Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: blitzpao ที่ ธันวาคม 22, 2019, 15:03:41

หัวข้อ: Mazda จะย้ายการประกอบรถ CX 3 บางส่วนกลับญี่ปุ่น
เริ่มหัวข้อโดย: blitzpao ที่ ธันวาคม 22, 2019, 15:03:41
ค่าเงินบาทแข็งทำพิษอุตสาหกรรมส่งออกอันดับ 1 ซะแล้วครับ Mazda จะย้ายฐานการประกอบ CX 3 น่าจะรวม CX30 บางส่วนยังไม่เคลียว่า เฉพาะโมเดลที่ขายใน AUS หรือทั้งหมดกลับไปญี่ปุ่น

https://brandinside.asia/mazda-moves-some-production-from-thailand-to-japan/
https://www.bangkokpost.com/business/1821794/mazda-to-shift-some-output-from-thailand-to-japan-nikkei
https://www.google.com/url?sa=t&rct=j&q=&esrc=s&source=newssearch&cd=2&cad=rja&uact=8&ved=0ahUKEwiJ8I2_5cjmAhVCbn0KHVnNDhgQqQIILygAMAE&url=https%3A%2F%2Fasia.nikkei.com%2FBusiness%2FAutomobile%2FMazda-shifts-Thai-SUV-production-to-Japan-as-baht-soars&usg=AOvVaw2OYJ9YmbGMbvx4UmFJ3dUK
หัวข้อ: Re: Mazda จะย้ายการประกอบรถ CX 3 บางส่วนกลับญี่ปุ่น
เริ่มหัวข้อโดย: Tien.W ที่ ธันวาคม 22, 2019, 15:47:39
เพราะรถมันขายไม่ได้หรือป่าว เลยจะยกเลิกสายพานการผลิต เพราะไม่คุ้ม น่ะครับ

แค่เขียนให้ดูดี
หัวข้อ: Re: Mazda จะย้ายการประกอบรถ CX 3 บางส่วนกลับญี่ปุ่น
เริ่มหัวข้อโดย: Tom sawyer ที่ ธันวาคม 22, 2019, 16:44:04
ถ้าย้ายไปมาเลย์อาจจะใช่บาทแข็ง แต่ถ้าย้ายไปญี่ปุ่นมันน่าจะแพงกว่าประกอบไทย
หัวข้อ: Re: Mazda จะย้ายการประกอบรถ CX 3 บางส่วนกลับญี่ปุ่น
เริ่มหัวข้อโดย: joekling ที่ ธันวาคม 22, 2019, 17:17:20
เรื่องจริงครับ เงินบาทแข็ง ตอนนี้ประกอบไทยขาย CBU ไปต่างประเทศแพงกว่า ประกอบญี่ปุ่น
หัวข้อ: Re: Mazda จะย้ายการประกอบรถ CX 3 บางส่วนกลับญี่ปุ่น
เริ่มหัวข้อโดย: punn ที่ ธันวาคม 22, 2019, 17:21:24
เพราะรถมันขายไม่ได้หรือป่าว เลยจะยกเลิกสายพานการผลิต เพราะไม่คุ้ม น่ะครับ

แค่เขียนให้ดูดี

+1 ครับ
เหมือนหุ้นหละครับ ผลจะออกแบบไหนก็โยงข่าวโยงเรื่องได้
เหตุผลจริงบางทีมันกระทบแบรนด์ ต้องอ้างอย่างอื่นประกอบ

การจะย้ายฐาน มันไม่ใช่แค่ค่าเงินอย่างเดียว
รายละเอียดอย่างอื่นเกี่ยวข้องมากมาย ยังไงก็มีเงื่อนงำครับ  :-\
หัวข้อ: Re: Mazda จะย้ายการประกอบรถ CX 3 บางส่วนกลับญี่ปุ่น
เริ่มหัวข้อโดย: เต๋า AV ที่ ธันวาคม 22, 2019, 17:21:36
รถขายไม่ได้ตามเป้า ย้ายกลับบ้านเก่า
เอาสายการผลิตไปทำรุ่นอื่น หรือรุ่นใหม่ดีกว่า
หัวข้อ: Re: Mazda จะย้ายการประกอบรถ CX 3 บางส่วนกลับญี่ปุ่น
เริ่มหัวข้อโดย: pim_cute ที่ ธันวาคม 22, 2019, 18:47:44
ฟังมาจาก supplier เขาบ่นให้ฟังว่า ไลน์ของเขามันมีไลน์แฝดอยู่ที่ jap บาทแข็งปุ้บ ต้นทุนเราสูงกว่า order ถูกโยกไปที่ jap ทันทีเลย ถามเขาว่าทำไม เขาตอบว่าเดี๋ยวนี้ใช้หุ่นยนต์กันหมดแล้ว ใช้คนนิดเดียว ต้นทุนเลยไม่ต่างจากที่นั่นมาก

ถามนักลงทุน jap เขาบอกว่าประเทศไทยไม่น่าลงทุนแล้ว โดยส่วนใหญ่เขาจะลงทุนเพื่อตลาดภายในประเทศเป็นหลัก แต่ยอดขายรถในบ้านเราอาจจะไม่โตมากไปกว่านี้แล้ว แรงงานของบ้านเราผ่านจุดสูงสุดไปแล้วเมื่อประมาณ 3 ปีก่อน เรากำลังเข้าสู่สังคมคนแก่ เด็กเกิดน้อยลง เขามองว่าบ้านเรากำลังจะกลายเป็นเหมือนบ้านเขา

บาทแข็ง เนื่องจากเราเกินดุลบัญชีเดินสะพัด ทั้งๆ ที่ส่งออกเราติดลบ แปลว่าอะไรครับ? แปลว่านำเข้าเราติดลบมากกว่า เห็นอะไรไหมครับ? กำลังซื้อภายในประเทศอ่อนแอแค่ไหน แบงค์ชาติพยายามแทรกแซงให้บาทอ่อน โดยการขายเงินบาท ซื้อดอลล่าห์ ก็ยิ่งทำให้ทุนสำรองจากดอลล่าห์สูงขึ้นอีก แต่เราล็อคอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.25% ทำให้แบงค์ชาติต้องทำการ sterilization เกรงว่าการทำแบบนี้ระยะยาวบาทจะไม่อ่อนลงสิครับ ผมชื่นชม ดร วีรไทยนะครับ แต่ท่านจะแก้ปัญหานี้อย่างไร

จากที่พูดเมื่อกี้ กำลังซื้อภายในประเทศอ่อนแอ เห็นอะไรไหมครับ? คนที่ควรขยับคือใครครับ fiscal policy หรือป่าวครับ? ท่องเที่ยว ส่งออกบาทแข็งไปแล้ว รมต คลัง อุตม นายกซึ่งเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ เขารู้ตัวหรือยัง? มีความสามารถแค่ไหนในการแก้ปัญหาหรือไม่รู้เรื่องเลย ผมอยู่ในวงการการเงินมานาน สมคิดผมโอเคนะ แต่ อุตม เห้อ...ต้องทนอีกนานแค่ไหนเนี่ยประเทศไทย
หัวข้อ: Re: Mazda จะย้ายการประกอบรถ CX 3 บางส่วนกลับญี่ปุ่น
เริ่มหัวข้อโดย: Slipknot` ที่ ธันวาคม 22, 2019, 19:05:37
ยอดขายน้อยจริงๆแหละ
หัวข้อ: Re: Mazda จะย้ายการประกอบรถ CX 3 บางส่วนกลับญี่ปุ่น
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ ธันวาคม 22, 2019, 19:54:52
ฟังมาจาก supplier เขาบ่นให้ฟังว่า ไลน์ของเขามันมีไลน์แฝดอยู่ที่ jap บาทแข็งปุ้บ ต้นทุนเราสูงกว่า order ถูกโยกไปที่ jap ทันทีเลย ถามเขาว่าทำไม เขาตอบว่าเดี๋ยวนี้ใช้หุ่นยนต์กันหมดแล้ว ใช้คนนิดเดียว ต้นทุนเลยไม่ต่างจากที่นั่นมาก

ถามนักลงทุน jap เขาบอกว่าประเทศไทยไม่น่าลงทุนแล้ว โดยส่วนใหญ่เขาจะลงทุนเพื่อตลาดภายในประเทศเป็นหลัก แต่ยอดขายรถในบ้านเราอาจจะไม่โตมากไปกว่านี้แล้ว แรงงานของบ้านเราผ่านจุดสูงสุดไปแล้วเมื่อประมาณ 3 ปีก่อน เรากำลังเข้าสู่สังคมคนแก่ เด็กเกิดน้อยลง เขามองว่าบ้านเรากำลังจะกลายเป็นเหมือนบ้านเขา

บาทแข็ง เนื่องจากเราเกินดุลบัญชีเดินสะพัด ทั้งๆ ที่ส่งออกเราติดลบ แปลว่าอะไรครับ? แปลว่านำเข้าเราติดลบมากกว่า เห็นอะไรไหมครับ? กำลังซื้อภายในประเทศอ่อนแอแค่ไหน แบงค์ชาติพยายามแทรกแซงให้บาทอ่อน โดยการขายเงินบาท ซื้อดอลล่าห์ ก็ยิ่งทำให้ทุนสำรองจากดอลล่าห์สูงขึ้นอีก แต่เราล็อคอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.25% ทำให้แบงค์ชาติต้องทำการ sterilization เกรงว่าการทำแบบนี้ระยะยาวบาทจะไม่อ่อนลงสิครับ ผมชื่นชม ดร วีรไทยนะครับ แต่ท่านจะแก้ปัญหานี้อย่างไร

จากที่พูดเมื่อกี้ กำลังซื้อภายในประเทศอ่อนแอ เห็นอะไรไหมครับ? คนที่ควรขยับคือใครครับ fiscal policy หรือป่าวครับ? ท่องเที่ยว ส่งออกบาทแข็งไปแล้ว รมต คลัง อุตม นายกซึ่งเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ เขารู้ตัวหรือยัง? มีความสามารถแค่ไหนในการแก้ปัญหาหรือไม่รู้เรื่องเลย ผมอยู่ในวงการการเงินมานาน สมคิดผมโอเคนะ แต่ อุตม เห้อ...ต้องทนอีกนานแค่ไหนเนี่ยประเทศไทย
บ้านเรากำลังเข้าสู่สังคมคนแก่แบบญี่ปุ่นนะละครับ  คนหนุ่มสาวและเด็กกำลังลดลงมาก     ปัจจัยหลายอย่างทำให้บ้านเราเหมือนญี่ปุ่นไปมากทุกที    ค่าแรงงานแพง  การจ้างงานลดลง    ความปลอดภัย  ปัจจัยต่าง  ๆ ไม่เอื้อต่อการเกิดใหม่ของเด็ก  ๆ   ในยุคปัจจุบัน

  สิ่งที่คนไทยแตกต่างจากสังคมญี่ปุ่น มีอยู่เรื่องนึงที่น่าเป็นห่วงในตอนนี้คือ  คนญี่ปุ่นทำงานมีเงินเก็บหลังเกษียณ    แต่คนไทยส่วนมากไม่มี 
หัวข้อ: Re: Mazda จะย้ายการประกอบรถ CX 3 บางส่วนกลับญี่ปุ่น
เริ่มหัวข้อโดย: Sit: ) ที่ ธันวาคม 22, 2019, 21:59:32
รอดูครับ จะย้าย line อะไรอีกไหม
เผื่อมี cz5 cx8 made in jap
หัวข้อ: Re: Mazda จะย้ายการประกอบรถ CX 3 บางส่วนกลับญี่ปุ่น
เริ่มหัวข้อโดย: CarameLon ที่ ธันวาคม 22, 2019, 23:57:59
ช่างฝีมือตามโรงงานก็เริ่มเลิกจ้างคนงานออกเยอะมากครับ
เตรียมกลับบ้านนอกเกี่ยวข้าวทำสวนกรีดยางกันต่อไป
หัวข้อ: Re: Mazda จะย้ายการประกอบรถ CX 3 บางส่วนกลับญี่ปุ่น
เริ่มหัวข้อโดย: Newhang ที่ ธันวาคม 23, 2019, 07:53:11
ทำไมไม่ย้ายให้หมดกลับประเทศไปเลยล่ะ
หัวข้อ: Re: Mazda จะย้ายการประกอบรถ CX 3 บางส่วนกลับญี่ปุ่น
เริ่มหัวข้อโดย: TheZero ที่ ธันวาคม 23, 2019, 09:44:30
ไม่ได้ย้ายครับ  แต่จริงๆ คือ จะลด line การผลิตลง และ ปี 2020 จะแทนที่ด้วย line cx-30 แทน แต่ออกข่าวไว้หน้า ทาง ผู้บริหารหน่อย
หัวข้อ: Re: Mazda จะย้ายการประกอบรถ CX 3 บางส่วนกลับญี่ปุ่น
เริ่มหัวข้อโดย: Arnan_td ที่ ธันวาคม 23, 2019, 09:49:11
ผมว่าน่าจะเกิดจาก AUS ขายไม่ได้ด้วยครับ รถปัญญาเยอะพอๆกับ FORD
หัวข้อ: Re: Mazda จะย้ายการประกอบรถ CX 3 บางส่วนกลับญี่ปุ่น
เริ่มหัวข้อโดย: Mr. RO ที่ ธันวาคม 23, 2019, 11:29:36
ฟังมาจาก supplier เขาบ่นให้ฟังว่า ไลน์ของเขามันมีไลน์แฝดอยู่ที่ jap บาทแข็งปุ้บ ต้นทุนเราสูงกว่า order ถูกโยกไปที่ jap ทันทีเลย ถามเขาว่าทำไม เขาตอบว่าเดี๋ยวนี้ใช้หุ่นยนต์กันหมดแล้ว ใช้คนนิดเดียว ต้นทุนเลยไม่ต่างจากที่นั่นมาก

ถามนักลงทุน jap เขาบอกว่าประเทศไทยไม่น่าลงทุนแล้ว โดยส่วนใหญ่เขาจะลงทุนเพื่อตลาดภายในประเทศเป็นหลัก แต่ยอดขายรถในบ้านเราอาจจะไม่โตมากไปกว่านี้แล้ว แรงงานของบ้านเราผ่านจุดสูงสุดไปแล้วเมื่อประมาณ 3 ปีก่อน เรากำลังเข้าสู่สังคมคนแก่ เด็กเกิดน้อยลง เขามองว่าบ้านเรากำลังจะกลายเป็นเหมือนบ้านเขา

บาทแข็ง เนื่องจากเราเกินดุลบัญชีเดินสะพัด ทั้งๆ ที่ส่งออกเราติดลบ แปลว่าอะไรครับ? แปลว่านำเข้าเราติดลบมากกว่า เห็นอะไรไหมครับ? กำลังซื้อภายในประเทศอ่อนแอแค่ไหน แบงค์ชาติพยายามแทรกแซงให้บาทอ่อน โดยการขายเงินบาท ซื้อดอลล่าห์ ก็ยิ่งทำให้ทุนสำรองจากดอลล่าห์สูงขึ้นอีก แต่เราล็อคอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.25% ทำให้แบงค์ชาติต้องทำการ sterilization เกรงว่าการทำแบบนี้ระยะยาวบาทจะไม่อ่อนลงสิครับ ผมชื่นชม ดร วีรไทยนะครับ แต่ท่านจะแก้ปัญหานี้อย่างไร

จากที่พูดเมื่อกี้ กำลังซื้อภายในประเทศอ่อนแอ เห็นอะไรไหมครับ? คนที่ควรขยับคือใครครับ fiscal policy หรือป่าวครับ? ท่องเที่ยว ส่งออกบาทแข็งไปแล้ว รมต คลัง อุตม นายกซึ่งเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ เขารู้ตัวหรือยัง? มีความสามารถแค่ไหนในการแก้ปัญหาหรือไม่รู้เรื่องเลย ผมอยู่ในวงการการเงินมานาน สมคิดผมโอเคนะ แต่ อุตม เห้อ...ต้องทนอีกนานแค่ไหนเนี่ยประเทศไทย

พูดถึงการบริหารทุนสำรองต่างประเทศของ BOT  ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะจากจีน และนักท่องเที่ยวจะเข้ามาในไทยก็ต้องการมาจับจ่ายเป็นเงินบาทเสียเยอะในสมัยก่อน และนั้นก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ค่าเงินบาทแข็ง  แต่จริงๆมันคือสิ่งที่ดีนะทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวการใช้จ่ายโดยชาวต่างประเทศไปถึง ชาวบ้านที่ขายของต่างๆนะ
แต่มันไม่ดีที่ค่าเงินบาทแข็ง  ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดเขาก็มองที่เงินบัญชีดุลสะพัด และตัวเลขนำเข้าส่งออกก็มีผลตรงนั้นด้วย ตลอดระยะช่วง 5 ปีที่ผ่านมาทุนสำรองระหว่างประเทศของเราเพิ่มขึ้นมาในสกุลดอลลาร์อาจถึง 5-6 หมื่นล้านดอลลาร์ ก็ด้วยที่ว่าเอาเงินบาทไปซื้อดอลลาร์
และในการส่งออกแต่ละปีผมเห็นข้อมูลไทยเราส่งออกทองคำออกเพิ่มขึ้นๆ โดยเฉพาะในปี  2019 นี้อาจเกินกว่า 200,000 ล้านบาทได้มั้งปีนี้เยอะขึ้นนะ
แต่การส่งออกมีค่ามากกว่าการนำเข้า ก็ยิ่งทำให้เงินบัญชีดุลสะพัดดูดีขึ้น และค่าเงินบาทก็ยิ่งแข็งขึ้น
สมมตินะ ถ้าช่วง 5 ปีที่ผ่านมาแทานที่ BOT จะใช้เงินบาทไปซื้อดอลลาร์มากกว่า 5-6 หมื่นล้านดอลลาร์ เริ่มจากเมื่อ 5ปีก่อนอยู่ราว 35 บาทต่อดอลลาร์นะ
ซึ่งทำให้สรุป BOT ขาดทุนค่าเงินเพราะเราถือครองสิ่งที่มันมีค่าลดลงมาเรื่อยตลอด 5 ปีคือเงินดอลลาร์นะ ตอนนี้อยู่ 30 บาทต่อดอลลาร์นะ นัับแค่ส่งที่ถึือมากขึ้นไม่นับของเก่าที่อาจมีอยู่กว่า 170,000-180,000 ล้านดอลลาร์นะถ้าผมจำตัวเลขไม่ผิดนะ แค่ส่วนที่เพิ่มขึ้นก็ขาดทุนมนสกุลเงินบาทร่วมๆ 250,000ล้านบาทแล้วเพราะค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น
แต่ถ้าในตลอด 5 ปีนี้นะแทนจะเอาไปซื้อดอลลาร์เฉลี่ยปีละเกือบ หมื่นล้านดอลลาร์นะ แต่เอาไปซื้อทองคำสัก ครึ่งหนึ่งนะ คือราวๆ 150,000-170,000 ล้านบาทในแต่ละปีช่วง 5 ปีหลังนี้นะ ผลคือ ตัวเลขเกินดุลการค้าเราจะลดลงต่ำกว่านี้ทุกๆปี และค่าเงินบาทเราอาจจะไม่แข็งขนาดนี้ และในขณะเดียวกัน
ช่วง5 ปีที่ผ่านมาทองคำทำราวจากราวๆ 1,100$ต่ออนซ์เป็น 1480$ ต่อออนซ์ ราคาเพิ่มขึ้นมาราวๆ 25% นะ เงินที่ไปใช้เพื่อเป็นเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ก็จะไม่ขาดทุนร่วม 250,000 ล้านบาทนะ
เพราะจากที่ผมประเมินถ้านำไปซื้อทองนะนะวันนี้ค่าเงินบาทคงไม่แข็งขนาดนี้ตอนนี้อาจอยู่ระหว่าง 31.50-32.50 บาทต่อดอลลาร์เท่านั้น นั้นคือจะขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนแค่ราวๆ 3 บาทต่อดอลลาร์ ไม่ใช้5 บาทต่อดออลาร์เหมือนในปัจจุบัน นั้นคือจะขาดทุนจากการเอาเงินไปซื้อดอลลาร์เหลือเพียง 75,000 ล้านบาท เท่านั้น แต่ในขณะเดียวกันจะได้กำไรจากการเข้าไปซื้อทองคำแทน 25%(จากราราคาทองที่ขึ้นมา)-10%(จากการที่ค่าเงินบาทแข็งขึ้นเพียง 10% ไม่ใช่ 17% อย่างในปัจจุบัน)นั้นคือกำไรขึ้นๅ 15% ของเงินบาที่ใช้ไปซื้อทองตลอด 5ปีราวเกือบ 400,000ล้านบาทนะ นั้นคือราวๆ  60,000 ล้านบาทนะ นั้นคือ ถ้าเราเอาไปซื้อทองสักครึ่งแทนจะเอาไปซื้อดอลลาร์เป็นส่วนใหญ่นะ แทนที่จะขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนราวๆ 250,000ล้านบาทจะเหลือขาดทุน 15,000 ล้านบาท
และที่สำคัญเราจะไม่เจอวิกฤตค่าเงินบาทแข็ง จนหลายๆธุรกิจไม่สามารถแข็งขันได้จากการผลิตเพื่อส่งออกได้อย่างที่ผ่านมานะครับ
ผมเข้าใจนะว่าเอกชนต้องปรับตัว แต่คนไทยอาจจะไม่สามารถจะปรับตัวกับค่าเงินบาทที่แข็งตัวขึ้นมาร่วม 17-18% ในระยะเวลาเพียง 5 ปีนะ และดูแนวโน้มถ้านับปีหน้าเป็น 6ปีนะ ผมว่าจะกลายเป็นเงินบาทแข็งตัวขึนถึง 20%ก็เป็นได้นะ จะมีใตรจะสามารถทำธุรกิจได้ครับกับการขายของแล้วเงินหายไป 20%นะในระยะเวลาเพียง 6 ปีนะ
ที่ผมพูดมาอาจผิดนะ เพราะ ธนาคารแห่งประเทศไทยอาจไม่สามารถจะซื้อทองคำมาเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศได้ ในปริมาณสูงด้วยหรือเปล่าเพราะติดปัญหาด้านกฎหมายหรือไม่ แต่ถ้าใช้ผมว่าควรต้องปรับแก้ให้คล่องตัวกว่านี้ได้นานแล้วนะ
ที่ผมกล้าพูดเพราะผมนะเสนอเพื่อนที่ BOT ไปช่วง 4-5ปีแล้วว่าควรต้องเข้าไปซื้อทองคำนะ แต่เพื่อนไม่ได้ดูงานส่วนนั้นนะ
หัวข้อ: Re: Mazda จะย้ายการประกอบรถ CX 3 บางส่วนกลับญี่ปุ่น
เริ่มหัวข้อโดย: DiKiBoyZ ที่ ธันวาคม 23, 2019, 12:32:14
ตามสภาพครับ

เหตุผลจริงอะไรไม่รู้ แต่ตามคำพูดแค่พูดออกมาสวยๆ มากกว่า
หัวข้อ: Re: Mazda จะย้ายการประกอบรถ CX 3 บางส่วนกลับญี่ปุ่น
เริ่มหัวข้อโดย: Activehybrid ที่ ธันวาคม 23, 2019, 13:07:26
รถแพง คันเล็ก กลับดีแล้วครับ ไปไม่รอดอยู่แล้ว
หัวข้อ: Re: Mazda จะย้ายการประกอบรถ CX 3 บางส่วนกลับญี่ปุ่น
เริ่มหัวข้อโดย: Tien.W ที่ ธันวาคม 23, 2019, 13:53:26

  สิ่งที่คนไทยแตกต่างจากสังคมญี่ปุ่น มีอยู่เรื่องนึงที่น่าเป็นห่วงในตอนนี้คือ  คนญี่ปุ่นทำงานมีเงินเก็บหลังเกษียณ    แต่คนไทยส่วนมากไม่มี

ใช่ครับ ประสบการณ์จากที่ทำงานเลย แจ้งเกษียณอายุพนักงานไปคนนึง เค้าบอกว่า เค้ายังไม่รู้เลยว่า ออกไปแล้ว จะทำอะไรต่อ เงินเก็บไม่มีสักบาท !!! คือ เค้าก็พนักงานระดับเทคนิค เงินเดือนก็แถวๆ 3 หมื่นกว่าบาทนะ

ฟังแล้วก็ คุยกับ HR ว่า เออ เราควรจะให้ความรู้กับ พนักงาน กับ หัวหน้างาน รวมถึง คนที่จะเกษียณ ในอีก 3 - 4 ปีข้างหน้าไหม ? ว่า เค้าต้องวางแผนชีวิต และ การเงินของเค้ายังไง

อย่างผม กำลังจะเข้าหลักสี่ ผมก็วางแผนแล้วนะ วางแผนว่า เกษียณแล้วอยากทำอะไร อยากมีเงินใช้เท่าไหร่ แล้ว ถ้าจะไปให้ถึงตรงนั้น ผมต้องมีเงินเก็บเท่าไหร่ ต่อเดือนปัจจุบัน ต้องเก็บ ต้องลงทุนให้ได้เท่าไหร่ เพื่อให้ได้ผลเท่าที่ต้องการตอนเกษียณ น่ะครับ

ผมว่า บ้านเรายังอ่อนเรื่องนี้มากๆ ซึ่งมันจะสร้างผลกระทบต่อสังคมในอนาคตได้ครับ
หัวข้อ: Re: Mazda จะย้ายการประกอบรถ CX 3 บางส่วนกลับญี่ปุ่น
เริ่มหัวข้อโดย: Pegasus7700 ที่ ธันวาคม 23, 2019, 14:12:32
น่าเสียดายนะ.  แปลก มาสด้าทำได้ดีแต่มาสด้า2
ตัวอื่นเงียบมาก
หัวข้อ: Re: Mazda จะย้ายการประกอบรถ CX 3 บางส่วนกลับญี่ปุ่น
เริ่มหัวข้อโดย: pim_cute ที่ ธันวาคม 23, 2019, 15:32:08
พูดถึงการบริหารทุนสำรองต่างประเทศของ BOT  ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะจากจีน และนักท่องเที่ยวจะเข้ามาในไทยก็ต้องการมาจับจ่ายเป็นเงินบาทเสียเยอะในสมัยก่อน และนั้นก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ค่าเงินบาทแข็ง  แต่จริงๆมันคือสิ่งที่ดีนะทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวการใช้จ่ายโดยชาวต่างประเทศไปถึง ชาวบ้านที่ขายของต่างๆนะ
แต่มันไม่ดีที่ค่าเงินบาทแข็ง  ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดเขาก็มองที่เงินบัญชีดุลสะพัด และตัวเลขนำเข้าส่งออกก็มีผลตรงนั้นด้วย ตลอดระยะช่วง 5 ปีที่ผ่านมาทุนสำรองระหว่างประเทศของเราเพิ่มขึ้นมาในสกุลดอลลาร์อาจถึง 5-6 หมื่นล้านดอลลาร์ ก็ด้วยที่ว่าเอาเงินบาทไปซื้อดอลลาร์
และในการส่งออกแต่ละปีผมเห็นข้อมูลไทยเราส่งออกทองคำออกเพิ่มขึ้นๆ โดยเฉพาะในปี  2019 นี้อาจเกินกว่า 200,000 ล้านบาทได้มั้งปีนี้เยอะขึ้นนะ
แต่การส่งออกมีค่ามากกว่าการนำเข้า ก็ยิ่งทำให้เงินบัญชีดุลสะพัดดูดีขึ้น และค่าเงินบาทก็ยิ่งแข็งขึ้น
สมมตินะ ถ้าช่วง 5 ปีที่ผ่านมาแทานที่ BOT จะใช้เงินบาทไปซื้อดอลลาร์มากกว่า 5-6 หมื่นล้านดอลลาร์ เริ่มจากเมื่อ 5ปีก่อนอยู่ราว 35 บาทต่อดอลลาร์นะ
ซึ่งทำให้สรุป BOT ขาดทุนค่าเงินเพราะเราถือครองสิ่งที่มันมีค่าลดลงมาเรื่อยตลอด 5 ปีคือเงินดอลลาร์นะ ตอนนี้อยู่ 30 บาทต่อดอลลาร์นะ นัับแค่ส่งที่ถึือมากขึ้นไม่นับของเก่าที่อาจมีอยู่กว่า 170,000-180,000 ล้านดอลลาร์นะถ้าผมจำตัวเลขไม่ผิดนะ แค่ส่วนที่เพิ่มขึ้นก็ขาดทุนมนสกุลเงินบาทร่วมๆ 250,000ล้านบาทแล้วเพราะค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น
แต่ถ้าในตลอด 5 ปีนี้นะแทนจะเอาไปซื้อดอลลาร์เฉลี่ยปีละเกือบ หมื่นล้านดอลลาร์นะ แต่เอาไปซื้อทองคำสัก ครึ่งหนึ่งนะ คือราวๆ 150,000-170,000 ล้านบาทในแต่ละปีช่วง 5 ปีหลังนี้นะ ผลคือ ตัวเลขเกินดุลการค้าเราจะลดลงต่ำกว่านี้ทุกๆปี และค่าเงินบาทเราอาจจะไม่แข็งขนาดนี้ และในขณะเดียวกัน
ช่วง5 ปีที่ผ่านมาทองคำทำราวจากราวๆ 1,100$ต่ออนซ์เป็น 1480$ ต่อออนซ์ ราคาเพิ่มขึ้นมาราวๆ 25% นะ เงินที่ไปใช้เพื่อเป็นเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ก็จะไม่ขาดทุนร่วม 250,000 ล้านบาทนะ
เพราะจากที่ผมประเมินถ้านำไปซื้อทองนะนะวันนี้ค่าเงินบาทคงไม่แข็งขนาดนี้ตอนนี้อาจอยู่ระหว่าง 31.50-32.50 บาทต่อดอลลาร์เท่านั้น นั้นคือจะขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนแค่ราวๆ 3 บาทต่อดอลลาร์ ไม่ใช้5 บาทต่อดออลาร์เหมือนในปัจจุบัน นั้นคือจะขาดทุนจากการเอาเงินไปซื้อดอลลาร์เหลือเพียง 75,000 ล้านบาท เท่านั้น แต่ในขณะเดียวกันจะได้กำไรจากการเข้าไปซื้อทองคำแทน 25%(จากราราคาทองที่ขึ้นมา)-10%(จากการที่ค่าเงินบาทแข็งขึ้นเพียง 10% ไม่ใช่ 17% อย่างในปัจจุบัน)นั้นคือกำไรขึ้นๅ 15% ของเงินบาที่ใช้ไปซื้อทองตลอด 5ปีราวเกือบ 400,000ล้านบาทนะ นั้นคือราวๆ  60,000 ล้านบาทนะ นั้นคือ ถ้าเราเอาไปซื้อทองสักครึ่งแทนจะเอาไปซื้อดอลลาร์เป็นส่วนใหญ่นะ แทนที่จะขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนราวๆ 250,000ล้านบาทจะเหลือขาดทุน 15,000 ล้านบาท
และที่สำคัญเราจะไม่เจอวิกฤตค่าเงินบาทแข็ง จนหลายๆธุรกิจไม่สามารถแข็งขันได้จากการผลิตเพื่อส่งออกได้อย่างที่ผ่านมานะครับ
ผมเข้าใจนะว่าเอกชนต้องปรับตัว แต่คนไทยอาจจะไม่สามารถจะปรับตัวกับค่าเงินบาทที่แข็งตัวขึ้นมาร่วม 17-18% ในระยะเวลาเพียง 5 ปีนะ และดูแนวโน้มถ้านับปีหน้าเป็น 6ปีนะ ผมว่าจะกลายเป็นเงินบาทแข็งตัวขึนถึง 20%ก็เป็นได้นะ จะมีใตรจะสามารถทำธุรกิจได้ครับกับการขายของแล้วเงินหายไป 20%นะในระยะเวลาเพียง 6 ปีนะ
ที่ผมพูดมาอาจผิดนะ เพราะ ธนาคารแห่งประเทศไทยอาจไม่สามารถจะซื้อทองคำมาเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศได้ ในปริมาณสูงด้วยหรือเปล่าเพราะติดปัญหาด้านกฎหมายหรือไม่ แต่ถ้าใช้ผมว่าควรต้องปรับแก้ให้คล่องตัวกว่านี้ได้นานแล้วนะ
ที่ผมกล้าพูดเพราะผมนะเสนอเพื่อนที่ BOT ไปช่วง 4-5ปีแล้วว่าควรต้องเข้าไปซื้อทองคำนะ แต่เพื่อนไม่ได้ดูงานส่วนนั้นนะ

แบงค์ชาติไม่ใช่องค์กรแสวงหากำไรครับ มีหน้าที่ดูแลเสถียรภาพภายใน และภายนอก หากไปเก็งกำไรทองคำแบบนั้นจิงโดนด่าเละแน่นอนครับ แบงค์ชาติขาดทุนได้ครับไม่เป็นไรแต่ต้องช่วยผู้ส่งออกนำเข้าก่อน(เสถียรภาพภายนอก-->ค่าเงิน) อย่าไปให้ความสำคัญกับทุนสำรองขนาดนั้นครับ เกินดุลเป็นเรื่องดี แม้จะทำให้บาทแข็ง แต่ปัญหาอยู่ที่อัตราดอกเบี้ยต่างหากครับ ถ้าคุณล็อคค่าเงิน ดอกเบี้ยต้องวิ่ง แต่เราล็อคดอกเบี้ย ดังนั้นค่าเงินจึงจำเป็นต้องวิ่ง แล้วเรามีปัญหาบาทแข็ง นี่แหละครับวัดฝีมือว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร
หัวข้อ: Re: Mazda จะย้ายการประกอบรถ CX 3 บางส่วนกลับญี่ปุ่น
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ ธันวาคม 23, 2019, 16:54:47


มันผลิตี่โน่นแล้วรึเปล่า
แค่แบ่งมาไทย ขายไม่ดี ก็ยุบแค่นั้น
หัวข้อ: Re: Mazda จะย้ายการประกอบรถ CX 3 บางส่วนกลับญี่ปุ่น
เริ่มหัวข้อโดย: locomotive ที่ ธันวาคม 23, 2019, 17:15:51
AAT ตอนนี้ Ford ถอนตัวเกือบหมดแล้ว รถกระบะก็ ย้ายไปที่ Isuzu BT-50 ยังเหลืออเดอร์อีก 3-4 เดือน รถที่ขายๆอยู่ 2 3 CX-5 CX-3 ปัญหาบานตะไท ดุทรงๆแล้ว ไม่เจ๊าก้เตรียมเจีง!!!! 
มะเรื่องบ้านเมือง.........   ตอนนี้บ้านเรา ไม่ได้อยุ่ในสายตานักลงทุน ข้ามชาติ อีกแล้ว ดูจากอุตสาหกรรม ชั้นนำของโลก แบ่งไปลงทุน เพื่อนบ้าน Toyota ลงทุนรถ EV ที่อินโด เปิดโรงงานเพิ่มใน เมียนม่า พร้อมๆกับ Nissan อย่ามาบอกว่า ตั้งโรงงานเพื่อป้อนที่นั้นเฉพาะ บอกตรงๆ มันไม่ใช่ละ มันผิดวิสัย ทั้งๆที่บ้านเราทำส่งได้ทั้งโลก มอเตอร์ไซค์ ตอนนี้เราไม่ใช่ตลาดนำแล้ว เป็นอินโดและเวียดนามที่ มีอำนาจในตลาดนี้และคุมตลาดทั้งอาเชียนสำเร้จแล้ว  เราเป้นตลาดผุ้ตามดูง่ายๆ CBR150R CBR250RR เปิดอินโดมา 3 ปี กว่า พึ่งมาขายบ้านเราปีที่แล้ว PCX150 ตัวล่าสุด อินโดมีดิสเบรคหลัง พร้อม ABS ไทยเราได้ดรัมหลัง เบรค CBS ADV150 อินโดเปิดตัวก่อนทั้งๆที่บ้านเรา เป็นฝ่ายพัฒนา Wave125i ก้เปิดตัวที่เวียดนามที่แรก รถ Yamaha แทบทุกรุ่น นำเข้าจาก อินโด และล่าสุด Hyundai เลือกลงทุนในอาเชียน ไปลงที่อินโด คิดเอาเองละกันนะคราบ...............
หัวข้อ: Re: Mazda จะย้ายการประกอบรถ CX 3 บางส่วนกลับญี่ปุ่น
เริ่มหัวข้อโดย: Nonlamer ที่ ธันวาคม 23, 2019, 17:29:10
ฟังมาจาก supplier เขาบ่นให้ฟังว่า ไลน์ของเขามันมีไลน์แฝดอยู่ที่ jap บาทแข็งปุ้บ ต้นทุนเราสูงกว่า order ถูกโยกไปที่ jap ทันทีเลย ถามเขาว่าทำไม เขาตอบว่าเดี๋ยวนี้ใช้หุ่นยนต์กันหมดแล้ว ใช้คนนิดเดียว ต้นทุนเลยไม่ต่างจากที่นั่นมาก

ถามนักลงทุน jap เขาบอกว่าประเทศไทยไม่น่าลงทุนแล้ว โดยส่วนใหญ่เขาจะลงทุนเพื่อตลาดภายในประเทศเป็นหลัก แต่ยอดขายรถในบ้านเราอาจจะไม่โตมากไปกว่านี้แล้ว แรงงานของบ้านเราผ่านจุดสูงสุดไปแล้วเมื่อประมาณ 3 ปีก่อน เรากำลังเข้าสู่สังคมคนแก่ เด็กเกิดน้อยลง เขามองว่าบ้านเรากำลังจะกลายเป็นเหมือนบ้านเขา

บาทแข็ง เนื่องจากเราเกินดุลบัญชีเดินสะพัด ทั้งๆ ที่ส่งออกเราติดลบ แปลว่าอะไรครับ? แปลว่านำเข้าเราติดลบมากกว่า เห็นอะไรไหมครับ? กำลังซื้อภายในประเทศอ่อนแอแค่ไหน แบงค์ชาติพยายามแทรกแซงให้บาทอ่อน โดยการขายเงินบาท ซื้อดอลล่าห์ ก็ยิ่งทำให้ทุนสำรองจากดอลล่าห์สูงขึ้นอีก แต่เราล็อคอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.25% ทำให้แบงค์ชาติต้องทำการ sterilization เกรงว่าการทำแบบนี้ระยะยาวบาทจะไม่อ่อนลงสิครับ ผมชื่นชม ดร วีรไทยนะครับ แต่ท่านจะแก้ปัญหานี้อย่างไร

จากที่พูดเมื่อกี้ กำลังซื้อภายในประเทศอ่อนแอ เห็นอะไรไหมครับ? คนที่ควรขยับคือใครครับ fiscal policy หรือป่าวครับ? ท่องเที่ยว ส่งออกบาทแข็งไปแล้ว รมต คลัง อุตม นายกซึ่งเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ เขารู้ตัวหรือยัง? มีความสามารถแค่ไหนในการแก้ปัญหาหรือไม่รู้เรื่องเลย ผมอยู่ในวงการการเงินมานาน สมคิดผมโอเคนะ แต่ อุตม เห้อ...ต้องทนอีกนานแค่ไหนเนี่ยประเทศไทย

เห็นด้วยครับ
หัวข้อ: Re: Mazda จะย้ายการประกอบรถ CX 3 บางส่วนกลับญี่ปุ่น
เริ่มหัวข้อโดย: joekling ที่ ธันวาคม 24, 2019, 07:17:16
AAT ตอนนี้ Ford ถอนตัวเกือบหมดแล้ว รถกระบะก็ ย้ายไปที่ Isuzu BT-50 ยังเหลืออเดอร์อีก 3-4 เดือน รถที่ขายๆอยู่ 2 3 CX-5 CX-3 ปัญหาบานตะไท ดุทรงๆแล้ว ไม่เจ๊าก้เตรียมเจีง!!!! 
มะเรื่องบ้านเมือง.........   ตอนนี้บ้านเรา ไม่ได้อยุ่ในสายตานักลงทุน ข้ามชาติ อีกแล้ว ดูจากอุตสาหกรรม ชั้นนำของโลก แบ่งไปลงทุน เพื่อนบ้าน Toyota ลงทุนรถ EV ที่อินโด เปิดโรงงานเพิ่มใน เมียนม่า พร้อมๆกับ Nissan อย่ามาบอกว่า ตั้งโรงงานเพื่อป้อนที่นั้นเฉพาะ บอกตรงๆ มันไม่ใช่ละ มันผิดวิสัย ทั้งๆที่บ้านเราทำส่งได้ทั้งโลก มอเตอร์ไซค์ ตอนนี้เราไม่ใช่ตลาดนำแล้ว เป็นอินโดและเวียดนามที่ มีอำนาจในตลาดนี้และคุมตลาดทั้งอาเชียนสำเร้จแล้ว  เราเป้นตลาดผุ้ตามดูง่ายๆ CBR150R CBR250RR เปิดอินโดมา 3 ปี กว่า พึ่งมาขายบ้านเราปีที่แล้ว PCX150 ตัวล่าสุด อินโดมีดิสเบรคหลัง พร้อม ABS ไทยเราได้ดรัมหลัง เบรค CBS ADV150 อินโดเปิดตัวก่อนทั้งๆที่บ้านเรา เป็นฝ่ายพัฒนา Wave125i ก้เปิดตัวที่เวียดนามที่แรก รถ Yamaha แทบทุกรุ่น นำเข้าจาก อินโด และล่าสุด Hyundai เลือกลงทุนในอาเชียน ไปลงที่อินโด คิดเอาเองละกันนะคราบ...............


ไม่น่าใช่ครับ แพลนล่าสุด 2020 ยังผลิต Ford 60% / Mazda 40%
แต่หนักสุดค่าเงินบาท แก้ไม่ได้ เตรียมเจ๊งกันในอีกห้าปีครับ
หัวข้อ: Re: Mazda จะย้ายการประกอบรถ CX 3 บางส่วนกลับญี่ปุ่น
เริ่มหัวข้อโดย: M2J ที่ ธันวาคม 24, 2019, 07:57:17
ถ้าโยก order บางรุ่น พอเข้าใจได้ว่าพิจารณาปัจจัยยอดขายจริงในประเทศกับค่าเงินบาทแล้วไม่คุ้ม ก็ยอด CX 3 ไม่ปังจริงๆนี่นะ
แต่จะโยกฐานการผลิตน่าจะยังไม่ใช่ในเร็วปี ยอด Mazda 2 ยังขายได้ตกเดือน 2-4 พันคันอยู่นะ
ค่ายอื่นบางค่ายทั้งปีขายได้น้อยกว่านี้อีกยังอยู่ได้
หัวข้อ: Re: Mazda จะย้ายการประกอบรถ CX 3 บางส่วนกลับญี่ปุ่น
เริ่มหัวข้อโดย: blitzpao ที่ ธันวาคม 24, 2019, 09:05:45


มันผลิตี่โน่นแล้วรึเปล่า
แค่แบ่งมาไทย ขายไม่ดี ก็ยุบแค่นั้น

CX 3 ประกอบไทยครับแล้วส่งขาย AUS ผมเข้าใจว่าน่าจะตัดไลน์ CX 3 ออกไปเพิ่มกำลังการผลิตที่ JP แทนเพื่อส่งขาย AUS ส่วนไทยจะขึ้นไลน์ CX30 หรือไม่อันนี้น่าลุ้น
หัวข้อ: Re: Mazda จะย้ายการประกอบรถ CX 3 บางส่วนกลับญี่ปุ่น
เริ่มหัวข้อโดย: delete ที่ ธันวาคม 24, 2019, 09:59:39
AAT ตอนนี้ Ford ถอนตัวเกือบหมดแล้ว รถกระบะก็ ย้ายไปที่ Isuzu BT-50 ยังเหลืออเดอร์อีก 3-4 เดือน รถที่ขายๆอยู่ 2 3 CX-5 CX-3 ปัญหาบานตะไท ดุทรงๆแล้ว ไม่เจ๊าก้เตรียมเจีง!!!! 
มะเรื่องบ้านเมือง.........   ตอนนี้บ้านเรา ไม่ได้อยุ่ในสายตานักลงทุน ข้ามชาติ อีกแล้ว ดูจากอุตสาหกรรม ชั้นนำของโลก แบ่งไปลงทุน เพื่อนบ้าน Toyota ลงทุนรถ EV ที่อินโด เปิดโรงงานเพิ่มใน เมียนม่า พร้อมๆกับ Nissan อย่ามาบอกว่า ตั้งโรงงานเพื่อป้อนที่นั้นเฉพาะ บอกตรงๆ มันไม่ใช่ละ มันผิดวิสัย ทั้งๆที่บ้านเราทำส่งได้ทั้งโลก มอเตอร์ไซค์ ตอนนี้เราไม่ใช่ตลาดนำแล้ว เป็นอินโดและเวียดนามที่ มีอำนาจในตลาดนี้และคุมตลาดทั้งอาเชียนสำเร้จแล้ว  เราเป้นตลาดผุ้ตามดูง่ายๆ CBR150R CBR250RR เปิดอินโดมา 3 ปี กว่า พึ่งมาขายบ้านเราปีที่แล้ว PCX150 ตัวล่าสุด อินโดมีดิสเบรคหลัง พร้อม ABS ไทยเราได้ดรัมหลัง เบรค CBS ADV150 อินโดเปิดตัวก่อนทั้งๆที่บ้านเรา เป็นฝ่ายพัฒนา Wave125i ก้เปิดตัวที่เวียดนามที่แรก รถ Yamaha แทบทุกรุ่น นำเข้าจาก อินโด และล่าสุด Hyundai เลือกลงทุนในอาเชียน ไปลงที่อินโด คิดเอาเองละกันนะคราบ...............


ไม่น่าใช่ครับ แพลนล่าสุด 2020 ยังผลิต Ford 60% / Mazda 40%
แต่หนักสุดค่าเงินบาท แก้ไม่ได้ เตรียมเจ๊งกันในอีกห้าปีครับ

AAT ในส่วนของตัวโรงงาน(บริษัท) เป็น ฟอร์ด 51 มาสด้า 49 ไม่ใช่รึครับ
แต่ไลน์การผลิต เดิมฟอร์ดใช้ AAT ประกอบ เฟียสต้า+เรนเจอร์ ส่วน มาสด้า ใช้AAT หมดเลย แบ่งไลน์กัน ยังไงไม่แน่ใจ

พอฟอร์ดทำ FMT ปลวกแดง ประกอบกับเจออานิสงค์เกียร์มหาเทพเข้าไป เลยย้ายไลน์เฟียสต้า+อีโคสปอร์ต ไปFMT เหลือเรนเจอร์อยู่กับ AAT 

ดังนั้น ตอนนี้ ฟอร์ดมีแค่เรนเจอร์ที่ AAT ถูกป่ะครับ

แต่ว่าแต่ ถ้าฟอร์ดถอนตัวจาก AAT ไป ก็ต้องขายหุ้นทั้งหมดให้มาสด้า
ไม่เห็นมีข่าวนะครับ เอ๊ะ หรือว่ามี
หัวข้อ: Re: Mazda จะย้ายการประกอบรถ CX 3 บางส่วนกลับญี่ปุ่น
เริ่มหัวข้อโดย: delete ที่ ธันวาคม 24, 2019, 10:02:27


มันผลิตี่โน่นแล้วรึเปล่า
แค่แบ่งมาไทย ขายไม่ดี ก็ยุบแค่นั้น

CX 3 ประกอบไทยครับแล้วส่งขาย AUS ผมเข้าใจว่าน่าจะตัดไลน์ CX 3 ออกไปเพิ่มกำลังการผลิตที่ JP แทนเพื่อส่งขาย AUS ส่วนไทยจะขึ้นไลน์ CX30 หรือไม่อันนี้น่าลุ้น

ผมว่าพอฟังขึ้นอยู่นะครับ ในเมื่อ CX-30 มันมาเพื่อทับไลน์ CX-3 บางส่วน แล้วราคาก็อาจจะไม่ต่างกันมาก ใครจะยังซื้อ CX-3 ครับ
ก็คงซื้อ CX-30 กันหมด
ก็เป็นโอกาสดีที่จะดึงไลน์ CX-3 กลับไปญี่ปุ่นตามเดิม
หัวข้อ: Re: Mazda จะย้ายการประกอบรถ CX 3 บางส่วนกลับญี่ปุ่น
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ ธันวาคม 24, 2019, 10:05:53
AAT แค่รับจ้างผลิตให้ ฟอร์ดและมาสด้า
หัวข้อ: Re: Mazda จะย้ายการประกอบรถ CX 3 บางส่วนกลับญี่ปุ่น
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ ธันวาคม 24, 2019, 12:41:58
บ้านเราไม่น่ามี CX-3 แล้วด้วยครับ ฉะนั้นก็ไม่ต้องมีก็ได้
หัวข้อ: Re: Mazda จะย้ายการประกอบรถ CX 3 บางส่วนกลับญี่ปุ่น
เริ่มหัวข้อโดย: SRY ที่ ธันวาคม 24, 2019, 19:14:51
อันอื่นไม่รู้นะ รู้ว่าตั้งแต่บาทแข็ง กว่าค่าเงินอื่นๆ เงินที่ส่งมา ที่ควรจะได้ มันหายไปเลย 3 พัน ทุกเดือน
เดือดร้อนสิครับ
หัวข้อ: Re: Mazda จะย้ายการประกอบรถ CX 3 บางส่วนกลับญี่ปุ่น
เริ่มหัวข้อโดย: Mr. RO ที่ ธันวาคม 24, 2019, 21:11:03
พูดถึงการบริหารทุนสำรองต่างประเทศของ BOT  ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะจากจีน และนักท่องเที่ยวจะเข้ามาในไทยก็ต้องการมาจับจ่ายเป็นเงินบาทเสียเยอะในสมัยก่อน และนั้นก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ค่าเงินบาทแข็ง  แต่จริงๆมันคือสิ่งที่ดีนะทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวการใช้จ่ายโดยชาวต่างประเทศไปถึง ชาวบ้านที่ขายของต่างๆนะ
แต่มันไม่ดีที่ค่าเงินบาทแข็ง  ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดเขาก็มองที่เงินบัญชีดุลสะพัด และตัวเลขนำเข้าส่งออกก็มีผลตรงนั้นด้วย ตลอดระยะช่วง 5 ปีที่ผ่านมาทุนสำรองระหว่างประเทศของเราเพิ่มขึ้นมาในสกุลดอลลาร์อาจถึง 5-6 หมื่นล้านดอลลาร์ ก็ด้วยที่ว่าเอาเงินบาทไปซื้อดอลลาร์
และในการส่งออกแต่ละปีผมเห็นข้อมูลไทยเราส่งออกทองคำออกเพิ่มขึ้นๆ โดยเฉพาะในปี  2019 นี้อาจเกินกว่า 200,000 ล้านบาทได้มั้งปีนี้เยอะขึ้นนะ
แต่การส่งออกมีค่ามากกว่าการนำเข้า ก็ยิ่งทำให้เงินบัญชีดุลสะพัดดูดีขึ้น และค่าเงินบาทก็ยิ่งแข็งขึ้น
สมมตินะ ถ้าช่วง 5 ปีที่ผ่านมาแทานที่ BOT จะใช้เงินบาทไปซื้อดอลลาร์มากกว่า 5-6 หมื่นล้านดอลลาร์ เริ่มจากเมื่อ 5ปีก่อนอยู่ราว 35 บาทต่อดอลลาร์นะ
ซึ่งทำให้สรุป BOT ขาดทุนค่าเงินเพราะเราถือครองสิ่งที่มันมีค่าลดลงมาเรื่อยตลอด 5 ปีคือเงินดอลลาร์นะ ตอนนี้อยู่ 30 บาทต่อดอลลาร์นะ นัับแค่ส่งที่ถึือมากขึ้นไม่นับของเก่าที่อาจมีอยู่กว่า 170,000-180,000 ล้านดอลลาร์นะถ้าผมจำตัวเลขไม่ผิดนะ แค่ส่วนที่เพิ่มขึ้นก็ขาดทุนมนสกุลเงินบาทร่วมๆ 250,000ล้านบาทแล้วเพราะค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น
แต่ถ้าในตลอด 5 ปีนี้นะแทนจะเอาไปซื้อดอลลาร์เฉลี่ยปีละเกือบ หมื่นล้านดอลลาร์นะ แต่เอาไปซื้อทองคำสัก ครึ่งหนึ่งนะ คือราวๆ 150,000-170,000 ล้านบาทในแต่ละปีช่วง 5 ปีหลังนี้นะ ผลคือ ตัวเลขเกินดุลการค้าเราจะลดลงต่ำกว่านี้ทุกๆปี และค่าเงินบาทเราอาจจะไม่แข็งขนาดนี้ และในขณะเดียวกัน
ช่วง5 ปีที่ผ่านมาทองคำทำราวจากราวๆ 1,100$ต่ออนซ์เป็น 1480$ ต่อออนซ์ ราคาเพิ่มขึ้นมาราวๆ 25% นะ เงินที่ไปใช้เพื่อเป็นเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ก็จะไม่ขาดทุนร่วม 250,000 ล้านบาทนะ
เพราะจากที่ผมประเมินถ้านำไปซื้อทองนะนะวันนี้ค่าเงินบาทคงไม่แข็งขนาดนี้ตอนนี้อาจอยู่ระหว่าง 31.50-32.50 บาทต่อดอลลาร์เท่านั้น นั้นคือจะขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนแค่ราวๆ 3 บาทต่อดอลลาร์ ไม่ใช้5 บาทต่อดออลาร์เหมือนในปัจจุบัน นั้นคือจะขาดทุนจากการเอาเงินไปซื้อดอลลาร์เหลือเพียง 75,000 ล้านบาท เท่านั้น แต่ในขณะเดียวกันจะได้กำไรจากการเข้าไปซื้อทองคำแทน 25%(จากราราคาทองที่ขึ้นมา)-10%(จากการที่ค่าเงินบาทแข็งขึ้นเพียง 10% ไม่ใช่ 17% อย่างในปัจจุบัน)นั้นคือกำไรขึ้นๅ 15% ของเงินบาที่ใช้ไปซื้อทองตลอด 5ปีราวเกือบ 400,000ล้านบาทนะ นั้นคือราวๆ  60,000 ล้านบาทนะ นั้นคือ ถ้าเราเอาไปซื้อทองสักครึ่งแทนจะเอาไปซื้อดอลลาร์เป็นส่วนใหญ่นะ แทนที่จะขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนราวๆ 250,000ล้านบาทจะเหลือขาดทุน 15,000 ล้านบาท
และที่สำคัญเราจะไม่เจอวิกฤตค่าเงินบาทแข็ง จนหลายๆธุรกิจไม่สามารถแข็งขันได้จากการผลิตเพื่อส่งออกได้อย่างที่ผ่านมานะครับ
ผมเข้าใจนะว่าเอกชนต้องปรับตัว แต่คนไทยอาจจะไม่สามารถจะปรับตัวกับค่าเงินบาทที่แข็งตัวขึ้นมาร่วม 17-18% ในระยะเวลาเพียง 5 ปีนะ และดูแนวโน้มถ้านับปีหน้าเป็น 6ปีนะ ผมว่าจะกลายเป็นเงินบาทแข็งตัวขึนถึง 20%ก็เป็นได้นะ จะมีใตรจะสามารถทำธุรกิจได้ครับกับการขายของแล้วเงินหายไป 20%นะในระยะเวลาเพียง 6 ปีนะ
ที่ผมพูดมาอาจผิดนะ เพราะ ธนาคารแห่งประเทศไทยอาจไม่สามารถจะซื้อทองคำมาเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศได้ ในปริมาณสูงด้วยหรือเปล่าเพราะติดปัญหาด้านกฎหมายหรือไม่ แต่ถ้าใช้ผมว่าควรต้องปรับแก้ให้คล่องตัวกว่านี้ได้นานแล้วนะ
ที่ผมกล้าพูดเพราะผมนะเสนอเพื่อนที่ BOT ไปช่วง 4-5ปีแล้วว่าควรต้องเข้าไปซื้อทองคำนะ แต่เพื่อนไม่ได้ดูงานส่วนนั้นนะ

แบงค์ชาติไม่ใช่องค์กรแสวงหากำไรครับ มีหน้าที่ดูแลเสถียรภาพภายใน และภายนอก หากไปเก็งกำไรทองคำแบบนั้นจิงโดนด่าเละแน่นอนครับ แบงค์ชาติขาดทุนได้ครับไม่เป็นไรแต่ต้องช่วยผู้ส่งออกนำเข้าก่อน(เสถียรภาพภายนอก-->ค่าเงิน) อย่าไปให้ความสำคัญกับทุนสำรองขนาดนั้นครับ เกินดุลเป็นเรื่องดี แม้จะทำให้บาทแข็ง แต่ปัญหาอยู่ที่อัตราดอกเบี้ยต่างหากครับ ถ้าคุณล็อคค่าเงิน ดอกเบี้ยต้องวิ่ง แต่เราล็อคดอกเบี้ย ดังนั้นค่าเงินจึงจำเป็นต้องวิ่ง แล้วเรามีปัญหาบาทแข็ง นี่แหละครับวัดฝีมือว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร

การที่คาดเงินบาทแข็งไม่ใช่เรื่องอัตราดอกเบี้ยเป็นหลักนะครับ
คุณลองดูอัตราดอกเบี้ยนโยบายของประเทศในอาเซียนซิครับ เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ หรือ เวียดนามนะครับ อัตราดอกเบี้ยนโยบายสูงกว่าไทยมากๆครับ
แต่ที่ทำ บาทแข็งมีหลายปัจจัย แต่ปัจจัยที่บาทแข็งมากๆ น่าจะดูตัวเลขพวกดุลบัญชีเดินสะพัด  และขนาดทุนสำรอง เทียบกับหนี้ระยะสั้น
ส่วนอัตราดอกเบี้ยเป็นปลายทางจากมุมมองตัวเลขที่กล่าวก่อนหน้าที่ดูดีมากๆๆ เทียบกับประเทศต่างๆในโลกนี้ครับ
และที่เสนอไอเดียเรื่องให้ซื้อทอง ไม่ใช่ให้เกร็งกำไรราคาทองคำครับ
แต่มี 2 ประเด็นคือ
1 ผมเห็นประเทศใหญ่ในโลกหลายประเทศเริ่มกลับมาเพิ่มสัดส่วนทองคำ เป็นตะกร้าของทุนสำรองระหว่างประเทศของเขา
เช่น จีน รัสเซีย เยอรมัน
2. ในหลายช่วงที่ 4-5 ปีนี้ประเทศไทยส่งออกทองคำเฉียดแสนล้านจนถึง 200,000 ล้านบาทในปีปัจจุบัน และการส่งออกมาก็เป็นตัวกลางทำให้การได้ดุลการค้า  และนั้นคือส่งผลต่อตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัด ยิ่งดูดีมากจนเกินความจำเป็นครับ

ซึ่งส่งผลให้ค่าเงินบาทในช่วง 5 ปีนี้แข็งขึ้นกว่า 18%  ซึ่งการที่ค้าเงินบาทแข็งขนาดนี้ทำธุรกิจการส่งออกของไทยแข็งขันเขาไม่ได้ หรือจะตายและทำต่างชาติย้ายโรงงานหนีไปที่อื่นๆเยอะแล้วครับ  ผมจึงพยายามบอกให้ลองไปซื้อทองคำเพื่อลดตัวเลขการได้ดุลการค้า ไม่ให้สูง
และตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดได้ไม่ต้องดีเกินขนาด จนทำให้บาทแข็งขนาดนี้ครับ เพราะ ตัวเลขพวกนี้เราไม่ดูโดดเด่นแบบติดอันดันหนึ่งใน3 ถึง 5  ของโลกของตัวเลขที่บ่งชี้ความมั่นคงแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจขนาดนั้น
เพราะเอาจริงเราแข็งแกร่งจริงเหรอ คนในประเทศจำนวนไม่น้อยกำลังจะตกงานเพิ่ม หรือหลายธุรกิจความสามารถในการแข่งขันสู้เขาไม่ได้
สินค้าอุตสาหกรรม เรามีนวัตกรรมน้อยมาก นั้นคือ เราจะแข่งขันเขาไม่ได้ แต่ดันมาเงินบาทแข็งมากขนาดนี้ทำไม
เรานะหลอกตัวเองทำไม ในเมื่อเราไม่เข้มแข็งขนาดนั้น เราไม่ต้องสร้างตัวเลขให้ดูดีมากมายนักหรอกครับ นักธุรกิจจะตายกันหมด คนต้องขายของกินตายกันหมด เงินบาทแข็งมันดีกับคนรวยมีฐานะได้ซื้อของต่างประเทศราคาถูกเท่านั้นครับ
แต่ชาวบ้านต้องการให้ชาวต่างประเทศมาซื้อของครับ แต่บาทแข็งมากต่างชาติก็มีกำลังมาซื้อของคนไทยน้อยลง ทั้งจากการส่งออก และการมาจับจ่ายตรงจากท่องเที่ยวลดลงครับ

ส่วนเรื่องถ้าทำการซื้อทองคำในช่วงเวลาที่ผมบอกนั้นคือผลพลอยได้ที่ไม่ใช่เหตุผลหลักครับ แต่ถ้าบริหารแล้วไม่ขาดทุนก็ดีครับ
เพราะหลักการบริหารการบริหารเงินสำรอง ในมุมผมนอกจากรักษาเสถียรภาพของค่าเงินแล้ว  การต้องทำให้ค่าเงินของประเทศเราอยู่ในระดับที่ทำให้ภาคธุรกิจในประเทศมีความสามารถมีความแข็งขันได้ดี และทำให้คนในประเทศทำมาหากินได้อย่างคล่องตัว (สำหรับเมืองไทยเศรษฐกิจขึ้นกับรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 1 ใน 3) ดังนั้นการมีค่าเงินไม่แข็งไปนักมันสำคัญมากครับ
ในมุมผมการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย บริหารทุนสำรองเงินระหว่างประเทศจนค่าเงินบาทแข็งขนาดนี้ผมว่าผิดพลาดอย่างแรงครับ
ไม่ใช่แค่ขาดทุนใน 5 ปีนี้กว่า 900,000 ล้านบาทนะครับ
แต่การที่ทำให้ภาคเอกชนต้องลำบากหรือไม่สามารถทำธุรกิจต่อไปได้จากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นขนาดนี้ต่างหากเป็นสิ่งที่ผิดพลาดอย่างรุนแรงที่สุด เพราะการภาคธุรกิจทำธุรกิจต่อไปไม่ได้สุดท้ายคนจะตกงานครับ นั้นต่างๆหากครับที่สำคัญ

ถ้าคิดว่าผมพูดผิดช่วยบอกด้วยนะ
หัวข้อ: Re: Mazda จะย้ายการประกอบรถ CX 3 บางส่วนกลับญี่ปุ่น
เริ่มหัวข้อโดย: +@ Krishna @+ ที่ ธันวาคม 25, 2019, 18:02:47
ฟังมาจาก supplier เขาบ่นให้ฟังว่า ไลน์ของเขามันมีไลน์แฝดอยู่ที่ jap บาทแข็งปุ้บ ต้นทุนเราสูงกว่า order ถูกโยกไปที่ jap ทันทีเลย ถามเขาว่าทำไม เขาตอบว่าเดี๋ยวนี้ใช้หุ่นยนต์กันหมดแล้ว ใช้คนนิดเดียว ต้นทุนเลยไม่ต่างจากที่นั่นมาก

ถามนักลงทุน jap เขาบอกว่าประเทศไทยไม่น่าลงทุนแล้ว โดยส่วนใหญ่เขาจะลงทุนเพื่อตลาดภายในประเทศเป็นหลัก แต่ยอดขายรถในบ้านเราอาจจะไม่โตมากไปกว่านี้แล้ว แรงงานของบ้านเราผ่านจุดสูงสุดไปแล้วเมื่อประมาณ 3 ปีก่อน เรากำลังเข้าสู่สังคมคนแก่ เด็กเกิดน้อยลง เขามองว่าบ้านเรากำลังจะกลายเป็นเหมือนบ้านเขา

บาทแข็ง เนื่องจากเราเกินดุลบัญชีเดินสะพัด ทั้งๆ ที่ส่งออกเราติดลบ แปลว่าอะไรครับ? แปลว่านำเข้าเราติดลบมากกว่า เห็นอะไรไหมครับ? กำลังซื้อภายในประเทศอ่อนแอแค่ไหน แบงค์ชาติพยายามแทรกแซงให้บาทอ่อน โดยการขายเงินบาท ซื้อดอลล่าห์ ก็ยิ่งทำให้ทุนสำรองจากดอลล่าห์สูงขึ้นอีก แต่เราล็อคอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.25% ทำให้แบงค์ชาติต้องทำการ sterilization เกรงว่าการทำแบบนี้ระยะยาวบาทจะไม่อ่อนลงสิครับ ผมชื่นชม ดร วีรไทยนะครับ แต่ท่านจะแก้ปัญหานี้อย่างไร

จากที่พูดเมื่อกี้ กำลังซื้อภายในประเทศอ่อนแอ เห็นอะไรไหมครับ? คนที่ควรขยับคือใครครับ fiscal policy หรือป่าวครับ? ท่องเที่ยว ส่งออกบาทแข็งไปแล้ว รมต คลัง อุตม นายกซึ่งเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ เขารู้ตัวหรือยัง? มีความสามารถแค่ไหนในการแก้ปัญหาหรือไม่รู้เรื่องเลย ผมอยู่ในวงการการเงินมานาน สมคิดผมโอเคนะ แต่ อุตม เห้อ...ต้องทนอีกนานแค่ไหนเนี่ยประเทศไทย

ไทยคงอีกนาน เห็นว่าตอนนี้เป็นหนี้เยอะเลย
ประชาชนก็ต้องเซพ นอกจากอุตสหกรรมรถยนต์แล้ว พวกสถานศึกษาเอกชนก็น่าจะแย่เหมือนกัน :P
หัวข้อ: Re: Mazda จะย้ายการประกอบรถ CX 3 บางส่วนกลับญี่ปุ่น
เริ่มหัวข้อโดย: pierre ที่ ธันวาคม 27, 2019, 17:34:19

การที่คาดเงินบาทแข็งไม่ใช่เรื่องอัตราดอกเบี้ยเป็นหลักนะครับ
คุณลองดูอัตราดอกเบี้ยนโยบายของประเทศในอาเซียนซิครับ เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ หรือ เวียดนามนะครับ อัตราดอกเบี้ยนโยบายสูงกว่าไทยมากๆครับ
แต่ที่ทำ บาทแข็งมีหลายปัจจัย แต่ปัจจัยที่บาทแข็งมากๆ น่าจะดูตัวเลขพวกดุลบัญชีเดินสะพัด  และขนาดทุนสำรอง เทียบกับหนี้ระยะสั้น
ส่วนอัตราดอกเบี้ยเป็นปลายทางจากมุมมองตัวเลขที่กล่าวก่อนหน้าที่ดูดีมากๆๆ เทียบกับประเทศต่างๆในโลกนี้ครับ
และที่เสนอไอเดียเรื่องให้ซื้อทอง ไม่ใช่ให้เกร็งกำไรราคาทองคำครับ
แต่มี 2 ประเด็นคือ
... show more


เห็นด้วยในประเด็นนี้ครับ
" แต่การที่ทำให้ภาคเอกชนต้องลำบากหรือไม่สามารถทำธุรกิจต่อไปได้จากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นขนาดนี้ต่างหากเป็นสิ่งที่ผิดพลาดอย่างรุนแรงที่สุด เพราะการภาคธุรกิจทำธุรกิจต่อไปไม่ได้สุดท้ายคนจะตกงานครับ นั้นต่างๆหากครับที่สำคัญ "