Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Onelove7 ที่ มีนาคม 21, 2020, 01:31:50
-
Z4 e89 เครื่อง4สูบเทอร์โบ กับ6สูบna ดีกว่ากันครับแล้วการบำรุงรักษาตัวไหนไม่จุกจิกกว่า
กันครับพอดีกำลังสนใจมือ2รุ่นนี้ครับ
-
4สูบเทอร์โบจุก และจิกกว่าครับ
ที่คุณอาจจะต้องเจอเพิ่มมาจากเครื่อง NA ,
ระบบฉีดตรง ประกอบด้วย หัวฉีด ท่อร่วมตัน ปั๊มแรงดันสูง กรองเบนซินในถังที่ต้องเปลี่ยน
เทอร์โบ อินเตอร์ ท่ออากาศ ท่อน้ำจะเสื่อมเร็ว
ซีลต่างของเครื่องก็เสื่อมเร็ว ผมยังไม่เคยเจอเครื่องตัวนี้เกิน150,000โลไม่มีจุดเยิ้มเลยสักคัน
แต่คนซื้อรถราคาช่วงนี้ผมว่าซ่อมไหว
-
6 สูบ NA คือ สุดเส้นทางพัฒนาของบีเอ็มที่แถวๆยุค E89
4 สูบโบ คือ ของใหม่ (กว่า NA) สำหรับบีเอ็ม
ถ้าเอาความเสถียรเป็นที่ตั้ง ผมสบายใจกับ 6 สูบ NA มากกว่า
-
ถ้าเป็นผม ผมเอาตัวที่เป็นเครื่องเทอร์โบครับ เครื่องเทอร์โบ ยุคใหม่เห็นเขาทำกันแรงดีอยู่ ไม่เหนื่อยมากด้วย
-
เพิ่งได้ e89 23i มาเมื่อปลายปีที่แล้วครับ มีรถ 4pot turbo อยู่แล้วเลย เลือกตัว inline 6
เครื่อง n52 บน body e89 ช่วงต้นแอบอืดนิดนึงครับ เทียบกะรถ 2.0T ขับจะเค้นหน่อยในเมือง แต่ เกิน 100 kmh ตอบสนองดี ไม่แรงเท่าไหร่แต่ไหลไปเรื่อยๆ
ช่วงปลายวิ่ง 220-230 สบายๆครับ วิ่งทางไกลสบาย. ทำท่อเสียงหวานดีครับ กินน้ำมันประมาน 8-9 kml ขับไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่
ผมว่าอยู่ที่โจทย์ครับ.
เน้นอัตราเร่งตีนต้น , แต่งต่อ (up stage) , เสียง aggressive ไป 4pot
ขับเรื่อยๆ, วิ่งทางไกล, เสียงเพราะ ไป inline 6
-
ณ เวลานี้ ผมเลือก Turbo ไว้ก่อนครับ
ขับสนุก response มาตลอด กดตอนไหน มาตอนนั้น แล้วถ้าไปต่อได้ Turbo ง่ายกว่า NA เยอะ(มากกกกก)
-
เพิ่งได้ e89 23i มาเมื่อปลายปีที่แล้วครับ มีรถ 4pot turbo อยู่แล้วเลย เลือกตัว inline 6
เครื่อง n52 บน body e89 ช่วงต้นแอบอืดนิดนึงครับ เทียบกะรถ 2.0T ขับจะเค้นหน่อยในเมือง แต่ เกิน 100 kmh ตอบสนองดี ไม่แรงเท่าไหร่แต่ไหลไปเรื่อยๆ
ช่วงปลายวิ่ง 220-230 สบายๆครับ วิ่งทางไกลสบาย. ทำท่อเสียงหวานดีครับ กินน้ำมันประมาน 8-9 kml ขับไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่
ผมว่าอยู่ที่โจทย์ครับ.
เน้นอัตราเร่งตีนต้น , แต่งต่อ (up stage) , เสียง aggressive ไป 4pot
ขับเรื่อยๆ, วิ่งทางไกล, เสียงเพราะ ไป inline 6
ผมใช้ N52 เหมือนกัน มันเป็นเครื่องที่นุ่ม นิ่ง เสียงหวาน มันไม่ได้แรงมากถ้าเทียบกับรถปัจจุบัน แต่ด้วยความที่เป็นเครื่องใหญ่ 2.5 ความเร็วมันจะขึ้นไปแบบไหลๆ ต่อเนื่อง เหมาะกับการเดินทางไกลจะไม่ค่อยเหนื่อย ไม่ใช่แบบกวาดปรู๊ดปร๊าดเหมือนเครื่อง Turbo นะครับ
อัตราสิ้นเปลืองในเมืองผมได้ 8-9 km/l วิ่งทางไกลได้ 9-11 km/l ครับ
-
แคร์อะไรมากกว่ากันระหว่าง
1. อัตราเร่งตีนต้นที่ปรู๊ดปร๊าดกว่า และความประหยัดน้ำมันที่ดีกว่าพอสมควร
2. อรรถรสของรถ 6 สูบ (เสียงเครื่องและท่อ ความนุ่มนวล และปอดใหญ่สำหรับการเดินทางไกล) อาจจะแถมมาด้วยความจุกจิกที่น้อยกว่านิดนึง
-
ถ้าเน้นฟิลลิ่ง เสียงเพราะๆ ตอบสนองแบบธรรมชาติกว่า ผมว่า 6 สูบเลยครับ
4 สูบ ผมว่าเหมาะสำหรับการใช้ในชีวิจประจำวัน เพราะประหยัดน้ำมัน และคิกดาวน์แล้วพุ่งกว่า แต่สุนทรียภาพแพ้ 6 สูบครับ
ปล. ผมใช้เครื่องเบนซิน 4 สูบโบนี้อยู่ในรุ่นอื่น พุ่งจริง แรงจริง และประหยัดด้วย แต่อย่าถามหาเสียงเพราะๆ และอีกอย่างคือขับแล้วมีเทอร์โบแล็คแน่นอนครับ ฟิลลิ่งไม่ธรรมชาตินัก ถึงมันจะดีมาก แต่ผมยังชอบรถเครื่องใหญ่ไร้โบ มากกว่า ถ้าให้ขับอย่างเดียวนะครับ
แต่พอคิดถึงค่าน้ำมันแล้ว 4 สูบ ก็จะไล่คะแนนกลับมาเยอะมากๆ ยิ่งถ้าวิ่งในเมือง กินต่างกันมากกก