Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: PaPaMan ที่ มีนาคม 27, 2020, 17:48:11
-
วันนี้ผมได้เอารถ Honda city 2014 ไปเข้าศูนย์เช็คระยะ80,000กม.มาครับ รถคันนี้ SA ได้เอาเครื่องตรวจเช็คแบตเตอรี่มาตรวจแล้วแจ้งว่าแบตเสื่อมสมควรเปลี่ยนเนื่องจากวัดโวล์ทได้แค่ 9.8v และ CCA ได้ประมาณสองร้อยนิดๆ (ผมจำตัวเลขไม่ค่อยได้) พร้อมกับชวนให้เปลี่ยนแบตของศูนย์ ซึ่งผมได้ปฏิเสธไป
พอรับรถกลับมาแล้วผมลองใช้เครื่องของผมที่ซื้อจากลาซาด้าที่เป็นเครื่องสีเหลืองๆ (หลายท่านคงเคยเห็นหรือมีใช้อยู่) ลองวัดดูตอนดับเครื่องวัดได้ 12.83v CCA 221 ตอนติดเครื่องวัดได้ 14.28v CCA228
ลองเอาเครื่อง Foxsur มาวัดตอนดับเครื่องวัดได้ 12.7v (ตอนติดเครื่องวัดไม่ได้ครับมันขึ้นว่า off ครับ)
นึกได้ว่ามีมัลติมิเตอร์อยู่ก็เลยเอามาลองวัดซ้ำ ตอนดับเครื่องวัดได้ 12.85v ตอนติดเครื่องวัดได้ 14.34v
ตกลงว่าเครื่องของผมหรือเครื่องของศูนย์มั่วครับ หรือว่าเครื่องของศูนย์จงใจ calibrate เครื่องให้วัดได้ต่ำกว่าปกติเพื่อจะชวนลูกค้าซื้อแบตของศูนย์ครับ
ปล. แบตGS 46B24L แบบ MF ค่า CCA ของใหม่จากโรงงาน 325 อายุประมาณ 2 ปีครับ ที่จริงผมก็ตั้งใจจะเปลี่ยนแบตอีกซัก 6 เดือน หรือเมื่อวัด CCA ได้ต่ำกว่า 200 ครับ
-
cca เริ่มต่ำแล้ว โอกาสที่จะ start ไม่ติด มากขึ้น
-
9.8 V นี่น่าจะเป็นค่าแรงดันไฟฟ้าขณะที่กำลังสตาร์ทมากกว่าครับ ถ้าต่ำกว่านี้ก็ควรเปลี่ยน
ที่เคยเจอคือฟอร์ดเอสเคป ถ้าสตาร์ทแล้วแรงดันไฟฟ้าตอนที่กำลังสตาร์ทต่ำกว่า(เท่าไรไม่รู้ จำไม่ได้ละ) เข็มหน้าปัดความเร็วทุกอันจะวิ่งไปสุดเกจรอบนึง
หลังจากนั้นสักเดือนนึงก็สตาร์ทไม่ติดละครับ (เจอแบบนี้ก่อนเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่สามครั้งละ)
-
Starting voltage ประมาณ 9.6 volt แบตของรถเริ่มจะเสื่อมแล้ว ลองตรวจซ้ำอีกครั้ง หรือลองวัด volt หลังจากดับเครื่องราวๆ12ชั่วโมงเพื่อดูว่าแบตเตอรี่เก็บไฟได้นานหรือเปล่า
-
ค่า ocv (open circuit voltage) ยังพอใช้ได้ครับ
ถ้าจะเสื่อมจริงๆ รอให้ ocv แบบทิ้งข้ามคืนต่ำกว่า 12.5v ก่อนก็ได้
แต่นะ เพื่อให้ประหยัดเงินในกระเป๋าสุดๆ ถ้าแชะสตาร์ทแรกในตอนเช้า(กรณีรถใช้ทุกวัน)แล้วเสียงเริ่มยานๆ
ค่อยเตรียมตัวหาแบตใหม่ก็ได้ครับ
-
9 Vกว่าๆ ศูนย์ชอบเอามาหลอกลูกค้าที่ไม่รู้เรื่อง ... ความหมายคือ แรงดันตอนสตาร์ทแหละ เพราะถ้าแบตรถคุณเหลือ 9V จริงๆ มันสตาร์ทไม่ได้แล้วครับ (จริงๆเหลือสัก 11.0 ก็สตาร์ทแทบจะไม่ติดละ)
ส่วน CCA 200 กว่า ถือว่า ต่ำแล้ว มีโอกาสสตาร์ทไม่ติด ควรเปลี่ยนครับ
เครื่องศูนย์ HONDA นี่ของแพงนะ มาตรฐานดีกว่า ของจีนไม่กี่ร้อยมากมาย แต่นั่นแหละ เครื่องดี แต่คนอ่านค่าไม่เป็น ก็ไร้ประโยชน์ครับ
-
ขอบคุณทุกความเห็นครับ ที่แท้ก็เป็น starting voltage ที่เค้าวัดตอนสตาร์ทนี่เอง มิน่าล่ะเห็นเครื่องเค้าหรูหราหมาเห่ามากเลยดูแล้วไม่น่าเพี้ยน
แบบนี้ถ้าจะดันทุรังใช้อาจจะอยู่ได้อีกซัก 2 เดือน ผมว่ารีบเปลี่ยนก็ดีครับเพราะรถคันนี้คุณนายเป็นคนใช้ด้วย เกิดสตาร์ทไม่ติดตอนอยู่นอกบ้านล่ะงานเข้าเลย ยิ่งช่วงนี้ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ร้านแบตจะโดนปิด
-
ขอบคุณทุกความเห็นครับ ที่แท้ก็เป็น starting voltage ที่เค้าวัดตอนสตาร์ทนี่เอง มิน่าล่ะเห็นเครื่องเค้าหรูหราหมาเห่ามากเลยดูแล้วไม่น่าเพี้ยน
แบบนี้ถ้าจะดันทุรังใช้อาจจะอยู่ได้อีกซัก 2 เดือน ผมว่ารีบเปลี่ยนก็ดีครับเพราะรถคันนี้คุณนายเป็นคนใช้ด้วย เกิดสตาร์ทไม่ติดตอนอยู่นอกบ้านล่ะงานเข้าเลย ยิ่งช่วงนี้ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ร้านแบตจะโดนปิด
ร้านแบตไม่น่าจะโดนปิดนะครับ
ถ้าร้านแบตปิด ผมว่า ประเทศไทยต้องอยู่ในลักษณะ shut off แล้วล่ะครับ
ลองคิดดูเล่นๆนะครับ ถ้า ทุกกิจการถูกปิดหมด เราจะไม่มีอาหารกิน แล้วเราจะทำยังไงครับ
สมมติกิจการของผมที่ขายแบตเตอรี่ ups และบริษัทในวงการ อีก 4-5 รายถูกรัฐบาลสั่งปิดในช่วง 1 เดือน โรงพยาบาลตกอยู่ในความเสี่ยงทันที ระบบการเงิน ระบบไฟฟ้า ระบบประปา ระบบโทรคมนาคมทั้งหมดห้ามล่มในช่วงนั้นเหรอครับ
><
-
8) 8) 8).... 9.8 V. = ผล loaded test ซึ่งถือว่าสภาพแบต.ดี 90 %(ศูนย์ฯ จะทำโหลดเทส โดยไม่ติดเครื่องฯ/โหมด โหลดเทสคือ ใส่โหลดแทนการเปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิด รวมกินกระแสจุดระเบิด เปิดไฟหน้าสูง-ต่ำ เปิดไฟฉุกเฉิน เปิดแอร์ เปิด วิทยุ กินไฟบีบแตร เปิดปัดน้ำฝน จะกด tester ค้างไว้ 10 วิ. แล้วแบต.จะต้องเหลือประจุไฟ " ต้องไม่ต่ำกว่า 9.0 V. ") นั่นคือ performing loaded test ตามมาตรฐานของศูนย์รถยนต์ครับ
CCA = Cold Cranking Ampare จะอัดประจุ CCA อยู่ในแบต.แห้ง SMF = Sealed Maintenance Free กับแบต.กึ่งแห้ง MF Maintenance Free
CCA จะมากน้อยขึ้นกับชนิดวัสดุแผ่นธาตุ เช่น แบต.100 amp SMF CCA 380-800 amp ราคายิ่งสูง แอมป์ CCA ก็อาจสุงได้ถึง 800 ส่วน CCA ของแบต. MF ราคาต่ำกว่า SMF แอมป์ CCA ก็น้อยลง :-X
-
ขอบคุณทุกความเห็นครับ ที่แท้ก็เป็น starting voltage ที่เค้าวัดตอนสตาร์ทนี่เอง มิน่าล่ะเห็นเครื่องเค้าหรูหราหมาเห่ามากเลยดูแล้วไม่น่าเพี้ยน
แบบนี้ถ้าจะดันทุรังใช้อาจจะอยู่ได้อีกซัก 2 เดือน ผมว่ารีบเปลี่ยนก็ดีครับเพราะรถคันนี้คุณนายเป็นคนใช้ด้วย เกิดสตาร์ทไม่ติดตอนอยู่นอกบ้านล่ะงานเข้าเลย ยิ่งช่วงนี้ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ร้านแบตจะโดนปิด
ร้านแบตไม่น่าจะโดนปิดนะครับ
ถ้าร้านแบตปิด ผมว่า ประเทศไทยต้องอยู่ในลักษณะ shut off แล้วล่ะครับ
ลองคิดดูเล่นๆนะครับ ถ้า ทุกกิจการถูกปิดหมด เราจะไม่มีอาหารกิน แล้วเราจะทำยังไงครับ
สมมติกิจการของผมที่ขายแบตเตอรี่ ups และบริษัทในวงการ อีก 4-5 รายถูกรัฐบาลสั่งปิดในช่วง 1 เดือน โรงพยาบาลตกอยู่ในความเสี่ยงทันที ระบบการเงิน ระบบไฟฟ้า ระบบประปา ระบบโทรคมนาคมทั้งหมดห้ามล่มในช่วงนั้นเหรอครับ
><
ครับ หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่อนาคตอะไรก็ไม่แน่นอน ดูอย่างอู่ฮั่นนี่ปิดเกือบหมดออกไปซื้ออาหารได้สองวันครั้ง ผมว่าอันต่อไปที่จะถูกปิดน่าจะเป็นสถานที่ราชการเพราะจะลดได้ทั้งคนทำงานและคนที่มาติดต่อราชการ หรือไม่ก็ลดวันทำงานลง
วันนี้ไปเปลี่ยนแบตแล้วครับ GS MF 46 แอมป์รุ่นเดิม 1800 บาทครับจบเลย ยิ่งรถคุณนายใช้ด้วย จ่ายตังค์แล้วสบายใจครับ วัด CCA ได้ 365 ครับอยู่ยาวๆไปอีก 2 ปี
-
ผมแนะนำแบบนี้ครับ
อย่าเพิ่งเชื่อทั้งเครื่องของตัวเอง และ เครื่องของศูนย์
ลองวิ่งไปร้านแบตเตอรี่ดูครับ เขาวัดให้ฟรี (ผมเคยไปวัด รบกวนให้เขาวัดให้หน่อย เขาวัดให้ฟรีเลย) แล้วไปสัก 2-3 ร้านดู แล้วดูค่า V กับ CCA ว่ายังไง
V ดับเครื่องยนต์ ก็ไม่ควรตำกว่า 12 นะ (หย่อนสุดๆ ก็ต้อง 11 กว่า) ส่วนสตาร์ทอยูก็มี 13 ปลาย ทะลุ 14
ส่วน CCA ถ้าแบตเตอรี่(ใหม่) เขาเครมไว้ว่าเท่าไหร่ ควรจะได้ไกล้เคียง อาจจะไม่เป๊ะ (ของผมวัด ได้เยอะกว่าที่เขาเครมไว้ซะอีก) แล้วเวลามันลด หรือ เสื่อม คิดเป็นเปอร์เซ็นต์จะดูง่ายสุด(ถ้าคิดเป็นตัวเลขจะดูมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ CCA เริ่มต้น
เช่น รถผมคันนึง เครื่องดีเซล CCA 750 ถ้า ณ วันนึง CCA ต่ำกว่า 600 เมื่อไหร่ อาจจะมีอาการแล้ว CCA หายไปประมาณ 20-25% ถือว่าต้องพึงระวังแล้ว
ส่วนเรื่องแอมป๋ ถ้าไม่อะไรก็ใช้ตามของเดิมที่ใช้ แต่ถ้าเพิ่มสัก 1 size (+10 ถึง +15 แอมป์) ได้ ลงกล่องเดิม ไม่ต้องรื้อ ก็ใส่ได้เลย เพราะบางคันแบตเตอรี่ติดรถ ขนาดให้มาเล็กกว่ากล่องแบตเตอรี่ เพิ่มแอมป์อีก size กลายเป็นเต็มกล่องพอดี
แผ่นธาตุ ก็คงแล้วแต่จะหา เพราะ แอมป์เท่ากัน แต่ละยี่ห้อ ก็แผ่นธาตุไม่เท่ากัน และ CCA ก็ไม่เท่ากันด้วยเช่นกัน