Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ซิ่งเข้าส้วม ที่ กรกฎาคม 07, 2019, 06:57:42
-
ผมได้ยินคนข้างใน MG พูดกันว่ายอดจอง ZS EV ทั่วประเทศเกิน 600 คันไปแล้ว และคาดว่าจะเกิน 1,000 คันภายในต้นเดือนสิงหาคม
ซึ่งเทียบกับตอน MG3 เปิดตัวแล้วก็พอๆ กัน ทำให้ดูแล้วมีความเป็นไปได้ที่ยอดขายจะทรงๆ ที่ราวๆ 300 คันต่อเดือน ถ้ารถไม่ได้มีปัญหาร้ายแรงอะไร
ถ้าอิงตามตัวเลขในอดีต อัตราการเติบโตอาจเปลี่ยนจากเดือนละ 300 เป็นเดือนละ 600+ ภายในเวลาแค่ 2 ปี
ดังนั้นใน 3 ปีเราอาจเห็นรถยนต์ไฟฟ้าวิ่งในกทม. ราวๆ 10,000 คัน หรืออาจเติบโตแบบก้าวกระโดดเพราะรถญี่ปุ่นก็จะเข้ามาตลาดนี้ราวๆ ปี 2022
ผมเชื่อว่ารถไฟฟ้าในไทย เกิดไวแน่ๆ ครับ อย่างน้อยก็ใรกทม. เผื่อฝุ่นมันจะลดลงบ้างเล็กน้อยก็ยังดี
-
ดีครับ
จะได้มีเสียงคนใช้งาน ev จริงๆ
ว่า บ้านเราเหมาะสมที่จะใข้ รถยนต์ไฟฟ้า แบบจริงจัง ได้หรือยัง
เพราะเวลามีคำถามแบบนี้ขึ้นมา มักจะมีคำตอบสองแนวทางเสมอ
ซึ่งส่วนมากก็ตอบจากการคาดเดา
คราวนี้คงมีคนที่ตอบได้จากการใช้งานจริงอ่ะนะ
-
ดีเลย จะได้เห็นแนวทางด้วย
ปล. รัฐบาลควรทำป้ายทะเบียนสีพิเศษให้รถใช้ไฟฟ้านะ
-
chevrolet มีตัวรถไฟฟ้าที่ร่วมือกับ saic (sgmw)หลายตัวเลยครับ
ถ้า MG ทำได้ดีในไทย ผมว่าGM เอาแน่
-
รอจัดการอะไหล่ให้ดีกว่านี้ก่อนแค่กระจกบานหลังยังไม่มีเปลี่ยนให้ รถตลาดวันเดียวก็มีของเลย
-
5555 ผมเชื่อว่ายังไงก็ไม่เกิด ที่มันขายดีเพราะ MG ตั้งราคาไว้คนทั่วไปที่พอมีกำลังเขายังพอซื้อได้เป็นรถคันที่ 3-4 ลองไปสุ่มถามคนซื้อได้ว่าเป็นรถคันแรกหรือรถคันเดียวของบ้านหรือไม่ ลองตั้งราคาเท่ากับนิสสันลีฟก็ได้เห็นผลทันที ค่ายใหญ่ทั่วไปที่จะเอารถมาขายราคาไม่มีทางถูกเหมือน MG ตอนนี้แน่ ๆ อย่างน้อยต้องมี 1.7 ล้านขึ้นไป ราคาคงยังไม่ถูกเร็ว ๆ นี้หรอก แน่นอนว่ามันทำตลาดไม่ได้มากถ้าทำราคาถูกได้จริงเท่ากับ MG คงพอเกิดได้ละ แต่ยากที่จะทำราคานั้น
อีกทั้งลูกค้าคนทั่วไปยังรอจุดชาร์จกันอยู่เลย ต่อไปมีปัญหาแน่ ๆ ผมฟังดูคนบ้านเราคิดมันผิดหลักการของรถไฟฟ้าที่มันเน้นชาร์จที่บ้านไม่ได้เน้นไปชาร์จจุดข้างนอกทั่วไป
-
5555 ผมเชื่อว่ายังไงก็ไม่เกิด ที่มันขายดีเพราะ MG ตั้งราคาไว้คนทั่วไปที่พอมีกำลังเขายังพอซื้อได้เป็นรถคันที่ 3-4 ลองไปสุ่มถามคนซื้อได้ว่าเป็นรถคันแรกหรือรถคันเดียวของบ้านหรือไม่ ลองตั้งราคาเท่ากับนิสสันลีฟก็ได้เห็นผลทันที ค่ายใหญ่ทั่วไปที่จะเอารถมาขายราคาไม่มีทางถูกเหมือน MG ตอนนี้แน่ ๆ อย่างน้อยต้องมี 1.7 ล้านขึ้นไป ราคาคงยังไม่ถูกเร็ว ๆ นี้หรอก แน่นอนว่ามันทำตลาดไม่ได้มากถ้าทำราคาถูกได้จริงเท่ากับ MG คงพอเกิดได้ละ แต่ยากที่จะทำราคานั้น
อีกทั้งลูกค้าคนทั่วไปยังรอจุดชาร์จกันอยู่เลย ต่อไปมีปัญหาแน่ ๆ ผมฟังดูคนบ้านเราคิดมันผิดหลักการของรถไฟฟ้าที่มันเน้นชาร์จที่บ้านไม่ได้เน้นไปชาร์จจุดข้างนอกทั่วไป
ผมว่าคุณเทียบตอนนี้มันผิดเวลาครับ ในตอนนี้คนที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคือคนที่มีกำลังทรัพย์ในระดับหนึ่ง
คุณจะไปเทียบว่าคนที่ใช้ eco car หรือมีรถคันเดียวไม่ซื้อ แน่นอนครับเขาไม่มีเงินไปซื้อ เป็นเรื่องปกติเพราะมันเป็นเทคโนโลยีใหม่
เหมือนตอนโทรศัพท์มือถือเครื่องละแสน คนที่ใช้ก่อนก็คือคนมีเงินแค่หยิบมือเดียวครับ พอคนใช้มากขึ้น ราคาถูกลง เหลือหลักหมื่น คนก็ใช้มากขึ้นตามลำดับ
จนสุดท้ายเทคโนโลยีมันไปไกล ราคาถูกกว่าการมีโทรศัพท์บ้านทุกคนก็ใช้มือถือ
ซึ่งรถมันคงไปช้ากว่ามือถือ เพราะราคาแพงกว่า
แต่ถ้าเทียบสถานการณ์ตอนนี้ผมว่าก็เหมือนโทรศัพท์มือถือแบบบ้องข้าวหลามราคาหลักหมื่นแล้วครับ
จากที่ประเมินว่าอีก 30 ปีกว่าคนไทยจะใช้รถไฟฟ้าแพร่หลาย ผมว่าอาจจะได้เห็นคนใช้รถไฟฟ้า เกิน 50% ภายใน 15 ปีนี้ครับ
-
ถ้าเป็นไปตามที่คุณซิ่งเข้าส้วมวิเคราะห์จะดีมากๆเลยครับ
ต้องขอบคุณคนที่ตัดสินใจซื้อรถ ev ด้วย ว่า เป็นคนที่มีความเป็นผู้นำกล้าตัดสินใจ และใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมมากๆ
รถไฟฟ้าจะได้ค่อยๆเกิดเสียที
ถ้าอนาคต giga factory ในจีนของเทสล่าเสร็จ และทำพวงมาลัยขวาออกมา อาจได้ขับรถที่มีสมรรถนะเท่าbmw m3ในราคา2-3ล้านเพราะะภาษีถูก ทิศทางรถไฟฟ้าน่าจะดีขึ้นไปอีก
และตอนนี้ผู้นำรถไฟฟ้ากำลังเร่งวิจัย super capcityและ แบตเตอรี่solidstage ซึ่งจะเบาและชาร์จได้เร็วกว่าเดิมมากๆ ยิ่งน่าจะเป็นเทรนด์ของโลกมากขึ้นไปอีก (ปัจจุบันsuper charge v3ของเทสล่า ถ้าจำไม่ผิดชาร์จไม่ถึงชั่วโมง วิ่งได้เป็นร้อยโล )
ในวงจรธุรกิจมันต้องมีdemand กับ supplyค่อยๆสนับสนุนเป็นห่วงโซ่กันไป
หมายถึงมีรถ ev บริษัททำแท่นชาร์จก็อยากทำแท่นเพิ่ม
เมื่อมีแท่นชาร์จเพิ่ม คนก็อยากใช้รถev เพิ่มไปเอง
ถ้าใช้รถev กันเยอะๆ อีก4-5 ปี อากาศใน กทม น่าจะดีขึ้นกว่าปัจจุบันแน่นอน
ซึ่งคนที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดก็คือประชาชนอย่างเราๆทุกๆคนที่สุขภาพดีขึ้น นั่นเองครับ
เพราะ มลพิษทางอากาศนอกจากจะเป็นสาเหตุของโรคปอดภูมิแพ้แล้วยังเป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง เส้นเลือดสมอง และอื่นๆอีกมากมาย ทุกวันนี้ คนเสียชีวิตจากมลพิษทางอากาศมากกว่าโรคเอดส์เสียอีก
-
ถ้า nissan leaf ตั้งราคารถไฟฟ้าล้านต้นๆ ZS EV อาจไม่ได้เกิดก็ได้ครับ แต่ถ้า ZS EV เปิดราคา 1.5 ล้าน ในราคานี้ โดยส่วนตัวคงเพิ่มงบก็คงไปออก nissan leaf ดีกว่าครับ เพราะ nissan ยังมีชื่อชั้นประสบการณ์เรื่องรถไฟฟ้าดีกว่า MG ที่พึ่งทำขายออกมารุ่นแรก
-
ดีแล้วครับ มีหนูทดลองเยอะๆอะดีครับ ใครรีบซื้อก่อนเลย ช่วยกันซื้อเยอะๆไม่งั้นรถไฟฟ้าคงไม่เกิด
แต่ผมขอรอดีกว่า อีก10ปีค่อยซื้อก็ยังไม่สาย
-
อย่าเพิ่งโตเถึยงกันเลยครับ ที่ผ่านมาเราโต้เถียงกันบนพื้นฐานของการคาดเดาทั้งนั้น
ข่าวนี้เป็นเรื่องที่น่ายินดีครับ เราจะได้มี feedback จากเจ้าของผู้ใช้จริงเป็นจำนวนมาก
และมีรูปแบบการใช้งานที่หลากหลายออกไป สิ่งใดที่คาดเดากันไว้ ไม่ว่าจะเป็น
ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานจะถูกมาก ค่าซ่อมบำรุงแทบจะไม่มี ตัวรถไม่มีอะไรให้ต้องซ่อม
ก็จะได้รู้กันจริง ๆ กันล่ะคราวนี้ ที่สำคัญ เราจะได้รู้ว่า รถแบบนี้เหมาะกับ lifestyle แบบไหนครับ
-
http://www.headlightmag.com/news-bmw-forecasts-future-of-diesel-and-petrol-engines/
แบบนี้ัราคาน้ำมัน น่าจะถูกลงนะครับ เพราะความต้องการลดลง
-
http://www.headlightmag.com/news-bmw-forecasts-future-of-diesel-and-petrol-engines/
แบบนี้ัราคาน้ำมัน น่าจะถูกลงนะครับ เพราะความต้องการลดลง
ถ้าจะถึงขั้นนั้น น่าจะต้อง Mass แล้วครับ
ตอนนี้อยากเห็นกระบะไฟฟ้า รถบรรทุกไฟฟ้า รถเมล์ไฟฟ้า ถ้ามาครบแบบนั้นน้ำมันถูกลงแน่นอนครับ
-
ถ้ายอด MG ZS EV ขายได้แบบเกินเดือนละ 500 คันต่อเนื่องยาวๆ ผมคิดว่าต้องมีค่ายใหญ่ๆทำออกมาขายแน่นอน และเมื่อมีการแข่งขัน ก็จะมีการพัฒนาเรื่องเทคโนโลยีแบตเตอรี่ ซึ่งอาจมีรถที่วิ่งได้ไกลเกินพันกิโลต่อการชาร์จ 1 ครั้งแน่นอนในอนาคตอันใกล้ อันนี้ก็เดา
-
ถามว่าหมดพันคันแล้วราคาจะเป็นเท่าไหร่ครับ
-
ผมไม่เอากะเค้าด้วยคนนึง โดยเฉพาะตอนนี้
แต่ถ้าจีนไปไว ผมก็ว่าเมืองไทยก็น่าจะไวขึ้นด้วย แต่ผมมองว่ารถไฟฟ้า ไม่เหมาะกับคนใช้รถเมืองไทยเท่าไหร่
แล้วในอนาคต ราคาอาจไม่ได้ลดลงมากอย่างที่คิด ผมว่าที่จีนไปไว เพราะจีนอยากเป็นผู้นำด้านนี้เร่งเอง
การเปลี่ยนแปลงทั่วโลกยังค่อยเป็น ค่อยไป ตามตลาด เทคโนโลยี รวมทั้งราราคาน้ำมัน แล้วจีนมีแร่ที่ทำแบตเตอรี่อยู่เยอะ
ทำให้ได้เปรียบ แต่ในอนาคตแร่ต่างๆเหล่านี้ราคาน่าจะขยับขึ้น ค่าแรงจีนแต่ละปียังขึ้นสูงมาก จนผู้ประกอบการคนจีนบางรายยังบ่นเซทต้นทุนไม่ได้เลย
-
ถ้า mg ทำดี ก็จะสร้างความเชื่อมั่น
ถ้าไม่ดี ก็ม้วนสื่อ ทุกเจ้า ต่อให้ราคาถูกสักเท่าไร
พฤติกรรมคนไทย ยังใช้รถเพื่อตอบทุกโจทย์ที่ต้องการ
ฉะนั้น ล้านนิดๆ งบเท่านี้ ตัวเลือกในตลาด เยอะมาก
ใครจะเสี่ยงกับ hello mg ผมยังมองว่า การชาร์จแบต
เจ้าของ ยังต้องปรับตัว
-
5555 ผมเชื่อว่ายังไงก็ไม่เกิด ที่มันขายดีเพราะ MG ตั้งราคาไว้คนทั่วไปที่พอมีกำลังเขายังพอซื้อได้เป็นรถคันที่ 3-4 ลองไปสุ่มถามคนซื้อได้ว่าเป็นรถคันแรกหรือรถคันเดียวของบ้านหรือไม่ ลองตั้งราคาเท่ากับนิสสันลีฟก็ได้เห็นผลทันที ค่ายใหญ่ทั่วไปที่จะเอารถมาขายราคาไม่มีทางถูกเหมือน MG ตอนนี้แน่ ๆ อย่างน้อยต้องมี 1.7 ล้านขึ้นไป ราคาคงยังไม่ถูกเร็ว ๆ นี้หรอก แน่นอนว่ามันทำตลาดไม่ได้มากถ้าทำราคาถูกได้จริงเท่ากับ MG คงพอเกิดได้ละ แต่ยากที่จะทำราคานั้น
อีกทั้งลูกค้าคนทั่วไปยังรอจุดชาร์จกันอยู่เลย ต่อไปมีปัญหาแน่ ๆ ผมฟังดูคนบ้านเราคิดมันผิดหลักการของรถไฟฟ้าที่มันเน้นชาร์จที่บ้านไม่ได้เน้นไปชาร์จจุดข้างนอกทั่วไป
ผมว่าคนที่มีรถ 3-4 คัน ซึ่งก็แสดงว่าเขามีเงินเยอะมาก บ้านก็หลังใหญ่มากและแพงมากจึงจอดรถได้ 3-4 คัน เขาคงไม่ซื้อ MG คนที่ซื้อ MG น่าจะเป็นรถคันที่สองหรือคันแรกมากกว่า คนพวกนี้ในประเทศไทยมีเป็นล้านคนนะครับ
-
ยุค autopilot ก็กำลังจะมา เค้าพัฒนากันไปไกลจริงๆ ซึ่งรถก็ต้องเป็นไฟฟ้าถึงจะทำได้
เรื่องการเสียบปลั๊กคนไทยอาจไม่สะดวกเพราะเข้าปั้มมีเด็กปั้มมาเติม ไม่เหมือนเมืองนอกที่เติมเองเลยไม่รู้สึกแตกต่าง แต่ที่ชาร์จไร้สายก็มีแล้วแค่เอารถไปจอด เรียกได้ว่ามันสะดวกจนต่อให้น้ำมันถูกคนก็คงไม่คิดใช้รถน้ำมันกัน
ปล. เคยโพสต์เมื่อหลายปีก่อนว่ามีคนทำนายไว้ อีกสิบปีน้ำมันจะถูกกว่าน้ำ ดูท่าทางคงจะเป็นจริง
-
ราคาเริ่มจับต้องได้พอสมเหตุสมผลละสำหรับรถ EV แพงกว่านี้ขายยาก
-
ต้องขอบคุณคนที่กล้าลอง และคนที่ลองคิดว่าคงมีกำลังซื้อระดับนึงอาจจะคันที่ 2 3 4 ในบ้าน
มีคนซื้อดีแล้วครับ จะได้เห็นของจริงว่ารถ EV ใช้จริงจะเป็นยังไงจุดชาร์ทพอมั้ย มีปัญหาอะไรที่คาดไม่ถึงอีก
คิดว่าญี่ปุ่นทั้งหลายคงจับตาอยู่เหมือนกัน ถ้ามันไปได้ดีคงยอมงัดเอาของตัวเองมาร่วมวงเร็วขึ้น
ส่วนเรื่องอะไหล่หรือคุณภาพ MG ต้องพัฒนามากกว่านี้เพิ่มขึ้นเอง ไม่งั้นจะกลายเป็นสะดุดขาตัวเองไปถ้าไปได้ดีตอนนี้ถือว่าแทบจะไม่มีคู่แข่ง EV เลยด้วยซ้ำ เพราะเจ้าอื่นแพงกว่ามาก โอกาสมาแล้วไม่น่าจะปล่อยไปง่ายๆหรอกครับ
-
รอจัดการอะไหล่ให้ดีกว่านี้ก่อนแค่กระจกบานหลังยังไม่มีเปลี่ยนให้ รถตลาดวันเดียวก็มีของเลย
เห็นด้วยครับ การบริการหลังการขายเป็นสิ่งสำคัญ
แต่ผมว่าถ้าตลาดจะเป็นของรถ ev ราคาต้องใกล้เคียงกับ b segment และมีอู่ซ่อมที่แพร่หลายกว่านี้ จุดเติมไฟที่มีกระจายไปสู่ภูมิภาค
-
ข้อได้เปรียบอีกอย่างคือ ZS ตัวเดิมก็ขายได้มากอยู่ อะไหล่หลายชิ้นใช้ร่วมกันได้ สบายใจกว่ายี่ฮ่ออื่นเยอะ
-
ผมมองว่ายาก เหมือนเป็นการพิสูจน์ตัวของ mg มากกว่า
เนื่องจากทำราคามาได้ถูกมาก คนเลยมองระยะสั้นว่า แพงกว่ารถปกตินิดเดียว ออปชั่นล้นๆ แต่ไม่ต้องเติมน้ำมัน เฮ!
ยิ่งมีพวก sense of urgency แจกนี่แจกนั่น 1000คันแรก คุ้มจริงๆ เห็นแล้วยังอยากลองเลย
จะนิยมได้มั้ยคงต้องรอใช้งานไปสัก 4-5เดือน ด้วยที่เป็นรถ mg ถูกละเข้าถึงง่าย
แต่ความเชื่อมั่นในแบรนด์ยังน้อยมาก รถมีปัญหาเยอะสาวกก็อวยไม่ลืมหูลืมตา
รถไฟฟ้าจะเป็นที่นิยมได้ต้องเกิดจากการที่รัฐยื่นมือมาช่วย ไม่ใช่แค่เรื่องราคา แต่เรื่องปั้มชาร์จหรืออื่นๆต้องตามมาด้วย
ตอนนี้ EV เป็นเหมือนกระแส หลายๆห้างทำที่จอดพิเศษมา ทำให้มันดูน่าใช้บวกกับราคาที่ mg ทำมามันดี
อนาคตถ้า EV mass ขึ้นมาจริงๆ ผู้อยู่คอนโดก็จะเริ่มเกิดปัญหา แย่งที่ชาร์จกัน ห้างก็ไม่ได้ไปเมื่อไหร่ก็ได้จอดชาร์จแล้ว
ไหนจะต้องไปแย่งกับพวก ยุโรปเสียบปลั๊กที่ตั้งกรุ๊ปไลน์มาส่งต่อที่จอดกันอีก
ปัญหาเรื่องอะไหล่แพงคงไม่ได้มากมายเท่าไหร่แล้ว แบตก็ถูงลงเยอะจากอดีต แต่ติดตรงรัฐไม่หนับหนุนจริงจัง
-
ผมเชื่อว่ามีบางส่วนที่ซื้อเป็นรถคันเดียวของบ้าน ;D
ดีไม่ดี คันแรกก็คงมีไม่น้อย
เนื่องจากราคารวมถึงของแถม และคำโปรยเรื่องเซอร์วิส
ในเมื่อราคาเท่ากัน ความแรงกินขาดหรือพอฟัดมือ 1 ทุกยี่ห้อ
เป็นคนทั่วไปมีลังเลไม่น้อย บวกกับข่าวต่างๆ
ที่เร่งสร้างความเชื่อความมั่นใจ และกูรูพูดในทางเดียวกัน
รถ EV ๆๆ คืออนาคตของมวลมหามนุษยชาติ
การตลาดที่น่ากลัวจริงๆ เทคนิคแบบการเชียร์หุ้นเลย
อาจจะดีจริง หรืออาจจะมีจุดอ่อนเยอะ รอดูกันต่อไปครับ
-
ถ้าเป็นไปตามที่คุณซิ่งเข้าส้วมวิเคราะห์จะดีมากๆเลยครับ
ต้องขอบคุณคนที่ตัดสินใจซื้อรถ ev ด้วย ว่า เป็นคนที่มีความเป็นผู้นำกล้าตัดสินใจ และใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมมากๆ
รถไฟฟ้าจะได้ค่อยๆเกิดเสียที
ถ้าอนาคต giga factory ในจีนของเทสล่าเสร็จ และทำพวงมาลัยขวาออกมา อาจได้ขับรถที่มีสมรรถนะเท่าbmw m3ในราคา2-3ล้านเพราะะภาษีถูก ทิศทางรถไฟฟ้าน่าจะดีขึ้นไปอีก
และตอนนี้ผู้นำรถไฟฟ้ากำลังเร่งวิจัย super capcityและ แบตเตอรี่solidstage ซึ่งจะเบาและชาร์จได้เร็วกว่าเดิมมากๆ ยิ่งน่าจะเป็นเทรนด์ของโลกมากขึ้นไปอีก (ปัจจุบันsuper charge v3ของเทสล่า ถ้าจำไม่ผิดชาร์จไม่ถึงชั่วโมง วิ่งได้เป็นร้อยโล )
ในวงจรธุรกิจมันต้องมีdemand กับ supplyค่อยๆสนับสนุนเป็นห่วงโซ่กันไป
หมายถึงมีรถ ev บริษัททำแท่นชาร์จก็อยากทำแท่นเพิ่ม
เมื่อมีแท่นชาร์จเพิ่ม คนก็อยากใช้รถev เพิ่มไปเอง
ถ้าใช้รถev กันเยอะๆ อีก4-5 ปี อากาศใน กทม น่าจะดีขึ้นกว่าปัจจุบันแน่นอน
ซึ่งคนที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดก็คือประชาชนอย่างเราๆทุกๆคนที่สุขภาพดีขึ้น นั่นเองครับ
เพราะ มลพิษทางอากาศนอกจากจะเป็นสาเหตุของโรคปอดภูมิแพ้แล้วยังเป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง เส้นเลือดสมอง และอื่นๆอีกมากมาย ทุกวันนี้ คนเสียชีวิตจากมลพิษทางอากาศมากกว่าโรคเอดส์เสียอีก
คิดว่า อีก 5 ปีคนทั่วไปนอกเมืองเริ่มยอมรับ อีก 10 ปี น่าจะเกิดได้
ส่วนตัวคิดว่าเมืองไทยตอนนี้เหมาะกับเครื่อง e-power ของNissan มากกว่าครับ
-
รอราคามือสองครับ
รถไฟฟ้า รถไฮบริด ราคามือสอง น่าเล่นมาก อิอิ
-
รอจัดการอะไหล่ให้ดีกว่านี้ก่อนแค่กระจกบานหลังยังไม่มีเปลี่ยนให้ รถตลาดวันเดียวก็มีของเลย
Toyota รอกระจก 6 เดือนก็มีมาแล้วครับ
-
5555 ผมเชื่อว่ายังไงก็ไม่เกิด ที่มันขายดีเพราะ MG ตั้งราคาไว้คนทั่วไปที่พอมีกำลังเขายังพอซื้อได้เป็นรถคันที่ 3-4 ลองไปสุ่มถามคนซื้อได้ว่าเป็นรถคันแรกหรือรถคันเดียวของบ้านหรือไม่ ลองตั้งราคาเท่ากับนิสสันลีฟก็ได้เห็นผลทันที ค่ายใหญ่ทั่วไปที่จะเอารถมาขายราคาไม่มีทางถูกเหมือน MG ตอนนี้แน่ ๆ อย่างน้อยต้องมี 1.7 ล้านขึ้นไป ราคาคงยังไม่ถูกเร็ว ๆ นี้หรอก แน่นอนว่ามันทำตลาดไม่ได้มากถ้าทำราคาถูกได้จริงเท่ากับ MG คงพอเกิดได้ละ แต่ยากที่จะทำราคานั้น
อีกทั้งลูกค้าคนทั่วไปยังรอจุดชาร์จกันอยู่เลย ต่อไปมีปัญหาแน่ ๆ ผมฟังดูคนบ้านเราคิดมันผิดหลักการของรถไฟฟ้าที่มันเน้นชาร์จที่บ้านไม่ได้เน้นไปชาร์จจุดข้างนอกทั่วไป
ผมว่าคุณเทียบตอนนี้มันผิดเวลาครับ ในตอนนี้คนที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคือคนที่มีกำลังทรัพย์ในระดับหนึ่ง
คุณจะไปเทียบว่าคนที่ใช้ eco car หรือมีรถคันเดียวไม่ซื้อ แน่นอนครับเขาไม่มีเงินไปซื้อ เป็นเรื่องปกติเพราะมันเป็นเทคโนโลยีใหม่
เหมือนตอนโทรศัพท์มือถือเครื่องละแสน คนที่ใช้ก่อนก็คือคนมีเงินแค่หยิบมือเดียวครับ พอคนใช้มากขึ้น ราคาถูกลง เหลือหลักหมื่น คนก็ใช้มากขึ้นตามลำดับ
จนสุดท้ายเทคโนโลยีมันไปไกล ราคาถูกกว่าการมีโทรศัพท์บ้านทุกคนก็ใช้มือถือ
ซึ่งรถมันคงไปช้ากว่ามือถือ เพราะราคาแพงกว่า
แต่ถ้าเทียบสถานการณ์ตอนนี้ผมว่าก็เหมือนโทรศัพท์มือถือแบบบ้องข้าวหลามราคาหลักหมื่นแล้วครับ
จากที่ประเมินว่าอีก 30 ปีกว่าคนไทยจะใช้รถไฟฟ้าแพร่หลาย ผมว่าอาจจะได้เห็นคนใช้รถไฟฟ้า เกิน 50% ภายใน 15 ปีนี้ครับ
นึกถึงเมื่อก่อนตอนใช้โนเกีย ชาร์จทีอยู่ได้เป็นอาทิตย์ ขณะที่สมาร์ทโฟนอยู่ได้วันเดียว ผมไม่เอาด้วยแน่เพราะขี้เกียจชาร์จบ่อยๆ ต้องพกที่ชาร์จไหม ไหนจะต้องหาปลั๊กไฟอีก ไปต่างจังหวัดหวัดจะใช้เน็ตที่ไหน ดูๆแล้วอีกหลาย10ปี ไม่มีทางจะเป็นแมสได้เลย ไหนจะตัวเครื่อง ไหนจะผู้ให้บริการ ไหนจะค่าเน็ตที่แพงระดับหูฉี่ก็ว่าได้ คงกระจุกตัวอยู่ที่ กทม กับเป็นของเล่นคนรวยเท่านั้น ผ่านไปไม่กี่ปี ผมใช้สมาร์ทโฟนเป็นคนท้ายๆด้วยซ้ำ(IPhone 4s)และลืมข้อดีของโนเกียไปหมดแล้ว ยังงงอยู่เลยว่าผ่านจุดนั้นมาได้ยังไง ในนี้มีใครใช้สมาร์ทโฟนหลังจาก iPhone 4s บ้าง
-
รอชมครับ
ไม่กล้าเห็นด้วยหรือโต้แย้งใดๆ
-
ยอด 600 คัน ผมว่า มันเกิดแล้วละ
นี่ MG ZS นะ รถคลาส เดียวกับ CR-V / Mazda CX-5
อย่าลืมสิ นี่รถ CKD นะ MG ไม่ได้ลงทุนไรเลย แค่นำเข้า 555555
ผมไม่ได้หมายถึง EV ต้องมาแทน
แค่มันมี ให้เห็นวิ่งเยอะๆ หน่อยก็พอแล้ว
เป็นก้าวแรกที่ดีครับ สู้ต่อไป MG
-
นึกถึงเมื่อก่อนตอนใช้โนเกีย ชาร์จทีอยู่ได้เป็นอาทิตย์ ขณะที่สมาร์ทโฟนอยู่ได้วันเดียว ผมไม่เอาด้วยแน่เพราะขี้เกียจชาร์จบ่อยๆ ต้องพกที่ชาร์จไหม ไหนจะต้องหาปลั๊กไฟอีก ไปต่างจังหวัดหวัดจะใช้เน็ตที่ไหน ดูๆแล้วอีกหลาย10ปี ไม่มีทางจะเป็นแมสได้เลย ไหนจะตัวเครื่อง ไหนจะผู้ให้บริการ ไหนจะค่าเน็ตที่แพงระดับหูฉี่ก็ว่าได้ คงกระจุกตัวอยู่ที่ กทม กับเป็นของเล่นคนรวยเท่านั้น ผ่านไปไม่กี่ปี ผมใช้สมาร์ทโฟนเป็นคนท้ายๆด้วยซ้ำ(IPhone 4s)และลืมข้อดีของโนเกียไปหมดแล้ว ยังงงอยู่เลยว่าผ่านจุดนั้นมาได้ยังไง ในนี้มีใครใช้สมาร์ทโฟนหลังจาก iPhone 4s บ้าง
ก่อนหน้ามี iPhone 4s
ก่อนมี มือถือ จอสี ดูหนัง ฟัง Mp3 ได้นะครับ ซึ่งก็เป็นช่วงปฏิวัตินั่นละ
คงเหมือนรถไฟฟ้า CKD JAPAN เริ่ม 1.7 ล้าน
คงเหมือนรถไฟฟ้า CKD CHINA เริ่ม 1.2 ล้าน
ต่อไปก็คงมีรถไฟฟ้า ราคาถูก มาคู่กับ การพัฒนาขนาดแบต เพิ่มระยะเวลส ลดขนาด
โลกต้องหมุนไปครับผม ไม่ใช่ย่ำกับที่ โว้วววววว มนุษย์นี่ยอดจริงๆ
-
นึกถึงเมื่อก่อนตอนใช้โนเกีย ชาร์จทีอยู่ได้เป็นอาทิตย์ ขณะที่สมาร์ทโฟนอยู่ได้วันเดียว ผมไม่เอาด้วยแน่เพราะขี้เกียจชาร์จบ่อยๆ ต้องพกที่ชาร์จไหม ไหนจะต้องหาปลั๊กไฟอีก ไปต่างจังหวัดหวัดจะใช้เน็ตที่ไหน ดูๆแล้วอีกหลาย10ปี ไม่มีทางจะเป็นแมสได้เลย ไหนจะตัวเครื่อง ไหนจะผู้ให้บริการ ไหนจะค่าเน็ตที่แพงระดับหูฉี่ก็ว่าได้ คงกระจุกตัวอยู่ที่ กทม กับเป็นของเล่นคนรวยเท่านั้น ผ่านไปไม่กี่ปี ผมใช้สมาร์ทโฟนเป็นคนท้ายๆด้วยซ้ำ(IPhone 4s)และลืมข้อดีของโนเกียไปหมดแล้ว ยังงงอยู่เลยว่าผ่านจุดนั้นมาได้ยังไง ในนี้มีใครใช้สมาร์ทโฟนหลังจาก iPhone 4s บ้าง
ก่อนหน้ามี iPhone 4s
ก่อนมี มือถือ จอสี ดูหนัง ฟัง Mp3 ได้นะครับ ซึ่งก็เป็นช่วงปฏิวัตินั่นละ
คงเหมือนรถไฟฟ้า CKD JAPAN เริ่ม 1.7 ล้าน
คงเหมือนรถไฟฟ้า CKD CHINA เริ่ม 1.2 ล้าน
ต่อไปก็คงมีรถไฟฟ้า ราคาถูก มาคู่กับ การพัฒนาขนาดแบต เพิ่มระยะเวลส ลดขนาด
โลกต้องหมุนไปครับผม ไม่ใช่ย่ำกับที่ โว้วววววว มนุษย์นี่ยอดจริงๆ
ถ้าเทียบกับมือถือ
2G = รถน้ำมันล้วน
3G = รถ hybrid
4G = รถไฟฟ้า EV
5G = ...
-
ยอด 600 คัน ผมว่า มันเกิดแล้วละ
นี่ MG ZS นะ รถคลาส เดียวกับ CR-V / Mazda CX-5
อย่าลืมสิ นี่รถ CKD นะ MG ไม่ได้ลงทุนไรเลย แค่นำเข้า 555555
ผมไม่ได้หมายถึง EV ต้องมาแทน
แค่มันมี ให้เห็นวิ่งเยอะๆ หน่อยก็พอแล้ว
เป็นก้าวแรกที่ดีครับ สู้ต่อไป MG
ZS ไม่ใช่รถคลาสกลุ่มเดียวกับ BRV หรือครับ ตัวถังและเครื่องยนต์ก็เท่าๆกัน
พิจารณาจากรุ่นปรกติ ZS ราคาแค่ครึ่งเดียวของ CRV CX5 เลยครับ หรือผมเข้าใจผิดมาตลอด
-
ดีครับ จะได้รู้ว่าดี ไม่ดี ตรงไหน ยังไง
-
ผมคิดว่า มาแน่นอน
มาก่อนได่เปรียบ
-
อยากให้ยี่ห้อตลาด เอารถไฟฟ้ามาขายบ้างจัง เอาราคาที่จับต้องได้ด้วยนะ
น่าจะขายดีน่าดูเลยครับ :-*
-
ZS ไม่ใช่รถคลาสกลุ่มเดียวกับ BRV หรือครับ ตัวถังและเครื่องยนต์ก็เท่าๆกัน
พิจารณาจากรุ่นปรกติ ZS ราคาแค่ครึ่งเดียวของ CRV CX5 เลยครับ หรือผมเข้าใจผิดมาตลอด
ผมคงเข้าใจผิดครับ ไม่น่าจะถึง CRV CX-5
แต่น่าจะเป็น HR-V CH-R
จากที่ เคยเห็น ผมวามันตัวถังใหญ่กว่า HR-V อีก อยู่ที่จะ จับยัดเครื่องอะไร เพราะรถมองเป็น ขนาด ไม่ใช่เครื่อง
ส่วน BR-V ก็น่าจะ Segment เดียวกัน แต่รถคนละกลุ่มเป้าหมาย
ประเด็นคือ รถจีน ทำราคา ถูกกว่าชาวบ้านเป็น แสนๆ เลยโดนจบยัด คลาสล่าง ตามราคารถ
-
ดี ช่วยกันซื้อเยอะๆ เดี๋ยวตามไป
-
จะมีที่ชาร์ทหน้า 7-11 ไหมครับเนี่ย
แอบอยากลองแต่คิดว่ารอไปอีกสักระยะดีกว่า
-
ปัญหามันอยู่ที่จุดชาร์จนี่แหละ
ที่เราเห็นๆ กันโดยทั่วไปตอนนี้มันเป็นจุดชาร์จแบบ AC สำหรับรถพวกเสียบปลั๊ก PHEV มากกว่า EV
รถ EV นั้นต้องการการชาร์จที่แรงดันสูงกระแสตรงแบบ DC มากกว่า ที่จะทำให้เต็ม 80% ได้ภายใน 30 นาที
ถ้ารถ EV ไปชาร์จด้วยที่ชาร์จในปัจจุบันเป็น AC นี่คงไม่ไหวจะรอแน่ๆ อาจ 6-8 ชั่วโมง ซึ่งนั่นไม่ตอบโจทย์การเดินทางไกลแน่นอน
และเห็นด้วยว่า มุมมองคนทั่วไปคือคิดว่า ถ้ามันวิ่งได้สัก 150-200 กม. ที่ทำงานเดินทางไปกลับไม่เกินวันละ 100 กม. ชาร์จที่บ้านเอาทั้งคืนก็คงได้ EV ในปัจจุบันมันจะเหมาะกับคนกลุ่มนี้มากกว่า
https://www.youtube.com/watch?v=Or0_kNM7KkI
-
ผมว่ามันเกิดนะ โดยเฉพาะคนที่ใช้รถไม่เกินวันละ 250 กม เหมาะกับรถ EV มากๆ (และเอาเข้าจริงน่าจะมีอยู่เยอะพอสมควร)
คนส่วนใหญ่กังวลแต่กับเเรื่องจุดชาร์จไฟ จนลืมกันไปหรือเปล่าว่ามันชาร์จที่บ้านได้ ถ้าปัจจุบันคุณใช้รถน้ำมันแล้วเติมน้ำมันสัปดาละ 2 ครั้ง คำนวณคร่าวๆ คุณอาจจะใช้เวลาแค่ครึ่งเดียวจากสเปคด้วยซ้ำถ้า ชาร์จไฟไว้ทุกคืน
และผมมองว่าการทำสถานีชาร์จไฟ มันง่ายกว่า ลงทุนน้อยกว่าการสร้างปั๊มน้ำมันมหาศาล อีกหน่อย ตามหมู่บ้าน หรือร้านค้าเล็กๆ ริมถนน อาจติดป้ายรับชาร์จไฟรถ EV ได้ด้วยซ้ำ. คล้ายๆ ปั๊มน้ำมันหลอดนั่นแหละ แถมมีอุปกรณ์ชาร์จแบบพกพาไปชาร์จได้ทุกที่ ถึงจะช้าแต่ก็กลับบ้านได้แน่นอน
ข้อเสียของ รถ EV ก็คือถ้าต้องเดินทางไกลไปเที่ยว ตจว มันจะเสียเวลาที่ต้องหยุดรถชาร์จไฟบ่อยๆแค่นั้น
-
ส่วนตัวผมไม่คาดเดาและไม่คาดการณ์ล่วงหน้า ขอรอดูอย่างเดียวครับ เกิดจริงก็มีค่ายอื่นลงมาแย่งส่วนแบ่งการค้าอยู่แล้ว เมื่อไรก็เมื่อนั้นรอได้
-
รอราคา Model Y เลยว่าจะดีแค่ไหน
-
นึกถึงเมื่อก่อนตอนใช้โนเกีย ชาร์จทีอยู่ได้เป็นอาทิตย์ ขณะที่สมาร์ทโฟนอยู่ได้วันเดียว ผมไม่เอาด้วยแน่เพราะขี้เกียจชาร์จบ่อยๆ ต้องพกที่ชาร์จไหม ไหนจะต้องหาปลั๊กไฟอีก ไปต่างจังหวัดหวัดจะใช้เน็ตที่ไหน ดูๆแล้วอีกหลาย10ปี ไม่มีทางจะเป็นแมสได้เลย ไหนจะตัวเครื่อง ไหนจะผู้ให้บริการ ไหนจะค่าเน็ตที่แพงระดับหูฉี่ก็ว่าได้ คงกระจุกตัวอยู่ที่ กทม กับเป็นของเล่นคนรวยเท่านั้น ผ่านไปไม่กี่ปี ผมใช้สมาร์ทโฟนเป็นคนท้ายๆด้วยซ้ำ(IPhone 4s)และลืมข้อดีของโนเกียไปหมดแล้ว ยังงงอยู่เลยว่าผ่านจุดนั้นมาได้ยังไง ในนี้มีใครใช้สมาร์ทโฟนหลังจาก iPhone 4s บ้าง
ก่อนหน้ามี iPhone 4s
ก่อนมี มือถือ จอสี ดูหนัง ฟัง Mp3 ได้นะครับ ซึ่งก็เป็นช่วงปฏิวัตินั่นละ
คงเหมือนรถไฟฟ้า CKD JAPAN เริ่ม 1.7 ล้าน
คงเหมือนรถไฟฟ้า CKD CHINA เริ่ม 1.2 ล้าน
ต่อไปก็คงมีรถไฟฟ้า ราคาถูก มาคู่กับ การพัฒนาขนาดแบต เพิ่มระยะเวลส ลดขนาด
โลกต้องหมุนไปครับผม ไม่ใช่ย่ำกับที่ โว้วววววว มนุษย์นี่ยอดจริงๆ
หมายถึงผมพวกหัวเก่าหนะครับ กว่าจะลงเล่นสมาร์ทโฟนก็ล่อไป IPhone 4s แล้ว ตอนนั้นหันไปทางไหนก็สมาร์ทโฟนกันหมด มาไวไม่ทันตั้งตัว ครั้นจะหาซื้อโทรศัพท์ธรรมดาก็แทบจะหาไม่ได้แล้ว ก็จำใจเปลี่ยน เพราะเราหยุดโลกไม่ได้ สุดท้ายก็เลือนๆไปว่าเมื่อก่อนชาร์จทีวิ่งได้ 5-600โล เอ้ย...อยู่ได้เป็นอาทิตย์ เมื่อก่อนไม่มีให้เห็นหรอกครับ ไม่ว่าจะหันไปที่ไหนเจอแต่คนนั้งกระจุกอยู่ใกล้ๆปลั๊กไฟ เดี๋ยวนี้ที่นั่งบนเครื่องบินยังมีช่องusbให้เลย(หมายถึงไม่ว่าใครต่อใครก็จะพร้อมใจอำนวยความสะดวกให้สมาร์ทโฟน)
เปรียบเทียบกับรถ ต่อไปคนก็ต้องพกสายชาร์จ พกเครื่องปั่นไฟ(ถ้ามือถือก็ power bank) แล้วก็ลืมๆไปว่าเมื่อก่อนรถวิ่งได้ 5-600กิโล แล้วก้มหน้าก้มตาใช้รถที่วิ่งได้ครั้งละ 2-300โล ถึงอยากจะใช้รถน้ำมัน แต่การควบคุมคุณภาพก็ลดลง ทั้งปั๊ม ทั้งรถ ทั้ง0 พอเสียช่างทั่วไปก็ไม่เก่งอีก เจอช่างเก่งๆอะหลั่ยก็เป็นของเทียบหรือเชียงกงอีก จะใช้ของแท้ก็ไม่ไหวเป็นของนิชราคาก็ยิ่งแพงขึ้นไปอีก ซ่อมเสร็จประสิทธิภาพก็ดรอปลงไปเรื่อยๆ สุดท้ายช่างก็จะไล่ให้ไปใช้รถไฟฟ้าท่าเดียว ลูกๆช่างก็ให้ไปเรียนวิศวะไฟฟ้าแทนเครื่องยนต์ กว่าจะจบอีกทีก็ 4-5ปี พอดีมารับงานรถไฟฟ้าต่อ
สุดท้ายไม่ต้องรอหรอกครับ จะให้วิ่งได้ครั้งละ 4-500โล(ใช้จริงไม่ใช่ ตัวเลขเครม) เพราะพอแบตจุขึ้น มอเตอร์กับส่วนอื่นก็จะพัฒนามากขึ้นแต่ก็ใช้ไฟเยอะขึ้นตาม เหมือนแบตมือถือพอแบตมากขึ้นก็เจอ GPUแรงๆ จอ HD แล้วก็ UHD ตอนเปลี่ยนผ่านเป็นสมาร์ทโฟนใช้เวลาแค่5ปี แต่หลังจากนั้น 10 ปี แบตจุขึ้น เบาขึ้น ชาร์จเร็วขึ้น แต่มือถือก็ยังต้องชาร์จทุกวันอยู่ดี เพราะทิศทางการพัฒนามันมุ่งไปทิศทางอื่นก่อน
ที่พูดมาทั้งหมดไม่ต้องเชื่อผม ผมแค่มโนไปเรื่อยเปื่อย แต่ลูกผมวันนี้ถ้าอยากจะเรียนเครื่องยนต์ผมจะเบรกๆไว้ก่อน ให้ไปเรียนเกี่ยวกับไฟฟ้าเว้นแต่ใจรักสุดๆก็แล้วไป
-
ส่วนตัวคงไม่กล้าคาดเดาอะไรมาก แต่สิ่งนึงที่ทำให้คนไม่กล้ามองข้าม MG คือการที่มี CP ร่วมหุ้นด้วยนี่แหละครับ
True ที่ว่าจะเน่าไปหลายครั้งยังอุ้มมาจนถึงตอนนี้ที่ขยับมาเป็บเบอร์ 2 แล้ว น่าดูจริงๆว่า MG จะเป็นยังงัยต่อไป
-
ปกติผมยี้ ZS ที่ประกอบไทย เพราะรู้ๆกันอยู่ว่า Defect เยอะแค่ไหน ขนาดน้องที่รู้จักยังเจอปัญหา
แต่กับ ZS-EV ประกอบจีน ในระยะยาวผมกลับเชื่อว่าดีกว่า
หรือเพราะใช้ชีวิตอยู่ที่ Shenyang คนที่นู้นใช้รถกันแบบมือห่างเท้าห่าง ลูกระนาดไม่เคยเบรค หลุมไม่เคยหลบ แต่รถก็ยังอยู่ได้
เพื่อนผมตา Bill ใช้ Buick Regal 1.5 เทอร์โบ ใช้รถได้สุดจริงๆ แถมวิ่งจากเสิ่นหยางไปฮาร์บินตลอด รถแม่มก็อยู่ได้
ผมเลยเชื่อว่า ZS ที่ประกอบจีนแต่อยู่ไทย น่าจะรอดได้สบายครับ
ชักจะอยากลองแล้วสิ
-
มันตอบโจทย์คนใช้ในเมืองเยอะครับ ไหนจะจอดเปิดแอร์รอใครในรถก็ได้ ไม่ปล่อยไอเสียเลย ลุยน้ำท่วมแบบทั่วไปได้ ราคา Options+wall charge ก็เหนือกว่า Nissan กับ Hyundai ที่เหลือก็แค่ความมั่นใจในระบบและแบรนด์ว่าจะเป็นไงต่อ เป็น EV รุ่นแรกของ MG และได้ใช้เป็นที่แรกซะด้วย
แต่ถ้าคาดหวังเอาไปเที่ยวด้วยคงลำบากพอดู แค่ไปกลับหัวหินรวมแวะเที่ยวด้วย 600กม.ก็ต้องชาร์ตเต็มจากบ้าน+Fast Chrage อีกอย่างน้อย 2-3ครั้ง
คิดว่า 1000 คันน่าจะหมดในเดือนนี้แหละครับ ยิ่งถ้ามีรีวิวออกมาแล้วไม่เจอ Defect อะไร
-
ซื้อกันเยอะๆดีแล้วครับ ผมรอfeedback
ขอเป็นผู้ตามงานนี้ 8)
-
ส่วนตัวยังไม่ไว้ใจรถMGแต่ถือว่าเป็นการเขย่าบัลลังเจ้าตลาดได้ดีเลยครับ5555 :-* :-* :-*
-
จองเยอะขนาดนี้น่าจะเอาสีอื่นมาด้วย
-
อารมณ์เหมือนมือถือเลย รถไฟฟ้ายุคนี้
I phone แพงกว่า Samsung เยอะอยู่ >> Tesla
Sony ที่แพงแบบไม่ค่อยมีเหตุมีผลเท่าไหร่ >> Nissan Leaf
Samsung ตัวบนๆ 2 หมื่นกว่า >> Hyundai Ionic/Kona
Smartphone จีนที่สเปคพอๆกัน ราคาถูกกว่าเกือบจะครึ่งนึง >> MG EZS
-
ผมว่ากลุ่มคนที่จะซื้อรถ EV ตอนนี้ก็เป็นคนที่มีรถอยู่แล้ว คนที่สองของบ้าน เอาใว้ขับไปจ่ายตลาด เดินห้าง คนแรกของบ้านคงยังไม่ใช่ตอนนี้
-
ผมว่ากลุ่มคนที่จะซื้อรถ EV ตอนนี้ก็เป็นคนที่มีรถอยู่แล้ว คนที่สองของบ้าน เอาใว้ขับไปจ่ายตลาด เดินห้าง คนแรกของบ้านคงยังไม่ใช่ตอนนี้
มันเป็นรถพลังงานสะอาดครับ ไม่ปล่อยควันดำ กลุ่ม รักโลก คงซื้อไว้ใช้ เหมือนเครื่องประดับ
จริงๆ ระบบ มันจุกจิก น้อยกว่าเครืองยนต์สันดาปเยอะเลย
-
ผมแค่สงสัยว่าถ้าเจอวันฝนตกรถติดแล้วติดมากช่วงค่ำซึ่งต้องใช้เปิดระบบไฟฟ้าเกือบทั้งหมด ไฟหน้า แอร์ ปัดน้ำฝน จะรอดถึงบ้านมั๊ย
แล้วถ้าแบตหมดระหว่างทางจะแก้ปัญหายังไงครับ ถ้ายอดขายเยอะ ต่อไปต้องเห็นรถไฟฟ้าแบตหมดบนถนนบ่อยแน่นอน :)
-
ผมแค่สงสัยว่าถ้าเจอวันฝนตกรถติดแล้วติดมากช่วงค่ำซึ่งต้องใช้เปิดระบบไฟฟ้าเกือบทั้งหมด ไฟหน้า แอร์ ปัดน้ำฝน จะรอดถึงบ้านมั๊ย
แล้วถ้าแบตหมดระหว่างทางจะแก้ปัญหายังไงครับ ถ้ายอดขายเยอะ ต่อไปต้องเห็นรถไฟฟ้าแบตหมดบนถนนบ่อยแน่นอน :)
เป็นคำถามที่คนไม่มีความรู้เรื่อง EV เข้าใจผิดเยอะครับ
ต้องเข้าใจก่อนว่าสภาวะรถติดที่รถสันดาปกินน้ำมันมากเพราะต้องปั่นไฟเลี้ยงแอร์ และเวลาออกตัวใช้น้ำมันมากดพราะต้องฉีดน้ำมัน เร่งรอบเครื่องให้มีบิดพอ ไปๆ หยุดๆ
แต่รถยนต์ไฟฟ้าระบบแอร์ไม่เหมือนกัน ใช้ไฟจากแบตเตอรี่ล้วน เท่าที่ทราบมาเปิดแอร์นอนในรถได้ประมาณ 18 ชั่วโมง สำหรับแบต 44 kWh
คือถ้ารถมันจะอยู่นิ่ง 18 ชั่วโมง ผมว่ารถน้ำมันก็คงหมดเหมือนกันครับ ไม่ใช่แค่รถไฟฟ้าครับ
-
ถ้ากลัวเปลืองไฟก็ปิดแอร์ครับ ฝนตกคงไม่ร้อนมาก ถ้ามีกันสาดก็เปิดหน้าต่างแง้มๆ
-
ไม่คิดว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันจะใส่ใจเรื่องนี้ครับ 8)
ปล. รอรัฐบาลหน้าหน้า
-
ดีครับ เชียร์ MG EV ขอให้ขายได้เยอะๆ และเอาสีอื่นมาขายด้วยจะดีมากๆ
เพราะการรอและหวังให้พวกเจ้าตลาดมาผลิตขายในไทยคงอีกนาน และถึงมาก็ออฟชั่นดีๆมักจะไม่มีให้เสมอ อีกทั้งราคาแพงเว่อร์
MG สู้ๆ
-
มีคนรอบ ๆ ตัวผม 2-3 คน ที่ไปจอง ....แต่คนกลุ่มนี้คือกลุ่มคนมีตังค์ บ้านมี benz - bmw กันหมด เคยไปแซะถามว่า ถ้าเอาส่วนต่างค่าตัวรถระหว่าง ZS ปกติ คับ ZS EV มาเป็นค่าน้ำมัน มันเติมได้เกิน 5 ปีอีก ก็โดนตอบมาว่า แค่อยากลองรถ EV บ้างไรบ้าง (แต่ก็ไม่ได้ถามกลับไปอีกรอบว่า แล้วทำไมไม่เอา Nissan Leaf )
-
เป็นกลุ่มลูกค้าชุดแรกที่เป็นผู้บุกเบิกจริงๆนั่นแหละ :-X หลังจากนี้ไปแล้วก็มาดูกันว่าMGจะยังให้คนครหาว่าอะไหล่ไม่มีให้อีกไหม เรื่องของสถาณีชาร์จจะมีใครเข้ามาจัดการเพิ่มเพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งานบ้าง กลุ่มลูกค้านำร่องมีแล้วตอนนี้ถึงตาพิสูจน์ใจฝ่ายสนุบสนุนบ้าง ::) แต่ผมก็ไม่คิดว่าMGจะไม่ทำอะไรเพิ่มให้คนหมดความมั่นใจเพราะที่ผ่านมาก็มีแต่คนครหารังเกียจว่ารถจีนของห่วยตั้งแต่วันแรกที่เปิดตัว แต่MGก็โตเอาๆๆขยายรุ่นทำตลาดเพิ่มตอนนี้กล้าเอารถพลังงานไฟฟ้ามาบุกเบิกแล้ว ถึงผมไม่คิดซื้อMGแต่ก็อยากให้ขายดีได้รับการตอบรับสนันสนุนที่ดีเพื่อที่รถสัญชาติอื่นๆจะได้เอารุ่นทางเลือกอื่นๆมาขายในบ้านเราบ้าง :D
-
ผมว่ามันตอบโจทย์กับรถคัน ที่ 3 ไว้ขับไปทำงาน ไปส่งลูก เป็นหลักนะครับ
จะไปเที่ยว ตจว. คงใช้คันอื่นไป
แต่ปัญหาจะเกิดสำหรับคนอยู่ คอนโด หรือบ้านทาวเฮาส์ที่จอดรถในบ้านไม่ได้
-
มีคนรอบ ๆ ตัวผม 2-3 คน ที่ไปจอง ....แต่คนกลุ่มนี้คือกลุ่มคนมีตังค์ บ้านมี benz - bmw กันหมด เคยไปแซะถามว่า ถ้าเอาส่วนต่างค่าตัวรถระหว่าง ZS ปกติ คับ ZS EV มาเป็นค่าน้ำมัน มันเติมได้เกิน 5 ปีอีก ก็โดนตอบมาว่า แค่อยากลองรถ EV บ้างไรบ้าง (แต่ก็ไม่ได้ถามกลับไปอีกรอบว่า แล้วทำไมไม่เอา Nissan Leaf )
ลีฟมีอะไรดีกว่าครับ ราคาก็สูง kona ยังน่าใช้กว่าถ้าไม่ติดเรื่องศูนย์
-
มีคนรอบ ๆ ตัวผม 2-3 คน ที่ไปจอง ....แต่คนกลุ่มนี้คือกลุ่มคนมีตังค์ บ้านมี benz - bmw กันหมด เคยไปแซะถามว่า ถ้าเอาส่วนต่างค่าตัวรถระหว่าง ZS ปกติ คับ ZS EV มาเป็นค่าน้ำมัน มันเติมได้เกิน 5 ปีอีก ก็โดนตอบมาว่า แค่อยากลองรถ EV บ้างไรบ้าง (แต่ก็ไม่ได้ถามกลับไปอีกรอบว่า แล้วทำไมไม่เอา Nissan Leaf )
ลีฟมีอะไรดีกว่าครับ ราคาก็สูงกว่าอีก
Leaf เป็นรถที่ออกแบบมาเป็น EV โดยตรง การวาง layout ของ platform มัน born to be น่ะครับ
ส่วน MG ก็นั่นล่ะครับ อีกไม่นานเราก็จะได้รู้กันละ เพียงแต่ว่ามันอาจจะ ok ไร้ที่ติก็ได้ครับ
-
มีคนรอบ ๆ ตัวผม 2-3 คน ที่ไปจอง ....แต่คนกลุ่มนี้คือกลุ่มคนมีตังค์ บ้านมี benz - bmw กันหมด เคยไปแซะถามว่า ถ้าเอาส่วนต่างค่าตัวรถระหว่าง ZS ปกติ คับ ZS EV มาเป็นค่าน้ำมัน มันเติมได้เกิน 5 ปีอีก ก็โดนตอบมาว่า แค่อยากลองรถ EV บ้างไรบ้าง (แต่ก็ไม่ได้ถามกลับไปอีกรอบว่า แล้วทำไมไม่เอา Nissan Leaf )
ลีฟมีอะไรดีกว่าครับ ราคาก็สูงกว่าอีก
Leaf เป็นรถที่ออกแบบมาเป็น EV โดยตรง การวาง layout ของ platform มัน born to be น่ะครับ
ส่วน MG ก็นั่นล่ะครับ อีกไม่นานเราก็จะได้รู้กันละ เพียงแต่ว่ามันอาจจะ ok ไร้ที่ติก็ได้ครับ
คนทั่วไปเขาไม่สนหรอกครับว่ามันเป็น EV Platform มั้ย เขาสนว่ามันวิ่งได้เท่าไร อ็อปชั่นดีมั้ย ราคาสมเกตุสมผลมั้ย
คนมีตัง ไม่ได้แปลว่าสุรุ่ยสุร่ายนะครับ เป็นผมมอง ลีฟวิ่งได้ 247 km เบาะปรับมือ อ็อปชั่นอย่างโล้น ข้อดีที่เหนือกว่า ZS EV ที่คนทั่วไปสัมผัสได้มีแค่เบาะหนังกลับ แค่นั้นจริงๆ
ใครจะยอมจ่ายเพิ่ม 7 แสนเพื่อซื้อ EV Platform (ที่ก็ขับแล้วไม่เห็นความต่าง) กับเบาะหนังกลับล่ะครับ
-
มีคนรอบ ๆ ตัวผม 2-3 คน ที่ไปจอง ....แต่คนกลุ่มนี้คือกลุ่มคนมีตังค์ บ้านมี benz - bmw กันหมด เคยไปแซะถามว่า ถ้าเอาส่วนต่างค่าตัวรถระหว่าง ZS ปกติ คับ ZS EV มาเป็นค่าน้ำมัน มันเติมได้เกิน 5 ปีอีก ก็โดนตอบมาว่า แค่อยากลองรถ EV บ้างไรบ้าง (แต่ก็ไม่ได้ถามกลับไปอีกรอบว่า แล้วทำไมไม่เอา Nissan Leaf )
ลีฟมีอะไรดีกว่าครับ ราคาก็สูงกว่าอีก
Leaf เป็นรถที่ออกแบบมาเป็น EV โดยตรง การวาง layout ของ platform มัน born to be น่ะครับ
ส่วน MG ก็นั่นล่ะครับ อีกไม่นานเราก็จะได้รู้กันละ เพียงแต่ว่ามันอาจจะ ok ไร้ที่ติก็ได้ครับ
คนทั่วไปเขาไม่สนหรอกครับว่ามันเป็น EV Platform มั้ย เขาสนว่ามันวิ่งได้เท่าไร อ็อปชั่นดีมั้ย ราคาสมเกตุสมผลมั้ย
คนมีตัง ไม่ได้แปลว่าสุรุ่ยสุร่ายนะครับ เป็นผมมอง ลีฟวิ่งได้ 247 km เบาะปรับมือ อ็อปชั่นอย่างโล้น ข้อดีที่เหนือกว่า ZS EV ที่คนทั่วไปสัมผัสได้มีแค่เบาะหนังกลับ แค่นั้นจริงๆ
ใครจะยอมจ่ายเพิ่ม 7 แสนเพื่อซื้อ EV Platform (ที่ก็ขับแล้วไม่เห็นความต่าง) กับเบาะหนังกลับล่ะครับ
มันก็ได้แหละพี่ ต่างกันตั้ง 7 แสน ยังไงก็ซื้อ MG แหละพี่
แต่ยัง EV ที่เอา Engine ออก วาง motor ที่เบากว่าลงไป
เอา battery แปะไว้ใต้ท้องรถจากข้างล่าง ยังไงบาล้านซ์
ของรถรวมไปถึงระบบอะไรๆ ที่มาจากการดัดแปลง มันก็ย่อมสู้
สิ่งที่ออกแบบมาให้มันเป็น EV โดยเฉพาะไม่ได้ฮะ
แต่ถามว่าแล้วไง ใครแคร์?
มันใช้ได้มั้ย ... ก็ใช้ได้สิ
มันวิ่งได้มั้ย ... ก็วิ่งได้สิ
ไม่เถียงเลยฮะ
ก็มันถูกกว่าตั้ง 7-8 แสน
ยังไงก็จบด้วย MG แหละฮะพี่
แต่ถ้าถามว่า แล้ว Leaf ดีว่าตรงไหน
... ก็ตรงที่ตอบไปข้างบนล่ะฮะ
ส่วนสิ่งที่ดีกว่านั้น คุ้มกับเงิน 7-8 แสนมั้ย
ยอดขายที่เห็นคือคำตอบครับพี่ครับ...
-
มีคนรอบ ๆ ตัวผม 2-3 คน ที่ไปจอง ....แต่คนกลุ่มนี้คือกลุ่มคนมีตังค์ บ้านมี benz - bmw กันหมด เคยไปแซะถามว่า ถ้าเอาส่วนต่างค่าตัวรถระหว่าง ZS ปกติ คับ ZS EV มาเป็นค่าน้ำมัน มันเติมได้เกิน 5 ปีอีก ก็โดนตอบมาว่า แค่อยากลองรถ EV บ้างไรบ้าง (แต่ก็ไม่ได้ถามกลับไปอีกรอบว่า แล้วทำไมไม่เอา Nissan Leaf )
ลีฟมีอะไรดีกว่าครับ ราคาก็สูงกว่าอีก
Leaf เป็นรถที่ออกแบบมาเป็น EV โดยตรง การวาง layout ของ platform มัน born to be น่ะครับ
ส่วน MG ก็นั่นล่ะครับ อีกไม่นานเราก็จะได้รู้กันละ เพียงแต่ว่ามันอาจจะ ok ไร้ที่ติก็ได้ครับ
คนทั่วไปเขาไม่สนหรอกครับว่ามันเป็น EV Platform มั้ย เขาสนว่ามันวิ่งได้เท่าไร อ็อปชั่นดีมั้ย ราคาสมเกตุสมผลมั้ย
คนมีตัง ไม่ได้แปลว่าสุรุ่ยสุร่ายนะครับ เป็นผมมอง ลีฟวิ่งได้ 247 km เบาะปรับมือ อ็อปชั่นอย่างโล้น ข้อดีที่เหนือกว่า ZS EV ที่คนทั่วไปสัมผัสได้มีแค่เบาะหนังกลับ แค่นั้นจริงๆ
ใครจะยอมจ่ายเพิ่ม 7 แสนเพื่อซื้อ EV Platform (ที่ก็ขับแล้วไม่เห็นความต่าง) กับเบาะหนังกลับล่ะครับ
มันก็ได้แหละพี่ ต่างกันตั้ง 7 แสน ยังไงก็ซื้อ MG แหละพี่
แต่ยัง EV ที่เอา Engine ออก วาง motor ที่เบากว่าลงไป
เอา battery แปะไว้ใต้ท้องรถจากข้างล่าง ยังไงบาล้านซ์
ของรถรวมไปถึงระบบอะไรๆ ที่มาจากการดัดแปลง มันก็ย่อมสู้
สิ่งที่ออกแบบมาให้มันเป็น EV โดยเฉพาะไม่ได้ฮะ
แต่ถามว่าแล้วไง ใครแคร์?
มันใช้ได้มั้ย ... ก็ใช้ได้สิ
มันวิ่งได้มั้ย ... ก็วิ่งได้สิ
ไม่เถียงเลยฮะ
ก็มันถูกกว่าตั้ง 7-8 แสน
ยังไงก็จบด้วย MG แหละฮะพี่
แต่ถ้าถามว่า แล้ว Leaf ดีว่าตรงไหน
... ก็ตรงที่ตอบไปข้างบนล่ะฮะ
ส่วนสิ่งที่ดีกว่านั้น คุ้มกับเงิน 7-8 แสนมั้ย
ยอดขายที่เห็นคือคำตอบครับพี่ครับ...
เห็นภาพเลย แถมให้อีกข้อแล้วกัน
ซื้อลีฟมา ขับไปสามปี ขายต่อ คงได้ราคาราวๆ mg zs ที่ซื้อวันนี้
ถ้าแค่อยากลองขับ ก็ซื้อ zs ในวันนี้ไปเลย
คนรวยเค้าซื้อของเล่นกันแบบคุ้มค่าเหมือนกันนะครับ ^^
-
สำหรับผม จองไปตั้งแต่วันที่22/6 แล้ว ตอนแรกกะจะผ่อน กลัวจะไม่ได้รถเลยบอกเซลล์ซื้อสดเลยกลัวจะหลุด 1000 คันแรก(เพิ่งมารู้ทีหลังว่าใช้ระบบใครออกรถก่อนได้สิทธก่อน) ที่ตัดสินใจเร็วเพราะ คำว่า 8ปีไม่จำกัดระยะทาง และได้ wall charger แถมมาอีก
ตอบจากใจตรงๆ ผมชอบรูปทรงรถ mg zs มานานแล้วติดตามก่อนจะออกมาเป็นปีๆ พอมาเจอเรื่องสมรรถนะรถ ที่อืด0-100 17วิ นี่ออกอาการอกหักเลยไปออกมาสด้า2 ใหม่มาแทน พอมารู้ข่าว ev zs ออกไม่รอช้าเพราะจากไปลองมาสั้นๆในงาน fast มันโอเคมากๆ ชอบช่วงล่าง กับอัตราเร่งและงานประกอบของจีนที่ดูดีกว่าของไทยมาก ในงานมีจอดเทียบกับรถน้ำมัน
ผมทำงานนครปฐม บ้านอยู่กทม.วิ่งไปกลับ 120 km.ทุกวัน 2 วันชาร์ทไฟที่บ้านที มันโอเคเพราะสามารถกำหนดเส้นทางได้ชัดเจน ช่วงหลังดูคลิป รถไฟฟ้าจีนแล้วทำให้ทัศนคติว่าจีนทำของห่วยๆและวัสดุเกรดต่ำๆนี้หายไปจากความคิดผมเลยแถมยังมองว่า งานออกแบบรถรุ่นใหม่ๆและราคาขายในจีนรถ suv คันใหญ่ๆสวยโครตๆ ราคา2-3ล้านบาทเอง (อิจฉาคนจีนมากๆ)
ในเมื่อmg กล้าที่จะลุยตลาดทำราคารถที่คนฐานะปานกลางค่อนข้างไปทางกลางต่ำอย่างผมได้มีโอกาสได้ทดลองเทคโนโลยีใหม่ๆ เลยไม่ยอมพลาดโอกาสอย่างแน่นอน ลองก่อนใช้ก่อน เจ็บก่อน อนาคตไม่มีใครรู้ของมันต้องลองครับ แว่วๆ มาว่ารัฐบาลจะออกมาตราการเก็บภาษีการกำจัดแบตตารี่เพิ่มอีกในอนาคตถือซะว่าซื้อตอนนี้ได้ของถูกก่อนโดนภาษีแบตครับ
-
จากการที่มีรถ MG ZS EV วิ่งบนถนนมาขึ้น ต้องเรียกได้ว่าคงจะมีคนสนใจรถไฟฟ้ากันมากขึ้นและเป็นที่กล่าวขานถึง
แต่จะเป็นที่นิยมไหม ผมว่า ในไทยคงต้องรออีกอย่างน้อย หลังปี 2023 ได้นะด้วยหลายๆปัจจัย
1. ด้วยข้อจำกัดของรถที่ระยะต่อการชาร์ตแค่300 km แบบแค่ใช้ในเมือง ถ้าวิ่งไปกลับกทมพัทยา ถ้าหาที่ชาร์ตระหว่างทางไม่ได้ก็อาจจะต้องมีเข็นหรือรอรถมาลากได้ และเชื่อว่าที่ชาร์ตยังม่ค่อนข้างจำกัด จำนวนที่ชาร์ตสาธารณะต้องมีอย่างน้อย 35-40% ของจำนวนรถนะ ในรัศมี150 km ห่างจากกทมนะ สมมติมีรถไฟฟ้าที่วิ่งกันสัก 3000 คันในปีนี้นะ ภายในปีนี้ก็ควรต้องมีที่ชาร์ตสาธารณะสัก 1,100-1,200 แท่น แต่ถ้าสมมติภายในสิ้นปี 2020 มีรถไฟฟ้าสัก 10,000 คันจะมีที่ชาร์ตถึง 4,000 แท่นแล้วหรือยัง
2. ถ้าระยะเวลาที่ใช้ในการชาร์ตเพื่อให้รถวิ่งได้สัก 150-200 km ยังใช้เวลาเกิน 15-20 นาที ผมว่ามันก็ยังนานเกินไปที่คนใช้ชีวิตทั่วไปจะยอมรับ การใช้รถไฟฟ้า
3. ถ้าสมมติในกทม มีการใช้รถไฟฟ้าเยอะระดับหลายๆหมื่นคัน หรืออาจถึงแสนคันนะ ภายใน 3 ปีนี้ละก็มีปัญหาแน่นอน
เพราะถ้าสมมติในซอยเล็กในกทมมีบ้านสัก 100 กว่าหลังคานะ แต่ดันมีเจ้าของรถไฟฟ้าสัก 10 คันในซอยนั้นขึ้นมา
ถ้าเกิดทำการชาร์ตไฟแบบเร็วๆขึ้นมาในซอยนั้นนะ อาจเกิดเหตุการณ์ทำไฟตกไฟดับทั้งแถบนั้นอยู่กันเป็นประจำต่อเนื่องอาจถึงครึ่งปีได้เลยในบางพื้นที่ ทั่วกทม เพราะมันใช้ไฟจำนวนมาก และการไฟฟ้าไม่กำลังโหลดที่จะจ่ายไฟขนาดนีั้นได้ในบางพื้นที่ ณ ขณะนี้ คงต้องรออีก 3-4 ปี กว่าที่การไฟฟ้าจะเตรียมการได้นะ ลองคิดดูถ้าในบริเวณมีธุรกิจการค้า หรืออะไรสำคัญจะเกิดอะไรขึ้นที่อยู่ดีไฟต้องมาดับกันเป็นชมๆ ในบางพื้นที่ เพราะโหลดไม่พอแล้วไฟดับอ่ะ
ผมว่าด้วยปัจจัยด้วยเทคโนโลยีของแบตเตอรี่ของรถไฟฟ้าที่ทำให้สามารถแข่งขันได้ยัง ไม่เพียงพอกับความต้องการคนส่วนใหญ่ได้จริง
และระบบโครงสร้างพื้นฐานของบ้านเรา ไม่ว่าปริมาณสถานีชาร์ต และ ความสามารถในการจ่ายไฟที่อาจเพียงพอกับโหลดที่มี เนื่องจากทางการไฟฟ้าไม่ได้วางแผนจะมีการใช้ไฟเพิ่มปริมาณมากๆไว้ในหลายๆพื้นที่ จากการใช้รถไฟฟ้าแบบ BEV ถ้ามีจำนวนมากขึ้นมาอย่างรวดเร็วนะ ยังไม่เหมาะกับเมืองไทยจริงๆตอนนี้ แต่ถ้ามีรถไฟฟ้าระดับพันคันหรือหมื่นต้นๆ ปัญหา เรื่องโหลดที่จะเกิดยังไม่ชัดเจนมากนะ แต่ถ้าระดับเกิน 3-4 หมื่นขึ้นไปก่อนปี 2020 นี้น่าจะได้พบปัญหาอย่างที่บอกได้เลยนะ
-
ผมว่า EV มันพร้อมที่จะเกิดอยู่แล้ว
ถ้า "ราคา" มันจับต้องได้
เท่าที่จำความได้ EV ราคาไกล้ๆ 1 ล้าน นี่น่าจะเป็นคันแรกนะ เคยมีต่ำกว่า 1 ล้าน
ก่อนหน้านี้ ยี่ห้อ F... เอามาขาย มีการันตีว่าลุยน้ำได้ โน่น นี่ นั้น แต่มันไม่น่าใช้เลย ดูก๊องแก๊ง
-
สำหรับผม จองไปตั้งแต่วันที่22/6 แล้ว ตอนแรกกะจะผ่อน กลัวจะไม่ได้รถเลยบอกเซลล์ซื้อสดเลยกลัวจะหลุด 1000 คันแรก(เพิ่งมารู้ทีหลังว่าใช้ระบบใครออกรถก่อนได้สิทธก่อน) ที่ตัดสินใจเร็วเพราะ คำว่า 8ปีไม่จำกัดระยะทาง และได้ wall charger แถมมาอีก
ตอบจากใจตรงๆ ผมชอบรูปทรงรถ mg zs มานานแล้วติดตามก่อนจะออกมาเป็นปีๆ พอมาเจอเรื่องสมรรถนะรถ ที่อืด0-100 17วิ นี่ออกอาการอกหักเลยไปออกมาสด้า2 ใหม่มาแทน พอมารู้ข่าว ev zs ออกไม่รอช้าเพราะจากไปลองมาสั้นๆในงาน fast มันโอเคมากๆ ชอบช่วงล่าง กับอัตราเร่งและงานประกอบของจีนที่ดูดีกว่าของไทยมาก ในงานมีจอดเทียบกับรถน้ำมัน
ผมทำงานนครปฐม บ้านอยู่กทม.วิ่งไปกลับ 120 km.ทุกวัน 2 วันชาร์ทไฟที่บ้านที มันโอเคเพราะสามารถกำหนดเส้นทางได้ชัดเจน ช่วงหลังดูคลิป รถไฟฟ้าจีนแล้วทำให้ทัศนคติว่าจีนทำของห่วยๆและวัสดุเกรดต่ำๆนี้หายไปจากความคิดผมเลยแถมยังมองว่า งานออกแบบรถรุ่นใหม่ๆและราคาขายในจีนรถ suv คันใหญ่ๆสวยโครตๆ ราคา2-3ล้านบาทเอง (อิจฉาคนจีนมากๆ)
ในเมื่อmg กล้าที่จะลุยตลาดทำราคารถที่คนฐานะปานกลางค่อนข้างไปทางกลางต่ำอย่างผมได้มีโอกาสได้ทดลองเทคโนโลยีใหม่ๆ เลยไม่ยอมพลาดโอกาสอย่างแน่นอน ลองก่อนใช้ก่อน เจ็บก่อน อนาคตไม่มีใครรู้ของมันต้องลองครับ แว่วๆ มาว่ารัฐบาลจะออกมาตราการเก็บภาษีการกำจัดแบตตารี่เพิ่มอีกในอนาคตถือซะว่าซื้อตอนนี้ได้ของถูกก่อนโดนภาษีแบตครับ
ว้าว ดีจัง รอฟังรีวิวจากผู้ใช้จริง
ปล. เพิ่งเห็นข่าว รถ EV สัญชาติเวียดนามก็จะมาแล้ว คนไทยร่วมทุนด้วย จะเอาเข้าไทยมั้ย
https://m.chobrod.com/foreign-auto-market/%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1-%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2-%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%B2-vinfast-ev-car-%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%95-4197
-
iphone ทำให้เกิด smartphone จีน-เกาหลีถูกๆขึ้นมา
แต่เครื่องถูกๆของจีน-เกาหลีนี้แหละที่ทำให้มือถือปุ่มกดตายจากโลกนี้ไป ไม่ใช่ iphone เป็นคนทำ
-
>> ตอบ ข้างบน
I phone ราคา ครึ่งแสน
Spec เทียบ เท่ามือถือ ราคาไม่ถึงครึ่ง
ทำไปทำมา ค่ายเกาหลี จีน ก็ออกรุ่นพรีเมี่ยม ราคา เท่า I phone ในขณะเดียวกัน ก็มีรุ่นตลาดล่าง ด้วย
ในขณะที่ I phone มีตลาดเดียว
เหมือนกรณี เทสล่าเลย ทำเป็นกระแส แต่ยอดขายรวม สู้ จีน เกาหลีไม่ได้
-
>> ตอบ ข้างบน
I phone ราคา ครึ่งแสน
Spec เทียบ เท่ามือถือ ราคาไม่ถึงครึ่ง
ทำไปทำมา ค่ายเกาหลี จีน ก็ออกรุ่นพรีเมี่ยม ราคา เท่า I phone ในขณะเดียวกัน ก็มีรุ่นตลาดล่าง ด้วย
ในขณะที่ I phone มีตลาดเดียว
เหมือนกรณี เทสล่าเลย ทำเป็นกระแส แต่ยอดขายรวม สู้ จีน เกาหลีไม่ได้
ยอดขายไอโฟนถึงจะน้อยกว่า แต่กำไรต่อหน่วยน่าจะสูงกว่านะ เหมือนรถยุโรปกับรถญี่ปุ่นนั้นแหล่ะ
-
เชียร์ให้ใช้กันเยอะๆ ทุกวันนี้ใช้รถทั้งดีเซลและเบนซิน อาจเป็นเพราะอยู่ต่างจังหวัดและอยู่ที่เปิดจนชิน
พอสตาร์ทรถแล้วจะได้กลิ่นเหม็นมาก ตอนอยู่กรุงเทพสตาร์ทรถในตึกแถวไม่รู้สึกเหม็นเลย :-X
นอกจากอัตราสิ้นเปลืองและค่าบำรุงรักษาที่ต่ำแล้วอยากให้นึกถึงสุขภาพคนใกล้ตัวกันเยอะๆ ในระยะยาวผมว่าคุ้ม
-
ดีครับดี ซื้อกันเยอะๆ ส่วนผมไม่รีบ รอดูผู้กล้าล็อกแรกก่อนล่ะกันนะ อิอิ
-
หาช่องทาง เปิดแท่นชาร์จเป็นสิบแท่น ทำพื้นที่ให้เช่า ในอนาคตน่าจะเวิร์ค รถมาเติมแต่ละทีก็ใช้เวลาหลาย ชม. คงจับจ่ายใช้สอยกันเพลิน
-
เรื่องแบบนี้ CP ไม่น่าพลาด
(https://scontent.fbkk4-1.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/66645434_786402188428603_28140058787708928_o.jpg?_nc_cat=107&_nc_eui2=AeFfkkTvN7AYcl0VSOtYJ274VBojyVu4yQCs7MsvG6ue3J1XtHh5eNdhtkDVk8x4TlizoPZAUmRdni2EYeHIYr-OpxYPI8hp_0gStXmNTuFCWw&_nc_oc=AQkbEZ1oAK1cK-c9nQjqjJb_2eaK8rn1A3efio3kx8VkOUWfeuxZLNcGR96rGBGo1dk&_nc_ht=scontent.fbkk4-1.fna&oh=3c6650fdbffec9b9babe5886f11396ee&oe=5DB259DD)
https://web.facebook.com/Mono29News/photos/a.252491181819709/786402185095270
ลงทุนก่อนได้เปรียบ! เทรนด์รถยนต์ไฟฟ้า EV มาไวกว่าที่คิด - EA Anywhere จับมือ 4 พันธมิตรยักษ์ใหญ่ คาลเท็กซ์ - ซีพี ออลล์ - บริดจสโตน เอ.ซี.ที - โรบินสัน ผุดสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าทั่วไทย
.
8 ก.ค. 62 บริษัทพลังงานมหานคร ผู้นำด้านบริการสถานีอัดประจุไฟฟ้าภายใต้เครื่องหมายการค้า EA Anywhere ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ EA ประกาศความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์กับ 4 พันธมิตรยักษ์ใหญ่ คาลเท็กซ์ - ซีพี ออลล์-บริดจสโตน เอ.ซี.ที - โรบินสัน ผุดสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าปูพรมทั่วไทย ตอบโจทย์สังคมไทยเข้าสู่ยุคยานยนต์สมัยใหม่ เทคโนโลยีการชาร์จล้ำสมัย สะดวกสบาย และปลอดภัย
นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA) กล่าวในงาน Charging The Future Synergy by EA Anywhere ว่า บริษัท พลังงานมหานคร จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ EA ได้ร่วมกับ 4 พันธมิตร ยักษ์ใหญ่ชั้นนำของประเทศและระดับโลก ซึ่งประกอบด้วย บริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด, บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน), บริษัท บริดจสโตน เอ.ซี.ที (ประเทศไทย), และ บริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน) ในการติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าในพื้นที่การให้บริการและการดำเนินธุรกิจของพันธมิตรในครั้งนี้ทั่วประเทศ เพื่อรองรับยานยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และ ยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ (BEV) จึงเชื่อมั่นว่า เป้าหมายการเปิดให้บริการทั้งสิ้น 1,000 สถานี จะบรรลุได้ภายในปีนี้
EA Anywhere และได้พัฒนา Mobile Application ขึ้นเพื่อรองรับการใช้งาน ในวันนี้ เรามีความพร้อมสูงที่สุดด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรทั้งสี่รายของเรา นำสังคมไทยก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการเดินทางด้วยยานยนต์สมัยใหม่ที่มั่นใจยิ่งขึ้นด้วยการมีสถานีอัดประจุไฟฟ้าที่ติดตั้งในพื้นที่ที่มีความหลากหลาย รองรับรูปแบบการใช้ชีวิตที่มีความหลากหลายมากขึ้น ผู้ใช้บริการสามารถเข้ารับบริการได้ตามไลฟ์สไตล์ของตัวเองอย่างครบวงจร อาทิเช่น สถานีบริการน้ำมัน, ศูนย์บริการด้านยานยนต์, ร้านสะดวกซื้อ, ศูนย์การค้า และร้านอาหารต่าง ๆ เป็นต้น
นายซาลมาน ซาดัต ประธานกรรมการ และผู้จัดการใหญ่ บริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด หนึ่งในผู้นำด้านพลังงานและผู้ให้บริการสถานีบริการน้ำมันคุณภาพระดับโลก ภายใต้แบรนด์ คาลเท็กซ์ กล่าวว่า คาลเท็กซ์ ไม่เคยหยุดยั้งในการพัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำมันและบริการคุณภาพระดับโลก เพื่อตอบสนองต่อวิวัฒนาการ และเสริมสร้างประสบการณ์เหนือความคาดหมายให้กับลูกค้า โดยการติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ ที่สถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ เพื่อขยายบริการและเพิ่มทางเลือกด้านพลังงานให้ตรงกับความต้องการใช้งานของผู้ใช้รถในประเทศไทย ซึ่งนอกจากผู้ใช้รถยนต์ทั้งแบบไฮบริดและยานยนต์ไฟฟ้า สามารถมาใช้บริการอัดประจุไฟฟ้าได้ที่สถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์แล้ว ยังสามารถใช้บริการด้านอื่น ๆ อาทิ ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ และอื่น ๆ อีกมากมาย
นายวิเชียร จึงวิโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้ก่อตั้งร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในประเทศไทย กล่าวว่า ซีพี ออลล์ ได้ดำเนินธุรกิจบริหารร้านเซเว่น อีเลฟเว่น เคียงคู่สังคมไทยมากว่า 30 ปี คำนึงถึงความรับผิดชอบที่มีต่อลูกค้า สังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ให้สอดคล้องกับแนวทางด้านความยั่งยืนตามหลักสากลให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับการประกอบธุรกิจ ภายใต้โครงการ 7 Go Green ยุทธศาสตร์ด้านการอนุรักษ์พลังงาน และสิ่งแวดล้อมของบริษัท จึงได้ร่วมกับ EA Anywhere ทำการติดตั้งเครื่องชาร์จสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าในพื้นที่หน้าร้านเซเว่น อีเลฟเว่น 21 สาขา เพื่ออำนวยความสะดวกและตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ของลูกค้าทุกกลุ่มตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมรองรับการเพิ่มขึ้นของรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต
นายธนวัฒน กิตติรัตนาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริดจสโตน เอ.ซี.ที (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงมุมมองของผู้ให้บริการด้านรถยนต์ต่อนวัตกรรมยานยนต์ที่มีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และการเตรียมความพร้อมสำหรับรถยนต์ PHEV และ BEV ในอนาคต โดยปัจจุบัน A.C.T. และ COCKPIT ถือว่าเป็นผู้ให้บริการในกลุ่ม FAST FIT ซึ่งมีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศ และมีความสามารถในการบำรุงรักษารถยนต์ได้หลากหลายรูปแบบอาทิเช่น ยางรถยนต์ น้ำมันเครื่อง แบตเตอรี่ โช๊คอัพ ระบบเบรก เป็นต้น การนำบริการ Charging Station เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการให้บริการบนพื้นที่ของเราในครั้งนี้ จะเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำที่เชี่ยวชาญในการให้บริการอย่างมืออาชีพ และสามารถดูแลรถทุกชนิด ทุกยี่ห้อ และทุกรุ่นได้อย่างครบวงจรอย่างแท้จริง และเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับยานยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่จะออกมาบนท้องถนนมากขึ้นเป็นลำดับด้วยเช่นกัน
ขณะที่นายวุฒิเกียรติ เตชะมงคลาภิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีจำนวนสาขา มากกว่า 49 สาขาทั่วประเทศ กล่าวว่า ที่ผ่านมาธุรกิจศูนย์การค้าเปลี่ยนแปลงไปอย่างก้าวกระโดดมาก เพื่อรองรับพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้า และรูปแบบการใช้บริการต่าง ๆ ในพื้นที่ของเรา การคัดเลือกพันธมิตรของเราจึงต้องคำนึงถึงศักยภาพ และความพร้อมในการให้บริการในระยะยาวเกี่ยวกับบริการนั้น ๆ ทางเราเลือก EA Anywhere เพราะถือว่าเป็นผู้นำในธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้า และมีความพร้อมในการให้บริการครบวงจร และยังมี Application รองรับการใช้งานซึ่งค่อนข้างสะดวกมาก จึงมั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับการบริการที่เป็นเลิศภายในศูนย์การค้าของเรา
-
มีคนรอบ ๆ ตัวผม 2-3 คน ที่ไปจอง ....แต่คนกลุ่มนี้คือกลุ่มคนมีตังค์ บ้านมี benz - bmw กันหมด เคยไปแซะถามว่า ถ้าเอาส่วนต่างค่าตัวรถระหว่าง ZS ปกติ คับ ZS EV มาเป็นค่าน้ำมัน มันเติมได้เกิน 5 ปีอีก ก็โดนตอบมาว่า แค่อยากลองรถ EV บ้างไรบ้าง (แต่ก็ไม่ได้ถามกลับไปอีกรอบว่า แล้วทำไมไม่เอา Nissan Leaf )
ลีฟมีอะไรดีกว่าครับ ราคาก็สูงกว่าอีก
Leaf เป็นรถที่ออกแบบมาเป็น EV โดยตรง การวาง layout ของ platform มัน born to be น่ะครับ
ส่วน MG ก็นั่นล่ะครับ อีกไม่นานเราก็จะได้รู้กันละ เพียงแต่ว่ามันอาจจะ ok ไร้ที่ติก็ได้ครับ
คนทั่วไปเขาไม่สนหรอกครับว่ามันเป็น EV Platform มั้ย เขาสนว่ามันวิ่งได้เท่าไร อ็อปชั่นดีมั้ย ราคาสมเกตุสมผลมั้ย
คนมีตัง ไม่ได้แปลว่าสุรุ่ยสุร่ายนะครับ เป็นผมมอง ลีฟวิ่งได้ 247 km เบาะปรับมือ อ็อปชั่นอย่างโล้น ข้อดีที่เหนือกว่า ZS EV ที่คนทั่วไปสัมผัสได้มีแค่เบาะหนังกลับ แค่นั้นจริงๆ
ใครจะยอมจ่ายเพิ่ม 7 แสนเพื่อซื้อ EV Platform (ที่ก็ขับแล้วไม่เห็นความต่าง) กับเบาะหนังกลับล่ะครับ
ลองให้คนจ่ายเงินมุดไปดูใต้ท้อง ZS แล้วเจอแบตเตอรี่สิครับ Layout การวางแบตเตอรี่น่าตกใจมาก ถ้าเกิดชนรุนแรงหรือเจอกระแทกใต้ท้อง แบตเตอรี่ไม่ระเบิดก่อนหรอครับ
เรื่องน้ำท่วมสูงไม่น่ากลัวเท่าเรื่องกระแทกแรงจนชนวดขาดแล้วระเบิดหรอกครับ นึกภาพไม่ออกก็ลองงัดแบตมือถือดูครับ สนุกแน่นอน
แต่ก็ตามที่พี่ว่าแหละครับ คนทั่วไปคงไม่มาสนใจหรอกว่ารถรุ่นนี้พัฒนามาเป็น EV โดยตรงหรือไม่ อันไหนคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่จ่ายไปเขาก็พร้อมจ่ายครับ
-
มีคนรอบ ๆ ตัวผม 2-3 คน ที่ไปจอง ....แต่คนกลุ่มนี้คือกลุ่มคนมีตังค์ บ้านมี benz - bmw กันหมด เคยไปแซะถามว่า ถ้าเอาส่วนต่างค่าตัวรถระหว่าง ZS ปกติ คับ ZS EV มาเป็นค่าน้ำมัน มันเติมได้เกิน 5 ปีอีก ก็โดนตอบมาว่า แค่อยากลองรถ EV บ้างไรบ้าง (แต่ก็ไม่ได้ถามกลับไปอีกรอบว่า แล้วทำไมไม่เอา Nissan Leaf )
ลีฟมีอะไรดีกว่าครับ ราคาก็สูงกว่าอีก
Leaf เป็นรถที่ออกแบบมาเป็น EV โดยตรง การวาง layout ของ platform มัน born to be น่ะครับ
ส่วน MG ก็นั่นล่ะครับ อีกไม่นานเราก็จะได้รู้กันละ เพียงแต่ว่ามันอาจจะ ok ไร้ที่ติก็ได้ครับ
คนทั่วไปเขาไม่สนหรอกครับว่ามันเป็น EV Platform มั้ย เขาสนว่ามันวิ่งได้เท่าไร อ็อปชั่นดีมั้ย ราคาสมเกตุสมผลมั้ย
คนมีตัง ไม่ได้แปลว่าสุรุ่ยสุร่ายนะครับ เป็นผมมอง ลีฟวิ่งได้ 247 km เบาะปรับมือ อ็อปชั่นอย่างโล้น ข้อดีที่เหนือกว่า ZS EV ที่คนทั่วไปสัมผัสได้มีแค่เบาะหนังกลับ แค่นั้นจริงๆ
ใครจะยอมจ่ายเพิ่ม 7 แสนเพื่อซื้อ EV Platform (ที่ก็ขับแล้วไม่เห็นความต่าง) กับเบาะหนังกลับล่ะครับ
ลองให้คนจ่ายเงินมุดไปดูใต้ท้อง ZS แล้วเจอแบตเตอรี่สิครับ Layout การวางแบตเตอรี่น่าตกใจมาก ถ้าเกิดชนรุนแรงหรือเจอกระแทกใต้ท้อง แบตเตอรี่ไม่ระเบิดก่อนหรอครับ
เรื่องน้ำท่วมสูงไม่น่ากลัวเท่าเรื่องกระแทกแรงจนชนวดขาดแล้วระเบิดหรอกครับ นึกภาพไม่ออกก็ลองงัดแบตมือถือดูครับ สนุกแน่นอน
แต่ก็ตามที่พี่ว่าแหละครับ คนทั่วไปคงไม่มาสนใจหรอกว่ารถรุ่นนี้พัฒนามาเป็น EV โดยตรงหรือไม่ อันไหนคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่จ่ายไปเขาก็พร้อมจ่ายครับ
เรื่องตำแหน่งวางแบตดูมักง่ายนี่ไม่เถียงครับ
แต่แบตเตอรี่รถยนต์ไม่เหมือนแบตเตอรี่มือถือนะครับ เป็น LiPoFe ติดไฟยากมาก เอาปืนยิง เอาเครื่องอัดกดยังไม่ระเบิดเลยครับ
เขาลงทุนกันเป็นหมื่นล้าน พันล้านกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ คงไม่มาระเบิดไฟลุกเพราะเจอหลุมที่ถนนบ้านเราหรอกครับ
-
มีคนรอบ ๆ ตัวผม 2-3 คน ที่ไปจอง ....แต่คนกลุ่มนี้คือกลุ่มคนมีตังค์ บ้านมี benz - bmw กันหมด เคยไปแซะถามว่า ถ้าเอาส่วนต่างค่าตัวรถระหว่าง ZS ปกติ คับ ZS EV มาเป็นค่าน้ำมัน มันเติมได้เกิน 5 ปีอีก ก็โดนตอบมาว่า แค่อยากลองรถ EV บ้างไรบ้าง (แต่ก็ไม่ได้ถามกลับไปอีกรอบว่า แล้วทำไมไม่เอา Nissan Leaf )
ลีฟมีอะไรดีกว่าครับ ราคาก็สูงกว่าอีก
Leaf เป็นรถที่ออกแบบมาเป็น EV โดยตรง การวาง layout ของ platform มัน born to be น่ะครับ
ส่วน MG ก็นั่นล่ะครับ อีกไม่นานเราก็จะได้รู้กันละ เพียงแต่ว่ามันอาจจะ ok ไร้ที่ติก็ได้ครับ
คนทั่วไปเขาไม่สนหรอกครับว่ามันเป็น EV Platform มั้ย เขาสนว่ามันวิ่งได้เท่าไร อ็อปชั่นดีมั้ย ราคาสมเกตุสมผลมั้ย
คนมีตัง ไม่ได้แปลว่าสุรุ่ยสุร่ายนะครับ เป็นผมมอง ลีฟวิ่งได้ 247 km เบาะปรับมือ อ็อปชั่นอย่างโล้น ข้อดีที่เหนือกว่า ZS EV ที่คนทั่วไปสัมผัสได้มีแค่เบาะหนังกลับ แค่นั้นจริงๆ
ใครจะยอมจ่ายเพิ่ม 7 แสนเพื่อซื้อ EV Platform (ที่ก็ขับแล้วไม่เห็นความต่าง) กับเบาะหนังกลับล่ะครับ
ลองให้คนจ่ายเงินมุดไปดูใต้ท้อง ZS แล้วเจอแบตเตอรี่สิครับ Layout การวางแบตเตอรี่น่าตกใจมาก ถ้าเกิดชนรุนแรงหรือเจอกระแทกใต้ท้อง แบตเตอรี่ไม่ระเบิดก่อนหรอครับ
เรื่องน้ำท่วมสูงไม่น่ากลัวเท่าเรื่องกระแทกแรงจนชนวดขาดแล้วระเบิดหรอกครับ นึกภาพไม่ออกก็ลองงัดแบตมือถือดูครับ สนุกแน่นอน
แต่ก็ตามที่พี่ว่าแหละครับ คนทั่วไปคงไม่มาสนใจหรอกว่ารถรุ่นนี้พัฒนามาเป็น EV โดยตรงหรือไม่ อันไหนคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่จ่ายไปเขาก็พร้อมจ่ายครับ
เรื่องตำแหน่งวางแบตดูมักง่ายนี่ไม่เถียงครับ
แต่แบตเตอรี่รถยนต์ไม่เหมือนแบตเตอรี่มือถือนะครับ เป็น LiPoFe ติดไฟยากมาก เอาปืนยิง เอาเครื่องอัดกดยังไม่ระเบิดเลยครับ
เขาลงทุนกันเป็นหมื่นล้าน พันล้านกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ คงไม่มาระเบิดไฟลุกเพราะเจอหลุมที่ถนนบ้านเราหรอกครับ
เห็นด้วยครับ มันไม่ได้เปราะบางขนาดนั้นหรอกครับ ผมว่าอคติมากไป ต้องมองอ้างอิงความเป็นจริงหน่อย
ถ้าขนาดกลัวกระแทก โน่น นี่ นั้น แล้วหันมาดูรถติดแก๊สบ้านเราซิครับ ผมว่าน่ากลัวกว่าเยอะ ถังแก๊สห้อยตรงตูด กระแทกคอสะพานแรงๆ ผมนี่เสียวแทนเลย ขนาดมี วิศวกร รับรองแล้วนะ ผมว่ามันสุ่มเสี่ยงกว่า บริษัท ที่เขา R&D ด้วยหัวกระทิเดินชนกัน นะครับ
-
รถไฟฟ้าคุยกันหลายรอบ คนสนใจคุยด้วยทุกครั้ง แปลว่าตัวผลิตภัณฑ์มันน่าสนใจ แต่อย่าลืมนะครับว่าสินค้าจีนเรายังไม่ไว้ใจเท่าญึ่ปุ่น
ดังนั้นยอดขายที่ได้มันสะท้อนแค่ว่ามีคนต้องการ แต่ราคาต้องไม่แพงเกินไป ซึ่งนิยมไว ไม่ไว อยู่ที่ราคาอนาคตว่าจะสามารถลดต่ำลงได้เมื่อไหร่
ส่วนตัวมองว่า ต้องรอจุดเปลี่ยน หรือ tuning point ตัวอย่างเทคโนโลยีโทรศัพท์ ที่บูมได้ เกิดจากการเปลี่ยนเทคโนโลยีอนาล็อคเป็นดิจิตอล
ทำให้คลื่น 1 คลื่น สามารถใช้งานได้หลายคน ทำให้ต้นทุนรวมถูกลง ต่างจากรถซึ่งเป็นเทคโนโลยีพลังงาน ยังมองจุดเปลี่ยนไม่ออกเลยว่าคืออะไร
ค่าไฟถูกลง มอเตอร์ถูกลง ตัวถังถูกลง หรือ แบตถูกลง ถ้าค่าแบตอยู่ที่ 40-50% ราคารถ ก็แปลว่า รถก็ยังมีราคาแพง เพราะอย่างอื่นราคาไม่ถูก
ดังนั้นถ้าจะให้พยากรณ์ ด้วยข้อมูลขณะนี้ ก็บอกเลยว่า ราคารถถูกลงแน่ แต่ไม่น่าถูกว่ารถเครื่องสันดาป ที่ต้นทุนวัตถุดิบไม่ได้มากมาย
ที่แพงกัน มาจากภาษีที่รัฐควบคุมอยู่ ลองปล่อยราคาลอยตัว ภาษี 0% ซีวิค คงซื้อได้ในราคา 5-6 แสน ไม่ใช่หย่อนล้านอย่างที่เป็นๆกัน
ดังนั้น รถไฟฟ้าในอนาคต ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงได้ในเร็วๆ วันอย่างที่เราคิดกันแน่ๆ
-
ผมว่าถ้าไม่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของโลก ก็ขอชื่นชมทั้ง คนขาย คนซื้อ ที่ช่วยลดควันรถไปอีกพันคัน
ราคาที่ตำ่จะทำให้คนเข้าถึงง่าย ค่าเสื่อมต่อปีก็ต่ำลงไป แถมขับรายวันก็ถูกค่าไฟต่อ กม.ก็ต่ำบาท น่าใช้ขึ้นแยะ
อีกอย่างก็เกิดการกระตุ้นตลาดให้ มีผู้ขายมากขึ้น ราคาถูกลง สุดท้ายพวกเราก็ได้ใช้ของดี ราคาไม่แพง แถมรุ่นลูกเราก็ได้อากาศดีๆด้วย
ผมแน่ใจว่าต่อจากนี้มี complain แน่สำหรับคนใช้รุ่นบุกเบิก ในหลายๆเรื่อง เช่นที่ชาร์จ การดูแล... แต่เราต้องช่วยแนะนำ กดดัน ให้คนขายพัฒนา และรับผิดชอบ จบสวยแน่นอน
***จากคนอยากใช้รถ EV แต่ยังไม่มี plan ในปีนี้
-
อย่าลืมจุดขายเรื่อง 0-100 = 7.5 sec ว่านี่คือความไม่ธรรมดากับรถราคาเท่านี้