Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: wa330 ที่ เมษายน 21, 2020, 11:44:42
-
(https://s3-ap-southeast-1.amazonaws.com/img-in-th/2c42446eac0b3ab1c4a574b485f534d0.md.jpg) (https://www.img.in.th/image/Te6tDO)
-
ราคาหน้าโรงกลั่นลิตรละ 5 บาท สำหรับเบนซิน แต่บ้านเราราคาหน้าปั๊มมันรวมภาษีอีกหลายรายการ แวตอีก 2 ครั้ง ยังไงไราคามันมีขั้นต่ำ 10 กว่าบาทอยู่แล้ว
-
สรุปตั้งกระทู้ ประเด็นคืออะไรครับ
-
https://oilprice.com/Energy/Energy-General/Why-Todays-300-Oil-Price-Crash-Isnt-As-Bad-As-It-Looks.html
ต้องแยกเป็น 2 เรื่อง...
#1. ผู้ผลิตน้ำมัน จะขายตามที่มีผู้มาซื้อตามราคาตลาด ราคาในอนาคตโดยกำหนดวันรับ และประมูล.. ปัจจุบันน่าจะอยู่ที่ 15-20$/bbl... ถ้าเขาผลิตด้วยต้นทุนที่ถูกกว่าราคาก็จะกำไรแต่ถ้า Lifting Costs แพงกว่าราคาน้ำมันก็ขาดทุนและอาจจะต้องหยุดผลิตไป
#2. พวก Traders(ทีมีปัญหาอยู่ขณะนี้) จะมีการประเมินทิศทางราคาในอนาคตและทำการซื้อล่วงหน้าโดยมีกำหนดวันรับจริง และคาดว่าจะขายตั๋วล่วงหน้านี้ทำกำไรกับผู้ใช้ที่มีความต้องการใช้.... ปัญหาคือ ขณะนี้ Demand หดหายไปแยะ ตั๋วล่วงหน้าขายไม่ออกและถ้าเก็บไว้และถึงกำหนดรับจะต้องมีภาระไปหาเรือหา Tanker มารับ Crude ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่สูง.... จึงต้องยอมขายขาดทุนมากๆ แต่ก็ยังดีกว่าที่กล่าวมา
สรุปคือ... ถ้าซื้อตั๋วล่วงหน้ามาซึ่งใกล้วันรับจริง.... คนซื้อจะได้ตังก็จริง แต่จะต้องรับภาระการรับ Crude ไปด้วย... ถ้าเอาไปใช้เลย จะได้ประโยชน์มากๆ
พวกเล่น Future Contract พอ Demand ไม่มีขายไม่ออกและ Contract end เมื่อวาน (20Apr) ประกอบกับไม่มีปัญญาจะขน Physical Crude เลยต้องจ้างคนอื่นมาขน เลยทำให้ราคาดิ่งลงมา จนถึงติดลบ ซึ่งตรงนี้จะแตกต่างจากข้อ #1 ข้างบนนะครับ
Credit: Ex-Petroleum Geologist
-
ติดลบสิบกว่า$ ต้องเติมฟรีแจกตังลิตรละสิบบาทได้แล้ว
แท่งเทียนในกราฟใส้เทียนไหลไป -40$
(https://s3-ap-southeast-1.amazonaws.com/img-in-th/34325941f941cbb2b30f264df50b70e2.jpg) (https://www.img.in.th/image/Te69sM)
-
ทำไมดูในเว็ปยัง 20 เหรียญอยู่เลยครับ
-
ราคาเมื่อคืนคับกลางวันไม่ค่อยเดิน
ราคาดิ่งเยอะพวกก็ซื้อสัญญาฟิวเจอร์กันเยอะกลับมาที่เดิิม
-
ทำไมดูในเว็ปยัง 20 เหรียญอยู่เลยครับ
มันลงไปแปปเดียวครับ ตอนนี้กลับขึ้นมาแล้วครับ
-
น้ำมันในเอเชียและตะวันออกกลางเค้าอ้างอิง Brent หนิครับ
WTI หลักๆมันใช้กันในตลาดอเมริกาเหนือหนิครับ
ด้วยสัดส่วนที่เรา(ไทยและเอเชีย)นำเข้าน้ำมันจากตะวันออกกลางเป็นส่วนใหญ่ ก็ต้องเอาราคา Brent มาดูไม่ใช่ไปดู WTI แล้วบอกว่าน้ำมันถูก
ซึ่ง Brent มันไม่ได้ลงไปด้วยซะหน่อย ราคามันก็ยังป้วนเปี้ยนแถวๆ $20s แบบนี้จะพูดว่าให้น้ำมันหน้าปั๊มเหลือ 5 บาทก็คงไม่ถูกนะครับ
แล้วที่ WTI มันลงมันก็ลงแค่สัญญาที่กำลังจะหมดอายุด้วย น้ำมันในเดือนหน้าๆมันก็ราคาพอๆกับ Brent เหมือนปกติ
-
ฝั่งเราต้องดูราคาจากสิงค์โปเป็นตัวเทียบครับ wti เมื่อคืนนี้โหดร้ายมากกก
-
ช่วงน้ำมันถูกแบบนี้ ซื้อเก็บเข้าคลังน้ำมันอัดให้เต็มเลยครับ ประเทศไหนมีคลังใหญ่ได้เปรียบ ได้ข่าวจีนเร่งซื้อน้ำมันดิบตุนไว้แล้ว
-
ที่ผมสงสัยคือ ราคาสินค้าที่ไม่ลดราคาตามน้ำมัน ไม่เหมือนตอนน้ำมันขึ้น ผู้ผลิตออกมาโวยขอขึ้นราคาตามน้ำมัน ทีตอนนี้เงียบกริบ.....
-
สมมุติมีเงินเย็นลงทุน จะออกไปกว้านซื้อน้ำมันตามปั้มมาถ่ายเทกักตุนใส่แท็งบ้าน
จะมีความผิดไหมครับ? 8)
-
ที่ผมสงสัยคือ ราคาสินค้าที่ไม่ลดราคาตามน้ำมัน ไม่เหมือนตอนน้ำมันขึ้น ผู้ผลิตออกมาโวยขอขึ้นราคาตามน้ำมัน ทีตอนนี้เงียบกริบ.....
+1
-
ที่ผมสงสัยคือ ราคาสินค้าที่ไม่ลดราคาตามน้ำมัน ไม่เหมือนตอนน้ำมันขึ้น ผู้ผลิตออกมาโวยขอขึ้นราคาตามน้ำมัน ทีตอนนี้เงียบกริบ.....
ราคา commodities กับราคา final goods ครับ ขี้เกียจอธิบายแล้ว
นี่คือปัญหาของเมืองไทย เราไม่สามารถก้าวไปสู่สินค้าที่มี value added ได้
ราคา future ที่ใกล้หมดอายุ คุณคิดว่าราคา spot จะวิ่งเข้าหา future หรือราคา future จะวิ่งเข้าหา spot ละครับ?
ดูก็รู้ครับว่าเป็น anomaly
ส่วนราคา spot ที่ต่ำกว่า 20 นั้น เดี๋ยวคนที่ผลิตเกินออกมาก็ลดเองแหละครับ เพราะมันเป็นราคาที่ขาดทุนอยู่ไม่ได้ ถ้าหากมีการทุ่มตลาด ก็ยาวถึง WTO
-
ที่ผมสงสัยคือ ราคาสินค้าที่ไม่ลดราคาตามน้ำมัน ไม่เหมือนตอนน้ำมันขึ้น ผู้ผลิตออกมาโวยขอขึ้นราคาตามน้ำมัน ทีตอนนี้เงียบกริบ.....
ผมเคยพูดไปกระทู้ก่อนๆแล้วครับ แต่มีคนบอกว่าช่วงนี้ช่วยลดภาระให้ผู้ประกอบการเฉยเลย ทั้งที่ผู้ประกอบการควรลดราคานะ ไม่ใช่กอบโกย
ขึ้นราคาแล้วไม่เคยลงอีก รถโดยสารนี่เงียบเชียว หรือร้านอาหารต่างๆเมื่อก่อนก็อ้างว่าต้นทุนแพงเพราะราคาน้ำมันส่งของมาแพง นี่เงียบเป่าสาก
-
สินค้าอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวันตามซุบเปอร์มาเก็ต
ในไทยหลายอย่างยังแพงกว่าที่อเมริกา รายได้ค่าครองชีพสวนทางอย่างแรง
-
ที่ผมสงสัยคือ ราคาสินค้าที่ไม่ลดราคาตามน้ำมัน ไม่เหมือนตอนน้ำมันขึ้น ผู้ผลิตออกมาโวยขอขึ้นราคาตามน้ำมัน ทีตอนนี้เงียบกริบ.....
ราคา commodities กับราคา final goods ครับ ขี้เกียจอธิบายแล้ว
นี่คือปัญหาของเมืองไทย เราไม่สามารถก้าวไปสู่สินค้าที่มี value added ได้
ราคา future ที่ใกล้หมดอายุ คุณคิดว่าราคา spot จะวิ่งเข้าหา future หรือราคา future จะวิ่งเข้าหา spot ละครับ?
ดูก็รู้ครับว่าเป็น anomaly
ส่วนราคา spot ที่ต่ำกว่า 20 นั้น เดี๋ยวคนที่ผลิตเกินออกมาก็ลดเองแหละครับ เพราะมันเป็นราคาที่ขาดทุนอยู่ไม่ได้ ถ้าหากมีการทุ่มตลาด ก็ยาวถึง WTO
+1
-
ที่ผมสงสัยคือ ราคาสินค้าที่ไม่ลดราคาตามน้ำมัน ไม่เหมือนตอนน้ำมันขึ้น ผู้ผลิตออกมาโวยขอขึ้นราคาตามน้ำมัน ทีตอนนี้เงียบกริบ.....
ผมเคยพูดไปกระทู้ก่อนๆแล้วครับ แต่มีคนบอกว่าช่วงนี้ช่วยลดภาระให้ผู้ประกอบการเฉยเลย ทั้งที่ผู้ประกอบการควรลดราคานะ ไม่ใช่กอบโกย
ขึ้นราคาแล้วไม่เคยลงอีก รถโดยสารนี่เงียบเชียว หรือร้านอาหารต่างๆเมื่อก่อนก็อ้างว่าต้นทุนแพงเพราะราคาน้ำมันส่งของมาแพง นี่เงียบเป่าสาก
คุณต้อง declare ให้ได้ว่าการเพิ่มราคาจากต้นทุนเพิ่มตอนน้ำมันแพงนั้นทำให้กำไรผู้ประกอบการเพิ่มขึ้น รายได้เขามาจาก ปริมาณ*ราคา และส่วนใหญ่ธุรกิจที่ผลักภาระให้ผู้บริโภคผ่านราคา รายได้ลดลงในสถานการณ์ cost push เมื่อเกิด loss ในช่วงน้ำมันแพง ตอนน้ำมันถูกจึงเกิด benefit คืนผู้ประกอบการ เนื่องจากเขามี exposure กับราคาน้ำมัน เป็นไปตามกลไกตลาดครับ
ผมไม่ได้บอกว่ามันแฟร์นะครับ ถ้าลองสังเกตดีๆ คุณจะเห็นว่า loss นั้นเล็กกว่า benefit ซึ่งใหญ่กว่ามาก ถ้าหากเอา benefit-loss จะได้ราคาของความเสี่ยงที่ผู้ประกอบการนั้นมี exposure กับราคาน้ำมัน หาก loss และ benefit เท่ากัน ราคาความเสี่ยงนั้นจะเท่ากับ 0 ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้หรอกครับ (high risk high return)
-
ที่ผมสงสัยคือ ราคาสินค้าที่ไม่ลดราคาตามน้ำมัน ไม่เหมือนตอนน้ำมันขึ้น ผู้ผลิตออกมาโวยขอขึ้นราคาตามน้ำมัน ทีตอนนี้เงียบกริบ.....
ผมเคยพูดไปกระทู้ก่อนๆแล้วครับ แต่มีคนบอกว่าช่วงนี้ช่วยลดภาระให้ผู้ประกอบการเฉยเลย ทั้งที่ผู้ประกอบการควรลดราคานะ ไม่ใช่กอบโกย
ขึ้นราคาแล้วไม่เคยลงอีก รถโดยสารนี่เงียบเชียว หรือร้านอาหารต่างๆเมื่อก่อนก็อ้างว่าต้นทุนแพงเพราะราคาน้ำมันส่งของมาแพง นี่เงียบเป่าสาก
คุณต้อง declare ให้ได้ว่าการเพิ่มราคาจากต้นทุนเพิ่มตอนน้ำมันแพงนั้นทำให้กำไรผู้ประกอบการเพิ่มขึ้น รายได้เขามาจาก ปริมาณ*ราคา และส่วนใหญ่ธุรกิจที่ผลักภาระให้ผู้บริโภคผ่านราคา รายได้ลดลงในสถานการณ์ cost push เมื่อเกิด loss ในช่วงน้ำมันแพง ตอนน้ำมันถูกจึงเกิด benefit คืนผู้ประกอบการ เนื่องจากเขามี exposure กับราคาน้ำมัน เป็นไปตามกลไกตลาดครับ
ผมไม่ได้บอกว่ามันแฟร์นะครับ ถ้าลองสังเกตดีๆ คุณจะเห็นว่า loss นั้นเล็กกว่า benefit ซึ่งใหญ่กว่ามาก ถ้าหากเอา benefit-loss จะได้ราคาของความเสี่ยงที่ผู้ประกอบการนั้นมี exposure กับราคาน้ำมัน หาก loss และ benefit เท่ากัน ราคาความเสี่ยงนั้นจะเท่ากับ 0 ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้หรอกครับ (high risk high return)
หลักๆเลยที่ข้ออ้างคือราคาค่าของครับ รวมถึงก๊าซหุงต้ม ทั้งที่ไม่น่าจะเกี่ยวกันขนาดนั้น ตอนก๊าซขึ้น เค้าบวกค่าอาหารต่อจาน 5 บาท ถามว่ามันแฟร์กับเรามั้ยครับ ถ้ามองในมุมนี้ ไม่ต้องลงลึกไป ไข่ดาว 5 เป็น 10 บาท อะไรแบบนี้ ช่วงนี้ค่าขนส่งมันควรลลดด้วยเพราะต้นทุนขนส่ง น้ำมันลงมาเยอะ
เพราะผู้ประกอบการเค้าขึ้นราคาตอนน้ำมันแพงเป็นปกติ แต่ตอนนี้ลงมาขนาดนี้ค่าน้ำมันเหมือนจะลงไปครึ่งๆเลยจากที่ดีเซลแตะๆ 30 มายาวๆ
ช่วงนี้เหมือนช่วงที่เค้าต้นทุนลดไปมาก แต่ส่งผลอะไรกับผู้บริโภคเลย ลองน้ำมันขึ้นไปอีกครั้งผมเชื่อว่าเข้าคงขอขึ้นราคากันอีกครั้งแน่นอนครับ
แล้วราคาจะเฟ้อ
-
ที่ผมสงสัยคือ ราคาสินค้าที่ไม่ลดราคาตามน้ำมัน ไม่เหมือนตอนน้ำมันขึ้น ผู้ผลิตออกมาโวยขอขึ้นราคาตามน้ำมัน ทีตอนนี้เงียบกริบ.....
ผมเคยพูดไปกระทู้ก่อนๆแล้วครับ แต่มีคนบอกว่าช่วงนี้ช่วยลดภาระให้ผู้ประกอบการเฉยเลย ทั้งที่ผู้ประกอบการควรลดราคานะ ไม่ใช่กอบโกย
ขึ้นราคาแล้วไม่เคยลงอีก รถโดยสารนี่เงียบเชียว หรือร้านอาหารต่างๆเมื่อก่อนก็อ้างว่าต้นทุนแพงเพราะราคาน้ำมันส่งของมาแพง นี่เงียบเป่าสาก
คุณต้อง declare ให้ได้ว่าการเพิ่มราคาจากต้นทุนเพิ่มตอนน้ำมันแพงนั้นทำให้กำไรผู้ประกอบการเพิ่มขึ้น รายได้เขามาจาก ปริมาณ*ราคา และส่วนใหญ่ธุรกิจที่ผลักภาระให้ผู้บริโภคผ่านราคา รายได้ลดลงในสถานการณ์ cost push เมื่อเกิด loss ในช่วงน้ำมันแพง ตอนน้ำมันถูกจึงเกิด benefit คืนผู้ประกอบการ เนื่องจากเขามี exposure กับราคาน้ำมัน เป็นไปตามกลไกตลาดครับ
ผมไม่ได้บอกว่ามันแฟร์นะครับ ถ้าลองสังเกตดีๆ คุณจะเห็นว่า loss นั้นเล็กกว่า benefit ซึ่งใหญ่กว่ามาก ถ้าหากเอา benefit-loss จะได้ราคาของความเสี่ยงที่ผู้ประกอบการนั้นมี exposure กับราคาน้ำมัน หาก loss และ benefit เท่ากัน ราคาความเสี่ยงนั้นจะเท่ากับ 0 ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้หรอกครับ (high risk high return)
หลักๆเลยที่ข้ออ้างคือราคาค่าของครับ รวมถึงก๊าซหุงต้ม ทั้งที่ไม่น่าจะเกี่ยวกันขนาดนั้น ตอนก๊าซขึ้น เค้าบวกค่าอาหารต่อจาน 5 บาท ถามว่ามันแฟร์กับเรามั้ยครับ ถ้ามองในมุมนี้ ไม่ต้องลงลึกไป ไข่ดาว 5 เป็น 10 บาท อะไรแบบนี้ ช่วงนี้ค่าขนส่งมันควรลลดด้วยเพราะต้นทุนขนส่ง น้ำมันลงมาเยอะ
เพราะผู้ประกอบการเค้าขึ้นราคาตอนน้ำมันแพงเป็นปกติ แต่ตอนนี้ลงมาขนาดนี้ค่าน้ำมันเหมือนจะลงไปครึ่งๆเลยจากที่ดีเซลแตะๆ 30 มายาวๆ
ช่วงนี้เหมือนช่วงที่เค้าต้นทุนลดไปมาก แต่ส่งผลอะไรกับผู้บริโภคเลย ลองน้ำมันขึ้นไปอีกครั้งผมเชื่อว่าเข้าคงขอขึ้นราคากันอีกครั้งแน่นอนครับ
แล้วราคาจะเฟ้อ
แฟร์ครับ เพราะธุรกิจมีการแข่งขัน หากมีการขึ้นราคาผู้บริโภคเลือกไปใช้บริการคนที่มี productivity สูงกว่าได้ครับ หากมีช่องว่าง สักพักจะมีคนมาทำแข่งเอง ตามหลักมือที่มองไม่เห็น ตลาดมันปรับตัวเองอยู่แล้ว กรณีของคุณมันใช้ได้กรณีเดียวคือธุรกิจผูกขาด เพราะผูกขาดจึงทำให้ขึ้นราคาแล้วจำนวนไม่ลดลง เพราะเป็นสินค้าจำเป็น แบบนี้รัฐต้องควบคุม การแข่งขันจะทำให้ margin บางลง ผู้บริโภคได้ประโยชน์ ดังนั้นคุณจึงไม่ได้ถูกเอาเปรียบแต่อย่างใดครับ
ที่เหลือผมอธิบายไปหมดแล้ว คุณไม่เข้าใจเอง ในภาวะเงินเฟ้อเร่งตัวจาก cost push(น้ำมันแพง) ทุกคน loss หมด เว้นแต่แบรนด์ที่แข็งแกร่งที่สามารถเพิ่มราคาได้โดยที่ลูกค้ายอมจ่าย แบบนี้จำนวนจะไม่ลด รายได้จึงไม่ลดลง
ราคาเฟ้อไม่มีครับ มีแต่เงินเฟ้อ เงินเฟ้อคือภาวะราคาสินค้าและบริการโดยรวมเพิ่มสูงขึ้น
อีกคำที่ชอบใช้กันผิดคือเงินฝืด เงินฝืดคือภาวะราคาสินค้าและบริการโดยรวมลดต่ำลง ไม่ใช่เงินฝืดเคือง
-
อ่านแล้วรู้สึกว่า มีคนไม่เข้าใจสัญญาล่วงหน้าเยอะเลย
-
ที่ผมสงสัยคือ ราคาสินค้าที่ไม่ลดราคาตามน้ำมัน ไม่เหมือนตอนน้ำมันขึ้น ผู้ผลิตออกมาโวยขอขึ้นราคาตามน้ำมัน ทีตอนนี้เงียบกริบ.....
ผมเคยพูดไปกระทู้ก่อนๆแล้วครับ แต่มีคนบอกว่าช่วงนี้ช่วยลดภาระให้ผู้ประกอบการเฉยเลย ทั้งที่ผู้ประกอบการควรลดราคานะ ไม่ใช่กอบโกย
ขึ้นราคาแล้วไม่เคยลงอีก รถโดยสารนี่เงียบเชียว หรือร้านอาหารต่างๆเมื่อก่อนก็อ้างว่าต้นทุนแพงเพราะราคาน้ำมันส่งของมาแพง นี่เงียบเป่าสาก
คุณต้อง declare ให้ได้ว่าการเพิ่มราคาจากต้นทุนเพิ่มตอนน้ำมันแพงนั้นทำให้กำไรผู้ประกอบการเพิ่มขึ้น รายได้เขามาจาก ปริมาณ*ราคา และส่วนใหญ่ธุรกิจที่ผลักภาระให้ผู้บริโภคผ่านราคา รายได้ลดลงในสถานการณ์ cost push เมื่อเกิด loss ในช่วงน้ำมันแพง ตอนน้ำมันถูกจึงเกิด benefit คืนผู้ประกอบการ เนื่องจากเขามี exposure กับราคาน้ำมัน เป็นไปตามกลไกตลาดครับ
ผมไม่ได้บอกว่ามันแฟร์นะครับ ถ้าลองสังเกตดีๆ คุณจะเห็นว่า loss นั้นเล็กกว่า benefit ซึ่งใหญ่กว่ามาก ถ้าหากเอา benefit-loss จะได้ราคาของความเสี่ยงที่ผู้ประกอบการนั้นมี exposure กับราคาน้ำมัน หาก loss และ benefit เท่ากัน ราคาความเสี่ยงนั้นจะเท่ากับ 0 ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้หรอกครับ (high risk high return)
หลักๆเลยที่ข้ออ้างคือราคาค่าของครับ รวมถึงก๊าซหุงต้ม ทั้งที่ไม่น่าจะเกี่ยวกันขนาดนั้น ตอนก๊าซขึ้น เค้าบวกค่าอาหารต่อจาน 5 บาท ถามว่ามันแฟร์กับเรามั้ยครับ ถ้ามองในมุมนี้ ไม่ต้องลงลึกไป ไข่ดาว 5 เป็น 10 บาท อะไรแบบนี้ ช่วงนี้ค่าขนส่งมันควรลลดด้วยเพราะต้นทุนขนส่ง น้ำมันลงมาเยอะ
เพราะผู้ประกอบการเค้าขึ้นราคาตอนน้ำมันแพงเป็นปกติ แต่ตอนนี้ลงมาขนาดนี้ค่าน้ำมันเหมือนจะลงไปครึ่งๆเลยจากที่ดีเซลแตะๆ 30 มายาวๆ
ช่วงนี้เหมือนช่วงที่เค้าต้นทุนลดไปมาก แต่ส่งผลอะไรกับผู้บริโภคเลย ลองน้ำมันขึ้นไปอีกครั้งผมเชื่อว่าเข้าคงขอขึ้นราคากันอีกครั้งแน่นอนครับ
แล้วราคาจะเฟ้อ
แฟร์ครับ เพราะธุรกิจมีการแข่งขัน หากมีการขึ้นราคาผู้บริโภคเลือกไปใช้บริการคนที่มี productivity สูงกว่าได้ครับ หากมีช่องว่าง สักพักจะมีคนมาทำแข่งเอง ตามหลักมือที่มองไม่เห็น ตลาดมันปรับตัวเองอยู่แล้ว กรณีของคุณมันใช้ได้กรณีเดียวคือธุรกิจผูกขาด เพราะผูกขาดจึงทำให้ขึ้นราคาแล้วจำนวนไม่ลดลง เพราะเป็นสินค้าจำเป็น แบบนี้รัฐต้องควบคุม การแข่งขันจะทำให้ margin บางลง ผู้บริโภคได้ประโยชน์ ดังนั้นคุณจึงไม่ได้ถูกเอาเปรียบแต่อย่างใดครับ
ที่เหลือผมอธิบายไปหมดแล้ว คุณไม่เข้าใจเอง ในภาวะเงินเฟ้อเร่งตัวจาก cost push(น้ำมันแพง) ทุกคน loss หมด เว้นแต่แบรนด์ที่แข็งแกร่งที่สามารถเพิ่มราคาได้โดยที่ลูกค้ายอมจ่าย แบบนี้จำนวนจะไม่ลด รายได้จึงไม่ลดลง
ราคาเฟ้อไม่มีครับ มีแต่เงินเฟ้อ เงินเฟ้อคือภาวะราคาสินค้าและบริการโดยรวมเพิ่มสูงขึ้น
อีกคำที่ชอบใช้กันผิดคือเงินฝืด เงินฝืดคือภาวะราคาสินค้าและบริการโดยรวมลดต่ำลง ไม่ใช่เงินฝืดเคือง
โอเค เข้าใจละครับ
-
23.37กลับลงมาที่11.45usd (ส่วนBrent Oilก้19.10usd) 8) :-*ขอให้อยู่แถวๆนี้สัก3เดือน..เพี๊ยง
-
Tank เก็บน้ำมันทั่วโลกจะล้นเอาแล้วนะครับ ตอนนี้
ราคาลงขนาดนี้ แต่ยอดการใช้ก็น้อยไปด้วย เพราะ ไวรัส ตัวเดียวเลย ทำโลกยุ่งเหยิงไปหมด