Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ซิ่งเข้าส้วม ที่ มีนาคม 11, 2020, 21:38:02
-
เบื้องต้นในปี 2021-2023 รัฐบาลจะรับซื้อรถเก่าอายุ 10 ปีในราคา 1 แสนบาท เพื่อให้เอาเงินจำนวนนี้ไปสนับสนุนการซื้อ EV
ดูจากนโยบายแล้ว รู้สึกไม่สมเหตุสมผลอย่างแรง เพราะรถอายุ 10 ปีหลายๆ รุ่นก็ยังราคาเกิน 1 แสนบาท Vios ราคาถูกสุดยังอยู่ที่ 140000 บาท ถ้ารัฐบาลรับไปแสนนึง ก็ขายต่อได้กำไร เดี๋ยวคงมี "เต๊นท์รถประชารัฐ" ตามมากติดๆ
แล้วคนที่ซื้อรถรุ่นที่ถูกที่สุด ก็คงจะไม่ซื้อ EV ที่ราคาเกินล้าน สรุปแล้วนโยบายนี้ก็ดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์อันใด
ไม่อยากจะบ่นมาก เดี๋ยวคนก็ว่าบ้าการเมืองอีก ในฐานะมดงาน เราก็ทำหน้าที่เสียภาษีไปวันๆ ก็พอแล้ว
ที่มา:
https://www.thansettakij.com/content/motor/424345
-
เกิน 10 ปีได้หมดใช่มั้ยครับ น่าสนใจทีเดียว ที่บ้านมีเกินหลายคันอยู่
-
ผมว่าดีนะ
รถเก่ามากๆ ขาดการดูแลที่ดีพอ
มันคือแหล่งผลิตมลพิษดีๆนี่เอง
แต่
น่าจะเอามาเป็นส่วนลด รถอีโค่คาร์ จะเหมาะสมกว่า
รถไฟฟ้า อาจจะลำบากใจคนซื้อ ที่ใช้รถเก่าขนาดนั้น
-
แสนเดียวยังไง รถ Toyota อายุไม่เกิน 15 ปีก็เกินแสนทั้งนั้นครับ
ที่มีโอกาสคือ GM ครับ 8)
-
ผมว่า ให้แท๊กซี่วิ่งได้7ปี จะเป็นอะไรที่ดีที่สุดครับ น่าจะรับซื้อรถพวกนั้นแทนก็ดีนะ
-
รับแสนเดียวเองหรอ จะมีสักกี่คันเชียวที่ขายแล้วคุ้ม :'(
-
เกิน 10 ปีได้หมดใช่มั้ยครับ น่าสนใจทีเดียว ที่บ้านมีเกินหลายคันอยู่
ตามข้อมูลคือ 10 ปี ไม่แน่ใจว่า เกิน 10 ปี หรือไม่เกิน 10 ปีนะครับ
แต่ดูแล้วน่าจะไปในทางไม่เกิน 10 ปีมากกว่าครับ เพราะเกิน 10 ปี รัฐขาดทุน
-
ที่น่าจะได้ผลดีมากๆคือมอไซครับ รับ15000แล้วยัง ให้ค่าเปลี่ยนแบตอีก3หมื่น
-
Fiesta 1.6 ยังได้เกือบสองแสนอยู่ ไม่ขายโว้ย 🤣🤣 มีเครื่อง 1.5 ecoboost ใหม่ๆราคา 3หมื่นกว่า มาล่ออยู่จะซื้อมาหาอู่วางดีมั้ยอยู่เลย
ดังนั้นแสนเดียว เอาไปทำนโยบายอุดหนุนสาธารณูปโภคด้านหัวชาร์จไปเถอะดีกว่ามาลดอะไรงี่เง่าแบบนี้
-
เปิดบทความมาด้วย
"ชงรัฐบาล... " ,
" คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ เปิดประชุมนัดแรก ... "
มันก็คือนำเสนอความคิด ไอเดีย เพื่อให้สภาพิจารณาไง รวมทั้งฟังข้อคิดเห็นจากประชาชนด้วย
ก็ยังต้องศึกษาข้อดี ข้อเสีย ชั่งน้ำหนักกันต่อ
ไม่เห็นด้วย ไม่ดี ก็โต้แย้งกันไป ด้วยเหตุผลอย่างนั้น อย่างนี้
ช่วยกันคิด เพื่อให้ได้วิธีการที่ดีที่สุด .... มันควรจะเป็นอย่างนั้นไม่ใช่หรือ
แต่การพาดหัวว่า "มาแล้วนโยบาย...." มันเหมือนเป็นข่าวที่บอกว่าสรุปแล้วว่าจะทำอย่างนั้น
เป็นแนวทางของสื่อเสี้ยมให้คนไปรุมด่ากัน แล้วก็วนเข้าลูปเดิมแบบไม่มีอะไรดีขึ้น นอกจากได้ด่า
ได้ release แรงดันออกไปซะอย่างนั้น
เฮ้อ...
////
คคห ส่วนตัว ผมก็ว่าไม่เวิร์ค ด้วยประการทั้งปวง
เอาภาษีจากประชาชนทั้งประเทศมาอุดหนุนคนที่จะซื้อ EV เฉพาะรายแบบนี้มันจะดีเหรอ
ไหนจะกระบวนการจัดการกับรถเก่าที่รับซื้อมาจากประชาชนอีก เป็นช่องโหว่ให้ทุกจริตได้อีกเพียบ
ไม่ควร ไม่ควรครับ
-
รอให้ทำจริงๆก่อนดีกว่า ตอนนี้ยังเป็นแค่แผนการ จะได้ทำจริงหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ อีกอย่างรถที่ขายได้แสนเดียวจะมีกี่เปอร์เซ็นต์ของจำนวนรถทั้งหมดล่ะ
-
เปิดบทความมาด้วย
"ชงรัฐบาล... " ,
" คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ เปิดประชุมนัดแรก ... "
มันก็คือนำเสนอความคิด ไอเดีย เพื่อให้สภาพิจารณาไง รวมทั้งฟังข้อคิดเห็นจากประชาชนด้วย
ก็ยังต้องศึกษาข้อดี ข้อเสีย ชั่งน้ำหนักกันต่อ
ไม่เห็นด้วย ไม่ดี ก็โต้แย้งกันไป ด้วยเหตุผลอย่างนั้น อย่างนี้
ช่วยกันคิด เพื่อให้ได้วิธีการที่ดีที่สุด .... มันควรจะเป็นอย่างนั้นไม่ใช่หรือ
แต่การพาดหัวว่า "มาแล้วนโยบาย...." มันเหมือนเป็นข่าวที่บอกว่าสรุปแล้วว่าจะทำอย่างนั้น
เป็นแนวทางของสื่อเสี้ยมให้คนไปรุมด่ากัน แล้วก็วนเข้าลูปเดิมแบบไม่มีอะไรดีขึ้น นอกจากได้ด่า
ได้ release แรงดันออกไปซะอย่างนั้น
เฮ้อ...
////
คคห ส่วนตัว ผมก็ว่าไม่เวิร์ค ด้วยประการทั้งปวง
เอาภาษีจากประชาชนทั้งประเทศมาอุดหนุนคนที่จะซื้อ EV เฉพาะรายแบบนี้มันจะดีเหรอ
ไหนจะกระบวนการจัดการกับรถเก่าที่รับซื้อมาจากประชาชนอีก เป็นช่องโหว่ให้ทุกจริตได้อีกเพียบ
ไม่ควร ไม่ควรครับ
ก็นโยบายมัน "มาแล้ว" ใช้ผิดตรงไหนครับ เสี้ยมยังไง
นโยบายมันแปลว่า "แนวทาง" ก็เขาเสนอแนวทางกันมาแบบนี้
ในข่าวก็มีนโยบายปรากฏชัดเจนว่าเขาจะทำอะไร อย่างไร ผมพิจารณาแล้วก็ไม่เห็นว่ามันเป็นเท็จตรงไหน จะให้ผมพาดหัวว่า "กำลังจะประชุม" "กำลังหานโยบาย" มันก็ไม่ใช่น่ะครับ พจน์ไม่เป็นจริง เพราะ นโยบายมันมาแล้ว
ต่อให้อยู่ในระหว่างการตัดสินใจว่าจะใช้หรือไม่ นโยบายมันก็มาแล้วอยู่ดี
ถ้าบอกว่า "ประกาศใช้แล้ว" แบบนั้นจะบอกว่าผิดก็เข้าใจได้ครับ
หรือถ้าผมใช้ผิดหลักภาษาอย่างไร ก็ขอความรู้ด้วยครับ
-
จริงๆ แล้วใช้คำว่า คณะกรรมการฯ เสนอรัฐบาล หรือ ชงรัฐบาล ดีกว่าครับ
อ่านแล้วมันให้ sense ว่า มีผู้เสนอไอเดียให้พิจารณา จะเอา ไม่เอา ยังไม่สรุป
แต่ถ้าบอกว่า มาแล้วนโยบาย มันให้ sense ไปทางที่ว่าไอเดียนี้ผ่านการพิจารณาแล้ว
ออกเป็นนโยบายว่าเอาตามนี้น่ะครับ
ใจเย็นๆ นะครับ ทั้งอ่านข่าวหรือแชร์ข่าว บ้านเราในช่วงเวลานี้ มีการปล่อยข่าวแบบบิดคำพูด
แล้วทำให้เข้าใจผิดไปกันเยอะมาก แล้วสุดท้ายคนทะเลาะกัน ไม่มีความสุข
มาจากพวกเราคนไทยทำกันเองนี่แหละครับ. ด้วยความเคารพ อยากเห็นสังคมเราเย็นลงกว่านี้
สักนิดก็ยังดีครับ
-
รถผมเกิน 15 ปีไปหมดแล้ว แต่ไม่ขายครับ
-
ผมว่า ให้แท๊กซี่วิ่งได้7ปี จะเป็นอะไรที่ดีที่สุดครับ น่าจะรับซื้อรถพวกนั้นแทนก็ดีนะ
แอบคิดเล่นๆว่า ลองเอาแบบแหวกสุดโต่งดูบ้าง
คือบังคับ หรือชักจูงด้วยเงื่อนไขให้แท๊กซี่เริ่มใช้รถ ev ก่อนเลย คงเป็นอะไรที่สุดยอดไปเลย
โตโยต้า อาจมองเป็นโอกาส หรืออาจจะค้านหัวชนฝา วงแตกเลย
ก็น่าคิดเหมือนกันนะครับ
-
โยนหินถามทาง ถ้าถามว่า ดีไหม ตอบได้เลย คนคิด คิดตื้นๆ รับรอง ครม อนุมัติ มาโดนด่า การสนับสนุนรถไฟฟ้า มันคิดฝั่งเดียวด้านนี้ด้านเดียวไม่ได้ มันต้องส่งเสริมด้านผู้ผลิต ด้วย ถ้าจะส่งเสริมจริงๆ มันต้องแรงกว่านี้ และต้องคิดถึงภาษีที่จะสูญเสียด้วยว่าจะเก็บจากไหนเพิ่ม ถ้าคิดแค่นี้ โยนหินมากกว่า กะว่าทำให้ดูเหมือนว่า พวกกูทำงานน๊ะ
-
ส่วนตัวผม ควรมี 2 มิติ 1 ด้านเงินสนับสนุน 2 ภาษี
1.เงินสนับสนุน
- ตั้งงบสนับสนุนส่วนหนึ่ง จัดซื้อรถ EV อีกส่วนหนึ่งไว้ R&D โรงซ่อมบำรุงรักษารถ EV สาธารณะ ให้ ขสมก.
2.ภาษี
-ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จากค่าซื้อรถ EV เช่น ปีละไม่เกิน 300,000 บาท ได้ 5 ปี 1 คน 1 คัน
-ค่าซื้อ/ติดตั้ง สายชาร์จรถ EV นำทางหักค่าใช้จ่าย ทั้งบุคคลธรรมดา และ นิติบุคคล 2-3 เท่า ของค่าใช้จ่ายตามจริง
-
ลดราคารถใหม่ ev ให้ได้มากที่สุด น่าจะตอบโจทย์กว่า ใครๆ ก็อยากเปลี่ยนรถใหม่ แต่มันติดที่ไม่มีเงิน
-
ผมว่าไว้รอทำราคารถไฟฟ้าราคาต่ำกว่า8แสนให้ได้ก่อนดีกว่า เพราะถ้ารถยังราคาหลักล้านอยู่ ต่อให้มีส่วนลดยังไงก็โตยาก นอกจากจะเอาไปซื้อFOMMนะ(ฮา) 8) 8)
-
ยังไม่ใช่นโยบายจริงใช่ไหม ? และใครชง ชงมาให้รัฐโดนด่ารึเปล่า
ถ้าเป็นจริงค่อนข้างแปลกใจนะ กับรัฐบาลยุคนี้เพราะยุคนี้ค่อนข้างเน้นรถสาธารณะมากขึ้น สิ่งที่ควรส่งเสริม EV ประชารัฐจริงๆ คือรถสาธารณะนั่นละ คนส่วนใหญ่ได้ใช้หมด
รถเมลนั่นละ ทำเลย แล้วเพิ่มจุดชาร์ทเร็วตามสถานี หรือตามอู่รถเมลให้คนทั่วไปใช้ด้วย แค่นี้คนใช้ EV ก็น่าจะขยายตัวเอง
คนที่ไม่มาใช้ EV จุดหลักไม่ใช่ราคาครับ "ความสะดวก" คนซื้อรถเพราะความสะดวกทั้งนั้น ถ้าซื้อแล้วไม่สะดวกจะซื้อมาทำไม....โจทย์ง่ายๆ แต่ตอบไม่ตรง
-
รัฐควรมีนโยบายให้ค่ายรถรถยุโรปรับซื้อรถเก่าเช่น
รัฐกำหนดราคากลางแสนนึง ค่ายรถให้อีกสามหมื่นเป็นแสนสาม
ค่ายรถสามารถเอารถเก่าที่ซื้อมาไปเป็นส่วนลดภาษีรถนำเข้าได้ เช่นรัฐลดภาษีจากรถเก่าที่ไปรับซื้อมาคันละแสนหก ค่ายรถได้ส่วนต่างสามหมื่น แล้วค่ายรถก็เอามาปรับราคารถยนต์ไฟฟ้าใหม่
ก็เท่ากับว่าขายรถยุโรปสองล้านกว่าบาทซึ่งเป็นกลุ่มที่ขายดีที่สุดได้คันนึงเท่ากับรถญี่ปุ่นประมาณหกคันเลย
รุ่นแพงหน่อยก็รถญี่ปุ่นโหลนึง แบบนี้ลดปริมาณรถเก่าได้ ตอนนี้ต้นทุนรถEVยังแพง กดต้นทุนยาก แต่กดจากภาษีง่ายกว่า
คนงบน้อยก็ใช้รถเก่าและเก็บเงินรอเทคโนโลยีทำให้ถูกลง
คนงบกลางๆก็มีแรงจูงใจในเมื่อรถยุโรปถูกลงก็เก็บเงินเพิ่ม
คนมีตังซื้อรถก็ทำให้รถเก่าออกจากระบบ 8)
-
ยังไม่ใช่นโยบายจริงใช่ไหม ? และใครชง ชงมาให้รัฐโดนด่ารึเปล่า
ถ้าเป็นจริงค่อนข้างแปลกใจนะ กับรัฐบาลยุคนี้เพราะยุคนี้ค่อนข้างเน้นรถสาธารณะมากขึ้น สิ่งที่ควรส่งเสริม EV ประชารัฐจริงๆ คือรถสาธารณะนั่นละ คนส่วนใหญ่ได้ใช้หมด
รถเมลนั่นละ ทำเลย แล้วเพิ่มจุดชาร์ทเร็วตามสถานี หรือตามอู่รถเมลให้คนทั่วไปใช้ด้วย แค่นี้คนใช้ EV ก็น่าจะขยายตัวเอง
คนที่ไม่มาใช้ EV จุดหลักไม่ใช่ราคาครับ "ความสะดวก" คนซื้อรถเพราะความสะดวกทั้งนั้น ถ้าซื้อแล้วไม่สะดวกจะซื้อมาทำไม....โจทย์ง่ายๆ แต่ตอบไม่ตรง
โดนใจครับ เพราะคือสิ่งที่ตัวเองควบคุมได้เลย
-
Fiesta 1.6 ยังได้เกือบสองแสนอยู่ ไม่ขายโว้ย 🤣🤣 มีเครื่อง 1.5 ecoboost ใหม่ๆราคา 3หมื่นกว่า มาล่ออยู่จะซื้อมาหาอู่วางดีมั้ยอยู่เลย
ดังนั้นแสนเดียว เอาไปทำนโยบายอุดหนุนสาธารณูปโภคด้านหัวชาร์จไปเถอะดีกว่ามาลดอะไรงี่เง่าแบบนี้
แอบสนใจด้วยคนับ
-
เอาเงินไปลงทุนกับรถเมล์ที่ปล่อยแต่ควันดำเป็นรถไฟฟ้าดีกว่ามั้ยครับ รวมไปถึงบังคับหักดิบเลยว่าในเขตกทม ห้ามมีรถมอเตอร์ไซค์น้ำมันวิ่งอยู่ หรือวิ่งได้แต่ต้องเสียภาษีโหดๆ เพราะมอเตอร์ไซค์นั้นปล่อยมลพิษเยอะกว่ารถยนต์อีโค่คาร์เสียอีก และรับซื้อมอเตอร์ไซค์ในราคา15000เพื่อบังคับให้ไปซื้อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
-
คำถามหน่อยครับ
1. รัฐเอาเงินจากไหนมาอุดหนุน / 1 คัน 1 แสน แสนคัน หมื่นล้าน
2. รถที่ซื้อไป จัดการอย่างไร / ทำลาย ขายถูก บลาๆๆ
3. อุตสาหกรรมในประเทศพร้อมหรือยัง / ยังไม่เห็นใครมีแผนเลย
4. สเปครถ EV มันตอบโจทย์การใช้งานได้แล้วใช่มั้ย / วิ่งไกล เติมไว
5. สวนลดราคาที่ได้ มันจูงใจหรือซื้อรถ EV แล้วใช่มั้ย / ไม่เกินล้าน
เฮ้อยังมองไม่เห็นทางเลยซักข้อเดียว
-
คำถามหน่อยครับ
1. รัฐเอาเงินจากไหนมาอุดหนุน / 1 คัน 1 แสน แสนคัน หมื่นล้าน
2. รถที่ซื้อไป จัดการอย่างไร / ทำลาย ขายถูก บลาๆๆ
3. อุตสาหกรรมในประเทศพร้อมหรือยัง / ยังไม่เห็นใครมีแผนเลย
4. สเปครถ EV มันตอบโจทย์การใช้งานได้แล้วใช่มั้ย / วิ่งไกล เติมไว
5. สวนลดราคาที่ได้ มันจูงใจหรือซื้อรถ EV แล้วใช่มั้ย / ไม่เกินล้าน
เฮ้อยังมองไม่เห็นทางเลยซักข้อเดียว
ใช่ครับ. เอาเงินมาจากไหนมาซื้อคันละแสน กับรถไฟฟ้ามันไม่เหมาะในการวิ่งทางไกลอันเนื่องจากระยะเวลาเติมเชื้อเพลิงที่ใช้เวลานานถ้าอยากได้รุ่นที่วิ่งได้ไกลก็คันละห้าหกล้านขึ้นไป. สู้เอาไปลงทุนทางธุรกิจหรือซื้อที่เกร็งกำไรไม่ดีกว่าหนอครับ ถ้าอยากจริงใจจะแก้ปัญหาฝุ่นควันจริงๆก็เริ่มจากรถเมล์ ขสมก+รถร่วมเป็นรถไม่มีควันดำหรือรถไฟฟ้า. จับและลงโทษพวกเผาป่า ไร่อ้อย ตอต้นข้าวให้บทลงโทษหนักๆและจริงจัง ไม่เช่นนั้น แม้จะเปลี่ยนรถทุกคันในประเทศไทยเป็นรถไฟฟ้าแล้ว แต่ก็ยังมีควันมลพิษจากการเผาทั้งหลาย
-
เอาเงินไปลงทุนกับรถเมล์ที่ปล่อยแต่ควันดำเป็นรถไฟฟ้าดีกว่ามั้ยครับ รวมไปถึงบังคับหักดิบเลยว่าในเขตกทม ห้ามมีรถมอเตอร์ไซค์น้ำมันวิ่งอยู่ หรือวิ่งได้แต่ต้องเสียภาษีโหดๆ เพราะมอเตอร์ไซค์นั้นปล่อยมลพิษเยอะกว่ารถยนต์อีโค่คาร์เสียอีก และรับซื้อมอเตอร์ไซค์ในราคา15000เพื่อบังคับให้ไปซื้อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
เห็นด้วยครับ โดยเฉพาะเรื่องรถเมล์ควันดำ แต่เรื่องมอไซค์ ต้องใช้เวลาครับ เพราะส่วนใหญ่ใช้น้ำมันอยู่ เว้นแต่จะมีจุดชาร์จเพียงพอ และชาร์จได้เร็ว สามารถรองรับการชาร์จได้ทุกครัวเรือน อย่าลืมว่า บางคนอยู่คอนโดหรือห้องแถว ที่ไม่มีจุดชาร์จ หรือมีจำกัด ในขนาดที่รถมอไซค์ธรรมดา สามารถเติมข้างนอกได้เร็ว และไม่ต้องมาเติมที่บ้าน อีกอย่าง ตอนนี้มีใครเอามอไซค์ไฟฟ้าเข้ามาขายจริง ๆ แล้วหรือยังครับ ไม่ใช่จักรยานไฟฟ้านะ ถ้าหักดิบตอนนี้มีแต่เสียทั้ง 2 ฝ่ายครับ
ที่สำคัญ พลังงานบ้านเรา จะรองรับการใช้รถไฟฟ้าได้มากแค่ไหน เพราะเรายังต้องพึ่งพาไฟฟ้าจากเพื่อนบ้านอยู่ ถ้าไม่มีไฟฟ้า ก็ชาร์จไม่ได้ครับ เว้นแต่จะเอาเครื่องปั่นไฟมาชาร์จ ก็ก่อมลภาวะอีก
ตอนนี้ที่ทำได้มากที่สุดคือ รับซื้อมอไซค์เก่าไป Recycle (โดยเฉพาะ 2 จังหวะ, 4 จังหวะ ก่อนปี 2550), ซ่อมแซมแล้วขายประเทศที่ 3 หรือแยกส่วนแล้วปรับปรุงไปขายเป็นอะไหล่ แล้วเอาส่วนที่ขายไปเป็นส่วนลดรถมอไซค์ใหม่ที่มลภาวะต่ำ ยังทำได้ง่ายกว่าครับตอนนี้
-
เอาเงินไปลงทุนกับรถเมล์ที่ปล่อยแต่ควันดำเป็นรถไฟฟ้าดีกว่ามั้ยครับ รวมไปถึงบังคับหักดิบเลยว่าในเขตกทม ห้ามมีรถมอเตอร์ไซค์น้ำมันวิ่งอยู่ หรือวิ่งได้แต่ต้องเสียภาษีโหดๆ เพราะมอเตอร์ไซค์นั้นปล่อยมลพิษเยอะกว่ารถยนต์อีโค่คาร์เสียอีก และรับซื้อมอเตอร์ไซค์ในราคา15000เพื่อบังคับให้ไปซื้อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
มีข้อมูลอ้างอิงมั้ยครับว่ามอไซค์ปล่อยมลพิษเยอะกว่ารถยนต์ เอากรณีใช้งานจริงๆนะครับ รถยนต์เผาน้ำมันในเมืองเฉลี่ยต่ำกว่าสิบโลลิตร...ส่วนมอไซค์ฮอนด้าเวฟผมว่าเขาวิ่งจริงเกินสี่สิบโลลิตรครับ ถ้ามีข้อมูลเอามาดูกันครับท่าน...
-
รอให้เป็นนโยบายจริงๆออกมาก่อนดีกว่า บางทีแค่โยนหินถามทางเท่านั้น
-
เอาเงินไปลงทุนกับรถเมล์ที่ปล่อยแต่ควันดำเป็นรถไฟฟ้าดีกว่ามั้ยครับ รวมไปถึงบังคับหักดิบเลยว่าในเขตกทม ห้ามมีรถมอเตอร์ไซค์น้ำมันวิ่งอยู่ หรือวิ่งได้แต่ต้องเสียภาษีโหดๆ เพราะมอเตอร์ไซค์นั้นปล่อยมลพิษเยอะกว่ารถยนต์อีโค่คาร์เสียอีก และรับซื้อมอเตอร์ไซค์ในราคา15000เพื่อบังคับให้ไปซื้อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
มีข้อมูลอ้างอิงมั้ยครับว่ามอไซค์ปล่อยมลพิษเยอะกว่ารถยนต์ เอากรณีใช้งานจริงๆนะครับ รถยนต์เผาน้ำมันในเมืองเฉลี่ยต่ำกว่าสิบโลลิตร...ส่วนมอไซค์ฮอนด้าเวฟผมว่าเขาวิ่งจริงเกินสี่สิบโลลิตรครับ ถ้ามีข้อมูลเอามาดูกันครับท่าน...
ผมว่ามอไซด์ ไม่มี แคท โดยทฤษฎี น่าจะปล่อยมลพิษมากกว่ารถยนต์ที่มี แคท มั้งครับ
และยังไม่ได้ถูกควบคุมมาตรฐานไอเสียในระดับเดียวกับรถยนต์ด้วย
-
รัฐบาลไม่ต้องเสียเงินซักบาทก็เป็นได้ครับ รถ EV ก็มีภาษีที่เก็บมากกว่านั้นอยู่แล้ว อยู่ที่การจัดการและความจริงใจเท่านั้นเอง
-
เอาเงินไปลงทุนกับรถเมล์ที่ปล่อยแต่ควันดำเป็นรถไฟฟ้าดีกว่ามั้ยครับ รวมไปถึงบังคับหักดิบเลยว่าในเขตกทม ห้ามมีรถมอเตอร์ไซค์น้ำมันวิ่งอยู่ หรือวิ่งได้แต่ต้องเสียภาษีโหดๆ เพราะมอเตอร์ไซค์นั้นปล่อยมลพิษเยอะกว่ารถยนต์อีโค่คาร์เสียอีก และรับซื้อมอเตอร์ไซค์ในราคา15000เพื่อบังคับให้ไปซื้อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
มีข้อมูลอ้างอิงมั้ยครับว่ามอไซค์ปล่อยมลพิษเยอะกว่ารถยนต์ เอากรณีใช้งานจริงๆนะครับ รถยนต์เผาน้ำมันในเมืองเฉลี่ยต่ำกว่าสิบโลลิตร...ส่วนมอไซค์ฮอนด้าเวฟผมว่าเขาวิ่งจริงเกินสี่สิบโลลิตรครับ ถ้ามีข้อมูลเอามาดูกันครับท่าน...
ใช่ครับ ไม่มีแคท ยิ่งมอเตอร์ไซต์บิ๊กไบค์ปล่อยมลพิษมากกว่าอีโคคาร์บางยี่ห้อ
https://medium.com/@taninasi/%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B8%96%E0%B8%99%E0%B8%99-%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A2-pm2-5-%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87-7527f81ee586
ผมว่ามอไซด์ ไม่มี แคท โดยทฤษฎี น่าจะปล่อยมลพิษมากกว่ารถยนต์ที่มี แคท มั้งครับ
และยังไม่ได้ถูกควบคุมมาตรฐานไอเสียในระดับเดียวกับรถยนต์ด้วย
-
ความจริงประเด็นมลพิษ ทางสมอ.ก็มีมาตรฐานบังคับไม่เว้นมอเตอร์ไซค์ครับ บิกไบค์เองเข้าใจว่าหลายรุ่นก็มีแคทจากโรงงานครับ..ไม่งั้นทดสอบไม่ผ่านขายไม่ได้เหมือนกัน ยิ่งมอไซค์สองจังหวะรุ่นใหม่ๆแทบไม่มีแล้ว (เวสป้า px สองปีที่แล้วไม่รู้ทดสอบยังงัย) ผมใช้ทั้งมอไซค์ รถยนต์ ขนส่งสาธารณะ ก็ไม่อยากไปชี้หน้าว่าใครเป็นต้นเหตุโดยไม่มีหลักฐานที่น่าเชื่อถือหรือใช้ความรู้สึกเอา ผมว่ามันไม่แฟร์กับคนที่เขามีรายได้น้อยและไม่ได้มีทางเลือกมากนัก ขออภัยที่นอกเรื่องอีวีเป็นอย่างสูงครับ...
ตัวอย่าง มาตรฐานตรวจมอไซค์ : https://www.tisi.go.th/data/standard/fulltext/TIS-2350-2551m.pdf
-
Fiesta 1.6 ยังได้เกือบสองแสนอยู่ ไม่ขายโว้ย 🤣🤣 มีเครื่อง 1.5 ecoboost ใหม่ๆราคา 3หมื่นกว่า มาล่ออยู่จะซื้อมาหาอู่วางดีมั้ยอยู่เลย
ดังนั้นแสนเดียว เอาไปทำนโยบายอุดหนุนสาธารณูปโภคด้านหัวชาร์จไปเถอะดีกว่ามาลดอะไรงี่เง่าแบบนี้
แอบสนใจด้วยคนับ
อู่ช่างวาย ลำลูกกา เลยครับ ทีเครื่อง ecoboost 1.5 มาลง 3,4 เครื่อง แต่แกไม่วางนะครับ แต่ผมดูว่าถ้าซื้อแล้วไปวางกับอู่ ford speed ที่น่าจะทำได้