Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: spn ที่ กุมภาพันธ์ 16, 2020, 12:27:51
-
ทุกครั้งที่ผมเข้า กทม วิ่งมอเตอร์เวย์ จะพบอุบัติเหตุตรงนี้ประจำ ช่วงเลยสุวรรณภูมิก็จะเห็นป้ายแยกไป บางปะอิน-กาญจนาภิเษก
จนกระทั่ง...
เมื่อวานเช้ารถผมประสบอุบัติเหตุตรงนี้
เหตุการณ์คือ ช่วงเลยทางแยกไปสุวรรณภูมิ จะมีสะพาน ข้ามสะพานมา ผมวิ่งเลนขวาสุด เห็นว่ารถเริ่มชะลอ ผมก็ชะลอตาม เว้นระยะห่างมากขึ้น (วิ่ง 80-90) อยู่ๆคันหน้าก็เบรกกระทันหันหลายคัน ผมก็เบรกแต่ด้วยความที่ ไม่มี ABS ล้อจึงล็อก คุมไม่อยู่ไปชนท้ายรถกระบะคันข้างหน้า คันที่ตามข้างหลังมา ก็ชนต่อกันอีก 2 คัน (แต่ไม่กระเด็นมาชนท้ายรถผม) เมื่อเจ้าหน้าที่นำรถ slide มาลากรถผมออกจากจุดเกิดเหตุ ผ่านไปไม่กี่ 100 เมตร เพิ่งสังเกตเห็น รถพ่วงจอดอยู่ และมีซากรถเก๋ง 1 คัน เมื่อสอบถาม จนท. เค้าบอกว่า รถพ่วงวิ่งเลนซ้ายสุด รถเก๋งคันนี้แข่งมากับกระบะอีกคันหนึ่ง แล้วมุดซ้าย จึงไปชนกับรถพ่วง
ผมมีคำถามและประเด็นที่อยากฝากไว้คือ
1.ทำอย่างไรถึงจะแก้ปัญหาอุบัติเหตุตรงนี้ได้ครับ เพราะเมื่อเกิดแล้ว มันเกิดซ้ำ เกิดซ้อน
2.เวลาเบรกกระทันหัน รถไม่มี ABS จะคุมได้ยังไง ตอนที่ผมเบรก ก็จับพวงมาลัยตรง แบบ 9,15 นาฬิกา แต่รถควบคุมไม่อยู่เลย (รถเก๋งใช้ยาง Dunlop LM704 + เบรกเดิม ช่วงล่างเดิม)
3.สมาชิกที่ใช้รถที่มี safety senses ระบบช่วยป้องกันการชนด้านหน้า เจอเหตุการณ์แบบนี้เอาอยู่เลยใช่ไหมครับ
4.ขอร้องขับรถอย่ามุดซ้ายสุดกันเลยครับ อันตรายมาก สัปดาห์ก่อน ผมไป กทม ก็เห็น Wish ชนท้ายรถพ่วง แถวๆที่เจอเมื่อวานเลย
5.เมื่อเห็นว่ารถชะลอ ก็ชะลอตามเค้า อย่าขับเร็วกันเลย
ขอมาแชร์เป็นการเตือนสติทุกท่านครับ ปล.เคสผมไม่มีใครบาดเจ็บใดๆครับ
-
สำหรับผม เวลาผ่านจุดที่จะมีการชะลอตัว (ผ่านประจำจะรู้อยู่แล้ว) ผมจะตบออกเลนกลาง แล้วเผื่อระยะมากขึ้นครับ หรือ แม้แต่วิ่งขวามา แล้วมีการเบรคกระทันหัน ผมตบเข้ากลาง หรือ ซ้าย ครับ
คือ เบรคกระทันหันที่ขวา ต่อให้เราอยู่ แต่คันหลังอาจจะไม่อยู่ก็ได้ครับ สุดท้าย กดไฟฉุกเฉิน ตอนเบรคแรงๆสักหน่อย ช่วยลดการทำสีบั้นท้ายได้ครับ
ท้ายสุด สุดท้าย ถ้าคุณเอาไม่อยู่ แปลว่า คุณเว้นระยะไม่เพียงพอครับ คำว่า เว้นระยะ สำหรับผม ไม่ได้อยู่ที่กี่เมตร แต่อยู่ที่รถที่ผมขับ เบรคมันดีแค่ไหน หรือ แม้แต่ตัวผมเอง บางช่วงเพลียๆ ง่วงๆ ผมก็จะทิ้งระยะมากกว่าปกติ ผมจะมโนเสมอว่า ทิ้งแค่นี้ ถ้าคันหน้ากระทืบเบรค เราเอาอยู่ไหม ถ้าไม่อยู่ ก็เว้นระยะมากขึ้นครับ
.....
บางทีวิ่งทางไกล เจอพวกรถเล็ก ขับจี้ท้ายจนมองไม่เห็นไฟหน้า ทั้งที่หน้าผมก็มีรถ ยังนั่งนึกว่า รถผมนี่ เบรคก็ไม่กระจอก ทำเพิ่มก็หลายบาท แล้วพวกจี้ๆนี่ มันใส่ brembo 6 pot เหรอ ถึงกล้าจี้ขนาดนี้ หุหุ
-
ในมุมของ จราจร ท้องถนน ป้ายบอกทาง
ทำป้ายบอกไว้ไกลขึ้นให้รถอยู่ในเลนที่ถูกตั้งแต่เนิ่นๆ เพิ่มป้ายจำกัดความเร็ว แบบปรับได้ ปรับตามความหนาแน่นของรถบนถนนช่วงนั้น พร้อมติดกล้อง
ในมุมของคนขับ
ถ้ารู้อยู่แล้วว่ารถจะติด เว้นระยะคันหน้าเพิ่มอีกนิด เปิดไฟฉุกเฉินถ้าต้องชะลอจนหยุด ถ้าจำเป็นต้องเบรครุนแรงกระทันหัน ถ้าเบรคอยู่ก็ไหลไปชิดคันหน้าอีกนิด เพิ่มระยะเบรคให้คันหลังหน่อย
-
สำหรับผม เวลาผ่านจุดที่จะมีการชะลอตัว (ผ่านประจำจะรู้อยู่แล้ว) ผมจะตบออกเลนกลาง แล้วเผื่อระยะมากขึ้นครับ หรือ แม้แต่วิ่งขวามา แล้วมีการเบรคกระทันหัน ผมตบเข้ากลาง หรือ ซ้าย ครับ
ปกติผมจะเข้าเลยกลางตลอด เมื่อวานนึกยังไงไม่รู้ ไม่เข้าเฉย ช่วงนั้นกำลังลงสะพานมาพอดี แล้วเจอคันหน้าเบรกด้วยครับ กระบะคันหน้านี่ท้ายสะบัด
-
" 4.ขอร้องขับรถอย่ามุดซ้ายสุดกันเลยครับ อันตรายมาก สัปดาห์ก่อน ผมไป กทม ก็เห็น Wish ชนท้ายรถพ่วง แถวๆที่เจอเมื่อวานเลย "
ถ้าไม่มุดซ้าย แล้วจะแซงยังไงครับ
มอเตอร์เวย์ให้วิ่งได้ 120 แต่ผมเจอรถที่วิ่ง 90-100 แช่เลนขวาสุด บางครั้งจะแซงเลนกลางก็ไม่ได้ เพราะติดรถเลนกลาง
สุดท้าย ก็ต้องหาช่องเพื่อแซงเลนซ้ายสุด
ถ้าเลนซ้ายโล่งๆ ผมก็จะวิ่งเลนซ้าย 120 ยาวๆ เลย แต่วิ่งได้สักระยะก็จะเจอรถบรรทุกซึ่งเขาวิ่งเลนซ้าย (เขาวิ่งถูกต้อง)
ผมก็ต้องเปลี่ยนเลนอีก แล้วก็เจอรถช้าแช่ขวา เป็นช่วงๆ ตลอดเส้นทางเลยครับ
-
ในมุมของ จราจร ท้องถนน ป้ายบอกทาง
ทำป้ายบอกไว้ไกลขึ้นให้รถอยู่ในเลนที่ถูกตั้งแต่เนิ่นๆ เพิ่มป้ายจำกัดความเร็ว แบบปรับได้ ปรับตามความหนาแน่นของรถบนถนนช่วงนั้น พร้อมติดกล้อง
ในมุมของคนขับ
ถ้ารู้อยู่แล้วว่ารถจะติด เว้นระยะคันหน้าเพิ่มอีกนิด เปิดไฟฉุกเฉินถ้าต้องชะลอจนหยุด ถ้าจำเป็นต้องเบรครุนแรงกระทันหัน ถ้าเบรคอยู่ก็ไหลไปชิดคันหน้าอีกนิด เพิ่มระยะเบรคให้คันหลังหน่อย
อันแรกน่าจะข่วยได้นะครับ พอเลยจุดนั้นมา ขึ้นทางพิเศษศรีรัช จะมีป้ายจำกัดความเร็ว และบังคับช่องจราจร พอปฏิบัติตามรถก็เป็นระเบียบดี
พอรถเริ่มชะลอก็เปิดไฟฉุกเฉินเลย จังหวะกำลังลงสะพาน หลังจากนั้นคันหน้าก็เบรกจึก!
-
" 4.ขอร้องขับรถอย่ามุดซ้ายสุดกันเลยครับ อันตรายมาก สัปดาห์ก่อน ผมไป กทม ก็เห็น Wish ชนท้ายรถพ่วง แถวๆที่เจอเมื่อวานเลย "
ถ้าไม่มุดซ้าย แล้วจะแซงยังไงครับ
มอเตอร์เวย์ให้วิ่งได้ 120 แต่ผมเจอรถที่วิ่ง 90-100 แช่เลนขวาสุด บางครั้งจะแซงเลนกลางก็ไม่ได้ เพราะติดรถเลนกลาง
สุดท้าย ก็ต้องหาช่องเพื่อแซงเลนซ้ายสุด
ถ้าเลนซ้ายโล่งๆ ผมก็จะวิ่งเลนซ้าย 120 ยาวๆ เลย แต่วิ่งได้สักระยะก็จะเจอรถบรรทุกซึ่งเขาวิ่งเลนซ้าย (เขาวิ่งถูกต้อง)
ผมก็ต้องเปลี่ยนเลนอีก แล้วก็เจอรถช้าแช่ขวา เป็นช่วงๆ ตลอดเส้นทางเลยครับ
จริงครับ เลนขวานี่วิ่งช้ากันมาก แต่ที่เจอคือบางคนมุดแบบไม่น่ามุด มุดในระยะกระชั้นชิด แต่บางเคสคือมุดซ้ายแบบออกไปไหล่ทางเลยก็มี (ในช่วงความเร็วสูง)
-
ผมก็วิ่งเส้นเดียวกับ จขกท เดือนละอย่างน้อย 2 ครั้งก็เจอบ่อยครับ
สำหรับผม เวลาผ่านจุดที่จะมีการชะลอตัว (ผ่านประจำจะรู้อยู่แล้ว) ผมจะตบออกเลนกลาง แล้วเผื่อระยะมากขึ้นครับ หรือ แม้แต่วิ่งขวามา แล้วมีการเบรคกระทันหัน ผมตบเข้ากลาง หรือ ซ้าย ครับ
คือ เบรคกระทันหันที่ขวา ต่อให้เราอยู่ แต่คันหลังอาจจะไม่อยู่ก็ได้ครับ สุดท้าย กดไฟฉุกเฉิน ตอนเบรคแรงๆสักหน่อย ช่วยลดการทำสีบั้นท้ายได้ครับ
ท้ายสุด สุดท้าย ถ้าคุณเอาไม่อยู่ แปลว่า คุณเว้นระยะไม่เพียงพอครับ คำว่า เว้นระยะ สำหรับผม ไม่ได้อยู่ที่กี่เมตร แต่อยู่ที่รถที่ผมขับ เบรคมันดีแค่ไหน หรือ แม้แต่ตัวผมเอง บางช่วงเพลียๆ ง่วงๆ ผมก็จะทิ้งระยะมากกว่าปกติ ผมจะมโนเสมอว่า ทิ้งแค่นี้ ถ้าคันหน้ากระทืบเบรค เราเอาอยู่ไหม ถ้าไม่อยู่ ก็เว้นระยะมากขึ้นครับ
.....
บางทีวิ่งทางไกล เจอพวกรถเล็ก ขับจี้ท้ายจนมองไม่เห็นไฟหน้า ทั้งที่หน้าผมก็มีรถ ยังนั่งนึกว่า รถผมนี่ เบรคก็ไม่กระจอก ทำเพิ่มก็หลายบาท แล้วพวกจี้ๆนี่ มันใส่ brembo 6 pot เหรอ ถึงกล้าจี้ขนาดนี้ หุหุ
+1 ความเห็นนี้
ปล safety sense มันช่วยรถเราได้จริงครับ ผมเคยวิ่งสีลมเลนส์ขวาสุด 60-70 km/h ตาม bmw series 3 คันนึง พอดี bmw เห็นมีคนวิ่งข้ามทางม้าลาย กระทันหัน ก็กระทืบเบรค ผมจี้ตูด bmw อยู่ ระบบเบรคอัตโนมัติทำงานพร้อม abs เลยรอดหวุดหวิดครับ ห่างตูด bmw ไม่ถึง 1 cm ถ้ามีคันจ่อตูดผมคงโดนจิ้มไปเรียบร้อยครับ ยังดีเขามาห่าง เบรคพร้อมบีบแตรดังมากแต่คันต่อจากนั้นไม่รอดครับจิ้มตูดคันข้างหลังผมเรียบร้อย
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ควรเว้นระยะห่างเผื่อไว้เยอะๆครับ
ปล. ถ้าอยู่เลนส์ขวาสุดจะเว้นมากก็ไม่ได้ เดี่ยวกลายเป็นช้าแช่ขวา รู้ตัวอีกทีหลังจากวันนั้นมาผมอยู่เลนส์กลางตลอด
-
ผมว่าถนนมันใหญ่ ประมาทเยอะ อยากวิ่งเร็วก็เยอะ
ก็ถ้ากฎหมายมีแค่ปรับความเร็วเกินกำหนดแล้วใช้กล้องจับภาพ
ผมก็ว่ามีคนยอมพลีชีพบนถนน และยอมจ่ายทุกๆกล้องที่โดนเพื่อตัวเองจะได้แข่งครับ
-
รถที่ไม่มี abs ต้องใช้ความชำนาญ ในการถอนเบรค แล้วเบรคใหม่อย่างเร็ว เพื่อไม่ให้ล้อล๊อค
แต่มันคงไม่ถี่เท่า abs แต่ลดความเสียงในการไหลไปชนได้
ใช้ engine brake ช่วย เมื่อยาวฉุกเฉิน ดึงลงเกียร์ต่ำทันที พอชวยได้ ทำได้แค่นี้
ถ้าใกล้มากก็ช่วยไม่ได้ ต่อให้มี abs รถมันขับเองไม่ได้ คนต้องประเมิณตลอดเวลา ไม่เอาตัวเองไปอยู่ในเหตูการณ์เสี่ยง
-
จากคำถามหัวข้อกระทู้ มาสู่เนื้อหาและสาเหตุของอุบัติเหตุ สรุปแล้วเกิดจากพฤติกรรมการขับรถ และจุดอื่นๆก็เกิดอุบัติเหตุเช่นนี้ได้
คงต้องระมัดระวังให้มากขึ้นกว่าเดิม ยิ่งพวกมุดๆ อันตรายมาก ผมเคยเห็นรถกระบะตู้ขนส่งบางคันมุดเสียจนรถโยน ดูแล้วง่ายต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ตลอดเวลาเลย
-
ขับเร็วเกินกำหนด 90-110 อันตรายแล้ว
ทางบีบเข้า ต้องแก้ปัญหาพวกแซงซ้ายให้ได้
ตัดปัญหารถแช่ขวาให้ได้ก่อนครับ
-
จุดนั้นเค้ากั้นจนไปออกไกลจากจุดเดิมเยอะแล้วนี่ครับ แล้วใต้สะพานจะมีจุดออกเดียวที่แทบไม่มีรถออกมา ช่วงนั้นขับออกเลนซ้ายสุดนั่นแหละวิ่งประจำจะไม่อยู่ขวาครับ เบรกจนหยุดตลอดเลนขวาเลนอื่นยังวิ่งกันปกติ
-
เอาจริงๆนะครับ มันเพราะเป็นผู้ใชถนนขับเร็วและขับชิดกันเกินไปครับ
ผมเข้าใจว่าคุณคิดว่าคุณขับห่างแล้ว แต่ก็คงห่างไม่พอปลอดภัย และคันหน้าๆก็ขับชิดกันเกินไป
คันหน้าเลยต้องเบรกกระทันหัน พอกระทันหันหลายๆคันแล้วก็หนักขึ้นจนชนครับ
สังเกตนะครับ จุดนี้ทั้งสองฝั่งเลย รถจะชอบติด ไม่ใช่จากอุบัติเหต ก็จากรถติดเลี้ยวเข้าออกวงแหวน
แต่ก็ยังมีคนเบรกไม่ทันทุกที ละก็ชนทุกที มันก็ชัดอยู่แล้วครับว่าชะล่าใจในการเบรกและขับเร็วขับชิดเกินไป
-
เอาจริงๆนะครับ มันเพราะเป็นผู้ใชถนนขับเร็วและขับชิดกันเกินไปครับ
ผมเข้าใจว่าคุณคิดว่าคุณขับห่างแล้ว แต่ก็คงห่างไม่พอปลอดภัย และคันหน้าๆก็ขับชิดกันเกินไป
คันหน้าเลยต้องเบรกกระทันหัน พอกระทันหันหลายๆคันแล้วก็หนักขึ้นจนชนครับ
สังเกตนะครับ จุดนี้ทั้งสองฝั่งเลย รถจะชอบติด ไม่ใช่จากอุบัติเหต ก็จากรถติดเลี้ยวเข้าออกวงแหวน
แต่ก็ยังมีคนเบรกไม่ทันทุกที ละก็ชนทุกที มันก็ชัดอยู่แล้วครับว่าชะล่าใจในการเบรกและขับเร็วขับชิดเกินไป
+1 ครับ
เข้าใจเลยครับ ถ้าไม่เคยเกิดกับตัวสักครั้ง มันจะมีวูบที่คิดว่า เอาอยู่น่า ไม่เป็นไรหรอก
นั่นคือเรามีความประมาทในใจ ชะล่าใจไปหน่อย
ทีนี้พอเกิดกับตัวแล้ว ครั้งถัดไปมีบทเรียนแล้วมันจะระวังมากขึ้นครับ ฮ่าๆ
ท่องไว้ อย่าประมาทๆๆ แต่ทำจริงไม่ได้ 100% สักที :P
-
เว้นระยะ 3ช่วงคันรถยังโดนปาดเลย เอิ่ม 120+ แล้วนะ คิดว่าเว้นแค่ไม่ถึงคันรถจะเบรคทันรึไง ขนาดเบรคเทพยังต้องเผื่อไม่ประมาทเลย
-
เลนขวาสุด มีไว้แซง ไม่ได้ไว้แช่
ขับเว้นระยะ50-100เมตรเป็นอย่างน้อย
มีสติตลอดเวลาตอนขับรถ อย่าเอ๋อ อย่าเบลอ
ไม่คุยหรือเล่นโทรศัพท์มือถือขณะขับรถ
-
ขับ120 1วิ วิ่งไป 33 เมตร
แค่รีแอคชั่นไทม์ ก็ชนคันหน้าแล้ว ถ้าเว้นระยะแบบเท่าที่เห็นบ่อยๆ
ถ้าใครเคยไป พวกงาน driving experience จะรู้ครับ ว่ายิ่งเร็วต้องเผื่อระยะเบรคไว้ เป็น เท่าทวีคูณ
ในกรณี จขกท อาจจะต้องปรับตัว ขับเลนกลาง แล้วเว้นระยะเยอะๆ
เพราะถ้าจะแก้ที่ ไม่ให้คนขับมุดไปมาแซงไหล่ทาง หรือจะมห้ตำรวจกวดขันคงยาก
แก้ที่ตัวเองง่ายกว่า ทุกวันนี้ผมก็ขับเลนกลางครับ เพราะลูกเล็ก ก็ต้องอาศัยประสบการณ์ มาระวังตัวเอาเอง
ส่วนคนที่ขับมุดๆ แซงไหล่ทาง พวกนี้มีความเสี่ยงที่จะชนมากกว่าปกติอยู่แล้ว ก็ให้เค้ารับความเสี่ยงกันเอง ปีๆนึง คนไทยอุบัติเหตุ บนถนน ตายกันสองหมื่นกว่าคน ขับแบบนั้น โอกาสเสียชีวิต บาดเจ็บ พิการ ก็มากขึ้นตามไปเอง
-
นิสัยการขับขี่ก็มีส่วน ส่วนใหญ่ที่พบบ่อยคือชอบจี้ตูดรถเลนขวากัน ไม่เข้าใจว่าทำแล้วมันเท่รึไง พอมีเบรกกระทันหันก็กลายเป็นโกโก้ครั้น
-
เอาจริงๆนะครับ มันเพราะเป็นผู้ใชถนนขับเร็วและขับชิดกันเกินไปครับ
ผมเข้าใจว่าคุณคิดว่าคุณขับห่างแล้ว แต่ก็คงห่างไม่พอปลอดภัย และคันหน้าๆก็ขับชิดกันเกินไป
คันหน้าเลยต้องเบรกกระทันหัน พอกระทันหันหลายๆคันแล้วก็หนักขึ้นจนชนครับ
สังเกตนะครับ จุดนี้ทั้งสองฝั่งเลย รถจะชอบติด ไม่ใช่จากอุบัติเหต ก็จากรถติดเลี้ยวเข้าออกวงแหวน
แต่ก็ยังมีคนเบรกไม่ทันทุกที ละก็ชนทุกที มันก็ชัดอยู่แล้วครับว่าชะล่าใจในการเบรกและขับเร็วขับชิดเกินไป
+1 ครับ
เข้าใจเลยครับ ถ้าไม่เคยเกิดกับตัวสักครั้ง มันจะมีวูบที่คิดว่า เอาอยู่น่า ไม่เป็นไรหรอก
นั่นคือเรามีความประมาทในใจ ชะล่าใจไปหน่อย
ทีนี้พอเกิดกับตัวแล้ว ครั้งถัดไปมีบทเรียนแล้วมันจะระวังมากขึ้นครับ ฮ่าๆ
ท่องไว้ อย่าประมาทๆๆ แต่ทำจริงไม่ได้ 100% สักที :P
+1 เช่นกันครับ
นั่นเป็นสาเหตุหลักของปัญหาเลย แล้วกรณีแบบนี้เลิกพูดว่าแช่ขวาด้วย เพราะสภาพโดยรวมของจราจรคือ
รถเต็มพื้นที่และไหล ๆ ไปตาม ๆ กัน เพราะฉะนั้น เมื่อจังหวะมันแซงไม่ได้คือแซงไม่ได้ ไม่ต้องไปจี้ไปไล่ให้คนอื่นเขาหลบ
อันนี้ขอย้ำอีกทีนะครับว่าเป็นกรณีที่รถเยอะ วิ่งกันทุกเลน รถวิ่งกันเต็มพื้นที่ถนน นะครับ
และเมื่อทางข้างหน้ามีทางร่วมทางแยก ยังไงมันก็ต้องมีจังหวะที่ชะงักกันอยู่ ต้องใจเย็น ตาม ๆ กันไปครับ
อย่าพยายามมุด แทรก ดัน แบบจะไปให้ได้ดังใจ ไม่อย่างนั้นมันจะเป็นการเพิ่มความ turbulence ไปขัดกระแสการลื่นไหล
ของจราจรเข้าไปอีกครับ ไว้ถ้าถนนข้างหน้าโล่ง ๆ แล้ว จะยังไงก็เป็นอีกเรื่องครับ
-
มันก็เหมือนแถวพระราม2 แยกเข้ากาญจนาครับ
พวกขับแบบไม่สนโลกเยอะมาก เพลินๆถึงทางแยกแล้วค่อยมาตัดเลนเอาใกล้ๆ
ทำแบบจีนกะญี่ปุ่นเลยครับ
ขวาสุดเส้นทึบ 1 กิโลก่อนถึงแยก
แล้วลดไปเลนซ้ายเรื่อยๆตามลำดับ
ใครข้ามเส้นทึบ ถ่ายรูปส่งบ้านปรับหนักๆไปเลย
ไปรอให้คนขับรถมันใช้สามัญสำนึก มันไม่มีกันหรอก
-
ขับรถเก๋งรึเปล่าครับ ถ้าเว้นระยะห่างพอ ไม่น่าจะชนรถกระบะนะครับ ตอนที่ผมขับรถใหม่ ๆ ขับ CAMRY รุ่นไฟไม้บรรทัด ไปกับพ่อใช้ถนนบรมฯ ขาเข้า จำได้ว่าเป็นวันวิสาข เพราะรถเยอะพอสมควร ผมขับมาค่อนข้างเร็ว พอเจอรถติดก็เบรคกะทันหัน คันผมเบรคทัน แต่วีโก้ที่ตามมาเบรคไม่ทัน ชนผมเข้าเต็ม ๆ โชคดีที่ผมยังเหยียบเบรคซ้ำทันพอที่จะไม่ชนคันหน้า กับกันชน CAMRY รุ่นนั้นแข็งมาก มีแค่สีร้าว ๆ เท่านั้น ไม่บุบ ไม่ยุบ แต่วีโก้นี่ยุุบถึงหม้อน้ำ ขับต่อไม่ได้เลย รอประกันนานมากเพราะชนแถว ๆ โรงกษาปณ์ หลังจากวันนั้น ผมจะเช็คกระจกหลังตลอดว่าคันที่ตามมาอยู่ใกล้แค่ไหน ถ้าใกล้มาก ผมก็จะเว้นระยะห่างเพิ่ม เพื่อไม่ให้ต้องเบรคกะทันหันครับ
สำหรับมอเตอร์เวย์ ช่วงนั้น ชั่วโมงที่รถติด ๆ เลนกลางกับซ้ายจะไปได้เร็วกว่าครับ บางทีเลนขวาก็เว้นช่วงกันห่างมาก สัก 3-4 คันได้ ผมจะเปิด Google Map เช็คเส้นทาง การจราจรไว้ พอใกล้ช่วงรถจะติด ก็ยกคันเร่ง เปิดไฟเลี้ยว หาทางเข้าเลนกลาง กับซ้ายไว้เลยครับ
-
วิธีแก้ล้อล็อคคือ ถอนเท้าออกจากเบรค แล้วเหยียบเบรคใหม่ครับ จังหวะที่ถอยเท้าออก จะควบคุมรถได้แป๊บนึงครับ
-
รถที่ไม่มี abs ต้องใช้ความชำนาญ ในการถอนเบรค แล้วเบรคใหม่อย่างเร็ว เพื่อไม่ให้ล้อล๊อค
แต่มันคงไม่ถี่เท่า abs แต่ลดความเสียงในการไหลไปชนได้
ใช้ engine brake ช่วย เมื่อยาวฉุกเฉิน ดึงลงเกียร์ต่ำทันที พอชวยได้ ทำได้แค่นี้
ถ้าใกล้มากก็ช่วยไม่ได้ ต่อให้มี abs รถมันขับเองไม่ได้ คนต้องประเมิณตลอดเวลา ไม่เอาตัวเองไปอยู่ในเหตูการณ์เสี่ยง
เกี่ยวไรกับ ABS ??? งั้นรถเก่าที่ไม่มี ABS ป่านนี้คงชนกันวินาศแล้วมั้ง รถกระบะคอกบรรทุกหนัก พวกนี้ออกรถมา วางเพลาลอย เขาตัด ABS ทิ้งกันหมด แบกของ 4-5 ตัว วิ่งเป็นร้อย ก็เห็นเกลื่อนลานตลาดทั่วประเทศ ไม่เห็นมีใครชนกัน ตรงข้ามเห็นพวกรถใหม่ๆชนท้าย ลงข้างทาง ล้วนมีแต่รถใหม่ๆมี ABS ทั้งนั้น ABS มันไม่ได้วิเศษวิโสไรขนาดนั้น
-
ไม่อยากชนท้ายก็เว้นระยะห่างเยอะหน่อย กฏหมายก็กำหนดไว้ อย่าอ้างรถไม่มี abs เลยครับ
-
ผมใช้วิธี ไม่ตามตูดคันหน้าเต็มๆ จะเบี่ยงไว้ซ้าย หรือไม่ก็ขวาหน่อยๆ เผื่อหลบ
มีหลายครั้งที่เจอเบครกระทันหัน ก็ช่วยได้เยอะครับ
แต่ครั้งล่าสุดไม่รอด หลบตูดคันหน้าทันแต่ถนนลื่น เสียหลักลงข้างทางชนเสา :'(
ขับแค่ 80
คันที่ประสบอุบัติเหตุข้างหน้าผม เค้าไม่มี ABS เค้าใช้วิธี ย้ำปล่อยๆ หน้าไปจูบแบริเออร์ข้างทาง
ต้องระวังครับ ไม่รู้ว่าข้างหน้าเราจะเกิดอะไรขึ้น หรือเค้่าจะตกใจกดเบรคจมตอนไหน
ความตกใจของคนเราไม่เท่ากัน ;)
-
ตรงนั้นชนประจำไม่ขวาก็ซ้าย อยู่ตรงกลางเว้นมากๆยังไงก็รอด
ยางก็หาตัวtopของค่ายใดๆมาใส่ครับอย่าเน้นถูก ระยะเบรกมันต่างกันหลายเมตร
เกิดอุบัติเหตุรถหาเงินซื้อใหม่ได้แต่คนเจ็บตัวไม่คุ้มครับ
-
ขอบคุณทุกความเห็นมากครับ รับฟัง และจะระมัดระวังมากขึ้นครับ
ผมขับรถเก๋ง ส่วนตัวตอนนั้นผมคิดว่าชะลอจนเว้นระยะห่างมากพอแล้ว แต่ก็ยังไม่พอจริงๆ
เรื่อง ABS คือตอนกดเบรกเต็มที่ ผมรู้สึกว่าพวงมาลัยรถสะบัด รถไถลออกซ้าย เลยคุมรถไม่อยู่ มี Revo อีกคันนึง เคยเบรกกระทัน แต่ก็ควบคุมรถได้
เรื่องยาง ก่อนหน้านี้เคยใช้ Goodyear Tripplemax รู้สึกระยะเบรกดีกว่า Dunlop ตัวนี้ แต่ตาม ตจว หายางไม่ได้เลย
ขอแชร์อีกเรื่องนึงครับ หลังจาก จนท มาถึง เค้าบอกให้ผมขึ้นไปรอในรถทันที เพื่อป้องกันอันตรายจากการเกิดอุบัติเหตุซ้ำ เพราะอยู่ในรถปลอดภัยกว่าอยู่ข้างนอก และจะปิดถนน ให้เราเตรียมเคลื่อนย้ายรถออกไปช่องซ้ายสุดครับ
-
เวลาเกิดเหตุ มักโทษโน่นโทษนี่ก่อน มาคิดว่ารถที่มีระบบช่วยเช่นเบรคเองจะช่วยให้รอดได้ ลองดูสเปครถเริ่มต้นที่มีเช่น มิตซู มิราจ มาสด้า2 เป็นต้น พวกนี้เคลมไว้ว่านะยะเอาอยู่คือความเร็วไม่เกิน 30 กิโลเมตร คิดว่ามอเตอร์เวย์เราใช้ความเร็วต่ำกว่า 30 รึป่าว ถ้าใช้จริงในจราจรปกติ อันตรายมาก หรือที่สเปคสูงๆอย่างวอลโว่เจนล่าสุดก็อยู่ที่ความเร็วประมาณ 60-70 แต่มีคลิปทดสอบลองได้ถึง 80 เลย พวกนี้ก็พอช่วยได้ แต่มีกี่คนที่มีโอกาสได้ใช้รถสเปคแบบนี้ ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่เงินระดับนี้ก็ไปออกเยอรมันกันหมด สเปคก็ดรอปลงไป หรือไม่มีเลยก็ได้
จริงๆเริ่มจากตัวเองง่ายสุด รู้ว่ารถไม่มี abs ก็ฝึกคุมน้ำหนักเบรค ถ้าทำได้จนชำนาญ สามารถหยุดรถได้สั้นกว่ารถที่ไม่มี abs และการขับรถต้องมองข้างหน้าให้ไกล รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นข้างหน้า ถ้ามองไม่เห็นก็ลดความเร็วลงมาในระดับที่คิดว่าปลอดภัย หากมีเหตุอยู่ในระยะเบรคทัน ฝึกทักษะการขับรถให้ดี จะทำให้มีประสบการ์ณการขับรถที่ดี ถ้าทักษะไม่ดี ขับนานแค่ไหนก็ไม่ได้ช่วยอะไร คนไทยเป็นกันแยอะ ขับรถได้แต่ขับไม่เป็น
-
แซงซ้าย ไม่เท่ากับ มุดซ้าย
มุด = โยก โผล่พรวดจากขวาไปซ้ายแบบไม่มองอะไรใดๆ
รถเตี้ยๆ เวลาโดนบัง มันมองไม่เห็น ขนาดมองไม่เห็นก็ยังกล้ามุดเข้าไป
ถ้าเจอรถจอด รถช้า ก็หน้ายับทุกราย
แซงซ้าย = ตบไฟเลี้ยว มอง แล้วเร่งแซง
ผมเจอรถช้าแช่ขวา ถ้าไม่หลบ ผมก็แซง แซงไม่ได้ ก็รอจังหวะ แค่นั้น
-
Motorway ให้ใช้ความเร็วได้สูงสุด 120 km/h. ปกติก็ขับ 120 ตลอด ส่วนใหญ่วิ่งอยู่ 2 เลนขวาสุด ใครมาเร็วกว่านี้ก็หลบซ้ายให้อีก 1 เลน
จะติดยังไงก็ไม่เคยวิ่งเลนซ้ายนอกจากจะเปลี่ยนเส้นทางออกจาก Motorway เพราะส่วนใหญ่จะมีรถบรรทุกวิ่งอยู่ บางครั้งกลับถูกรถที่ซิ่งเลนซ้ายบีบแตรไล่ เข้าใจว่าน่าจะหงุดหงิดมาจากการที่หลบรถช้าแช่ขวามาแล้วไปต่อไม่ได้
เวลารถคันหน้าเบรคกระทันหัน จะเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินเตือนคันหลังให้รู้ก่อนกลัวคันหลังเบรคไม่ทัน ไม่เปลี่ยนเลนกระทันหัน เห็นบางคันหัก
เปลี่ยนเลนไม่ให้สัญญาณอะไรเลย คันหลังมาเร็วๆไม่เห็นก่อนก็เบรคกันหัวทิ่มหัวตำ
กลับมาเข้าเรื่องว่า "ทำยังไงถึงจะแก้ปัญหาอุบัติเหตุมอเตอร์เวย์..." จริงๆน่าจะหมายถึงถนนทุกเส้นเลย
- ผู้ใช้รถปฏิบัติตามกฎจราจร เข้าใจว่ามีกำหนดไว้ครอบคลุมไว้หมดแล้ว
- เจ้าหน้าที่เข้มงวด จับรถช้าแช่ขวาให้หมด เมื่อรถช้าแช่ขวาไม่มี รถซิ่งรูดซ้ายน่าจะหายเยอะแล้วครับ
- ขับรถบนถนนร่วมกัน เมื่อเห็นความเสี่ยงตรงหน้าอย่าคิดแต่จะเอาตัวรอดคนเดียว ส่งสัญญาณให้ผู้ร่วมทางรู้บ้าง น่าจะลดอุบัติเหตุได้เยอะแล้วครับ
-
ไม่อยากชนท้ายก็เว้นระยะห่างเยอะหน่อย กฏหมายก็กำหนดไว้ อย่าอ้างรถไม่มี abs เลยครับ
บางคนเข้าใจว่า ABS คือระบบทำให้เบรคสั้นลง หยุดรถได้ตามสั่ง แต่เอาเข้าจริง ABS เบรคแรง มีล้อล้อคนะครับ แถมสะบัดหมุนด้วย น้องที่ทำงานผมขับ Civic FC ไปโคราช รถพ่วงกลับรถตัดหน้า วิ่ง 90 เบคร ทืบเบรค พวกมาลัยตีซ้ายกะทันหัน ฟาดข้อมือหัก รถหมุนกลิ้งลงข้างทาง ทั้งที่รถก็มี ABS ตัวช่วยมากมาย ผมขับมาตั้งแต่ Strada BiGM Tiger สมัยยังไม่มีเบรค ABS จนมาขับรถให้ บริษัท ขับรถให้นาย พวก Prado มีไม่มี ถ้าไม่กะระยะเบรคดีๆ ไปหมดทุกคัน
-
ไม่ทราบเงื่อนไขและสถานการณ์
แต่ปกติ ขับรถตามคันหน้า ผมเว้นระยะให้พอจะเบรคในกรณีฉุกเฉินได้ทันเสมอครับ
ยิ่งถ้าขับรถเก่าๆ ไม่มี ABS ผมก็คงยิ่งระวังครับ
-
สำหรับผม วิ่งมอเตอร์เวย์ทุกวัน (ศรีราชา - ชลบุรี) ส่วนมากผมมักจะขับเลน 3 จากซ้ายมือ ซึ่งผมมองว่าเป็นเลนที่ปลอดภัยที่สุด และจะเว้นระยะพอสมควรครับ(มากกว่า 3 ช่วงคัน)
ไม่ว่าจะมีหรือไม่มี ABS ผมขับเหมือนเดิมตลอดครับ
-
ไม่มี ABS ยางต้องดีเลย เพราะเบรคปล่อยๆ
ยิ่งเป็น LM704 มันยางจอมลื่นจอมบวม เลยทำให้เบรคไม่อยู่
-
ตรงบริเวณนั้นจะมีรถที่จะเข้าไปสาย 9 กาญจนาภิเษกเบียดจากขวาไปซ้ายเพื่อเข้าทางยกระดับทับช้างและแยกไปบางนาขตราดเยอะมากและมากันเร็วด้วยจึงเป็นจุดเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตูได้ง่าย
วิธีแก้ปัญหาคือ
กรมทางหลวงควรเพิ่มป้ายบอกทางและกำกับช่องจรจราบริเวณนี้ให้เยอะและชัดเจนขึ้นน่าจะช่วงลดจำนวนอุบัติเหตุลงได้
ต้องฝึกฝนตนเองให้ระมัดระวังเพิ่มขึ้นมองให้ใกลขึ้นครับ ในกรณ๊นี้ถึงจะมี ABS แต่ไม่หักหลบก็เอาไม่อยู่ครับ ABS จะทำให้ระยะเบรคเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ
บ้านเราใช้พวงมาลัยขวา เพราะฉะนั้นการขับรถชิดขอบทางด้านซ้ายให้มากที่สุดในทุกกรณี จะทำให้การมองเห็นพื้นที่การจรจาจรข้างหน้าได้ดีกว่าวิ่งเลนขวาแน่นอน เมื่อมองเห็นพื้นที่พื้นที่การจรจาจรข้างหน้าได้มากกว่า ก็ย่อมเห็นและคาดการณ์เหตุการร์ที่จะเกิดขึ้นได้ดีกว่า
ส่วนตัวถ้าขับผ่านทางร่วมที่บรรจบเข้ามาทุกจุดบนทางพิเศษต่างๆ ผมจะชะลอรถและขับชิดด้านซ้ายให้มากที่สุด เพราะไม่รู้เป็นอะไรกันนักหนาคนส่วนใหญ่ที่มาจากทางร่วมมักจะพยายามออกเลนขวากันจังทั้งๆที่ความเร็วของรถตัวเองยังต่ำกว่ารถทางตรงอยู่มากมาย ชอบออกมาขวางหน้าตาเฉยซะงั้น ต้องให้คันที่มาจากเลนหลักต้องเบรค ต้องดริฟไฟใส่จะชะลอ ปวดตับจริงๆๆๆๆ
-
มอเตอร์เวย์ จากศรีนครินทร์ เลี้ยวซ้ายเข้ามอเตอร์เวย์
รถสองเลนขวาขับค่อนข้างช้า สุดท้ายก็ต้องไปสองเลนซ้าย
เผลอต้องวิ่งซ้ายสุดด้วยซ้ำ (ผมไม่วิ่งไหล่ทางอยู่แล้ว)
มอเตอร์ขาเข้า จากกิ่งแก้ว ออกศรีนครินทร์นี่ก็อีก
สองเลนขวานี่อย่างช้า บีบแตรเตือน เปิดไฟเตือนก็แล้ว สรุปกรุผิดเอง
วิ่งซ้ายยาวๆเลย รำคาญ
-
ผมว่าส่วนนึงอาจจะเป็นเพราะขับชิดคันหน้าเกินไป
แต่ก็เข้าใจดี เพราะถ้าทิ้งห่าง หน่อยนึง ก็จะมีพวกมาชอบแทรก
บางคันก็มาจี้ตูดเราซะจนนึกว่ามาหาเรื่องเรา
(แต่เปล่า กลัวคันอื่นมาแทรก)
เหตุการณ์แบบนี้มันไม่ได้เกิดเฉพาะมอเตอร์เวย์หรอกครับ
สายเอเซียขาเข้าก็เจอประจำ ขับกันชิดมาก แม้แต่มอเตอร์ไซค์ยังปาดเข้าไม่ได้
สุดท้ายก็เกิดอุบัติเหตุ
ส่วนตัวผมเจอช่วงรถเยอะๆ ตามกันชิดๆ แบบนี้ ผมจะหาที่แวะ รอให้รถมันโล่งหน่อยค่อยไปต่อ
หรือ ยอมขับช้ามาอยู่เลนทางซ้ายแทน
ผมมองว่าขับชิดกันมากๆ แบบนี้ ABS BA ก็อาจจะช่วยอะไรได้ไม่มาก
เพราะถ้าจังหวะรถเยอะๆ มันก็หักหลบไม่ได้
หรือรอเราเบรคดีมาก แบรมโบ้ 8 พอต คันหลังก็อาจจะเบรคไม่ทัน ชนท้ายเราอยู่ดี
-
ง่ายๆเลยคือเว้นระยะห่างไม่พอ...ไม่งั้นคงเบรคทันไปแล้วครับ ท่านที่ยังคิดว่าแน่ก็ทำต่อไป...ท่านจะได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรงด้วยตัวเองครับ.