Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: hottoh ที่ กุมภาพันธ์ 20, 2020, 09:18:37
-
โจทย์ผม :( :( :(
มีครอบครัว ลูก 1 คน(อานุ2ขวบ นั่งคาร์ซีท) ภรรยา นั่งด้านหลังกับลูก ประจำ
ใช้ขนของบ้าง ขนส่งพัสดุ กล่องใหญ่ๆ(ขนาดพอๆ ตู้เยนเล็ก )
ส่วนมากขับในเมือง ออกต่างจังหวัด น้อย
รถกะใช้ยาวๆ ครับ
1.ด้วยราคา 3gt ตัว demo ราคาค่อนข้างดี สภาพรถค่อนข้างไว้ใจจากที่ออกมาจากศูนย์ BMW ส่วน bsi เหลือ 4 ปีกว่าๆ
GLC รถเต้น รถมือ 2 ราคาแพงกว่า 3gt 2-3แสน
2.อยากทราบการขับขี่เทียบกัน ลอง GLC แล้ว แฟนชอบ แต่ยังไม่ได้ลอง 3gt
3.มองในด้านภาพลักษ์ 3gt กำลังตกรุ่น(บางคนว่าข้างในค่อนข้างโบราณ) แต่สำหรับผม มองที่การใช้งานมากกว่า ถ้าเทียบกับ GLC ไม่ตกรุ่น
4.มองในด้านความคุ้มค่า 3gt vs GLC
สรุปโดยรวมควรไปรุ่นไหนดีครับ
:) :)ยังไงขอคำแนะนำด้วยครับ ขอบคุณมากครับ :D :D
-
เป็นผมเอา glc ครับหน้าตาทันสมัยกว่าตัวรถก้ไม่ได้มีปัญหาอะไรเหมือนๆกัน หน้าตาดูยังทันสมัยได้อีกอย่างน้อย 2-3 ปี ส่วน 320d gt มันโบราณตั้งแต่ออกมาละครับ
-
320d GT ครับ
แต่ถ้าจับคู่กับ GLC250d Coupe ผมจะไป GLC 250d Coupe ครับ
-
320GT จะไม่มีผลิตบอดี้นี้อีกแล้ว ซึ่งมองได้หลายมุมด้วยครับ
มีลูกเล็ก ถ้าเป็นผมจะวัดที่ออปชั่นความปลอดภัยคนนั่งก่อนเลย ต่อมาก้อเรื่องรุ่นไกนเสียจุกจิกแค่ไหน มากน้อยกว่ากัน
สุดท้ายก้อความชอบ สวยงาม แบรนด์ ภาพลักษณ์ ประมาณนี้ครับ
-
3gt ราคาค่อนข้างดีนี่เท่าไหร่ครับ
เพราะรถใหม่ป้ายแดงปกติเลยก็มีส่วนลดเยอะนะครับ มีคนจบได้ 2.2xx พร้อม bsi 6 ปี
ซึ่งราคา demo ที่เห็นขายๆกันผมเจอมาไม่ต่างจากป้ายแดงหักส่วนลดเลย
-
3gt ราคาค่อนข้างดีนี่เท่าไหร่ครับ
เพราะรถใหม่ป้ายแดงปกติเลยก็มีส่วนลดเยอะนะครับ มีคนจบได้ 2.2xx พร้อม bsi 6 ปี
ซึ่งราคา demo ที่เห็นขายๆกันผมเจอมาไม่ต่างจากป้ายแดงหักส่วนลดเลย
3GT Demo ได้ราคา 2.1 รวมประกันครับ
GLC มือ2 ตอนนี้หาได้ 2.39 ไมล์ราวๆ 2-3หมื่น
ครับ
-
ลองนั่งเปรียบเทียบสิครับ จะได้คำตอบเลย
320d GT จะสูงกว่า 320d ปกติเล็กน้อย เข้าออกง่าย แต่จุดเด่นจริงๆคือความกว้างแถว 2 และที่เก็บสำภาระหลังที่ใหญ่
ส่วน GLC ได้เรื่องความสูง แต่เบาะแถว 2 เตี้ย สั้น และแคบ ส่วนที่เก็บสัมภาระหลังเล็กกว่า
ผมพึ่งมีลูกเหมือนกัน เวลาซื้อรถดูปัจจัยเหล่านี้เป็นหลักครับ
-
320 gt ถ้าเดโม่ราคานี้ เอารถใหม่ดีกว่าครับ แพงกว่านิดเดียว
-
รถเดโม่ หมายถึงรถโชว์ที่ไม่ใช่รถ test drive ใช่มั้ยครับ
ถ้าใช่ ผมเอาอันนี้แหละ เครื่อง เกียร์ ช่วงล่างไม่เสียหายแบบพวกรถมือ 2 ครับ
GLC มือ 2 ต่อให้วิ่งน้อย แต่ใช้จริง มันช้ำไปแล้ว คุณไม่มีทางรู้ว่ามันช้ำไปเท่าไหร่
-
รถเดโม่ หมายถึงรถโชว์ที่ไม่ใช่รถ test drive ใช่มั้ยครับ
ถ้าใช่ ผมเอาอันนี้แหละ เครื่อง เกียร์ ช่วงล่างไม่เสียหายแบบพวกรถมือ 2 ครับ
GLC มือ 2 ต่อให้วิ่งน้อย แต่ใช้จริง มันช้ำไปแล้ว คุณไม่มีทางรู้ว่ามันช้ำไปเท่าไหร่
เป็นรถผู้บริหาร ที่ใช้แล้วประมาณ 7-8,000โล ครับ
-
ถ้าสนใจ 3GT demoในราคา 2.1 แนะนำเอาเป็นรถใหม่ไปเลยดีกว่าครับ น่าจะ 2.2 นะครับตอนนี้
ขอให้ข้อมูลคร่าวๆ เนื่องจากผมใช้ 3GT Luxury (ตัวก่อนที่จะ LCI) เผื่อประกอบการตัดสินใจแล้วกันนะครับ
ตั้งแต่ใช้มา 4ปีแล้ว ตอนนี้จะ 80,000km แล้วครับ รถดี ไม่จุกจิก ครับผม
สิ่งที่ทำให้ชอบก็คือ
- ประตูแบบไร้กรอบกระจก
- ฝาท้ายไฟฟ้า
- พื้นที่ ที่นั่งตอนสองยืดขาได้สบาย
- Spoiler ยกขึ้นยกลงได้ (จะยกขึ้นตอนความเร็วถึง 110 km/h)
ส่วนสิ่งที่ไม่ชอบ และเป็นข้อจำกัดก็คือ
- ตัวเบาะพนักพิงหลัง ที่ทำมาเกือบจะแบนแต๊ดแต๋ นั่งไม่สบายไหลไปไหลมา
เนื่องจากว่ามันต้องสามารถพับลงมาได้ (ซึ่งพวก CRV City ก็พับได้ แต่นั่งสบายกว่าเยอะ)
- ข้อจำกัดคือพื้นที่เก็บของด้านหลังตามที่บอกว่า มีกล่องขนาดเท่าตู้เย็นเล็กที่จะต้องขนบ้าง คือเมื่อต้องการใส่ของที่มีความสูงอาจจะปิดฝาท้ายไม่ได้
แต่แก้ไขด้วยการพับเบาะลงไปแล้วขยับของเข้าไปให้พ้นระยะปิดฝาท้ายนิดนึงครับ แต่ก็จะเสียที่นั่งไปที่นึงครับ
แต่ถ้าวางนอนไปตามแนวยาวได้ อันนี้ไม่มีปัญหาเลยครับ
- คนชอบทักว่าเหมือน Honda City ตัวก่อนปัจจุบัน
- ราคาขายต่ออาจะได้แค่ล้านต้นๆเท่านั้น
ปัญหาเล็กน้อยประจำรุ่นก็คือ
- ยางขอบกระจกบานหน้า และแถบตรงใต้ฝากระโปรงจะชอบเป็นรอยด่าง หลังจากการโดนน้ำ ไม่ว่าจะล้างรถหรือเปียกฝน
ไม่รู้รุ่นหลัง LCI แก้รึยัง (แต่เคลมได้ครับ ไม่มีปัญหา) และหลังเคลมเอาไป Wrap เลยก็ดีครับ ข้างละ 100-200
- ซากยุง ซากแมลง ตามขอบไฟท้าย ไม่รู้มันเข้าไปได้ยังไง และยังไม่มีใครที่รู้จักเคยขอเคลมเปลี่ยนโคมได้นะครับ ทำได้แค่มองข้ามมันไปครับ
- เวลาถอยหลังแล้วหักพวงมาลัยเกือบๆสุด จะมีเสียงตึ้งๆ ดังมาจากใต้รถ (เคยมีคนเคลมแร็คพวงมาลัยแล้วหายครับ)
- มือจับประตูเหนียว (เคลมได้ครับ)
ลองดูตัวรถก่อนนะครับ ตัวรถจะมี Sport Line กับ Luxury Line มีออพชั่นต่างกันอยู่เล็กน้อย แต่รถราคาเท่ากัน
ลองถามเซลล์ดูนะครับ เผื่อได้ตัว Sport ที่เป็นตัวที่แต่ง M sport มาด้วยเลยก็จะดีมากๆ และสวยมากๆเลยครับ
เพิ่มเงินอีกนิดเดียว (แต่งเองแค่พาร์ท ราคาศูนย์ประมาณแสนนิดๆครับ)
ดูภาพประกอบจากลิงค์นี้ก็ได้ครับ
http://www.headlightmag.com/official-price-bmw-320d-gt-m-sport-thai/
สิ่งที่ Sport Line จะมีมากกว่าคือ
- ลายล้อจะไม่เหมือนกัน ดู Sport กว่า
- Trim รอบๆ คันจะเป็นสีดำด้าน (Luxury จะเป็นโครเมียม)
- ภายในตรงคอนโซลและมือจับประตู จะเป็นแถบสีเงินๆ (Luxury จะเป็นลายไม้)
- มี Paddle Shift (Luxury ไม่มีนะครับ ถ้าอยากเล่นเกียร์ต้องดึงที่คันเกียร์เท่านั้น)
- หัวเกียร์จะขนาดใหญ่ (หน้าตาไม่เหมือนตัว Luxury ครับ)
- ที่รองน่องสามารถปรับดึงยืดหดได้ (Luxury ทำไม่ได้ครับ)
- โหมดขับขี่แบบ Sport Plus (Luxury จะสุดที่โหมด Sport ธรรมดาครับ)
หลักๆก็จะประมาณนี้ครับ เผื่อเซลล์ไม่แจ้ง แล้วเสียใจทีหลังแบบผม T__T
เรื่องการชับขี่ก็ประหยัดน้ำมันปกติตามนิสัยรถ BMW เครื่องดีเซลเลยครับขอข้ามตรงนี้ไปแล้วกันนะครับ