Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: KATANA ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2020, 18:17:39
-
อย่างที่รู้ๆ กันว่ามาสด้า บ.แม่ (ผมลองโทรถามทางสปีดไลน์) บอกว่าห้ามเปลี่ยน้ำมันเกียร์เด็ดขาด ส่วนศูนย์บริการก็ไปทำนองเดียวกันด้วยเหตุผลว่าเซ็นเซอร์จะอ่านค่าผิดพลาด ทำให้เกียร์กระตุก เกียร์มีปัญหา แต่พอถามย้อนกลับไปเชิงลึกก็ไม่ได้คำตอบอะไรให้เรามั่นใจได้
เลยอยากถามเพื่อนสมาชิกครับว่าเคยมีใครถ่ายน้ำมันเกียร์ MAZDA 2 Skyactiv แล้วมีปัญหาจริงดังว่ามั้ยครับ
ขอบคุณครับ
-
ถ้าถ่ายน้ำมันเกียร์แต่ใช้เบอร์เดิมตามคู่มือไม่น่ามีปัญหานะครับ ถ้าไม่ถ่ายใช้ไปนานๆน่าจะมีปัญหามากกว่า อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ
-
ถ้าถ่ายน้ำมันเกียร์แต่ใช้เบอร์เดิมตามคู่มือไม่น่ามีปัญหานะครับ ถ้าไม่ถ่ายใช้ไปนานๆน่าจะมีปัญหามากกว่า อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ
ผมเองก็เชื่อแบบนั้น แต่มาสด้าไม่เชื่อแบบนั้น แต่บอกว่าถ้าถ่ายจะหลุดประกันทันที
เอาจริงๆ ผมพร้อมจะเชื่อเค้านะถ้ามีหลักฐานการทดสอบชัดเจนมาแสดงให้ดูว่า เปลี่ยนแล้วมีปัญหาจริงๆ แต่นี่ไม่มี มีแต่คำพูดที่ฟังดูแปลกๆ ในความรู้สึกของคนที่ไม่ใช่เก่งเท่าวิศวกรของมาสด้า ก็เลยจะมาขอประสบการณ์เพื่อนๆ นี่แหละครับน่าจะเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ว่า ถ่าย ไม่ถ่าย เกี่ยวกับปัญหาเกียร์หรือไม่ (การไม่ถ่ายในกรณีนี้ผมอ้างอิงถึงแค่หมดระยะประกันเท่านั้นนะครับ ไม่ใช่ตลอดอายุการใช้งาน)
-
ลองค้นหาหัวข้อเก่าๆอ่านดูครับ
เช่น https://community.headlightmag.com/index.php?topic=68728.0 เป็นต้น
-
ส่วนตัวถ่ายน้ำมันเกียร์ตอน 30,000โลครับ ตอนนี้ 43,000โลแล้ว ยังไม่มีปัญหานะครับ
ในคลับเห็นถ่ายกันที่40,000โล เปิดอ่างเปลี่ยนกรองเกียร์ที่60,000โล ขับไปแล้ว160,000โล เกียร์ก็ยังปกติครับ
ปล.เครื่อง 1.3เบนซินนะครับ เท่าที่สังเกตุมารถล็อตแรกๆปี2015-2016 เกียร์พังกันหลายคันมาก บางคัน30,000โลก็พังแบ้ว ดันพังหลังหมดประกัน3ปีด้วยครับ
ส่วนล็อตหลังๆปี 2017 ขึ้นมายังไม่เห็นมีคันไหนพัง ยกเว้นรถที่หลุด QC มาจริงๆพังสัปดาห์แรกที่ออกเลยครับ
-
คือไม่มีบริษัทไหนรับประกันหรอกนะครับว่า ถ้าไม่เปลี่ยน นมก แล้วเกียร?ไม่พัง เพราะการรับประกันมีแค่ 1 แสนโล จากนั้นหมดอายุประกัน ถ้าเกียร์พังหลังจากนั้น ผมเห็นเจ้าของรถจ่ายเงินซ่อมเองทุกราย โดยที่บริษัทรถยนต์ไม่มีทางออกค่าซ่อมรถให้แน่นอน
ลองพิจาณาเอาเอง มีเกียร์ของบริษัทไหนในโลกนี้ไหมครับ ที่ใช้งานแล้วไม่พัง
Mazda แม่มพูดตลก แถมไม่มีคำตอบให้ลูกค้าอีก ตอบไม่ได้ ตอบได้ก็ไม่ชัดเจน ไม่มีอะไรมายืนยัน ที่แปลกกว่านั่นลูกค้าก็เลือกที่จะเชื่อคำพูดของ Mazda ที่ดูไร้เหตุผลเอามาก ๆ
-
ผมใช้ CX5 ไมล์ 70,000 km ถ่ายน้ำมันเกียร์ไป 3 รอบแล้วครับ ไม่มีเซ็นต์ให้รับความเสี่ยงใดๆ ทั้งสิ้น ไม่มีอิดออด มีแต่ถามว่าทำเปลี่ยนน้ำมันเกียร์เร็วจัง ของแบบนี้ต้องเลือกศูนย์ครับ บางศูนย์เปลี่ยนให้ได้ ไม่ต้องเซ็นต์อะไร บางศูนย์ไม่เปลี่ยนให้ครับ
เปลี่ยนแล้วก็ลื่นๆ ครับ ไม่มีปัญหาอะไร เอาจริงๆ ผมว่าเปลี่ยนแล้วไม่ค่อยรู้สึกต่างเท่าไหร่ (คงเป็นเพราะเปลี่ยนเร็วไปหน่อย ทุกๆ 20,000 km)
-
เปลียนตอนราวๆ 4หมื่นโล ตอนนี้จะ 8หมื่นแล้ว ยังปกติดีครับ
-
คงต้องให้บริษัทนิยามคำว่า Lifetime มาก่อนว่าในทางกฎหมาย
บริษัทหมายถึง Lifetime ของสิ่งไหน เช่น ตัวรถ หรือเฉพาะเกียร์
หรือแค่ อายุใช้งานน้ำมันเครื่อง(ในแต่ละรอบที่เปลี่ยน)
ผมมองว่าตรงนี้ บริษัทจงใจที่จะเล่นวลี ในการบ่ายเบี่ยงความรับผิดชอบกรณีที่เกิดความเสียหายต่อรถที่ใช้งาน
เพราะแน่นอนว่าจะมีลูกค้าอยู่ 2 กลุ่ม ที่แยกกันอย่างชัดเจน
1.เชื่อโดยสนิทใจในคำกล่าวอ้างของบริษัทว่าไม่พัง พังหลังหมดประกันคือความซวย
2.ไม่เชื่อ แล้วเปลี่ยน ซึ่งบริษัทสามารถอ้างได้ว่าลูกค้าไม่ทำตามคำแนะนำ(หมดประกันทันทีที่มีปัญหา)
เห็นได้ชัดว่าบริษัทไม่จริงใจกับลูกค้า (ผมไม่ได้เจาะจงว่ายี่ห้อไหนนะ)
เพราะหลายบริษัทก็ชอบใช้คำนี้
-
เปลี่ยนก็ดีกว่าไม่เปลี่ยนอยู่แล้ว
ส่วนตัวเชื่อว่าการขับรถไม่ออกตัวแรง ไม่ขับกระชาก
ก็เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยให้เกียร์อายุยืนกว่าการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ถี่ๆเสียอีก
-
เปลี่ยนมาสองรอบแล้ว ซื้อน้ำมันจากศูนย์นั่นแหล่ะไม่มีปัญหาหรอก ถ้าบอกว่าไม่ต้องเปลี่ยนตลอดอายุการใช้งานศูนย์ก็ไม่น่าจำเป็นต้องมีขายนี่แล้วช่วยบอกข้อเสียหน่อยว่าการถ่าย นมก.ตรงสเป็คมันสร้างความเสียหายยังไง วิศวกรมาสด้าช่วยชี้แจงหน่อย คนเรียนด้านเครื่องยนต์คงขำก๊ากแน่ๆ
-
เปลี่ยนยังไงก็ไม่มีผลเสีย "ถ้าทำถูกวิธี" + "ใช้น้ำมันถูกสเป็ค"
ถึงวันนี้ผมก็ยังไม่เข้าใจว่า ทำไม ถึงมีประเด็นเรื่องนี้ ลูกค้ายอมจ่าย เพื่อถนอมรถของเขา แต่มาสด้าบอกประกันจะขาด คิดแล้วคิดอีก ถึงวันนี้ ผมก็ยังหาทั้งวิทยาศาสตร์ และ ไสยศาสตร์ มาเป็นเหตผลที่มาสด้าไม่ให้ถ่าย นมก ไม่ได้
ยก ตัวอย่าง bmw ไม่ให้ถ่าย เหตผลข้อเดียว ง่ายๆมันอยู่ในต้นทุน BSI
ผมเคยใช้ F10 ุถ่ายน้ำมันเกียร์ออกมาตอน 9หมื่นกิโล ก่อนถ่ายรถไม่มีอาการไดๆทั้งสิ้น ขับปกติทุกอย่าง แต่มันไกล้แสนกิโลแล้วเลยถ่าย เพื่อความสบายใจ เพราะผมรถนำเข้า เปลี่ยนไปก็ไม่มีผล BSI เพราะไม่มี -*- น้ำมันถ่ายออกมาสีเปลี่ยนนิดเดียว ตอนนั้นรถ4ปี 9หมื่นกิโล
กลับกันอีกคัน CX-3 ใช้ได้เกือบปีก่อนตัดสินใจขาย เพราะเหตผลอื่น แต่ มันวิ่งครบ2หมื่นกิโล กะถ่ายน้ำมันเกียร์ ศูนย์ไม่ให้ถ่าย และบอกประกันจะขาดทั้งคัน ณ ตอนนั้น ผมก็เลย ช่างมันไม่ถ่ายก็ไม่ถ่าย แต่เกียร์เริ่มเปลี่ยนแล้วรู้สึกจังหวะเปลี่ยน มีอาการกระตุกบ้างนิดเดียว แต่คือไม่เหมือนตอนป้ายแดงสดๆ เลยให้อู่ประจำไขน้ำมันมาดู เปลี่ยนสีไปพอสมควรเลยคับ นี่รถปีเดียว 2หมื่นกิโล
ขายไปได้ปีกว่า เจ้าของรถไม่ได้ถ่ายเพราะศูนย์บอกประกันจะขาด ..... สรุปเกียร์พังตอน 2ปีเดือนกว่า 6หมื่นกิโล โชคดียังอยู่ในประกัน และโชคดีของผมที่ขายออกไปก่อน
-
น้ำมันเกียร์แบบ life time ปัญหามันอยู่ที่ คำว่า life time ของเขาหมายถึงว่า เกียร์ลูกนั้นตีการใช้งานไว้ที่ กี่กิโล นี่ละสิครับ
-
เฉพาะน้ำมันเกียร์ผมเปลี่ยนถ่ายอู่นอกที่ทำมาสด้าเฉพาะอยู่แถวๆประชาชื่น เปลี่ยนครั้งแรกตอน3หมื่น ตอนนี้4หมื่นนิดๆ ยังปกติดีอยู่ กะว่าครบ6หมื่นกิโลหรือ1ปี จะเปลี่ยนกรอง+น้ำมัน
ส่วนที่ศูนย์บริการ บางศูนย์ก็รับเปลี่ยนถ่ายบางศูนย์ก็ไม่รับ อ้างประกันขาด
-
ผมว่า MAZDA ควรให้ทางเลือกลูกค้านะครับ
ถ้าลูกค้าที่ต้องการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์
ยินดีที่จะจ่ายค่าใช้จ่ายทั้งค่าของและค่าแรง
การรับประกันควรจะให้เหมือนเดิม ไม่ใช่ไปตัดประกันลูกค้า
ควรให้ส่วนลดลูกค้าที่มาใช้บริการอีกด้วย
-
เกียร์รุ่นนี้ปัญหาเยอะ
เขาเลยไม่เปลี่ยนเพราะกลัวลูกค้าบอกว่ามีปัญหาเพราะเปลี่ยน
รถไม่ถ่ายน้ำมันเกียร์เลยเกียร์พังหลาบคันแล้วรุ่นนี้แต่ศูนย์เคลมให้ถ้าเข้าเช็คระยะตลอดครับ
-
คงต้องให้บริษัทนิยามคำว่า Lifetime มาก่อนว่าในทางกฎหมาย
บริษัทหมายถึง Lifetime ของสิ่งไหน เช่น ตัวรถ หรือเฉพาะเกียร์
หรือแค่ อายุใช้งานน้ำมันเครื่อง(ในแต่ละรอบที่เปลี่ยน)
ผมมองว่าตรงนี้ บริษัทจงใจที่จะเล่นวลี ในการบ่ายเบี่ยงความรับผิดชอบกรณีที่เกิดความเสียหายต่อรถที่ใช้งาน
เพราะแน่นอนว่าจะมีลูกค้าอยู่ 2 กลุ่ม ที่แยกกันอย่างชัดเจน
1.เชื่อโดยสนิทใจในคำกล่าวอ้างของบริษัทว่าไม่พัง พังหลังหมดประกันคือความซวย
2.ไม่เชื่อ แล้วเปลี่ยน ซึ่งบริษัทสามารถอ้างได้ว่าลูกค้าไม่ทำตามคำแนะนำ(หมดประกันทันทีที่มีปัญหา)
เห็นได้ชัดว่าบริษัทไม่จริงใจกับลูกค้า (ผมไม่ได้เจาะจงว่ายี่ห้อไหนนะ)
เพราะหลายบริษัทก็ชอบใช้คำนี้
คิดเหมือนกันเลยครับ
ถ้ายังไม่มีการนิยามคำว่า Lifetime อย่างเป็นทางการ ก็คงอนุมานได้ว่า ให้ใช้น้ำมันเกียร์ชุดเดียวจนกว่าเกียร์จะพัง และมาตรฐานอายุการใช้งานที่คาดการณ์เอาไว้ คือ 3 ปี/100,000 km ตามเงื่อนไขประกันตัวรถ
ในขณะที่รถที่เราใช้ๆ กันมา เกียร์ก็ควรมีอายุการใช้งาน 3-4 แสนโล+++ ถ้าดูแลถูกต้อง
-
ผมเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ที่ศูนย์ ตอน 30000 กม. (ตอนนั้นบางศูนย์ก็เปลี่ยนให้โดบลูกค้าไม่ต้องเซ็นเอกสารใดๆ)
ปัจจุบันเลขไมล์ 47xxx กม. ผมใช้ทั้งโหมดสปอร์ต โหมดแมนนวล เป็นประจำ เกียร์ไม่มีอาการผิดปกติครับ
ถ้าครบ 60000 กม. ผมก็จะเปลี่ยนอีกครั้ง หลุดประกันก็ยอมครับ
-
ผมไม่เปลี่ยนคนนึง ประกันขาด ถ้าพังขึ้นมาจะแย่กว่าเดิม รอหมดประกันก่อนค่อยเปลี่ยน
-
ผมไม่เปลี่ยนคนนึง ประกันขาด ถ้าพังขึ้นมาจะแย่กว่าเดิม รอหมดประกันก่อนค่อยเปลี่ยน
ผมเคยมีแนวคิดว่า ถ้าปัญหาเกิดจากการไม่เปลี่ยนน้ำมันเกียร์จริง สมมุติมันควรจะพังที่ 80000กิโล
แล้วเราดันไปเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ ทำให้เกียร์ไปพังที่120000 ใครลำบาก
แต่ลึกๆผมว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่น้ำมันเกียร์ ปัญหาอยู่ที่การออกแบบหรือการผลิตมากกว่า
-
ขนาดรถยี่ห้ออื่นเกียร์แมนนวลยังมีให้ถ่ายน้ำมันเกียร์ที่6หมื่นกิโล แต่มาสด้าออโต้ไม่มีให้เปลี่ยนผมนี่ไม่เข้าใจเลย
-
ผมไม่เปลี่ยนคนนึง ประกันขาด ถ้าพังขึ้นมาจะแย่กว่าเดิม รอหมดประกันก่อนค่อยเปลี่ยน
ผมก็กะจะทำแบบนี้ครับ เพราะรถคันนี้แฟนใช้ ขับไม่ซิ่ง ไม่กระชาก ใช้เฉลี่ยปีละ 2 หมื่นโล หมดประกันสามปี 6 หมื่นโล คิดว่ายังไหว ก็ค่อยถ่ายเปิดอ่างทีเดียวเลย
ปล.ตอนนี้ใช้มาเกือบสามหมื่น กม. เกียร์ยังนิ่มนวลปกติอยู่ครับ
-
เคยเปลี่ยนให้ 3 Sky ที่ศูนย์เลย ตอนนั้นยังไม่มีนโยบายงี่เง่าแบบนี้ ถ้ายังอยุ่ในประกันก็นิ่งไว้ก่อน หมดประกันค่อยไปเปลี่ยนอู่นอก แต่ถ้าลากยาวไม่เปลี่ยนเลย จากค่า นมก แค่ พันกว่าบาท อาจจะได้ยกเกียร์ใหม่หลายหมื่น
-
รถมาสด้าสอง ก่อนไมเนอร์เชนจ์ เคยอยู่ในตัวเลือกผมด้วยนะ
พอไมเนอร์เชนจ์ปี 2020 มันก็ยังสวยสำหรับผม
แต่ขอเลี่ยงดีกว่า แค่เรื่องการบริการยังเป็นขนาดนี้
-
เพิ่งเปลี่ยนมา ตอน 4 หมื่น ใช้ วิธีดูด ออกมาได้ 3 ลิตรหน่อยๆ ทำได้แค่นั้น เพราะมันไม่มีตัวไขตรงทอรค์ หรือ intercooler สรุป ค่าน้ำมันเกียร์ ไม่ถึงพัน เอาไว้รอถ่ายอีกที ตอน 6 หมื่น แล้วก็ 8 หมื่นโล
-
ของผมถ่ายครั้งแรกตอน 50000 กิโล CX5ได้ประมาณ 3 ลิตร ทำที่ศูนย์ ไม่ได้มีให้เซ็นยินยอมประกันขาดอะไรนะครับ เมื่อ 2 ปีที่แล้ว
พอครบ 80000 ผมไปฟลัชออกได้ 8 ลิตร สีน้ำมันเกียร์ดำขึ้นชัดเจน ถ่ายเสร็จลองขับ รู้สึกว่าเกียร์สมูทดี ไม่มีปัญหาอะไร
ครั้งหน้า 120000 ก็จะฟลัชออกอีกครับ คิดว่าป้องกันไว้ก่อนดีกว่า
-
ผมกำลังจะเข้าเช็ค 80,000 ก.ม. เดี๋ยวจะลองถามศูนย์ที่ใช้บริการประจำถ่ายน้ำมันเกียร์ได้ไหมครับ เห็นหลายๆที่เริ่มมีเอกสารที่ต้องเซ็นต์กำกับ
ก่อนหน้านี้ถ่ายนัำมันเกียร์ตอน 30,000 กับ 60,000 ไปแล้ว ไม่มีเอกสารอะไรต้องเซ็นต์
คุยกับ SA ยังบอกเหมือนกันว่า ถ่ายเถอะครับ อย่างช้าควรทุก 100,000 ก.ม. แต่แค่คุยกันนอกรอบนะ เขาไม่กล้าฟันธงให้เหมือนกัน
ผมกะว่าถ้ามีเอกสารให้เซ็นต์ คงหาศูนย์อื่นเอา ส่วนตัวมองว่าแปลกดี คนเอาเงินไปให้กลับไม่อยากให้ถ่ายน้ำมันเกียร์
ปล. CX5 นะครับ
-
ผมไม่เปลี่ยนคนนึง ประกันขาด ถ้าพังขึ้นมาจะแย่กว่าเดิม รอหมดประกันก่อนค่อยเปลี่ยน
ผมก็กะจะทำแบบนี้ครับ เพราะรถคันนี้แฟนใช้ ขับไม่ซิ่ง ไม่กระชาก ใช้เฉลี่ยปีละ 2 หมื่นโล หมดประกันสามปี 6 หมื่นโล คิดว่ายังไหว ก็ค่อยถ่ายเปิดอ่างทีเดียวเลย
ปล.ตอนนี้ใช้มาเกือบสามหมื่น กม. เกียร์ยังนิ่มนวลปกติอยู่ครับ
ถ้าขับแบบปกติผมว่าอยู๋ได้ยาวๆ หมดประกันค่อยเปลี่ยนก็ได้ครับ แล้ว 6 หมื่นโลผมว่าสบาย ถ้าเป็นรถค่ายอื่นเปลี่ยนกัน 4 หมื่น ลากไป 6หมื่นคิดว่าไม่มีปัญหาครับ
-
ผมไม่เปลี่ยนคนนึง ประกันขาด ถ้าพังขึ้นมาจะแย่กว่าเดิม รอหมดประกันก่อนค่อยเปลี่ยน
ผมเคยมีแนวคิดว่า ถ้าปัญหาเกิดจากการไม่เปลี่ยนน้ำมันเกียร์จริง สมมุติมันควรจะพังที่ 80000กิโล
แล้วเราดันไปเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ ทำให้เกียร์ไปพังที่120000 ใครลำบาก
แต่ลึกๆผมว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่น้ำมันเกียร์ ปัญหาอยู่ที่การออกแบบหรือการผลิตมากกว่า
ผมคิดว่าถ้าจะพังให้มันพังตอนมีประกันยังดีกว่า อย่างน้อยถ้าพังตอน 80000 ได้ยกเกียร์ลูกใหม่แน่ๆ ได้ลูกใหม่มาก็เปลี่ยน้ำมันปกติเลย ได้ใช้ยาวๆเลย
-
Mazda Speedline เป็นบริษัท outsource นะครับ ฉะนั้นเค้าจะตอบตามที่ได้รับการฝึกมา มีโพย มี Q&A อยู่ในมือ
ผมไม่ได้ว่าเค้าว่าไม่ดีนะ แต่ต้องเข้าใจเค้าว่าทำไม เค้าชี้แจงปัญหาได้แค่นั้น
-
Mazda Speedline เป็นบริษัท outsource นะครับ ฉะนั้นเค้าจะตอบตามที่ได้รับการฝึกมา มีโพย มี Q&A อยู่ในมือ
ผมไม่ได้ว่าเค้าว่าไม่ดีนะ แต่ต้องเข้าใจเค้าว่าทำไม เค้าชี้แจงปัญหาได้แค่นั้น
ประเด็นไม่ได้ว่ามาสด้าสปีดไลน์ครับ ในสายผมก็ไม่ได้ถามเค้าว่าทำไมไม่ให้เปลี่ยน แค่อยากรู้ว่ามาสด้า บ.แม่ ตกลงให้เปลี่ยน (ที่แสน หรือ สองแสน กม.อย่างศูนย์ที่ผมถาม) หรือไม่ให้เปลี่ยนเลย เฉยๆ น่ะครับ
หลักๆ คือมาสด้าไม่มีเหตุผลที่ชัดเจน หรือหลักฐานว่าเปลี่ยนแล้วเกียร์จะพังอย่างที่กล่าวอ้าง ซึ่งถ้ามาสด้ายังคงนโยบายนี้ต่อไปอีกเรื่อยๆ คันนี้จะเป็นมาสด้าคันแรกและคันสุดท้ายของที่บ้านแน่นอน
-
ผม m3 ไม่เคยเปลี่ยน วิ่ง90000กว่าโล เกียร์พังเป็นที่เรียบร้อย ไร้การรับประกันใดๆ เบิกใหม่แสนกว่าบาท