Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: AT ที่ กุมภาพันธ์ 27, 2020, 14:44:55
-
ตามหัวข้อเลยครับ ในกรณีรถดีเซล
เห็นตามเพจชอบบอกว่ารถเก่าวิ่ง แสนสองแสนจึงเหมาะที่จะใช้เบอร์40 , แต่บางคนออกป้ายแดงจับเปลี่ยนใส่ นมค เบอร์40 ตั้งแต่สามหมื่นโล จนตอนนี้วิ่งจะสองแสนแล้วยังปกติ
สรุปแล้วดีหรือไม่ดีครับ ขอความคิดเห็นหน่อย
-
สำหรับผม ขึ้นกับความพอใจล้วนๆครับ เบอร์40 ของเชลล์นี่ล่ะที่ผมชอบ ซัดได้ใช้งานปกติได้
มันจะมีปัญหาแค่กับเครื่องเบนซินแรงบิดน้อย จะรู้สึกหน่วงๆขึ้นช่วงรอบต้นแค่นั้น แต่เครื่องดีเซลล์กำลังเยอะๆ ผมไม่เคยมีปัญหานะ :)
-
ผมว่าควรดูตามสเปคคู่มือรถเป็นหลักครับว่า เขาให้ใช้เบอร์ไหน
การใช้น้ำมันเครื่องเบอร์หนาๆตั้งแต่ต้นเลยมันก็ไม่ได้ผิดอะไร บางความคิดเห็นว่าไว้มันทนความร้อนได้ดีกว่าอันนี้ผมก็ไม่เถียงนะ
แต่มันอาจจะไม่เหมาะสมกับสภาพการใช้งานรึเปล่า บางคนขับรถปกติความร้อนเครื่องไม่ได้มากขนาดต้องไปใช้เบอร์หนาๆซึ่งมันก็ไม่จำเป็น
น้ำมันเบอร์ที่บางกว่าเดี๋ยวนี้มันก็พัฒนาให้ทนร้อนได้ดีขึ้น และช่วยลดแรงเสียดทานให้เครื่องได้มากกว่าด้วย
แปลว่าเครื่องจะทำงานได้พละกำลังเต็มที่กว่า ขับลื่นกว่า
-
จากคู่มือของ toyota จะเห็นว่า การใช้น้ำมันเครื่องเบอร์หนา จะเหมาะกับรถที่บรรทุกหนัก ลดการกินน้ำมันเครื่องและปกป้องดีกว่า
ถ้าทั่วไปไม่ได้บรรทุกหนัก เบอร์บางจะประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงดีกว่า ลื่นกว่า
ไม่มีตรงไหนพูดประเด็นรถเก่ารถใหม่เลยครับ
แต่น้ำมันเครื่องในศูนย์ toyota ขายโคตรมั่วไร้หลักการต่างจากคู่มือเลย
-
ผมใช้รถเบนซิน ใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์100 เบอร์40 ตลอดพอเกิน 130000Km ใช้50 ครับ ขับเร็วบ่อย
ใช้รอบสูงบ่อยใช้ดีครับ ส่วนรถไฮบริดผมใช้30 ครับเพราะเบอร์20 มันไม่เหมาะกับเมืองร้อนเยอะๆอย่างเรา
เท่าไหร่
-
สำหรับผม ขึ้นกับความพอใจล้วนๆครับ เบอร์40 ของเชลล์นี่ล่ะที่ผมชอบ ซัดได้ใช้งานปกติได้
มันจะมีปัญหาแค่กับเครื่องเบนซินแรงบิดน้อย จะรู้สึกหน่วงๆขึ้นช่วงรอบต้นแค่นั้น แต่เครื่องดีเซลล์กำลังเยอะๆ ผมไม่เคยมีปัญหานะ :)
ผมก็มาลองใช้ตัวโมบิล1ครับ สรุปชอบเลย อากาศภายนอกสูงๆเห็นความต่างจากเบอร์30ชัดเจน
-
ผมว่าควรดูตามสเปคคู่มือรถเป็นหลักครับว่า เขาให้ใช้เบอร์ไหน
การใช้น้ำมันเครื่องเบอร์หนาๆตั้งแต่ต้นเลยมันก็ไม่ได้ผิดอะไร บางความคิดเห็นว่าไว้มันทนความร้อนได้ดีกว่าอันนี้ผมก็ไม่เถียงนะ
แต่มันอาจจะไม่เหมาะสมกับสภาพการใช้งานรึเปล่า บางคนขับรถปกติความร้อนเครื่องไม่ได้มากขนาดต้องไปใช้เบอร์หนาๆซึ่งมันก็ไม่จำเป็น
น้ำมันเบอร์ที่บางกว่าเดี๋ยวนี้มันก็พัฒนาให้ทนร้อนได้ดีขึ้น และช่วยลดแรงเสียดทานให้เครื่องได้มากกว่าด้วย
แปลว่าเครื่องจะทำงานได้พละกำลังเต็มที่กว่า ขับลื่นกว่า
ตามคู่มือแนะนำเบอร์30เทียบทุกเจ้าเลยครับ ส่วนตัวผมลองใช้ขับขึ้นเหนือช่วงสงกราน ลองเปลี่ยนโมบิล1 เทอโบ เห็นความต่างชัดเจน อุณหภูมิข้างนอกเกือบ40องศา ลื่นไม่มีตกชอบมากเลย
-
ผมใช้รถเบนซิน ใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์100 เบอร์40 ตลอดพอเกิน 130000Km ใช้50 ครับ ขับเร็วบ่อย
ใช้รอบสูงบ่อยใช้ดีครับ ส่วนรถไฮบริดผมใช้30 ครับเพราะเบอร์20 มันไม่เหมาะกับเมืองร้อนเยอะๆอย่างเรา
เท่าไหร่
อุณหภูมิเมืองไทยหน้าร้อนเริ่มสูงมากก็เลยลองใช้ดูตอน 5 หมื่นโล ครั้งหน้าก็คงใช้เบอร์40ต่อไป ชอบบบ
-
หนาเกินก็แรงอัดสูงขึ้น ไม่น่าจะดีกับหัวฉีด ห้องแครงค์ หรือแม้แต่วาล์วนะครับ
-
จากคู่มือของ toyota จะเห็นว่า การใช้น้ำมันเครื่องเบอร์หนา จะเหมาะกับรถที่บรรทุกหนัก ลดการกินน้ำมันเครื่องและปกป้องดีกว่า
ถ้าทั่วไปไม่ได้บรรทุกหนัก เบอร์บางจะประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงดีกว่า ลื่นกว่า
ไม่มีตรงไหนพูดประเด็นรถเก่ารถใหม่เลยครับ
แต่น้ำมันเครื่องในศูนย์ toyota ขายโคตรมั่วไร้หลักการต่างจากคู่มือเลย
ไม่ได้หมายถึงคู่มือครับ คนทั่วไปที่เขาพูดๆกันครับ ที่พูดเถียงกันเยอะก็ตามคลับรถต่างๆ
-
คำว่า ดี หรือ ไม่ดี มันบอกไม่ได้หรอกครับ และมันตีรวมกับรถคันอื่นไม่ได้เช่นกัน
เพราะการออกแบบต่างกัน clearance ต่างกัน วัสดุต่างกัน ระบบต่างกัน
มันต้องดูเป็นคันๆ ไปครับ
บางคัน เติมเบอร์ 30 ยาวถึง 2 แสน ยังไม่มีอาการอะไร น้ำมันเครื่องไม่หาย เสียงเครื่องปกติ กำลังอัดปกติ
บางคัน เปลี่ยนไปเติมเบอร์ 40 ตั้งแต่ยังไม่แสน เพราะน้ำมันเครื่องหาย(กินน้ำมันเครื่อง) ควันเปลี่ยนสี เสียงเครื่องดัง และ อื่นๆ
ดังนั้น ควรจะบอกว่า คันไหน ยี่ห้อไหน รุ่นไหน ดีกว่าครับ มันเหมารวมว่ารถดีเซล แค่นี้ไม่ได้หรอก รถเบนซิน ก็เช่นกัน
ดีที่สุด คือ ตามคู่มือไว้ก่อน แล้ว ค่อยปรับตามอาการ หรือ สถานการณ์ ณ ตอนนั้นๆ ครับ
-
Toyota เอง ก็มี Chart แบบนี้นะครับ แปลว่าเครื่องยนต์แบบหนึ่ง Toyota ก็มองว่าไม่ได้เหมาะสมกับน้ำมัน Grade เดียวเสมอไป มันขึ้นอยู๋กับการใช้งานครับ เอาจริงผมเชื่อแบบนี้มากกว่าที่จะบอกว่ารถสมัยใหม่มี Clearance ที่ชิด จึงเหมาะกับน้ำมันเบอร์บางเป็นน้ำเปล่าเสียอีก
-
ดีในที่นี้คือปกป้องตลอดอายุเปลี่ยนถ่าย อาจจะหาไรวัดไม่ได้นอกจากความรู้สึก อุณหภูมิยามบ่ายแดดแก่ๆเคยขับมาร้อนๆจอดแล้วยกก้านวัดขึ้นดู ไอน้ำระเหยเลย กลับกันเบอร์40 ลองทำวิธีเหมือนกันไม่มีการระเหย
ปล. ทั้ง2ผมใช้สังเคราะห์100 วิธีเช็คข้างต้นผมอาจจะมโนเองว่า40ดีกว่า
-
คำว่า ดี หรือ ไม่ดี มันบอกไม่ได้หรอกครับ และมันตีรวมกับรถคันอื่นไม่ได้เช่นกัน
เพราะการออกแบบต่างกัน clearance ต่างกัน วัสดุต่างกัน ระบบต่างกัน
มันต้องดูเป็นคันๆ ไปครับ
บางคัน เติมเบอร์ 30 ยาวถึง 2 แสน ยังไม่มีอาการอะไร น้ำมันเครื่องไม่หาย เสียงเครื่องปกติ กำลังอัดปกติ
บางคัน เปลี่ยนไปเติมเบอร์ 40 ตั้งแต่ยังไม่แสน เพราะน้ำมันเครื่องหาย(กินน้ำมันเครื่อง) ควันเปลี่ยนสี เสียงเครื่องดัง และ อื่นๆ
ดังนั้น ควรจะบอกว่า คันไหน ยี่ห้อไหน รุ่นไหน ดีกว่าครับ มันเหมารวมว่ารถดีเซล แค่นี้ไม่ได้หรอก รถเบนซิน ก็เช่นกัน
ดีที่สุด คือ ตามคู่มือไว้ก่อน แล้ว ค่อยปรับตามอาการ หรือ สถานการณ์ ณ ตอนนั้นๆ ครับ
ตามด้านบนนี้เลย "ตอบได้ดี" 8)
-
ไม่มีเหตผลครับ
เบอร์นั้ำมันเครื่อง ต่อให้เบอร์ 50 ถ้าอยู่เมืองไทย ใช้ได้แน่นอน มันไหลได้ตั้งแต่ 20องศา และหนามากกว่าปกป้องดีกว่า ด้วยมาตรฐานน้ำมันเดียวกัน
รถรุ่นใหม่ ๆ ขอยกตัวอย่าง Almera แนะนำให้ใช้เบอร์ 20 แต่ถ้าอ่านให้เข้าใจ และไปศึกษาต่อ ก็เพราะเขาห่วงเรื่องอุณหภูมิภายนอกที่ทำให้น้ำมันไม่ไหล เบอร 20 ในคู่มือที่เขียนไว้ใช้ได้ทั่วโลกแม้กระทั่งหนาวติดลบครับ และเพียงพอที่จะพารถไปให้หมดระยะประกัน
-
ไม่เกี่ยวกับเก่ากับใหม่หรอก อยู่ที่เค้าให้ใช้แบบไหน และเครื่องกิน นมค ยัง ยังก็ใช้เดิมๆก็ได้
-
ดูตามคำแนะนำในคู่มือ สว่นดีไม่ดี เห็นด้วยตามด้านบนครับ