Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ซิ่งเข้าส้วม ที่ กันยายน 21, 2019, 09:13:26
-
วันนี้ Daimler AG บริษัทแม่ของ Mercedes Benz ได้ประกาศออกสื่อว่าจะไม่พัฒนาเครื่องยนต์สันดาปแล้ว เพราะเชื่อว่าเทคโนโลยีได้มาถึงทางตันแล้ว
ต่อไปจะมุ่งพัฒนาระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าให้มีแระสิทธิภาพแทน
นั่นหมายถึงรถเบนซ์เครื่องยนต์สันดาปที่ขายอยู่ตอนนี้จะเป็นเทคโนโลยีสุดท้าย ไม่มีดีกว่านี้อีกต่อไปครับ คนรอซื้อไม่ต้องรอเครื่องอัพเกรด ช่างอู่ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องซ่อมเครื่องใหม่ๆ ซ่อมยากๆ อีกต่อไป
ที่มา: https://www.blognone.com/node/112058
-
วันนี้ถือเป็นวันแห่งประวัติศาสตร์ในวงการรถยนต์ เพราะ Daimler บริษัทแม่ของ Mercedes-Benz ได้ระบุว่าไม่มีแผนจะพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปภายในรุ่นใหม่แล้ว
Markus Schäfer สมาชิกบอร์ดบริหาร และผู้บริหารฝ่ายวิจัยและพัฒนารถยนต์ Mercedes-Benz ได้กล่าวกับสื่อเยอรมันว่าขณะนี้พวกเขาไม่มีแผนจะพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปภายในรุ่นใหม่แล้ว และกำลังโฟกัสกับการพัฒนาระบบขับเคลื่อนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแทน อย่างไรก็ตาม Schäfer ระบุว่าการพัฒนาชิ้นส่วนสำหรับเครื่องยนต์ในปัจจุบันยังคงอยู่
ในระยะหลัง มีเหตุการณ์หลายอย่างที่แสดงให้เห็นว่าการพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปฯ ได้มาถึงจุดสูงสุดแล้ว กอปรกับการที่กฎหมายสิ่งแวดล้อมในหลายประเทศก็เข้มงวดขึ้นเรื่อยๆ ทำให้แบรนด์รถยนต์ต่างกุมขมับว่าต้องทำอย่างไรรถจึงจะปล่อยมลพิษออกมาให้น้อยลง เช่นเครื่องยนต์ดีเซลมาตรฐาน Euro 6 ก็ต้องเติมสารพิเศษที่ชื่อว่า AdBlue ไปผสมกับไอเสียเพื่อทำปฏิกิริยาลดไนโตรเจนออกไซด์หรือ NOx ก่อนจะปล่อยออกมาทางท่อไอเสีย และเหตุการณ์อื้อฉาวอันโด่งดังคือการที่ Volkswagen ได้ใส่ซอฟต์แวร์โกงผลการทดสอบมลพิษเข้ามาในรถตัวเอง
หากเป็นผู้ผลิตรถยนต์เจ้าอื่นออกมาประกาศแบบนี้ ก็คงไม่ถือว่าเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ แต่ระดับ Daimler ที่ผู้ก่อตั้งคือ Gottlieb Daimler นั้นถือว่าเป็นผู้คิดค้นเครื่องยนต์สันดาปภายในเลยทีเดียว
หลังจากมีข่าวนี้ออกมา Elon Musk ก็ได้ทวีตแสดงความยินดีกับ Daimler ทันที และบัญชีทวิตเตอร์ของ Mercedes-Benz ได้ตอบกลับว่า "เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน"
-
ก่อนจะเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ช่วยทำตัวรถให้ทนกว่านี้ได้หรือเปล่าครับ
-
ก่อนจะเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ช่วยทำตัวรถให้ทนกว่านี้ได้หรือเปล่าครับ
555555
-
เทระบายสต็อคเครื่องดีเซลมาทางประเทศแถวนี้
-
ก่อนจะเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ช่วยทำตัวรถให้ทนกว่านี้ได้หรือเปล่าครับ
555555
แหม่ คุณพี่ก็ขำซะ ;D
อยากให้รถมันทนกว่านี้จริงๆ นะครับ ไม่ใช้ 3 วันดี 4 วันไข้ 30 วันจอดศูนย์ :'(
-
ช่วงนี้ให้คนซื้อลองยาของใหม่ไปก่อน..
พังก้อซ่อมวนไป ;D
-
ถึงทางตัน
เพราะคงทำ Hybrid ให้ทนกว่านี้ไม่ได้แล้ว
-
ก็ดีนะครับ
หากเป็นประเทศจีนรัฐบาลยิ่งสนับสนุนเลย 8)
พี่ไทยก็น้ำมันยาว ๆ ไปก่อน
-
ก็ดีนะครับ
หากเป็นประเทศจีนรัฐบาลยิ่งสนับสนุนเลย 8)
พี่ไทยก็น้ำมันยาว ๆ ไปก่อน
อีก 5 ปีผมว่าก็คงไม่มีน้ำมันล้วนแล้วครับ สำหรับ MB และ BMW
-
เป็นงั้นได้ไง EQ Boost เพิ่งออกมาประมาณ 1-2 ปีเองไม่ใช่เหรอครับ
Benz นี่กลยุทธ์เปลี่ยนไว พลิกหน้ามือเป็นหลังมือไวไปไหน
Blutech Hybrid เอย
EQ Boost เอย
-
กระแสบ้านเรายังไบโอดีเซลอยู่เลยครับ
รถไฟฟ้าสำหรับบ้านเราน่าจะยังอีกนาน
-
ก็เป็นกระแสโลก
กว่าจะ apply กับไทยน่าจะมีระยะเวลานึง
และแอบสงสัย หากเปลี่ยนผู้บริหารจะมีคดีพลิกไหมครับ
-
สมควรคิดได้แล้วครับ ทำไฮบริดให้ปัญหาน้อยๆอย่างรถญี่ปุ่นบ้าง ลูกค้าจะได้ไม่หนี
-
สมควรคิดได้แล้วครับ ทำไฮบริดให้ปัญหาน้อยๆอย่างรถญี่ปุ่นบ้าง ลูกค้าจะได้ไม่หนี
รถญี่ปุ่นราคาแบตเตอรี่ไฮบริดเท่าไรครับ
-
วงการ EV ใครไปช้า จ่ายรอบวง ดู bmw เป็นตัวอย่าง จะเจ้งเอาง่ายๆ ขนาด ceo ต้องลาออกเลย เพราะทำ EV ไม่ท้นคนอื่นเขา
-
อีกหน่อยรถสันดาปล้วน คงเป็นตำนาน
-
กระแสบ้านเรายังไบโอดีเซลอยู่เลยครับ
รถไฟฟ้าสำหรับบ้านเราน่าจะยังอีกนาน
มันคือการเอาผลผลิตที่ล้นตลาดมาใช้แค่นั้นเลย ระยะยาวใช้มากๆก็ต้องนำเข้าอีกเพราะผลิตไม่พอ + ตลาดน้ำมันปาลม ยุโรปก็แบนเลิกใช้แล้วรายใหญ่ อย่างอินโด มาเล ไทย มันมีทางออกไม่กี่ทาง ทำน้ำมนเผาทิ้งก็หนึ่งในนั้น
-
บ้านเราก็คงคล้ายๆ กัน เพราะ ภาษี ทำให้ บ.รถ ต้องเอาระบบไฟฟ้าเข้ามาช่วย