Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Shanon007 ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2020, 11:05:44
-
สอบถามจากผู้ใช้โดยตรงครับ กำลังจะ ทดลองใช้ครับ หาข้อมูลมาสักพักแล้วครับ
แค่ อยากได้ ความคิดเห็นจากพี่ๆ ในบร์อดแห่งนี้เพิ่มเติมครับผม
อัตราเร่ง การกรองฝุ่น หรือ มีอะไรเพิ่มเติมอีกครับ
-
ผมก็สงสัยเหมือนกัน อากาศผ่านได้ดี แล้วฝุ่นพวกละเอียดๆจะกรองได้หรือเปล่า
-
ได้อย่างเสียอย่าง ระยะยาวจะเสียมากกว่าครับ
กรองศูนย์ ผ้าละเอียดดี ใช้ดีกว่าครับ
-
ผมใช้อยู่ครับ กี่คันก็ BMC ครับ
ผมว่ามันกรองสะอาดเอาเรื่องอยู่นะครับ อาจจะด้อยกว่าโรงงานแต่ไม่มาก เคยเอามือลูบๆดูแถวๆหลังกรองไปก็ไม่ค่อยมีฝุ่น ที่เคยใช้นานสุดคือ 5 ปี ไม่เคยมีปัญหากับ Airflow ซักทีครับ ไม่ได้ล้าง Airflow ด้วย สบายๆ ที่สำคัญอากาศผ่านได้เยอะกว่าเดิมเยอะมาก และรถขับดีขึ้นแบบรู้สึกได้อยู่ครับ แต่ไม่ได้แรงปรู๊ดปร๊าดขนาดนั้นนะ
อีกอย่างคือมันล้างได้ครับ และเค้ามีน้ำมันที่ไว้เคลือบกรองไว้ช่วยดักจับฝุ่นอีกที ถามว่าคุ้มไหม ใช้ยาวก็คุ้มครับ
ข้อควรระวังคือ ล้างให้บ่อยครับ ซัก 7000-10000 โลล้างทีนึงแล้วแต่ความสกปรกครับ กับอีกข้อคือ ห้ามเอาลมเป่าเด็ดขาดครับ ผ้าฝ้ายด้านในขาดเป็นอันจบครับ
-
ผมใช้อยู่ครับ กี่คันก็ BMC ครับ
ผมว่ามันกรองสะอาดเอาเรื่องอยู่นะครับ อาจจะด้อยกว่าโรงงานแต่ไม่มาก เคยเอามือลูบๆดูแถวๆหลังกรองไปก็ไม่ค่อยมีฝุ่น ที่เคยใช้นานสุดคือ 5 ปี ไม่เคยมีปัญหากับ Airflow ซักทีครับ ไม่ได้ล้าง Airflow ด้วย สบายๆ ที่สำคัญอากาศผ่านได้เยอะกว่าเดิมเยอะมาก และรถขับดีขึ้นแบบรู้สึกได้อยู่ครับ แต่ไม่ได้แรงปรู๊ดปร๊าดขนาดนั้นนะ
อีกอย่างคือมันล้างได้ครับ และเค้ามีน้ำมันที่ไว้เคลือบกรองไว้ช่วยดักจับฝุ่นอีกที ถามว่าคุ้มไหม ใช้ยาวก็คุ้มครับ
ข้อควรระวังคือ ล้างให้บ่อยครับ ซัก 7000-10000 โลล้างทีนึงแล้วแต่ความสกปรกครับ กับอีกข้อคือ ห้ามเอาลมเป่าเด็ดขาดครับ ผ้าฝ้ายด้านในขาดเป็นอันจบครับ
กรณี่ที่เราถอดล้างทำความสะอาด จะมีน้ำยาล้าง และ เครือบ หลังจาก เส็จภารกิจ ต้องปล่อยให้แห้งเองใช้มั้ยครับ ผมเข้าใจถูกใช่มั้ยครับ
-
ได้อย่างเสียอย่าง ระยะยาวจะเสียมากกว่าครับ
กรองศูนย์ ผ้าละเอียดดี ใช้ดีกว่าครับ
ระยาวที่เสียหมายถึงอย่างไรครับ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ เลือกใช้ครับ
ขอบคุณครับ
-
ได้อย่างเสียอย่าง ระยะยาวจะเสียมากกว่าครับ
กรองศูนย์ ผ้าละเอียดดี ใช้ดีกว่าครับ
ระยาวที่เสียหมายถึงอย่างไรครับ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ เลือกใช้ครับ
ขอบคุณครับ
ไม่มีหลักฐานประกอบที่ชัดเจนนะครับ แต่กรองแต่งมันกรองไม่ละเอียดเท่ากรองแท้ศูนย์ ฉะนั้นที่กังวลเรื่องฝุ่น หรือสิ่งแปลกปลอมที่จะผ่านเข้าไปได้ ย่อมมีมากกว่าครับ หลายๆคน ตอนแรกชอบ เพราะมันเร่งดีขึ้น เพราะอากาศเข้าดีขึ้น แต่เห็้นหลายๆคน หลังๆก็บอก ใส่กรองศูนย์แหละดีแล้ว ฉะนั้นเลยบอกได้ไม่ชัดเจนครับ สรุป ลองเองครับ
-
ผมใช้อยู่ครับ กี่คันก็ BMC ครับ
ผมว่ามันกรองสะอาดเอาเรื่องอยู่นะครับ อาจจะด้อยกว่าโรงงานแต่ไม่มาก เคยเอามือลูบๆดูแถวๆหลังกรองไปก็ไม่ค่อยมีฝุ่น ที่เคยใช้นานสุดคือ 5 ปี ไม่เคยมีปัญหากับ Airflow ซักทีครับ ไม่ได้ล้าง Airflow ด้วย สบายๆ ที่สำคัญอากาศผ่านได้เยอะกว่าเดิมเยอะมาก และรถขับดีขึ้นแบบรู้สึกได้อยู่ครับ แต่ไม่ได้แรงปรู๊ดปร๊าดขนาดนั้นนะ
อีกอย่างคือมันล้างได้ครับ และเค้ามีน้ำมันที่ไว้เคลือบกรองไว้ช่วยดักจับฝุ่นอีกที ถามว่าคุ้มไหม ใช้ยาวก็คุ้มครับ
ข้อควรระวังคือ ล้างให้บ่อยครับ ซัก 7000-10000 โลล้างทีนึงแล้วแต่ความสกปรกครับ กับอีกข้อคือ ห้ามเอาลมเป่าเด็ดขาดครับ ผ้าฝ้ายด้านในขาดเป็นอันจบครับ
กรณี่ที่เราถอดล้างทำความสะอาด จะมีน้ำยาล้าง และ เครือบ หลังจาก เส็จภารกิจ ต้องปล่อยให้แห้งเองใช้มั้ยครับ ผมเข้าใจถูกใช่มั้ยครับ
ตอนเคลือบไม่จำเป็นต้องให้มันชุ่มขนาดนั้นครับ จะกลายเป็นผลเสียซะมากกว่า เพราะถ้าไอ้ละอองน้ำยาเคลือบที่เหนียวๆเหมือนเฮลส์บลูบอยสีแดงอ่ะ มันปลิวไปเกาะ Airflow งานจะเข้าเอาครับ ส่วนตัวผมเคลือบด้านเดียวคือด้านที่สัมผัสฝุ่นครับ และไม่ต้องชุ่มมาก ทิ้งไว้ให้น้ำยามันเข้าผ้าฝ้ายหมดเป็นอันจบภารกิจครับ หยอดลงกล่องได้เลย ล้างเช้า พร้อมใช้บ่ายๆครับ
-
ถ้ารถไม่ได้จูนหรือทำอะไรเพิ่ม ผมว่าไม่ต่างครับ
อันนี้ตอบจากการที่เคยลองเอาขึ้นไดโน่เทียบดูเลยนะครับ
-
ผมใช้กรอง K&N วิ่งมาหลักแสนกิโลเมตรแล้ว
ผมคิดเองว่า มันกรองได้ละเอียด แต่อากาศไหลผ่านได้ไวกว่ากรองกระดาษ
กรองกระดาษค่อนข้างหนา อาจจะเพราะต้องการความแข็งแรง ทนต่อแรงดูดของอากาศ(โดยเฉพาะรถที่มีเทอร์โบ)
เพื่อนผมซื้อกรองเลียนแบบ K&N มาใช้ วิ่งไปไม่กี่หมื่นกิโล กรองบิดเบี้ยว เสียรูปใช้งานต่อไม่ได้ครับ
-
ใช้ BMC กับ civic 1.5 ใส่เฉยๆขึ้น dyno แรงม้าขึ้นราวๆ 10 ตัวครับ หลัง reflash ขึ้น 45 ตัว ส่วนฝุ่นผมว่ากรองได้ดีมากพอๆกับของศูนย์เลยครับอาจจด้อยกว่านิดหน่อย
แต่บ้านเราขายแพงไปหน่อย ผมซื้อใน ebay 1500 บ้านเราขายสามพัน
-
ออกตัวไว้ก่อนว่า ผมก็ใช้กรอง BMC อยู่นะครับ
กรองพวกนี้ไม่ว่ากรองเปลือยหรือกรองแผ่น ถ้ารถไม่ได้ตกแต่งอะไรผมว่าใช้ของเดิมๆเขาดีที่สุดครับ ดูแลก็ง่าย เปลี่ยนใหม่ก็ไม่แพง ใช้งานก็ได้นานอยู่
กรองผ้า ต้องมีการล้าง ก็มีเรื่องน้ำยาล้างตามมา แถมเวลาในการล้างก็ต้องมี จะมาล้างแบบใช้เลยก็ไม่ได้เพราะต้องรอแห้ง กรอง กระดาษแค่ถอดมาเคาะเป่าฝุ่นใส่กลับเข้าไปก็ไปต่อเลย
และกรองพวกนี้ มีขาดเปื่อยตามอายุการใช้งานนะครับ ไม่ได้ยาวนานเท่าไร ผมทำรถมาเครื่องตัวเดียว ผมเปลี่ยนกรองทิ้งไป สาม ใบแล้วละครับ
มาในส่วนของ BMC อันนี้ผมว่าของเขาดีตรงคุณภาพของสินค้าจะดีกว่าอันอื่นหน่อย ครีบกรอง เขาแข็งแรงดีมาก ใช้มาพักใหญ่ๆละ ครีบกรอง ก็ยังคงรุปอยู่ปกติ ไม่มีงออะไร
ส่วนการให้อากาศเข้าเท่าที่สังเกตุดู ของ BMC เขาอากาศจะเข้าได้ดีกว่า จากที่ผมดูที่หน้ากากแอร์แมสของรถผมนะครับ จะมีคราบดำๆเกาะถ้าล้างกรองช้า ไม่เหมือนกับอีกยี่ห้อ จะไม่ค่อยเจอ แต่อันนี้อาจจะอิงไม่ได้เท่าไรนะครับ เพราะของเดิมที่ผมใช้เป็นหัวปิด แต่ของ BMC เป็นหัวเปิดมีรูรับอากาศด้านหน้า
ถ้าให้เลือก กรอง ประเภทนี้ด้วยกัน ผมเลือกใช้ BMC ครับ
-
กรอง BMC หรือ K&N พวกนี้ปล่อยอากาศไหลผ่านได้ดีกว่ากรองกระดาษแบบ oem ครับ กรองฝุ่นได้อาจจะไม่ดีเท่ากระดาษแต่ดีกว่ากรองแบบแห้งชนิดอื่นๆ (น้ำมันที่เคลือบเอาไว้ดักฝุ่นเพราะฉนั้นใช้ได้ยาวพอสมควรโดยไม่ต้องล้าง)
แต่ในต่างประเทศมีหลายเคสที่ mass airflow sensor มีปัญหาเพราะน้ำมันที่เคลือบไว้ไปจับตัว เวลาล้างแล้วเคลือบใหม่ต้องฉีดน้ำมันในปริมาณที่เหมาะสมและรอให้แห้งครับ
-
ทีมแข่งใหญ่ๆก็ใช้ยี่ห้อนี้นะครับ ผมว่าดีและเชื่อถือได้กว่ายี่ห้ออื่นๆ เพราะ bmc ก็ค่อนข้างเก่าแก่ระดับนึง
ถ้าจำไม่ผิด 918 spyder ก็ใส่มาให้จากโรงงานเลยทีเดียว
-
ถ้ารถไม่ได้จูนหรือทำอะไรเพิ่ม ผมว่าไม่ต่างครับ
อันนี้ตอบจากการที่เคยลองเอาขึ้นไดโน่เทียบดูเลยนะครับ
เมื่อก่อนผมก็สงสัยทำไมไดโน่ม้าไม่ต่าง แต่ลองวิ่งจริง ลองจับเวลามันก็ต่างกัน ทดลองมาหลายคันแล้วที่เปลี่ยนมา เลยพอสรุปได้ว่า บนไดโน่มันไม่มีลม ความหนาแน่นมันน้อย ต่อให้เปิดพัดลม มันก็แรงเท่ารถปะทะลมขณะวิ่งไม่ได้ ดังนั้นกรองแผ่นบนไดโน่จะไม่ค่อยเห็นผลเท่าไหร่ ปกติผมก็เชื่อกราฟไดโน่ แต่กรณีนี้ต้องยกให้
-
รถคันเก่าผมใส่ตั้งแต่เปลี่ยนกรองโรงงานครั้งแรกออก จนขายรถไปอายุรถ 10 ปีพอดี ไมล์ 2.4 แสนกิโลฯ
เครื่องยนต์ยังแน่น & แอร์โฟไม่เคยถอดทำความสะอาด ยิ่งล้างกรองใหม่ๆ ขับลื่นดี
รถคันปัจจุบันก็ยังใส่ ขับกรองเดิมจับความรู้สึกดูสักพักพอถึงระยะเปลี่ยนกรองอากาศก็ใช้ กรองแต่งกดคันเร่งออกตัว
แรงดึงมาชัดเจนกว่ากรองเดิมเยอะพอสมควร หรือเร่งแซงได้ดังใจกว่าไม่รอรอบ การกรองฝุ่นก็ไม่ได้ด้อยกว่ากรองโรงงาน
มากนัก แต่ต้องถอดออกมาล้างบ่อยๆ การดูแลมากขึ้นกว่ากรองติดรถ แต่ใช้รถในที่ฝุ่นเยอะๆไม่แนะนำให้ใช้กรองแบบนี้ครับ
-
ใช้ BMC กับ pulsar DIG ครับ
ตอนรถเดิมๆ
- ต้นหาย .. กดคันเร่ง แล้วเหมือนเหยียบอากาศ
- รอบปานกลาง ถึง ปลาย รถพุ่งกว่าชัดเจน
ตอนใส่ท่อ FGK
- ต้นมาละ กำลังดีเลย (เพราะท่อใบนี้ มันเด่นต้น เลยเสริมจุดด้อย)
รถผม กรองอากาศถอดยาก เพราะติดค้ำ ติดแบต จะถอดกรองอากาศที ต้องถอดเหล็กรัดแบต ดันแบตมาข้างหน้า แล้วก็ต้องระวังเขี้ยวล็อคเปลือกกรองอากาศแตกด้วย รวมถึง แรกๆที่ใช้ เห็นกรองศูนย์ที่เป็นแบบเคลือบน้ำมัน มันดำเร็ว แล้วจะทำความสะอาด ก็ทำไม่ได้
เลยเปลี่ยนมาใช้กรอง BMC แทน .. ดำเมื่อไหร่ก็ล้าง จะถอดก็ถอดเอง ถ้าจะพัง ก็ด้วยมือตัวเองครับ
ส่วนเรื่องกรองฝุ่น เค้าคุยว่าได้ 7 ไมครอน นะ ซึ่งปกติ ของทางฝรั่งไม่ค่อยโม้หรอก ไม่งั้นโดนฟ้องตายครับ
เรื่องกรอง ลองคิดถึงกรองแอร์ดู .. ใครเคยใช้ กรองจีนอันละ 100 มั่ง เทียบกับ กรองศูนย์ หรือ กรอง Hepa
จะพบว่า กรองถูกๆ ลมแอร์มันเบามาก แถม ฝุ่นด้านในกรองก็เยอะ แต่กรองแพง อย่าง Hepa นี่ชัด ลมแทบไม่ต่างจากของติดรถ แต่กรองฝุ่นได้ดีมาก หน้ากรองดำเร็วมาก แต่หลังกรอง ไม่ดำเลย
BMC ก็ประมาณนั้นแหละ
-
ขอบพระคุณพี่ๆ ทุก คำตอบครับ
ผมสั่งกรอง BMC ไปแล้วครับ ได้ความรู้จาก เวปบร์อดที่นี่มากเลยครับ
-
จากที่ลองกับรถตัวเองทั้ง 2 คันอัตราเร่งดีขึ้นครับ รอบมาไวขึ่้น
f30 เสียงดูด อากาศจะได้ยินชัดขึ้นด้วยครับ
ส่วน MK3.5 รู้สึกเลยว่ากรองเก่าของศูนย์อั้นและต้องเค้นเครื่องเยอะกว่า เวลากดเร่งแซง