Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: kantorn.v ที่ พฤศจิกายน 04, 2019, 22:19:04
-
รบกวนสอบถามความคิดเห็นหน่อยครับ
พอดีคิดว่าจะออกรถ SUV ในงาน Motor Expo นี้ครับ
ตอนแรกคิดจะไป X1 20d M Sport แต่ CX5 2.5 Turbo ก็เพิ่งเปิดตัวมาใน spec และ ออพชั่นที่ครบครันกว่าเยอะ ส่วนเรื่องราคา ของ X1 เซลส์จัดส่วนลดให้ พร้อมของแถม BSI 6 ปี ประกันชั้น 1 ราคารวมเหลือ 2.25 ล้าน ซึ่งราคาต่างจาก CX5 ราว 4 แสนบาทครับ ก็เลยอยากจะขอความคิดเห็นจากเพื่อนๆว่า
1) CX5 2.5 T ตัวนี้ได้รับการแก้ไขปั๊มติ๊กรึยัง
2) สมรรถนะในการขับขี่คันไหนดีกว่ากัน
3) การบำรุงรักษาในระยะยาว คิดจะใช้รถ 10 ปี
4) ความคุ้มค่าในการใช้งาน
5) ความจุกจิก ความทน ของตัวรถ
รถใช้งานไปทำงานไปกลับขึ้นลงเขาค่อนข้างชันทุกวัน อาจมีเดินทางไกลบ้างสองสามเดือนครั้งครับ
ขอบคุณครับ
-
ผมตอบในฐานะ ใช้ X1 20d มาเกือบจะครบปี กับอีก 16,xxx กิโลเมตร นะครับ
1) CX5 2.5 T ตัวนี้ได้รับการแก้ไขปั๊มติ๊กรึยัง
ของใหม่ ยังไม่ทราบครับ
2) สมรรถนะในการขับขี่คันไหนดีกว่ากัน
อ้างอิงจากข้อ 1) ตามตัวเลขในกระดาษน่าจะเป็นมาสด้า แต่ข้อดีของ BMW ที่ได้เครื่องดีเซลคือประหยัดมากกก กับแรงบิดช่วงรอบต้นๆค่อนข้างดี และเกียร์ 8 จังหวะ ครับ
3) การบำรุงรักษาในระยะยาว คิดจะใช้รถ 10 ปี
BMW ได้ wanranty กับ BSI สบายใจไป 6 ปี แต่หลังจากนั้นก็ตามชื่อชั้นยีห้อน่าจะหยักกว่ามาสด้าถ้าเจออะไหล่ใหญ่ๆ
4) ความคุ้มค่าในการใช้งาน
เอาราคาเป็นที่ตั้ง มาสด้าครับ
5) ความจุกจิก ความทน ของตัวรถ
ผมไม่ได้ใช้มาสด้ารุ่นใหม่ๆอ่ะครับ แต่จากที่ใช้ BMW มาสองสามคันในช่วง 5 ปีนี้ ไม่มีอะไรจุกจิกหรืองอแงเลยครับ
ปล. X1 เมืองนอก LCI แล้วนะครับ
-
ผมตอบในฐานะ ใช้ X1 20d มาเกือบจะครบปี กับอีก 16,xxx กิโลเมตร นะครับ
1) CX5 2.5 T ตัวนี้ได้รับการแก้ไขปั๊มติ๊กรึยัง
ของใหม่ ยังไม่ทราบครับ
2) สมรรถนะในการขับขี่คันไหนดีกว่ากัน
อ้างอิงจากข้อ 1) ตามตัวเลขในกระดาษน่าจะเป็นมาสด้า แต่ข้อดีของ BMW ที่ได้เครื่องดีเซลคือประหยัดมากกก กับแรงบิดช่วงรอบต้นๆค่อนข้างดี และเกียร์ 8 จังหวะ ครับ
3) การบำรุงรักษาในระยะยาว คิดจะใช้รถ 10 ปี
BMW ได้ wanranty กับ BSI สบายใจไป 6 ปี แต่หลังจากนั้นก็ตามชื่อชั้นยีห้อน่าจะหยักกว่ามาสด้าถ้าเจออะไหล่ใหญ่ๆ
4) ความคุ้มค่าในการใช้งาน
เอาราคาเป็นที่ตั้ง มาสด้าครับ
5) ความจุกจิก ความทน ของตัวรถ
ผมไม่ได้ใช้มาสด้ารุ่นใหม่ๆอ่ะครับ แต่จากที่ใช้ BMW มาสองสามคันในช่วง 5 ปีนี้ ไม่มีอะไรจุกจิกหรืองอแงเลยครับ
ปล. X1 เมืองนอก LCI แล้วนะครับ
ใช่ครับ คงเพราะเมืองนอก LCI ถึงได้มาลดราคา 4 แสนได้ ถ้าซื้อราคาเต็มที่ 2.6 ล้าน ผมคงไม่คิดมากแล้วตัดใจไปเอา CX5 ครับ แต่เพราะด้วยราคาที่ห่างกัน 4 แสน ก็เลยชั่งใจสักหน่อยครับ เท่าที่ดูสเปคเมืองนอก ก็ไม่ค่อยมีอะไรใหม่นอกจากหน้าตาที่ facelift เป็นเหมือนรุ่นพี่ X3 นะครับ
-
Cx5 2.5t อยากให้ผ่านไปสักปีนึงก่อนค่อยซื้อ เพราะน่ารอดูพวกดีเฟคต่างๆก่อน
ส่วนX1 ดีตามมาตรฐานครับ ไม่มีอะไรsurprise ลองต่อราคาดูอีกครับ คุยดีๆได้เยอะแน่นอน ปิดยอดสิ้นปี
สมรรถนะ cx5 ดีกว่า
ใช้รถ10ปี x1 ดูแลไม่ยาก ค่าซ่อมไม่ต่างกันเท่าไร
ความคุ้มค่า แล้วแต่คน
ความจุกจิกตอนนี้ มาสด้าโดยรวม ปัญหาดีเฟคน่าจะเยอะกว่าBMWครับ
สรุปถ้ารอได้ รอดูก่อนสักปี
ถ้ารอไม่ได้ ไปx1
-
ผมขอตอบแบบรวมๆล่ะกันครับ
เคยใช้ Mazda 2 ซื้อให้แฟนใช้ อาจจะไม่ตรงกับ cx5 ที่เจ้าของกระทู้ถามนะครับ แต่
1. เกียร์พัง
2. ช่วงล่างมีปัญหาบางอย่าง ศูนย์ งอแงมากเคลมยาก
cx5 ส่วนตัวนะครับ อย่าไปเลย รถมันอยู่กับเราไปอีกนาน นอกจากคุณจะขับแค่ 60,000 โลแล้วขายอันนั้นน่าจะไปได้
ตัดสินใจซ่อมแล้วขายทิ้ง
ที่บ้านมี X3 20D ตัวก่อนเปลี่ยนโฉม ตอนนี้ขายไปแล้วเพราะเป็นรถใช้วิ่งดูที่ดิน เวลาจะขาย ระยะตอนขายคือ 210,000 โล
ไม่มีอะไรพังครับ ซ่อมตามปกติ กลับกัน glc220d อีกคัน ซ่อมมันจะทุกอย่างแล้วครับจนแม่บอกว่า benz นี่มันเป็นรถรักศูนย์เน๊อะ
-
X1 ออกมาหลายปีละ เสียงบ่น น้อยมาก แน่นอนว่าหลังหมด bsi ค่าซ่อมสูงตามประสารถยี่ห้อนี้แหละ
CX5 ก็ออกมานาน แต่ปัญหามาทุกวัน ก่อนเข้ามาตอบใน page นี้ ก็เพิ่งเจอคนบ่น ออก 2.0 มาได้ 2 เดือน ต้องขึ้นยานแม่ละ ปั๊มติ๊กพัง .. ปัญหาแค่นี้ยังไม่มีปัญญาแก้เลยครับ !!!
จริงๆของแบบนี้ง่ายนิดเดียวนะ สั่งระงับขาย แล้ว ส่ง part ให้ดีลเลอร์ ดำเนินการแก้ไข ติด stk สัญลักษณ์ที่กระจกหน้าว่า แก้แล้ว แค่นั้นแหละ ก็จบ (ถ้าเฟิร์มว่า part จากมาเลย์ แก้มาแล้วนะ) รถญี่ปุ่นในไทย หลายๆค่าย พอเจอปัญหาเค้าก็ทำแบบนี้กัน
-
ไปลองดูก่อนครับ
ผมว่ายังไง bmw ก็ดูหรูคนละระดับกับ cx5 8)
-
ผมว่าถ้าเอาสบายใจไป x1 ดีกว่าครับ ยิ่งซื้อมาใช้ทางลาดชันทุกวันยิ่งต้องการความมั่นใจขณะขับขี่ ซึ่ง x1 ก็ดูจะมีปัญหาน้อยกว่าอีกตัวเลือกมากๆ
-
X1 เลยคับ ไม่ต้องลุ้นปัญหา แรงไม่ได้ด้อยกว่านัก แต่ประหยัดกว่าชัดเจน
-
ผมเป็นพวกชอบซุ่มนะ ... ไม่หรู ไม่แพง ...แต่อย่าให้เจอบนถนน ...
2.5T ขึ้นเขาผมว่า ทิ้งดีเซลของ BMW กระจุยง่ายๆนะครับ ...
-
ถ้าตัวเลือกไม่ใช่ mazda เป็นพวก CR-V , forester ก็จะบอกว่าไม่ต้องเพิ่มเงินหรอกครับ ส่วนต่างเอาไปต่อทุนอย่างอื่นดูคุ้มกว่า
แต่ถ้าเทียบ CX-5 กับ X1 20d หักส่วนลด ผมให้ X1 นะ อาจจะไม่ได้ใช้ X1 มาก่อน แต่ญาติใช้ BMW ตั้งแต่เครื่อง N47 จนมาถึง B47 ก็ไม่มีปัญหาเรื่องเครื่องอะไรให้กวนใจเลยนะครับ หลักๆใช้รถยาวเกิน BSI ก็จะมีค่าอะไหล่ที่ราคาสูงหน่อย แต่ก็รับได้
ถ้าเป็นคนที่ใช้รถแบบพอใกล้หมด BSI แล้วเปลี่ยนเล่นคันใหม่ก็จะยิ่งคุ้มใหญ่เลย
เรื่องสมรรถนะ 2.5T คงจะได้ดีกว่า แต่ปัญหานี่สิ ส่วนนึงเพราะเรายังไม่เห็นการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมจาก mazda TH เลยกับสิ่งที่เกิดขึ้น
เพราะโจทย์เป็น X1 ครับ ถ้าเทียบกับ X3 ผมก็มองว่า CX-5 จะคุ้มขึ้นมาตรงส่วนต่างราคา
-
ที่บ้านมี 318i กับเคยมี 323 Protege อายุป้ายแดงพอๆ กัน ไม่ตรงรุ่นแต่พอเปรียบเรื่องการดูแลรักษาได้อยู่ครับ
1.ไม่ทราบครับ
2.ดียังไงครับ ชอบม้าตีนปลาย ไป CX5 ชอบแรงดึงหนักๆ ไป X1 ชอบความหนักแน่นแบบรถยุโรป ไป X1
4.CX5 ถูกกว่า คันใหญ่กว่า คุ้มกว่าครับ
3/5.จริงๆ E46 นี่ค่อนข้างจุกจิกนะครับ แต่อีกคันนี่หนักกว่าเยอะ ทั้งๆ ที่ 323 ระบบไฟฟ้าน้อยกว่าเยอะนะ
เรื่องแรงดึงเนี่ย ระวังม้าฝรั่งนะครับ X1 แรงบิดน้อยกว่าแค่ 20Nm เบากว่าเกือบ 200kg และ X1 มีความประหยัดที่ CX5 ไม่มีวันให้ได้ด้วยครับ
-
2.5 ยังไม่เคยลองแต่ถ้าเทียบ 2.2 กับ x1 ดีเซลแรงกว่าครับ เครื่องเทอร์โบ2.2แต่ฟีลลิ่งเหมือนเครื่องธรรมดาไม่ได้แรงอะไรเลย อัตราเร่งไม่ต่าง n46 เบนซินธรรมดาใน x1 ตัวแรก
เครื่องเดิมใน e84 ทั้ง b47 n46 ที่หมดเจนไปแล้วก่อนพัฒนามาเป็น b47 ยังไม่เห็นสียงบ่นหรืออะไรจุกจิกให้เห็นเท่ากับ mz ซึ่งเปิดตัวมาทีหลัง
เลือกความคุ้มราคาออฟชั่นอเนกประสงค์กว่า mz
เลือกฟีลลิ่งการขับขี่ ภาพลักษณ์เป็นต่อ ความประหยัด ความเสี่ยงน้อยกว่า x1
-
ผมว่า 2.5t ม้า ตะกายแอ็คถีบ สู้ม้าเยอรมันไม่ได้ครับ
-
ใช้ 10 ปี ผ่าน cx5 ก่อนเลยครับ
เลือก x1
-
ความต้องการเจ้าของกระทู้ เครื่องยนต์ดีเซลใกล้เคียงความต้องการมากสุดกับการขับขึ้นทางชันทุกวัน
เบนซินเทอร์โบ อานิสงส์ตอนเร่งแซง 140 ขึ้นไปบันเทิงครับ
ให้ได้คันที่ถูกใจครับ
-
ผมว่า 2.5t ม้า ตะกายแอ็คถีบ สู้ม้าเยอรมันไม่ได้ครับ
ผมดูคลิปที่คุณจิมมี่ลอง X1 กับคุณแพน รู้สึก CX5 2.5 ทำเวลาดีกว่า X1sdrive18d เยอะนะครับ
ทั้งที่ 2.5ไม่ใช่เครื่องเทอร์โบด้วย
-
ถ้าเอาตามกระดาษสมรรถนะ ของ cx5 ดูดีกว่าเยอะครับแต่เท่าที่ผมลองถามแฟนผม หรือเพื่อนผู้หญิงหลายๆคนระหว่าง cx5 2.5 t กับ BMW x1
ผู้หญิงหลายๆคนหรือคนที่ไม่รู้จักเรื่องรถจะบอกว่าไป BMW ดีกว่าครับถ้างบถึง
-
กลายเป็น bmw น่าใช้เพราะทนทาน
ไว้ใจได้กว่า mazda ไปแล้ว
Mazda ทำไรอยู่ครับ
จะไหวปะเนี่ย
-
ชอบการขับรถ cx5 ไปเรื่อยๆได้ประหยัด x1
-
X1 ยังกั๊กขับสี่อยู่รึเปล่าครับ
-
ถ้าเป็นผม คงบอกเซลล์ค่ายเยอรมันว่า ขอราคาให้มันใกล้กับราคาตั้งค่ายยุ่นหน่อยได้ไหม ถ้าได้เอาเลยไม่คิดนาน แต่ถ้าไม่ได้ก็ขอเล่นตัวดูๆไปก่อนนะจ๊ะ ;D
-
ตอนนี้ผมกำลังตกอยู่ในสถานการณ์แบบ จขกท.เลยครับ
รอจังหวะซื้อมานานแล้ว ถ้า CX5 รุ่นก่อนหน้านี้ไม่มีปัญหา คงเสร็จ CX5 ไปแล้ว แต่ผมยังไม่รับใช้รถใหม่ และคิดว่าจะรอปีหน้า เพื่อรอดู SUV ของ toyota ก่อน พอถึงตอนนั้น ก็น่าจะได้ feedback ของ CX5 ว่ายังมีปัญหาอยู่รึเปล่า รวมถึงตอนนั้น X1 ก็น่าจะลดลงได้อีก ยิ่งถ้ามีข่าวว่าตัว LCI จะมาแล้วลดเยอะๆ ผมยิ่งชอบเลย เพราะตัวใหม่เปลี่ยนไม่เยอะเท่าไหร่ ใช้ตัวเดิมแต่ได้ส่วนลดเยอะๆน่าจะคุ้มกว่า
-
เอาแบบนี้ซิครับ ขอส่วนลดมาสด้าสักแสนก็น่าจะตัดสินใจได้ง่ายยิ่งขึ้นนะครับ
ส่วนต่าง 5 แสน เชียร์มาสด้าครับ
-
3) การบำรุงรักษาในระยะยาว คิดจะใช้รถ 10 ปี
ยังไง BMW ก็แพงกว่าครับ ฟันธง ไม่พูดถึงใครเสียก่อนกัน แต่พูดถึงถ้าเสียเหมือนกัน
4) ความคุ้มค่าในการใช้งาน
รถญี่ปุ่นคุ้มกว่า ถูกกว่า
CX5 2.5 ผมว่า ให้คิดถึงค่าน้ำมันด้วยนะครับ ถ้าเอามาวิ่งในเมือง มันจะกินหนักมากตามประสารถเครื่องใหญ่
วิ่งในเมืองรถติดๆ เฉลี่ย 4 km/l งี้ ผมเจอมาแล้วครับ กับค่ายญี่ปุ่นเครื่อง 2.4 วิ่งมาเป็ฯแสนโล เฉลี่ย มันยังอยู่แค่นั้นจริงๆ ครับ
-
ผมว่า 2.5t ม้า ตะกายแอ็คถีบ สู้ม้าเยอรมันไม่ได้ครับ
ผมดูคลิปที่คุณจิมมี่ลอง X1 กับคุณแพน รู้สึก CX5 2.5 ทำเวลาดีกว่า X1sdrive18d เยอะนะครับ
ทั้งที่ 2.5ไม่ใช่เครื่องเทอร์โบด้วย
เค้าพูดถึง 20d นี่ครับ
-
ไม่ใช่แฟนมาสด้า แต่เรื่องปั๊มติ๊ก เป็นไปได้สูงว่าใช้คนละ part กับที่มีปัญหา รถแรงกว่าตั้งเยอะ ปั๊มของ 2.0 ไม่น่าพอ .. ไม่ได้ว่าจะไม่มีปัญหา แต่น่าจะเป็นคนละตัวกัน ต้องรอดูไปครับ
X1 20d ตอนนี้ลดแล้วเหลือเท่าไหร่ครับเนี่ย (2.2 หรือเปล่าครับ)
-
ขอตอบรวมๆนะครับ
จริงๆ 2 ตัวนี้ผมคงจิ้ม cx5 ถ้าไม่ติดว่า reliablity ของแบรนด์ไม่ได้เลยตอนนี้ ปั้มแก้รึยังไม่รู้ ลอตที่บอกแก้แล้วๆๆ ก็ยังมีพังให้เห็น ไหนจะความเสี่ยงอื่นๆอีก
ส่วนขับเทียบผมกลับรู้สึกว่า x1 หน่วงอ่ะ ได้แค่พุ่งแรงต้น กับประหยัด
จากใจคนใช้ดีเซล bmw มาตลอดปัจจุบันก็ใช้ g20 ตัวไฟขี้ตาดีเซลอยู่ ปัญหาไม่ค่อยมี (แต่มีปัญหากะจออยู่นะ ติดๆดับๆหาสาเหตุไม่ได้) แต่ซ่อมทีก็จุกครับ ถึงจะบอก mazda ซ่อมแพงกว่ารถญี่ปุ่นเยอะ แต่ยังห่างไกลยุโรป bmw นะ
เพื่อนผมเป็นดีลเลอ mazda เค้าใช้ cx5 ตัวเก่าเองหลายปีก็ยังไม่มีปัญหานะ แต่อย่าลุ้นดีกว่าครับ
ส่วน 2.5t อยากแอบบอกว่าผมลองเอามาวิ่งในเมืองได้สักพักแล้วนะครับ เท้าหนักวิ่ง rush hour ได้ 4-5 จริงๆครับ ไม่ล้อเล่น เพราะ 2.0sp ผมก็วิ่งได้แค่ 6-7
และเอาจริงไม่ใช่คนขับซิ่งมาก ผมก็ไม่ได้รู้สึกว่าอะไรจะขนาดนั้น นอกจากจะไปเทียบกับ camry 2.0 ไรงี้ เอา gs300h กด eco เหยียบยังพุ่งกว่าเลยอะ
ผมจิ้ม x1 เพราะหน้าเก่าทั้งคู่ เดี๋ยว cx5 ก็ยกหน้าตามๆกันมาแหละ
-
เป็นผม กัดฟันไปเอา X1 ครับ
ถ้าสนใจ CX5 2.5T จริงๆ อยากให้รอซักพัก รอดู Defect ต่างๆ ก่อน
ผมเชื่อว่า ตัวนี้คงขายไม่ดีเท่าไหร่ (เพราะราคามันคาบเกี่ยวรถยุโรปเกินไป)
ถึงเวลานั้น รอส่วนลดซัก 100,000 ค่อยหันกลับมามองยังไม่สายครับ
-
ถ้าในใจมีแต่ 2 คันนี้
ผมเชียร์ X1 ครับ
CX-5 ดูจากการดูแลลูกค้า และการแก้ปัญหา ผมว่าไม่น่าคบ
แต่ต้องทำใจกับค่าซ่อม X1 นะครับ ตาม คห. บนๆ
-
ชอบการขับรถ cx5 ไปเรื่อยๆได้ประหยัด x1
+1
-
สิ่งที่ทำให้ผมไม่ซื้อ bmw เพราะ option บางรุ่นยังแพ้กระบะ 4 ประตู !!!
เลือกรุ่นที่เป็นตัวคุณเองดีกว่าครับ ถ้าชอบหรูดูดี หาที่จอดรถง่าย ไป bmw ครับ เชื่อผม ฮ่าๆ
ส่วนผมขอเลือก option ในรถที่มีมาให้ แล้วมันทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้น สบายขึ้น ปลอดภัยขึ้น ผมเลือก CX 5 ครับ
-
ผมว่า 2.5t ม้า ตะกายแอ็คถีบ สู้ม้าเยอรมันไม่ได้ครับ
ผมดูคลิปที่คุณจิมมี่ลอง X1 กับคุณแพน รู้สึก CX5 2.5 ทำเวลาดีกว่า X1sdrive18d เยอะนะครับ
ทั้งที่ 2.5ไม่ใช่เครื่องเทอร์โบด้วย
เค้าพูดถึง 20d นี่ครับ
ทราบครับ อันนี้เปรียบเทียบครับ 2.5 190 แรงม้าของมาสด้าทำเวลาได้ดีกว่า 18d 150แรงม้า
และเค้าเทียบ 2.5T 231แรงม้า เทียบ x1 20d 190 แรงม้าก็คงให้ผลไม่ต่างจากเดิมล่ะครับ
-
กระแสตอบรับ CX-5 Turbo ดูไม่ค่อยดีเลยนะครับเนี่ย เพราะเรื่องการจัดการปัญหาล้วนๆ
สมัยออก CX-5 รุ่นแรกใหม่ๆ มีเคสถังน้ำมันรั่ว ซึ่งโผล่มาแค่ไม่กี่คัน ก็มีจดหมาย recall ไปตรวจสอบทุกคันอย่างรวดเร็ว
อีกสักพักก็มี TSB ให้เปลี่ยนกล่องควบคุมเครื่องเสียงได้ฟรี เพื่อให้เล่นเพลงจาก USB ต่อเนื่องได้ไม่วนกลับไปเพลงแรกทุกครั้ง ซึ่งผมก็เข้าไปเปลี่ยนไม่มีอิดออดอะไร หลังจากนั้นก็ใช้มาเรื่อยๆ ไม่มีปัญหาอะไรอีก ซึ่งต้องถือว่าโชคดีที่เลือกรุ่นเบนซิน
ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมตอนนี้ปัญหาปั๊มติ๊กถึงไม่ recall ให้จบๆ เรื่องไปซะ ยกเว้นเสียว่ายังแก้ไม่ได้ :-X
ตอบคำถามจขกท. ส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบ X1 รุ่นนี้ นอกจากไม่สวยแล้วเบาะนั่งไม่ค่อยสบาย
เป็นผมคงเอา CX-5 Turbo แต่รอให้มีส่วนลดสัก 1 แสนก่อน คิดว่าราคา 1,850,000 แพงเกินควร
หรือถ้าแอบออกนอกตัวเลือกได้จะเอา XC40 T5
-
X1 มีเเค่ความประหยัดที่ดีกว่า cx5turbo
-
X1 มีเเค่ความประหยัดที่ดีกว่า cx5turbo
ไม่น่าใช่แค่นั่นมั๊งครับ
-
ถ้ามี รถยุโรปเข้ามาเป็นตัวเลือก แสดงว่าคงต้องมองแบรนด์ ด้วยอยู่แล้ว ซึ่งมันมีพลังเหนือออปชั่นสำหรับหลายๆคน
-
ใช้ยาวๆนี่ ผมไป X1 20d ครับ
นอกจากชื่อเสียงเครื่องยนต์ที่ทนทานแล้ว ผมว่าโปร warranty/BSI 6 ปี 120,000 กม. ตอนนี้น่าโดนครับ ใช้สบายใจ ควบคุมค่าใช้จ่ายง่าย กำลังเครื่องดี ประหยัดน้ำมัน
-
ผมว่า จขกท ลองขับ ชอบคันไหน เอาคันนั้นเลยครับ ระยะยาว ข้อดีข้อเสีย บวกลบกัน ไม่ต่างกันมากหรอก
ส่วนตัวผมเลือก mazda ครับ (ผมใช้ทั้งสองแบรนด์นี้ครับ)เพราะ
ราคาถูกกว่า
อะไหล่ยังไงก็ถูกกว่าพอสมควร
x1 เป็น bmw ที่พื้นฐานรถขับหน้า ผมว่าสู้ตัวพวกพื้นฐานขับหลังเช่น x3 ไม่ได้ เบาะก็นั่งไม่ค่อยสบาย
ออปชั่น x1 ด๋อยมาก
ส่วนข้อเด่นของ x1ในความเห็นผม
ประหยัดน้ำมัน
ภาพลักษณ์
-
คู่นี้เลือกง่ายมากครับ X1 แน่นอนครับ ยิ่งได้ส่วนลด ยิ่งคุ้มขึ้นด้วยครับ
รถญี่ปุ่นถ้าเกิน 1.5 M สำหรับผมถือว่า Overvalue แพงเกินราคาครับ
-
มาสด้าฟ้องลูกค้า ยังไม่เข็ดกันเหรอ ::)
-
ซื้อรถใช้ ถ้าไม่ได้ซื้อมาแล้วขายได้ถ้าไม่พอใจ ไม่ถูกใจ ไม่สนใจมูลค่าที่หายไป ก็ใช้มาสด้าได้ครับ
ถ้ายังต้องผูกกันอยู่ ต้องไปมาหาสู่กัน เพื่อรับบริการ ก็ต้องดูนิสัยใจคอ การให้บริการกันหน่อย
สำหรับผม มาสด้า ไม่ผ่านจาก ประวัติที่ผ่านๆมาครับ
ถึงรถดีอยากใช้ ก็ไม่อยากปวดหัวครับ ถ้าบริษัทยังคิด ยังขาย ด้วยวิธีการแบบนี้