Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: watmung ที่ เมษายน 09, 2020, 19:22:56
-
บริษัทเปิดมาได้ครึ่งปีครับ มีเงินในบริษัทพอสมควร
กำลังเล็ง E-class ตัวปัจจุบัน ตอนแรก รอตัวใหม่ แต่ไม่สวย คงไม่รอแล้ว. ถ้าตัวปัจจุบัน ได้ส่วนลดถูกใจ
ปัญหาคือ เรื่องของบัญชี จ้างบริษัทภายนอกทำ ไม่ค่อยได้คุยเรื่องนี้เท่าไร เหมือนเราจ้างทำบัญชี เค้าก็ทำให้อย่างเดียว ไม่ค่อยได้ให้คำปรึกษาเรื่องอื่น
แต่ผมเคยอ่านมาว่า พอใกล้ครบปีให้ซื้อ ตึกแถว ซื้อรถ กำไรจะได้เหลือน้อยลง ประหยัดภาษี
ผมก็ทำแต่งาน ไม่มีความรู้เรื่องบัญชี เราควรซื้อ สด หรือ ผ่อน (แบบบอลลูน)ดีครับ
ถ้าครบปีกำไรบริษัท 8 ล้าน ซื้อรถ ไป 4 ล้าน ซื้อตึกแถวไป 4 ล้าน มันดูจงใจไปไหมครับ
ขอบคุณทุกท่านครับ
-
ซื้อผ่อน หักภาษีรายเดือน
-
ซื้อผ่อน หักภาษีรายเดือน
ตอนนี้ผมไม่มีภาษีส่วนบุคคลเลยครับ เงินเดือน 0 บาท
-
ซื้อรถในนามบริษัท มันหักค่าเสื่อม 5 ปีมั้ง แต่ไม่แน่ใจว่า ระเบียบเค้าให้หักได้กี่บาท หรือ ไม่เกินกี่บาท รวมถึง ทรัพย์สินอื่นๆด้วย เครื่องมือ อุปกรณ์ ต้องลองปรึกษาทางบัญชีดูจะชัวร์สุด
-
ถ้ามีเงินสดเหลือพอก็ซื้อสดจะได้ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยครับ แต่รถส่วนบุคคลจะหักค่าเสื่อมได้ไม่เกิน5ปีๆละ2แสนบาท รวมทั้งหมดไม่เกิน1ล้านบาท ถ้าอยากหักมากกว่านี้ต้องซื้อแบบLeasingที่จะหักได้สูงสุดเดือนละ36,000บาทหรือเท่ากับปีละ432,000บาท แต่ถ้ารถแพงๆแล้วขายออกไปก็ต้องเปิดใบกำกับภาษีซึ่งจะต้องเสียภาษีขายVAT7%อีก และต้องเสียภาษีกำไรจากส่วนต่างราคาขายรถและต้นทุนทางภาษีอีก สรรพากรบ้านเราสร้างระบบให้ได้ยุ่งไม่เหมือนประเทศอื่นๆจริงๆ
https://aommoney.com/stories/%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B5%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88/%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%94%E0%B8%94%E0%B8%94%E0%B8%94%E0%B8%94-%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B8%8B%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9E%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88-%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%9A/20348#k8sr2d9178
-
ถ้ามีเงินสดเหลือพอก็ซื้อสดจะได้ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยครับ แต่รถส่วนบุคคลจะหักค่าเสื่อมได้ไม่เกิน5ปีๆละ2แสนบาท รวมทั้งหมดไม่เกิน1ล้านบาท ถ้าอยากหักมากกว่านี้ต้องซื้อแบบLeasingที่จะหักได้สูงสุดเดือนละ36,000บาทหรือเท่ากับปีละ432,000บาท แต่ถ้ารถแพงๆแล้วขายออกไปก็ต้องเปิดใบกำกับภาษีซึ่งจะต้องเสียภาษีขายVAT7%อีก และต้องเสียภาษีกำไรจากส่วนต่างราคาขายรถและต้นทุนทางภาษีอีก สรรพากรบ้านเราสร้างระบบให้ได้ยุ่งไม่เหมือนประเทศอื่นๆจริงๆ
https://aommoney.com/stories/%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B5%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88/%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%94%E0%B8%94%E0%B8%94%E0%B8%94%E0%B8%94-%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B8%8B%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9E%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88-%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%9A/20348#k8sr2d9178
ตามนี้เลยครับ เช่าซื้อน่าจะคุ้มกว่าครับ
-
ถ้ามีเงินสดเหลือพอก็ซื้อสดจะได้ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยครับ แต่รถส่วนบุคคลจะหักค่าเสื่อมได้ไม่เกิน5ปีๆละ2แสนบาท รวมทั้งหมดไม่เกิน1ล้านบาท ถ้าอยากหักมากกว่านี้ต้องซื้อแบบLeasingที่จะหักได้สูงสุดเดือนละ36,000บาทหรือเท่ากับปีละ432,000บาท แต่ถ้ารถแพงๆแล้วขายออกไปก็ต้องเปิดใบกำกับภาษีซึ่งจะต้องเสียภาษีขายVAT7%อีก และต้องเสียภาษีกำไรจากส่วนต่างราคาขายรถและต้นทุนทางภาษีอีก สรรพากรบ้านเราสร้างระบบให้ได้ยุ่งไม่เหมือนประเทศอื่นๆจริงๆ
https://aommoney.com/stories/%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B5%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88/%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%94%E0%B8%94%E0%B8%94%E0%B8%94%E0%B8%94-%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B8%8B%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9E%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88-%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%9A/20348#k8sr2d9178
ขอบคุณมากครับ. ยุ่งดีแท้
สงสัยโดนสำนักงานบัญชีคิดตังค่าทำบัญชีเพิ่มแน่เลย :'( :'( :'(
-
ถ้าครบปีกำไรบริษัท 8 ล้าน ซื้อรถ ไป 4 ล้าน ซื้อตึกแถวไป 4 ล้าน มันดูจงใจไปไหมครับ
ไม่หรอกครับ แค่ทำให้ถูกต้อง
เรื่องรถมีคนให้คำตอบไปแล้ว แนะนำเพิ่มอีกเล็กๆน้อยๆ
หากบริษัทเงินเหลือ อยากลดภาษีอีก ก็ Renovate สำนักงาน ข้าวของเครื่องใช้ store ปรับปรุงให้ดี แล้วเอาหักเป็น ค่าใช้จ่ายครับ กิจการจะดูดี ไม่โทรม ทำงานสะดวก ดีกว่าไปจ่ายภาษีครับ :)
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับผม :-*
-
เสริมนิดนึง น่าจะตั้งเงินเดือนให้ตัวเองนะครับ อย่างน้อยก็เอาไปหักเป็นรายจ่ายบริษัทได้ กำไรบริษัทโดน 15% ตั้งแต่บาทแรก
แต่ภาษีบุคคลธรรมดา มันหักลดหย่อนอะไรได้อีกหลายอย่างครับ เสียจริงไม่เยอะ
-
"ถ้าครบปีกำไรบริษัท 8 ล้าน ซื้อรถ ไป 4 ล้าน ซื้อตึกแถวไป 4 ล้าน มันดูจงใจไปไหมครับ"
ทำแบบนี้ได้ก็ไม่มีบริษัทไหนต้องเสียภาษีแล้วครับผม
---------------------------------------------------------------
รถก็ตามพี่ๆด้านบนครับ ซื้อรถในนามบริษัทมีแต่ขาดทุนครับ ขาดยับด้วยครับ ใช้เช่าเอาครับ
ส่วนเรื่องอาคารที่ท่านว่าซื้อตึกแถว 4 ล้าน ไม่ใช่ซื้อแล้วเอามาหักต้นทุน 4 ล้านนะครับ ค่าที่ดินหักค่าเสื่อมไม่ได้ ค่าอาคารหักค่าเสื่อมได้ 5% ต่อปี ต่อเนื่อง 20 ปี
สมมติที่ดิน 2 ล้าน ตัวอาคาร 2 ล้าน ท่านก็หักค่าใช้จ่ายได้แค่ 5% ของ 2 ล้าน ต่อปีนะครับ = 100,000 บาท/ปี
ถ้าอยากเอาเงินออกจากบริษัทแนะให้จ่ายเงินเดือนกรรมการ หรือปันผลครับ
-
"ถ้าครบปีกำไรบริษัท 8 ล้าน ซื้อรถ ไป 4 ล้าน ซื้อตึกแถวไป 4 ล้าน มันดูจงใจไปไหมครับ"
งั้นก็ซื้อรถแปดล้าน ขอสอบถามไว้เป็นความรู้หน่อยครับซื้อรถในนามบริษัทราคาจะตกเร็วกว่านามบุคคลไหมและเพราะอะไรครับและรถลิมิเต็ดที่คนสะสมถ้าซื้อในนามบริษัทจะมีโอกาสราคาติดเหมือน
ทำแบบนี้ได้ก็ไม่มีบริษัทไหนต้องเสียภาษีแล้วครับผม
---------------------------------------------------------------
รถก็ตามพี่ๆด้านบนครับ ซื้อรถในนามบริษัทมีแต่ขาดทุนครับ ขาดยับด้วยครับ ใช้เช่าเอาครับ
ส่วนเรื่องอาคารที่ท่านว่าซื้อตึกแถว 4 ล้าน ไม่ใช่ซื้อแล้วเอามาหักต้นทุน 4 ล้านนะครับ ค่าที่ดินหักค่าเสื่อมไม่ได้ ค่าอาคารหักค่าเสื่อมได้ 5% ต่อปี ต่อเนื่อง 20 ปี
สมมติที่ดิน 2 ล้าน ตัวอาคาร 2 ล้าน ท่านก็หักค่าใช้จ่ายได้แค่ 5% ของ 2 ล้าน ต่อปีนะครับ = 100,000 บาท/ปี
ถ้าอยากเอาเงินออกจากบริษัทแนะให้จ่ายเงินเดือนกรรมการ หรือปันผลครับ
งั้นก็ซื้อรถแปดล้าน ขออนุญาติสอบถามเพื่อเป็นความรู้นะครับ ถ้าซื้อรถในนามบริษัทจะราคาตกมากกว่านามบุคคลไหมแล้วถ้าเป็นรถรุ่นลิมิเต็ดที่ราคาขึ้นถ้าซื้อในนามบริษัทจะราคาขึ้นเท่ากันไหม เพราะอะไร ขอบคุณครับ
-
แต่ผมเคยอ่านมาว่า พอใกล้ครบปีให้ซื้อ ตึกแถว ซื้อรถ กำไรจะได้เหลือน้อยลง ประหยัดภาษี --> อันนี้แนะนำผิดครับ ไปหานักบัญชีจริงๆ มาแนะนำเถอะครับ ซื้อตึกแถว ซื้อรถ มันเป็นสินทรัพย์ครับ เอาเงินทั้งก้อนไปหักลบจากกำไรไม่ได้ หักค่าใช้จ่ายได้ในส่วนของค่าเสื่อมราคาครับ ถ้าซื้อปลายปี ค่าเสื่อมจะเอามาหักในปีแรกได้น้อยมากๆ แต่จะช่วยเป็นค่าใช้จ่ายได้ในปีถัดๆ ได้ไปครับ
ถ้าครบปีกำไรบริษัท 8 ล้าน ซื้อรถ ไป 4 ล้าน ซื้อตึกแถวไป 4 ล้าน มันดูจงใจไปไหมครับ --> ไม่ดูจงใจครับ แต่เอาไปหักจากกำไรไม่ได้ทั้งก้อน หักได้แค่ค่าเสื่อมราคาครับ รถยนต์ได้ 5 ปี แต่ซื้อรถเกิน 1 ล้านบาทก็เอามาคิดค่าเสื่อมได้แค่ 1 ล้าน (ตัวเลขเช็คบัญชีอีกทีนะครับ แต่ประมาณนี้ครับ) แล้วหารด้วย 60 เดือน เป็นค่าเสื่อมรายเดือนที่เอามาเป็นค่าใช้จ่ายได้ ถ้าซื้อรถ 4 ล้านบาทเดือนสุดท้ายของปี ก็หักค่าเสื่อมได้แค่ประมาณ 17,000 บาทเองครับ
ดังนั้นถ้าจะซื้อรถแพงๆ ให้ใช้วิธีอื่นครับ เช่น การเช่าระยะยาว จะใช้ประโยชน์ทางภาษีได้ดีกว่าครับ เพราะสุดท้ายจะขายต่อก็เจอแวท ถ้าใช้รถจนหักค่าเสื่อมหมดแล้ว บริษัทต้องเจอกำไรจากการขายเข้าไปอีก
ถ้าบริษัทฯ มีกำไร 8 ล้านบาทต่อปี + ไม่มีใครรู้เรื่องบัญชีภาษีเลย สมควรลงทุนจ้างที่ปรึกษาทางด้านการวางแผนภาษีหรือหาสำนักงานบัญชีที่มีศักยภาพแล้วครับ
ถ้าไม่วางแผนอะไรเลยเลยต้องจ่ายภาษีปีละ 1.6 ล้านบาทเลยนะครับ
การวางแผนภาษีก็เช่น การกำหนดเงินเดือนผู้บริหาร การกำหนดค่าเช่า (กรณีใช้บ้านตัวเองเป็นสำนักงาน) การเก็บหลักฐานค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพ กำไรบริษัท 8 ล้านบาทก็จริง แต่ถ้าหลักฐานค่าใช้จ่ายทำไว้ไม่ดีพอ โดนบวกกลับเพื่อเอาไปคำนวณภาษีเพิ่มอีกนะครับ
-
เช่าระยะยาวสำหรับนิติบุคคลจะดีกว่าเช่าซื้อหรือซื้อสดก็จริงในกรณีรถราคาไม่สูงมากเช่นNew Camry 2.0G ผมได้ค่าเช่า5ปี เดือนละ2หมื่นต้นๆ เติมน้ำมันอย่างเดียวตลอดอายุสัญญา แต่ถ้าเป็นBMW X3 X Line ค่าเช่าโดดพรวดไปที่เกือบ6หมื่นต่อเดือนทั้งที่ราคารถมีBSIยังไม่ถึง3ล้านหรือเทียบกับCamryยังไม่ถึง2เท่าดี เลยคิดว่าจะเช่าสำหรับCamry ส่วนรถแพงๆคงจะซื้อสดหรือเช่าซื้อเอาดีกว่า
-
เช่าครับไม่ต้องบำรุงรักษาและหักภาษีได้ชนก็เปลื่ยนมีรถใช้ทำมาหากินตลอด
ถ้ารถวิ่งเซลล์หรือส่งสินค้าถึงจะซื้อ
-
ถาม แบบนี้ กับสำนักงาน บัญชี ดีที่สุดครับ เค้ามี ข้อมูลของบริษัท แนะนำได้ดีที่สุด
การซื้อทรัพย์สินของบริษัท เป็นเรื่องปกติทำกันทั่วไป โดยเฉพาะรถบริษัท
ถ้าเค้าบอก ทำนอง ไม่แนะนำ ไม่รู้เรื่อง หาสำนักงานบัญชีใหม่ได้เลยครับ
ที่สำคัญที่สุด เจ้าของกิจการ ต้องมีความรู้ เรื่องบัญชี ภาษี พอสมควรครับ
แล้วคุณจะประหยัดเงินด้านภาษีไปได้มากทีเดียว
-
ตามที่พี่ V221 บอกเลยครับ
อยากจะเสริมอีกนิดว่า บริษัทเพิ่งเปืดมาไม่นาน การพิจารณาสินเชื่อ อาจจะใช้เวลาหน่อยนะครับ หรืออาจจะมีการขอปรับเงื่อนไขอะไรบ้าง แต่ถ้ารถตลาดทั่วไป ใช้เวลาไม่นานเลยครับ
และถ้าไม่มีความรู้เรื่องรถด้วย ไม่มีเวลาดูแลด้วย อยากแนะนำ financial leasing ไปครับ เอาแบบที่เราขับอย่างเดียวพอ ถึงเวลาก็เข้าศูนย์ตามระยะ รถเสียก็มีรถมาทดแทนให้ครับ
-
ผมจัดแบบ Leasing มา เดือนละ 34,504฿ รวมVat7%
5 ปี ซื้อซากคืน 5% ค่าบำรุง ประกัน จ่ายเอง
ราคารถเต็ม 1,810,000฿
เอามาทำได้หัก แค่เพิ่มค่าใช้จ่ายในบริษัทเท่านั้น
ภาษีซื้อ-ขาย เอามารวมไม่ได้ ทุกวันนี้ยังคิดอยู่เลย
ว่าทำถูกหรือเปล่า เหมือนจะเข้าใจ แต่ยังไม่ค่อยเข้าใจครับ ใครรู้แจ้ง ขอความรู้หน่อยครับผม
-
ใช้ Eco car ครับ ประหยัด เอาเงินที่เหลือทำอย่างอื่น
-
.
.
สงสัยมือใหม่เพิ่งเปิดบริษัทจริงๆ ถ้ากำไร 8 ล้านซื้อของหมดเลยแล้วไม่ต้องเสียภาษี
ป่านนี้ รถ กับ บ้านคงขายดีกว่านี้โคตรๆครับ 555
ก็ตามที่พี่ๆด้านบนแนะนำเลยครับ มันหักได้นิดเดียวเองครับ
รถก็เช่าเอาคุ้มกว่า หรือซื้อแบบบอลลูนก็ได้ ครบกำหนดก็ขายคืนเอาคันใหม่ออกมา
แล้วก็ควรตั้งเงินเดือนให้ตัวเองนะครับ ลองดูว่าแค่ไหน ถึงจะเหมาะ
ลองปรึกษาบริษัทบัญชีดูครับ
-
คุณควรจะมีเงินเดือนด้วย เพราะ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เป็นขั้นบันได ถ้าคำนวณตัวเลขที่เหมาะสม จะประหยัดภาษีได้มากขึ้น เพราะนิติบุคคล ภาษี 20%
ซื้อผ่อน หักภาษีรายเดือน
ตอนนี้ผมไม่มีภาษีส่วนบุคคลเลยครับ เงินเดือน 0 บาท
-
ต้องบอกว่าซื้อในนามบริษัทฯ สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งจะได้เปรียบกว่าการซื้อในนามบุคคลที่ไม่สามารถนำมาหักอะไรได้เลย
ซึ่งหากต้องการซื้อใช้อยู่แล้วก็จะได้ประโยชน์ส่วนหนึ่งตามข้างต้น
แต่ถ้าต้องการซื้อเพื่อคิดว่าจะทำให้ สามารถนำมาหักลบกับผลกำไรบริษัทเต็มๆเลย แบบนั้นไม่ใช่ครับ
-
ขอบคุณทุกความคิดครับ. ผมอ่านของทุกท่าน
รู้เลยว่า เข้าใจผิดมาตลอด 5555
เดียวจะเอาความรู้ที่ได้ในกระทู้ ไปคุยกับสำนักงานบัญชีครับ
ก่อนหน้านี้คุยกันนิดๆหน่อยๆ ยอมรับเลยว่า ฟังไม่เข้าใจ ;D ;D ;D
-
ผมจัดแบบ Leasing มา เดือนละ 34,504฿ รวมVat7%
5 ปี ซื้อซากคืน 5% ค่าบำรุง ประกัน จ่ายเอง
ราคารถเต็ม 1,810,000฿
เอามาทำได้หัก แค่เพิ่มค่าใช้จ่ายในบริษัทเท่านั้น
ภาษีซื้อ-ขาย เอามารวมไม่ได้ ทุกวันนี้ยังคิดอยู่เลย
ว่าทำถูกหรือเปล่า เหมือนจะเข้าใจ แต่ยังไม่ค่อยเข้าใจครับ ใครรู้แจ้ง ขอความรู้หน่อยครับผม
ผมค้นใน Google คนทำแบบนี้กันเยอะเลยครับ
-
ตั้งเงินเดือนให้ตัวเองด้วยครับ หาจุดคุ้มทุนที่เสียน้อยที่สุด (ให้บัญชีนั่นแหละเป็นคนคำนวน) ไม่งั้นโดนแบบคุนพ่อผมแน่ๆ ครับ เอาเงินบริษัทออกมาใช้เหมือนเป็นเงินตัวเอง ตอนหลังโดนตามเก็บทั้งต้นทั้งดอก แถมโดนหักสูงถึง 35% เลยครับ หนักเลย
-
แนะนำปรึกษา BMW ดูได้ครับ มีคำแนะนำให้ดีมากเลยเรื่องการประหยัดภาษี ผมเคยลองปรึกษามาแล้วเหมือนกันครับ
-
ผมก็เคสเดียวกับ เจ้าของกระทูเลยครับเมื่อปีที่แล้ว ชั่งใจอยู่นาน ว่าจะซื้อในนามบริษัทหรือส่วนตัว สรุปตัดสินใจในนามบริษัท ก็ตามที่หลายๆคนบอก ว่าหักค่าใช้จ่ายได้แค่ 1 ล้านในระยะเวลา 5 ปี ค่าน้ำมันคิดรายปี แต่ดอกเบี้ย ตอนซื้อจะได้ถูก ถ้าไม่เอาเข้าแบบเช่าซื้อ Leasing (ดอกเบี้ยจะสูงกว่า)
และจดในนามบริษัท ได้ข่าวว่าค่าต่อทะเบียนจะแพงกว่าในนามบุคคล แต่กรณีของผมถ้าซื้อในนามบุคคลแล้วให้บริษัทเช่า รายได้บุคคลก็จะเกินต้องเสียภาษีอีก
ณ ตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยครับว่าซื้อแบบใหนดีที่สุด ได้อย่างเสียอย่าง แชร์ๆ ความเห็นกันไปครับ
-
ผมก็เคสเดียวกับ เจ้าของกระทูเลยครับเมื่อปีที่แล้ว ชั่งใจอยู่นาน ว่าจะซื้อในนามบริษัทหรือส่วนตัว สรุปตัดสินใจในนามบริษัท ก็ตามที่หลายๆคนบอก ว่าหักค่าใช้จ่ายได้แค่ 1 ล้านในระยะเวลา 5 ปี ค่าน้ำมันคิดรายปี แต่ดอกเบี้ย ตอนซื้อจะได้ถูก ถ้าไม่เอาเข้าแบบเช่าซื้อ Leasing (ดอกเบี้ยจะสูงกว่า)
และจดในนามบริษัท ได้ข่าวว่าค่าต่อทะเบียนจะแพงกว่าในนามบุคคล แต่กรณีของผมถ้าซื้อในนามบุคคลแล้วให้บริษัทเช่า รายได้บุคคลก็จะเกินต้องเสียภาษีอีก
ณ ตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยครับว่าซื้อแบบใหนดีที่สุด ได้อย่างเสียอย่าง แชร์ๆ ความเห็นกันไปครับ
ใช่ครับค่าต่อภาษ๊จะแพงกว่าบุคคลธรรมดา1เท่า ต้องลองคำนวณเปรียบเทียบดูครับ ตัวอย่าง E220D ตอนนี้ราคาเงินสด 3,030,000 บาท ใช้ไป5ปีหักค่าเสื่อมได้1ล้านเท่ากับลดภาษีเงินได้ไป2แสน ระหว่างทางเสียค่าซ่อมบำรุงรักษาตีกลมๆสัก2แสน ค่าเบี้ยประกัน4ปีสัก2.4แสน เท่ากับลดภาษีไปได้อีก 8.8หมื่น รวมแล้วประหยัดภาษีไป2.88แสน แต่ถ้าขายหลังจากใช้ไป5ปีราคาประมาณ1.5ล้านก็ต้องเสียภาษี20%เท่ากับ3แสน คำนวณแล้วพอๆกัน แต่ต้องเสียVATอีก7%ของ1.5ล้าน บางบริษัทเลยตัดปัญหาด้วยการเช่าเพื่อที่จะเอาค่าเช่ามาลงค่าใช้จ่ายไปโดยไม่ต้องเสียภาษีตอนขายรถอีกครั้งครับ
-
เห็นมีคนแนะนำมา ผมยังไม่ได้ไปค้นลึกๆ แต่มาแชร์กันดู ไม่รู้จริงๆจะเป็นยังไงนะครับ
คือให้กรรมการซื้อของตัวเอง แล้วให้บริษัทเช่าจากกรรมการอีกทีครับ
ใครเคยใช้วิธีนี้บ้างครับ :-[
-
เห็นมีคนแนะนำมา ผมยังไม่ได้ไปค้นลึกๆ แต่มาแชร์กันดู ไม่รู้จริงๆจะเป็นยังไงนะครับ
คือให้กรรมการซื้อของตัวเอง แล้วให้บริษัทเช่าจากกรรมการอีกทีครับ
ใครเคยใช้วิธีนี้บ้างครับ :-[
ต้องดูฐานรายรับกรรมการครับ เคยคิดแต่ไม่กล้าทำเพราะภาษีบุคคลธรรมดาจะเป็นขั้นบรรไดและสูงสุดจะสูงกว่าอัตราภาษีนิติบุคคลครับ
-
ขออนุญาต จขกท เพื่อสอบถามเพิ่มเติมพี่ๆทุกท่านนะครับ คำถามคือถ้าในกรณีที่เช่ารถในนามบริษัท และเราเป็นเจ้าของบริษัท
1. สามารถเช่ารถยี่ห้ออะไร ราคาเท่าไหร่ก็ได้หรอครับ(สมมติว่าบริษัทไม่มีปัญหาด้านการเงิน) เช่น Ferrari, Bentley etc.
2. หลังจากครบสัญญาเช่า 5 ปีแล้ว เราสามารถขอซื้อรถคันนั้นในนามบุคคลได้เลยหรือไม่ครับ ซึ่งเราจะได้เหมือนเป็นเจ้าของรถคันนั้นโดยที่ไม่ต้องจ่ายราคาเต็มน่ะครับ
คือผมคิดเป็น idea แต่ไม่ทราบว่าทำได้หรือไม่อย่างไรครับ
-
เห็นมีคนแนะนำมา ผมยังไม่ได้ไปค้นลึกๆ แต่มาแชร์กันดู ไม่รู้จริงๆจะเป็นยังไงนะครับ
คือให้กรรมการซื้อของตัวเอง แล้วให้บริษัทเช่าจากกรรมการอีกทีครับ
ใครเคยใช้วิธีนี้บ้างครับ :-[
ต้องดูฐานรายรับกรรมการครับ เคยคิดแต่ไม่กล้าทำเพราะภาษีบุคคลธรรมดาจะเป็นขั้นบรรไดและสูงสุดจะสูงกว่าอัตราภาษีนิติบุคคลครับ
ขอบคุณครับ ต้องหาจุดบาลานซ์กันให้ดีสินะครับ
ข้อดีคงเพราะหักค่าใช้จ่ายได้เกิน 1 ล้าน แต่ภาษีส่วนบุคคลต่างหาก ::)
-
ตามที่ผมทราบมานะ (ล็อคอินเพื่อมาแลกเปลี่ยนความรู้เลยนะเนี่ย)
1. รถ การซื้อรถ จะต้องไม่เกิน 1,000,000 บาทต่อปีต่อคัน ดังนั้นทางนิติบุคคล จึงทำเป็น Leasing การเช่าซื้อเป็นหลัก หรือ ดาวน์แล้วผ่อน
2. ควรจะมีเงินเดือน โดยให้สอบถามทาง บัญชี ทำเงินเดือนจริง ให้เสียภาษีส่วนบุคคล ไม่เกิน 10%
3. อีกกรณีที่หักค่าใช้จ่ายได้ คือ เงินปันผล ปลายปี แล้ว หัก ณ ที่จ่ายเลยครับ 10% จะทำให้การเสียภาษีน้อยลงครับ (เงินปันผลเมื่อถูกหัก ณ ที่จ่ายแล้ว สามารถ "ไม่นำเอาไปคิดค่าเป็นรายได้ในภาษีบุคคลธรรมดาได้"--ถามบัญชีอีกทีนะครับ--ผมอาจจะจำผิด)
-
ตามที่ผมทราบมานะ (ล็อคอินเพื่อมาแลกเปลี่ยนความรู้เลยนะเนี่ย)
1. รถ การซื้อรถ จะต้องไม่เกิน 1,000,000 บาทต่อปีต่อคัน ดังนั้นทางนิติบุคคล จึงทำเป็น Leasing การเช่าซื้อเป็นหลัก หรือ ดาวน์แล้วผ่อน
2. ควรจะมีเงินเดือน โดยให้สอบถามทาง บัญชี ทำเงินเดือนจริง ให้เสียภาษีส่วนบุคคล ไม่เกิน 10%
3. อีกกรณีที่หักค่าใช้จ่ายได้ คือ เงินปันผล ปลายปี แล้ว หัก ณ ที่จ่ายเลยครับ 10% จะทำให้การเสียภาษีน้อยลงครับ (เงินปันผลเมื่อถูกหัก ณ ที่จ่ายแล้ว สามารถ "ไม่นำเอาไปคิดค่าเป็นรายได้ในภาษีบุคคลธรรมดาได้"--ถามบัญชีอีกทีนะครับ--ผมอาจจะจำผิด)
มา confirm ข้อ3ครับ ทางที่ดีที่สุดคือ จ่ายภาษีของเงินปันผลไป10% ครับและจะได้ไม่มีอะไรมาเกี่ยวข้องกับรายได้ประจำปี และเห็นด้วยกับข้อ2ด้วยครับ