Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ozonenetwork ที่ มีนาคม 31, 2020, 10:50:54
-
สวัสดีครับ
คือพอดีออกรถใหม่ cx30 มา แต่อยากจะติดกล้องเพิ่มที่ไม่ฝช้ตัวจุดบุหรี่ ร้านกล้องแนะนำให้ต่อกับ OBD แต่พอดีไม่มีความรู้เรื่องนี้ ถ้าต่อกล้องกับ OBD ปกติแล้วจะทำให้ประกันรถสิ้นสุดเลยหรือเปล่าครับ และ แบตจะหมดเร็วขึ้นหรือเปล่าครับ อยากทราบข้อดี ข้อเสียของการต่อผ่าน OBD กับช่องจุดบุหรี่ครับ
หรือท้ายสุดแล้วควรต่อผ่านช่องจุดบุหรี่ดีกว่าครับ ??
-
คิดว่ากล้องต่อ obd น่าจะได้ข้อมูลจากตัวรถเพิ่มนะครับ อาจมีความเร็วของรถบันทึกลงไปใน vdo ด้วยเลยนะครับ
เรื่องกินไฟไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ส่วนเรื่องประกันก็ไม่น่าเกี่ยว เอาให้ชัวร์ก็ควรถามศูนย์ดีกว่าครับ
ถ้าไม่อยากต่อผ่านobd และไม่อยากให้มีสายเกะกะจากที่จุดบุหรี่ ก็ต่อผ่านกล่องfuse ได้นะครับ
ใช้ fuse tab ต่อจากฟิวส์ของที่จุดบุหรี่ แล้วเดินสายไฟมาตามเสา A ซ้อนบนฝ้าเพดาน มาโผล่ที่แถวๆกระจกมองหลัง
-
แบตหมดเร็วไม่เกี่ยวครับเพราะไฟติดต่อเมื่อสตาทอยู่แล้ว เคสที่เห็นบ่อยๆคงค่ายเม้งเค้ามีปัญหาที่ ismart มากกว่าเวลาเสียบไฟมันเลยดูดต่อเนื่อง
เรื่องประกันต้องถามศูนย์ครับ แต่เพื่อนที่เป็นดีลเลอร์ของผมบอกว่าไม่รับประกัน เพราะเช็คไม่ได้ว่าตอนไปรื้อต่อปรับปรุงส่วนไหนบ้าง ถ้าแก้ไขระบบไฟส่วนไหนที่ไม่ใช่ plug and play ถือให้หลุดหมดครับ แม้กระทั่งฝาท้ายไฟฟ้าแบบไม่ตรงรุ่น
-
ผ่าน obd เหมือนเล่นของใหญ่ เกิดอะไรขึ้นมา มันจะรวนไประบบอื่นรึเปล่า เพราะ obd มันใช้เชื่อมต่อระบบควบคุมของรถนะครับ
ผมว่าผ่านช่องจุดบุหรี่ หรือ fuse tap เซฟตี้กว่ามาครับ
-
ถ้ากล้องผ่าน OBD ไม่เคยได้ยินนะครับว่าทำได้ ถ้าหมายถึงกล้องติดตลอดให้แทปฟิวส์ครับ
ถ้าเป้าหมายของการผ่าน OBD คือจะให้กล้องบันทึกความเร็ว กล้องบางรุ่นมี GPS ใช้ได้เหมือนกันครับ
-
tap จาก fuse ดีกว่าครับ ทาง OBD บางทีอาจทำเอ๋อได้ เช่น ford ใช้พวก smart gauge ทั้งหลาย ถ้าทำไม่ดีจริง แบตหมดได้ บางทีสตาร์ทไม่ติดก็มี
ผมต่อ smart gauge บางตัวผ่าน OBD ยัง tap ไฟเลี้ยงจาก fuse ตัวที่มันดับจริงๆเวลา off ไฟเลยครับ ;)
-
ต่อผ่าน OBD นี่ขึ้นอยู่กับรถจริงๆ ครับ ต่อผ่านที่เขี่ยบุหรี่ สายไฟเกะกะ เพราะต้องลากผ่านพรมขึ้นมาหาที่เขี่ยบุหรี่ ถ้ากล้องมี Parking Mode ยังไงก็ต้องไปหา Fuse Tap ครับ
ต่อผ่าน OBD ดีตรงไม่ต้องตัดต่อไฟ ไม่ต้องยุ่งกล่องฟิวส์ ถ้ากล้องไม่มีฟังชั่น ดึงข้อมูลจาก OBD ไปโชว์ เช่น ไฟเลี้ยว ไม่ต้องต่อผ่าน OBD หรอกครับ
ส่วนเรื่องความเร็วกล้องเดี๋ยวนี้ Sync เวลา กับ ความเร็ว ด้วย GPS ครับ
-
ผมใช้กล้องหน้ารถที่เชื่อมกับ OBD-II ผ่านทาง Bluetooth อยู่ มีตัวเสียบกับ OBD-II เป็นตัวอ่านและเป็น Bluetooth ในตัว แล้วให้กล้องเชื่อม OBD-II ผ่าน Bluetooth อีกทีนึง
ส่วนไฟเลี้ยงกล้อง เสียบผ่านช่อง USB ในรถ
กล้องผมเชื่อม OBD-II เพราะมันจะอ่านค่า Speed, Rev RPM, อุณหภูมิ Coolant และอื่นๆ และตัวกล้องก็ยังเก็บ GPS Maps, GPS Speed ทั้งวัดแรง G ของ Acceleration และ Brake และอื่นๆ เพื่อเก็บเป็น datalog ไว้ดู (จะเปิดเชื่อมหรือไม่ก็ได้ กล้องมันก็ทำหน้าที่กล้องเฉยๆ ก็ได้)
ทีนี้......ต้องถามว่ากล้องอะไรก่อน
1. ถ้ากล้องธรรมดา แค่อยากได้ไฟที่จ่ายผ่านช่อง OBD-II ผมว่าต่อจากที่อื่นดีกว่า
1.1. ต่อจากช่อง USB โดยหาสายที่เป็น USB หัวท้าย มาเสียงทั้งกล้องและช่อง USB
1.2. ถ้าสายไฟมากลับกล้องเป็น 12v เสียที่เขี่ยบุหรี่ แล้วบอกว่าไม่อยากเสียบ ให้หาซื้อตัวเสียบที่เขี่ยบุหรี่ที่ขยายเป็น USB อีกที แล้วหาซื้อสาย USB หัว-ท้าย มาเสียบอีกทีนึง
1.3. ต่อผ่าน fuse tap แต่ต้องดูด้วยว่า มันจ่ายไฟตลอดเวลา หรือ จ่ายเพราะตอนบิดกุญแจ หรือ ไฟ accessories เปิด ON ป้องกันปัญหาแบตเตอรี่หมด
2. แต่ถ้า...เป็นกล้องที่เชื่อม OBD-II ได้ ดึงข้อมูลจากรถได้ และ ถ้าต้องใช้ข้อมูลในรถจริงๆ แนะนำ หาซื้อตัวอ่าน OBD-II และเป็น Bluetooth ในตัว มาเสียบทิ้งไว้เลย จะได้ไม่ต้องเดินสายไฟยุ่งยาก แล้วไฟเลี้ยงกล้องก็ใช้ตามข้อ 1.
-
ดูเป็นกล้องตัวนี้อยู่ครับ
https://www.carcamstore.com/iroad-x1
ผมใช้กล้องหน้ารถที่เชื่อมกับ OBD-II ผ่านทาง Bluetooth อยู่ มีตัวเสียบกับ OBD-II เป็นตัวอ่านและเป็น Bluetooth ในตัว แล้วให้กล้องเชื่อม OBD-II ผ่าน Bluetooth อีกทีนึง
ส่วนไฟเลี้ยงกล้อง เสียบผ่านช่อง USB ในรถ
กล้องผมเชื่อม OBD-II เพราะมันจะอ่านค่า Speed, Rev RPM, อุณหภูมิ Coolant และอื่นๆ และตัวกล้องก็ยังเก็บ GPS Maps, GPS Speed ทั้งวัดแรง G ของ Acceleration และ Brake และอื่นๆ เพื่อเก็บเป็น datalog ไว้ดู (จะเปิดเชื่อมหรือไม่ก็ได้ กล้องมันก็ทำหน้าที่กล้องเฉยๆ ก็ได้)
ทีนี้......ต้องถามว่ากล้องอะไรก่อน
1. ถ้ากล้องธรรมดา แค่อยากได้ไฟที่จ่ายผ่านช่อง OBD-II ผมว่าต่อจากที่อื่นดีกว่า
1.1. ต่อจากช่อง USB โดยหาสายที่เป็น USB หัวท้าย มาเสียงทั้งกล้องและช่อง USB
1.2. ถ้าสายไฟมากลับกล้องเป็น 12v เสียที่เขี่ยบุหรี่ แล้วบอกว่าไม่อยากเสียบ ให้หาซื้อตัวเสียบที่เขี่ยบุหรี่ที่ขยายเป็น USB อีกที แล้วหาซื้อสาย USB หัว-ท้าย มาเสียบอีกทีนึง
1.3. ต่อผ่าน fuse tap แต่ต้องดูด้วยว่า มันจ่ายไฟตลอดเวลา หรือ จ่ายเพราะตอนบิดกุญแจ หรือ ไฟ accessories เปิด ON ป้องกันปัญหาแบตเตอรี่หมด
2. แต่ถ้า...เป็นกล้องที่เชื่อม OBD-II ได้ ดึงข้อมูลจากรถได้ และ ถ้าต้องใช้ข้อมูลในรถจริงๆ แนะนำ หาซื้อตัวอ่าน OBD-II และเป็น Bluetooth ในตัว มาเสียบทิ้งไว้เลย จะได้ไม่ต้องเดินสายไฟยุ่งยาก แล้วไฟเลี้ยงกล้องก็ใช้ตามข้อ 1.
-
ดูเป็นกล้องตัวนี้อยู่ครับ
https://www.carcamstore.com/iroad-x1
ผมใช้กล้องหน้ารถที่เชื่อมกับ OBD-II ผ่านทาง Bluetooth อยู่ มีตัวเสียบกับ OBD-II เป็นตัวอ่านและเป็น Bluetooth ในตัว แล้วให้กล้องเชื่อม OBD-II ผ่าน Bluetooth อีกทีนึง
ส่วนไฟเลี้ยงกล้อง เสียบผ่านช่อง USB ในรถ
กล้องผมเชื่อม OBD-II เพราะมันจะอ่านค่า Speed, Rev RPM, อุณหภูมิ Coolant และอื่นๆ และตัวกล้องก็ยังเก็บ GPS Maps, GPS Speed ทั้งวัดแรง G ของ Acceleration และ Brake และอื่นๆ เพื่อเก็บเป็น datalog ไว้ดู (จะเปิดเชื่อมหรือไม่ก็ได้ กล้องมันก็ทำหน้าที่กล้องเฉยๆ ก็ได้)
ทีนี้......ต้องถามว่ากล้องอะไรก่อน
1. ถ้ากล้องธรรมดา แค่อยากได้ไฟที่จ่ายผ่านช่อง OBD-II ผมว่าต่อจากที่อื่นดีกว่า
1.1. ต่อจากช่อง USB โดยหาสายที่เป็น USB หัวท้าย มาเสียงทั้งกล้องและช่อง USB
1.2. ถ้าสายไฟมากลับกล้องเป็น 12v เสียที่เขี่ยบุหรี่ แล้วบอกว่าไม่อยากเสียบ ให้หาซื้อตัวเสียบที่เขี่ยบุหรี่ที่ขยายเป็น USB อีกที แล้วหาซื้อสาย USB หัว-ท้าย มาเสียบอีกทีนึง
1.3. ต่อผ่าน fuse tap แต่ต้องดูด้วยว่า มันจ่ายไฟตลอดเวลา หรือ จ่ายเพราะตอนบิดกุญแจ หรือ ไฟ accessories เปิด ON ป้องกันปัญหาแบตเตอรี่หมด
2. แต่ถ้า...เป็นกล้องที่เชื่อม OBD-II ได้ ดึงข้อมูลจากรถได้ และ ถ้าต้องใช้ข้อมูลในรถจริงๆ แนะนำ หาซื้อตัวอ่าน OBD-II และเป็น Bluetooth ในตัว มาเสียบทิ้งไว้เลย จะได้ไม่ต้องเดินสายไฟยุ่งยาก แล้วไฟเลี้ยงกล้องก็ใช้ตามข้อ 1.
ไม่เห็นมีฟังก์ชั่นเกี่ยวกับ OBD-II เลยครับ
มีแค่ฟังก์ชั่น ADAS ธรรมดา ผมว่า คุณลองดูคำแนะนำข้อ 2. ของผม ประกอบการติดสินใจดูครับ ไม่ต้องไปทำอะไรกับ OBD-II ใดๆ ทั้งสิ้น
-
ลองถามอากู๋ กล้องผ่าน OBD
-
เคยติดกล้องผ่าน obd ใน Mazda3 2014 เป็นกล้องหน้าหลัง, มี Parking Mode ก็ไม่เคยมีปัญหาแต่อย่างใดครับ
-
เคยติดกล้องผ่าน obd ใน Mazda3 2014 เป็นกล้องหน้าหลัง, มี Parking Mode ก็ไม่เคยมีปัญหาแต่อย่างใดครับ
อ่า ผมเข้าใจว่า OBD2 มันไม่มีไฟมาตลอดเลย เลยไปหาข้อมูลมา Pin 5 เป็น Ground, Pin 16 มาจาก Battery มีไฟมาตลอด
เพราะรถผมเวลาดับเครื่องตัว Guage จะดับด้วย และจะติดเฉพาะตอนสตาร์จรถ :-*
ขอบคุณครับ
-
เคยติดกล้องผ่าน obd ใน Mazda3 2014 เป็นกล้องหน้าหลัง, มี Parking Mode ก็ไม่เคยมีปัญหาแต่อย่างใดครับ
อ่า ผมเข้าใจว่า OBD2 มันไม่มีไฟมาตลอดเลย เลยไปหาข้อมูลมา Pin 5 เป็น Ground, Pin 16 มาจาก Battery มีไฟมาตลอด
เพราะรถผมเวลาดับเครื่องตัว Guage จะดับด้วย และจะติดเฉพาะตอนสตาร์จรถ :-*
ขอบคุณครับ
ตัวอ่านและส่ง OBD-II ผ่าน Bluetooth ของผมก็ดับ เวลาดับเครื่องยนต์ ครับ ซึ่งเดาว่า มันไม่จ่ายไฟแล้ว เช่นกัน
เคยติดกล้องผ่าน obd ใน Mazda3 2014 เป็นกล้องหน้าหลัง, มี Parking Mode ก็ไม่เคยมีปัญหาแต่อย่างใดครับ
Parking Mode หมายถึงอะไรครับ ใช่ เวลามีอะไรกระแทกรถ แล้วกล้องติดขึ้นมาบันทึกวีดีโอสักพักแล้วดับไปหรือป่าวครับ?
ถ้าใช่ ไม่เกี่ยวกับ ODB-II นะครับ มันแค่ใช้ไฟในตัวกล้องเองของกล้องเอง
-
เคยติดกล้องผ่าน obd ใน Mazda3 2014 เป็นกล้องหน้าหลัง, มี Parking Mode ก็ไม่เคยมีปัญหาแต่อย่างใดครับ
อ่า ผมเข้าใจว่า OBD2 มันไม่มีไฟมาตลอดเลย เลยไปหาข้อมูลมา Pin 5 เป็น Ground, Pin 16 มาจาก Battery มีไฟมาตลอด
เพราะรถผมเวลาดับเครื่องตัว Guage จะดับด้วย และจะติดเฉพาะตอนสตาร์จรถ :-*
ขอบคุณครับ
ตัวอ่านและส่ง OBD-II ผ่าน Bluetooth ของผมก็ดับ เวลาดับเครื่องยนต์ ครับ ซึ่งเดาว่า มันไม่จ่ายไฟแล้ว เช่นกัน
เคยติดกล้องผ่าน obd ใน Mazda3 2014 เป็นกล้องหน้าหลัง, มี Parking Mode ก็ไม่เคยมีปัญหาแต่อย่างใดครับ
Parking Mode หมายถึงอะไรครับ ใช่ เวลามีอะไรกระแทกรถ แล้วกล้องติดขึ้นมาบันทึกวีดีโอสักพักแล้วดับไปหรือป่าวครับ?
ถ้าใช่ ไม่เกี่ยวกับ ODB-II นะครับ มันแค่ใช้ไฟในตัวกล้องเองของกล้องเอง
Parking Mode คือ จะถ่ายวีดีโอตลอดขณะจอดครับ ได้ทั้ง Time-Lapse, Normal, Sleep (จะทำงานตอนรถโดนกระแทกหนัก) บางรุ่นแพงๆ หน่อยจะมี Motion Detect จับการเคลื่อนไหวหน้ารถด้วยครับ
ออ รู้ละฮะ ไฟที่ OBD จ่ายมาตลอด แต่ต้องใช้หัวต่อราคาสูงหน่อยที่มีวงจรตั้งเวลา กับ ตัดไฟเมื่อแรงดันอ่อนครับ ::) ของ Blackvue (https://www.blackvue.com/power-magic-ez/) ครับ
-
เคยติดกล้องผ่าน obd ใน Mazda3 2014 เป็นกล้องหน้าหลัง, มี Parking Mode ก็ไม่เคยมีปัญหาแต่อย่างใดครับ
อ่า ผมเข้าใจว่า OBD2 มันไม่มีไฟมาตลอดเลย เลยไปหาข้อมูลมา Pin 5 เป็น Ground, Pin 16 มาจาก Battery มีไฟมาตลอด
เพราะรถผมเวลาดับเครื่องตัว Guage จะดับด้วย และจะติดเฉพาะตอนสตาร์จรถ :-*
ขอบคุณครับ
ตัวอ่านและส่ง OBD-II ผ่าน Bluetooth ของผมก็ดับ เวลาดับเครื่องยนต์ ครับ ซึ่งเดาว่า มันไม่จ่ายไฟแล้ว เช่นกัน
เคยติดกล้องผ่าน obd ใน Mazda3 2014 เป็นกล้องหน้าหลัง, มี Parking Mode ก็ไม่เคยมีปัญหาแต่อย่างใดครับ
Parking Mode หมายถึงอะไรครับ ใช่ เวลามีอะไรกระแทกรถ แล้วกล้องติดขึ้นมาบันทึกวีดีโอสักพักแล้วดับไปหรือป่าวครับ?
ถ้าใช่ ไม่เกี่ยวกับ ODB-II นะครับ มันแค่ใช้ไฟในตัวกล้องเองของกล้องเอง
Parking Mode คือ จะถ่ายวีดีโอตลอดขณะจอดครับ ได้ทั้ง Time-Lapse, Normal, Sleep (จะทำงานตอนรถโดนกระแทกหนัก) บางรุ่นแพงๆ หน่อยจะมี Motion Detect จับการเคลื่อนไหวหน้ารถด้วยครับ
ออ รู้ละฮะ ไฟที่ OBD จ่ายมาตลอด แต่ต้องใช้หัวต่อราคาสูงหน่อยที่มีวงจรตั้งเวลา กับ ตัดไฟเมื่อแรงดันอ่อนครับ ::) ของ Blackvue (https://www.blackvue.com/power-magic-ez/) ครับ
ก็เหมือนที่ผมบอก Parking Mode กล้องทั่วไปก็มีหมดแล้วครับ ถูกๆ ก็ยังมี ซึ่งไม่ได้เกี่ยวไรกับ OBD เลย
ส่วนจ่ายไฟตลอดเวลา ต่อ fuse tap ก็ได้ ถูกกว่ามั้งครับ
ผมกลัวอย่างเดียว แบตเตอรี่รถไฟหมด เวลาจอดนานๆ ไม่ค่อยได้ขับ แล้วกล้องทำงานตลอดเวลา งานช้างอีก ::) ::)
คลิปนี้รถผมเอง ใช้กล้องต่อกับ OBD-II ผ่าน Bluetooth ครับ
https://youtu.be/ySSm4zuhiO4
-
OBD2 มีไฟมาตลอดนะครับ เพียงแต่ adapter BT ที่เราใช้กัน มันมีโหมด auto off น่ะครับ
พอดี ผมใช้อีกตัว ที่เป็นสวิชท์เปิดปิดเอง เคยลืม ไฟที่ OBD2 ก็ติดแบบนั้นเป็นอาทิตย์น่ะครับ
สำหรับผม กล้อง ผมไม่เสียบ OBD2 นะ เพราะถ้ากล้องรวน มีปัญหา แล้วช้อตนี่ ถึงกล่องง่ายๆเลย
-
ดูเป็นกล้องตัวนี้อยู่ครับ
https://www.carcamstore.com/iroad-x1
ผมใช้กล้องหน้ารถที่เชื่อมกับ OBD-II ผ่านทาง Bluetooth อยู่ มีตัวเสียบกับ OBD-II เป็นตัวอ่านและเป็น Bluetooth ในตัว แล้วให้กล้องเชื่อม OBD-II ผ่าน Bluetooth อีกทีนึง
ส่วนไฟเลี้ยงกล้อง เสียบผ่านช่อง USB ในรถ
กล้องผมเชื่อม OBD-II เพราะมันจะอ่านค่า Speed, Rev RPM, อุณหภูมิ Coolant และอื่นๆ และตัวกล้องก็ยังเก็บ GPS Maps, GPS Speed ทั้งวัดแรง G ของ Acceleration และ Brake และอื่นๆ เพื่อเก็บเป็น datalog ไว้ดู (จะเปิดเชื่อมหรือไม่ก็ได้ กล้องมันก็ทำหน้าที่กล้องเฉยๆ ก็ได้)
ทีนี้......ต้องถามว่ากล้องอะไรก่อน
1. ถ้ากล้องธรรมดา แค่อยากได้ไฟที่จ่ายผ่านช่อง OBD-II ผมว่าต่อจากที่อื่นดีกว่า
1.1. ต่อจากช่อง USB โดยหาสายที่เป็น USB หัวท้าย มาเสียงทั้งกล้องและช่อง USB
1.2. ถ้าสายไฟมากลับกล้องเป็น 12v เสียที่เขี่ยบุหรี่ แล้วบอกว่าไม่อยากเสียบ ให้หาซื้อตัวเสียบที่เขี่ยบุหรี่ที่ขยายเป็น USB อีกที แล้วหาซื้อสาย USB หัว-ท้าย มาเสียบอีกทีนึง
1.3. ต่อผ่าน fuse tap แต่ต้องดูด้วยว่า มันจ่ายไฟตลอดเวลา หรือ จ่ายเพราะตอนบิดกุญแจ หรือ ไฟ accessories เปิด ON ป้องกันปัญหาแบตเตอรี่หมด
2. แต่ถ้า...เป็นกล้องที่เชื่อม OBD-II ได้ ดึงข้อมูลจากรถได้ และ ถ้าต้องใช้ข้อมูลในรถจริงๆ แนะนำ หาซื้อตัวอ่าน OBD-II และเป็น Bluetooth ในตัว มาเสียบทิ้งไว้เลย จะได้ไม่ต้องเดินสายไฟยุ่งยาก แล้วไฟเลี้ยงกล้องก็ใช้ตามข้อ 1.
เลือกกล้องบันทึกหน้ารถรุ่นที่มีจอเถอะครับ เพราะสะดวกต่อการตั้ง่าและใช้งานมากกว่า กล้องแบบที่ไม่มีจอนี่ เน้นดีไซน์มากกว่าที่จะเน้นการใช้งานครับ อย่างพวกที่ไม่มีจอ ก็ต้องมาลงแอพให้เปลืองพื้นที่เครื่องอีก ถ้าหากต้องการเชื่อต่อแอพก็เอารุ่นที่มีทั้งหน้าจอและWIFIเพื่อให้ใช้งานได้สะดวก
-
ขี้เกียจเดินสาย หาจุดแท็บ ลพบาก
ก็แท็บไฟ 12v จาก ไฟเก๋ง
ร้านประดับยนต์ทำได้ใน ห้านาที
-
ดูเป็นกล้องตัวนี้อยู่ครับ
https://www.carcamstore.com/iroad-x1
ผมใช้กล้องหน้ารถที่เชื่อมกับ OBD-II ผ่านทาง Bluetooth อยู่ มีตัวเสียบกับ OBD-II เป็นตัวอ่านและเป็น Bluetooth ในตัว แล้วให้กล้องเชื่อม OBD-II ผ่าน Bluetooth อีกทีนึง
ส่วนไฟเลี้ยงกล้อง เสียบผ่านช่อง USB ในรถ
กล้องผมเชื่อม OBD-II เพราะมันจะอ่านค่า Speed, Rev RPM, อุณหภูมิ Coolant และอื่นๆ และตัวกล้องก็ยังเก็บ GPS Maps, GPS Speed ทั้งวัดแรง G ของ Acceleration และ Brake และอื่นๆ เพื่อเก็บเป็น datalog ไว้ดู (จะเปิดเชื่อมหรือไม่ก็ได้ กล้องมันก็ทำหน้าที่กล้องเฉยๆ ก็ได้)
ทีนี้......ต้องถามว่ากล้องอะไรก่อน
1. ถ้ากล้องธรรมดา แค่อยากได้ไฟที่จ่ายผ่านช่อง OBD-II ผมว่าต่อจากที่อื่นดีกว่า
1.1. ต่อจากช่อง USB โดยหาสายที่เป็น USB หัวท้าย มาเสียงทั้งกล้องและช่อง USB
1.2. ถ้าสายไฟมากลับกล้องเป็น 12v เสียที่เขี่ยบุหรี่ แล้วบอกว่าไม่อยากเสียบ ให้หาซื้อตัวเสียบที่เขี่ยบุหรี่ที่ขยายเป็น USB อีกที แล้วหาซื้อสาย USB หัว-ท้าย มาเสียบอีกทีนึง
1.3. ต่อผ่าน fuse tap แต่ต้องดูด้วยว่า มันจ่ายไฟตลอดเวลา หรือ จ่ายเพราะตอนบิดกุญแจ หรือ ไฟ accessories เปิด ON ป้องกันปัญหาแบตเตอรี่หมด
2. แต่ถ้า...เป็นกล้องที่เชื่อม OBD-II ได้ ดึงข้อมูลจากรถได้ และ ถ้าต้องใช้ข้อมูลในรถจริงๆ แนะนำ หาซื้อตัวอ่าน OBD-II และเป็น Bluetooth ในตัว มาเสียบทิ้งไว้เลย จะได้ไม่ต้องเดินสายไฟยุ่งยาก แล้วไฟเลี้ยงกล้องก็ใช้ตามข้อ 1.
เลือกกล้องบันทึกหน้ารถรุ่นที่มีจอเถอะครับ เพราะสะดวกต่อการตั้ง่าและใช้งานมากกว่า กล้องแบบที่ไม่มีจอนี่ เน้นดีไซน์มากกว่าที่จะเน้นการใช้งานครับ อย่างพวกที่ไม่มีจอ ก็ต้องมาลงแอพให้เปลืองพื้นที่เครื่องอีก ถ้าหากต้องการเชื่อต่อแอพก็เอารุ่นที่มีทั้งหน้าจอและWIFIเพื่อให้ใช้งานได้สะดวก
กล้องหน้าผมมีเจอ แต่กล้องหลังไม่มีจอ ติดแยกกันหน้า กับ หลัง (ไม่ใช่มาเป็น หน้า-หลัง)
เรื่องมีจอ ไม่มีจอ ผมไม่ซีเรียสเลย ไม่มีดีอย่าง ไม่ร้อนและไม่มีแสงส่องย้อนมาเข้าตาด้วย (กล้องหน้ามีจอ ผมยังปิดจอไว้เลย)
กล้องเดี๋ยวนี้ต่อ Wifi หมดแล้ว Setting ผ่าน Wifi ไม่ต้องไปงม Setting ที่ตัวกล้องแล้ว ที่จุดดีจุดเด่น คือ ดึงรูป ดึงคลิปมาที่มือถือได้ทันที ไม่ต้องถอด memory card มาเสียบ computer แล้ว แต่แล้วแต่ชอบ สะดวกแบบไหน ชอบแบบไหน เลือกที่ชอบ
แอปที่ลงบนมือ ขนาดมันไม่ได้ใหญ่อะไรเลย พอๆ กับรูปบน iphone 4-5 รูปเอง เล็กกว่า cache ของแอป Line ซะด้วยซ้ำครับ อย่าไปซรีเรียสเลย
ปล.กล้องผมติดอยู่ ตามคลิปด้านบน ราคาไม่กี่พัน เกินหมื่นเลิกคุย แพงเกินไป แค่กล้องติดรถราคาเกิน 5 พัน ผมว่าแพงแล้ว เกินหมื่นมันแพงเกินรับได้ หา ยี่ห้อ คุณภาพ ราคา ฟังก์ชั่น ตามที่ชอบเลยครับ
-
ผมติดมาเป็นตัว IRoad X9 ตรวจจับ Parking Mode เวลาคนเดินผ่านหน้า และ หลังรถ
ติดกับ CX-30 ราคาก็ใช้ได้อยู่ครับ 12990.- ต่อกับ OBD
-
รถMazda ยิ่งรถรุ่นใหม่ รถใหม่ ไม่ควรปรับปรุงแก้ไข ระบบไฟ มีปัญหา เครมเกี่ยวกับระบบไฟฟ้า ไม่ได้ทั้งหมด ถ้ารับจุดนี้ได้ ทำตามที่อยากได้เลยครับ หรือ
ใช้แบบ เสียบที่จุดบุหรี่ไปก่อน 1-2ปี คุ้นเคย เข้าใจระบบต่างๆของรถแล้ว กล้องก็เสียพอดี ตอนนั้น จะเอาหรูหรา ซับซ้อน อย่างไร เอาให้เต็มที่ครับ โชคดีครับ
-
กลอ้งไม่ต้องไปซื้อแพงมากหรอก เอาตัวละ พันกลางๆ ก็พอแล้ว ถึงเวลามันก็เสียเหมือนกัน