน้ำ ให้มีความชุ่มชื้นเพียงพอ (ไม่ได้บอกว่าไม่ควรมีป่านะ มีป่าอ่ะดี แต่คงไม่แก้ปัญหามลพิษที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน)
หัวข้อ: Re: รถ EV สะอาดกว่าจริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: sixmund35 ที่ มิถุนายน 01, 2019, 16:12:10
ขอบคุณสำหรับหลายๆคำตอบดีๆครับ :)

หลักๆคือผมอยากหาคำตอบว่า ถ้าเป้าหมายคือต้องการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก คุ้มมั้ยกับการเพิ่มเงินจากการซื้อรถซิตี้คาร์เติม E85 (ซึ่งก็ดีกว่า E10 มากเหมือนกัน) เพื่อไปซื้อรถไฟฟ้า
ยกตัวอย่างใกล้ตัวสุด คือ MG-ZS ตัวธรรมดา 700k ถ้าไปซื้อตัวไฟฟ้า eZS สมมติว่า MG ทำราคาดีสุดเกินคาดที่ 1.1 ล้าน เงิน 400k ที่เราต้องจ่ายเพิ่มไปนั้น มันช่วยได้จริงรึเปล่า และมากน้อยแค่ไหน

ส่วนที่บอกว่าปลูกต้นไม้ไม่ช่วยลดมลพิษเสมอไปนั้น ขอเห็นต่างครับ ต้นไม้คือปอด ทั้งสร้าง O2 และช่วยเก็บคาร์บอนไว้ในรากและดิน ให้ลองดูสิงค์โปร์ที่เป็นประเทศที่ปลูกต้นไม้กลางเมืองอย่างบ้าคลั่ง ผลก็คือ อุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีของสิงค์โปร์ต่ำกว่ากรุงเทพครับ ทั้งที่ประเทศเค้าอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรกว่าเรามาก ส่วนไฟป่านั้น เกินครึ่งเป็นเพราะน้ำมือมนุษย์ ต้นไม้ไม่ได้ผิดอะไร ดังนั้นคือ ถ้าต้นไม้อยู่ปกติของมัน ช่วยได้มากกว่าแน่นอนครับ :)
หัวข้อ: Re: รถ EV สะอาดกว่าจริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: ซิ่งเข้าส้วม ที่ มิถุนายน 01, 2019, 16:30:52
ขอบคุณสำหรับหลายๆคำตอบดีๆครับ :)

หลักๆคือผมอยากหาคำตอบว่า ถ้าเป้าหมายคือต้องการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก คุ้มมั้ยกับการเพิ่มเงินจากการซื้อรถซิตี้คาร์เติม E85 (ซึ่งก็ดีกว่า E10 มากเหมือนกัน) เพื่อไปซื้อรถไฟฟ้า
ยกตัวอย่างใกล้ตัวสุด คือ MG-ZS ตัวธรรมดา 700k ถ้าไปซื้อตัวไฟฟ้า eZS สมมติว่า MG ทำราคาดีสุดเกินคาดที่ 1.1 ล้าน เงิน 400k ที่เราต้องจ่ายเพิ่มไปนั้น มันช่วยได้จริงรึเปล่า และมากน้อยแค่ไหน

ส่วนที่บอกว่าปลูกต้นไม้ไม่ช่วยลดมลพิษเสมอไปนั้น ขอเห็นต่างครับ ต้นไม้คือปอด ทั้งสร้าง O2 และช่วยเก็บคาร์บอนไว้ในรากและดิน ให้ลองดูสิงค์โปร์ที่เป็นประเทศที่ปลูกต้นไม้กลางเมืองอย่างบ้าคลั่ง ผลก็คือ อุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีของสิงค์โปร์ต่ำกว่ากรุงเทพครับ ทั้งที่ประเทศเค้าอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรกว่าเรามาก ส่วนไฟป่านั้น เกินครึ่งเป็นเพราะน้ำมือมนุษย์ ต้นไม้ไม่ได้ผิดอะไร ดังนั้นคือ ถ้าต้นไม้อยู่ปกติของมัน ช่วยได้มากกว่าแน่นอนครับ :)

ในอนาคตรถยนต์ไฟฟ้าจะราคาใกล้เคียงกับรถยนต์สันดาปมากขึ้นครับ ยกตัวอย่างเช่น byd ตอนนนี้ทำรถยนต์ไฟฟ้า ที่วิ่ง 300+ km ในราคาแค่ราวๆ 4-5 แสนได้แล้ว (ราคาขายจริง 2.75 แสน) ซึ่งราคาใกล้เคียงกับ MG3 ดังนั้นในเรื่องความคุ้มค่า เริ่มตอบโจทย์แล้วในประเทศที่ส่งเสริมจริงจัง

ในไทยคาดว่าไม่เกิน 10 ปี ราคาก็จะไปอยู่ตรงจุดนั้นครับ เหลือแค่รอให้ธุรกิจแท่นชาร์จบูม มันก็จะโตได้

ส่วน E85 อย่าไปหวังเลยครับ ถ้าในเมื่อ E20 ยังคุ้มค่ากว่าในแง่ Baht/KM หรือใกล้เคียงกันมากๆ คนก็ไม่เติม E85 ให้เครื่องพังไวครับ เช่นผมเติมแล้ว ตอนเช้าสตาร์ตรถแล้วรถสั่นแหง่กๆ ก็ไม่อยากจะเติมครับ
หัวข้อ: Re: รถ EV สะอาดกว่าจริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: apinui ที่ มิถุนายน 01, 2019, 16:59:36
รถที่พลังงานสะอาดที่สุด อันนี้ผมว่ารถใช้แก็ส อย่าง NGV หรือ LPG เนี่ย สะอาดสุดแล้วละครับ ...

ไม่ต้องมีต้นทุนกำจัดแบ็ตเตอร์รี่ที่จะมีมากจนล้นโลกและกำจัดยาก (ถ้ามีการใช้มากขึ้น) เพราะทุกวันนี้แค่แบ็ตมือถือ หรือ แบ็ตจาก Notebook ที่มีอยู่ทั่วโลกก็กำจัดยากจนเป็นขยะอิเล็กทรอนิคที่ส่งไปทิ้งยังประเทศที่ 3 กันมากมาย ...

ส่วนน้ำมันไม่ว่าจะชนิดไหน ก็รู้ๆกันอยู่ว่าเผาไหม้ออกมาแล้วได้ก๊าซอะไรกันบ้าง
EV ใช้กันเยอะๆ ไฟฟ้าในประเทศไม่พอ ก็ต้องสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มมลภาวะก็เพิ่มขึ้นตาม

ที่เห็นชัดๆก็รถ 10 ล้อที่ติด NGV นี่ล่ะครับ ไม่มีควัณดำให้เห็นเลย ใช่ปะล่ะ ... พลังงานสะอาดที่คนมองข้ามกันไปแล้ว ...
หัวข้อ: Re: รถ EV สะอาดกว่าจริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: Gordon Freeman ที่ มิถุนายน 01, 2019, 17:41:07
ไปๆ มาๆ ผมว่า Fuel Cell จะเป็นอนาคตที่สะอาดมากกว่า EV ปัจจุบันซะอีก
หัวข้อ: Re: รถ EV สะอาดกว่าจริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: lorenzo ที่ มิถุนายน 01, 2019, 18:15:54
ไปๆ มาๆ ผมว่า Fuel Cell จะเป็นอนาคตที่สะอาดมากกว่า EV ปัจจุบันซะอีก

เห็นด้วยนะ

มลพิษจากโรงงานบ้านเราไม่ได้เข้มงวดอะไรขนาดนั้น กลางคืนก็แอบปล่อยควัน ปล่อยน้ำเสียเยอะแยะไป

กระแสรถ EV มันก็แค่เทรนรักตัวเอง ล้วงไส้ดูดีๆ ก็ทำลายโลกไม่แพ้น้ำมันเลย
หัวข้อ: Re: รถ EV สะอาดกว่าจริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: koko86 ที่ มิถุนายน 01, 2019, 19:38:33
ขอบคุณสำหรับหลายๆคำตอบดีๆครับ :)

หลักๆคือผมอยากหาคำตอบว่า ถ้าเป้าหมายคือต้องการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก คุ้มมั้ยกับการเพิ่มเงินจากการซื้อรถซิตี้คาร์เติม E85 (ซึ่งก็ดีกว่า E10 มากเหมือนกัน) เพื่อไปซื้อรถไฟฟ้า
ยกตัวอย่างใกล้ตัวสุด คือ MG-ZS ตัวธรรมดา 700k ถ้าไปซื้อตัวไฟฟ้า eZS สมมติว่า MG ทำราคาดีสุดเกินคาดที่ 1.1 ล้าน เงิน 400k ที่เราต้องจ่ายเพิ่มไปนั้น มันช่วยได้จริงรึเปล่า และมากน้อยแค่ไหน

ส่วนที่บอกว่าปลูกต้นไม้ไม่ช่วยลดมลพิษเสมอไปนั้น ขอเห็นต่างครับ ต้นไม้คือปอด ทั้งสร้าง O2 และช่วยเก็บคาร์บอนไว้ในรากและดิน ให้ลองดูสิงค์โปร์ที่เป็นประเทศที่ปลูกต้นไม้กลางเมืองอย่างบ้าคลั่ง ผลก็คือ อุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีของสิงค์โปร์ต่ำกว่ากรุงเทพครับ ทั้งที่ประเทศเค้าอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรกว่าเรามาก ส่วนไฟป่านั้น เกินครึ่งเป็นเพราะน้ำมือมนุษย์ ต้นไม้ไม่ได้ผิดอะไร ดังนั้นคือ ถ้าต้นไม้อยู่ปกติของมัน ช่วยได้มากกว่าแน่นอนครับ :)

ถ้ามองความคุ้มค่าทางการเงินบวก ลบ คูณ หาร ยังไงก็ไม่คุ้มเลยครับ
คนที่ซื้อ pure ev มาใช้ตอนนี้ต้องบอกเลยว่าใจรักมากๆ

เหตุผลคือ ตัวรถน่ะ ไม่แพง แต่ภาษีแบตเตอรี่น่ะ แพงมากกก
เคยคุยกับหุ้นส่วนคนที่นำเข้า มอเตอร์ไซค์ev จากจีนเข้ามาที่จะลงทุนกับdtacปรากฎว่าภาษีแบตเตอรี่แพงมากถ้าจำไม่ผิดประมาณ60%เลยทำให้รถ ที่สมรรถนะวิ่งเร็วสูงสุด100km/hrประมาณwave  ราคาไปไกลประมาณแสนนึง ซึ่งทำให้ทำตลาดแทบไม่ได้เลย ถ้ารัฐไม่สนับสนุนลดภาษีตรงนี้

ส่วนเรื่องการลดมลพิษ โดยรวมผมว่าคงลดได้บ้างถึงแม้ไทยจะปั่นไฟจากก๊าซธรรมชาติเป็นหลัก เพราะว่า โดยปกติก๊าซธรรมชาติปล่อยมลพิษน้อยอยู่แล้ว และโรงไฟฟ้าต้องเลือกรอบเครื่องปั่นไฟที่ได้พลังงานสูงสุด เทียบกับรถยนต์ทั่วๆไป ที่ถ้ารถติดก็เผาน้ำมันทิ้งแล้ว (เหมือนรถวิ่งทางไกลประหยัดกว่ารถที่วิ่งในเมืองติดๆ)

และEV เป็นรถที่ใช้พลังงานคุ้มค่ามาก เช่นรถติดก็แทบไม่มีพลังงานศูนย์เปล่าเลย มีแค่พลังงงานที่ใช้ปั่นคอมแอร์เท่านั้นเอง เวลถอนคันเร่งก็ชาร์จไฟกลับ ทำให้ใช้พลังงานได้คุ้มค่าและลดมลพิษได้

โดยส่วนตัวผมสนใจรถไฟฟ้า เหมือน จขกท เคยนั่งรถไฮบริดตอนเครื่องไม่ติดรู้สึกว่านี่มันรถในอุดมคติเลย และเคยไปจุฬา ที่มี่มีรถเมลไฟฟ้าวิ่ง เวลาวิ่งผ่านมีแต่เสียงยางกับเสียงลม รู้สึกเป็นมิตรมากๆ ผมเองอยากให้เรืาองอากาศมันดีขึ้น ถ้าคนส่วนใหญ่ใช้รถev อากาศทุกๆวัน จะเหมือน วันอาทิตย์ตอนเช้าครับ

แต่ก็อย่างที่บอก นโยบายรัฐ ถ้าไม่สนับสนุนเลยเกิดยากครับ มันต้องใช้การสนับสนุนที่มากกว่านี้ ผมเองก็เสียดาย
หัวข้อ: Re: รถ EV สะอาดกว่าจริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: Jacob ที่ มิถุนายน 01, 2019, 20:42:36
- สิงคโปร์เป็นเกาะ ไม่ใช่เพราะต้นไม้เยอะเลยอากาศเย็นครับ และอย่าลืมว่าตอนกลางคืนต้นไม้ก็คายก๊าซ CO2
- เรื่องเงินที่แพงกว่าเอาไปทำประโยชน์อย่างอื่นดีมั้ย ก็ดีครับ แต่อย่าลืมว่าถ้าคิดค่าบำรุงรักษาด้วยตลอด 10 ปี รถไฟฟ้าอาจจะประหยัดกว่ารถสันดาป(อาจเพราะเมืองนอกรถไฟฟ้าค่าตัวไม่สูงมากแบบบ้านเรา)   
- ส่วน Fuel cell ก็ใช้แบต และกระบวนการผลิตไฮโดรเจนเหลวแบบไฟฟ้าก็ใช้พลังงานสูงกว่าพลังงานที่ได้จากไฮโดรเจน ต้นทุนการขนส่งอีก คงต้องมาดูกันอีกทีว่าอะไรคุ้มค่า ปลอดภัยกว่า แต่อย่างน้อยรถไฟฟ้าก็ไม่ต้องแบกถัง นน.น้อยก็น่าจะประหยัดกว่า ถ้ารถไฟฟ้ายังเกิดยาก fuel cell แทบไม่ต้องคิด แค่ปัจจุบันก็เห็นอยู่ว่ารถไฟฟ้ามีอนาคตกว่ามาก
หัวข้อ: Re: รถ EV สะอาดกว่าจริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: lay ที่ มิถุนายน 01, 2019, 20:49:45
ส่วน E85 อย่าไปหวังเลยครับ ถ้าในเมื่อ E20 ยังคุ้มค่ากว่าในแง่ Baht/KM หรือใกล้เคียงกันมากๆ คนก็ไม่เติม E85 ให้เครื่องพังไวครับ เช่นผมเติมแล้ว ตอนเช้าสตาร์ตรถแล้วรถสั่นแหง่กๆ ก็ไม่อยากจะเติมครับ

รถแจ๊สผม เติมอี85(มีอี20บ้างบางครั้งที่หาไม่ได้)  ใช้มา4ปีแล้ว(8หมื่นกม.) เครื่องยังนิ่งเงียบ สตาร์ตตอนเช้าหน้าหนาวบนยอดดอย ก้ปกติ(เครื่องเงียบดีมาก)
หัวข้อ: Re: รถ EV สะอาดกว่าจริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: sixmund35 ที่ มิถุนายน 01, 2019, 21:22:49
- สิงคโปร์เป็นเกาะ ไม่ใช่เพราะต้นไม้เยอะเลยอากาศเย็นครับ และอย่าลืมว่าตอนกลางคืนต้นไม้ก็คายก๊าซ CO2

ต่อให้เป็นภูเก็ต สิงคโปร์เฉลี่ยทั้งปีก็เย็นกว่าครับ (อ้างอิงจาก https://www.holiday-weather.com/singapore/averages/#chart-head-temperature (https://www.holiday-weather.com/singapore/averages/#chart-head-temperature) เปรียบเทียบ https://www.holiday-weather.com/phuket/averages/#chart-head-temperature (https://www.holiday-weather.com/phuket/averages/#chart-head-temperature) และ https://www.climatestotravel.com/climate/singapore (https://www.climatestotravel.com/climate/singapore) https://www.climatestotravel.com/climate/thailand/phuket (https://www.climatestotravel.com/climate/thailand/phuket))  และการที่ต้นไม้ปล่อย CO2 ตอนกลางคืน ผมก็ทราบดีเช่นกัน ต้องขอเพิ่มหน่อยว่า ปกติต้นไม้จะคาย CO2 ตอนกลางคืน เป็นราวครึ่งหนึ่งของที่มันรับเข้าไปในตอนกลางวันครับ เนื่องจากมันเอาไปใช้ในกระบวนการสังเคราะห์แสง เค้าถึงรณรงค์ให้ปลูกต้นไม้ไงครับเพราะยังไงมันก็สร้าง O2 มากกว่า CO2 แต่ผมว่าเราควรหยุดถกกันดีกว่าว่าสิงคโปร์จะเย็นเพราะอะไร หรือต้นไม้ดีหรือไม่ เพราะมันดีแน่นอน  : )

ไปๆ มาๆ ผมว่า Fuel Cell จะเป็นอนาคตที่สะอาดมากกว่า EV ปัจจุบันซะอีก
Fuel cell เอามาใช้จริงแบบ mass เลยเนี่ย ไม่ง่ายครับ เท่าที่ดูข้อกังวลในเรื่องความปลอดภัย เพราะถ้ารั่วมา ไฮโดรเจนมันรุนแรงกว่าก๊าซธรรมชาติมากครับ แถมยังมีเรื่องพลังงานที่ใช้ในการแยกน้ำเพื่อสกัดไฮโดรเจนด้วย

รถที่พลังงานสะอาดที่สุด อันนี้ผมว่ารถใช้แก็ส อย่าง NGV หรือ LPG เนี่ย สะอาดสุดแล้วละครับ ...
ผมลืมพวกนี้ไปสนิทเลยครับ 5555 เห็นด้วยครับว่ามันสะอาดกว่าและนำมาใช้ในวงกว้างได้ง่ายมากๆ แต่คนไม่น้อยลงที่ยี้รถติดแก๊สน่ะสิครับ ผมเลยเขวมาทาง E85 หรือ EV มากกว่า
หัวข้อ: Re: รถ EV สะอาดกว่าจริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: Jacob ที่ มิถุนายน 01, 2019, 21:25:43
- ลอง search อุณหภูิมจากกูเกิ้ล ภูเก็ตเย็นกว่าครับ
- O2 ไม่เกี่ยวกับเรื่องความเย็นครับ
- ถ้ากังวลเรื่องร้อน รถสันดาปก็เกิดความร้อนกว่าในการจุดระเบิด
- ส่วนที่รณรงค์ปลูกป่ากันก็เห็นด้วยสำหรับเรื่องอื่น แต่ไม่ใช่การแก้ปัญหามลพิษหลักในปัจจุบันและในชุมชนเมือง
หัวข้อ: Re: รถ EV สะอาดกว่าจริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: Fly to dream ที่ มิถุนายน 01, 2019, 22:06:18
พลังงาน​ไฟฟ้า​ที่มาจากพลังอย่างแสงแดด, ลม ถ้าคนไทยมีปัญญาจ่ายค่าไฟฟ้าหน่วย​ละ 8-12 บาท ก็ทำได้ครับ พลังงาน​สะอาดจริงๆ

แต่ถ้าแค่ค่าไฟขึ้นหน่วยละ 10สตางค์​ แล้วยังบ่นจะเป็น​จะตายก็อยู่​ไปแบบเดิมครับ ฟอสซิล​คือคำตอบ หรือให้ดีจริง​ๆก็นิวเคลียร์​คือที่สุด​แล้ว สำหรับ​ประเทศ​ไทย

ดีกว่าไปเอาความมั่นคง​ของชาติไปผูกกับเพื่อนบ้าน​ รับซื้อก๊าซธรรมชาติ​ หรือโยงสายจากเขื่อนเพื่อน​บ้านมา เกิดทะเลาะ​กันที ประเทศ​เราง่อยนะครับ ไม่ต้องไปมองรถ EV เลย
ถ้าประเทศ​ยังไม่มี​ไฟฟ้ามั่นคง​ รถ EV ก็แค่ของเล่นครับ ยังบังคับหรือผลักดัน​ให้คนใช้เยอะๆไม่ดีแน่ อย่างมากรถ PLUG IN HYBRID นี่แหละคือคำตอบ

เรื่องมลพิษ​ที่เป็​นคาร์บอนน้อยน่ะไม่เถียงหรอกรถ EV น่ะ แต่พวกสารพิษ​จากแบตเตอรี่​นี่แหละ​เรื่อง​ใหญ่​ไม่น้อยไปกว่าคาร์บอน​เลย
หัวข้อ: Re: รถ EV สะอาดกว่าจริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: Koong ที่ มิถุนายน 01, 2019, 22:33:01
    มลพิษทางอากาศก็ส่วนหนึ่ง ที่ EV ได้เปรียบแน่นอน แม้จะใช้ไฟที่ปั่นมาจากโรงไฟฟ้าที่ใช้น้ำมันเป็นเชื่อเพลิง เพราะประสิทธิภาพและการควบคุมมลพิษทางอากาศทำได้ดีกว่าในเครื่องยนต์สันดาปภายใน มีกระจายวิ่งปล่อยไอเสียอยู่ทั่วประเทศ
   
    มลพิษทางเสียง   ลองจินตนาการดูถ้ารถเมล์รุบรรทุก หรือรถซิ่ง เสียงดังๆ ในบ้านเรา เปลี่ยนเป็นใช้ไฟฟ้า คนที่บ้านอยู่ริมถนนคงสบายหูกันมากกว่านี้ เดินอยู่ริมถนน

   มลพิษและขยะที่เกิดในการบำรุงรักษา  เช่นน้ำมันเครื่อง   กรองเชื้อเพลิง กรองอากาศ กรองน้ำมันเครื่อง
ที่ต้องเปลี่ยนถ่านทุก 5000 - 15000 กม
 
   การสึกหรออายุการใช้งานของเครื่องยนต์ เทียบกับมอเตอร์ ก็ต่างกันมหาศาล อาจจะมีชุดคอนโทรลที่ EV อาจจะมีเสื่อมได้เร็วหน่อย
    ความร้อนจากการใช้งานที่ปล่อยออกมา ก็ต่างกันมาก
   
    ข้อเสีย ของ EV ตอนนี้มีแค่ 2 ข้อ คือแพง ซึ่งเชื่อว่าอนาคตจะถูกลงเรื่อยๆ  กับ ขยะแบตเตอรรี่ที่เสื่อสภาพแล้วนั่นแหละ

หัวข้อ: Re: รถ EV สะอาดกว่าจริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: Turin ที่ มิถุนายน 02, 2019, 09:15:38
ตอบข้อ 1 ครับ

เครื่องสันดาปภายใน efficiency สูงสุด 20% (คือใส่น้ำมันที่มีพลังงานศักย์เคมี 100 หน่วย แปลงเป็นพลังงานจลที่หมุนเพลาได้ 20) ซึ่งการใช้งานรถส่วน ใหญ่ ไม่ได้อยู่ที่ทำ efficiency สูงสุด ใช้งานจริงเลขต่ำกว่านี้

ีรถไฟฟ้า efficiency โรงไฟฟ้าถ่านหินประมาณ 40% สายส่ง 88% แบตเตอรี่และมอเตอร์รถ 80% รวมทั้งระบบ 28%

... ถือว่าดีกว่ากันอย่างน้อย (เพราะเครื่องสันดาปภายในใช้จริงบนถนนได้ไม่ถึง 20% แต่โรงไฟฟ้า operate ที่แถวๆ 40% ตลอด) 1.4 เท่าอยู่นะครับ เทียบได้กับเปลี่ยนจากรถ 15 ก.ม./ลิตร มาเป็นรถ 21 ก.ม./ลิตร

ใช้ input น้อยกว่า (โดยทั่วไป) ของเสียก็น้อยกว่าครับ

นี่ยังไม่คิดว่าโรงไฟฟ้ากำจัดมลพิษได้ดีกว่าเครื่องรถยนต์นะครับ
หัวข้อ: Re: รถ EV สะอาดกว่าจริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: Jacob ที่ มิถุนายน 02, 2019, 10:12:53
ผมว่าแบตเตอรี่รถไฟฟ้ามันไม่เหมือนถ่านไฟฉายหรือแบตมือถือ ที่คนจะทิ้งลงถังทำให้ปนกับขยะมูลฝอย เรื่องการกำจัดมันจึงไม่น่าเป็นปัญหาอะไรนักหรอก ยกเว้นเกิดอุบัติเหตุแล้วเศษแบตมันกระจายไปตกในแหล่งน้ำ อันนั้นก็สุดวิสัยละ 
หัวข้อ: Re: รถ EV สะอาดกว่าจริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: Alcatraz ที่ มิถุนายน 02, 2019, 15:26:04
เอาตามจริงไม่หลอกตัวเอง สำหรับผู้บริโภค ไม่มีใครสนใจเรื่องมลพิษสะอาดหรืออะไรหรอก ถ้ามีก็ส่วนน้อยมากๆ เค้าใช้รถ ev เพราะสมรรถนะและความสะดวกสบายมากกว่า อย่างมาเทียบ zs รุ่นธรรมดากับไฟฟ้า คนที่ซื้อรุ่นไฟฟ้าที่มีราคาแพงกว่า ไม่ใช่เพราะมันสะอาดกว่า แต่เป็นเพราะสมรรถนะมันดีกว่า ใครไม่รู้ลองไปขับรถ  ev ดีๆซักคันนึงดู แบบพวก leaf kona ไม่ใช่ไปลอง formm จะรู้ว่ามันให้การขับขี่ที่ต่างจากเครื่องสันดาปปกติ
หัวข้อ: Re: รถ EV สะอาดกว่าจริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: Pegasus7700 ที่ มิถุนายน 02, 2019, 15:28:40
คนที่เลือก EV น่าจะมีส่วนทำให้โลกนี้ดีขึ้น
หัวข้อ: Re: รถ EV สะอาดกว่าจริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: koko86 ที่ มิถุนายน 02, 2019, 16:12:07
ตอบข้อ 1 ครับ

เครื่องสันดาปภายใน efficiency สูงสุด 20% (คือใส่น้ำมันที่มีพลังงานศักย์เคมี 100 หน่วย แปลงเป็นพลังงานจลที่หมุนเพลาได้ 20) ซึ่งการใช้งานรถส่วน ใหญ่ ไม่ได้อยู่ที่ทำ efficiency สูงสุด ใช้งานจริงเลขต่ำกว่านี้

ีรถไฟฟ้า efficiency โรงไฟฟ้าถ่านหินประมาณ 40% สายส่ง 88% แบตเตอรี่และมอเตอร์รถ 80% รวมทั้งระบบ 28%

... ถือว่าดีกว่ากันอย่างน้อย (เพราะเครื่องสันดาปภายในใช้จริงบนถนนได้ไม่ถึง 20% แต่โรงไฟฟ้า operate ที่แถวๆ 40% ตลอด) 1.4 เท่าอยู่นะครับ เทียบได้กับเปลี่ยนจากรถ 15 ก.ม./ลิตร มาเป็นรถ 21 ก.ม./ลิตร

ใช้ input น้อยกว่า (โดยทั่วไป) ของเสียก็น้อยกว่าครับ

นี่ยังไม่คิดว่าโรงไฟฟ้ากำจัดมลพิษได้ดีกว่าเครื่องรถยนต์นะครับ

คุณ turin ข้อมูลแน่นมากครับ ผมเองก็ลืมคิดเรื่อง efficacy ของโรงไฟฟ้าไปเลย ถ้าหากคำณวนตามนี้ ในหน่วยพลังงานเท่ากัน รถไฟฟ้าวิ่งได้ไกลกว่า40% แต่ถ้ารวมเวลาที่รถติดๆ เผาน้ำมันทิ้ง ผมว่ามันมีประสิทธิภาพมากกว่าถึง 50%เลยทีเดียว ซึ่งประสิทธิภาพขนาดนี้ ถ้าคิดรวมทั้งประเทศ จะช่วยลดมลพิษลงอย่างแน่นอน นี่คิดแค่ในกรณีที่สัดส่วนไฟฟ้าได้จากฟอสซิล100%ถ้าเปลี่ยนไปใช้พลังธรรมชาติมากขึ้นน่าจะลดได้มากกว่านี้อีก

ประโยชน์ที่ได้เพิ่มเติมขึ้นมาคือ ลดการนำเข้าน้ำมัน ลดการพึ่งพาจากต่างประเทศซึ่งก็มีผลต่อความมั่นคงด้วย

ตอนนี้เทนรด์รถไฟฟ้า ยังไงมันก็มา ในประเทศมหาอำนาจอย่าง อเมริกา ในจีนเป็นเรื่องปกติแล้ว ถ้ามันมีข้อเสียมากกว่าข้อดี ทางรัฐเขาคงไม่ทุ่มทุนสนับสนุนกันมากมายขนาดนั้นจริงไหมครับ

ยิ่งในบ้านเราช่วงนี้pm2.5 จางๆลงไปอาจจะลืมว่าเรืาองมลพิษนี่นมันใก้ตัวเราขนาดไหน ผมยังจำวันที่ตื่นมาทุกคนต้องใส่หน้ากากเข้าหากันได้อยู่เลย มันเป็นเรื่องที่ผิดปกติมากๆ

รถไฟฟ้า ประสิทธิภาพดีกว่า มลพิษน้อยกว่า รถยี่ห้อดังๆอย่างเบนซ์อีก10ปีเค้าวางแผนจะหยุดการผลิตเครื่องยนต์สันดาปแล้ว เสียดายอย่างบ้านเรา ที่ควรจะมามุ่งวางแผนทางด้านนี้อย่างจริงจังเพื่อรับมือกับอนาคตครับ
หัวข้อ: Re: รถ EV สะอาดกว่าจริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: V221 ที่ มิถุนายน 02, 2019, 17:10:47
ใช่ครับ โรงไฟฟ้าส่วนใหญ่จะเป็นTurbineที่ประสิทธิภาพใช้เชื้อเพลิงสูงกว่าเครื่องสันดาปภายในมากครับ
หัวข้อ: Re: รถ EV สะอาดกว่าจริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: punn ที่ มิถุนายน 02, 2019, 22:06:47
คำถามคือ มองที่ไหนครับ สะอาด สะอาดที่ไหน?

ต้องแยกประเด็น แหล่งกำเนิดไฟฟ้าครับ
อุตสาหกรรมผลิตไฟฟ้า รัฐควบคุมเข้ม มลพิษก็จะคาดการณ์ได้ (เยอะหรือน้อยค่อยว่ากัน)
มันก็จะเข้าสู่การเมืองที่ว่า ถ้าไม่เกิดการซิกแซก ก็จะเป็นไปตามมาตรฐานที่ควบคุม
คือดีกว่าส่วนบุคคลที่ไร้การควบคุมครับ

ในมุมผมวิศวกรไฟฟ้า(ไม่ต้องวิศวะก็ได้) คิดว่ารถ HB หรือ EV ล้วน
นอกจากเครื่องยนต์ที่พัฒนาการจน efficiency ต่อหน่วยไฟที่กิน ดีขึ้นเรื่อยๆ
และคิดว่าดีกว่าโรงไฟฟ้าที่ใช้งานมากว่าจะเปลี่ยนยุคคือโบราณแล้วหลายๆโรง

กับอีกอันที่สำคัญคือ พลังงานจลน์จากการเบรค ที่นำมาผลิตไฟอย่างมีนัยสำคัญ
ที่ช่วยให้การใช้พลังงานหมุนเวียนอย่างที่รถสันดาบเทียบไม่ได้เลยครับ

เป้าหมายในอนาคตของมนุษยชาติคือนำพลังงานที่ใกล้ตัวมาแปลงเป็นไฟฟ้า
เช่น แดด ลม คลื่นทะเล ฯลฯ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดครับ

รถสันดาป คือพลังงานจากน้ำมันอย่างเดียวที่แปลงเป็นแรงขับเคลื่อน
อย่างอื่นล้วนเป็นตัวถ่วงในการใช้พลังงานทั้งสิ้น เช่น การเบรค แรงต้านของลม ฯลฯ
แต่รถพวก HB หรือ EV คือเอาตัวถ่วงเปลี่ยนมาเป็นพลังงานได้อย่างนึงคือการเบรค

ทั้งนี้ทั้งนั้น เมื่อมองภาพรวมคือก่อมลพิษต่อโลกนี้เหมือนกัน
แต่ก่อแบบควบคุมได้เป็นจุด กับก่อแบบควบคุมไม่ได้กระจาย
อย่างไหนดีกว่ากันก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละคนแล้วครับ  :o

สรุป เริ่มที่ตัวเอง ทำเท่าที่ทำได้ที่กระเป๋าตังอำนวย
คือเปลี่ยนรถเป็นพวกนี้ได้ก็ดีกว่าในระดับนึง
ก็เพียงพอแล้วต่อความรับผิดชอบต่อโลกใบนี้ครับ
หัวข้อ: Re: รถ EV สะอาดกว่าจริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: Odd_yim ที่ มิถุนายน 02, 2019, 22:44:52
ถ้าจะวัดในแง่ของมลพิษหรือการปล่อย CO2 ปัจจุบันการผลิตไฟฟ้าของไทยจะมีค่าอยู่ 0.58-0.60 kgCO2/kWh ซึ่งมาจากเชื้อเพลิงหลักคือ ก๊าซธรรมชาติกับถ่านหิน ราว ๆ 80% ส่วนรถ EV ปัจจุบัน อ้างอิงจาก https://ev-database.org/compare/efficiency-electric-vehicle-most-efficient จะใช้พลังงานอยู่ราว ๆ 15 kWh/100 km  ดังนั้นเมื่อใช้รถ EV ในไทย คำนวณคร่าว ๆ ก็จะปล่อยมลพิษประมาณ 87-90 g/km
     ในอนาคตตามแผนผลิตไฟฟ้าของไทย จะมีการใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น Carbon Capture Storage (CCS) ทำให้การปล่อย CO2 จากการผลิตไฟฟ้าก็จะน้อยลง และรถ EV ก็จะมีประสิทธิภาพดีขึ้น ที่ผมเคยอ่านงานวิจัย น่าจะใช้พลังงานอยู่ราว ๆ 10 kWh/100 km  ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงที่ถูกกว่า แนวโน้มรถ EV ทั้ง BEV หรือ FCEV ต้องเกิดอย่างแน่นอนครับ

     อุปสรรคในไทย ตอนนี้ คือ หัวจ่ายแบบ Quick Charge ยังมีน้อยและราคาลงทุนต่อหัวยังแพงมาก และถ้ารถ EV มาจริง ต้องสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มอีกสัก หมื่นเมกะวัตต์ เป็นอย่างน้อยครับ
หัวข้อ: Re: รถ EV สะอาดกว่าจริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ มิถุนายน 03, 2019, 16:54:03
บ้านเรายังไม่พร้อมกับ EV เท่าไหร่ มัวแต่ทะเลาะกันเอง ทำให้ประเทศเสียเวลาไปมาก
หัวข้อ: Re: รถ EV สะอาดกว่าจริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: smileymee ที่ มิถุนายน 03, 2019, 18:58:52
ตอบข้อ 1 ครับ

เครื่องสันดาปภายใน efficiency สูงสุด 20% (คือใส่น้ำมันที่มีพลังงานศักย์เคมี 100 หน่วย แปลงเป็นพลังงานจลที่หมุนเพลาได้ 20) ซึ่งการใช้งานรถส่วน ใหญ่ ไม่ได้อยู่ที่ทำ efficiency สูงสุด ใช้งานจริงเลขต่ำกว่านี้

ีรถไฟฟ้า efficiency โรงไฟฟ้าถ่านหินประมาณ 40% สายส่ง 88% แบตเตอรี่และมอเตอร์รถ 80% รวมทั้งระบบ 28%

... ถือว่าดีกว่ากันอย่างน้อย (เพราะเครื่องสันดาปภายในใช้จริงบนถนนได้ไม่ถึง 20% แต่โรงไฟฟ้า operate ที่แถวๆ 40% ตลอด) 1.4 เท่าอยู่นะครับ เทียบได้กับเปลี่ยนจากรถ 15 ก.ม./ลิตร มาเป็นรถ 21 ก.ม./ลิตร

ใช้ input น้อยกว่า (โดยทั่วไป) ของเสียก็น้อยกว่าครับ

นี่ยังไม่คิดว่าโรงไฟฟ้ากำจัดมลพิษได้ดีกว่าเครื่องรถยนต์นะครับ

คุณ turin ข้อมูลแน่นมากครับ ผมเองก็ลืมคิดเรื่อง efficacy ของโรงไฟฟ้าไปเลย ถ้าหากคำณวนตามนี้ ในหน่วยพลังงานเท่ากัน รถไฟฟ้าวิ่งได้ไกลกว่า40% แต่ถ้ารวมเวลาที่รถติดๆ เผาน้ำมันทิ้ง ผมว่ามันมีประสิทธิภาพมากกว่าถึง 50%เลยทีเดียว ซึ่งประสิทธิภาพขนาดนี้ ถ้าคิดรวมทั้งประเทศ จะช่วยลดมลพิษลงอย่างแน่นอน นี่คิดแค่ในกรณีที่สัดส่วนไฟฟ้าได้จากฟอสซิล100%ถ้าเปลี่ยนไปใช้พลังธรรมชาติมากขึ้นน่าจะลดได้มากกว่านี้อีก

ประโยชน์ที่ได้เพิ่มเติมขึ้นมาคือ ลดการนำเข้าน้ำมัน ลดการพึ่งพาจากต่างประเทศซึ่งก็มีผลต่อความมั่นคงด้วย

ตอนนี้เทนรด์รถไฟฟ้า ยังไงมันก็มา ในประเทศมหาอำนาจอย่าง อเมริกา ในจีนเป็นเรื่องปกติแล้ว ถ้ามันมีข้อเสียมากกว่าข้อดี ทางรัฐเขาคงไม่ทุ่มทุนสนับสนุนกันมากมายขนาดนั้นจริงไหมครับ

ยิ่งในบ้านเราช่วงนี้pm2.5 จางๆลงไปอาจจะลืมว่าเรืาองมลพิษนี่นมันใก้ตัวเราขนาดไหน ผมยังจำวันที่ตื่นมาทุกคนต้องใส่หน้ากากเข้าหากันได้อยู่เลย มันเป็นเรื่องที่ผิดปกติมากๆ

รถไฟฟ้า ประสิทธิภาพดีกว่า มลพิษน้อยกว่า รถยี่ห้อดังๆอย่างเบนซ์อีก10ปีเค้าวางแผนจะหยุดการผลิตเครื่องยนต์สันดาปแล้ว เสียดายอย่างบ้านเรา ที่ควรจะมามุ่งวางแผนทางด้านนี้อย่างจริงจังเพื่อรับมือกับอนาคตครับ
+1 ครับผม
หัวข้อ: Re: รถ EV สะอาดกว่าจริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: smileymee ที่ มิถุนายน 03, 2019, 19:00:26
คำถามคือ มองที่ไหนครับ สะอาด สะอาดที่ไหน?

ต้องแยกประเด็น แหล่งกำเนิดไฟฟ้าครับ
อุตสาหกรรมผลิตไฟฟ้า รัฐควบคุมเข้ม มลพิษก็จะคาดการณ์ได้ (เยอะหรือน้อยค่อยว่ากัน)
มันก็จะเข้าสู่การเมืองที่ว่า ถ้าไม่เกิดการซิกแซก ก็จะเป็นไปตามมาตรฐานที่ควบคุม
คือดีกว่าส่วนบุคคลที่ไร้การควบคุมครับ

ในมุมผมวิศวกรไฟฟ้า(ไม่ต้องวิศวะก็ได้) คิดว่ารถ HB หรือ EV ล้วน
นอกจากเครื่องยนต์ที่พัฒนาการจน efficiency ต่อหน่วยไฟที่กิน ดีขึ้นเรื่อยๆ
และคิดว่าดีกว่าโรงไฟฟ้าที่ใช้งานมากว่าจะเปลี่ยนยุคคือโบราณแล้วหลายๆโรง

กับอีกอันที่สำคัญคือ พลังงานจลน์จากการเบรค ที่นำมาผลิตไฟอย่างมีนัยสำคัญ
ที่ช่วยให้การใช้พลังงานหมุนเวียนอย่างที่รถสันดาบเทียบไม่ได้เลยครับ

เป้าหมายในอนาคตของมนุษยชาติคือนำพลังงานที่ใกล้ตัวมาแปลงเป็นไฟฟ้า
เช่น แดด ลม คลื่นทะเล ฯลฯ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดครับ

รถสันดาป คือพลังงานจากน้ำมันอย่างเดียวที่แปลงเป็นแรงขับเคลื่อน
อย่างอื่นล้วนเป็นตัวถ่วงในการใช้พลังงานทั้งสิ้น เช่น การเบรค แรงต้านของลม ฯลฯ
แต่รถพวก HB หรือ EV คือเอาตัวถ่วงเปลี่ยนมาเป็นพลังงานได้อย่างนึงคือการเบรค

ทั้งนี้ทั้งนั้น เมื่อมองภาพรวมคือก่อมลพิษต่อโลกนี้เหมือนกัน
แต่ก่อแบบควบคุมได้เป็นจุด กับก่อแบบควบคุมไม่ได้กระจาย
อย่างไหนดีกว่ากันก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละคนแล้วครับ  :o

สรุป เริ่มที่ตัวเอง ทำเท่าที่ทำได้ที่กระเป๋าตังอำนวย
คือเปลี่ยนรถเป็นพวกนี้ได้ก็ดีกว่าในระดับนึง
ก็เพียงพอแล้วต่อความรับผิดชอบต่อโลกใบนี้ครับ
+1 ครับผม
หัวข้อ: Re: รถ EV สะอาดกว่าจริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: XMSL ที่ มิถุนายน 03, 2019, 21:34:07
ถ้าดูกันที่ตัวเครื่องหรือมอเตอร์อย่างเดียว ความสูญเสียพลังงานหรือประสิทธิภาพในการแปลงพลังงานที่สะสมให้เป็นพลังงานกล ผมว่ามอเตอร์ดีกว่าเครื่องยนต์สันดาปภายในไม่ต่ำกว่า 20-30% ที่สำคัญอีกอย่างคือผลผลิตจากการทำงานอย่างเสียง ควัน อนุภาค ความร้อน รวมถึงผลิตภัณฑ์ในกระบวนการบำรุงรักษา เช่นน้ำมันเครื่องเก่า น้อยมากๆนะครับ จะเปรียบเทียบกันต้องมองให้รอบด้านจริงๆ...
หัวข้อ: Re: รถ EV สะอาดกว่าจริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: DiKiBoyZ ที่ มิถุนายน 04, 2019, 11:14:39
สะอาดตอนใช้งาน

แต่ตอนที่แบตเตอรี่หมดอายุการใช้งานละ.......??
หัวข้อ: Re: รถ EV สะอาดกว่าจริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: Mr. RO ที่ มิถุนายน 04, 2019, 15:44:59
ตอบข้อ 1 ครับ

เครื่องสันดาปภายใน efficiency สูงสุด 20% (คือใส่น้ำมันที่มีพลังงานศักย์เคมี 100 หน่วย แปลงเป็นพลังงานจลที่หมุนเพลาได้ 20) ซึ่งการใช้งานรถส่วน ใหญ่ ไม่ได้อยู่ที่ทำ efficiency สูงสุด ใช้งานจริงเลขต่ำกว่านี้

ีรถไฟฟ้า efficiency โรงไฟฟ้าถ่านหินประมาณ 40% สายส่ง 88% แบตเตอรี่และมอเตอร์รถ 80% รวมทั้งระบบ 28%

... ถือว่าดีกว่ากันอย่างน้อย (เพราะเครื่องสันดาปภายในใช้จริงบนถนนได้ไม่ถึง 20% แต่โรงไฟฟ้า operate ที่แถวๆ 40% ตลอด) 1.4 เท่าอยู่นะครับ เทียบได้กับเปลี่ยนจากรถ 15 ก.ม./ลิตร มาเป็นรถ 21 ก.ม./ลิตร

ใช้ input น้อยกว่า (โดยทั่วไป) ของเสียก็น้อยกว่าครับ

นี่ยังไม่คิดว่าโรงไฟฟ้ากำจัดมลพิษได้ดีกว่าเครื่องรถยนต์นะครับ

     ผมเห็นด้วยกับคุณ Turin นะ ถ้าตัวเลขประสิทธิภาพ การใช้ประมาณ ระบบโดยรวม ของการใช้งานรถ EV เทียบกับ  รถ ICE เพียวๆมีตัวเลขเช่นนั้น  ซึ่งส่วนตัวก็คิดว่ามันน่าจะมีค่าในทิศทางประมาณนั้น
แต่ อยากทราบว่า ถ้า เป็นรถแบบ REEV ค่าประสิทธิภาพ การใช้พลังงาน น่าจะเป็นอย่างไร น่าจะอยู่ระหว่าง BEV  และ ICE เพียวๆ ใช่หรือไม่ครับ และค่าประสิทธิภาพสูงสุดของ REEV นี่จะมีค่าประมาณไหนมีใครมีตัวเลขไหมครับ 

      ส่วนตัว ผมว่าประเทศเราเป็นประเทศเกษตรกรรม  ถ้าสนับสนุน รถ REEV  และมีรถ REEV นะโดยให้ใช้เชื้อเพลิงพวก E85 หรือ B50, B100 ได้นะครับ  แต่รถต้องใช้เครื่องยนต์ประสิทธิภาพดีๆ ติดระบบกรองไอเสียดีๆ แม้จะมีไอเสียปล่อยในเมืองบ้างแต่ไม่น่าเยอะเท่า ICE เพียวๆใช่ไหมครับ ผมว่ามันน่าจะมีประโยชน์กับประเทศอย่างเราดังนี้นะครับ
1. สามารถจะช่วยเหลือเกษตรกร ที่ปลูกพืชที่สามารถแปลงมาใช้เป็นพลังงานได้ เช่น อ้อย ปาล์ม มันสำปะหลัง กรณีที่ราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ
2. แถมเราจะลดการพึ่งพิงจากต่างประเทศได้ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อไฟจากต่างประเทศ หรือลดการซื้อเชื้อเพลิงฟอสซิล
3. รัฐลดการสร้างโรงไฟฟ้ากำลังเพื่อจะมาสนับสนุนการใช้งานรถไฟฟ้า
หัวข้อ: Re: รถ EV สะอาดกว่าจริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: ชายโอ๊ต ที่ มิถุนายน 05, 2019, 14:44:00
ผมเป็นคนหนึ่งที่สนใจซื้อรถที่เน้นรักษ์โลกมาตลอดครับ โดยเฉพาะตอนนี้ที่กำลังเริ่มมาแรงคือรถ EV ก็เลยอยากศึกษาก่อนซักหน่อย คนส่วนใหญ่มีความเชื่อว่ารถ EV นั้นสะอาด ไม่ปล่อยสารพิษเลย ซึ่งผมก็คิดอย่างนั้น

แต่เมื่อลองไปนั่งคิดเอง + ค้นตามอินเตอร์เนตเพิ่มเติมก็มีข้อกังวลอยู่ประมาณนี้ครับ

1. รถไฟฟ้า ไม่ปล่อยไอเสียจริง แต่แหล่งกำเนิดไฟฟ้าบ้านเรานั้น เกือบทั้งหมดมาจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ดังนั้นคือที่จริงแล้ว มันก็เหมือนแค่เราเปลี่ยนที่ทำลายโลกรึเปล่าครับ
2. กระบวนการในการผลิตรถไฟฟ้า เน้นโดยเฉพาะแบตเตอรี่ ก่อสารพิษและสารที่ทำลายชั้นบรรยากาศสูงมาก และกระบวนการทำลายแบตเตอรี่ก็เช่นกัน

เลยมีความคิดว่า ถ้ารถไฟฟ้ามันไม่ได้สะอาดขนาดนั้น มันอาจจะดีกว่ามั้ยถ้าผมเลือกไปเติมน้ำมันอย่าง e85 เพราะเอทานอลนั้นพิสูจน์แล้วว่าเผาไหม้สะอาดมาก และราคารถจับต้องได้มากกว่า
1. ก็ต้องยอมรับว่า ณ ปัจจุบัน โรงไฟฟ้าส่วนใหญ่ มากกว่า 70% ยังใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ที่ยังปล่อยมลพิษ
แต่โรงไฟฟ้าพวกนี้มีมาตรฐานเกี่ยวกับการควบคุมมลพิษระดับหนึ่ง ซึ่งการที่เป็นจุดรวมศูนย์จะถูกควบคุม และปล่อยมลพิษน้อยกว่า
รถยนต์เครื่องยนต์สันดาบทีเราใช้อยู่แล้วมากๆๆครับ

2.เทคโนโลยีพวกนี้กำลังพัฒนาเรื่อยๆ โดยแข่งกับเรื่องต้นทุนการพัฒนาที่ลดต่ำลงเรื่อยๆเช่นกันครับ

ถึงจะฟังดูน่ากลัว แต่ทั้ง 2 ข้อนี้ ก็ให้ข้อเท็จจริงที่จะช่วยลดมลพิษมากกว่ารถยนต์เครื่องยนต์สันดาบแน่นอนครับ
โดยส่วนตัวผม ถ้าพร้อมด้านฐานะการเงิน (เมื่อไหร่ไม่รู้) ซื้อแน่นอนครับ ฮ่าๆ