Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: aquaman1997 ที่ มกราคม 02, 2020, 11:51:49
-
สอบถามครับก่อนอื่นผมไม่มีความรู้เรื่องภาษีรถยนต์เลย ข้อมูลที่อยากทราบคือ
ไอ้เจ้าภาษีรถยนต์ที่มันทำให้รถแพงขึ้น มันกี่ % หรอครับ
ผมขอยกตัวอย่าง อย่าง civic turbo rs ถ้าไม่คิดภาษีที่ไทยจะราคาเท่าไหร่ครับ
ปล.ผมไม่มีความรู้เลยเรื่องภาษีรถยนต์
ปล2.สมัครมาเพื่อสอบถามโดยเฉพาะ
-
ภาษี ที่ทำให้ สินค้่ ราคาแพง คือ ภาษี สรรพสามิต ครับ
คนไทยที่ ใช้ รถเก๋ง รัฐบาลมองว่าเป็น สินค้า ฟุ่มเฟือย ไม่จำเป็นครับ
civic RS ค่า CO2 161 g/km
ต้อง จ่าย ภาษี 30 % กรณีรถเติม E85 ไม่ได้ครับ
นอกจากนี้ รวม ภาษี ทั่วไป อีก 7 %
ดังนั้น ใคร ขับ รถ ที่เก๋ง ที่ไม่ใช่ อีโค คาร์ จงภูมิใจ ว่า ข้า นี้ละ จ่าย ภาษี ให้ รัฐ มากมาย 30 % ของราคารถ
ราคา 1.2 ล้าน
คำนวณ กลับ 7 % 1.2 /1.07 = 1.12
1.12 หัก สพม 30 % = 0.86 ล้าน
0.86 คุณ กลับ 7 % = 0.92 หรือ 920,000 บาท
-
เงื่อนไขในการคิดมีดังนี้
1.ภาษีนำเข้า ขึ้นกับแหล่งที่มา และรูปแบบการนำเข้าเป็นคันพร้อมวิ่ง หรือนำเข้ามาเป็นชิ้นส่วนประกอบภายหลัง
1.1 กรณีที่นำเข้าทั้งคัน ใช้ราคารถ + ค่าขนส่ง + ค่าประกันสินค้า เป็นราคาตั้งต้น
2.ภาษีสรรพสามิตร วิ่งที่ 25 - 50 % ขึ้นกับประเภทรถ, ขนาด cc เครื่อง และค่ามลพิษ
3.ภาษีหมาดไทย คิดที่ 10% ของสรรพสามิตร (อยู่ที่ 2.5 - 5% ของราคารถ)
4.ข้อยกเว้นภาษีเช่น FTA 0% กับจีนหรืออาเซียน หรือร่วมโครงการ Eco Car หรือเงื่อนไขอื่นๆ
5.ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% คิดหลังสุดหลังจากการคิดภาษี 3 รายการแรก
สำหรับ Civic RS ตามก่อนหน้าครับ
-
เรื่องอัตราภาษีรถยนต์ คิดตาม co2 และ cc. สามารถหาง่ายๆ ในเน็ต มันออกเป็นประกาศอยู่แล้ว
แต่ที่ผมอยากเสริมคือ
ราคาที่ขายในศูนย์นะ อย่าลืมว่าโดนบวกค่าการตลาดไว้แล้วด้วย (กำไรทอดที่ 2)
พอหักภาษีออก คือราคารถสำเร็จรูปหน้าโรงงาน ซึ่งก็บวกกำไรทอดที่ 1 ของโรงงานอีก หลังจากเสียภาษีจากสิ้นส่วนก่อนมาถึงโรงงาน
-
ดูในเว็ป Eco Sticker มีเกือบทุกรุ่น แล้วคูณ % กลับจะได้ราคารถครับ
Civic RS = 1.22m x 0.75
ราคาจากผู้ผลิต = 914,250 บาท
-
อันนี้ GT-R โดนภาษีไปเบาๆ 40% 5 ล้านกว่าบาท
-
ภาษี ที่ทำให้ สินค้่ ราคาแพง คือ ภาษี สรรพสามิต ครับ
คนไทยที่ ใช้ รถเก๋ง รัฐบาลมองว่าเป็น สินค้า ฟุ่มเฟือย ไม่จำเป็นครับ
civic RS ค่า CO2 161 g/km
ต้อง จ่าย ภาษี 30 % กรณีรถเติม E85 ไม่ได้ครับ
นอกจากนี้ รวม ภาษี ทั่วไป อีก 7 %
ดังนั้น ใคร ขับ รถ ที่เก๋ง ที่ไม่ใช่ อีโค คาร์ จงภูมิใจ ว่า ข้า นี้ละ จ่าย ภาษี ให้ รัฐ มากมาย 30 % ของราคารถ
ราคา 1.2 ล้าน
คำนวณ กลับ 7 % 1.2 /1.07 = 1.12
1.12 หัก สพม 30 % = 0.86 ล้าน
0.86 คุณ กลับ 7 % = 0.92 หรือ 920,000 บาท
ขอบคุณครับ อันนี้ผมก็ลืมนึกไปว่ามันต้องวัดกันที่ค่ามลพิษ ค่านู้นนี้ด้วยว่าอยู่กลุ่มไหน แต่ภาษีก็จะโดนแน่ๆ 7% (เพราะมันเป็นสินค้า)
แต่ไอ้เจ้า 30% น้อยหรือมากกว่านั้นมันขึ้นอยู่กับรถใช่ไหมครับ ผมเข้าใจถูกใช่ม่ะ ฮ่าๆ
-
อยากให้เลิกภาษีสรรพสามิตไปเลย กรมนี้ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันนอกจากคอยเก็บภาษีที่ไม่เป็นเรื่อง วันดีคืนดีก็มาปัดฝุ่นภาษีที่ไม่ได้เก็บมาเป็นสิบปีอย่างภาษีน้ำมันหล่อลื่นมันซะยังงั้น แถมยังจัดกลุ่มน้ำมันต่างๆให้มั่วกันใหญ่ น้ำมันบางชนิดกลับไปอยู่รวมกับSolventต้องมีการรายงานสต็อคทุกเดือน แถมยังมีการปรับเงินภาษีสรรพสามิตกรณีรถขนส่งน้ำมันเกิดอุบัติเหตุระหว่างทางแล้วน้ำมันหกไหลออกมา อ้างว่าต้องเรียกเก็บทั้งๆที่ไม่ได้จำหน่ายออกไป ควรจะยุบๆไปได้แล้ว เป็นภาระสิ้นเปลืองงบประมาณจริงๆ โรงกลั่นหรือโรงผลิตต้องทำห้องพักและห้องทำงานให้เจ้าหน้าที่กรมไว้ประจำเพราะกลัวสินค้าล่องหนทั้งๆที่ก็ให้ติดตั้งเครื่องวัดปริมาณแบบOnlineไว้อยู่แล้วเพราะอิงกฎหมายโบราณที่ต้องมีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ24ชั่วโมง จ่ายเงินเดือนเจ้าหน้าที่เพื่อทำสิ่งที่ไม่ได้ผลผลิตใดๆ เสียดายงบประมาณครับ
-
ราคารถในไทยแพง แต่ค่าเซอร์วิสต่ำกว่า และเสียภาษีประจำปี ต่ำกว่าประเทศอื่นครับ
ถามว่าเหมาะสมไหมคิดว่าเหมาะสมแล้ว แค่น่าจะส่งเสริมรถพลังงานทางเลือกให้มากกว่านี้ เพราะทุกวันนี้ราคารถแพง แต่รถเต็มถนนเลย
-
ในอนาคตจะมีภาษีแปลกๆ เพิ่มขึ้นอีก ถ้าไม่สนองนโยบาย เก้าอี้ก็ปลิว... ผมแนะนำว่าถ้าจะซื้อรถก็ซื้อไปเลย
-
สรรพสามิตเป็นภาษีที่เก็บแบบกินเปล่ามากๆตัวนึงเลย ซ้ำซ้อนหลายอย่างในรถหนึ่งคัน กับภาษีศุลกากรที่เวอร์เกินไป แค่ 100% นี่ก็เหลือๆแล้ว รัฐจะได้มากกว่าเดิมด้วยซ้ำำ ราคาต่ำลง รถจะเข้ามาได้มากขึ้นเงินก็มากขึ้น ดีกว่า 328% ที่คนซื้อยอมไปซื้อทิ้งไว้ต่างประเทศดีกว่าเอารถกลับมาไทย
ถ้าอยากเก็บจริงๆควรเก็บภาษีถนน เพิ่มไปกับทะเบียนรายปี ลดภาระภาษีที่สร้างถนนใหม่ต้องเอามาบำรุงรักษาแทน ถนนก็ปรับปรุงจำกัด ถ้ามีภาษีถนนอย่างน้อยก็สามารถมีเงินจัดการแบบมอเตอร์เวย์
-
เงื่อนไขในการคิดมีดังนี้
1.ภาษีนำเข้า ขึ้นกับแหล่งที่มา และรูปแบบการนำเข้าเป็นคันพร้อมวิ่ง หรือนำเข้ามาเป็นชิ้นส่วนประกอบภายหลัง
1.1 กรณีที่นำเข้าทั้งคัน ใช้ราคารถ + ค่าขนส่ง + ค่าประกันสินค้า เป็นราคาตั้งต้น
2.ภาษีสรรพสามิตร วิ่งที่ 25 - 50 % ขึ้นกับประเภทรถ, ขนาด cc เครื่อง และค่ามลพิษ
3.ภาษีหมาดไทย คิดที่ 10% ของสรรพสามิตร (อยู่ที่ 2.5 - 5% ของราคารถ)
4.ข้อยกเว้นภาษีเช่น FTA 0% กับจีนหรืออาเซียน หรือร่วมโครงการ Eco Car หรือเงื่อนไขอื่นๆ
5.ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% คิดหลังสุดหลังจากการคิดภาษี 3 รายการแรก
สำหรับ Civic RS ตามก่อนหน้าครับ
เพิ่มเติมให้ครับ ข้อ1-4ต้อง +Vat7%
-
ราคารถในไทยแพง แต่ค่าเซอร์วิสต่ำกว่า และเสียภาษีประจำปี ต่ำกว่าประเทศอื่นครับ
ถามว่าเหมาะสมไหมคิดว่าเหมาะสมแล้ว แค่น่าจะส่งเสริมรถพลังงานทางเลือกให้มากกว่านี้ เพราะทุกวันนี้ราคารถแพง แต่รถเต็มถนนเลย
ราคารถแพงกว่า เงินเดือนก็ได้น้อยกว่า
ยังไงมีรถในไทยก็คือแพงมากๆ นอกจากว่าจะไปเปรียบเที่ยบประเทศที่ได้เงินเดือนน้อยกว่า อย่าง India
-
ราคารถในไทยแพง แต่ค่าเซอร์วิสต่ำกว่า และเสียภาษีประจำปี ต่ำกว่าประเทศอื่นครับ
ถามว่าเหมาะสมไหมคิดว่าเหมาะสมแล้ว แค่น่าจะส่งเสริมรถพลังงานทางเลือกให้มากกว่านี้ เพราะทุกวันนี้ราคารถแพง แต่รถเต็มถนนเลย
ราคารถแพงกว่า เงินเดือนก็ได้น้อยกว่า
ยังไงมีรถในไทยก็คือแพงมากๆ นอกจากว่าจะไปเปรียบเที่ยบประเทศที่ได้เงินเดือนน้อยกว่า อย่าง India
เรา เอื้อระบบ ทุนครับ
ตั้วราคา รถมาแพง
แต่กัน ยื่นกู้ ง่าย ดาวน์ 0 % แบบนี้ ซึง มันย้อนแยงตัวเอง
จริงๆ ควรกำหนด ดาสน์ ขั้นต่ำ 25 % แล้ว ยกเลิก ภาษี สรรพสามิตครับ แบบนี้ คิดว่า จะได้ สะท้อนความจริงมากกว่า
คือ กำหนดภาษี แพง ให้รถแพง แต่ให้กู้ มาจ่าย ภาษีแพงๆ ได้ งง ฉิบหาย