Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: dailioh ที่ พฤศจิกายน 27, 2019, 20:14:26
-
เนื่องจากผมตอนนี้กำลังมองหารถ C segment ใหม่ 1 คันที่โจทย์ก็คือ ต้องการรุ่นที่มี adaptive cruise control จึงมองไปที่ 3 แบรนด์ดังกล่าว ส่วนตัวได้ลองขับแล้วทั้งหมด ชอบทุกคันครับดีคนละแบบจริงๆ ซึ่งเจ้าสุดท้ายที่ได้ลอง mazda3 ระหว่างเทสไดร์กับเซลล์ก็เกิดบทสนทนานี้ขึ้นมาจึงเกิดความสงสัยมันจริงหรอ=="
ผม: เสียดายนิดเดียวนะครับ adaptive cruise control ตัวนี้ยังไม่ stop and go
เซลล์: เพราะว่าทางเราเห็นว่าถ้าให้รถเบรคเองจนหยุดอาจเกิดอุบัติเหตุได้ครับ จึงทำให้หยุดการทำงานที่ความเร็วต่ำ ให้คนขับเบรคเองจะปลอดภัยกว่า
อันนี้ผมสงสัยว่าเป็นเหตุผลจริงหรือเซลล์มโนเองครับนี่
ข้าพเจ้าขอสาบานว่าบทสนทนานี้เกิดขึ้นจริงไม่ได้แต่งขึ้นครับ เพียงแต่สงสัยที่เซลล์พูดนั้นเป็นเหตุผลจริงหรือไม่
-
น่าจะเป็นแค่ เหตุผลที่ยกมา support ระบบของตัวเองมากกว่า
ถ้าไปถามแบรนที่มี stop and go แน่นอนว่าเขาจะบอกว่าของเขาปลอดภัยกว่าครับ
-
Saleที่ไหนก็ต้องอวยว่าของตัวเองดีทั้งนั้นครับ
-
เห็นว่าไปลองมาครบทุกยี่ห้อแล้วคิดว่าของ Altis และ Civic ปลอดภัยไหมละครับ เพราะเซลส์มีหน้าที่ขาย บางคนก็เชียร์ ออกนอกหน้าเกิน จนน่าหมั่นไส้ เดียวนี้ผมซื้อรถก็ศึกษามาพอสมควร แล้วไปลองด้วยตัวเอง ถ้าตรงที่เราชอบ ก็ซื้อ ถ้าคิดว่ามันผิดคาดรับไม่ได้ ก็รอก่อน เพราะเดียว minor ก็ปรับ option เพิ่มขึ้นอีก หรือข้ามไปยี่ห้ออื่นเลยครับ
-
Saleที่ไหนก็ต้องอวยว่าของตัวเองดีทั้งนั้นครับ
จริงครับ ไม่มีอะไรซับซ้อน
-
ผมว่าอย่างแรกเซลไม่รู้ว่า Auto Stop & Go นั้นมันคือระบบอะไร ....
แต่ผมขอตอบแทนน้องเซลละกันครับว่า Mazda3 มี I-stop อยู่แล้วทุกรุ่น ซึ่งถ้าจะใส่ Auto Stop & Go เข้ามาด้วยซึ่งการทำงานก็คล้ายกันคือ
-Auto Stop & Go เครื่องยนต์ดับในขณะจอดรถ และเครื่องยนต์ติดเอง หากรถคันหน้าเคลื่อนออกไป หรืออุณหภูมิในห้องโดยสารสุงขึ้นเหตุผลเพื่อประหยัดน้ำมัน
-แต่ I-stop ทำงานโดยผู้ขับขี่ควบคุมเองคือ ต้องหมุนพวงมาลัยหรือเหยียบเบรคเครื่องยนต์หรืออุณหภูมิในห้องโดยสารสุงขึ้นถึงจะติด เหตุผลก็เพื่อประหยัดน้ำมันเช่นกัน ..
แต่เชื่อเถอะครับ ถ้าคุณซื้อรถที่มี Auto Stop & Go คุณก็ปิดมันอยู่ดี เพราะการที่มันติด/ดับ ทุกครั้งที่คุณจอดรถเนี่ย มันน่าลำคารครับสุดท้ายคุณก็ต้องปิดมัน ...
-
ผมว่าอย่างแรกเซลไม่รู้ว่า Auto Stop & Go นั้นมันคือระบบอะไร ....
แต่ผมขอตอบแทนน้องเซลละกันครับว่า Mazda3 มี I-stop อยู่แล้วทุกรุ่น ซึ่งถ้าจะใส่ Auto Stop & Go เข้ามาด้วยซึ่งการทำงานก็คล้ายกันคือ
-Auto Stop & Go เครื่องยนต์ดับในขณะจอดรถ และเครื่องยนต์ติดเอง หากรถคันหน้าเคลื่อนออกไป หรืออุณหภูมิในห้องโดยสารสุงขึ้นเหตุผลเพื่อประหยัดน้ำมัน
-แต่ I-stop ทำงานโดยผู้ขับขี่ควบคุมเองคือ ต้องหมุนพวงมาลัยหรือเหยียบเบรคเครื่องยนต์หรืออุณหภูมิในห้องโดยสารสุงขึ้นถึงจะติด เหตุผลก็เพื่อประหยัดน้ำมันเช่นกัน ..
แต่เชื่อเถอะครับ ถ้าคุณซื้อรถที่มี Auto Stop & Go คุณก็ปิดมันอยู่ดี เพราะการที่มันติด/ดับ ทุกครั้งที่คุณจอดรถเนี่ย มันน่าลำคารครับสุดท้ายคุณก็ต้องปิดมัน ...
เค้าหมายถึง ครูซคอนโทรล ที่หยุดตามรถคันหน้า แล้วออกเองได้นิครับ
-
ผมว่าอย่างแรกเซลไม่รู้ว่า Auto Stop & Go นั้นมันคือระบบอะไร ....
และคุณเองก้ยังไม่ทราบว่ามันทำงานอย่างไรเช่นกัน
แต่ผมขอตอบแทนน้องเซลละกันครับว่า Mazda3 มี I-stop อยู่แล้วทุกรุ่น ซึ่งถ้าจะใส่ Auto Stop & Go เข้ามาด้วยซึ่งการทำงานก็คล้ายกันคือ
-Auto Stop & Go เครื่องยนต์ดับในขณะจอดรถ และเครื่องยนต์ติดเอง หากรถคันหน้าเคลื่อนออกไป หรืออุณหภูมิในห้องโดยสารสุงขึ้นเหตุผลเพื่อประหยัดน้ำมัน
-แต่ I-stop ทำงานโดยผู้ขับขี่ควบคุมเองคือ ต้องหมุนพวงมาลัยหรือเหยียบเบรคเครื่องยนต์หรืออุณหภูมิในห้องโดยสารสุงขึ้นถึงจะติด เหตุผลก็เพื่อประหยัดน้ำมันเช่นกัน ..
แต่เชื่อเถอะครับ ถ้าคุณซื้อรถที่มี Auto Stop & Go คุณก็ปิดมันอยู่ดี เพราะการที่มันติด/ดับ ทุกครั้งที่คุณจอดรถเนี่ย มันน่าลำคารครับสุดท้ายคุณก็ต้องปิดมัน ...
เค้ากำลังพูดถึง cruise control กันนะครับ ไม่ใช่ istop
-
ผมว่าอย่างแรกเซลไม่รู้ว่า Auto Stop & Go นั้นมันคือระบบอะไร ....
แต่ผมขอตอบแทนน้องเซลละกันครับว่า Mazda3 มี I-stop อยู่แล้วทุกรุ่น ซึ่งถ้าจะใส่ Auto Stop & Go เข้ามาด้วยซึ่งการทำงานก็คล้ายกันคือ
-Auto Stop & Go เครื่องยนต์ดับในขณะจอดรถ และเครื่องยนต์ติดเอง หากรถคันหน้าเคลื่อนออกไป หรืออุณหภูมิในห้องโดยสารสุงขึ้นเหตุผลเพื่อประหยัดน้ำมัน
-แต่ I-stop ทำงานโดยผู้ขับขี่ควบคุมเองคือ ต้องหมุนพวงมาลัยหรือเหยียบเบรคเครื่องยนต์หรืออุณหภูมิในห้องโดยสารสุงขึ้นถึงจะติด เหตุผลก็เพื่อประหยัดน้ำมันเช่นกัน ..
แต่เชื่อเถอะครับ ถ้าคุณซื้อรถที่มี Auto Stop & Go คุณก็ปิดมันอยู่ดี เพราะการที่มันติด/ดับ ทุกครั้งที่คุณจอดรถเนี่ย มันน่าลำคารครับสุดท้ายคุณก็ต้องปิดมัน ...
เค้าหมายถึง ครูซคอนโทรล ที่หยุดตามรถคันหน้า แล้วออกเองได้นิครับ
ใช่ๆๆๆๆ ที่พี่ apinui พูดถึง นั่นน่าจะเข้าใจเป็น idling stop มากกว่าครับ ไม่ใช่ระบบ cruise control ที่พี่ จขกท พูดถึง
-
ผมว่าอย่างแรกเซลไม่รู้ว่า Auto Stop & Go นั้นมันคือระบบอะไร ....
แต่ผมขอตอบแทนน้องเซลละกันครับว่า Mazda3 มี I-stop อยู่แล้วทุกรุ่น ซึ่งถ้าจะใส่ Auto Stop & Go เข้ามาด้วยซึ่งการทำงานก็คล้ายกันคือ
-Auto Stop & Go เครื่องยนต์ดับในขณะจอดรถ และเครื่องยนต์ติดเอง หากรถคันหน้าเคลื่อนออกไป หรืออุณหภูมิในห้องโดยสารสุงขึ้นเหตุผลเพื่อประหยัดน้ำมัน
-แต่ I-stop ทำงานโดยผู้ขับขี่ควบคุมเองคือ ต้องหมุนพวงมาลัยหรือเหยียบเบรคเครื่องยนต์หรืออุณหภูมิในห้องโดยสารสุงขึ้นถึงจะติด เหตุผลก็เพื่อประหยัดน้ำมันเช่นกัน ..
แต่เชื่อเถอะครับ ถ้าคุณซื้อรถที่มี Auto Stop & Go คุณก็ปิดมันอยู่ดี เพราะการที่มันติด/ดับ ทุกครั้งที่คุณจอดรถเนี่ย มันน่าลำคารครับสุดท้ายคุณก็ต้องปิดมัน ...
เค้าหมายถึง ครูซคอนโทรล ที่หยุดตามรถคันหน้า แล้วออกเองได้นิครับ
ผมเห็นเค้าพิมพ์ว่า stop and go นะครับ
และ adaptive cruise control กับ Auto Stop & Go มันทำงานคนละอย่างกันเลยครับ
แนะนำลองหาข้อมุล Auto Stop & Go ใน youtube ดูครับ
-
ผมว่าอย่างแรกเซลไม่รู้ว่า Auto Stop & Go นั้นมันคือระบบอะไร ....
แต่ผมขอตอบแทนน้องเซลละกันครับว่า Mazda3 มี I-stop อยู่แล้วทุกรุ่น ซึ่งถ้าจะใส่ Auto Stop & Go เข้ามาด้วยซึ่งการทำงานก็คล้ายกันคือ
-Auto Stop & Go เครื่องยนต์ดับในขณะจอดรถ และเครื่องยนต์ติดเอง หากรถคันหน้าเคลื่อนออกไป หรืออุณหภูมิในห้องโดยสารสุงขึ้นเหตุผลเพื่อประหยัดน้ำมัน
-แต่ I-stop ทำงานโดยผู้ขับขี่ควบคุมเองคือ ต้องหมุนพวงมาลัยหรือเหยียบเบรคเครื่องยนต์หรืออุณหภูมิในห้องโดยสารสุงขึ้นถึงจะติด เหตุผลก็เพื่อประหยัดน้ำมันเช่นกัน ..
แต่เชื่อเถอะครับ ถ้าคุณซื้อรถที่มี Auto Stop & Go คุณก็ปิดมันอยู่ดี เพราะการที่มันติด/ดับ ทุกครั้งที่คุณจอดรถเนี่ย มันน่าลำคารครับสุดท้ายคุณก็ต้องปิดมัน ...
เค้าหมายถึง ครูซคอนโทรล ที่หยุดตามรถคันหน้า แล้วออกเองได้นิครับ
ผมเห็นเค้าพิมพ์ว่า stop and go นะครับ
และ adaptive cruise control กับ Auto Stop & Go มันทำงานคนละอย่างกันเลยครับ
แนะนำลองหาข้อมุล Auto Stop & Go ใน youtube ดูครับ
จขกท พูดถึงว่า Mazda 3 มันมี adaptive cruise control แต่ ไม่มีระบบ stop and go เหมือน civic และ altis ครับ
ไม่ได้มีตรงไหนพูดถึง auto stop ang go นะครับ
-
https://www.youtube.com/watch?v=tkIBNuQ4JrE
อ๋อ แบบนี้หรือครับ .... ต้องขออภัยด้วยครับ
พอดีผมเข้าใจผิดคิดว่า Auto Stop & Go ของค่าย Mitsu เค้า ... .
-
เหตุผลง่ายๆเลยครับ ลดต้นทุน
เพราะเมืองนอก mazda ก็มีระบบนี้แล้ว
แต่ในไทยไม่ใส่มาให้ น่าเสียดายมาก เขาคงคิดว่าลูกค้าไทยใช้ไม่เป็น หรือไม่รู้เรื่องระบบพวกนี้แน่ๆ แต่ในความเป็นจริง ระบบนี้มันเป็นสิ่งต้องมีเพราะประเทศไทยเป็นประเทศรถติดมาก แล้วระบบนี้จะช่วยอำนวยความสบายมากอย่างยิ่ง
-
สอบถามหน่อยครับอยากรู้เป็นเหมือนกันไหมเวลาใช้ Adaptive cruise control
ตั้งความเร็วไวเวลาวิ่งเจอรถ 10 ล้อขึ้นไป ก่อนแซงมันชอบเบรคก่อนทีนึงทุกทีใครเป็นบ้างครับ
-
ถ้าจะบอกว่า Stop & Go ทำให้รถเบรกเองแล้วอันตราย
งั้นถอด SBS ออกเลยสิครับ เตือนอย่างเดียวไม่ต้องเพิ่มแรงเบรกให้หรอก
อันนี้แค่คำแก้ตัวครับ Stop & Go ถูกออกแบบมาให้ลดระดับความเร็วที่ปลอดภัยอยู่แล้วครับ
และในญี่ปุ่นใส่มาให้ยัน Mazda 2
-
ให้เหยียบคันเร่งค้างเพื่อเร่งแซงเลยครับ ห้ามถอน แล้วระบบจะoverride adaptive cruise controlครับ
อาการที่กล่าวมาก็ไม่เกิด แต่ตอนเร่งให้หักออกแซงด้วยนะครับ ไม่ใช้เร่งไปหา10ล้อข้างหน้าแบบชิดๆ
สอบถามหน่อยครับอยากรู้เป็นเหมือนกันไหมเวลาใช้ Adaptive cruise control
ตั้งความเร็วไวเวลาวิ่งเจอรถ 10 ล้อขึ้นไป ก่อนแซงมันชอบเบรคก่อนทีนึงทุกทีใครเป็นบ้างครับ
-
รบกวนช่วยรีวิว stop and go ของ civic กะ altis ทีครับ ในเมืองช่วงติดไฟแดง ช่วงทางด่วนติดๆ คันไหนออกตัวไวกว่ากัน
แบบเกาะคันหน้า ช่องว่างน้อย รถมาแทรกได้ยากกว่ากัน
คันไหนเกาะคันหน้าเนียนกว่ากัน ในช่วงความเร็วต่ำ ประมาณพื้นที่ ดอนเมือง รังสิต
-
ให้เหยียบคันเร่งค้างเพื่อเร่งแซงเลยครับ ห้ามถอน แล้วระบบจะoverride adaptive cruise controlครับ
อาการที่กล่าวมาก็ไม่เกิด แต่ตอนเร่งให้หักออกแซงด้วยนะครับ ไม่ใช้เร่งไปหา10ล้อข้างหน้าแบบชิดๆ
สอบถามหน่อยครับอยากรู้เป็นเหมือนกันไหมเวลาใช้ Adaptive cruise control
ตั้งความเร็วไวเวลาวิ่งเจอรถ 10 ล้อขึ้นไป ก่อนแซงมันชอบเบรคก่อนทีนึงทุกทีใครเป็นบ้างครับ
บางทีมันใกล้ตูดรถคันหน้า แล้วรถมันชะลอความเร็วลงอัตโนมัติครับ พอหักหัวรถเราพ้นหมด ไม่มีตูดรถคันหน้าในระยะ sensor มันก็เลยเร่งปกติ
ผมใช้ Mazda3 mc2017 อยู่ ก็รำคาญ เลยใช้วิธีกด cencel ACC ตอนแซง แล้วพอแซงพ้นค่อนกด resume เอา
-
ข้างๆคูๆ ครับ แบบนี้
ได้ใช้แล้วจะติดใจครับ โดยเฉพาะในเมืองรถติดๆ
-
ถ้าเชื่อเซลล์ คนก็ออกลูกเป็นลิงได้ครับ
อาชีพ 1 ที่ ผมจะเอาตัวออกห่างและต้องใช้ความคิดตัวเองวิเคราะห์ตลอดเวลาในตอนที่สนทนากับเค้า คือ เซล
เพราะ อาชีพนี้เค้าถูกสอนให้สนับสนุนสินค้าเค้า ซึ่งก็ไม่แปลก
แต่บางคนเอาความคิดนี้ไปใช้กับทุกเรื่อง ซึ่งอันนี้ไม่ถูก
-
ไม่อยากให้ดูที่อาชีพ คงเป็นคนๆไปมากกว่าครับ ข้อจำกัดทางเทคนิคบางทีเซลล์ก็คงไม่เข้าใจ..ถึงจะได้รับการอธิบายกันมา ส่วนตัวคิดว่าการที่รถจะควบคุมการหยุดได้ปลอดภัย(ทุกครั้ง)ต้องมีระบบที่ฉลาดมากๆและต้นทุนสูง บางยี่ห้อเลยเลือกที่จะลดต้นทุนด้วยการตัดออกไปเลยครับ
-
ตอน LEAF ออกมา ที่ไม่มี pro pilot มาด้วย ก็เคยออกมา แถ ลง คล้ายๆกันว่า
ประเทศไทยไม่เหมาะสมกับการใช้งาน เส้นแบ่งถนนไม่มีโน่นนั่นนี่
แต่รถรุ่นอื่นเขายังมาได้ เหตุผลโคตรดูถูกคนซื้อเลย
-
ขอนอกเรื่องนิดนึงนะครับ จากใจคนที่ใช้รถที่มี ACC + stop/go มา 8 ปีนะครับ (MB + Volvo) ถ้าคุณคาดหวังจะใช้ในเมือง สีลม สาทร แบบนี้ ตัดทิ้งไปได้เลยนะครับ มันใช้จริงไม่ได้หรอกครับ อาจจะเห่อใช้ได้อยู่ไม่กี่วัน รถติดๆแบบในเมืองจะโดนมอไซด์กวน กับเว้นระยะห่างมากเกินไปจนคุณไม่ได้ไปไหนหรอกครับ ที่พอจะใช้ได้บ้างคือขับบนทางด่วนหรือออก ตจว แบบนี้ขับตามคันหน้าไปเรื่อยๆใช้ได้อยู่ แต่ถ้าเจอรถติดบนทางด่วนก็ต้องปลดออกอยู่ดี เพราะคุณจะเจอรถแทรกตลอดเวลา รถคุณก็จะไปๆหยุดๆตลอดเวลา ขับคนเดียวยังพอทน ถ้ามีภรรยานั่งไปด้วยโดนตบหัวแน่นอน ยิ่งถ้ารถเรามีระบบตามรถคันหน้าที่ความเร็วต่ำที่เห็นอยากได้กันนักหนา ถ้ารถคันหน้าคุณขับรถโง่ๆ รถคุณจะขับโง่ๆตามไปด้วย โดนตบภรรยาตบหัวอีกเหมือนเคย แถมแทนที่เราเปิดระบบนี้จะได้ขับรถชิวๆยามรถติด กลายเป็นว่าต้องระวังเพิ่มขึ้นมาอีก บางทีเห็นว่ารถข้างๆเค้าปักหัวเข้ามาแล้ว รถเรายังไม่ชะลอก็ต้องเบรคแรงๆใกล้ๆอีก สรุปคือใช้ได้แค่ขับรถยาวๆแล้วต้องไม่มีมอไซด์มาป่วนด้วย ใช้ที่ความเร็ว 50-110 ก็กำลังดี สำหรับผมตอนนี้รถคันต่อไปถึงจะไม่มี cruise control มาให้เลย ก็ไม่เป็นไรแล้วครับ
ประเด็นคือ ถ้าคุณชอบรถอะไรซํกคันแล้วมันไม่มีระบบนี้ ก็ช่างมันเถอะครับ มันไม่ได้ดีเลิศเลออะไรขนาดนั้น ขอแค่ ACC ธรรมดาก็พอแล้วสำหรับถนนเมืองไทย
-
ขอบคุณที่มาแชร์ครับ
ขอนอกเรื่องนิดนึงนะครับ จากใจคนที่ใช้รถที่มี ACC + stop/go มา 8 ปีนะครับ (MB + Volvo) ถ้าคุณคาดหวังจะใช้ในเมือง สีลม สาทร แบบนี้ ตัดทิ้งไปได้เลยนะครับ มันใช้จริงไม่ได้หรอกครับ อาจจะเห่อใช้ได้อยู่ไม่กี่วัน รถติดๆแบบในเมืองจะโดนมอไซด์กวน กับเว้นระยะห่างมากเกินไปจนคุณไม่ได้ไปไหนหรอกครับ ที่พอจะใช้ได้บ้างคือขับบนทางด่วนหรือออก ตจว แบบนี้ขับตามคันหน้าไปเรื่อยๆใช้ได้อยู่ แต่ถ้าเจอรถติดบนทางด่วนก็ต้องปลดออกอยู่ดี เพราะคุณจะเจอรถแทรกตลอดเวลา รถคุณก็จะไปๆหยุดๆตลอดเวลา ขับคนเดียวยังพอทน ถ้ามีภรรยานั่งไปด้วยโดนตบหัวแน่นอน ยิ่งถ้ารถเรามีระบบตามรถคันหน้าที่ความเร็วต่ำที่เห็นอยากได้กันนักหนา ถ้ารถคันหน้าคุณขับรถโง่ๆ รถคุณจะขับโง่ๆตามไปด้วย โดนตบภรรยาตบหัวอีกเหมือนเคย แถมแทนที่เราเปิดระบบนี้จะได้ขับรถชิวๆยามรถติด กลายเป็นว่าต้องระวังเพิ่มขึ้นมาอีก บางทีเห็นว่ารถข้างๆเค้าปักหัวเข้ามาแล้ว รถเรายังไม่ชะลอก็ต้องเบรคแรงๆใกล้ๆอีก สรุปคือใช้ได้แค่ขับรถยาวๆแล้วต้องไม่มีมอไซด์มาป่วนด้วย ใช้ที่ความเร็ว 50-110 ก็กำลังดี สำหรับผมตอนนี้รถคันต่อไปถึงจะไม่มี cruise control มาให้เลย ก็ไม่เป็นไรแล้วครับ
ประเด็นคือ ถ้าคุณชอบรถอะไรซํกคันแล้วมันไม่มีระบบนี้ ก็ช่างมันเถอะครับ มันไม่ได้ดีเลิศเลออะไรขนาดนั้น ขอแค่ ACC ธรรมดาก็พอแล้วสำหรับถนนเมืองไทย
-
ขอบคุณข้อมูลจากคนใช้จริงครับ
ขอนอกเรื่องนิดนึงนะครับ จากใจคนที่ใช้รถที่มี ACC + stop/go มา 8 ปีนะครับ (MB + Volvo) ถ้าคุณคาดหวังจะใช้ในเมือง สีลม สาทร แบบนี้ ตัดทิ้งไปได้เลยนะครับ มันใช้จริงไม่ได้หรอกครับ อาจจะเห่อใช้ได้อยู่ไม่กี่วัน รถติดๆแบบในเมืองจะโดนมอไซด์กวน กับเว้นระยะห่างมากเกินไปจนคุณไม่ได้ไปไหนหรอกครับ ที่พอจะใช้ได้บ้างคือขับบนทางด่วนหรือออก ตจว แบบนี้ขับตามคันหน้าไปเรื่อยๆใช้ได้อยู่ แต่ถ้าเจอรถติดบนทางด่วนก็ต้องปลดออกอยู่ดี เพราะคุณจะเจอรถแทรกตลอดเวลา รถคุณก็จะไปๆหยุดๆตลอดเวลา ขับคนเดียวยังพอทน ถ้ามีภรรยานั่งไปด้วยโดนตบหัวแน่นอน ยิ่งถ้ารถเรามีระบบตามรถคันหน้าที่ความเร็วต่ำที่เห็นอยากได้กันนักหนา ถ้ารถคันหน้าคุณขับรถโง่ๆ รถคุณจะขับโง่ๆตามไปด้วย โดนตบภรรยาตบหัวอีกเหมือนเคย แถมแทนที่เราเปิดระบบนี้จะได้ขับรถชิวๆยามรถติด กลายเป็นว่าต้องระวังเพิ่มขึ้นมาอีก บางทีเห็นว่ารถข้างๆเค้าปักหัวเข้ามาแล้ว รถเรายังไม่ชะลอก็ต้องเบรคแรงๆใกล้ๆอีก สรุปคือใช้ได้แค่ขับรถยาวๆแล้วต้องไม่มีมอไซด์มาป่วนด้วย ใช้ที่ความเร็ว 50-110 ก็กำลังดี สำหรับผมตอนนี้รถคันต่อไปถึงจะไม่มี cruise control มาให้เลย ก็ไม่เป็นไรแล้วครับ
ประเด็นคือ ถ้าคุณชอบรถอะไรซํกคันแล้วมันไม่มีระบบนี้ ก็ช่างมันเถอะครับ มันไม่ได้ดีเลิศเลออะไรขนาดนั้น ขอแค่ ACC ธรรมดาก็พอแล้วสำหรับถนนเมืองไทย
-
สมัยที่ผมซื้อ W212 เมื่อ 6 ปีก่อน วันออกรถ ก็คุยซุบซิบกันเองระหว่างรอแบบไม่ได้คิดอะไร ว่า "เออ ถ้ามีระบบเบรคเอง หรือ Adaptive Cruise Control ก็น่าจะดีนะ" เซลรีบกรูเข้ามาพูด ประมาณว่า "อ๋อ พอดีทางกองทัพเขาขอความร่วมมือไม่ให้ใส่ระบบนี้ครับ เพื่อไม่ให้รบกวนคลื่นสัญญาณ"
งงในงง
-
สมัยที่ผมซื้อ W212 เมื่อ 6 ปีก่อน วันออกรถ ก็คุยซุบซิบกันเองระหว่างรอแบบไม่ได้คิดอะไร ว่า "เออ ถ้ามีระบบเบรคเอง หรือ Adaptive Cruise Control ก็น่าจะดีนะ" เซลรีบกรูเข้ามาพูด ประมาณว่า "อ๋อ พอดีทางกองทัพเขาขอความร่วมมือไม่ให้ใส่ระบบนี้ครับ เพื่อไม่ให้รบกวนคลื่นสัญญาณ"
งงในงง
อันนี้เรื่องจริงครับ เมื่อก่อนคลื่นเรดาห์ที่ใช้กับระบบ ความถี่มันไปอยู่ในคลื่นของกองทัพครับ เค้าเลยไม่ให้ใช้
-
เรืองเซลล์คนนี้ ผมไม่แน่ใจว่า เขาอาจจะได้ข้อมูลจาก บ.ใหญ่มาแบบนี้จริงๆ (ซึ่งเขาไม่ผิด) หรือ แค่พูดให้ดูดี บอกยากครับ
สำหรับผมนะ
ผมใช้ ACC มากับรถคันปัจจุบันมาปีกว่าๆ บอกเลยว่า ผมใช้งานตลอด เวลาออกถนนใหญ่ วิ่งทางไกล วิ่งต่างจังหวัด ถ้ามี Stop&Go ก็ใช้นะ น่าจะดีกว่า ACC แบบเดิมด้วย(มั้ง)
แต่...ในกรุงเทพมหานคร ผมแทบไม่ได้ใช้งานเลย ซึ่งผมก็ตั้งใจจะไม่ใช่อยู่แล้ว ต่อให้มี Stop&Go ก็เหอะ
เพราะ ปัจจัยเสี่ยงมันเยอะครับ ระบบตรวจจับคันหน้า มอเตอร์ไซต์ คน แต่มันต้องมาตรงๆ อยู่ตรงหน้า ในวิสัยที่เรดาร์จัดได้ แต่คันข้างๆ มาเบียด มอเตอร์ไซต์ปาดไปปาดมา ตุ๊กตุ๊กพุ่งมาแทรก ไหนจะคนเดินถนนไปมาอีก ซึ่งมีความเสียงเกิดอุบัติเหตุเยอะมาก เพราะมันไม่มีตรรกะหรือ pattern ที่แน่นอนเลยว่า จะโผล่มา จะเบียดมา จะจ๊ะเอ๋ ตอนไหน
คิดแบบลวกๆ นะ ถ้าระบบ ACC+Stop&Go ทำงานผิดพลาดหรือเกิดปัจจัยที่ทำให้ทำงานไม่สมบูรณ์ นี่คือจบเลยนะ มองภาพอุบัติเหตุไว้ในหัวได้เลย
มันจะทำให้ผมรู้สึกว่า ในชุมชนเมือง ยิ่งเป็นกรุงเทพมหานคร ขับด้วยตัว ไม่ประมาท สังเกตุรอบข้างเอง ปลอดภัย มั่นใจ ได้ที่สุดแล้วครับ
แอบฮานิดหน่อย กับ บางคอมเม้น มาสด้าอยู่ดีๆ โผล่ไปมิตซูอีก ::) ::) ::) ::)
-
ผมว่าอย่างแรกเซลไม่รู้ว่า Auto Stop & Go นั้นมันคือระบบอะไร ....
แต่ผมขอตอบแทนน้องเซลละกันครับว่า Mazda3 มี I-stop อยู่แล้วทุกรุ่น ซึ่งถ้าจะใส่ Auto Stop & Go เข้ามาด้วยซึ่งการทำงานก็คล้ายกันคือ
-Auto Stop & Go เครื่องยนต์ดับในขณะจอดรถ และเครื่องยนต์ติดเอง หากรถคันหน้าเคลื่อนออกไป หรืออุณหภูมิในห้องโดยสารสุงขึ้นเหตุผลเพื่อประหยัดน้ำมัน
-แต่ I-stop ทำงานโดยผู้ขับขี่ควบคุมเองคือ ต้องหมุนพวงมาลัยหรือเหยียบเบรคเครื่องยนต์หรืออุณหภูมิในห้องโดยสารสุงขึ้นถึงจะติด เหตุผลก็เพื่อประหยัดน้ำมันเช่นกัน ..
แต่เชื่อเถอะครับ ถ้าคุณซื้อรถที่มี Auto Stop & Go คุณก็ปิดมันอยู่ดี เพราะการที่มันติด/ดับ ทุกครั้งที่คุณจอดรถเนี่ย มันน่าลำคารครับสุดท้ายคุณก็ต้องปิดมัน ...
เค้าหมายถึง ครูซคอนโทรล ที่หยุดตามรถคันหน้า แล้วออกเองได้นิครับ
ผมเห็นเค้าพิมพ์ว่า stop and go นะครับ
และ adaptive cruise control กับ Auto Stop & Go มันทำงานคนละอย่างกันเลยครับ
แนะนำลองหาข้อมุล Auto Stop & Go ใน youtube ดูครับ
คุณน่ะอ่านดีๆ ก่อนไล่ให้คนอื่นไปหาข้อมูล
-
เคยได้ยินมาเหมือนกันครับว่าเรดาร์มันกวนคลื่นวิทยุทหาร ทาง กสทช.เลยไม่อนุญาต และเกิดขึ้นตั้งแต่ camry v6 3.5 ที่มีเรดาร์ acc คันแรกในไทยจากโตโยต้าโน่นเลยครับ แต่คุยกันยังไงมิทราบตัวนั้นก็เลยขายในไทยได้
ตอนนี้รถที่มี acc with stop and go น่าจะเป็นมาตรฐานสำหรับรถราคา 1 ล.ขึ้นไปแล้วล่ะครับ ใจเย็นๆเดี๋ยวเค้าก็เอาเข้ามาใส่ให้เราเอง และอีก 5 ปีก็คงมี autonomous driving ให้เล่นกัน ซึ่งถ้าขี้เกียจขับรถกันจริงๆผมว่าไปจ้างคนขับมาคอยขับรถให้เราน่าจะเป็นทางออกอีหทางนึงครับ ผมเองก็มีบางเวลาที่ขี้เกียจระดับนั้นเหมือนกัน 5555
-
รถคุณก็จะไปๆหยุดๆตลอดเวลา ขับคนเดียวยังพอทน ถ้ามีภรรยานั่งไปด้วยโดนตบหัวแน่นอน
อ่าาาา อธิบายได้เห็นภาพเลยครับ
-
ขอนอกเรื่องนิดนึงนะครับ จากใจคนที่ใช้รถที่มี ACC + stop/go มา 8 ปีนะครับ (MB + Volvo) ถ้าคุณคาดหวังจะใช้ในเมือง สีลม สาทร แบบนี้ ตัดทิ้งไปได้เลยนะครับ มันใช้จริงไม่ได้หรอกครับ อาจจะเห่อใช้ได้อยู่ไม่กี่วัน รถติดๆแบบในเมืองจะโดนมอไซด์กวน กับเว้นระยะห่างมากเกินไปจนคุณไม่ได้ไปไหนหรอกครับ ที่พอจะใช้ได้บ้างคือขับบนทางด่วนหรือออก ตจว แบบนี้ขับตามคันหน้าไปเรื่อยๆใช้ได้อยู่ แต่ถ้าเจอรถติดบนทางด่วนก็ต้องปลดออกอยู่ดี เพราะคุณจะเจอรถแทรกตลอดเวลา รถคุณก็จะไปๆหยุดๆตลอดเวลา ขับคนเดียวยังพอทน ถ้ามีภรรยานั่งไปด้วยโดนตบหัวแน่นอน ยิ่งถ้ารถเรามีระบบตามรถคันหน้าที่ความเร็วต่ำที่เห็นอยากได้กันนักหนา ถ้ารถคันหน้าคุณขับรถโง่ๆ รถคุณจะขับโง่ๆตามไปด้วย โดนตบภรรยาตบหัวอีกเหมือนเคย แถมแทนที่เราเปิดระบบนี้จะได้ขับรถชิวๆยามรถติด กลายเป็นว่าต้องระวังเพิ่มขึ้นมาอีก บางทีเห็นว่ารถข้างๆเค้าปักหัวเข้ามาแล้ว รถเรายังไม่ชะลอก็ต้องเบรคแรงๆใกล้ๆอีก สรุปคือใช้ได้แค่ขับรถยาวๆแล้วต้องไม่มีมอไซด์มาป่วนด้วย ใช้ที่ความเร็ว 50-110 ก็กำลังดี สำหรับผมตอนนี้รถคันต่อไปถึงจะไม่มี cruise control มาให้เลย ก็ไม่เป็นไรแล้วครับ
ประเด็นคือ ถ้าคุณชอบรถอะไรซํกคันแล้วมันไม่มีระบบนี้ ก็ช่างมันเถอะครับ มันไม่ได้ดีเลิศเลออะไรขนาดนั้น ขอแค่ ACC ธรรมดาก็พอแล้วสำหรับถนนเมืองไทย
ภรรยาคุณโหดจังครับ ::) ::) ::) ::) ::)
-
Saleที่ไหนก็ต้องอวยว่าของตัวเองดีทั้งนั้นครับ
+1 ครับ
แต่อีกส่วนคือเขาไม่ได้ศึกษา หรือมีข้อมูลจริง 8)
-
อย่าเชื่อเซลล์เลยครับ
ตอนนี้ผมใช้รถที่มี adaptive cruise control ในชีวิตประจำวัน มันทำให้ชีวิตสบายขึ้นเยอะ
ใช้บ่อยๆ เราจะรู้ว่าระบบมันทำงานแบบไหน อันไหนเป็นข้อจำกัดของมัน แล้วการขับจะสมูทขึ้น
-
ซึ่งถ้าขี้เกียจขับรถกันจริงๆผมว่าไปจ้างคนขับมาคอยขับรถให้เราน่าจะเป็นทางออกอีหทางนึงครับ ผมเองก็มีบางเวลาที่ขี้เกียจระดับนั้นเหมือนกัน 5555
โอ้ย เวลาเข้าเมืองทีไรผมต้องให้คนขับรถขับให้ทุกทีเลยครับ ไม่ซ้ำหน้าไม่ซ้ำสีเลย แต่ยี่ห้อกับรุ่นเหมือนกันทุกรอบ ฮ่ะๆ