Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Eddy5659 ที่ สิงหาคม 17, 2010, 21:07:13
-
เมื่อก่อนมีแต่คนบอกว่าควรขับไม่เกิน 90 km/h (ทำไม่เคยได้ อิอิอิ) ถึงจะทำให้ประหยัดน้ำมัน
แต่วันนี้น้องเซลล์ที่ผมจองรถเข้ามาหา และเอาเอกสารต่างๆมาให้ หนึ่งในนั้นมีวิธีขับรถให้ประหยัด
เอกสารนั้นบอกว่ารถ 2.00 cc ให้ขับความเร็วคงที่ที่ 110 km/h จะประหยัด
รถ 1.6 cc ให้ขับความเร็วคงที่ที่ 90 km/h จะประหยัด
งงสิครับ มันจริงหรือไม่ครับ และมันมีเหตุผลยังไงกันครับ สงสัยมากครับ
-
ขับ 90-100 ไม่ต้องกดคันเร่งหนักๆ ไล่เกียร์มาไม่เกิน 2000-2500 รอบ(ดีเซล) เปลี่ยนเกียร์ ลมยาง อย่าแตะเบรคบ่อย แค่นี้ก็ประหยัดแล้วครับ
ผมคิดว่าเอกสารทำได้ไม่จริงเท่ากับลองทำเองดูก่อนว่ารถเราขับเท่าไรถึงประหยัด แล้วประหยัดแล้วต้องปลอดภัยด้วย
-
ขับ90บนทางด่วนรับรองว่าชีวิตคงไม่มีความสุขแน่
ผมว่า 110 นี่กำลังสบายๆครับ ถ้าคิดไม่ออกให้ใช้ cruise control
....................
แต่ที่สำคัญที่สุดคือ เลี้ยงน้ำหนักคันเร่งให้ดี อย่าเหยียบเร่งจนความเร็วคงที่แล้วปล่อย เหมือนกับที่คนขับรถเมล์ทำกัน เพราะจะทำให้เครื่องโทรมเร็วและเปลืองน้ำมัน แถมยังชวนอ้วกด้วย
ให้ลองนึกถึง ไมโครบัสรุ่นแรก เครื่องนิสสันดีเซล เกียร์ออโต้ คนขับเหยียบคันเร่งมิด เครื่องยนต์คำรามไปถึงประมาณ3000-4000รอบได้ พอเครื่องจะเปลี่ยนเป็นเกียร์2 ก็ถอนคันเร่ง แล้วเหยียบมิดใหม่ (ไม่แน่ใจว่าคนขับสอบใบขับขี่ผ่านมาได้ไง) ชวนอ้วกไหมครับ .............. ผมโดนมาเต็มๆ ลงจากรถแทบอ้วก
-
ผมว่าขับธรรมดานี่ละครับ มาเรื่อยๆไปเรียงๆ นี่ละประหยัดที่สุด ไม่เสียประสาทด้วยครับ
-
จากที่ผมเจอมาในการทำทดองอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
ผมพบว่า ความเร็ว กิโลเมตร/ชั่วโมง ก็ตาม
ไม่ใช่ตัวบ่งชี้วัดว่า ขับเร็วเท่าไหร่ถึง ประหยัดน้ำมัน
แต่ปัจจัยที่สำคัญ อยู่ที่รอบเครื่องยนต์ ซึ่งมันจะเกี่ยวเนื่องมาจากอัตราทดเกียร์
อัตราทดเฟืองท้าย แถมยังมีเรื่องของน้ำหนักตัวรถ น้ำหนักบรรทุก ปริมาณของเหลวในระบบ
สภาพอากาศภายนอก ความดันลมยาง พฤติกรรมการขับ ลักษณะการเหยียบคันเร่งและเบรก
สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่แวดล้อม และมีผลต่อตัวเลขความประหยัดน้ำมันทั้งสิ้นครับ
ทีนี้ ถ้านึกไม่ออก ว่าควรจะขับอย่างไรถึงจะประหยัด
ผมขอแนะนำดังนี้
1. ศึกษาส้นทาง และฟังข่าวจราจร ก่อนออกจากบ้าน
2. ขับในเมือง ตอนออกตัวจากไฟแดง เหยียบคันเร่ง เท่าที่เหมาะสม
3,000 รอบ/นาที เพียงพอแล้วที่จะเร่งให้รถออกตัวไปข้างหน้า อย่างว่องไว
ไม่โดนรถคันที่ตามมา ก่นด่าบุพการี พอความเร็วไต่ขึ้นไปถึงระดับที่เหมาะสม
และระยะห่างจากรถคันข้างหน้า มากพออย่างเหมาะสมต่อการเบรกกระทันหันที่อาจเกิดขึ้นได้แล้ว
ถอนคันเร่งลงมา เลี้ยงไว้ให้อยู่ในระดับ แตะๆ ความเร็ว ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร
ยิ่งถ้าออกตัวเร็วมากๆ โอกาสแซงผ่านสี่แยกข้างหน้า ก็จะไวขึ้น แต่จะเปลืองน้ำมันขึ้นกว่าเดิมนิดนึง
ซึ่ง คุ้มค่ากว่า การออกตัวช้าๆ แล้วค่อยๆ คล้านไปติดไฟแดง อีกรอบ
3. ขับทางไกล รอบเครื่องยนต์ที่เหมาะสม อยู่ในช่วงตั้งแต่ 1,600 - 2,500 รอบ/นาที ณ เกียร์สูงสุด ครับ
ขึ้นอยู่กับว่า เป็นรถแบบไหน รุ่นไหน เพราะแต่ละรุ่น แต่ละคัน จุดที่ขับแล้วประหยัดไม่เหมือนกันครับ
4. เหยีบคันเร่ง นิ่งๆ แผ่วๆ เบาๆ กำลังดี ให้เหมาะสมกับสภาพการจราจร
เหยียบมาก กินมาก เร็วมาก และอันตรายมาก
เหยียบน้อย กินน้อย แต่รถวิ่งช้า อันตราย น้อยหรือมาก ขึ้นอยู่กับว่ารถคันข้างหลัง รีบแค่ไหน ใหญ่คับฟ้าแค่ไหน
และคุณขับระวังเกินไปหรือไม่
-
พี่จิมมี่ ไอเจ้าแคมรี่acv30 ที่ผมใช้อยู่อะ ผมขับแบบไต่ความเร็วเรื่อยๆ เหยียบรอบซัก 2000-2300 ละพอถึงความเร็วที่ต้องการผมก้เริ่มถอนคันเร่ง แล้วก็เลี้ยงไปให้มันความเร็วมันคงที่นะ
ละพอเหลือบไปดู info ที่ตัวรถมันแสดง มันขึ้นอัตรากินน้ำมันเฉลี่ย 11.5 ไอเราก็อุตส่าดีใจ แต่พอไปเติมน้ำมันจริงๆ คำนวณละมันออกมากได้ 9.8 ประมานเนี่ยอะคับ
ซึ่งเอามาคิดดูแล้ว percentage error มันประมาน 15% เรยนะ มันเยอะไปเปล่าอะ คันอื่นมันประมานไหนอะครับ??? ไอพวกนี้มันคำนวณจากการวัดการใช้น้ำมันจริงๆ หรือคำนวนเอาจากการเหยียบคันเร่งกันแน่อ่ะ???
-
ขอบคุณ คุณ J!mmy ครับที่แนะนำ.
-
มันก็ไม่ยากหรอกครับ ใช้รอบคงที่ ที่ต่ำที่สุดเท่าที่จะพึงกระทำได้ โดยใช้ระยะเวลาในการขับจากต้นทางถึงจุดหมายให้น้อยที่สุด
มันเลยมาตกที่รอบต่ำสุด (ของเกียร์สูงสุด ซึ่งก็คือเกียร์อัตราทดน้อยสุด) ที่จะทำให้ถึงจุดหมายได้โดยใช้เวลาน้อยที่สุด
-
ใจหนึ่ง ก็คิดว่า อย่าไปเชื่อ มาตรวัดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ติดมากับรถเลยครับ
ส่วนใหญ่ เพี้ยนจากการคำนวนจริงหลังจากที่เราใช้งานกัน ไปนิดหน่อย
บวกลบ ประมาณ 2 กิโลเมตร/ลิตร โดยประมาณ ไม่เสมอไป แต่แทบทุกคัน
แต่อีกใจหนึ่ง คิดไปคิดมา ถ้าคำนวน ในแบบที่รถมันคำนวน รถมันก็คงจะบอกว่า เรานั่นแหละ คำนวนเพี้ยน
แต่ในฐานะ ที่เรา ใช้รถอยู่ ยังไงก็ตาม ถ้าเราคำนวน แบบตรงๆ ดื้อๆ ตัวเลขอาจจะด้อยกว่า ที่รถแจ้งเรา
สรุปว่า แม้ไม่รู้ว่า รถจะเพี้ยน หรือเรากันแน่ที่เพี้ยน
ก็คงบอกได้แต่ว่า "อย่าไปเชื่อถือตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง จากหน้าปัดรถ เสมอไปครับ"
-
มันก็ไม่ยากหรอกครับ ใช้รอบคงที่ ที่ต่ำที่สุดเท่าที่จะพึงกระทำได้ โดยใช้ระยะเวลาในการขับจากต้นทางถึงจุดหมายให้น้อยที่สุด
มันเลยมาตกที่รอบต่ำสุด (ของเกียร์สูงสุด ซึ่งก็คือเกียร์อัตราทดน้อยสุด) ที่จะทำให้ถึงจุดหมายได้โดยใช้เวลาน้อยที่สุด
เห็นด้วย และขอเสริมนิดนึงครับว่า
คุณ NOTTO เขามิได้หมายถึง รอบต่ำสุด ที่เกียร์สูงสุด เพียงอย่างเดียว
(ถ้าเช่นนั้น พวก ที่ลาก รอบเดินเบา 850 -900 รอบ/นาที ที่เกียร์ 5 และใช้ความเร็วแค่ 40 กิโลเมตร/ชั่วโมง
อันนี้เราจะไม่นับรวมเข้าพวกนะครับ)
แต่หมายถึง รอบเครื่องต่ำสุด ณ เกียร์ สูงสุด (5 6 หรือ 7) ที่จะทำให้ แล่นได้ในระยะทางเดียวกัน ที่เร็วที่สุด
ครับ
-
E CAR Auto มีแค่ 3 เกียร์ 2000 รอบ ที่ 40km/hr วิ่งทางไกลกันเลย 40 อิอิ
แต่สังเกตุดู ความยาวภายในห้องโดยสารมันใหญ่แฮะ ใกล้เคียงกับ New Altis มากๆ เลย เอกสารข้อมูลของมันไม่อยู่ละ แต่ฐานล้อน่าจะยาวอยู่
-
รถผม ขับที่120ครับ ประหยัดที่สุด
ต่อให้กดไปถึง130-140 ก็ยังประหยัดกว่าขับช้าๆ
ผมว่ามันอยู่ที่การออกตัว การเร่งความเร็วครับ
ความเร็วที่ใช้ ไม่มีผลเท่าไหร่(ยกเว้นขับเร็วจริงๆ)
เคยขับ160 ตลอดสาย ได้13กม./ลิตรครับ
แต่ค่อยๆเร่งความเร็ว ใช้เกียรสูงสุดตลอดครับ
-
คือในด้านความเร็ว(ขอพูดถึงในกรณี ความเร็วคงที่นะครับ)
ถ้าพูดถึงเฉพาะผลจากอากาศพลศาสตร์แล้ว การขับเร็วมากๆ มันเปลืองเพราะแรงต้านอากาศครับ
เช่นการขับ60 กับ 120 นั้น แรงต้านอากาศที่ความเร็ว120 จะสูงกว่าที่60 ราวๆ4เท่าครับ (ตอนเด็กๆผมเคยคิดว่า มันคงกินน้ำมันมากกว่าสองเท่า แต่มันถึงเร็วกว่าสองเท่า มันก็เท่าทุนนี่นา) แต่ไม่ใช่ว่า งั้นขับมัน20ไปเลย อะไรทำนองนั้นครับ เพราะมันไม่ใช่อากาศอย่างเดียวที่มีผล มันมีสัมประสิทธิ์ความเสียดทาน แล้วเครื่องยนต์แต่ละรุ่น มันจะผลาญน้ำมันที่ความเร็วต่างๆไม่เท่ากัน (เหมือนที่ความแรงที่รอบต่างๆมันไม่เท่ากัน) เพราะงั้น จริงๆ แต่ละรุ่นมันก็มีความเร็วที่ประหยัดที่สุด ไม่เท่ากันจริงๆนั่นแหละครับ แต่อย่าไปสนมันเลย ไม่มากเท่าไร เอาตามที่ทุกๆท่าน บอกมาดีกว่า แต่สำหรับผม ขับแค่90บนทางด่วนก็ไม่ได้เดือดร้อน รู้สึกอะไรนะครับ สบายเหมือนกัน อยู่ซ้ายไว้ ปล่อยคนอื่นมันแซงไป เอิ๊ก*-*
-
ที่ดูมาบางทีก็ ทิษฎี มากไปปวดหัว ส่วนตัวผม กดหนักนิดนึงแล้วปล่อยไหลๆไปครับ จะจอดหรือติดไฟแดงถ้าความเร็วพอประมาณก็ไหลเข้าไปจอดทำนองนั้นแต่ถ้าไกลมากแล้วไหลไปช้าๆก็คงโดนด่าแน่
ส่วนถ้าขับทางไกลก็รักษาความเร็วให้คงที่100-110กำลังดีมองไกลนิดนึงถ้ามีแนวโน้มจะลดความเร็วก็ปล่อยไหลไป อย่ากดเร่งๆไปแล้วไปเบรคไกล้ๆทำนองนั้นครับลองดู :D
-
อยู่ที่ ศักยภาพของเครื่อง และ สภาพตัวแปรแวดล้อม โดยเฉพาะ เท้า ของคุณแหละครับ ที่จะเลือก ประหยัด หรือเปลือง?