Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Shanon007 ที่ ธันวาคม 10, 2019, 11:31:42
-
สอบถามเกี่ยวกับค่า Volt ที่ จอ OBD2 แสดงผลครับ ว่าต้องแสดงผลค่า Volt เท่าไหร่จึงต้อง เฝ้าระวัง หลือ เตรียมตัวเปลี่ยนแบตลูกใหม่ครับ
รถผมใช้งานมา 3 ปี ตอนนี้ รู้สึกว่าค่า Volt มันเริ่ม แกว่งๆ 12 V บ้าง 11 V บ้าง วิ่งระยะไกล ก็จะ 13 V ปกติ
ผมเดินทางไกลบ่อย เป็นกังวลเรื่องแบตรถหมด (ไม่ทราบว่าค่า Volt ที่แสดงโชว์ในจอ มีผลต่อการบอก อายุแบตเตอรี่หรือไหม่ครีบ)
ขอบพระคุณครับ สำหรับทุกคำตอบ ของทุกท่านครับ
-
เห็นเค้าใช้เครื่องวัดค่า CCA ครับ มีราคาตั้งแต่ 600 บาท
-
วัดจาก OBD ต้องดูตอนดับเครื่อง ไม่ต่ำกว่า 11.5 V
ถ้าขับอยู่มันแปลผันตามรอบเครื่องยนต์
จอดและดับเครื่องประมาณ 5 นาที ค่าที่อ่านจาก OBD ควรมีค่าระหว่าง 12-12.8 V
หลังจอดไว้ ประมาณ 4-6ชั่วโมง หรือข้ามวันค่าที่อ่านได้ต้องประมาณ 12-12.8 V
ถ้าเท่าเดิมถือว่าปกติ
-
Volt เป็นไฟล์ DC สำหรับใช้ในอุปกรณ์ไฟฟ้าในรถ ระบบควบคุม และ เซ็นเซอร์ต่างๆ
Volt ตอนก่อนสตาร์ท ไม่ควรต่ำกว่า 11.5v ให้ดียืน 12v กว่าๆ ไว้ ถือว่าสภาพดี แต่ขึ้นอยู่ว่า ติดอะไรหรือป่าว เช่น กล้องติดรถ หรือ สัญญาณกันขโมยเพิ่ม หรือป่าว อาจจะมีกินแบตเตอรี่ตอนจอดอยู่นิดหน่อย
Volt หลังก่อนสตาร์ท อยู่ระหว่าง 13-14v ถือว่าดี ถ้าสตาร์ทแล้วต่ำกว่า 12v ไดชาร์จอาจจะมีปัญหา(ผมเคยมาละ ไดชาร์จเสีย) และถ้าเกิน 14v ก็ไม่ดี
อีกส่วน คือ CCA (แปรผันตามแอมป์) ค่านี้ใช้สำหรับสตาร์ทรถ OBD ทั่วไปจะวัดไม่ได้ ต้องใช้พวกเครื่อง battery analyze ตรวจสอบ วิ่งไปที่ร้านแบตเตอรี่ให้เขาเช็คให้ก็ได้ ส่วนมากจะฟรี(เท่าที่เจอ ฟรีทุกร้านที่เคยไป) ผลโดยตรงเลยคือ ต่ำกว่า 70% ถือว่า ควรจะเปลี่ยนได้แล้ว
เช่น
แบตเตอรี่ 70 แอมป์ ค่า CCA ตอนสภาพดีๆ 800 CCA ถ้าใช้งานไป ยังไงก็ไม่ควรให้ต่ำกว่า 550-600 CCA ถ้าต่ำกว่านี้ อาจจะสตาร์ทรถไม่ติดแล้ว ซึ่ง ณ ตอนนี้ Volt อาจจะปกติ คือ 12-13v อยู่ คนละส่วนกัน ซึ่งจะดูแต่ Volt ไม่ได้
-
ดูจากหน้าจอ คงบอกไม่ได้ทั้งหมด
รถรุ่นไม่เก่ามาในปัจจุบัน จะมีระบบ Alternator Management System (AMS)
คอยควบคุมการทำงานของไดชาร์ท บางครั้งถ้าโหลดคงที่ ความเร็วคงที่ ECU ก็สั่งตัดการทำงาน
เพื่อลดภาระเครื่องยนต์ ให้ประหยัดน้ำมันเพิ่ม
ค่า Volt ที่ได้ ก็จะเป็นค่าจากแบตเตอรี่ที่กำลังใช้งาน
อย่างกรณีฮอนด้า ช่วงหนาวแบบนี้ ไม่เปิดแอร์ ขับออกบ้าน
ไดชาร์ทโดนตัดการทำงานเป็นประจำ เป็นที่มาของการโดนว่าเป็นตัวกินแบต
ส่วนแบตเตอรี่ บางครั้งดูค่า CCA อย่างเดียว ก็บอกไม่ได้ครับ
เพราะเวลาชาร์ท อาจจะร้อน และไฟเข้าช้า ต้องดูค่า Internal resistance ด้วย
เพราะเป็นค่าที่ช่วยประเมินว่า แบตมีซัลเฟตเกาะที่แผ่นธาตุมากขึ้นหรือไม่
การช่วยชาร์ทแบตเตอรี่ชนิดตะกั่วกรดเป็นประจำ
เป็นการช่วยลดการเกิดซัลเฟตได้ นั่นหมายความว่า ช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ได้ครับ
-
เอาเท่าที่สังเกตมาจากล่าสุดที่รถพึ่งจะแบตหมดไปนะครับ
ก่อนจะเจออาการแบตหมด ผมดูแล้ว ค่า V มันจะสวิงไปมา ผิดปกติ ปกติช่องที่จอดมันจะนิ่งๆ แปรผันนิดๆหน่อยๆ แต่ก่อนจะหมด ผมสังเกตุว่ามันขึ้นๆลงๆอยู่แถบตลอด แล้วก็มันจะสูงกว่าปกตินิดๆหน่อยๆ ครับ
ไม่แน่ใจว่ามันดูแบบนี้ได้มั้ยนะ อันนี้สังเกตจากที่เพิ่งจะเจอ แต่ผมจะดูประกอบกับอายุแบตด้วย พอใกล้ๆ 1.5 ปี ก็จะเริ่มรู้แล้วว่า ใกล้จะต้องเปลี่ยน แล้วพอกด Start แล้วมันห่วงนานขึ้น ก็เตรียมต้องไปเปลี่ยนแล้ว
-
Fiesta ผมวิ่งทางไกลขึ้นไป 13.8-14 เลย แต่พอใช้งานในกรุงเทพฯมันจะเหลือ 12.4 ประมาณนี้
-
Obd ของผมขึ้นปกติที่14.6 ครับ honda JAZZ
-
นั่งเดาอายุแบตเครียดครับ เมื่อก่อนผมก็กังวลออกต่างจังหวัดบ่อยกลัวกินข้าวลิง
เลยลองหาใน lazada , shopee ค้นว่า LANCOL Micro 200 ไว้วัด cca เวลาเดินทางไกล ราคาไม่ถึงพันติดรถไว้ เทสแบต เทสได ได้
ถ้าเป็นของศูนย์เห็นส่วนใหญ่จะใช้ Midtronics MDX-P300 ปริ้นค่าทดสอบได้เลยแต่แพงราคาเกือบ 3หมื่น
ปกติถ้าแบตใกล้เสื่อมรถจะชาร์จบ่อยกว่าปกติที่ 14v บางทีอาจจะค้าง 14v นานกว่าปกติ