Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: AgentMolder ที่ มิถุนายน 27, 2019, 16:32:41
-
ช่วงนี้ ประเด็นรถ EV กำลังมา เห็นหลายๆค่าย และหลายๆท่าน มักจะพูดถึงตัวเลขระยะทางการวิ่ง ต่อการชาร์จไฟแต่ละครั้งจนเต็ม
ผมอยากทราบว่าตัวเลขที่เขาบอกเนี่ยมันวัดจากไหนครับ ที่ความเร็วเท่าไหร่ ลักษณะการขับคือไม่เร่งเลยยาวๆไปจนไฟหมดหรือเปล่าครับ
ถ้าเป็นแบบนั้น เวลาเรามาใช้ในชีวิตจริง มีเร่งบ้าง กดบ้าง รถติดบ้าง ระยะทางมันก็จะสั้นลงไปอีกใช่ไหมครับ แล้วแบบนี้เราจะรู้ว่าจริงๆแล้วมันจะใช้ได้ตามที่โฆษณาหรือเปล่า หรือจะน้อยกว่านั้นเท่าไหร่ยังไง
-
ระยะวิ่งเฉลี่ยตามมาตราฐานทดสอบครับ
มีเร่งบ้าง เดินทางไกล จอดเฉยๆ หรือวิ่งความเร็วคงที่
ดังนั้นรถยนต์ไฟฟ้า ถ้าใช้ตามตจว. ที่มีโอกาสเบรคยาวๆ (ชาร์ตไฟ)
หรือทำความเร็วสูงๆ แล้วมีโอกาสชลอรถบ้าง ก็มีโอกาสย้อนเก็บพลังได้
เคยอ่านรีวิว ไม่แน่ใจของ HLM หรือเปล่า
เอา Leaf ไปทดสอบบนเขา ขาลงกลับมา ระยะวิ่งเพิ่มขึ้นหลายสิบโล เพราะมันไหลลงเขายาวๆ
-
ลองดูทดสอบ Nissan Leaf วิ่งจริง Fast charge ที่80% จนแบตเกือบหมดครับ
https://www.youtube.com/watch?v=Wtu4y7D7NAI (https://www.youtube.com/watch?v=Wtu4y7D7NAI)
-
วิ่งจริง ได้ไม่ถึง 200 โลเลย ชาร์จที่80% nissan leaf นะ zs ev ผมว่าต่างไม่เยอะหรอก ได้น้อยกว่าที่เครมไว้พอสมควรเลย
-
ต้องดูว่าค่ายรถบอกว่าใช้มาตรฐานอะไรครับ ปกติแล้วค่ายรถจะบอกไว้ เช่น
รถปกติ บอกว่า 15 กม/ลิตร ตามมาตรฐาน jc08 (ญี่ปุ่น)
รถ ev บอกว่า 400 กม ตามมาตรฐาน WLTP
เมื่อก่อน จะมีหลักๆ 3 มาตรฐาน อเมริกา , ยุโรป (eco sticker ไทยตั้งแต่แรกใช้มาตรฐานยุโรป) , ญี่ปุ่น
เป็นการวัดในห้องแลป มีเร่ง มีเบรค มีหยุด แต่ละมาตรฐานก็มี loop ที่ต่างกัน
สมัยนี้ใช้มาตรฐาน WLTP (worldwide harmonized light vehicles test procedure) เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
ถ้าตาม WLTP มีการจำลอง speed ให้มีทั้งช่วง low , medium , high และ extra high และมีช่วงหยุดนิ่งด้วย มีทั้งเพิ่มความเร็วและเบรคลดความเร็ว
pattern การขับเป็นไปตามรูปข้างล่างครับ
รูปแรก แกนตั้งคือความเร็ว (กม/ชม) , แกนนอน คือ วินาทีที่
รูปสอง ตารางสรุปทั้ง 4 ช่วงความเร็ว ( low , medium , high , extra high )
ปล. พอมาขับจริง อัตราสิ้นเปลืองจะต่างจากที่ทดลองใน lab มากน้อยต่างกันไป เพราะแต่ละคนก็มี pattern การขับที่ไม่เหมือนกัน และไม่เหมือนในห้องทดลองครับ
(เคยตอบคล้ายๆกันไว้ใน http://community.headlightmag.com/index.php?topic=69815.0 )
-
ต้องดูว่าค่ายรถบอกว่าใช้มาตรฐานอะไรครับ ปกติแล้วค่ายรถจะบอกไว้ เช่น
รถปกติ บอกว่า 15 กม/ลิตร ตามมาตรฐาน jc08 (ญี่ปุ่น)
รถ ev บอกว่า 400 กม ตามมาตรฐาน WLTP
เมื่อก่อน จะมีหลักๆ 3 มาตรฐาน อเมริกา , ยุโรป (eco sticker ไทยตั้งแต่แรกใช้มาตรฐานยุโรป) , ญี่ปุ่น
เป็นการวัดในห้องแลป มีเร่ง มีเบรค มีหยุด แต่ละมาตรฐานก็มี loop ที่ต่างกัน
สมัยนี้ใช้มาตรฐาน WLTP (worldwide harmonized light vehicles test procedure) เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
ถ้าตาม WLTP มีการจำลอง speed ให้มีทั้งช่วง low , medium , high และ extra high และมีช่วงหยุดนิ่งด้วย มีทั้งเพิ่มความเร็วและเบรคลดความเร็ว
pattern การขับเป็นไปตามรูปข้างล่างครับ
รูปแรก แกนตั้งคือความเร็ว (กม/ชม) , แกนนอน คือ วินาทีที่
รูปสอง ตารางสรุปทั้ง 4 ช่วงความเร็ว ( low , medium , high , extra high )
ปล. พอมาขับจริง อัตราสิ้นเปลืองจะต่างจากที่ทดลองใน lab มากน้อยต่างกันไป เพราะแต่ละคนก็มี pattern การขับที่ไม่เหมือนกัน และไม่เหมือนในห้องทดลองครับ
(เคยตอบคล้ายๆกันไว้ใน http://community.headlightmag.com/index.php?topic=69815.0 )
ขอบคุณครับ คุณภาพมากๆ :D
-
รถไฟฟ้ามันสามารถ regen ได้ ดังนั้นถ้าไม่ขับเกิน 80 กม/ชม. เทสรูปแบบไหน หยุดๆ จอดๆ ค่าก็ใกล้เคียงกัน
ข้อเสียรถไฟฟ้าคือยิ่งขับเร็วแบบยิ่งลงเร็ว อนาคตคงต้องมีชุดส่งกำลังมาช่วยในช่วงความเร็วสูง
-
เหมือนว่าจะเหมาะกับการใช้งานระยะสั้นแบบไม่เกิน 100กม มากกว่านะครับเนี่ย แบบไป-กลับได้
-
ปัจจุบันนี้ผมว่าต้องมี 300 km ขั้นต่ำ ถึงจะขายได้
-
รถไฟฟ้ามันสามารถ regen ได้ ดังนั้นถ้าไม่ขับเกิน 80 กม/ชม. เทสรูปแบบไหน หยุดๆ จอดๆ ค่าก็ใกล้เคียงกัน
ข้อเสียรถไฟฟ้าคือยิ่งขับเร็วแบบยิ่งลงเร็ว อนาคตคงต้องมีชุดส่งกำลังมาช่วยในช่วงความเร็วสูง
+1ครับ ขอสัก2ระดับก็พอ
-
....
pattern การขับเป็นไปตามรูปข้างล่างครับ
รูปแรก แกนตั้งคือความเร็ว (กม/ชม) , แกนนอน คือ วินาทีที่
รูปสอง ตารางสรุปทั้ง 4 ช่วงความเร็ว ( low , medium , high , extra high )
แสดงว่าถ้าต้องการเช็คระยะก็จะวนทดสอบตามลูบข้างบน...จนกว่าแบตจะเกลี้ยงเลยใช่มั้ยครับ? สภาพการทดสอบจริงต่อให้ขึ้นไดโนทดสอบก็คงไม่สามารถคุมได้แบบในกราฟ...แต่คงทำได้แค่ใกล้เคียงจริงมั้ยครับ? อาจจะแค่กำหนดเพดานความเร็วและการจอดนิ่งคร่าวๆ ตามกรอบเวลาที่เป็นมาตรฐาน ซึ่งก็ใช้เป็นมาตรฐานอ้างอิงเพื่อทดสอบได้ แต่ชีวิตจริงอาจจะมากน้อยกว่าซึ่งก็คงมีปัจจัยอื่นๆอีกพอสมควร...
-
ถามแบบ ไม่รู้ครับ ทำไมไม่ชาร์จเข้าตลอดเวลาครับ
-
ถามแบบ ไม่รู้ครับ ทำไมไม่ชาร์จเข้าตลอดเวลาครับ
เท่าที่ผมเข้าใจ คือ
1. กรณีมีมอเตอร์ลูกเดียว เมื่อรถวิ่งมอเตอร์ดึงไฟฟ้าจากแบต มอเตอร์ไม่สามารถเปลี่ยนตัวเองเป็นตัวปั่นไฟได้ขณะใช้งานอยู่
2. กรณีมีมอเตอร์สองลูกขึ้นไป เมื่อรถวิ่งมอเตอร์ตัวที่ 1 และ n ดึงไฟฟ้าจากแบต มอเตอร์ทั้งหมดไม่สามารถแบ่งตัวใดตัวหนึ่งไปปั่นไฟให้แบตได้ เนื่องจากแบตไม่สามารถใช้งานและชาร์ตพร้อมกันได้ในลูกเดียวกัน เว้นแต่รถจะมีแบตสองลูกที่ทำให้สลับกันใช้ สลับกันชาร์จได้ แต่ไม่รู้ว่าจะคุ้มหรือได้ผลดีหรือป่าว เพราะตอนมอเตอร์ทำหน้าที่ปั่นไฟให้แบต มันจะเกิดแรงหน่วงเยอะ ทำให้เสียพลังงานขืนกันไปมาระหว่างตัวขับเคลื่อนกับตัวปั่นไฟ
-
ต้องดูว่าค่ายรถบอกว่าใช้มาตรฐานอะไรครับ ปกติแล้วค่ายรถจะบอกไว้ เช่น
รถปกติ บอกว่า 15 กม/ลิตร ตามมาตรฐาน jc08 (ญี่ปุ่น)
รถ ev บอกว่า 400 กม ตามมาตรฐาน WLTP
เมื่อก่อน จะมีหลักๆ 3 มาตรฐาน อเมริกา , ยุโรป (eco sticker ไทยตั้งแต่แรกใช้มาตรฐานยุโรป) , ญี่ปุ่น
เป็นการวัดในห้องแลป มีเร่ง มีเบรค มีหยุด แต่ละมาตรฐานก็มี loop ที่ต่างกัน
สมัยนี้ใช้มาตรฐาน WLTP (worldwide harmonized light vehicles test procedure) เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
ถ้าตาม WLTP มีการจำลอง speed ให้มีทั้งช่วง low , medium , high และ extra high และมีช่วงหยุดนิ่งด้วย มีทั้งเพิ่มความเร็วและเบรคลดความเร็ว
pattern การขับเป็นไปตามรูปข้างล่างครับ
รูปแรก แกนตั้งคือความเร็ว (กม/ชม) , แกนว่านอน คือ วินาทีที่
รูปสอง ตารางสรุปทั้ง 4 ช่วงความเร็ว ( low , medium , high , extra high )
ปล. พอมาขับจริง อัตราสิ้นเปลืองจะต่างจากที่ทดลองใน lab มากน้อยต่างกันไป เพราะแต่ละคนก็มี pattern การขับที่ไม่เหมือนกัน และไม่เหมือนในห้องทดลองครับ
(เคยตอบคล้ายๆกันไว้ใน http://community.headlightmag.com/index.php?topic=69815.0 )
ขอบคุณครับ อยากรู้มานานแล้วว่าwltp นี่มันคืออะไร กระทู้คุณภาพมากๆครับ
-
....
pattern การขับเป็นไปตามรูปข้างล่างครับ
รูปแรก แกนตั้งคือความเร็ว (กม/ชม) , แกนนอน คือ วินาทีที่
รูปสอง ตารางสรุปทั้ง 4 ช่วงความเร็ว ( low , medium , high , extra high )
แสดงว่าถ้าต้องการเช็คระยะก็จะวนทดสอบตามลูบข้างบน...จนกว่าแบตจะเกลี้ยงเลยใช่มั้ยครับ? สภาพการทดสอบจริงต่อให้ขึ้นไดโนทดสอบก็คงไม่สามารถคุมได้แบบในกราฟ...แต่คงทำได้แค่ใกล้เคียงจริงมั้ยครับ? อาจจะแค่กำหนดเพดานความเร็วและการจอดนิ่งคร่าวๆ ตามกรอบเวลาที่เป็นมาตรฐาน ซึ่งก็ใช้เป็นมาตรฐานอ้างอิงเพื่อทดสอบได้ แต่ชีวิตจริงอาจจะมากน้อยกว่าซึ่งก็คงมีปัจจัยอื่นๆอีกพอสมควร...
ใช่แล้วครับ บนถนนจริงคงมีความแตกต่างจากตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองตามมาตรฐานที่บริษัทรถบอกมา
wltp พึ่งใช้มาไม่นาน ผมไม่มีรถใหม่ๆ ยังไม่ทราบว่า loop wltp จะแตกต่างจากการใช้งานจริงของผมแค่ไหน
รถเก่าผมให้ตัวเลขมาเป็น loop ของยุโรป ผมใช้งานย่านรถติด บางคันกินน้ำมันกว่าตัวเลขที่ให้มา 26%
คาดว่าการใช้งานของผมก็คงได้ระยะทางน้อยกว่า loop wltp เช่นกัน เพราะเท่าที่ดูจากกราฟ wltp ไม่มีการหยุดนิ่งที่นานเกินกว่า 1 นาทีเลย แต่แถวบ้านผม ไฟแดงครั้งละ 5 นาที บางทีรอ 2-3 ไฟเขียวกว่าจะผ่าน
ตัวเลขที่บริษัทรถให้มา ผมเอาไว้ใช้ดูเปรียบเทียบคร่าวๆระหว่างรถรุ่นต่างๆ ว่าถ้าขับใน loop เดียวกัน คันไหนกินน้ำมันมากน้อยกว่ากันเท่าไหร่น้ะครับ
ขอบคุณ คุณ Nonlamer และคุณ koko86 ที่ชมครับ จำได้สมัยก่อนผมดูแค่ 0-100 กม/ชม แต่พอมีอายุขึ้น เริ่มสนใจเรื่องอัตราสิ้นเปลือง เลยไปค้นข้อมูลวิธีการวัดในรูปแบบต่างๆมา เพราะอยากรู้ว่ารถตัวเองขับจริงจะแตกต่างจาก spec เท่าไหร่บ้าง ผลคือ กินน้ำมันกว่า spec ทุกคัน ;D