Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: luzifur ที่ กันยายน 02, 2019, 23:27:52
-
สวัดดีครับทุกท่าน หลังจากที่คราวก่อนได้มาเล่าสู่กันฟัง ถึงประสบการณ์ ทำรถ lexus IS250 เป็น IS350 ไปแล้ว
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=64839.0
คราวนี้ถึงคราวซน หาทางเพิ่ม มัดกล้ามให้ เจ้าเครื่อง 2GR-FSE นี้อีกซักหน่อย
ถ้าได้ตามในกระทู้ก่อน จะคงจะพอจำได้ว่า รถผมนั้น ได้ไล่ทำทุกอย่างตามที่พอจะทำได้ ใน Step ทั่วไปของเครื่อง NA แล้ว
คือ
1.) เปลี่ยนท่อนำอากาศด้านหน้าเครื่อง (หม้อเดิม)
2.) เปลี่ยน Header (catless)
3.) ทำท่อทั้งเส้น dual 2.5นิ้ว-highflow cat-ท่อรวมเป็น single pipe -stock resonatorและท่อพักท้ายแต่ง ตรงรุ่น
4.)จูนกล่องECU
โดยสเต็ป ทั้งหมดด้านบน ก้พอจะขุนแรงม้าโรงงานที่ล้อ ประมาณ 260WHP แรงบิดประมาณ 250ft/lbs วัดด้วย dyno แบบลูกกลิ้ง ให้ไปอยู่ที่ 305-307 WHP ที่ 6200 RPMและแรงบิด 276ft/lbs ที่4700 RPMซึ่งก้ถือว่ามากโข สำหรับเครื่อง V6 3.5L block นี้ 0-100 ประมาณ 5วิ Quatre mile 13 วิต้นๆ
ถ้าไปอ่านตามเว็ปฝรั่ง สเต็ปนี้ ถือว่าสุดแล้ว ใครได้300WHP บนdyno ลูกกลิ้ง ก็ถือว่าเป็นผลลัพท์ที่ดีมากแล้ว ถ้าอยากไปต่อ ต้อง เพิ่ม force induction หรือ supercharger อย่างเดียว
ข้อสั่งเกตที่ผมรู้สึก (อาจจะคิดไปเอง) สำหรับรถ SPEC USDM แรงม้าจะน้อยกว่า รถ JDM อยู่นิดหน่อย ทาง lexus เองก้เคลมตัวเลขของรถที่ขายใน US น้อยกว่าในญิปุ่นเช่นกัน ถึงแม้ว่าเป็นเครื่อง 2gr-fse แบบเดียวกัน และเมื่อเวลาใส่ของแต่งแบบเดียวกัน ในรถspec อเมริกา ขึ้น dyno ตัวเลขจะน้อยกว่าเสมอ ไม่รู้ว่า เป็นเพราะ dyno ที่แข็งกว่า หรือ standard วัดแรงม้าที่ต่างกัน หรือ ทางญิปุ่นตั้งใจทำspec ให้ไม่เหมือนกันจริงๆ ทั้งที่อากาศเขาเย็นกว่าบ้านเรา และชื้นน้อยกว่า ล้วนแต่เป็นผลบวกต่อการได้ตัวเลขที่ดีทั้งนั้น
ตัวรถผมเอง เครื่องที่ลงนั้นเป็น Spec ญิปุ่น วัดแรงม้าได้เกิน 300 ตัว โดยไม่ต้องออกแรงมากนัก
กร้าฟข้างล่างนี่ตัวอย่างจากเว็ปฝรั่ง
(https://uppic.cc/d/5Ps8) (https://uppic.cc/v/5Ps8)
เข้าเรื่อง
ถ้ารถมันอยู่ดีๆของมัน ผมคงไม่หาเรื่องไปทำครับ แต่ใจลึกๆมันก็คอยหาโอกาสในการทำนู่นทำนี่เพิ่มเติมตลอด อยู่แล้ว 5555
และวันนั้นก็มาถึง 555
เนื่องจากรถต้องเข้าไป service หัวฉีด เพราะมีบางหัวเริ่มซึมนิดหน่อย ทำให้ start ยาวขึ้นเป็นบางครั้งเวลาเครื่องร้อน
ธรรมชาติของเครื่อง V จะservice อะไรทีนึง ก้รื้อกันให้ยับ และเครื่องตัวนี้มีหัวฉีด 12 หัว กว่าจะล้วงลึกไปถึง หัวฉีด direct ตัวในที่เป็นปัญหา ก็ ใช้เวลาร่วม ชั่วโมง
ระหว่างทาง ก้มาเจอตัว lower intake manifold ที่เป็นตัวรับอากาศ จากท่อด้านบน ก่อนส่งเข้าห้องเผาไหม้อีกทีหนึ่ง
จับๆดู ตัววัสดุ สากมาก มีรอยตะปุ่ม ตะปั่ม เต็มไปหมด จึงเกิด idea ขัดลื่นขึ้นครับ
(https://uppic.cc/d/5Pse) (https://uppic.cc/v/5Pse)
แต่คิดจะซ่า แต่ก็ยังซ่าได้ไม่สุด เนื่องจากกลัวครับ กลัวว่า ถ้าทำแล้ว ECU ไม่ชอบขึ้นมา เดินเบาไม่ได้ กินน้ำมัน การตอบสนองแย่ลงจะทำยังไง
เลย เข้า Ebay สั่งไอ้เจ้าตัว lower intake manifold มา เพื่อการทดลองนี้โดยเฉพาะ ค่าของไม่แพงมาก แต่ค่าส่งเอาเรื่องเพราะหนักเอาการอยู่ครับ
พอได้มา ก็จัดการ ส่งไปให้เพื่อนที่เป็น โรงกลึง โดยบอกไปแค่ ช่วยขัดลื่นให้หน่อย และขยายให้ใหญ่เท่าที่จะทำได้
1 เดือนผ่านไป เพื่อนก็นำมาส่งให้ที่บ้านครับ พร้อมกับคิดราคาค่าเสียหายดุดญาติมิตร 1,000 บาท
(https://uppic.cc/d/5PtK) (https://uppic.cc/v/5PtK)
ได้มาปุ๊ป ความคัน บังเกิด รีบจัดการนัดช่างที่อู่ แล้วเข้าไปรื้อทำด้วยกัน ทันที
(https://uppic.cc/d/5Pt6) (https://uppic.cc/v/5Pt6)
ตรวจสอบชิ้นงานที่ได้รับมา พอใจมาก ผิวสากๆ หายไปหมด กลายเป็นและเงา ขนาดใหญ่ขึ้นนิดหน่อย เมื่อวัดด้วย เวอเนีย
(https://uppic.cc/d/5Pt5) (https://uppic.cc/v/5Pt5)
ใส่ลงไปแล้วเป็นดังภาพ
(https://uppic.cc/d/5Pt9) (https://uppic.cc/v/5Pt9)
ตอนทำเสร็จ start ติดเดินเบานิ่ง บอกเลยโคตรโล่ง 55555 พออุณหภูมิได้ที่ ก้ลองเบิ้นเครื่องดูนิดหน่อย ฟังเสียงดูว่ามีรั่วตรงไหนไหม ปรกติไหม พอมั่นใจว่าโอเค เลยเอาออกไปลอง
เอาไปลองครั้งแรก รู้สึกโอเคเลย รอบกวาดเร็วขึ้น คันเร่งติดเท่ามากขึ้น อาการรอรอบเหมือนท่อโล่งไปนิดช่วง 2500-3500 รอบ หายไปพร้อมกับเสียงที่โหดขึ้น ตอนรอบสูงๆ
ยิ้มออกครับ 5555 แต่ลำพังแค่ Butt dyno ของผม คงไม่ใช่อุปกรณ์ การวัดที่ได้มาตรฐาน ซักเท่าไหร่ จัดการโทรนัด Dyno ร้านเดิมที่ใช้บริการประจำตั้งแต่จูนกล่องECUครับ ไปให้สุดจะได้ไม่ค้างคาใจ
Dyno sheet อันเก่า
306.1 WHP @6200 RPM 274 Ft/lbs @4700RPM
(https://uppic.cc/d/5Ptb) (https://uppic.cc/v/5Ptb)
Dyno sheet ใบใหม่ มีทั้งหมด 4Run
(https://uppic.cc/d/5Ptv) (https://uppic.cc/v/5Ptv)
Run#1
313.9 WHP @6650 RPM 276 ft/lb @ 4950 RPM +7.8WHP + 2Ft/lbs
โอ้โห! ตกใจเลยครับ แม้แต่คน run dyno ยังประหลาดใจ ว่าทำไมมันถึงขึ้นเย้อะขนาดนี้ ลำพังการจะขุนเครื่อง NA ให้ได้ม้า 4-5 ตัว มันลำบากมาก เขาเลยคิดว่า มันเป็น Error ที่ dyno เลยจัดการ reset เครื่องใหม่
Run#2
317.7 WHP @6650 RPM 276.6 ft/lbs @ 5000RPM +10.6 WHP + 2.2 ft/lb
ครั้งนี้ไม่ใช่ Error ละครับ 555 คน run dyno บอกว่าม้าขึ้นจริง
RUN #3
316.1 WHP @6550 RPM 267.9 ft/lb @4950RPM +9 WHP -4 ft/lbs
Torque เริ่มหายครับ ไม่ทราบว่าเป็นเพราะ heat soak หรือ ท่อไอเสียผมใหญ่เกิน ทำให้พออุณหภูมิสูงขึ้นแล้ว อากาศยิ่งไหลเร็วขึ้น จนเร็วเกินไปทำให้โล่ง
Run#4
317.4 WHP @6550 RPM 266.5 ft/lb @4950RPM +10.3WHP -6 ft/lb
เหมือนเดิม torque หายไปอีกครับ แต่ แรงม้ายังมาดีเหมือนเดิม
จริงๆ มี run มากกว่านี้ แต่ result มัน invalid เกียร์ kick down บ้าง หรือคอมค้างบ้างครับ
ถ้าเทียบจาก graph เดิม จะเห็นว่า แรงม้าสูงสุด ขยับขึ้นไปอยู่ที่6550-6600 RPM จากเดิม ที่ 6200RPM น่าจะทำให้ลากรอบได้มันส์ขึ้นเพราะ limiter อยู่ที่ 7200RPM
สรุป โดยรวม ผมพอใจมาก กับการครั้งนี้ ค่าใช้จ่ายรวมกัน ไม่ถึง 6000 บาท พร้อมค่า dyno ถือว่าคุ้มกับ 10 ม้า ที่ได้มา
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ ให้กับเพื่อนๆสมาชิก บ้างนะครับ ผมเองตกหลุมรักเครื่อง NA block โตๆ ลากรอบได้ เสียงหวานๆ กำลัง มาแบบ linear ถึง redline ถึงแม้ว่าโลกตอนนี้จะหมุนไปหาเครือง Turbo ที่ efficentcy สูงกว่า แรงกว่า ประหยัดกว่า ทำให้เครื่องเหล่านี้เริ่มกลายเป็นอดีต แต่มันมีเสนห์ในแบบของมันที่ เครื่อง turboให้ไม่ได้ หรือทำได้แค่ใกล้เคียงใน เครื่อง supercharged
เห็นผลครั้งนี้ทำให้ตอนนี้อยากทำวาวล์ ทำฝาเลย แต่คงวุ่นวายมาก และไม่น่าจะคุ้มกับจำนวนเงืนที่เสียไป อีกทั้งรถคันนี้ใช้งานทุกวัน เลยบอกตัวเองว่า หยุดเท่านี้ก่อนครับ 555
เพื่อนๆ ท่านใด มีความคิดเห็นยังไง ไม่ว่าเป็นบวกหรือลบ ยินดีเลยนะครับ อยากฟังความคิดเห็นของทุกท่าน ขอบคุณมากครับ
-
น่าสนุกจังครับ คิดถึงตอน เล่นเครื่อง b16a เลย
-
อยากฟังเสียงเลยแบบนี้
-
ยินดีด้วยครับ ได้แรงม้ามาดีเลยครับ
-
เยี่ยมครับ ;) เห็นแล้วคันอยากได้ IS250 เลยครับ
สมัยก่อนทำ port เครื่อง M42 แรงขึ้นชัดเจน ... กินน้ำมันขึ้นชัดเจนด้วยเช่นกัน ;D
-
กระทู้น่าสนใจมากครับ เข้ามาโหวตให้ :D (จริงๆมันก็ไม่ได้มีปุ่มให้กดโหวตอ่ะนะ)
-
ถูกแล้วครับ
เมื่อก่อนทำมอไซด์ สองจังหวะ ต้องขัดพอร์ทจากคาบูฯยัน แผ่นรีด ได้ปลายอีกพอควร ดังนั้น เครื่องna เมื่อพอร์ทเรียบ การไหลเวียนของอากาศ ไม่หมุนวน เป็นไปได้ครับ เป็นสิบม้าอยู่แล้ว
-
;D แจ่มเป็ด ทำไมโรงงานไม่ขัดมาน้อ
แต่ผมสังเกตุน้ะ ไม่รู้เกี่ยวไหม ก่อนไปขัดผมเห็นกาวประเก็นไหลเกินเข้าไปเยอะพอสมควร
จุดนี้น่าจะมีส่วนเกี่ยวด้วย เพราะผมเคยอ่านคู่มือพวกการประกอบ Header ห้ามเหลื่อมมากเกินไป
เพราะจะทำให้ลมหมุนวน
-
อยากฟังเสียงเลยแบบนี้
https://www.youtube.com/watch?v=u6v_dn1mVi0&feature=youtu.be (https://www.youtube.com/watch?v=u6v_dn1mVi0&feature=youtu.be)
ลองดูครับผม ผมฝั่งลิ้งค์ไม่เป็นต้องขอโทษด้วยครับ
-
;D แจ่มเป็ด ทำไมโรงงานไม่ขัดมาน้อ
แต่ผมสังเกตุน้ะ ไม่รู้เกี่ยวไหม ก่อนไปขัดผมเห็นกาวประเก็นไหลเกินเข้าไปเยอะพอสมควร
จุดนี้น่าจะมีส่วนเกี่ยวด้วย เพราะผมเคยอ่านคู่มือพวกการประกอบ Header ห้ามเหลื่อมมากเกินไป
เพราะจะทำให้ลมหมุนวน
ขอบคุณสำหรับความเห็นครับ ไม่รู้ว่าทางโรงงานจะใส่มาเย้อะเท่านี้ไหม ตอนที่ผมถอดออกมาทำหัวฉีดต้องใส่ กาวลงไปด้วยครับ กลัวไม่แน่น
-
เยี่ยมครับ ;) เห็นแล้วคันอยากได้ IS250 เลยครับ
สมัยก่อนทำ port เครื่อง M42 แรงขึ้นชัดเจน ... กินน้ำมันขึ้นชัดเจนด้วยเช่นกัน ;D
ขอบคุณครับ ต้องลองดูยาวๆ ว่ากินน้ำมันขึ้นไหม แต่เมื่อไหร่กดละโคตรกิน เครื่องตัวนี้ 5555
-
ถูกแล้วครับ
เมื่อก่อนทำมอไซด์ สองจังหวะ ต้องขัดพอร์ทจากคาบูฯยัน แผ่นรีด ได้ปลายอีกพอควร ดังนั้น เครื่องna เมื่อพอร์ทเรียบ การไหลเวียนของอากาศ ไม่หมุนวน เป็นไปได้ครับ เป็นสิบม้าอยู่แล้ว
ขอบคุณครับผม ตอนแรกก็ไม่มั่นใจ เลยต้องไป Dyno ครับ ไม่มี Turbo เหมือน Sabb ขุนม้ายากมากเลยครับ สิบม้า นี่ดีใจมาก ไม่รู้ว่าถ้าทำไปถึงวาวล์ ฝาสูบ เสื้อสูบ จะได้อีกเท่าไหร่ และคุ้มที่จะทำไหมนะครับ
-
เครื่อง na แรงม้ามาจากฝาสูบ
เกจิชื่อดังกล่าวไว้
-
ถ้าเป็นพวกฉีดตรง น่าจะขัดให้เงาวิ๊งงได้เลยครับ :D
-
ยินดีด้วยครับ ได้แรงม้ามาดีเลยครับ
ขอบคุณครับ แต่เสียงยังไม่เร้าใจเหมือนพวก 6สูบเรียงนะครับ
-
ลองไปทำฝาสูบขยับลูกนูนที่ บอลคิงพอทมั้ยครับ
เผื่อเพิ่มได้อีกและไล่ท่อใหม่ให้มันสมมาตรกับแรงของเครื่อง
-
สุดยอดเลย
น้ำหนักรถตอนนี้ประมาณเท่าไหร่ครับ
-
สอบถามนิดนึงครับ
เวลาตัดสินถอดเครื่องไปขัดพอร์ท
รู้สึกกังวลว่าช่างจะขันน๊อตทอร์คไม่ตรงกับ spec เดิม / หรือขันไม่แน่น / แน่นเกินไป มั่งมั้ยครับ
-
ลองไปทำฝาสูบขยับลูกนูนที่ บอลคิงพอทมั้ยครับ
เผื่อเพิ่มได้อีกและไล่ท่อใหม่ให้มันสมมาตรกับแรงของเครื่อง
ไม่รู้ค่าเสียหายจะอยู่ที่เท่าไหร่นะครับ พอจะทราบไหมครับ และใช้เวลาทำนานไหม อยากทำอยู่ แต่คงต้องไปหาฝาสูบสำรองมาก่อน ไม่งั้นถ้าไม่ work คงกลับเป็นแบบเก่าไม่ได้เลย
-
สุดยอดเลย
น้ำหนักรถตอนนี้ประมาณเท่าไหร่ครับ
น้ำหนัก ประมาณ 1.6 ตันครับ ไม่เบาเท่าไหร่
-
สอบถามนิดนึงครับ
เวลาตัดสินถอดเครื่องไปขัดพอร์ท
รู้สึกกังวลว่าช่างจะขันน๊อตทอร์คไม่ตรงกับ spec เดิม / หรือขันไม่แน่น / แน่นเกินไป มั่งมั้ยครับ
ผมไว้ใจช่างคนที่ทำคนนี้มากครับ คุ้นมือกันดี และเป็นช่างที่ทำ lexus โดยเฉพาะ เวลาทำผมก้จะไปทำด้วยตลอด ถือว่าศึกษาไปด้วย ถ้าอันไหนเขาไม่มั่นใจ จะเปิด service manual ทันทีครับ เลยไม่รู้สึกกังวล
-
ถูกแล้วครับ
เมื่อก่อนทำมอไซด์ สองจังหวะ ต้องขัดพอร์ทจากคาบูฯยัน แผ่นรีด ได้ปลายอีกพอควร ดังนั้น เครื่องna เมื่อพอร์ทเรียบ การไหลเวียนของอากาศ ไม่หมุนวน เป็นไปได้ครับ เป็นสิบม้าอยู่แล้ว
ขอบคุณครับผม ตอนแรกก็ไม่มั่นใจ เลยต้องไป Dyno ครับ ไม่มี Turbo เหมือน Sabb ขุนม้ายากมากเลยครับ สิบม้า นี่ดีใจมาก ไม่รู้ว่าถ้าทำไปถึงวาวล์ ฝาสูบ เสื้อสูบ จะได้อีกเท่าไหร่ และคุ้มที่จะทำไหมนะครับ
ผมไม่รู้ว่าเครื่องตัวนี้ เสื้อสูบ เขาเป็นอลูมิเนียมหรือเหล็กนะครับ
ถ้าเสื้อสูบเป็นอลูมิเนียมจะถอดฝา ลองหาข้อมูลพวก รูเกลียวที่เสื้อสูบ ไว้ด้วยนะครับ เห็นของเมืองนอกเขาทำกันมีหลายแบบมาก ทั้งแบบ ใช้แค่น็อตซิ่งอย่างเดียว บางแบบก็ใช้ น็อตซิ่งร่วมกับปลอกเกลียวเหล็กที่เป็นแบบเหล็กคาร์บอน
เรื่องเกลียวเสื้ออลูมิเนียม นี่พายุ่งเอาเรื่องอยู่เหมือนกันครับ