Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: lonely ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2020, 11:39:26

หัวข้อ: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: lonely ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2020, 11:39:26
สอบถามผู้รู้ทุกท่านครับ

เป็นรถ City Zx อายุ 12 ปีกว่าๆ ไม่ได้ติดแก๊ส ไมล์ประมาณ 104,000 กม.

หลังจากแก้ปัญหานี้มา 2 ปีกว่า
และมีสมาชิกท่านนึงใน HLM นั่งยัน ยืนยัน นอนยัน กับผมว่า
รถผมหัวฉีดน้ำมันเสีย ทำให้จ่ายน้ำมันบาง ส่งผลให้เหยียบเบรคแล้วรอบเครื่องตกมาที่ 580 RPM

เมื่อวาน 4 ก.พ. 2563 = ผมจึงนำรถไปเปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จำนวน 4 หัว (มาจากเครื่อง L15A จากญี่ปุ่น) ที่ซื้อเก็บไว้เมื่อ ก.ย. 2562
พร้อมไดชาร์จมือ 2 & ลิ้นปีกผีเสื้อมือ 2 ตามใบเสร็จดังรูป

(http://image.free.in.th/v/2013/in/200205042307.jpg) (http://picture.in.th/id/8333c711aeb94cd29d817c20e60f5ad8)

1. ก่อนใส่หัวฉีดมือ 2 ที่ซื้อมา = ทดสอบการจ่ายน้ำมันก่อนเปลี่ยน+ล้างหัวฉีดด้วยเครื่องเป็นเวลา 45 นาที+ทดสอบการจ่ายน้ำมันอีกรอบ+เปลี่ยน Filter เป็นแสดนเลส

ซึ่งช่างของทางร้าน = ไม่อยากทำให้ เพราะคิดว่าไม่ได้เป็นที่หัวฉีด แต่เมื่อดึงดันจะทำ เผื่อให้หายคาใจ ทางร้านก็ทำให้
โดยหัวฉีดมือ 2 และ หัวฉีดเดิมติดรถ = ทดสอบการจ่ายน้ำมันได้เท่ากัน ไม่มีรั่ว ไม่มีตัน
แต่ผมสังเกตได้ว่า หัวฉีดมือ 2 จะฉีดน้ำมันได้เป็นฝอยมากกว่าหัวฉีดเดิมติดรถ

2. เปลี่ยนหัวเทียน 4 หัว เป็นแบบหัวเทียนเข็ม

(http://image.free.in.th/v/2013/ig/200205042720.jpg) (http://picture.in.th/id/acc270b7374e4aebfaf512c73f2b45aa)



2.1 สภาพหัวเทียนเดิม = น่าจะบ่งบอกว่า รถผมจ่ายน้ำมัน "หนา"

(http://image.free.in.th/v/2013/ie/200205042843.jpg) (http://picture.in.th/id/4d7a4ec392106301744e00668fea4a41)

3. นำ EGR ไปล้างในเครื่องด้วย & ฐาน EGR มีสนิมกิน = ช่างทักว่า อาจมีน้ำหล่อเย็นรั่วเข้า
แต่น้ำในหม้อน้ำ+ถังพักสำรอง ของรถผมปกติ

(http://image.free.in.th/v/2013/ip/200205043036.jpg) (http://picture.in.th/id/b2db793445eee066e486e037b633f994)

& รถผมพึ่งเปลี่ยนท่อทางเดินน้ำทุกเส้นเบิกศูนย์+ท่อลมทุกเส้นเป็นซิลิโคน เมื่อ ส.ค. 2562

(http://image.free.in.th/v/2013/it/200205044010.jpg) (http://picture.in.th/id/1aea2c581480accad4b66a54ffd81e96)

4. รถผมได้ทำการเปลี่ยน Catalytic Converter มือ 2 ที่ร้านเม้งเฮดเดอร์ เมื่อ ต.ค. 2562 = แก้ปัญหาแคตเดิมติดรถตัน

(http://image.free.in.th/v/2013/ia/200205043325.jpg) (http://picture.in.th/id/53ac95d043c7536aa6b10d51ebda2061)

5. หลังจากเปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 เรียบร้อย = ผลคือ

รอบยังตกตอนเหยียบเบรค (ไม่เป็นทุกครั้ง) แต่ดีขึ้นมานิดนึง = เดิมรอบตกไปที่ 580 RPM แต่ตอนนี้รอบตกมาที่ 650 RPM

6. สรุปคือ สมมติฐานที่สมาชิกท่านนึง นั่งยัน ยืนยัน นอนยันว่า รถผมหัวฉีดเสีย = ไม่น่าจะใช่ครับ

7. เหลือแค่ปั๊มติ๊ก & กล่อง ECU ที่ยังไม่ได้เปลี่ยนครับ (ไม่นับว่า ถ้าเกียร์ CVT หรือ โซลินอยด์เกียร์มีปัญหา)

8. ผมบอกช่างที่อู่ครับ = เปลี่ยนคนขับใหม่ รถผมหายชัวร์ 😉 😉
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: Gunners-headlight ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2020, 11:41:59
ลองดู คอยล์ จุดระเบิด รึยังครับ..
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: lonely ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2020, 11:47:28
ลองดู คอยล์ จุดระเบิด รึยังครับ..

เปลี่ยนคอยล์จุดระเบิดของแท้ 4 ตัวเบิกศูนย์ เมื่อ พ.ย. 2560 —ของเดิมติดรถมีไฟรั่ว 3 ตัว ครับ
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: samaklen ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2020, 11:49:58
เช็คสายกราวด์ยังครับ
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: h0661036 ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2020, 11:52:04
ตลอดเวลาที่ผ่านมาได้ดูแลรักษารถดีมั้ยครับ เช่น เปลี่ยนของเหลวตามอายุการใช้งาน เข้าศูนย์ตรวจสภาพ ใช้น้ำมันมีคุณภาพ ....     
     
   
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: lonely ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2020, 12:09:35
ตลอดเวลาที่ผ่านมาได้ดูแลรักษารถดีมั้ยครับ เช่น เปลี่ยนของเหลวตามอายุการใช้งาน เข้าศูนย์ตรวจสภาพ ใช้น้ำมันมีคุณภาพ ....     
     
   

ที่สุดของแจ้แห่งการดูแลรถบ้านๆ คันนึงแล้วครับ = ช่างอู่ไหน ก็มักจะพูดว่า "ดูแลรถดีขนาดนี้ เอาเวลาที่ไหนไปดูแลแฟน"

ปี 2558 - 2559

(http://image.free.in.th/v/2013/ib/200205050624.jpg) (http://picture.in.th/id/3a21139f70dc141528b415a3a5ff7cfc)

ปี 2560

(http://image.free.in.th/v/2013/ia/200205050725.jpg) (http://picture.in.th/id/ec186f2ccc7b88653763fd30d20fc48e)

ปี 2561

(http://image.free.in.th/v/2013/il/200205050859.jpg) (http://picture.in.th/id/2ffb27778e573cfcc2305aca39c8feae)

ปี 2562

(http://image.free.in.th/v/2013/ib/200205050958.jpg) (http://picture.in.th/id/0ca1edce46a2a3a2faa2df22023d9a71)

ปี 2563

(http://image.free.in.th/v/2013/iq/200205051019.jpg) (http://picture.in.th/id/310c0fbe790ba520c739dc04f4f1c705)


รถผมกิน Sohol 95 E10 ถ้าวิ่งทางไกลก็เติมเบนซิน 95 ครับ
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: paul_frank ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2020, 12:10:17
รถ Accord ของพี่ที่รู้จักกัน  มีอาการประมาณ จขกท

สุดท้ายสรุปว่าเป็นที่ oxygen sensor เสียครับ
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: lonely ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2020, 12:13:01
เช็คสายกราวด์ยังครับ

เคยแต่ให้ร้านแบต เช็คไฟรั่ว = ไม่มีไฟรั่วอ่ะครับ
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: lonely ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2020, 12:16:27
รถ Accord ของพี่ที่รู้จักกัน  มีอาการประมาณ จขกท

สุดท้ายสรุปว่าเป็นที่ oxygen sensor เสียครับ

เปลี่ยน O2 Sensor ของเทียบยี่ห้อ Walker ไปแล้วครับ ทั้ง 2 ตัว (ตัวบน & ตัวล่าง)

(http://image.free.in.th/v/2013/is/200205051738.jpg) (http://picture.in.th/id/8ff45ea1f0e50d84d001182743a13362)
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: domutsu ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2020, 12:28:15
หม้อลมเบรค เช็ควาล์วเบรค ท่อแวคคั่มเบรค เช็คยังครับ
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: lonely ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2020, 12:29:22
หม้อลมเบรค เช็ควาล์วเบรค ท่อแวคคั่มเบรค เช็คยังครับ

เปลี่ยนแม่ปั๊มเบรคตัวบน & หม้อลมเบรค & สายเช็ควาล์วเบรค ของแท้เบิกศูนย์ ทุกอย่างแล้วครับ
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: PaPaMan ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2020, 14:03:23
เป็นผมคงไม่มานั่งซ่อมขนาดนี้แล้วครับ ขายทิ้งออก city ตัวใหม่โลด


ยอมใจเจ้าของจริงๆ เห็นตั้งแต่กระทู้ก่อนแล้ว
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: lonely ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2020, 14:13:50
เป็นผมคงไม่มานั่งซ่อมขนาดนี้แล้วครับ ขายทิ้งออก city ตัวใหม่โลด


ยอมใจเจ้าของจริงๆ เห็นตั้งแต่กระทู้ก่อนแล้ว

ถ้ามีตังค์ = ผมไปถอย Civic FC แล้วครับ  :( :'(

คำว่า "ยอมแพ้ในการซ่อมรถ" = ไม่อยากให้มีในพจนานุกรมของผมครับ   ;)

คุณ Papaman คิดว่า = ผมรักรถมาก หรือผมบ้าครับ  ;)
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: Duke2001 ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2020, 14:49:55
เห็นตั้งวาล์วไปตอนปี 60 ปีนี้ 63 ลองตั้งวาว์ลดูใหม่อีกรอมครับ
ต้องตั้งตอนรถเย็นแล้วนะครับ ค่าวาล์ไอดีไอเสียต้องได้มาตรฐานโรงงาน
นะครับลองดูก่อนครับว่าดีขึ้นไหม...
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: lonely ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2020, 15:05:42
เห็นตั้งวาล์วไปตอนปี 60 ปีนี้ 63 ลองตั้งวาว์ลดูใหม่อีกรอมครับ
ต้องตั้งตอนรถเย็นแล้วนะครับ ค่าวาล์ไอดีไอเสียต้องได้มาตรฐานโรงงาน
นะครับลองดูก่อนครับว่าดีขึ้นไหม...

อยากตั้งวาล์วใหม่ใจจะขาดครับ = ไปมาหลายที่ ทั้งศูนย์ & อู่ ไม่มีที่ไหนยอมทำให้เลยครับ

(อาจจะเสียเวลาทางอู่ เพราะต้องรอเครื่องเย็นสนิท + ได้เงินน้อย)  :'(  :'(
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: PaPaMan ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2020, 15:16:36
เป็นผมคงไม่มานั่งซ่อมขนาดนี้แล้วครับ ขายทิ้งออก city ตัวใหม่โลด


ยอมใจเจ้าของจริงๆ เห็นตั้งแต่กระทู้ก่อนแล้ว

ถ้ามีตังค์ = ผมไปถอย Civic FC แล้วครับ  :( :'(

คำว่า "ยอมแพ้ในการซ่อมรถ" = ไม่อยากให้มีในพจนานุกรมของผมครับ   ;)

คุณ Papaman คิดว่า = ผมรักรถมาก หรือผมบ้าครับ  ;)


ผมคงไม่ไปวิจารณ์คุณหรอกครับ ผมถึงบอกว่า "ถ้าเป็นผม..." ยังไงหล่ะครับ
ด้วยความเคารพ ไม่ดราม่านะครับ  :-[
ขอโทษที่ไม่ได้ช่วยอะไรเลย แต่ก็ขอให้ซ่อมหายนะครับ เอาใจช่วย  ;D
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: lonely ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2020, 15:37:08
เป็นผมคงไม่มานั่งซ่อมขนาดนี้แล้วครับ ขายทิ้งออก city ตัวใหม่โลด


ยอมใจเจ้าของจริงๆ เห็นตั้งแต่กระทู้ก่อนแล้ว

ถ้ามีตังค์ = ผมไปถอย Civic FC แล้วครับ  :( :'(

คำว่า "ยอมแพ้ในการซ่อมรถ" = ไม่อยากให้มีในพจนานุกรมของผมครับ   ;)

คุณ Papaman คิดว่า = ผมรักรถมาก หรือผมบ้าครับ  ;)


ผมคงไม่ไปวิจารณ์คุณหรอกครับ ผมถึงบอกว่า "ถ้าเป็นผม..." ยังไงหล่ะครับ
ด้วยความเคารพ ไม่ดราม่านะครับ  :-[
ขอโทษที่ไม่ได้ช่วยอะไรเลย แต่ก็ขอให้ซ่อมหายนะครับ เอาใจช่วย  ;D

ผมไม่ได้อยากดราม่า = ผมอยากฟังมุมมองคนอื่นๆ ครับ

เพราะผมก็ถามประโยคนี้กับช่างซ่อมรถ = ช่างตอบว่า น่าจะเป็นคนรักรถ อยากขับรถที่มีสภาพดี


แค่มีสมาชิก HLM เอาใจช่วย = ผมก็ปลื้มใจแล้วครับ
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: samaklen ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2020, 16:07:48
ระบบสายไฟ และขนาดของสายไฟที่ฮอนด้าใช้
ค่อนข้างประหยัดต้นทุนมาก เส้นเล็กมาก เมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น
ไฟรั่วก็ส่วนหนึ่ง แต่กราวด์ควรจะแน่น สะอาด
ไฟเดินสะดวก
หรือจะเพิ่ม
จากแบตไปตัวถัง
ตัวถังไปแท่นเครื่อง
ท้ายไดชาร์ทไปแบต
แล้วดูว่าผลเป็นยังไง
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: lonely ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2020, 16:15:08
ระบบสายไฟ และขนาดของสายไฟที่ฮอนด้าใช้
ค่อนข้างประหยัดต้นทุนมาก เส้นเล็กมาก เมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น
ไฟรั่วก็ส่วนหนึ่ง แต่กราวด์ควรจะแน่น สะอาด
ไฟเดินสะดวก
หรือจะเพิ่ม
จากแบตไปตัวถัง
ตัวถังไปแท่นเครื่อง
ท้ายไดชาร์ทไปแบต
แล้วดูว่าผลเป็นยังไง

ผมเดินสายกราวด์ 2 เส้นครับ เมื่อ มิ.ย. 2561 - ปัจจุบัน

1. ไดชาร์จไปตัวถังรถ

2. เครื่องยนต์ไปตัวถังรถ

ผลคือ = ไฟหน้าตกน้อยลงนิดเดียว ตอนคอมแอร์ทำงานครับ 

ส่วนรอบเครื่องตกตอนเหยียบเบรค = ไม่เห็นผลครับ
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: DiKiBoyZ ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2020, 16:34:25
ผมก็คิดเหมือนบางท่านนะ

ถ้าเป็นผม ก็คงขายทิ้ง ซื้อ คันใหม่ ครับ เพราะดูรายการซ่อม รายการเปลี่ยน มันท่วมราคารถแล้ว

เพราะซ่อมเสียเงินอย่างเดียวไม่พอ แต่เสียเวลาซึ่งบางทีคิดเป็นเงินไม่ได้ด้วย

แต่เอาละ ซ่อมไปแล้ว จ่ายไปแล้ว เอาคืนไม่ได้ มาดูกันว่ายังไงต่อ

จากรายการที่ซ่อม ผมไม่เอาจุกจิกนะ หรือ ที่คิดว่าไม่เกี่ยวกับอาการ ออกไปนะครับ เช่น ของเหลว ช่วงล่าง และอื่นๆ ออกไปก่อน

มาโพกัสที่ตัวเครื่องยนต์ น้ำมัน ไฟ อากาศ คือ
- คอยล์จุดระเบิด (รถผมเคยคอยล์เสีย รถมีอาการสะดุด)
- หัวเทียน (รถผมเปลี่ยนเป็นอิริเดียมยก 4 หัว แต่ก่อนเปลี่ยน หลังเปลี่ยนไม่ได้อาการใดๆ นะ เปลี่ยนตามรอบเฉยๆ)
- เซ็นเซอร์
- หัวฉีด
- ลิ้นปีผีเสื้อ(มือสอง)
- ท่อทางน้ำมัน

ที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ
- ปั้มติ๊ก (ถ้ามีโอกาศ)ลองตรวจสอบแรงดันน้ำมันดู
- ECU ตัวนี้ตรวจสอบค่อนข้างยาก และขอให้อย่าเป็นตัวนี้

...> จุดนี้ ผมว่า มันต้องดูอาการ ขับไป จับอาการไป เพราะทำไปหลายอย่างมาก จนเดาสาเหตุที่แท้จริงไม่ได้ เพราะมันเป็นไปได้หลายตัวมาก(เปลี่ยนใหม่ ก็ต้องตรวจสอบด้วย ว่าทำงานปกติหรือป่าว) มันกลายเป็นว่า ตอนนี้มืดแปดด้านเลย ไม่รู้จะไปทางไหนต่อ

.... ผมแนะนำแบบนี้ละกัน ให้ลองหาติดหน้าจอ OBD-II แสดงผลดูครับ เอาที่แบบหน้าจอแสดงได้หลายๆ อย่างหน่อย เพื่อสังเกตุค่าต่างๆ ช่วงที่ปกติ และ ช่วงที่เบรคแล้วรอบตก เช่น AFR, Volt, Temp, Load, Throttle และอื่นๆ ดูก่อน ว่ามีอะไรผิดปกติไหม เพราะถ้ามันฟ้องตรงนี้ จะพุ่งไปหาสาเหตุได้ตรงจุดกว่าครับ

สิ่งที่ทำไปแล้ว อาจจะมีผลต่อรอบเครื่องยนต์
- กรองสแตนเลส
- คอมแอร์(มือสอง)

--> 2 คัวนี้ก็มีผลกับรอบเครื่องยนต์เช่นกัน จริงๆ อยากให้ใส่กรองเดิมไปก่อนครับ จะได้ติดเงื่อนไขนี้ออกไป ส่วนคอมแอร์มือสอง ตรงรุ่น ถ้าสภาพดีๆ ก็คงไม่น่ากังวลอะไร


เอาใจช่วยครับ เห็นหลายกระทู้ละ
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: kiwiwi ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2020, 16:48:22
ถ้าเหยียบเบรคแล้วรอบตก ก็คงเป็นที่ระบบเบรคที่มันเชื่อต่อกับเครื่องยนต์
แต่เห็นว่าเปลี่ยนไปพอสมควร

ก็เหลือชุดสายยางต่างๆ แล้วก็ตรงท่อไอดีที่ส่งลมมาที่ปั๊มเบรค

และสุดท้ายก็คงเป็นที่เจ้า ABS แต่สำหรับตัว ABS น่าจะเป็นระบบการกินไฟมากกว่า สมมติว่าถ้า ABS เสื่อม ก็จะกินไฟพอสมควร
เหมือนว่าพอปั๊ม ABS ทำงานแล้วดึงไฟจำนวนมากเข้าระบบอะไรทำนองนั้น แต่แปลกตรงที่มันไม่เตือนว่าเสีย และไม่เคยได้ยินว่ามันจะเสื่อมในลักษณะนี้
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: lonely ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2020, 16:53:17
ผมก็คิดเหมือนบางท่านนะ

ถ้าเป็นผม ก็คงขายทิ้ง ซื้อ คันใหม่ ครับ เพราะดูรายการซ่อม รายการเปลี่ยน มันท่วมราคารถแล้ว

เพราะซ่อมเสียเงินอย่างเดียวไม่พอ แต่เสียเวลาซึ่งบางทีคิดเป็นเงินไม่ได้ด้วย

แต่เอาละ ซ่อมไปแล้ว จ่ายไปแล้ว เอาคืนไม่ได้ มาดูกันว่ายังไงต่อ

จากรายการที่ซ่อม ผมไม่เอาจุกจิกนะ หรือ ที่คิดว่าไม่เกี่ยวกับอาการ ออกไปนะครับ เช่น ของเหลว ช่วงล่าง และอื่นๆ ออกไปก่อน

มาโพกัสที่ตัวเครื่องยนต์ น้ำมัน ไฟ อากาศ คือ
- คอยล์จุดระเบิด (รถผมเคยคอยล์เสีย รถมีอาการสะดุด)
- หัวเทียน (รถผมเปลี่ยนเป็นอิริเดียมยก 4 หัว แต่ก่อนเปลี่ยน หลังเปลี่ยนไม่ได้อาการใดๆ นะ เปลี่ยนตามรอบเฉยๆ)
- เซ็นเซอร์
- หัวฉีด
- ลิ้นปีผีเสื้อ(มือสอง)
- ท่อทางน้ำมัน

ที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ
- ปั้มติ๊ก (ถ้ามีโอกาศ)ลองตรวจสอบแรงดันน้ำมันดู
- ECU ตัวนี้ตรวจสอบค่อนข้างยาก และขอให้อย่าเป็นตัวนี้

...> จุดนี้ ผมว่า มันต้องดูอาการ ขับไป จับอาการไป เพราะทำไปหลายอย่างมาก จนเดาสาเหตุที่แท้จริงไม่ได้ เพราะมันเป็นไปได้หลายตัวมาก(เปลี่ยนใหม่ ก็ต้องตรวจสอบด้วย ว่าทำงานปกติหรือป่าว) มันกลายเป็นว่า ตอนนี้มืดแปดด้านเลย ไม่รู้จะไปทางไหนต่อ

.... ผมแนะนำแบบนี้ละกัน ให้ลองหาติดหน้าจอ OBD-II แสดงผลดูครับ เอาที่แบบหน้าจอแสดงได้หลายๆ อย่างหน่อย เพื่อสังเกตุค่าต่างๆ ช่วงที่ปกติ และ ช่วงที่เบรคแล้วรอบตก เช่น AFR, Volt, Temp, Load, Throttle และอื่นๆ ดูก่อน ว่ามีอะไรผิดปกติไหม เพราะถ้ามันฟ้องตรงนี้ จะพุ่งไปหาสาเหตุได้ตรงจุดกว่าครับ

สิ่งที่ทำไปแล้ว อาจจะมีผลต่อรอบเครื่องยนต์
- กรองสแตนเลส
- คอมแอร์(มือสอง)

--> 2 คัวนี้ก็มีผลกับรอบเครื่องยนต์เช่นกัน จริงๆ อยากให้ใส่กรองเดิมไปก่อนครับ จะได้ติดเงื่อนไขนี้ออกไป ส่วนคอมแอร์มือสอง ตรงรุ่น ถ้าสภาพดีๆ ก็คงไม่น่ากังวลอะไร


เอาใจช่วยครับ เห็นหลายกระทู้ละ

1. มองโลกแง่ดี รถเสียครั้งนี้ = ผมได้เรียนรู้หลายๆ อย่างเกี่ยวกับรถเพิ่มขึ้นมากครับ เช่น ความสัมพันธ์ระหว่าง น้ำมัน ไฟ อากาศ, AF Ratio

2. รถผมไม่ได้เปลี่ยนคอมแอร์มือ 2 นะครับ
แต่เป็น "ไดชาร์จ มือ 2"

3. กรองสแตนเลสที่ผมพูดถึง = ตัวฟิลเตอร์ในหัวฉีดน้ำมันที่เป็นพลาสติก ผมเปลี่ยนเป็นฟิลเตอร์แบบสแตนเลสครับ

4. ปั๊มติ๊ก & ECU = ตรวจสอบได้อย่างไรครับ ??

5. ผมใช้ App Torque Pro เพื่อดูค่าต่างๆ ครับ ซึ่งเบื้องต้นค่าต่างๆ ก็ไม่ผิดปกติครับ

แต่น่าเสียดายว่า City Zx ปี 07 ไม่แสดงค่า AF Ratio ครับ แต่ City 2015 ของน้องสาว จะแสดงค่า AF Ratio ครับ

6. ส่วนการซ่อมรถในอาการเหยียบเบรคแล้วรอบเครื่องตก = คงพอเท่านี้ครับ

ที่ตั้งกระทู้นี้ = พิสูจน์สมมติฐานของสมาชิกท่านนึงว่าหัวฉีดรถผมเสีย แต่จากการพิสูจน์แล้ว ไม่น่าจะใช่ครับ

7. ส่วนการขายทิ้ง ซื้อคันใหม่ = ไม่ไหวอ่ะครับ
อย่างมากคงได้ไม่เกิน 200,000 บ.
และยังเป็นภาระต้องผ่อนอีกหลายปี

หลังจากนี้ = ซ่อมตามอาการครับ

หรือถ้าเครื่องยนต์เสียหายหนัก = คงวางเครื่องมือ 2 จากญี่ปุ่นแทนครับ
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: lonely ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2020, 16:56:20
ถ้าเหยียบเบรคแล้วรอบตก ก็คงเป็นที่ระบบเบรคที่มันเชื่อต่อกับเครื่องยนต์
แต่เห็นว่าเปลี่ยนไปพอสมควร

ก็เหลือชุดสายยางต่างๆ แล้วก็ตรงท่อไอดีที่ส่งลมมาที่ปั๊มเบรค

และสุดท้ายก็คงเป็นที่เจ้า ABS แต่สำหรับตัว ABS น่าจะเป็นระบบการกินไฟมากกว่า สมมติว่าถ้า ABS เสื่อม ก็จะกินไฟพอสมควร
เหมือนว่าพอปั๊ม ABS ทำงานแล้วดึงไฟจำนวนมากเข้าระบบอะไรทำนองนั้น แต่แปลกตรงที่มันไม่เตือนว่าเสีย และไม่เคยได้ยินว่ามันจะเสื่อมในลักษณะนี้

รถผม = ไม่มีระบบ ABS ครับ

สายเช็ควาล์ว + หม้อลมเบรคของแท้เบิกศูนย์ = เปลี่ยนแล้วครับ

ท่อลมทุกเส้น = เปลี่ยนเป็นแบบซิลิโคน Samco

ท่อทางเดินน้ำทุกเส้น ท่อเหล็ก & ท่อยาง = เปลี่ยนของแท้เบิกศูนย์ครับ
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: Sit: ) ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2020, 16:59:28
ผมเคยเจอปัญหารอบตกบางจังหวะ
แต่เป็น mitsu ไม่ใช่ honda

มาสะดุดตาว่าคุณเปลี่ยนมอเตอร์คุมรอบเดินเบาไปละ แต่เป็นมือสอง

ตอนนั้นรถผมตัวคุมรอบพัง อู่ก็ใส่มือสองให้มันใช้งานได้แต่ไม่ดี ผมก็ไม่พอใจไปเข้าศูนย์
ศูนย์เช็คแล้วพันธงว่ามอเตอร์พัง (เราไม่ได้บอกว่าใส่มือสองมาแล้ว)  เบิกใหม่ใส่เลย 8000  จำได้แม่น หายครับ

แต่ไหนๆคุณทำมาจนมันดีขึ้นละ
ผมถามนิดว่า สามารถตั้งรอบขึ้นแบบดื้อๆอีกนิดมะครับให้พอไม่สั่น แล้วพอก่อนจะได้ไม่เปลืองเงิน

อีกสาเหตุที่ผมเจอคือการตัดต่อแอร์
ช่างอาจต่อตามสูตรอะไรบางอย่างที่มีผลให้ช่วงตัดต่อรอบมันหวือหวาไปหน่อย
ปกติปรับน้ำยาสุดไหมครับ ตัดบ่อยรอบเลยเหวี่ยงบ่อยไหม ผมเจอรถอีกคันเป็นงั้นครับ กรณีนี้ผมยอมตัดใจรับสภาพครับ ไม่งั้นต้องไปรื้อแอร์กันอีกยาว
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: benzz ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2020, 17:02:26
หม้อลมรั่วเชครึยังครับ
เคยเป็น civic es
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: oryor ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2020, 17:19:05
เห็นราคาซ่อมแล้วมึนติ๊บ
วิ่งไปแสนโลเอง รายการเยอะมากครับ
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: r0u0g0e0k ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2020, 17:52:29
เช็คสายกราวด์ยังครับ

+1 กราวฮอนด้าทำมาไม่ค่อยดี ลองไล่ดูครับ คันเก่าผมเคยเป็น ไฟตกรอบตก เดินระบบกราวใหม่ หายสนิท
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: DiKiBoyZ ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2020, 18:09:42
ผมก็คิดเหมือนบางท่านนะ

ถ้าเป็นผม ก็คงขายทิ้ง ซื้อ คันใหม่ ครับ เพราะดูรายการซ่อม รายการเปลี่ยน มันท่วมราคารถแล้ว

เพราะซ่อมเสียเงินอย่างเดียวไม่พอ แต่เสียเวลาซึ่งบางทีคิดเป็นเงินไม่ได้ด้วย

แต่เอาละ ซ่อมไปแล้ว จ่ายไปแล้ว เอาคืนไม่ได้ มาดูกันว่ายังไงต่อ

จากรายการที่ซ่อม ผมไม่เอาจุกจิกนะ หรือ ที่คิดว่าไม่เกี่ยวกับอาการ ออกไปนะครับ เช่น ของเหลว ช่วงล่าง และอื่นๆ ออกไปก่อน

มาโพกัสที่ตัวเครื่องยนต์ น้ำมัน ไฟ อากาศ คือ
- คอยล์จุดระเบิด (รถผมเคยคอยล์เสีย รถมีอาการสะดุด)
- หัวเทียน (รถผมเปลี่ยนเป็นอิริเดียมยก 4 หัว แต่ก่อนเปลี่ยน หลังเปลี่ยนไม่ได้อาการใดๆ นะ เปลี่ยนตามรอบเฉยๆ)
- เซ็นเซอร์
- หัวฉีด
- ลิ้นปีผีเสื้อ(มือสอง)
- ท่อทางน้ำมัน

ที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ
- ปั้มติ๊ก (ถ้ามีโอกาศ)ลองตรวจสอบแรงดันน้ำมันดู
- ECU ตัวนี้ตรวจสอบค่อนข้างยาก และขอให้อย่าเป็นตัวนี้

...> จุดนี้ ผมว่า มันต้องดูอาการ ขับไป จับอาการไป เพราะทำไปหลายอย่างมาก จนเดาสาเหตุที่แท้จริงไม่ได้ เพราะมันเป็นไปได้หลายตัวมาก(เปลี่ยนใหม่ ก็ต้องตรวจสอบด้วย ว่าทำงานปกติหรือป่าว) มันกลายเป็นว่า ตอนนี้มืดแปดด้านเลย ไม่รู้จะไปทางไหนต่อ

.... ผมแนะนำแบบนี้ละกัน ให้ลองหาติดหน้าจอ OBD-II แสดงผลดูครับ เอาที่แบบหน้าจอแสดงได้หลายๆ อย่างหน่อย เพื่อสังเกตุค่าต่างๆ ช่วงที่ปกติ และ ช่วงที่เบรคแล้วรอบตก เช่น AFR, Volt, Temp, Load, Throttle และอื่นๆ ดูก่อน ว่ามีอะไรผิดปกติไหม เพราะถ้ามันฟ้องตรงนี้ จะพุ่งไปหาสาเหตุได้ตรงจุดกว่าครับ

สิ่งที่ทำไปแล้ว อาจจะมีผลต่อรอบเครื่องยนต์
- กรองสแตนเลส
- คอมแอร์(มือสอง)

--> 2 คัวนี้ก็มีผลกับรอบเครื่องยนต์เช่นกัน จริงๆ อยากให้ใส่กรองเดิมไปก่อนครับ จะได้ติดเงื่อนไขนี้ออกไป ส่วนคอมแอร์มือสอง ตรงรุ่น ถ้าสภาพดีๆ ก็คงไม่น่ากังวลอะไร


เอาใจช่วยครับ เห็นหลายกระทู้ละ

1. มองโลกแง่ดี รถเสียครั้งนี้ = ผมได้เรียนรู้หลายๆ อย่างเกี่ยวกับรถเพิ่มขึ้นมากครับ เช่น ความสัมพันธ์ระหว่าง น้ำมัน ไฟ อากาศ, AF Ratio
โอเครครับ ถ้าคิดแบบนี้ก็คงไม่ว่ากัน แต่สำหรับผมไม่ได้อยากได้ประสบการณ์อะไรจากการซ่อมรถ ผมมี Civic FD ปี 2010 เปลี่ยนแค่คอยล์ 1 ตัว และ พัดลมหน้าเครื่อง 1 ตัว ยางแทนเครื่อง และ ไดชาร์จ นอกนั้นไม่เคยซ่อมเลย วิ่งจะ 2 แสนละ ให้น้องใช้ต่อ ก็ยังไม่ได้ซ่อมอะไรเลย เปลี่ยนแค่แบตเตอรี่ กับ ยาง และ จานเบรคคู่หน้า

2. รถผมไม่ได้เปลี่ยนคอมแอร์มือ 2 นะครับ
แต่เป็น "ไดชาร์จ มือ 2"
อันนี้ขออภัยครับ ผมเข้าใจผิดเอง เรื่องไดชาร์จ อาจจะไม่เกี่ยวกับรอบเครื่องยนต์ เพราะถ้าเสีย คือ ดับ หรือ แบตไม่มีไฟ เพราะไฟไม่ชาร์จ กรณีนี้ผมดับกลางอากาศบนทางด่วนมาแล้ว คัน Civic FD นั้นละ เพราะไดชาร์จเสีย ไฟหมด ตอนวิ่ง 100 กว่าๆ

3. กรองสแตนเลสที่ผมพูดถึง = ตัวฟิลเตอร์ในหัวฉีดน้ำมันที่เป็นพลาสติก ผมเปลี่ยนเป็นฟิลเตอร์แบบสแตนเลสครับ
อ้อครับ ผมนึกว่า กรองอากาศ กรองหัวฉีดแบบสแตนเลส หรือ ทองเหลือง เห็นพวกใช้ E85 เปลี่ยนกันเยอะ(กรณีรถไม่รองรับ E85 กรองเดิมจะเป็นพลาสติก)

4. ปั๊มติ๊ก & ECU = ตรวจสอบได้อย่างไรครับ ??
ปั้มติ๊ก ไปตามร้านซ่อมปั้ม หัวฉีด เขาตรวจสอบให้ได้ หรือ เสียบคอมวัดแรงดันได้เหมือนกัน หรือ ถ้ามีอาการมันจะต้องมีในรอบสูง ถ้ารอบสูงรถปกติ ไม่วืด ไม่สะดุด ก็น่าจะปกติครับ ส่วน ECU นี่ตรวจสอบยากเลย

5. ผมใช้ App Torque Pro เพื่อดูค่าต่างๆ ครับ ซึ่งเบื้องต้นค่าต่างๆ ก็ไม่ผิดปกติครับ

แต่น่าเสียดายว่า City Zx ปี 07 ไม่แสดงค่า AF Ratio ครับ แต่ City 2015 ของน้องสาว จะแสดงค่า AF Ratio ครับ

อ้อครับ เสียดาย จะได้ดู AFR ด้วย

6. ส่วนการซ่อมรถในอาการเหยียบเบรคแล้วรอบเครื่องตก = คงพอเท่านี้ครับ

ที่ตั้งกระทู้นี้ = พิสูจน์สมมติฐานของสมาชิกท่านนึงว่าหัวฉีดรถผมเสีย แต่จากการพิสูจน์แล้ว ไม่น่าจะใช่ครับ

7. ส่วนการขายทิ้ง ซื้อคันใหม่ = ไม่ไหวอ่ะครับ
อย่างมากคงได้ไม่เกิน 200,000 บ.
และยังเป็นภาระต้องผ่อนอีกหลายปี

รถ ZX ปีนี้ ขายกันอยู่บางคันไม่ถึงแสน ส่วนมากจะแสนนิดๆ ถึงแสนกว่าๆ ส่วนที่ตั้งราคาแสนกลางๆ ถึง 2 แสน ขายไม่ออกครับ ตั้งเพื่อต่อ ดูในเว็ปขายรถใหญ่ๆ ได้เลย


หลังจากนี้ = ซ่อมตามอาการครับ

หรือถ้าเครื่องยนต์เสียหายหนัก = คงวางเครื่องมือ 2 จากญี่ปุ่นแทนครับ

วางเครื่องใหม่ (block เดิม) จบๆ ก็มี 3-4 หมื่นครับ ถ้าวางบล็อคใหม่ มีค่า wiring สายไฟด้วย ก็มี 5 หมื่นขึ้น เป็นผมคงไม่ทำครับ เพราะทำไปอาจจะไม่จบ บานปลาย เพราะราคารถทั้งคันก็แสนเดียว วางเครื่อง 5 หมื่น ผมไม่เอาแล้วครับ ขายคันนี้ ไปซื้อ ZX มือสอง ส่วนต่าง +/- อาจจะเพิ่มตังนิดหน่อย ปีเดียวกันหรือไกล้ๆ กัน (เปลี่ยนคัน) มาใช้อาจจะจบกว่าอีกครับ ไม่ต้องเสียตังซื้อคันใหม่เยอะ แต่เป็นการตัดปัญหาไป ครับ
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: TheRealMeaw ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2020, 18:37:27
ขอเรียนตามตรงนะครับ ติดตามมานานหลายปี ผมว่าตอนนี้รถคันนี้ก็ไม่ต่างจากรถที่เข้าอู่ไปแล้วโดนช่างฟัน เปลี่ยนอะไหล่ไปเรื่อย วิเคราะห์ไม่ถูกจุดซักทีนั่นแหละครับ คนในบอร์ดนี้ ผมก็ว่าไม่น่าจะมีช่างซ่อมว่างมาตอบจริงๆ ไล่อาการกันไม่เป็นหรอกครับ ตัวเองเคยเจอแบบไหนก็เอามาบอก มันก็ไม่มีทางถูก ไม่มีทางหายได้หรอกครับ เพราะต่างกรรม ต่างวาระ คนถ้าไม่ได้ตามแต่ต้น ก็เสนอใหม่ไปเรื่อยอะครับเพราะไม่ได้ตามแต่ต้นไง

ถ้าเปลี่ยนอะไหล่ไปมากขนาดนี้แล้วยังไม่หาย ต่อให้ยกเครื่องใหม่ลงทั้งตัวอาการก็ไม่น่าจะหายหรอกครับ หรืออาจจะหายก็ได้ แต่ก็จะไม่มีใครรู้ด้วยว่าสรุปแล้วจริงๆเป็นเพราะอะไร ยิ่ง OBD ตอนนี้อ่าน Code ไม่เจอใช่ไหมครับ เผลอๆ ท่อแวคคั่มต่อผิดจุดเดียวด้วยซ้ำ รถซ่อมบ่อยขนาดนี้ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงผมจะไม่แปลกใจเลย

ถ้ายังไม่ยอมแพ้ ก็ไล่ต่อไปเรื่อยๆครับ อาจจะเจอก็ได้ หรือไม่เจอก็ได้ หรือกว่าจะเจอก็คือเครื่องออกมาทั้งตัวแล้วก็ได้ แต่ให้ผมเดานะ เส้นผมบังภูเขา ไม่ก็คงต้องตามหมอผีแล้วละครับ ผมว่ารถคันนี้มัน Cursed ปัญหารอบตกเวลาเหยียบเบรคไม่ควรจะแก้ยากขนาดนี้
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: samaklen ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2020, 19:11:24
ระบบสายไฟ และขนาดของสายไฟที่ฮอนด้าใช้
ค่อนข้างประหยัดต้นทุนมาก เส้นเล็กมาก เมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น
ไฟรั่วก็ส่วนหนึ่ง แต่กราวด์ควรจะแน่น สะอาด
ไฟเดินสะดวก
หรือจะเพิ่ม
จากแบตไปตัวถัง
ตัวถังไปแท่นเครื่อง
ท้ายไดชาร์ทไปแบต
แล้วดูว่าผลเป็นยังไง

ผมเดินสายกราวด์ 2 เส้นครับ เมื่อ มิ.ย. 2561 - ปัจจุบัน

1. ไดชาร์จไปตัวถังรถ

2. เครื่องยนต์ไปตัวถังรถ

ผลคือ = ไฟหน้าตกน้อยลงนิดเดียว ตอนคอมแอร์ทำงานครับ 

ส่วนรอบเครื่องตกตอนเหยียบเบรค = ไม่เห็นผลครับ
ลองดุเส้นขั้วลบแบตลงตัวถังด้วยครับ
หร้าสัมผัสทั้งสองด้าน โดยเฉพาะฝั่งตัวถัง
เส้นนี้สำคัญครับ
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: sukhontha ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2020, 19:13:04
จากภาพหัวเทียน  จ่ายหนาจริงครับ

เท่าที่พยายามช่วยมาตลอด หลายปีที่ผ่านมาก็จะช่วยต่อ

 ไม่ทราบว่า แอร์แมสเปลี่ยนหรือยัง ถ้ายัง  ลองแอร์แมสก่อน

 อย่างที่สอง ถ้าแอร์แมสปกติ  ลองให้จูนเนอร์เข้าไปอ่านค่าหัวฉีดว่าตรงกับหัวฉีดหรือไม่(ค่าโอห์ม)  อันนี้ถ้าค่าต่ำกว่าหัวฉีด  มันจะจ่ายหนา  ซึ่งปกติถ้าไม่ได้เปลี่ยนหัวฉีด  หรือไม่จูนกล่อง  ค่านั้จะตรงเสมอ

  สาม   เดินสายกราวด์เพิ่มจากตัวไดชาร์ต

 แนะนำเพิ่มแค่นี้ก่อนครับ
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: Tom sawyer ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2020, 19:46:21
Spacewagon อายุ 14 ปี ซ่อมแต่ละปีว่าแพงแล้ว เจอของคุณเข้าไป ผมคงได้เลิกบ่นแล้วละ
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: lonely ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2020, 20:13:43
จากภาพหัวเทียน  จ่ายหนาจริงครับ

เท่าที่พยายามช่วยมาตลอด หลายปีที่ผ่านมาก็จะช่วยต่อ

 ไม่ทราบว่า แอร์แมสเปลี่ยนหรือยัง ถ้ายัง  ลองแอร์แมสก่อน

 อย่างที่สอง ถ้าแอร์แมสปกติ  ลองให้จูนเนอร์เข้าไปอ่านค่าหัวฉีดว่าตรงกับหัวฉีดหรือไม่(ค่าโอห์ม)  อันนี้ถ้าค่าต่ำกว่าหัวฉีด  มันจะจ่ายหนา  ซึ่งปกติถ้าไม่ได้เปลี่ยนหัวฉีด  หรือไม่จูนกล่อง  ค่านั้จะตรงเสมอ

  สาม   เดินสายกราวด์เพิ่มจากตัวไดชาร์ต

 แนะนำเพิ่มแค่นี้ก่อนครับ

ต้องขอบคุณ คุณ Sukhontha มาก ที่ช่วยตอบมาอย่างต่อเนื่องครับ

1. Air Mass หมายถึง Air Flow Sensor ใช่ไหมครับ ??

ยังไม่เคยเปลี่ยนครับ เคยแค่ถอดมา ฉีดน้ำยา CRC

แต่เมื่อวาน ตอนถอดอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อจะถอด ใส่ ประกอบหัวฉีดน้ำมัน
เขี้ยวของ Sensor ตัวนี้ = ไม่ค่อยเข้า Lock
ช่างเลยช่วยดัดเขี้ยวให้หน่อยครับ

(http://image.free.in.th/v/2013/ih/200205010808.jpg) (http://picture.in.th/id/b4d03f5ab016f234408e1612e3fe4da1)


2. ช่วยแนะนำจูนเนอร์ หรือร้านที่รับเช็คแบบนี้ให้เลยได้ไหมครับ = ถ้าสู้ราคาไหว ผมจะลองไปทำดูครับ
เพื่อจะได้ Remap เพิ่มมาอีกซัก 5 แรงม้า  ;)

3. ตอนนี้ผมเดินสายกราวด์จาก ไดชาร์จ ไปตัวถังรถ 1 เส้นแล้วครับ

4. Saab คันนี้ รุ่นนี้ ราคา 19,900 บาท = น่าสนใจไหมครับ ??
เห็นญาติกันส่งมาให้ดู ส่วนค่าซ่อม+ปรับสภาพ ประมาณ 3 - 4 หมื่นบาทครับ

(http://image.free.in.th/v/2013/ih/200205011338.jpg) (http://picture.in.th/id/35da50d738a706d8562b08b670ac1aa6)

หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: lonely ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2020, 20:16:15
Spacewagon อายุ 14 ปี ซ่อมแต่ละปีว่าแพงแล้ว เจอของคุณเข้าไป ผมคงได้เลิกบ่นแล้วละ

อันตัวผม = คนบ้าครับ  ;)  ;)

Space Wagon อายุ 14 ปี = ซ่อมปีละประมาณกี่บาทครับ
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: lonely ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2020, 20:22:47
ผมเคยเจอปัญหารอบตกบางจังหวะ
แต่เป็น mitsu ไม่ใช่ honda

มาสะดุดตาว่าคุณเปลี่ยนมอเตอร์คุมรอบเดินเบาไปละ แต่เป็นมือสอง

ตอนนั้นรถผมตัวคุมรอบพัง อู่ก็ใส่มือสองให้มันใช้งานได้แต่ไม่ดี ผมก็ไม่พอใจไปเข้าศูนย์
ศูนย์เช็คแล้วพันธงว่ามอเตอร์พัง (เราไม่ได้บอกว่าใส่มือสองมาแล้ว)  เบิกใหม่ใส่เลย 8000  จำได้แม่น หายครับ

แต่ไหนๆคุณทำมาจนมันดีขึ้นละ
ผมถามนิดว่า สามารถตั้งรอบขึ้นแบบดื้อๆอีกนิดมะครับให้พอไม่สั่น แล้วพอก่อนจะได้ไม่เปลืองเงิน

อีกสาเหตุที่ผมเจอคือการตัดต่อแอร์
ช่างอาจต่อตามสูตรอะไรบางอย่างที่มีผลให้ช่วงตัดต่อรอบมันหวือหวาไปหน่อย
ปกติปรับน้ำยาสุดไหมครับ ตัดบ่อยรอบเลยเหวี่ยงบ่อยไหม ผมเจอรถอีกคันเป็นงั้นครับ กรณีนี้ผมยอมตัดใจรับสภาพครับ ไม่งั้นต้องไปรื้อแอร์กันอีกยาว

1. ผมเปลี่ยนมอเตอร์เดินเบาของแท้เบิกศูนย์ ราคา 5,400 บาท เมื่อ ก.พ. 2561 = อาการรอบเครื่องตก ตอนเข้าเกียร์ D กลับมาเป็นปกติ

1.1 ก่อนเปลี่ยนมอเตอร์เดินเบาของแท้เบิกศูนย์ = ผมลองให้ช่างตั้งชดเชยรอบเดินเบาให้สูงสุดเท่าที่ทำได้ แต่อาการรอบตกตอนเข้าเกียร์ D ไม่หายไป

2. เดือน ก.ย. 2562 = ผมลองเปลี่ยนลิ้นปีกผีเสื้อมือ 2 + มอเตอร์เดินเบาจากญี่ปุ่น (ขายยกชุด) = อาการเหยียบเบรคแล้วรอบตก ไม่หาย
ข้อสันนิษฐาน ที่หัวหน้าช่างศูนย์ Honda Rama 7 สาขาตลิ่งชัน ว่าเป็นที่ลิ้นปีกผีเสื้อ = ไม่น่าใช่

(มอเตอร์เดินเบาที่ผมเบิกศูนย์มา = เก็บเป็นอะไหล่สำรองไว้ครับ)

3. แอร์รถ = ผมเปิดพัดลมเบอร์ 2 ครับ, ตำแหน่งน้ำยาแอร์ ปรับไว้ที่ตำแหน่งประมาณ 1 - 2  นาฬิกาครับ
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: lonely ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2020, 20:25:23
หม้อลมรั่วเชครึยังครับ
เคยเป็น civic es

เปลี่ยนแม่ปั๊มเบรคตัวบนของแท้เบิกศูนย์ + หม้อลมเบรคของแท้เบิกศูนย์ + สายเช็ควาล์วของแท้เบิกศูนย์ ทั้งหมดแล้วครับ
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: lonely ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2020, 20:27:16
เห็นราคาซ่อมแล้วมึนติ๊บ
วิ่งไปแสนโลเอง รายการเยอะมากครับ

ผมมองอายุรถเป็นจำนวนปีดีกว่าครับ = ช่วงหลังผมวิ่งน้อย

ซื้อเมื่อ 21 ก.ย. 2550 = ตอนนี้อายุ 12 ปีกว่าๆ แล้วครับ
ถ้าเทียบเป็นคนน่าจะราวๆ อายุ 60 กว่าๆ (ผมกะเอาว่า 1 ปีของรถ = 5 ปีของคน)
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: Amnaj ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2020, 20:32:48
ผมมองว่าเป็นที่ระบบ เบรค สายแวคคั่ม หม้อลมเบรค  ระยะตั้งเบรคหลัง
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: lonely ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2020, 20:37:39
ขอเรียนตามตรงนะครับ ติดตามมานานหลายปี ผมว่าตอนนี้รถคันนี้ก็ไม่ต่างจากรถที่เข้าอู่ไปแล้วโดนช่างฟัน เปลี่ยนอะไหล่ไปเรื่อย วิเคราะห์ไม่ถูกจุดซักทีนั่นแหละครับ คนในบอร์ดนี้ ผมก็ว่าไม่น่าจะมีช่างซ่อมว่างมาตอบจริงๆ ไล่อาการกันไม่เป็นหรอกครับ ตัวเองเคยเจอแบบไหนก็เอามาบอก มันก็ไม่มีทางถูก ไม่มีทางหายได้หรอกครับ เพราะต่างกรรม ต่างวาระ คนถ้าไม่ได้ตามแต่ต้น ก็เสนอใหม่ไปเรื่อยอะครับเพราะไม่ได้ตามแต่ต้นไง

ถ้าเปลี่ยนอะไหล่ไปมากขนาดนี้แล้วยังไม่หาย ต่อให้ยกเครื่องใหม่ลงทั้งตัวอาการก็ไม่น่าจะหายหรอกครับ หรืออาจจะหายก็ได้ แต่ก็จะไม่มีใครรู้ด้วยว่าสรุปแล้วจริงๆเป็นเพราะอะไร ยิ่ง OBD ตอนนี้อ่าน Code ไม่เจอใช่ไหมครับ เผลอๆ ท่อแวคคั่มต่อผิดจุดเดียวด้วยซ้ำ รถซ่อมบ่อยขนาดนี้ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงผมจะไม่แปลกใจเลย

ถ้ายังไม่ยอมแพ้ ก็ไล่ต่อไปเรื่อยๆครับ อาจจะเจอก็ได้ หรือไม่เจอก็ได้ หรือกว่าจะเจอก็คือเครื่องออกมาทั้งตัวแล้วก็ได้ แต่ให้ผมเดานะ เส้นผมบังภูเขา ไม่ก็คงต้องตามหมอผีแล้วละครับ ผมว่ารถคันนี้มัน Cursed ปัญหารอบตกเวลาเหยียบเบรคไม่ควรจะแก้ยากขนาดนี้

มีคนติดตามผมด้วย = ปกติมีแต่ผมติดตามคนอื่นอ่ะครับ  ;)

1. ถ้าวางเครื่องใหม่ไม่หาย = ก็ไม่ได้เป็นที่เครื่องยนต์ และมันจะเป็นที่อะไรหรือครับ ?? ผมนึกไม่ออกอ่ะ

2. ตอนท่อลมเดิมติดรถ = ก็อ่าน Code ไม่เจอครับ รถผมไม่เคยขึ้น Code ใดๆ เลย

เว้นแต่ตอน มิ.ย. ปี 2555  ที่ไฟพวงมาลัยโชว์ = เช็คโค้ดแล้วคือ "ความเร็วรถ ไม่สัมพันธ์กับรอบเครื่องยนต์"
ซึ่งศูนย์ Honda Rama 7 ก็เคลียร์โค้ดให้+หมายเหตุไว้ว่า ถ้าเป็นอีกต้องไล่ระบบไฟทั้งระบบ

พอปี 2560 ที่รถเกิดปัญหา = โทรไปสอบถาม คชจ. ไล่ระบบไฟรถ ดันไม่รับทำให้  อยากร้องไห้  :'(  :'(

3. ถ้าไล่อาการต่อ = ผมอยากลองปั๊มติ๊กครับ

4. ช่างซ่อมในบอร์ดนี้ = มีนะครับ เป็นเจ้าของอู่ด้วย ผมก็เคยไปหามาแล้วด้วย
และก็เป็นคนที่ นั่งยัน ยืนยัน นอนยัน ว่าหัวฉีดรถผมเสีย & จ่ายน้ำมันบางมาก (จากการวัด AFR ที่ปลายท่อไอเสีย)

ซึ่งเมื่อวานผมก็ได้ลองเปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่น จำนวน 4 หัวแล้ว = อาการเหยียบเบรคแล้วรอบตกก็ไม่หาย แต่ดีขึ้นนิดนึง (จาก 580 RPM เป็น 650 RPM)
สรุปว่า ข้อสันนิษฐานที่ว่าหัวฉีดผมเสีย = ไม่น่าใช่ครับ
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: lonely ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2020, 20:38:57
ผมมองว่าเป็นที่ระบบ เบรค สายแวคคั่ม หม้อลมเบรค  ระยะตั้งเบรคหลัง


1. เปลี่ยนแม่ปั๊มเบรคตัวบนของแท้เบิกศูนย์ + หม้อลมเบรคของแท้เบิกศูนย์ + สายเช็ควาล์วของแท้เบิกศูนย์ ทั้งหมดแล้วครับ

2. ท่อลมรถทุกเส้น = เปลี่ยนเป็นสายซิลิโคน ของ Samco

3. ระยะตั้งเบรคหลัง คือ อะไรครับ ??
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: Odd_yim ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2020, 01:15:39
เห็นประวัติการซ่อมแล้วทึ่งเลย รถวิ่งแสนนิด ๆ อายุ 12 ปี ถือว่าไม่เยอะเลย อาการที่เจอตอนเหยียบเบรคแล้วรอบตก Accord ปี95 คันเก่าผมก็เคยเป็นครับ ลักษณะเหมือนการจ่ายเชื้อเพลิงกับอากาศไม่สัมพันธ์กับรอบเครื่อง รถของผมติดแก๊ส ช่างไปเช็คบ่าวาล์วไอดี ไอเสียก่อนเลยครับ พอแก้ไขตั้งวาล์วใหม่ ก็เป็นน้อยลง ช่างแนะนำว่าต้องไปจูนระบบแก๊สใหม่ แต่ผมยังไม่ได้ไปทำก็มาเกิดอาการน้ำดันซะก่อน ตอนที่เป็นรถวิ่งมา 6แสนโล กว่า ๆ ติดแก๊สตอน 4 แสน ก็วิ่งมาเยอะพอสมควร ประกอบกับเกียร์มีอาการไม่จับตอนถอย เลยตัดสินใจยกเครื่องพร้อมเกียร์ไปเลย เสียดายนิดหน่อยที่ตอนนั้น ไม่ยอมเลือกเป็น F23A แต่ก็เพราะวางแผนจะซื้อคันใหม่ เลยต้องเซฟเงินไว้ก่อน พอเปลี่ยนมาแล้ว อาการทุกอย่างหายหมดครับ แต่ด้วยเครื่องเป็นมือสอง ก็ต้องรับตามสภาพความฟิตที่จะหามาได้ อีกรายการที่อยากให้ดูคือ พวกสายพานทั้งหลาย ไม่แน่ใจว่ารุ่นนี้ใช้เป็นสายพาน Timing หรือโซ่ขับ  ส่วนพวก Sensor ทั้งหลาย ถ้าเสียจริง ไฟเครื่องจะต้องโชว์ครับ
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: lonely ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2020, 01:58:10
เห็นประวัติการซ่อมแล้วทึ่งเลย รถวิ่งแสนนิด ๆ อายุ 12 ปี ถือว่าไม่เยอะเลย อาการที่เจอตอนเหยียบเบรคแล้วรอบตก Accord ปี95 คันเก่าผมก็เคยเป็นครับ ลักษณะเหมือนการจ่ายเชื้อเพลิงกับอากาศไม่สัมพันธ์กับรอบเครื่อง รถของผมติดแก๊ส ช่างไปเช็คบ่าวาล์วไอดี ไอเสียก่อนเลยครับ พอแก้ไขตั้งวาล์วใหม่ ก็เป็นน้อยลง ช่างแนะนำว่าต้องไปจูนระบบแก๊สใหม่ แต่ผมยังไม่ได้ไปทำก็มาเกิดอาการน้ำดันซะก่อน ตอนที่เป็นรถวิ่งมา 6แสนโล กว่า ๆ ติดแก๊สตอน 4 แสน ก็วิ่งมาเยอะพอสมควร ประกอบกับเกียร์มีอาการไม่จับตอนถอย เลยตัดสินใจยกเครื่องพร้อมเกียร์ไปเลย เสียดายนิดหน่อยที่ตอนนั้น ไม่ยอมเลือกเป็น F23A แต่ก็เพราะวางแผนจะซื้อคันใหม่ เลยต้องเซฟเงินไว้ก่อน พอเปลี่ยนมาแล้ว อาการทุกอย่างหายหมดครับ แต่ด้วยเครื่องเป็นมือสอง ก็ต้องรับตามสภาพความฟิตที่จะหามาได้ อีกรายการที่อยากให้ดูคือ พวกสายพานทั้งหลาย ไม่แน่ใจว่ารุ่นนี้ใช้เป็นสายพาน Timing หรือโซ่ขับ  ส่วนพวก Sensor ทั้งหลาย ถ้าเสียจริง ไฟเครื่องจะต้องโชว์ครับ

เห็นประวัติการซ่อมแล้ว = ไอ้นี่มัน "บ้า" นี่หว่า  ;) ;)

รถผม = ไม่ได้ติดแก๊สครับ, เครื่อง L15A ตัวนี้ใช้ "โซ่ราวลิ้น" ครับ,
ไฟเครื่องเคยโชว์ครั้งเดียวเมื่อกลางปี 2560 ตอนขับรถลุยน้ำท่วมบน ถ.ราชพฤกษ์ ครับ

ตอนนั้น เป็นที่ O2 Sensor ตัวที่ 2 ครับ ก็เคลียร์โค้ดเรียบร้อย & ตอนหลังก็เปลี่ยน O2 Sensor เป็นของ Walker ทั้ง 2 ตัวครับ
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: Turin ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2020, 09:06:54
ถามครับ .. เวลาเข้าเกียร์ว่างแล้วเหยียบเบรค รอบตกไหม เข้าเกียร์ว่างไม่เหยียบเบรครอบตกไหม

ถ้าเหยียบเบรคแล้วรอบตก/ไม่เหยียบไม่ตก น่าจะเกี่ยวกับกลไกตอนเบรค .. ซึ่งจขกท.เปลี่ยนมาเยอะมากแล้ว ที่ยังพอนึกออกคือ sensor เบรคกับ sensor เกียร์ว่าง (ไม่แน่ใจว่า city มีเหมือนกันไหมนะครับ) ปกติจะมี sensor สองตัวที่แป้นเบรคกับที่ลูกเกียร์ เอาไว้ส่งสัญญาณไปบอกกล่องว่าตอนนี้รถอยู่ในเกียร์ว่าง ... ไม่แน่ใจว่าตัวที่แป้นเบรคอาจทำงานผิดปกติ ... แต่ถ้าเป็นตลอดอาจจะเป็นที่ตัวที่อยู่กับเกียร์ หรือทั้ง 2 ตัว

แต่ถ้าเข้าเกียร์ว่างแล้วปกติ ไม่ว่าจะเหยียบหรือไม่เหยียบเบรค อาจเป็นที่ตัวเกียร์ไหมครับ อารมณ์เหมือนรถเกียร์ธรรมดาเหยียบคลัชไม่สุด

ปล1. ค่อนข้างพยายามคิดนอกกรอบนะครับ เห็นว่าไล่มาหลายอย่างที่เป็นเหตุทั่วๆไปมาหมดแล้ว
ปล2. Air Mass ไม่ใช่ Air flow ครับ รถบางคันมีทั้ง 2 ตัว บางคันมีอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าใจว่า Honda ยุคหลังปี 2000 มีทั้ง 2 ตัวนะครับ
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: lonely ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2020, 09:23:51
ถามครับ .. เวลาเข้าเกียร์ว่างแล้วเหยียบเบรค รอบตกไหม เข้าเกียร์ว่างไม่เหยียบเบรครอบตกไหม

ถ้าเหยียบเบรคแล้วรอบตก/ไม่เหยียบไม่ตก น่าจะเกี่ยวกับกลไกตอนเบรค .. ซึ่งจขกท.เปลี่ยนมาเยอะมากแล้ว ที่ยังพอนึกออกคือ sensor เบรคกับ sensor เกียร์ว่าง (ไม่แน่ใจว่า city มีเหมือนกันไหมนะครับ) ปกติจะมี sensor สองตัวที่แป้นเบรคกับที่ลูกเกียร์ เอาไว้ส่งสัญญาณไปบอกกล่องว่าตอนนี้รถอยู่ในเกียร์ว่าง ... ไม่แน่ใจว่าตัวที่แป้นเบรคอาจทำงานผิดปกติ ... แต่ถ้าเป็นตลอดอาจจะเป็นที่ตัวที่อยู่กับเกียร์ หรือทั้ง 2 ตัว

แต่ถ้าเข้าเกียร์ว่างแล้วปกติ ไม่ว่าจะเหยียบหรือไม่เหยียบเบรค อาจเป็นที่ตัวเกียร์ไหมครับ อารมณ์เหมือนรถเกียร์ธรรมดาเหยียบคลัชไม่สุด

ปล1. ค่อนข้างพยายามคิดนอกกรอบนะครับ เห็นว่าไล่มาหลายอย่างที่เป็นเหตุทั่วๆไปมาหมดแล้ว
ปล2. Air Mass ไม่ใช่ Air flow ครับ รถบางคันมีทั้ง 2 ตัว บางคันมีอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าใจว่า Honda ยุคหลังปี 2000 มีทั้ง 2 ตัวนะครับ

1. เท่าที่สังเกตนะครับ ถ้าตอนเข้าเกียร์ว่าง เกียร์ N เช่น ตอนติดไฟแดง หรือ จอดเดินเบา

เหยียบเบรค        =     รอบเครื่องไม่ตก แต่ รอบเครื่องจะตกตอนเข้าเกียร์ D (ไม่เป็นทุกครั้ง)

ไม่เหยียบเบรค     =     รอบเครื่องไม่ตก


2. ตัวเกียร์ CVT เสื่อมสภาพ = ก็เป็นอีกสิ่งที่คิดไว้ครับ ผมตีค่าเฉลี่ยอายุการใช้งานไว้ที่ประมาณ 150,000 กม. +  - นิดหน่อย

ตอนไมล์รถประมาณ 85,000 กม. = ผมเปลี่ยน Fly Wheel แท้เบิกศูนย์+ซีลข้อเหวี่ยง, ซีลหน้าเครื่อง, ซีลเพลาขับ L,R ไปแล้ว

3. Air Mass = หมายถึง MAP Sensor, MAF Sensor หรือเปล่าครับ


4. ไม่ว่าคุณ Turin หรือ สมาชิกท่านใดๆ ใน HLM ให้คำแนะนำ & กำลังใจ = ผมก็ปลื้มใจแล้วครับ

กระทู้การซ่อมรถของผม = "อาจจะ" เป็นแนวทางให้สมาชิกท่านอื่นๆ ในบอร์ด HLM หรือ คนทั่วไป
ในการดูเป็นแนวทางในการซ่อมรถของตัวเองครับ

หรือไม่ก็ดู "ความบ้า หรือ จะเรียกว่ารักรถ" ของผมก็ได้ครับ  ;)  ;)  ;)

ผมก็ยังเชื่อนะครับว่า

รถ = สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น ถ้าเสียมันต้องซ่อมได้ (ถ้าหาสาเหตุที่แท้จริงของมันเจอ)


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: Turin ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2020, 10:58:54
คืออาการมันคล้ายๆตอนที่ผมมีปัญหาแม่ปั๊มคลัชร่วม คลัชเลยจับไม่สุด รอบเบามันก็จะสั่นๆหน่อยไม่ใช่เพราะ ECU ทำรอบเบาต่ำ แต่เพราะระบบขับเคลื่อนฉุดรอบเบา

ปล. ผมเคยคิดรถยังไงก็ต้องซ่อมได้ แต่หลังๆมาก็ไม่แน่ใจเหมือนครับ รถบางคันมันก็มีจิตใจของมัน "Ghost in the Machine"
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: lonely ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2020, 11:16:35
คืออาการมันคล้ายๆตอนที่ผมมีปัญหาแม่ปั๊มคลัชร่วม คลัชเลยจับไม่สุด รอบเบามันก็จะสั่นๆหน่อยไม่ใช่เพราะ ECU ทำรอบเบาต่ำ แต่เพราะระบบขับเคลื่อนฉุดรอบเบา

ปล. ผมเคยคิดรถยังไงก็ต้องซ่อมได้ แต่หลังๆมาก็ไม่แน่ใจเหมือนครับ รถบางคันมันก็มีจิตใจของมัน "Ghost in the Machine"

ยังกับดาบญี่ปุ่นเลยครับ = ดาบมีวิญญาณ ยามใดที่วิญญาณในดาบยอมรับเจ้าของ ยามนั้นดาบจะเปล่งอานุภาพสูงสุด  :)  :)  :)
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: tom46 ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2020, 12:31:52
เป็นตลอดทั้งตอนเปิดแอร์ และ ไม่เปิดแอร์ ด้วยหรือเปล่าครับ

ของผมก็มีอาการคล้ายแบบนี้แต่เป็นตอนจอดแล้วปิดแอร์ รอบจะตกลงมาเยอะ แต่ตกลงมาแล้วก็เดินเบาปกติ ผมเลยยังไม่ได้ทำอะไรกับเขานะครับ พอดีช่วงนี้มีหลายอย่างเลยใช้ๆไปก่อน
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: lonely ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2020, 12:53:53
เป็นตลอดทั้งตอนเปิดแอร์ และ ไม่เปิดแอร์ ด้วยหรือเปล่าครับ

ของผมก็มีอาการคล้ายแบบนี้แต่เป็นตอนจอดแล้วปิดแอร์ รอบจะตกลงมาเยอะ แต่ตกลงมาแล้วก็เดินเบาปกติ ผมเลยยังไม่ได้ทำอะไรกับเขานะครับ พอดีช่วงนี้มีหลายอย่างเลยใช้ๆไปก่อน

เป็นทั้งตอนปิด & เปิดแอร์ครับ แต่ไม่เป็นทุกครั้ง
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: tom46 ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2020, 12:57:06
น่าลองอัดคลิปลงยูทูปไว้ตอนที่เกิดอาการไว้นะครับ บางทีไม่เห็นภาพก็เดาไม่ค่อยออกกัน
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: lonely ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2020, 13:14:02
น่าลองอัดคลิปลงยูทูปไว้ตอนที่เกิดอาการไว้นะครับ บางทีไม่เห็นภาพก็เดาไม่ค่อยออกกัน

ในคลิป = ตอนจอดเดินเบาในบ้าน = อาการจะเหมือนตอนขับบนถนนครับ

https://youtu.be/0qCgRb-WSjA

หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: aun ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2020, 16:47:44
รถผมก็อาการเดียวกันเลยเบรคแล้วรอบตกเหลือ 500 กว่ารอบ แต่เป็น CX3 ตัวไมเนอร์ผมล่ะเสียวเป็นที่ปั๊มติ๊กจริงๆ
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: lonely ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2020, 17:12:30
รถผมก็อาการเดียวกันเลยเบรคแล้วรอบตกเหลือ 500 กว่ารอบ แต่เป็น CX3 ตัวไมเนอร์ผมล่ะเสียวเป็นที่ปั๊มติ๊กจริงๆ

ขอให้ไม่ใช่ครับ = ถ้ายังอยู่ในประกัน ไม่ลองไปเคลมดูก่อนครับ ??
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: tom46 ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2020, 17:24:40
ตกเยอะเลยครับ ไม่แน่ใจกับปัญหานี่เหมือนกัน อย่างไงก็ขอให้หายเร็วๆนะครับ
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: lonely ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2020, 18:52:14
ตกเยอะเลยครับ ไม่แน่ใจกับปัญหานี่เหมือนกัน อย่างไงก็ขอให้หายเร็วๆนะครับ

คุณ Tom46 ครับ

อาการรอบตกมาที่ 650 RPM แบบนี้ = ถ้าเอาไปให้จูนเนอร์ดู เพื่อช่วยจูน "อาจจะ" เจอสาเหตุไหมครับ ??
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: tom46 ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2020, 19:24:24
ตกเยอะเลยครับ ไม่แน่ใจกับปัญหานี่เหมือนกัน อย่างไงก็ขอให้หายเร็วๆนะครับ

คุณ Tom46 ครับ

อาการรอบตกมาที่ 650 RPM แบบนี้ = ถ้าเอาไปให้จูนเนอร์ดู เพื่อช่วยจูน "อาจจะ" เจอสาเหตุไหมครับ ??
ขอบคุณครับ

รถเดิมๆ ผมว่าคงไม่น่าเกี่ยวนะครับ แต่ถ้าอยากจะลองเล่นอะไรไปเลยก็อีกเรื่องครับ
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: Turin ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2020, 19:32:35
ตกเยอะเลยครับ ไม่แน่ใจกับปัญหานี่เหมือนกัน อย่างไงก็ขอให้หายเร็วๆนะครับ

คุณ Tom46 ครับ

อาการรอบตกมาที่ 650 RPM แบบนี้ = ถ้าเอาไปให้จูนเนอร์ดู เพื่อช่วยจูน "อาจจะ" เจอสาเหตุไหมครับ ??
ขอบคุณครับ

รถเดิมๆ ผมว่าคงไม่น่าเกี่ยวนะครับ แต่ถ้าอยากจะลองเล่นอะไรไปเลยก็อีกเรื่องครับ
แอบคิดต่างนิดหน่อยครับ .. ถ้าเป็นคนที่ตั้งใจอ่านค่าต่างๆดีๆ อาจจะเจออะไรก็ได้ (เหมือนตอนที่รถผมบูสท์หายทั้งๆที่ ebc solenoid ไม่เสีย ก็ได้การวิเคราะห์ค่าจากกล่องมาหาสาเหตุ ไม่ใช่การไล่เปลี่ยนอะไหล่ไปเรื่อยๆ)

ปัญหาคือจูนเนอร์เค้าอาจจะไม่ได้อยากมานั่งหาของพวกนี้ให้ โดยเฉพาะเมื่ออาการมันเป็นๆหายๆแบบนี้

ถ้าอยากลองเล่น ผมว่าต้องเล่นเอง ลองปรึกษาคุณ mamaman ไหมครับ ถ้าจำไม่ผิดเค้าเคยจูนกล่อง lancer รุ่นปัจจุบันด้วยตัวเอง
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: lonely ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2020, 20:57:12
ตกเยอะเลยครับ ไม่แน่ใจกับปัญหานี่เหมือนกัน อย่างไงก็ขอให้หายเร็วๆนะครับ

คุณ Tom46 ครับ

อาการรอบตกมาที่ 650 RPM แบบนี้ = ถ้าเอาไปให้จูนเนอร์ดู เพื่อช่วยจูน "อาจจะ" เจอสาเหตุไหมครับ ??
ขอบคุณครับ

รถเดิมๆ ผมว่าคงไม่น่าเกี่ยวนะครับ แต่ถ้าอยากจะลองเล่นอะไรไปเลยก็อีกเรื่องครับ
แอบคิดต่างนิดหน่อยครับ .. ถ้าเป็นคนที่ตั้งใจอ่านค่าต่างๆดีๆ อาจจะเจออะไรก็ได้ (เหมือนตอนที่รถผมบูสท์หายทั้งๆที่ ebc solenoid ไม่เสีย ก็ได้การวิเคราะห์ค่าจากกล่องมาหาสาเหตุ ไม่ใช่การไล่เปลี่ยนอะไหล่ไปเรื่อยๆ)

ปัญหาคือจูนเนอร์เค้าอาจจะไม่ได้อยากมานั่งหาของพวกนี้ให้ โดยเฉพาะเมื่ออาการมันเป็นๆ หายๆ แบบนี้

ถ้าอยากลองเล่น ผมว่าต้องเล่นเอง ลองปรึกษาคุณ mamaman ไหมครับ ถ้าจำไม่ผิดเค้าเคยจูนกล่อง lancer รุ่นปัจจุบันด้วยตัวเอง



เหมือนตอนที่รถผมบูสท์หายทั้งๆ ที่ ebc solenoid ไม่เสีย
ก็ได้การวิเคราะห์ค่าจากกล่องมาหาสาเหตุ ไม่ใช่การไล่เปลี่ยนอะไหล่ไปเรื่อยๆ

สาเหตุ ที่ รถคุณ Turin  เสียตอนนั้น =  เกิดจากอะไหล่ชิ้นไหนเสียครับ และคนที่หาเจอ คือ จูนเนอร์ ??

ผมไปหาเจอมาในเฟส = รถเดิม ปั๊มติ๊กเสีย ?? จูนเนอร์หาสาเหตุเจอ ??

อาการรถผมเป็นแบบนี้ = จะมีจูนเนอร์รับทำไหมครับ & คชจ. จะแพงมากไหมครับ ??

(http://image.free.in.th/v/2013/iu/200206015245.jpg) (http://picture.in.th/id/dd76cfa223aca775236f15846db2ca5b)
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: jbrc ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2020, 21:13:05
เปลี่ยนหัวฉีดน้ำมันแล้วรอบดีขึ้นมาอีกนิดหน่อย  ก็ถือว่ามาถูกทางเกี่ยวกับระบบเชื้อเพลิงเดิมที่ไม่สมบูรณ์มากนัก เพราะถ้าระบบน้ำมันเดิมสมบูรณ์ เปลี่ยนหัวฉีดน้ำมันใหม่ อาการก็จะเหมือนเดิม ไม่มีดีขึ้นกว่าเดิม  แต่ตอนนี้ผมอยากตัดประเด็นเกี่ยวกับระบบเชื้อเพลิงทิ้งไป

เพราะจากที่ได้ดูสภาพหัวเทียน  และสภาพของรู egr  มันมีสภาพแปลกๆ   หัวเทียนมีคราบออกแดงๆ  เหมือนมีน้ำเข้าไปเจอปนในการเผาไหม้

น้ำมาจากไหน  1. ฝาสูบโก่ง  ประเก็นฝาสูบแตก  2. น้ำจากในถังน้ำมัน ที่มีความชื้นสะสม ทำให้กลายเป็นน้ำสะสมอยู่ที่ก้นถังน้ำมัน  แล้วก็ถูกปั้มดูดส่งมาที่เครื่องยนต์  ฉีดปนไปกับน้ำมันเวลาเผาไหม้  หัวเทียนจะออกแดงๆ แบบตามรูป

ลองหาสาเหตุ  สภาพหัวเทียน มีคราบแดงตามรูปดูครับ

และยังยืนยัน  AFR วัดปลายท่อไอเสีย  ต้องได้ 14.7:1  จะรถเก่า  รถใหม่  ก็ค่าเดียวกัน  เพราะเป็นค่าที่การเผาไหม้สมบูรณ์  เครื่องยนต์ให้กำลังเต็มที่

สาเหตุ ที่เครื่องยนต์รอบตก  เวลามีโหลดหนักๆ  เพราะเครื่องยนต์กำลังตก  แรงบิดตก

ถ้ามั่นใจว่าเครื่องยนต์เราไม่หลวม(วัดกำลังอัดค่าปกติ) ปัญหาก็อยู่ที่  ระบบเชื้อเพลิง  กับ  ระบบจุดระเบิด

ระบบจุดระเบิด  เปลี่ยนหมดแล้ว

ระบบเชื้อเพลิง  เริ่มมาถูกทาง  เปลี่ยนหัวฉีดรอบดีขึ้นนิดหน่อย   เหลือ  แรงดันปั้มน้ำมัน  วัดเทียบค่ามาตรฐานได้ไม่ยาก

หากแรงแรงปั้มน้ำมันปกติอีก  ก็ต้องดูเชื้อเพลิง  น้ำมันที่ส่งมาจากถัง  น้ำมันเพียวๆ  หรือมีน้ำเจอปนกับน้ำมันมาด้วย  ทำให้การเผาไหม้ แล้วหัวเทียนมีคราบแดง   Egr  มีคราบเหมือนสนิม

ถ้ารถรุ่นนี้อยากแรงผมมีซุปเปอร์ชาร์จไฟฟ้าเป็นทางเลือกครับ
https://youtu.be/i_99Mope4yY
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: lonely ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2020, 22:16:50
เปลี่ยนหัวฉีดน้ำมันแล้วรอบดีขึ้นมาอีกนิดหน่อย  ก็ถือว่ามาถูกทางเกี่ยวกับระบบเชื้อเพลิงเดิมที่ไม่สมบูรณ์มากนัก เพราะถ้าระบบน้ำมันเดิมสมบูรณ์ เปลี่ยนหัวฉีดน้ำมันใหม่ อาการก็จะเหมือนเดิม ไม่มีดีขึ้นกว่าเดิม  แต่ตอนนี้ผมอยากตัดประเด็นเกี่ยวกับระบบเชื้อเพลิงทิ้งไป

ครั้งก่อน ฟันธงว่าเปลี่ยนหัวฉีดแล้วหายแน่นอน = มันยังไม่หายนะครับ ดีขึ้นมานิดเดียว
แทบไม่เห็นความต่างจากเดิม (จากรอบตกที่ 580 RPM เป็น 650 RPM)
แต่ลงทุนไป 5,000 กว่าบาท กับหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่น & การล้างหัวฉีด + การทดสอบการจ่ายน้ำมัน   :'(  :'(  :'(

เพราะจากที่ได้ดูสภาพหัวเทียน  และสภาพของรู egr  มันมีสภาพแปลกๆ   หัวเทียนมีคราบออกแดงๆ  เหมือนมีน้ำเข้าไปเจอปนในการเผาไหม้

หัวเทียนสภาพนี้ = น่าจะเกิดจากการจ่ายน้ำมัน "หนา" ?? ไม่น่าจะเป็นการจ่ายน้ำมันบาง ??

น้ำมาจากไหน  1. ฝาสูบโก่ง  ประเก็นฝาสูบแตก 

ฝาสูบโก่ง & ประเก็นฝาสูบแตก = ไม่น่าใช่ เพราะเครื่องยนต์ไม่เคย Over Heat + เปลี่ยนหม้อน้ำ & ท่อทางเดินน้ำทุกเส้น & น้ำยาหล่อเย็น Honda Type 2 จำนวน 2 รอบ เพื่อไล่น้ำยาหล่อเย็น Type 1 ออกให้มากที่สุด


2. น้ำจากในถังน้ำมัน ที่มีความชื้นสะสม ทำให้กลายเป็นน้ำสะสมอยู่ที่ก้นถังน้ำมัน  แล้วก็ถูกปั้มดูดส่งมาที่เครื่องยนต์  ฉีดปนไปกับน้ำมันเวลาเผาไหม้  หัวเทียนจะออกแดงๆ แบบตามรูป  ลองหาสาเหตุ  สภาพหัวเทียน มีคราบแดงตามรูปดูครับ

หมายถึง เกิดจาก Sohol 95-- E10 ที่เติมไว้เต็มถัง แต่รถไม่ค่อยได้วิ่ง = ทำให้เกิดความชื้นในถังน้ำมัน ??



และยังยืนยัน  AFR วัดปลายท่อไอเสีย  ต้องได้ 14.7:1  จะรถเก่า  รถใหม่  ก็ค่าเดียวกัน  เพราะเป็นค่าที่การเผาไหม้สมบูรณ์  เครื่องยนต์ให้กำลังเต็มที่

ได้ยินมาว่าถ้าแคตตัน  ค่า AFR จะบางมาก = เพื่อตัดข้อสงสัยนี้ จึงได้ทำการเปลี่ยนแคตมือ 2 เรียบร้อย (แคตเดิมตัน+แตกนิดหน่อย)
แต่หลังเปลี่ยนก็ไม่ได้วัด AFR เพราะยังหาร้านแถวบ้าน ที่มีเครื่องวัดไม่ได้

สาเหตุ ที่เครื่องยนต์รอบตก  เวลามีโหลดหนักๆ  เพราะเครื่องยนต์กำลังตก  แรงบิดตก

ถ้ามั่นใจว่าเครื่องยนต์เราไม่หลวม (วัดกำลังอัดค่าปกติ) ปัญหาก็อยู่ที่  ระบบเชื้อเพลิง  กับ  ระบบจุดระเบิด

กำลังอัดวัดเมื่อปี 2561 = ยังไม่ได้วัดอีก แต่อนุมานว่า กำลังอัดปกติ

ระบบจุดระเบิด  เปลี่ยนหมดแล้ว

หวังว่าคอยล์จุดระเบิดของแท้เบิกศูนย์จำนวน 4 ตัวที่เปลี่ยนไป = อายุการใช้งาน จะทนทานเหมือนของติดรถ

ระบบเชื้อเพลิง  เริ่มมาถูกทาง  เปลี่ยนหัวฉีดรอบดีขึ้นนิดหน่อย   เหลือ  แรงดันปั้มน้ำมัน  วัดเทียบค่ามาตรฐานได้ไม่ยาก

วัดอย่างไร & อู่หรือร้านอะไรที่วัดได้ & เสียค่าใช้จ่ายเท่าใด ?? ช่วยบอกสถานที่มาเลยครับ  = จะไปวัดดู จะได้พิสูจน์ข้อสันนิษฐานนี้

หากแรงดันปั้มน้ำมันปกติอีก  ก็ต้องดูเชื้อเพลิง  น้ำมันที่ส่งมาจากถัง  น้ำมันเพียวๆ  หรือมีน้ำเจอปนกับน้ำมันมาด้วย  ทำให้การเผาไหม้ แล้วหัวเทียนมีคราบแดง   Egr  มีคราบเหมือนสนิม

ดู หรือ ทดสอบได้อย่างไร ว่าไม่มีน้ำปนมากับน้ำมัน ?? = หรือ ต้องเติมเบนซิน 95 เพียวๆ ??


ถ้ารถรุ่นนี้อยากแรงผมมีซุปเปอร์ชาร์จไฟฟ้าเป็นทางเลือกครับ
https://youtu.be/i_99Mope4yY

ยังไม่อยากแรงครับ เพราะค่าของ & ค่าแรง ในการติด ซุปเปอร์ชาร์จไฟฟ้า น่าจะแพงพอสมควร = ตอนนี้ อยากทำให้เครื่องยนต์เดิมติดรถกลับมามีสภาพที่สมบูรณ์เป็นปกติก่อน  :'(  :'(   :'(

หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: Turin ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2020, 22:39:33
ตกเยอะเลยครับ ไม่แน่ใจกับปัญหานี่เหมือนกัน อย่างไงก็ขอให้หายเร็วๆนะครับ

คุณ Tom46 ครับ

อาการรอบตกมาที่ 650 RPM แบบนี้ = ถ้าเอาไปให้จูนเนอร์ดู เพื่อช่วยจูน "อาจจะ" เจอสาเหตุไหมครับ ??
ขอบคุณครับ

รถเดิมๆ ผมว่าคงไม่น่าเกี่ยวนะครับ แต่ถ้าอยากจะลองเล่นอะไรไปเลยก็อีกเรื่องครับ
แอบคิดต่างนิดหน่อยครับ .. ถ้าเป็นคนที่ตั้งใจอ่านค่าต่างๆดีๆ อาจจะเจออะไรก็ได้ (เหมือนตอนที่รถผมบูสท์หายทั้งๆที่ ebc solenoid ไม่เสีย ก็ได้การวิเคราะห์ค่าจากกล่องมาหาสาเหตุ ไม่ใช่การไล่เปลี่ยนอะไหล่ไปเรื่อยๆ)

ปัญหาคือจูนเนอร์เค้าอาจจะไม่ได้อยากมานั่งหาของพวกนี้ให้ โดยเฉพาะเมื่ออาการมันเป็นๆ หายๆ แบบนี้

ถ้าอยากลองเล่น ผมว่าต้องเล่นเอง ลองปรึกษาคุณ mamaman ไหมครับ ถ้าจำไม่ผิดเค้าเคยจูนกล่อง lancer รุ่นปัจจุบันด้วยตัวเอง



เหมือนตอนที่รถผมบูสท์หายทั้งๆ ที่ ebc solenoid ไม่เสีย
ก็ได้การวิเคราะห์ค่าจากกล่องมาหาสาเหตุ ไม่ใช่การไล่เปลี่ยนอะไหล่ไปเรื่อยๆ

สาเหตุ ที่ รถคุณ Turin  เสียตอนนั้น =  เกิดจากอะไหล่ชิ้นไหนเสียครับ และคนที่หาเจอ คือ จูนเนอร์ ??

ผมไปหาเจอมาในเฟส = รถเดิม ปั๊มติ๊กเสีย ?? จูนเนอร์หาสาเหตุเจอ ??

อาการรถผมเป็นแบบนี้ = จะมีจูนเนอร์รับทำไหมครับ & คชจ. จะแพงมากไหมครับ ??

(http://image.free.in.th/v/2013/iu/200206015245.jpg) (http://picture.in.th/id/dd76cfa223aca775236f15846db2ca5b)
ตอนนั้นจูนเนอร์ผมหาเจอจากการแกะ data log พบว่าค่าจาก map sensor อยู่ดีๆก็โดด ทำให้ ebc solenoid ทำการเปิดหมด (จากเดิมที่เห็นแค่ ebc solenoid เปิดหมด จึงนึกว่ามันเสีย) .. กรณีของผมนั้นเป็นงานต่อเนื่องจากการจูนกล่อง คือ ให้ทำไปแล้ว ใช้งานได้ปกติระยะหนึ่งแล้วต่อมามีปัญหาจึงกลับมาให้ช่วยตรวจสอบให้ครับ

ถ้าอยากลองคงต้องหาจูนเนอร์ที่ยอมค่อยๆไล่ดูครับ ซึ่งคงหาไม่ได้ง่าย จึงได้แนะนำว่าอาจจะลองหาความรู้และอุปกรณ์ แล้วดูเองครับ ของซูฯทำ data log มีแค่ cable ราคาหลักพันต้นๆ (จำราราไม่ได้) โน๊ตบุค โปรแกรม (โหลดฟรี)
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: lonely ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2020, 23:18:24
ค่า MAP Sensor กระโดด = คุณ Turin แก้ไขอย่างไรครับ

ในเคสของรถผม คุณ Turin = มีจูนเนอร์เจ้าไหนแนะนำบ้างไหมครับ

ดูเองคงลำบากอ่ะครับ = ไม่มีอุปกรณ์ & ความรู้ด้านนี้ด้วยอ่ะครับ  :'(  :'(
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: Turin ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2020, 07:56:03
ค่า MAP Sensor กระโดด = คุณ Turin แก้ไขอย่างไรครับ > เปลี่ยนตัวใหม่ครับ

ในเคสของรถผม คุณ Turin = มีจูนเนอร์เจ้าไหนแนะนำบ้างไหมครับ > เจ้าที่ผมทำด้วยเค้าเลิกทำไปแล้วครับ เหลือแค่รับเก็บงาน/ต่อยอดของลูกค้าเก่าครับ .. คนจะทำงานนี้ต้องเบสิคระบบดีๆ พวกจูนเนอร์ทั่วๆไปผว่าทำเป็นแค่ตามเสตป อาจจะลองปรึกษาคุณจ๊อด gettune ดูไหมครับ

ดูเองคงลำบากอ่ะครับ = ไม่มีอุปกรณ์ & ความรู้ด้านนี้ด้วยอ่ะครับ  :'(  :'( > ผมว่าความยากอยู่ตรงข้อมูลอาจจะหายาก ถ้าเป็นเครื่องซิ่ง ในโลกออนไลน์มีอธิบายไว้ละเอียดทีเดียว ค่อยๆไล่ไปครับ ผมเข้าใจว่าคุณ mamaman ก็ศึกษาด้วยตัวเองแบบนี้
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนหัวฉีดมือ 2 จากญี่ปุ่นแล้ว = เหยียบเบรค รอบเครื่องยังตกอยู่ (650 RPM)
เริ่มหัวข้อโดย: tom46 ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2020, 11:25:37
ปกติพวก คอม ที่ใช้อ่านโค้ดที่ตามอู่ใช้ เขาจะอ่านการทำงานอุปกรณ์แต่ละตัว แบบเรียลไทม์ได้ด้วย ไม่รู้ได้ลองถามช่างที่ทำประจำอยู่แล้วหรือยังครับ

ส่วนพวกปั๊มติ๊ก เขามีเกจ์วัดแรงดันเช็คแรงดันได้กันอยู่ ว่าแรงดันที่ปั๊มติ๊กมากี่บาร์ แรงพอไหม อะไรพวกนี้ละครับ