Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: MoO Cnoe ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2020, 11:33:04
-
Nissan KICKS e-POWER เตรียมเปิดตัวในไทย 19 มีนาคม นี้ !
" ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า แต่เติมน้ำมันได้แบบรถปกติทั่วไป
โฉม Minorchange ครั้งแรกในโลก !
อ่านข้อมูลทั้งหมดได้ที่นี่
http://www.headlightmag.com/nissan-kicks-e-power-thailand-19mar-2020-minorchange/
(https://www.img.in.th/images/2d8113e449f34ba62144be193a4a3391.jpg)
-
ดูดีน่าสนใจแต่รอราคากับอัตราเร่งจะเป็นอย่างไร
-
อยากให้มีซันรูฟครับ
:)
-
คันนี้เอาแน่ ไม่ปีนี้ก็ปีหน้า
อีก 5 ปีค่อยซื้อ EV
-
เอามาติด lpg ไม่ต้องกลัวแรงบิดหาย
-
ขนาดไม่เล็กเลยนะนั่น
พอๆกับ HS เลย
ปิดไลน์พี่ชายได้สบายๆเลยแบบนี้
-
มีความคิดว่า เครื่องยนต์ปั่นไฟรอบคงที่ การสึกหรอน่าจะต่ำกว่าปั่นล้อเร่งไปเร่งมา
แต่อาจจะมาเปลืองซ่อมพวกระบบไฟฟ้านี่แหละ
-
มันไม่น่าซื้อก็ตรง E-Power นี้ละ จอดใว้บนโชว์รูมนั้นละ
-
ไฟหน้าสงสัยใช้ร่วมกับalmera
ดูตรงกรอบประตูหน้าเสาa ของไทยน่าจะได้ตัวbodyแบบus
-
มาไวๆครับรอตัดสินใจกันcx30 อยู่
-
ด้านหลังไม่ค่อยลงตัวเลย แต่รถน่าจะโอเคอยู่นะครับ
-
การตลาดให้ดี ถึงรอด
ขนาด Almera ตอนนี้ การตลาดอะไรไม่รู้
-
ค่าบำรุงรักษาที่เพิ่มขึ้นคือ เครื่องยนต์ มอเตอร์ แบตเตอรี่ คิดถูกไหมครับ
แต่คิดว่ามอเตอร์และแบตเตอรี่อาจจะไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรมากจนกว่าจะพังหรือถึงเวลาเปลี่ยน
-
อยากให้มาร์ชใหม่มามากกว่า. นิสสันเตะ มองยังไงก็ไม่สวยกังกระจังหน้าฟันหนูยักษ์
-
ผมว่านี่แหละ คือเทคโนโลยีรถยนต์ที่ควรจะเป็นในอนาคต ....
เครื่องยนต์มีหน้าที่ปั่นไฟอย่างเดียว ดังนั้น เครื่องยนต์ไม่ต้องใหญ่แรงม้าไม่เยอะ ทำงานในรอบที่กำหนดตลอดการใช้งาน ...
รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 100% โดยมีเครื่องยนต์ชาจน์ไฟฟ้าให้ตลอดสามารถเดินทางไกลหรือเดินทางไปไหนก็ได้ ไม่ต้องเสียบปลั๊คให้เสียเวลา ...
เนื่องจากเครื่องยนต์ขนาดเล็ก ทำให้ประหยัดเชื้อเพลิงมาก และมลพิษต่ำด้วย ...
แถมตัวเลขแรงม้าและแรงบิดจากมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดนี้ ผมว่าแรงเอาเรื่องเลยทีเดียวล่ะ ...
--แรงบิดสูงสุด 254 นิวตันเมตร ที่ 0 3,008 รอบ/นาที รถอะไรจะสู้มันครับ ... ---
-
เห็นบางคนออกอาการแหยกับ e-power ผมว่าไว้ของจริงมา มีคนรีวิวมีคนใช้จริงแล้วฟังจากปากเค้าก่อนเถอะครับ มโนไปซะไกลเชียว
-
ผมว่านี่แหละ คือเทคโนโลยีรถยนต์ที่ควรจะเป็นในอนาคต ....
เครื่องยนต์มีหน้าที่ปั่นไฟอย่างเดียว ดังนั้น เครื่องยนต์ไม่ต้องใหญ่แรงม้าไม่เยอะ ทำงานในรอบที่กำหนดตลอดการใช้งาน ...
รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 100% โดยมีเครื่องยนต์ชาจน์ไฟฟ้าให้ตลอดสามารถเดินทางไกลหรือเดินทางไปไหนก็ได้ ไม่ต้องเสียบปลั๊คให้เสียเวลา ...
เนื่องจากเครื่องยนต์ขนาดเล็ก ทำให้ประหยัดเชื้อเพลิงมาก และมลพิษต่ำด้วย ...
แถมตัวเลขแรงม้าและแรงบิดจากมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดนี้ ผมว่าแรงเอาเรื่องเลยทีเดียวล่ะ ...
--แรงบิดสูงสุด 254 นิวตันเมตร ที่ 0 3,008 รอบ/นาที รถอะไรจะสู้มันครับ ... ---
+1 ครับ ผมว่าตอนนี้ KICKS ดูน่าสนใจเพราะ E-POWER แหละ ต้องรอดูว่า ของจริงจะเป็นยังไง
ภายนอกส่วนตัวคิดว่ามันดูล่าหลังไปนิด ด้านหลังมีความ X-TRAIL นิดๆ
ขอเอาใจช่วยครับ เผื่อจะใจดีพิจารณาเปิดไลน์ SERENA ในไทยบ้าง
-
เคลมอัตราบริโภคเท่าไรครับ
-
คนไทยต้องการรถที่ประหยัด และแรงไงครับ มันตอบโจทย์ความแรงแบบรถไฟฟ้าล้วน ทั้งที่เติมน้ำมันได้ ไม่ประหยัดมาก แต่ในเมืองเครื่องยนต์ติดรอบเดินเบาน่าจะอัตราประหยัดดีกว่า มันมาคั่นจังหวะรถไฟฟ้าล้วน ที่ยังติดปัญหาสถานีชาร์จ อัตราสิ้นเปลืองได้ 20+ ทั้งในเมืองนอกเมือง พอแล้ว ที่ทุกคนอยากได้คืออัตราเร่งนี่ แต่คอยดูมีคนบ่นว่าล็อกความเร็วอีก รู้สึก note ล็อก 140
-
ผมว่านี่แหละ คือเทคโนโลยีรถยนต์ที่ควรจะเป็นในอนาคต ....
เครื่องยนต์มีหน้าที่ปั่นไฟอย่างเดียว ดังนั้น เครื่องยนต์ไม่ต้องใหญ่แรงม้าไม่เยอะ ทำงานในรอบที่กำหนดตลอดการใช้งาน ...
รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 100% โดยมีเครื่องยนต์ชาจน์ไฟฟ้าให้ตลอดสามารถเดินทางไกลหรือเดินทางไปไหนก็ได้ ไม่ต้องเสียบปลั๊คให้เสียเวลา ...
เนื่องจากเครื่องยนต์ขนาดเล็ก ทำให้ประหยัดเชื้อเพลิงมาก และมลพิษต่ำด้วย ...
แถมตัวเลขแรงม้าและแรงบิดจากมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดนี้ ผมว่าแรงเอาเรื่องเลยทีเดียวล่ะ ...
--แรงบิดสูงสุด 254 นิวตันเมตร ที่ 0 3,008 รอบ/นาที รถอะไรจะสู้มันครับ ... ---
+1 ครับ ผมว่าตอนนี้ KICKS ดูน่าสนใจเพราะ E-POWER แหละ ต้องรอดูว่า ของจริงจะเป็นยังไง
ภายนอกส่วนตัวคิดว่ามันดูล่าหลังไปนิด ด้านหลังมีความ X-TRAIL นิดๆ
ขอเอาใจช่วยครับ เผื่อจะใจดีพิจารณาเปิดไลน์ SERENA ในไทยบ้าง
เดี๋ยวจะอึ้งครับ ตัว mc เหมือนจะเป็น big minor change เลยครับ
-
มันน่าสนใจตรงที่เป็น e-Power นี่ล่ะครับ อยากรู้ว่าสมรรถนะจริงจะแตกต่างจากระบบ Hybrid ของค่ายอื่นอย่างไร หากมองแค่ภายนอกภายใน ไม่ได้รุ้สึกว้าวเท่าไหร่
อยู่ที่ราคาอย่างเดียวครับ ต้องถูกกว่า Hybrid ของเจ้าตลาดพอสมควรถึงจะน่าสนใจ
::)
-
ถ้าราคาดีทำการตลาดให้คนทั่วไปเข้าใจได้และวางใจกับ e-power ก็คงจะขายได้ดีครับ หากคนทั่วไปเอาไปเทียบกับไฮบริดค่ายอื่นๆคงจะมีความกังวลกับ bias เหมือนรถไฮบริททั่วไป
-
ภายในนี่ ใช้อะไร สหกรณ์ กับรุ่นไหนบ้าง ??? ช่องแอร์ คุ้นๆ
พวงมาลัย almera ???
หน้าปัทม์ almera ?????
ชุดจอควบคุมกลาง almera ????
-
Feedback เมืองนอกไม่ได้ว้าวเท่าไหร่นะ
ขับเร็วๆ ใช้ไฟเยอะก็ กินน้ำมันเท่ารถปกติ เห็นรีวิวจากคนใช้จริงใน note e hybrid บอกทำได้ 16-19 km l เอง
Camry Hybrid ผมขับแบบซิ่งๆเลย ยัง 19 kml ผมว่า E - power มันอาจจะดีเชิง concept แต่ขับจริงก็ดันทำตัวเลขได้ไม่ดีนัก
รอดูรีวิวคนใช้จริงๆอีกทีดีกว่าว่าจะปังหรือจะแป้ก
ถ้าอิงจากรีวิวเมืองนอก Skyactive X mazda นี่แรงกว่าแถมได้อัตรากินน้ำมันระดับเดียวกัน หรือมากกว่า ส่วน Toyota Plugin Hybrid ตัวใหม่ๆ ก็ประหยัดเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน 20kml ขึ้น ในการใช้งานจริงๆ
อีกอย่างเครื่อง hybrid 2.0 ตัวแรง ถ้าพี่โตเอามาใส่ใน CHR Minorchange นี่จะทั้งแรงทั้งประหยัดเลย
ถ้าพี่โต จับมือกับ mazda ทำ Skyactive X+ Hybrid นี่น่าจะประหยัดได้ยิ่งกว่านี้อีก
-
เดี๋ยวนะ ลำโพง BOSE อยู่ตรงพนักพิงศรีษะคู่หน้า??? :o
-
ภายในนี่ ใช้อะไร สหกรณ์ กับรุ่นไหนบ้าง ??? ช่องแอร์ คุ้นๆ
พวงมาลัย almera ???
หน้าปัทม์ almera ?????
ชุดจอควบคุมกลาง almera ????
เค้าใช้แบบนี้อยู่แล้วครับ เจตนา เพื่อลดต้นทุน อาจจะอับเกรดหนังบ้างคิดว่านะ
-
น่าจะพอขายได้ถ้าทำราคาไม่เกินรุ่นต่ำสุดไม่เกิน 900,000 เพราะผมว่ายังไงรถพลังงานไฟฟ้าจากแบตก็คืออนาคต การที่จะต้องเสียค่า MA ทั้งสองระบบมันเปลืองแถมอัตราประหยัดดูไม่ได้ดีกว่ารถปกติเท่ไาห
-
เสียดายน่าจะทำแบบมีแบตเก็บไฟปลั๊กอินได้ด้วยเพราะใช้ไฟฟ้าขับเคลื่อนอยู่แล้ว และลดขนาดเครื่องอีกก็ได้เพราะเอาไว้แค่ปั่นไฟเวลาแบตหมด แบบนี้จะประหยัดได้อีกมากๆ แต่คงเป็นเพราะต้องลดต้นทุนจริงๆ
-
ภายในนี่ ใช้อะไร สหกรณ์ กับรุ่นไหนบ้าง ??? ช่องแอร์ คุ้นๆ
พวงมาลัย almera ???
หน้าปัทม์ almera ?????
ชุดจอควบคุมกลาง almera ????
ไม่เห็นแปลกนิครับ almera และ Versa ต่างก็มีพื้นฐานเดียวกับ KICKS
Nissan KICKS เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2017 กว่าจะเปิดตัวในไทยปี 2020 ก็เป็นรุ่น MC
ถ้า almera และ Versa เปิดตัวรุ่น MC ในอีก 2-3 ปี ข้างหน้า ก็ไม่พ้นอุปกรณ์ต่างๆยกมาจาก Nissan KICKS MC
-
ไป Tawan ช่วงก่อนเห็นจอดริมถนน สวยมากครับ สีขาว ^^
-
เห็นบางคนออกอาการแหยกับ e-power ผมว่าไว้ของจริงมา มีคนรีวิวมีคนใช้จริงแล้วฟังจากปากเค้าก่อนเถอะครับ มโนไปซะไกลเชียว
ใช่ครับ ของยังไม่ทันมาเลย แต่ออกตัวกันซะแรง เทคโนโลยีมาใหม่ถ้ามันใช้ได้ดีก็จะเป็นทางเลือกที่ดีของคนใช้รถ บางคนบอก ไม่เอา ไม่ดี ทั้ง ๆที่ยังไม่เคยสัมผัสด้วยซ้ำ
-
ผมไม่ชอบหลักการของมันตรงที่มอเตอร์และเครื่องยนต์ทำงานแบบอนุกรมกัน
เกิดส่วนใดเสียหายไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์หรือมอเตอร์พังรถจะวิ่งไม่ได้ทันที
ต่างจากไฮบริคจ์บางเจ้าที่ระบบไฟฟ้าพังยังวิ่งด้วยเครื่องยนต์ได้อยู่ผมว่ามันดีกว่าอีกนะครับ
แล้วที่สงสัยคือแค่ปั่นไฟทำไมต้องใช้เครื่องยนต์ตั้ง 1200 CC ผมว่ามันเยอะเกินไปนะครับ
เอาเป็นว่ามันก็แค่ทางเลือกใหม่ใครชอบก็ซื้อครับ ผมคงขอมองเฉยๆละกันครับ
-
จะไปไฟฟ้าแต่ยังต้องเติมน้ำมันปั่นไฟอยู่มันก็ยังงัยๆอยู่นะ...
-
ระบบนี้เค้ามาเพื่อประหยัดครับ คือรถเครื่อง 1200 ปั่นแต่รอบเดินเบา กับแอร์ แค่นั้นละครับ อย่าคิดเยอะ
แต่ไอ้อัตราเร่งเหมือนรถไฟฟ้า แต่ไม่ต้องเสียบปลั้ก ชาร์ท
แบตราคาไม่แพงเพราะลุกเล็ก ไม่รู้จะยี้กันไปทำไม ไฮบริตหลายรุ่น ที่แบตพังนี่วิ่งไม่ได้นะครับ เพราะมันทำงานร่วมกัน
-
Kick นี่ไม่ติด ESP มาให้ได้เรื่องแน่ ทดสอบหักหลบต่างประเทศยกล้อกันยิ่งกว่า Vigo ตอนนั้น
-
อีกไม่ถึงเดือนก็ได้ทำความรู้จักตัวจริงกันแล้ว อดใจรอกันหน่อยครับ
แต่..
ทำไมถึงคิดกันว่า เครื่องยนต์ 1.2L จะหมุนที่รอบเดินเบาปั่นไฟกันชิลด์ๆ
ทำไมถึงคิดกันว่า เครื่องติดแป๊บ ๆ ก็ดับละ เพราะปั่นไฟเข้าแบตจนเต็ม
รถที่มันวิ่งปรู๊ด... มอเตอร์ก็ดูดไฟจากแบตซวบบบบบ...
การปั่นไฟเติม ก็เหมือนการปั่นจักรยานออกกำลังกาย จะปั่นให้ได้ kw
เยอะ ๆ ก็ต้องปรับตัวปั่นให้หนึด ๆ และปั่นให้เร็วจี๋....
มันคือสิ่งเดียวกันครับ
-
ออกมาพร้อม ๆ กัน ชนกับ CX-30 ได้สูสี Kicks แรงม้าดูจะน้อยกว่า แต่แรงบิดสู้ได้ อัตราเร่งน่าจะนำนิด ๆ การขับขี่ ช่วงหลังต้องยอมรับว่า Nissan ทำได้ดีขึ้นมาก ดูจาก Almera ก็ได้ ถ้าพัฒนาศูนย์บริการให้ดีขึ้นสักหน่อย จะน่าใช้มากครับ
-
นี่มอเตอร์ตัว High Power
บอกเลยว่าอัตราเร่ง C-Seg ทั้งตลาดมีหนาว กินหัวยัน Civic 1.5T!!!
แต่ทอปสปีดตอนไว้ถ้าจำไม่ผิด 150-155 ครับ มอเตอร์มันไปได้แค่นั้น ตีนต้นขนาดนี้ เหลือคู่แข่งอัตราเร่งแค่ MG HS PHEV เลย
บอกเลยว่าเหลือลุ้นราคากับออพชั่นครับ คงไม่ถึงขนาด 7. กลางๆ แต่เชื่อว่าต้องมีราวๆ CX30/C-HR/HR-V นั่นแหละ
-
เอามาติด lpg ไม่ต้องกลัวแรงบิดหาย
เออใช่.. จริงด้วยครับ ... เพราะเครื่องยนต์พื้นๆ 1.2 ลิตรธรรมดา ไม่ได้ใช้รอบสูงมากระดับเรดไลน์ ก็แค่ปั่นไฟ ช่วงพีคไม่น่าเกิน 5,000 รอบ
ถ้าสมมติว่า ค่าเฉลี่ยสิ้นเปลืองตอนใช้น้ำมันอยู่ที่ 30 กม./ลิตร เฉลี่ยได้กิโลเมตรละ 1 บาท
ถ้าเอามาติด LPG ค่าเชื้อเพลิง คงเฉลี่ยกิโลละ 40-50 สตางค์นะครับ ประหยัดซะมอเตอร์ไซค์อายเลยครับ ;D
ณ ช่วงเวลานี้ ผมคิดว่ายังไม่ใช่เวลาของ Full EV ครับ เพราะสถานีชาร์จกลางทาง ยังมีน้อยมาก แถมยังต้องเสียเวลาจอดชาร์จอีก ไม่ต่ำกว่า ครึ่งชั่วโมง
พอเดินทางไปพักโรงแรม ต่างจังหวัด ก็ต้องกังวลว่า จะไปเสียบไฟชาร์จตรงไหน ขืนลากปลั๊ก3ตาพ่วง ก็เสียวไฟใหม้อีก
ส่วนหลายๆท่าน อยู่คอนโดฯ ก็ยังงง..งง..อยู่ว่า จะเอารถ EV ไปชาร์จอย่างไร
รถ Hybrid จึงเหมาะกับปัจจุบัน
รอชมรีวิว E-Power ของจริงในไทย น่าจะเป็นมอเตอร์คนละเวอร์ชั่นกับที่ญี่ปุ่นมั้งครับ เพราะเห็นแรงม้าต่างกัน
-
ถ้าตัวท๊อปมาต่ำกว่าล้านนี่น่าจะขายดีระเบิดเลย
-
น่าจะพอขายได้ถ้าทำราคาไม่เกินรุ่นต่ำสุดไม่เกิน 900,000 เพราะผมว่ายังไงรถพลังงานไฟฟ้าจากแบตก็คืออนาคต การที่จะต้องเสียค่า MA ทั้งสองระบบมันเปลืองแถมอัตราประหยัดดูไม่ได้ดีกว่ารถปกติเท่ไาห
เห็นด้วย EV ยังไงก็คุ้มกว่า เสียเวลาดูแลเครื่องยนต์เปล่าๆ ถ้าเครื่องยนต์เสียรถวิ่งไม่ได้เลยนะ แล้วก็น่าจะไม่มีปลั้กชาจเหมือนรถ phev/ev ด้วยซ้ำ
-
อีกไม่ถึงเดือนก็ได้ทำความรู้จักตัวจริงกันแล้ว อดใจรอกันหน่อยครับ
แต่..
ทำไมถึงคิดกันว่า เครื่องยนต์ 1.2L จะหมุนที่รอบเดินเบาปั่นไฟกันชิลด์ๆ
ทำไมถึงคิดกันว่า เครื่องติดแป๊บ ๆ ก็ดับละ เพราะปั่นไฟเข้าแบตจนเต็ม
รถที่มันวิ่งปรู๊ด... มอเตอร์ก็ดูดไฟจากแบตซวบบบบบ...
การปั่นไฟเติม ก็เหมือนการปั่นจักรยานออกกำลังกาย จะปั่นให้ได้ kw
เยอะ ๆ ก็ต้องปรับตัวปั่นให้หนึด ๆ และปั่นให้เร็วจี๋....
มันคือสิ่งเดียวกันครับ
เท่าที่ดู Note epower ถ้าขับไม่เกิน 80 จะใช้น้ำมันเฉลี่ย 27+ km/l แต่ถ้าขับเกิน 110 จะเริ่มมีเลข 1X มาให้เห็นครับ
Kicks ก็คงไม่ต่างกันมาก คือในเมืองประหยัด แต่ High way ดูดน้ำมันซวบๆ เลย เพราะปั่นไฟไม่ทัน
ดังนั้นถ้าไม่ได้ขับเร็วมาก มันก็จะปั่นรอบต่ำๆ นั่นแหละครับ ทำให้มันประหยัดน้ำมันมาก
และแบตมันก็ลูกใหญ่กว่า Note epower เล็กน้อยครับ ทำให้มีเวลาชาร์จเยอะกว่า
-
รอดูรอชมครับ กว่านิสสันจะฟันฝ่าเอามาให้ได้ขายกันก็คงมั่นใจแหละว่าดี
-
ยังมีหลายท่านสับสนนะครับ ทำไมต้องใช้เครื่อง 1.2 มาปั่นไฟ คือมีเครื่องอยู่แล้ว อัตรากินน้ำมันมันก็ระดับนึง เครื่องเดิมเป็นไงละครับ อืด แต่ทีนี้มาปั่นไฟลงล้อ จากเครื่องเดิมอืดมาได้แรงบิด แรงต้นดี กินน้ำมันพอเดิมมันก็คุ้มค่ากว่า
มองหัวรถจักรไฟฟ้า ทำไมมีแรงบิดมหาศาลลากน้ำหนัก 2,000 ตัน ขึ้นเขาได้ ปัญหาก็ปกติถ้าบำรุงรักษาปกติมันก็ไม่มีอะไร มอเตอร์มีอายุงาน แล้วปั่นไฟยังต้องใช้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ 2,500 แรงม้า
-
อีกไม่ถึงเดือนก็ได้ทำความรู้จักตัวจริงกันแล้ว อดใจรอกันหน่อยครับ
แต่..
ทำไมถึงคิดกันว่า เครื่องยนต์ 1.2L จะหมุนที่รอบเดินเบาปั่นไฟกันชิลด์ๆ
ทำไมถึงคิดกันว่า เครื่องติดแป๊บ ๆ ก็ดับละ เพราะปั่นไฟเข้าแบตจนเต็ม
รถที่มันวิ่งปรู๊ด... มอเตอร์ก็ดูดไฟจากแบตซวบบบบบ...
การปั่นไฟเติม ก็เหมือนการปั่นจักรยานออกกำลังกาย จะปั่นให้ได้ kw
เยอะ ๆ ก็ต้องปรับตัวปั่นให้หนึด ๆ และปั่นให้เร็วจี๋....
มันคือสิ่งเดียวกันครับ
เท่าที่ดู Note epower ถ้าขับไม่เกิน 80 จะใช้น้ำมันเฉลี่ย 27+ km/l แต่ถ้าขับเกิน 110 จะเริ่มมีเลข 1X มาให้เห็นครับ
Kicks ก็คงไม่ต่างกันมาก คือในเมืองประหยัด แต่ High way ดูดน้ำมันซวบๆ เลย เพราะปั่นไฟไม่ทัน
ดังนั้นถ้าไม่ได้ขับเร็วมาก มันก็จะปั่นรอบต่ำๆ นั่นแหละครับ ทำให้มันประหยัดน้ำมันมาก
และแบตมันก็ลูกใหญ่กว่า Note epower เล็กน้อยครับ ทำให้มีเวลาชาร์จเยอะกว่า
ก็ไม่เป็นไรครับ อีกไม่นานก็คงได้สัมผัสของจริงกันละ
ที่ติงเอาไว้เพราะบ่อยครั้งที่ตัวรถที่ออกมาก็จัดว่าดี ว่าสวย
แต่ก่อนหน้านั้นมีการปั่นกระแส ปลุกความคากหวังคนไว้สูง
พอตัวจริงออกมา แม้ว่ารถมันจัดว่าดีแล้ว แต่ไปไม่ถึง
ความคาดหวังที่ปั่นกันเอาไว้สูงลิ่ว ผลคือกลายเป็นกระแสในทางลบ
ไปซะอย่างนั้น จะไม่ดีกับแบรนด์สินค้าเองเสียเปล่าๆ ครับ
-
Feedback เมืองนอกไม่ได้ว้าวเท่าไหร่นะ
ขับเร็วๆ ใช้ไฟเยอะก็ กินน้ำมันเท่ารถปกติ เห็นรีวิวจากคนใช้จริงใน note e hybrid บอกทำได้ 16-19 km l เอง
E power ของ Nissan ยิ่งเหยียบแรง เหยียบนาน รอบเครื่องก็จะสูงขึ้นหรือไม่ครับ เลยอัตราการสิ้นเปลืองไม่สวยอย่างที่คิด?
-
Feedback เมืองนอกไม่ได้ว้าวเท่าไหร่นะ
ขับเร็วๆ ใช้ไฟเยอะก็ กินน้ำมันเท่ารถปกติ เห็นรีวิวจากคนใช้จริงใน note e hybrid บอกทำได้ 16-19 km l เอง
E power ของ Nissan ยิ่งเหยียบแรง เหยียบนาน รอบเครื่องก็จะสูงขึ้นหรือไม่ครับ เลยอัตราการสิ้นเปลืองไม่สวยอย่างที่คิด?
ดูท่า nissan ต้องอธิบายการทำงานเยอะขึ้น มีคนไม่เข้าใจอีกเยอะ คือมันเหมือนเครื่อง 1.2 เดิม กินประมาณเดิม แต่ได้อัตราเร่งดี คือดีเหมือนเครื่องยนต์สันดาบแรงๆ 0-100 8-9 วิ ซึ่งเครื่อง 1.2 เดิมให้ไม่ได้ แต่จริงๆคือใช้ในเมือง หนุดๆคลานๆ เครื่องยนต์มันไม่ใช้รอบสูง จึงไม่กินเท่าเครื่องยนต์ ทำไมญี่ปุ่นถึงขายดี ใช้กันเยอะ คือได้เหตุผลตรงนี้เต็มๆ เหมาะกับในเมือง ใช้แต่อัตราเร่งตีนต้น นี่ยังไม่นับปลายล็อกอีก มีคนบ่นอีกเยอะ nissan มาถูกทางไหมเนี่ย
-
เปิดตัว 19 มี.ค. ที่ กทม. แต่กว่ารถจะมีให้ดูตามโชว์รูมบ้านนอกก็คงอีกเป็นเดือนๆ
-
สิ่งที่น่ากังวลคือแบตจะเสื่อมไวมั๊ยครับ คือถ้าแบตลูกเล็กมาก (1.5kW ตามข่าวในเว็บ) ก็ต้องชาร์จหลายครั้ง ทีนี้แบตพอมันชาร์จหลายๆครั้งมันจะเสื่อมเร็วขึ้นมั๊ยครับ
ถึงจะบอกว่าราคาแบตไม่แพงก็คงจะไม่ถูกแบบพาวเวอร์แบงค์ลาซาด้านะครับ!!!
-
Feedback เมืองนอกไม่ได้ว้าวเท่าไหร่นะ
ขับเร็วๆ ใช้ไฟเยอะก็ กินน้ำมันเท่ารถปกติ เห็นรีวิวจากคนใช้จริงใน note e hybrid บอกทำได้ 16-19 km l เอง
E power ของ Nissan ยิ่งเหยียบแรง เหยียบนาน รอบเครื่องก็จะสูงขึ้นหรือไม่ครับ เลยอัตราการสิ้นเปลืองไม่สวยอย่างที่คิด?
ดูท่า nissan ต้องอธิบายการทำงานเยอะขึ้น มีคนไม่เข้าใจอีกเยอะ คือมันเหมือนเครื่อง 1.2 เดิม กินประมาณเดิม แต่ได้อัตราเร่งดี คือดีเหมือนเครื่องยนต์สันดาบแรงๆ 0-100 8-9 วิ ซึ่งเครื่อง 1.2 เดิมให้ไม่ได้ แต่จริงๆคือใช้ในเมือง หนุดๆคลานๆ เครื่องยนต์มันไม่ใช้รอบสูง จึงไม่กินเท่าเครื่องยนต์ ทำไมญี่ปุ่นถึงขายดี ใช้กันเยอะ คือได้เหตุผลตรงนี้เต็มๆ เหมาะกับในเมือง ใช้แต่อัตราเร่งตีนต้น นี่ยังไม่นับปลายล็อกอีก มีคนบ่นอีกเยอะ nissan มาถูกทางไหมเนี่ย
ผมว่าจะกลายเป็นจุ๊ก2 ที่ขายดีแค่ไม่กีเดือนหลังจากนั้นก็ขายไม่ออกเพราะมันไม่ได้ประหยัดจริง ความเร็วปลายล็อค ขับเกิน110กินไม่ต่างจากรถน้ำมันทั้งหลายทั่วไปแถมการบำรุงรักษาที่ต้องมีระบบมอเตอร์และแบตมาอีก ถ้าเอาความประหยัด CX30 1.8ดีเซล น่าจะประหยัดสุดแล้วนะครับ
-
ผมลุ้นขอให้ประหยัดจริงๆ ดีจริงๆ และราคาไม่เกินล้าน ครับ
-
มันไม่น่าซื้อก็ตรง E-Power นี้ละ จอดใว้บนโชว์รูมนั้นละ
รถ E-Power นี่แหละคือคำตอบที่ดีที่สุด ของคนอยากใช้รถไฟฟ้า...ขอรับประกันแบต10ปีนะ
-
เอามาติด lpg ไม่ต้องกลัวแรงบิดหาย
เออใช่.. จริงด้วยครับ ... เพราะเครื่องยนต์พื้นๆ 1.2 ลิตรธรรมดา ไม่ได้ใช้รอบสูงมากระดับเรดไลน์ ก็แค่ปั่นไฟ ช่วงพีคไม่น่าเกิน 5,000 รอบ
ถ้าสมมติว่า ค่าเฉลี่ยสิ้นเปลืองตอนใช้น้ำมันอยู่ที่ 30 กม./ลิตร เฉลี่ยได้กิโลเมตรละ 1 บาท
ถ้าเอามาติด LPG ค่าเชื้อเพลิง คงเฉลี่ยกิโลละ 40-50 สตางค์นะครับ ประหยัดซะมอเตอร์ไซค์อายเลยครับ ;D
ณ ช่วงเวลานี้ ผมคิดว่ายังไม่ใช่เวลาของ Full EV ครับ เพราะสถานีชาร์จกลางทาง ยังมีน้อยมาก แถมยังต้องเสียเวลาจอดชาร์จอีก ไม่ต่ำกว่า ครึ่งชั่วโมง
พอเดินทางไปพักโรงแรม ต่างจังหวัด ก็ต้องกังวลว่า จะไปเสียบไฟชาร์จตรงไหน ขืนลากปลั๊ก3ตาพ่วง ก็เสียวไฟใหม้อีก
ส่วนหลายๆท่าน อยู่คอนโดฯ ก็ยังงง..งง..อยู่ว่า จะเอารถ EV ไปชาร์จอย่างไร
รถ Hybrid จึงเหมาะกับปัจจุบัน
รอชมรีวิว E-Power ของจริงในไทย น่าจะเป็นมอเตอร์คนละเวอร์ชั่นกับที่ญี่ปุ่นมั้งครับ เพราะเห็นแรงม้าต่างกัน
น่าสนใจครับ ผมชอบ lpg คงนำมาติดแน่ ๆ
-
เอามาติด lpg ไม่ต้องกลัวแรงบิดหาย
เออใช่.. จริงด้วยครับ ... เพราะเครื่องยนต์พื้นๆ 1.2 ลิตรธรรมดา ไม่ได้ใช้รอบสูงมากระดับเรดไลน์ ก็แค่ปั่นไฟ ช่วงพีคไม่น่าเกิน 5,000 รอบ
ถ้าสมมติว่า ค่าเฉลี่ยสิ้นเปลืองตอนใช้น้ำมันอยู่ที่ 30 กม./ลิตร เฉลี่ยได้กิโลเมตรละ 1 บาท
ถ้าเอามาติด LPG ค่าเชื้อเพลิง คงเฉลี่ยกิโลละ 40-50 สตางค์นะครับ ประหยัดซะมอเตอร์ไซค์อายเลยครับ ;D
ณ ช่วงเวลานี้ ผมคิดว่ายังไม่ใช่เวลาของ Full EV ครับ เพราะสถานีชาร์จกลางทาง ยังมีน้อยมาก แถมยังต้องเสียเวลาจอดชาร์จอีก ไม่ต่ำกว่า ครึ่งชั่วโมง
พอเดินทางไปพักโรงแรม ต่างจังหวัด ก็ต้องกังวลว่า จะไปเสียบไฟชาร์จตรงไหน ขืนลากปลั๊ก3ตาพ่วง ก็เสียวไฟใหม้อีก
ส่วนหลายๆท่าน อยู่คอนโดฯ ก็ยังงง..งง..อยู่ว่า จะเอารถ EV ไปชาร์จอย่างไร
รถ Hybrid จึงเหมาะกับปัจจุบัน
รอชมรีวิว E-Power ของจริงในไทย น่าจะเป็นมอเตอร์คนละเวอร์ชั่นกับที่ญี่ปุ่นมั้งครับ เพราะเห็นแรงม้าต่างกัน
น่าสนใจครับ ผมชอบ lpg คงนำมาติดแน่ ๆ
ผมติดแก๊สกับอัลเมร่าวิ่งมาแสนหกหมื่นโล ฝาเดิมๆยังสบายๆอยู่เลยครับ
-
เหมือนมองนอก จะมีแป๊ก ด้วยนะ รอติดตามชม ละกันนะครับ
-
มิติรถใหญ่สุดในคลาสนี้ เป็นจุดขายได้เลย+ระบบe power นิสสันต้องประชาสัมพันธ์จุดเด่นให้ดีให้ชัด อีกปัจจัยคือราคาขาย
-
ชอบ Juke ใหม่มากกว่า แต่เข้าใจว่าแค่ตัวนี้ Nissan ก็ปั้นมานานมากกว่าจะได้เอามาขาย
-
อีกไม่ถึงเดือนก็ได้ทำความรู้จักตัวจริงกันแล้ว อดใจรอกันหน่อยครับ
แต่..
ทำไมถึงคิดกันว่า เครื่องยนต์ 1.2L จะหมุนที่รอบเดินเบาปั่นไฟกันชิลด์ๆ
ทำไมถึงคิดกันว่า เครื่องติดแป๊บ ๆ ก็ดับละ เพราะปั่นไฟเข้าแบตจนเต็ม
รถที่มันวิ่งปรู๊ด... มอเตอร์ก็ดูดไฟจากแบตซวบบบบบ...
การปั่นไฟเติม ก็เหมือนการปั่นจักรยานออกกำลังกาย จะปั่นให้ได้ kw
เยอะ ๆ ก็ต้องปรับตัวปั่นให้หนึด ๆ และปั่นให้เร็วจี๋....
มันคือสิ่งเดียวกันครับ
เท่าที่ดู Note epower ถ้าขับไม่เกิน 80 จะใช้น้ำมันเฉลี่ย 27+ km/l แต่ถ้าขับเกิน 110 จะเริ่มมีเลข 1X มาให้เห็นครับ
Kicks ก็คงไม่ต่างกันมาก คือในเมืองประหยัด แต่ High way ดูดน้ำมันซวบๆ เลย เพราะปั่นไฟไม่ทัน
ดังนั้นถ้าไม่ได้ขับเร็วมาก มันก็จะปั่นรอบต่ำๆ นั่นแหละครับ ทำให้มันประหยัดน้ำมันมาก
และแบตมันก็ลูกใหญ่กว่า Note epower เล็กน้อยครับ ทำให้มีเวลาชาร์จเยอะกว่า
ไปส่อง note-e-power ในเว็บญี่ปุ่นมา มาตรฐาน jco8 ได้ 35 กิโลลิตร เท่าๆกับ อัลติส ไฮบริด
ดังนั้น ถ้ามาไทย น่าจะทำอัตราสิ้นเปลืองใน eco sticker ได้พอๆกับอัลติส ไฮบริด
-
ยังไม่กล้าออกตัวแรง รถยังไม่มา รออีกไม่กี่วัน ;D ;D ;D
-
อีกไม่ถึงเดือนก็ได้ทำความรู้จักตัวจริงกันแล้ว อดใจรอกันหน่อยครับ
แต่..
ทำไมถึงคิดกันว่า เครื่องยนต์ 1.2L จะหมุนที่รอบเดินเบาปั่นไฟกันชิลด์ๆ
ทำไมถึงคิดกันว่า เครื่องติดแป๊บ ๆ ก็ดับละ เพราะปั่นไฟเข้าแบตจนเต็ม
รถที่มันวิ่งปรู๊ด... มอเตอร์ก็ดูดไฟจากแบตซวบบบบบ...
การปั่นไฟเติม ก็เหมือนการปั่นจักรยานออกกำลังกาย จะปั่นให้ได้ kw
เยอะ ๆ ก็ต้องปรับตัวปั่นให้หนึด ๆ และปั่นให้เร็วจี๋....
มันคือสิ่งเดียวกันครับ
เท่าที่ดู Note epower ถ้าขับไม่เกิน 80 จะใช้น้ำมันเฉลี่ย 27+ km/l แต่ถ้าขับเกิน 110 จะเริ่มมีเลข 1X มาให้เห็นครับ
Kicks ก็คงไม่ต่างกันมาก คือในเมืองประหยัด แต่ High way ดูดน้ำมันซวบๆ เลย เพราะปั่นไฟไม่ทัน
ดังนั้นถ้าไม่ได้ขับเร็วมาก มันก็จะปั่นรอบต่ำๆ นั่นแหละครับ ทำให้มันประหยัดน้ำมันมาก
และแบตมันก็ลูกใหญ่กว่า Note epower เล็กน้อยครับ ทำให้มีเวลาชาร์จเยอะกว่า
ไปส่อง note-e-power ในเว็บญี่ปุ่นมา มาตรฐาน jco8 ได้ 35 กิโลลิตร เท่าๆกับ อัลติส ไฮบริด
ดังนั้น ถ้ามาไทย น่าจะทำอัตราสิ้นเปลืองใน eco sticker ได้พอๆกับอัลติส ไฮบริด
มาตรฐานการทดสอบอัตราสิ้นเปลืองของญี่ปุ่นนี้ใช้ไม่ได้จริงเลยครับ ทำให้นึกถึงมารฐานการทดสอบ NCAP ในบางภูมิภาคที่รถรุ่นไหนๆก็ได้5ดาวแทบทุกรุ่นทั้งที่หุ่นทดสอบมีอาการบาดเจ็บจากการชนเยอะอยู่
-
อีกไม่ถึงเดือนก็ได้ทำความรู้จักตัวจริงกันแล้ว อดใจรอกันหน่อยครับ
แต่..
ทำไมถึงคิดกันว่า เครื่องยนต์ 1.2L จะหมุนที่รอบเดินเบาปั่นไฟกันชิลด์ๆ
ทำไมถึงคิดกันว่า เครื่องติดแป๊บ ๆ ก็ดับละ เพราะปั่นไฟเข้าแบตจนเต็ม
รถที่มันวิ่งปรู๊ด... มอเตอร์ก็ดูดไฟจากแบตซวบบบบบ...
การปั่นไฟเติม ก็เหมือนการปั่นจักรยานออกกำลังกาย จะปั่นให้ได้ kw
เยอะ ๆ ก็ต้องปรับตัวปั่นให้หนึด ๆ และปั่นให้เร็วจี๋....
มันคือสิ่งเดียวกันครับ
เท่าที่ดู Note epower ถ้าขับไม่เกิน 80 จะใช้น้ำมันเฉลี่ย 27+ km/l แต่ถ้าขับเกิน 110 จะเริ่มมีเลข 1X มาให้เห็นครับ
Kicks ก็คงไม่ต่างกันมาก คือในเมืองประหยัด แต่ High way ดูดน้ำมันซวบๆ เลย เพราะปั่นไฟไม่ทัน
ดังนั้นถ้าไม่ได้ขับเร็วมาก มันก็จะปั่นรอบต่ำๆ นั่นแหละครับ ทำให้มันประหยัดน้ำมันมาก
และแบตมันก็ลูกใหญ่กว่า Note epower เล็กน้อยครับ ทำให้มีเวลาชาร์จเยอะกว่า
ไปส่อง note-e-power ในเว็บญี่ปุ่นมา มาตรฐาน jco8 ได้ 35 กิโลลิตร เท่าๆกับ อัลติส ไฮบริด
ดังนั้น ถ้ามาไทย น่าจะทำอัตราสิ้นเปลืองใน eco sticker ได้พอๆกับอัลติส ไฮบริด
มาตรฐานการทดสอบอัตราสิ้นเปลืองของญี่ปุ่นนี้ใช้ไม่ได้จริงเลยครับ ทำให้นึกถึงมารฐานการทดสอบ NCAP ในบางภูมิภาคที่รถรุ่นไหนๆก็ได้5ดาวแทบทุกรุ่นทั้งที่หุ่นทดสอบมีอาการบาดเจ็บจากการชนเยอะอยู่
ผมไม่ได้บอกว่าจะให้ยึดตามมาตรฐานญี่ปุ่นนะครับ อ่านดีๆ
หมายถึงว่า อัลติสไฮบริด ทำอัตราสิ้นเปลืองมาตรฐานญี่ปุ่นได้ 35 โลลิตร ทำมาตรฐานไทยได้ x
note e-power มาตรฐานญี่ปุ่นก็ได้ 35 เท่ากัน ดังนั้น ทำมาตรฐานไทย ก็คงจะได้เท่าๆกันกับอัลติสไฮบริด
-
กำลังมองตัวนี้อยู่เหมือนกัน ติดแค่รอราคาเท่านั้น
ส่วนที่ e power ไม่เหมือน hybrid ก็คือ
ระบบส่งกำลัง ชิ้นส่วนจะน้อยลงไปมาก
ถ้าเครื่องยนต์มีคลัทซ์ ก็จะใช้กับ ไดนาโมปั่นไฟ
ชุดเกียร์แบบรถปกติจะไม่มี เหลือแค่เฟืองทดสำหรับมอเตอร์ไฟฟ้าลงไปที่ล้อเท่านั้น น่าจะทนทานเทียบเท่ารถเกียร์ธรรมดา
ถ้าเทียบกับ city ที่ 130 แรงเท่ากัน ก็จะไม่มีระบบอัดอากาศ ระบบท่ออินเตอร์
อีกอย่างที่น่าสนใจคือ
ถ้ายกเครื่องออกเปลี่ยนเป็นแบต ในอนาคตได้ ก็แปลงเป็น ev ได้สมบูรณ์กว่ารถ hybrid หรือรถน้ำมันทั่วไป
-
รอชม
ปีนี้มี MG ZS mc Cx30 ออกมาด้วย จะฝ่าตลาดไทยได้มั้ยนะ 8)
-
ขอราคาตัวล่างสุด8แสน
-
รอ E-Power แบบที่มี module แบตเตอรี่ขนาด 1.5 kWh สัก 2-3 Modules คลับ ด้วย 2 เหตุผลนะ
1. ประสิทธิภาพดีขึ้นนะ เพราะเครื่องยนต์ไม่ต้องมา restart บ่อยๆ และยิ่งในเมืองนะจะได้ดลมลพิษนะด้วยนะ
2. ถ้ามีหลาย modules ปกติถ้าออกแบบดีมันจะทยอยเสียหรือเสื่อมไม่พร้อมกัน หมายถึงถ้าเสียไปหนึ่ง module รถยังวิ่งต่อไปได้นะ
และผู้ใช้มีเวลาอีกหลายเดือนจะไปเปลี่ยน module ที่เสียก่อนมันจะเสียไปทั้งหมดนะ
ราคาแบตเเตอรี่แบตรถไฟฟ้าตอนนี้ราวๆ 140$/ kWh หรือราคาต่อ mudule 1.5 kWh คิดแล้วก็แค่ราวๆ 5000 บาทเท่านั้นสมมติเพิ่มอีก 2 modules และเพิ่มอีก 10,000 ผมยอมจ่ายนะ ก็หวังว่าในอนาคตจะ mc แล้วจะปรับตรงนี้นะ ผมถึงคิดจะใช้ e-power นะ
แต่ถ้าภาครัฐบอกถัาใครใช้เครื่องยนต์ที่รองรองรับ E85-E100 หรือ B100 แล้วก็ลดภาษีลงไปอีกครึ่งก็จะดีนะ
เพราะจะได้ช่วยเกษตรกรนะ และซื้อรถไปใช้ กลุ่มเกษตรกรกันรวมกลุ่มกันผลิตพลังงงานใช้กันเองได้จะเป็นอิสระด้านพลังงานเลยได้นะ
คือผลิตพืขพลังงานและ ก็แปรรูปเป็นแอลกฮอล หรือ ไบโอดีเซล กันเองแล้วก็ไม่ต้องพึ่งพาพลังงานจากต่างประเทศได้นะ
อยากให้รัฐคิดแบบนี้ด้วยบ้างนะ
ืคือ e-power ใข้ แอลกฮอล หรือ ไบโอดีเซล ก็ได้ลดภาษีเพิ่มกับผู้ผลิตเพิ่มไปอีก
และสิ่งแวดล้อมดีขึ้น และ เกษตรกรก็สามารถเป็นอิสระด้านการใช้พลังงานจากภาคการขนส่งได้ด้วย
-
รอ E-Power แบบที่มี module แบตเตอรี่ขนาด 1.5 kWh สัก 2-3 Modules คลับ ด้วย 2 เหตุผลนะ
1. ประสิทธิภาพดีขึ้นนะ เพราะเครื่องยนต์ไม่ต้องมา restart บ่อยๆ และยิ่งในเมืองนะจะได้ดลมลพิษนะด้วยนะ
2. ถ้ามีหลาย modules ปกติถ้าออกแบบดีมันจะทยอยเสียหรือเสื่อมไม่พร้อมกัน หมายถึงถ้าเสียไปหนึ่ง module รถยังวิ่งต่อไปได้นะ
และผู้ใช้มีเวลาอีกหลายเดือนจะไปเปลี่ยน module ที่เสียก่อนมันจะเสียไปทั้งหมดนะ
ราคาแบตเเตอรี่แบตรถไฟฟ้าตอนนี้ราวๆ 140$/ kWh หรือราคาต่อ mudule 1.5 kWh คิดแล้วก็แค่ราวๆ 5000 บาทเท่านั้นสมมติเพิ่มอีก 2 modules และเพิ่มอีก 10,000 ผมยอมจ่ายนะ ก็หวังว่าในอนาคตจะ mc แล้วจะปรับตรงนี้นะ ผมถึงคิดจะใช้ e-power นะ
แต่ถ้าภาครัฐบอกถัาใครใช้เครื่องยนต์ที่รองรองรับ E85-E100 หรือ B100 แล้วก็ลดภาษีลงไปอีกครึ่งก็จะดีนะ
เพราะจะได้ช่วยเกษตรกรนะ และซื้อรถไปใช้ กลุ่มเกษตรกรกันรวมกลุ่มกันผลิตพลังงงานใช้กันเองได้จะเป็นอิสระด้านพลังงานเลยได้นะ
คือผลิตพืขพลังงานและ ก็แปรรูปเป็นแอลกฮอล หรือ ไบโอดีเซล กันเองแล้วก็ไม่ต้องพึ่งพาพลังงานจากต่างประเทศได้นะ
อยากให้รัฐคิดแบบนี้ด้วยบ้างนะ
ืคือ e-power ใข้ แอลกฮอล หรือ ไบโอดีเซล ก็ได้ลดภาษีเพิ่มกับผู้ผลิตเพิ่มไปอีก
และสิ่งแวดล้อมดีขึ้น และ เกษตรกรก็สามารถเป็นอิสระด้านการใช้พลังงานจากภาคการขนส่งได้ด้วย
ทำธุระกิจ ต้องคิดต้นทุน กำไร ขาดทุน ราคาแบตที่ว่ามันราคาส่ง พอมาอยู่ในรถ ราคามันทบกันเป็นหลักหมื่น แต่ใช้แค่สำรองกัน ไม่มีใครทำหรอกครับ เสื่อมก็เปลี่ยนง่ายๆ แค่นั้น
ไม่ว่าธุรกิจอะไร ไม่มีใครอยากเพิ่มราคาขาย มีแต่พยายามลดต้นทุน เพื่อให้ได้ผลกำไรเพิ่มขึ้น การปรับราคาขึ้นกระทบขายแน่นอน ไม่มีใครอยากทำหรอกครับ ถ้าไม่จำเป็น
ปล. ซื้อรถ ต้องรู้คุณสมบัติรถ เครื่องปั่นไฟที่มีมากำลังผลิตมันนิดเดียว ไม่มีทางที่จะให้กำลังงานมากกว่าที่ใช้หรอกครับ ดังนั้น e power ไม่สามารถวิ่งความเร็วสูงได้ เพราะใช้กำลังไฟมากกว่าที่ผลิตได้
มันจุงเป้นรถที่เหมาะวิ่งในเมือง ใช้ความเร็วสูงพอประมาณ เท่านั้น ใครต้องการแรงมากกว่านี้ เบนซินเทอร์โบ ตอบโจทย์กว่าเยอะ