Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: art_za ที่ ตุลาคม 17, 2019, 01:26:34
-
สอบท่านผู้ใช้และท่านผู้เชี่ยวชาญ
ผมสนใจ รถมือสอง Nissan Teana 2.5XV V6 ปี2010
ยังน่าใช้หรือไม่ครับ
แล้วต้องดูอะไรเป็นพิเศษบ้างครับสำหรับปัญหาและอาการเฉพาะตัว
เรื่องอัตราสิ้นเปลือง OK
แม่บ้านสนใจมากๆ มากกว่าผมเสียอีก
-
2010 น่าจะเป็นตัวก่อน Minor ใช่ไหมครับ มีปัญหาเรื่องเกียร์นะครับ ไม่มีออยคูลเลอร์มาให้ แต่ตัว Minor ใส่ออยมทแล้ว ถ้าเป็นไปได้เล่นตัว Minor ดีกว่าครับ
-
J32 250xv ครับ
2.5xv เป็น L33 ครับ
ถ้าไม่ได้ติดกับรุ่น J32 ผมว่า L33-2.5xv น่าเล่นกว่า ในราคา 7 แสน บวก/ลบ แล้วแต่สภาพ รถปี 2013-2014
หรือจะเป็น L33-2.0XL ปี 2014-2015 ราคา 5 แสน+ อันนี้ก็คุ้มค่ามาก
-
MNC 2012 ครับ มี Oil gear ติดมาแล้ว (ไฟท้ายต้องมีโซนสีขาวเยอะกว่าตัวก่อนไมครับ)
ผมก็กำลังหารุ่นนี้อยู่เหมือนกัน
แต่อีกใจนึงก็แอบอยากได้ L33 2.0XL 2014 ประมาณ 550-650k
-
ปี 10 ยังไม่ไมเนอร์ฯ ถ้าเป็นรถที่สมบูรณ์มา
ผมแนะนำให้ทำแบบผม คือเปลี่ยนวาล์วน้ำเป็น 82 องศา แก้ปัญหาความร้อนของน้ำมันเกียร์ได้ ไม่ต้องกังวลว่ารถจะฮีท ของผม เอ็กซ์เทรล แต่ตัว 2.0 เมื่อลดวาล์วน้ำลงอุณหภูมิน้ำหล่อเย็น อยู่ที่ 85-87 องศา ถ้าปิดแอร์วิ่ง กี่ชั่วโมง พัดลมไม่ทำงานทั้งโลว์และไฮ แต่ถ้าเปิดแอร์ พัดลม มีโลว์อย่างเดียว ไฮไม่ทำเลย...อุณหภูมิคงที่การระบายความร้อนดีมาก แต่เครื่อง 2.5 ความร้อนอาจจะสูงกว่ารถผมเล็กน้อยครับ
-
สอบท่านผู้ใช้และท่านผู้เชี่ยวชาญ
ผมสนใจ รถมือสอง Nissan Teana 2.5XV V6 ปี2010
ยังน่าใช้หรือไม่ครับ
แล้วต้องดูอะไรเป็นพิเศษบ้างครับสำหรับปัญหาและอาการเฉพาะตัว
เรื่องอัตราสิ้นเปลือง OK
แม่บ้านสนใจมากๆ มากกว่าผมเสียอีก
ตัวรถยังมีความน่าสนใจอยู่ครับ แต่ขึ้นอยู่กับสภาพของรถด้วยครับ ตัวรถเป็นแพล็ทฟอร์มเดียวกับ L33 ภายในให้ความรู้สึกผ่อนคลายในลักษณะรถ Luxury sedan ในมุมผมไม่มีรถรุ่นอื่นในคลาสเดียวกันที่เทียบได้ ถ้าจะซื้อต้องเน้นรถเดิมๆที่สุดไม่แต่งมา ไม่ติดแก๊สมา ไม่ประสบอุบัติเหตุหนักมา ไมล์ประมาณแสน ถ้าได้ตามนี้ถือว่าคุ้มมากครับ
รถรุ่นนี้ใช้เกียร์อัตโนมัติ CVT การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์เป็นสิ่งสำคัญมาก น้ำมันเกียร์ต้องเปลี่ยนบ่อยๆ แล้วรถจะขับดี สัก 20,000-40,000 กิโล เปลี่ยนที ขึ้นอยู่กับว่าเราเป็นคนขับรถเร็วหรือช้า แต่แนะนำให้ไม่เกินนี้ เพราะน้ำมันเกียร์จะใหม่อยู่เสมอ ช่วยทำให้การขับขี่มีประสิทธิภาพและประหยัดน้ำมัน
ส่วนเรื่องการติด Tranmission fluid cooler ถือว่าไม่จำเป็น สิ่งที่ต้องทำคือเปลี่ยนน้ำยาหล่อเย็นทุกๆ 40,000 กิโล และต้องใช้ของนิสสันเท่านั้น เติมน้ำยาหล่อเย็นในหม้อพักให้เกือบเต็ม จะช่วยการระบายความร้อนได้ดีกว่าปกติ และจะทำให้แอร์เย็นฉ่ำกว่าเดิม อย่าเติม coolant (น้ำยาหล่อเย็น)ตามคู่มือบอก(เติมแค่ครึ่งหม้อพัก) เพราะนั่นเป็นสเป็คเมืองหนาว การระบายความร้อนจะไม่ดี น้ำมันเกียร์เสื่อมไว เกียร์จะอายุสั้น
และสิ่งที่สำคัญอีกประการนึงคือการลดความร้อนจากแหล่งกำเนิดความร้อน นี่คือการแก้ปัญหาความร้อนที่ต้นเหตุ ไม่ใช่ปลายเหตุแบบการติดตั้งชุดระบายความร้อนน้ำมันเกียร์ ถ้าเราลดความร้อนเครื่องยนต์ลงระบบระบายความร้อนจะทำงานเบาลง อายุการใช้งานยืนยาวมากขึ้น
การลดความร้อนในส่วนเครื่องยนต์ ทำได้ด้วยการเปลี่ยนหัวเทียนให้เย็นลง 1 เบอร์ ให้เหมาะสมกับภูมิอากาศเมืองร้อนอย่างประเทศไทย หัวเทียนเดิมเป็น Denso เบอร์ FXE20HR11 เทียบเท่ากับเบอร์ 6 ซึ่งร้อนไป ต้องเปลี่ยนเป็นเบอร์ FXE22HR11 หรือ NGK เบอร์ DF7H-11B หรือ NGK - LKAR7AHX-S (แนะนำตัวนี้เป็นพิเศษ)
และชุดล็อคประตูอาจจะเสียในระยะนี้ เปลี่ยนแค่ตัวมอเตอร์เล็กๆเท่านั้น ค่าใช้จ่ายครั้งละ 800-1,000 บาท ตามร้านซ่อมกระจกไฟฟ้าทั่วไป
-
ผมต้องขอขอบพระคุณทุกท่านสำหรับคำแนะนำและแนวทางเพื่อแก้ปัญหาก่อนที่จะเกิด
ขอบพระคุณทุกท่านคับ
-
2010 น่าจะเป็นตัวก่อน Minor ใช่ไหมครับ มีปัญหาเรื่องเกียร์นะครับ ไม่มีออยคูลเลอร์มาให้ แต่ตัว Minor ใส่ออยมทแล้ว ถ้าเป็นไปได้เล่นตัว Minor ดีกว่าครับ
ขอบคุณครับ
-
สอบท่านผู้ใช้และท่านผู้เชี่ยวชาญ
ผมสนใจ รถมือสอง Nissan Teana 2.5XV V6 ปี2010
ยังน่าใช้หรือไม่ครับ
แล้วต้องดูอะไรเป็นพิเศษบ้างครับสำหรับปัญหาและอาการเฉพาะตัว
เรื่องอัตราสิ้นเปลือง OK
แม่บ้านสนใจมากๆ มากกว่าผมเสียอีก
ตัวรถยังมีความน่าสนใจอยู่ครับ แต่ขึ้นอยู่กับสภาพของรถด้วยครับ ตัวรถเป็นแพล็ทฟอร์มเดียวกับ L33 ภายในให้ความรู้สึกผ่อนคลายในลักษณะรถ Luxury sedan ในมุมผมไม่มีรถรุ่นอื่นในคลาสเดียวกันที่เทียบได้ ถ้าจะซื้อต้องเน้นรถเดิมๆที่สุดไม่แต่งมา ไม่ติดแก๊สมา ไม่ประสบอุบัติเหตุหนักมา ไมล์ประมาณแสน ถ้าได้ตามนี้ถือว่าคุ้มมากครับ
รถรุ่นนี้ใช้เกียร์อัตโนมัติ CVT การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์เป็นสิ่งสำคัญมาก น้ำมันเกียร์ต้องเปลี่ยนบ่อยๆ แล้วรถจะขับดี สัก 20,000-40,000 กิโล เปลี่ยนที ขึ้นอยู่กับว่าเราเป็นคนขับรถเร็วหรือช้า แต่แนะนำให้ไม่เกินนี้ เพราะน้ำมันเกียร์จะใหม่อยู่เสมอ ช่วยทำให้การขับขี่มีประสิทธิภาพและประหยัดน้ำมัน
ส่วนเรื่องการติด Tranmission fluid cooler ถือว่าไม่จำเป็น สิ่งที่ต้องทำคือเปลี่ยนน้ำยาหล่อเย็นทุกๆ 40,000 กิโล และต้องใช้ของนิสสันเท่านั้น เติมน้ำยาหล่อเย็นในหม้อพักให้เกือบเต็ม จะช่วยการระบายความร้อนได้ดีกว่าปกติ และจะทำให้แอร์เย็นฉ่ำกว่าเดิม อย่าเติม coolant (น้ำยาหล่อเย็น)ตามคู่มือบอก(เติมแค่ครึ่งหม้อพัก) เพราะนั่นเป็นสเป็คเมืองหนาว การระบายความร้อนจะไม่ดี น้ำมันเกียร์เสื่อมไว เกียร์จะอายุสั้น
และสิ่งที่สำคัญอีกประการนึงคือการลดความร้อนจากแหล่งกำเนิดความร้อน นี่คือการแก้ปัญหาความร้อนที่ต้นเหตุ ไม่ใช่ปลายเหตุแบบการติดตั้งชุดระบายความร้อนน้ำมันเกียร์ ถ้าเราลดความร้อนเครื่องยนต์ลงระบบระบายความร้อนจะทำงานเบาลง อายุการใช้งานยืนยาวมากขึ้น
การลดความร้อนในส่วนเครื่องยนต์ ทำได้ด้วยการเปลี่ยนหัวเทียนให้เย็นลง 1 เบอร์ ให้เหมาะสมกับภูมิอากาศเมืองร้อนอย่างประเทศไทย หัวเทียนเดิมเป็น Denso เบอร์ FXE20HR11 เทียบเท่ากับเบอร์ 6 ซึ่งร้อนไป ต้องเปลี่ยนเป็นเบอร์ FXE22HR11 หรือ NGK เบอร์ DF7H-11B หรือ NGK - LKAR7AHX-S (แนะนำตัวนี้เป็นพิเศษ)
และชุดล็อคประตูอาจจะเสียในระยะนี้ เปลี่ยนแค่ตัวมอเตอร์เล็กๆเท่านั้น ค่าใช้จ่ายครั้งละ 800-1,000 บาท ตามร้านซ่อมกระจกไฟฟ้าทั่วไป
ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ สำหรับคำแนะนำที่ทำให้รู้สำเหตุและแนวทางแก้ไขครับ
-
หาคันที่ไม่ชนหนัก เกียร์ยังปกติดี
แล้วถ่ายน้ำมันเกียร์ถอดอ่างออกให้หมด ติดออยเกียร์ น่าจะใช้ได้อีกยาว คอนโซลชอบแตกประจำด้วย
-
จุดเปราะที่ควรระวัง ตรวจเช็คก่อนซื้อ
แร็คและยอย (บนและล่าง) พวงมาลัย
ปีกนก
เพลาขับ
ยางแท่นเครื่อง
คอนโซลหน้า
-
จุดเปราะที่ควรระวัง ตรวจเช็คก่อนซื้อ
แร็คและยอย (บนและล่าง) พวงมาลัย
ปีกนก
เพลาขับ
ยางแท่นเครื่อง
คอนโซลหน้า
ขอบคุณครับ