Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: J!MMY ที่ สิงหาคม 24, 2010, 00:10:06
-
รีวิว เสร็จแล้วนะครับ
เชิญได้ที่นี่
http://www.headlightmag.com/main/index.php?option=com_content&view=article&id=1498:-mercedes-benz-c-class-w204-c250-cgi-a-c250-cdi-blue-efficiency-&catid=66:premium-compact&Itemid=85
แสดงความคิดเห็นตามอัธยาศัย
คลิปวีดีโอ จะตามมาในภายหลังจากนี้ ครับ
-
ขอบคุณครับ
อุปกรณ์ภายใน ขาดๆเกินๆ ประจำเลย
-
มาขอบคุณก่อนครับ แล้วจะไปอ่านครับ :)
-
ชอบ C250 CGI มากๆ แต่ C250CDI อ๊อฟชั่นมันทำให้ผมไม่ชอบมัน
แล้วอีกไม่กี่วันจะได้นั่ง C63 AMG ของเพื่อน น่าจะสุดยอด ;D
แพ้เจ้านี่ด้วยครับครับ เจ้าของตัวเลข 17.03 กิโลเมตร/ลิตร น้องกัส TDCi ของพวกเรานี่เอง ;D
-
มีใส่เพิ่มเติมเรื่องอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงนิดนึงนะครับ ใครเข้าไปอ่านแล้ว ก่อนหน้าผมจะโพสต์ข้อความนี้ กลับไปอ่านอีกครั้งได้เลยครับ
-
ประทับใจ C250cgi มากครับ แรงขึ้นจากเดิมอย่างเห็นได้ชัดเลย
-
รายต่อไปขอเจ้า EX นะคร้าบบ
-
รายการต่อไป ซีรีส์ 5 First Impression ก่อนครับ
จากนั้น EX ยาวๆ เลยละ ไม่เลทแล้่ว ฮือๆๆ
วันนี้ จะอยู่ที่กระบี่ นะครับ พักที่ Sheraton กระบี่ ใครจะเจอกัน รีบหลังไมค์ มาบอกก่อนบ่าย 2 โมง นะครับ
จะได้บอกเบอร์ติดต่อเอาไว้ให้
-
250 cgi ยอดเยี่ยมจริงๆ แต่จอง 320d sport ไปแล้ว เดี๋ยวได้รับรถเมื่อไหร่จะลองทดสอบเรื่องความประหยัดน้ำมันมาเทียบกับ 250 cdi ดูอีกที
ปลฺ. เซลนัดรับรถเดือนพฤศจิกายน รอนานจริงๆ
-
รายการต่อไป ซีรีส์ 5 First Impression ก่อนครับ
จากนั้น EX ยาวๆ เลยละ ไม่เลทแล้่ว ฮือๆๆ
วันนี้ จะอยู่ที่กระบี่ นะครับ พักที่ Sheraton กระบี่ ใครจะเจอกัน รีบหลังไมค์ มาบอกก่อนบ่าย 2 โมง นะครับ
จะได้บอกเบอร์ติดต่อเอาไว้ให้
ไม่ได้กลับไปกระบี่ โอ้ไม่ อยากไปดู F10 ที่พี่จิมมี่ขับจัง อยากเจอพี่จิมมี่ จัง อิอิ เสียดายเรียนอยู่ยังไม่ปิดเทอม
เจ้าบ้านแท้ๆ เราไม่ได้ไปเยี่ยมแขกบ้านแขกเมืองซะงั้น ;D ;D ;D
-
ขอบคุณครับ
-
มาขอบคุณก่อนอ่านครับ
-
ดีหมดเลย ยกเว้นเบาะหลัง นั่งแล้วเมื้อยดีแท้ :-X
-
แวะมาขอบคุณ ก่อนอ่านครับ
พี่จิมมี่ ทำงานหนัก พักผ่อนบ้างนะครับ
-
อ่านแล้วยังไง BMW รุ่น Diesel ยังให้ option+ความคุ้มค่า มากกว่า MB รุ่น 250 CDI มาก
-
รู้สึกว่าห้องโดยสารน่าจะออกแบบให้ดีได้มากกว่าที่เป็นอยู่ครับ
เบาะหน้าและหลัง...teana นั่งสบายกว่าเยอะในราคาที่ถูกกว่าครึ่ง
-
ขอบคุณทีมงาน HLM ครับ เป็นอีกหนึ่งรีวิวที่ดีมากๆๆ รายละเอียดครบ รูปสวยครับ
ส่วนตัวชอบ CDI มากครับ มันแรงแบบประหยัดอย่างเห็นได้ชัดมาก
-
C250CDI มันประหยัดดีจริงๆ
ps. วันนี้อดเจอคุณจิมมี่กอีก ดันติดงานซะนี่ -_-'
-
รถแรงขึ้น ประหยัดขึ้นเยอะอยู่ แต่ราคาก็เพิ่มขึ้นมาแบบเอาเรื่องเหมือนกันนะครับเนี่ย :o
-
ขอบคุณสำหรับ review ครับบบบบ
merz เครื่อง blue efficient นี่ ของเค้าดีจริง แต่ package โดยรวม ยัง ไม่ค่อยโดน โดยเฉพาะ c 250 cdi นี่ จะ option น้อยไปไหน
แต่แค่นี้ก้ขายดีอยู่แล้วนิ
ปล. ระหว่าง c250 cdi กับ e250 cdi ราคาต่างกันไม่มากเท่าไหร่ เป็นผมเพิ่มเงินอีกนิดเอา e 250 cdi ดีกว่า
-
book ไว้เหมือนเดิมครับ
ขอบคุณมากครับ
-
ขอบคุณมากครับ ;D ของเค้าดีจริง
เห็นตัวเลขแล้วปลื้มมาก
อยากได้มากๆๆ ทั้ง 320D ทั้งตัวนี้ด้วย
แต่คงอีกสี่ห้าปี คงจะได้คบกัน
แต่ป่านนั้นก็เปลี่ยนรุ่นไปแล้ว
::)
-
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ ;D แวะมาอ่านวันละนิดครับ แหะๆๆ
-
ขอบคุณครับ
-
อ่านแล้ว w204 ดูน่าสนใจขึ้นอีกจมหูเลย
ว่าแต่ Review Mini Convertible ยังมีโปรแกรมจะทำอยู่ใช่มั๊ยอ่ะครับพี่จิมมี่ T ^ T
-
เห็นคุณจิมมี่เขียนว่า
"แต่น่าเสียดายว่า ไม่มีมาตรวัดอุณหภูมิน้ำหล่อเย็น มีเพียงแค่ไฟเตือนสีขาว
ในยามที่ต้องเฝ้าระวัง และจะสว่างเป็นสีแดง เมื่อเกิดอาการ Over Heated แล้ว"
ผมเลยสับสน ว่าด้านขวาของมาตรวัดระดับน้ำมันเชื้อเพลิง ไม่ใช่ มาตรวัดอุณหภูมิน้ำหล่อเย็น เหรอคับ
ขอบคุณครับ
-
อ่านจบแล้วครับ สนุกมากเลย แต่จอง E250CDI ไปแล้วงะ
-
;D ขอบคุณครับ
-
ขออภัยครับ ตอนพิมพ์ เบลอมาก
แก้ไขจนหมดแล้วครับ ขอบคุณมากครับ
-
ขอบคุณรีวิวดีๆครับ โดยส่วนตัวเทใจให้ 250 CDI Blue... ประหยัดมากมายเลยครับ ^^
-
ขอบคุณมากครับ
-
ขอบคุณครับ แต่เสียดายจัง ไม่มี รีวิว 200 cgi avantgard ด้วย
ผมว่ารุ่นนี้น่าจะเป็นตัวที่ขายดีที่สุดครับ
option ดีกว่าตัวดีเซลในราคาที่ถูกกว่าประมาณ
200000 ถ้าเป็นผมคงจบที่ตัวนี้แหละ เอาส่วนต่างไปเติมน้ำมันดีกว่า
ส่วนเรื่องอัตราสิ้นเปลืองถ้าวิ่งทางไกลผมว่า
ตัวดีเซลนี่น่าจะวิ่งได้เกือบ 1000 กิโล ตัวเบนซินนี่ 700 กิโลได้ชัวร์นะผมว่า
เนื่องจากเคยขับตัว c180 kom w203 ไปพังงา 780 กิโลถังเดียวมาแล้ว
ไฟเตือนขึ้นตรง 750 กิโล ได้ประมาณ 14 กว่าๆ กิโลเมตรต่อลิตร ขับที่ 110 - 140 ตลอดทาง
ยกเว้นช่วงกระบี่ที่เป็น 2 เลนสวนกัน เหลือไม่เกิน 100
-
เอาไว้รอดู ใน E200 CGI ก็แล้วกันนะครับ
เอาตัวเลขจากคันนั้น มาคิดคำนวน หั่นส่วนออกมา ก็พอหักกลบลบกันได้อยู่ เครื่องเดียวกันนี่ครับ
-
รู้สึกว่าห้องโดยสารน่าจะออกแบบให้ดีได้มากกว่าที่เป็นอยู่ครับ
เบาะหน้าและหลัง...teana นั่งสบายกว่าเยอะในราคาที่ถูกกว่าครึ่ง
รถขนาดมันเล็กกว่าตั้งเยอะนี่ครับ จะไปเทียบกันได้ยังไง :-\
-
ขอบคุณมากครับ ผมว่าถ้าราคาต่ำกว่านี้นะขายดีกว่านี้แน่
-
ยืนยันครับ E250CGI AV ขับมันจริงๆเลยครับผม ลากรอบได้มัน เสียงเครื่องเพราะดี แต่กินน้ำมันไปนิดอะครับก็แค่นั้น
-
ขอบคุณมากครับ พี่จิมมี่
ใจจริงชอบไฟหลังของC250CGI มากกว่า แต่ถ้าต้องแลกกับ ค่านำ้มันแล้วก็ราคาที่แพงกว่าตั้ง 3 แสนบาท
ผมจะเลือกคบกับ C 250 CDI ดีกว่า ;D
-
อยากเห็นเจ้านี่ เปรียบเทียบกับ Volvo S60 ดีเซล 205แรงม้าจังเลยแฮะ ราคาน่าจะพอๆกัน ทำมายไทยไม่เอาเครื่องนี้เข้ามา T^T
-
ขอบคุณมากครับ
ก่อนอื่นต้องบอกว่า เอียงไปทาง 320 d sport
แต่พออ่านแล้ว มันน่าใช้จริงๆ
-
ขอบคุณครับ
อะไรก็ดีหมด แต่พวงมาลัยอยากให้เป็น 3 ก้านทรงสปอร์ท
ไม่รู้เครื่องเทอร์โบของเบนซ์ ค่าเลี้ยงดูจะแพงเว่อร์ไหมหนอ
-
อ่านแล้วครับ ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆนะครับ
-
ขอบคุณครับ ;D
-
C250 CGI ของเค้าดีจริง ๆ
-
สวย หรู แพง :D
-
อยากได้ แต่รอดูตัวไมเนอร์ดีก่า อีกกี่เดือนไม่รู้
-
ผมออกเจ้า 320dse minorchange ไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาครับ แต่พอได้อ่านรีวิวของพี่แล้วรู้สึกเสียใดอยากเปลี่ยนจังเลย
แต่พอมองไปที่ BM ที่ได้จอดอยู่ที่บ้านทีไร ก็ไม่คิดอยากเปลี่ยนเลย ยังไงก็ยังรักเจ้า 320d มากกว่าอยู่ดี ประหยัดน้ำมันเหมือนกัน
ความแรงอยู่ที่ใจกล้า ความสามารถอยู่ที่คนขับ ความสนุกอยู่ที่เราเลือก BM ครับ
-
พี่จิมมี่รีบเอา 320d Sport กับ 325i Sport มารีวิวโดบด่วนทีี่สุดเลยครับ :D :D
รู้ ๆ กันไปเล้ยยยยยยยยยยยย ;D
ขอบคุณนะครับสำหรับรีวิว ยังไม่ได้อ่านเท่าไรเลย ทำการบ้านซะดึก -*- :'(
-
ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆครับ
แต่ผมอยากให้รีวิว C200CGI จังเพราะราคาเอื้อมง่ายกว่า
ขอบคุณครับ
-
ขอบคุณมากครับ ทีมงาน HLM เป็นรีวิวที่ดีมากๆ
ผมกำลังจะรับรถแล้วครับ
จะขอติดตามต่อๆ ไปครับ ;)
-
รีวิว น่าอ่านมากๆ เหมือนเดิมครับ
เขียนได้ดีมากๆ ชอบครับ
-
320 SE VS C200 CGI avantguard อันไหนคุ้มกว่ากันครับ คุณจิมมี่
-
สวัสดีครับ ... ขอทราบข้อมูล C250 cgi minor change ไม่ทราบว่าจะออกมาเดือนไหนหรอค รับ ...ขอบคุณครับ..
-
คุณ J!MMY รีวิว W204 มีรายละเอียดหลายอย่างครับ
แต่คุณ J!MMY มีเวลาอยู่กับ W204 แค่ไม่กี่วัน
ผมอยู่กับ W204 มาเกือบ 3 ปีแล้ว มีบางอย่างหรืออาจจะหลายอย่างครับที่คุณ J!MMY ยังไม่ทราบเนื่องจากต้องใช้เวลาระยะหนึ่งก่อนจะทราบได้ ซึ่งผมขอเล่าบางเรื่องให้ทราบกัน
รถระดับราคาอย่างนี้ ต้องยอมรับว่าคุณภาพ สมรรถภาพ และ Option ของรถมีความสำคัญ นอกจากนั้นการบริการหลังการขายก็มีความสำคัญมากด้วย
แต่รถรุ่น W204 คุณภาพไม่ได้ดีอย่างที่คุณ J!MMY รีวิวไว้ทั้งหมด และบริษัท MB Thailand ยังไม่คิดจะรักษาคุณภาพและรับประกันรถอย่างจริงจังอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้น MB Thailand ยังมีเจตนาหลอกลวงยัดเยียดชิ้นส่วนที่ไม่ได้มาตรฐานให้ลูกค้าด้วย
ในเรื่องคุณภาพของรถ
- ผมเจอมาทั้งสตาร์ทไม่ติด ต้องปิดแอร์ไว้ก่อนสตาร์ทและทิ้งไว้ก่อนอีก 10 นาทีจึงจะสตาร์ทติด ซึ่งไปเช็คที่ศูนย์หลายครั้งและหลายศูนย์ก็บอกว่าไม่พบสาเหตุ
- เจอทั้งหลอดไฟที่ขยันขาดบ่อยมากซ้ำ ๆ ที่เดิม แต่ศูนย์รวมทั้ง MB Thailand เคยเอาไปเช็คก็บอกว่าไม่มีปัญหา แต่หลังจากเช็คเสร็จไปไม่กี่วันหลอดไฟก็ขาดอีก
- ระบบเบรคที่คุณ J!MMY บอกว่าดี แต่ทราบไหมว่ามีอายุการใช้งานประมาณแค่ 40000 กม.แล้วลูกค้าก็จำเป็นต้องเปลี่ยนจานเบรคและผ้าเบรคทั้ง 4 ล้อในราคาเกือบ 40000 บาท ทั้ง ๆ ที่รถอื่น ๆ รวมทั้งรถญี่ปุ่นใช้งานได้นานกว่านี้มากและราคาก็ต่ำกว่านี้มากด้วย
- ระบบพับกระจกมองข้างมีเสียงดัง ดังขนาดที่จะมีคนแถวนั้นมองรถคุณเป็นจุดเดียวโดยที่คุณไม่ได้เรียกร้องให้มอง แต่ศูนย์แก้ไม่หาย และ MB Thailand ก็ไม่สนใจจะแก้ด้วย
- วัสดุที่ใช้ประกอบรถคุณภาพต่ำ ฝีมือการประกอบรถของ MB Thailand ก็ไม่ดี รถมีปัญหาแผงกันความร้อนซึ่งอยู่ในแผงประตูหลุดออกมาเองได้ ทำให้มีเสียงดังในประตู แจ้งศูนย์ตรวจแล้วศูนย์ก็บอกว่าปกติอีกตามเคย ลูกค้าต้องไปทำให้ดูว่ามีเสียงดังผิดปกติ พอเปิดแผงประตูมาดูก็พบแผงกันความร้อนหลุดออกมาเป็นแผ่นยาวแกว่งอยู่ข้างใน สภาพแผงนี้ก็เปื่อย ๆ มีรอยแตก ๆ พบขณะใช้รถมาได้แค่ประมาณครึ่งปีเท่านั้น กระจกหน้าก็ seal ไม่ดี ทำให้มีเสียงกระจกเสียดสีกับยางซีลและตัวถังเกือบตลอดเวลาตั้งแต่เดือนแรก ๆ ที่ใช้รถรุ่นนี้ เข้าศูนย์ให้เช็คตลอดแต่ก็ได้รับคำตอบว่าไม่พบปัญหา จนครั้งหลังค่อยตรวจพบ เรื่องซีลกระจกหน้าเป็นเรื่องที่สำคัญมากเพราะเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยและเป็นปัญหาที่พบได้ยากในรถทั่วไป เป็นสิ่งที่ไม่ต้องใช้เทคโนโลยีล้ำหน้าแต่ต้องใช้ฝีมือและการควบคุมคุณภาพที่จริงจัง
- โช๊คมีอายุการใช้งานสั้นประมาณ 40000 กม ก็ต้องเปลี่ยนแล้วโดยไม่มีคำอธิบาย
- เรื่องเสียงดังจากชิ้นส่วนต่าง ๆ ซึ่งใช้วัสดุคุณภาพต่ำภายในห้องโดยสารนั้นไม่ต้องพูดถึงดีกว่า เพราะสิ่งเหล่านี้สร้างความรำคาญให้คนใช้รถแต่ไม่ได้สร้างความสนใจที่จะแก้ปัญหาหรือพัฒนาคุณภาพให้แก่ MB Thailand บอกได้เลยว่าถ้าคุณใช้รถ W204 นี้ไปคุณจะไม่เหงาเพราะมีโอกาสพบปัญหาต่าง ๆ ให้คุณตามแก้ได้ไม่หยุดทีเดียว
เรื่องต่าง ๆ ข้างต้นนี้เป็นความจริง เกิดขึ้นในช่วงเวลาไล่ ๆ กัน มีใบเสร็จและรายการที่เข้าตรวจเช็คที่ศูนย์ และทาง MB Thailand ได้นำรถไปตรวจมาแล้ว โดยใช้เวลาตรวจแค่ครึ่งวันก็บอกมาเลยว่าตรวจทุกอย่างแล้วไม่มีปัญหา แต่เวลารับรถมาแล้วก็ยังพบว่าหลอดไฟขาดอีก เสียงดังด้านหน้ารถก็ไม่หาย สตาร์ทรถบางครั้งก็ยาวววว จนใจหายใจคว่ำว่าจะไม่ติดอีกแล้วเหรอ เวลากางกระจกมองข้างก็ดังได้ระดับอีกตามเคย ใคร ๆ ก็คิดว่าคุณภาพในการประกอบรถยี่ห้อนี้น่าจะดีในระดับสูงกว่าทั่ว ๆ ไปอยู่บ้างแต่ก็ได้รับคำตอบจากผู้บริหาร MB Thailand ว่า "ก็ทางบริษัทเราไม่เคยบอกว่ารถเรามีคุณภาพ" แปลว่าลูกค้าดันไปคิดเอาเองว่ารถยี่ห้อนี้น่าจะมีคุณภาพดีแต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่
ผมต้องนำรถเข้าไปตรวจเช็คที่ศูนย์บ่อย ๆ ตลอดเกือบ 3 ปี แต่ก็แก้ปัญหาไม่ได้ แต่ละครั้งใช้เวลาอยู่ในศูนย์ 4-9 วัน ผมไม่ได้พิมพ์ผิด 9 วันจริง ๆ แต่...แก้ปัญหาไม่ได้
ที่ผมบอกตอนต้นว่า MB Thailand มีเจตนาหลอกลวงยัดเยียดชิ้นส่วนที่ไม่ได้มาตรฐานให้ลูกค้านั้น เพราะ
- หลอดไฟที่ขาดบ่อย ๆ ทาง MB Germany ให้ใช้หลอดไฟเบอร์หนึ่งเป็นมาตรฐาน (แต่ไม่ทราบว่าเบอร์อะไร) แต่ MB Thailand ไม่แน่ใจว่าหลอดไฟที่ใช้จริงในรถที่ผลิตในประเทศไทยใช้หลอดไฟเบอร์อะไร แสดงว่าเรื่องหลอดไฟและระบบไฟในรถไม่ได้มาตรฐาน มีการลักลอบใช้ชิ้นส่วนที่ไม่ได้มาตรฐานผลิตรถยนต์โดยที่ทาง MB Germany ไม่ทราบ
- โช๊คของรถรุ่นนี้ทาง MB Germany ให้ใช้รุ่นใหม่ทั้งหมดแล้ว ทาง MB Thailand มีโช๊ครุ่นนี้แล้วแต่ยังไม่ให้ลูกค้าใช้ รถคันไหนต้องเปลี่ยนโช๊คจะต้องใช้รุ่นเก่าไปก่อน คงจะให้หมดสต็อกก่อน ทางศูนย์จะเบิกโช๊ครุ่นใหม่ก็เบิกไม่ได้เพราะยังไม่เปิดรหัสให้เบิกไปใช้ ในเมื่อ MB Germany ให้ใช้โช๊ครุ่นใหม่เป็นมาตรฐานแล้วทาง MB Thailand ก็ต้องให้ลูกค้าที่ต้องเปลี่ยนโช๊คได้ใช้โช๊คใหม่ที่เป็นมาตรฐานในทันที ไม่ใช่ใช้โช๊คเก่าที่ตกมาตรฐานไปก่อน
ข้อมูลพวกนี้คุณ J!MMY ทราบไหมครับ!!! ข้อมูลพวกนี้มีความสำคัญเวลาเราจะซื้อรถไหมครับ!!! แต่อย่างที่บอกตอนต้น...นี่เป็นบางเรื่องที่จะเล่าเท่านั้น
เรื่องหนึ่งที่น่าจะมีประโยชน์ คือถ้าใครหลวมตัวซื้อรถยี่ห้อนี้มาใช้แล้วก็ต้องอดทนมาก ๆ หน่อย ต้องมีเวลาเหลือเฟือมาก ๆ งานการทำให้น้อย ๆ ไว้จะได้เอาเวลาไปแก้ปัญหารถ ถ้าต้องเอารถเข้าศูนย์ก็ควรไปวันธรรมดาเพราะถ้าตรวจเจออะไรเข้าทางศุนย์จะต้องขออนุมัติ MB Thailand เพื่อจะเปลี่ยนหรือซ่อมชิ้นส่วนนั้นในวันธรรมดา ถ้าท่านไปเข้าศูนย์วันเสาร์อาทิตย์ท่านก็ต้องรอให้ MB Thailand เปิดในวันธรรมดาเสียก่อนศูนย์จึงจะเปลี่ยนหรือซ่อมชิ้นส่วนนั้นได้
-
มันเป็นบางคันอ่ะครับ
-
ไม่ว่ามันจะเป็นกับรถกี่คันก็แล้วแต่ แต่ถ้าเกิดแล้วก็ต้องมีการแก้ไขให้หมดปัญหาไปโดยเร็วตามที่มีการรับประกันไว้ใช่ไหมครับ ไม่ใช่ให้คาราคาซังหรือแก้แบบให้พอผ่าน ๆ ไปทีแบบนี้ MB Thailand เอารถไปเช็คแค่ครึ่งวันก็บอกมาเลยว่าปกติทุกอย่าง ทั้งระบบไฟฟ้า ระบบเครื่องยนต์ และการประกอบรถชิ้นส่วนต่าง ๆ ปกติทั้งคัน พอรับรถกลับมาก็พบว่าปัญหาต่าง ๆ ยังอยู่ ไม่ได้เช็คอย่างดีตามที่อ้างเลย