Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Pattarapon ที่ เมษายน 27, 2020, 11:32:39

หัวข้อ: GLC 250d vs 250 เบนซิน
เริ่มหัวข้อโดย: Pattarapon ที่ เมษายน 27, 2020, 11:32:39
กำลังจะซื้อ GLC coupe มือสองครับ เลยอยากทราบว่า ควรจะเล่นตัว 250 ดีเซล หรือ 250 เบนซินดี เครื่องตัวไหนเน้นเเรงเเละขับสนุกกว่ากันครับ
หัวข้อ: Re: GLC 250d vs 250 เบนซิน
เริ่มหัวข้อโดย: kez ที่ เมษายน 27, 2020, 11:44:06
 
 ขึ้นเร็ว จบเร็ว ดีเซล

 ขึ้นช้า ดึงนาน เบนซิน. แล้วแต่ชอบ
หัวข้อ: Re: GLC 250d vs 250 เบนซิน
เริ่มหัวข้อโดย: prsps ที่ เมษายน 27, 2020, 12:25:05
ทั้ง 2 รุ่น พละกำลังผมคิดว่าน่าจะเพียงพอต่อการใช้งานทุกๆรูปแบบ ไม่ว่าจะขึ้นเขาลงห้วย
อยู่ที่ความชอบแล้วครับ แต่ละเครื่องยนต์มี character ต่างกัน อย่างความเห็นก่อนหน้าได้บอกไว้

ปล. ความคุ้มค่าเรื่องราคาน้ำมันตอนนี้ไม่มีใครคาดการณ์ได้เลยครับ แต่ถ้ายังถูกแบบนี้ จุดคุ้มทุนระหว่างดีเซลและเบนซินยิ่งใช้เวลานานขึ้น
หัวข้อ: Re: GLC 250d vs 250 เบนซิน
เริ่มหัวข้อโดย: a.peerapong ที่ เมษายน 27, 2020, 12:40:32
หน้าฝนปีที่แล้ว บ้านผมต่างจังหวัด วันฝนตกหนัก น้ำท่วมทาง ผมเจอ glc จอดตายขณะลุยน้ำ 4 คัน อยู่ 4 จุดในวันเดียว  ขณะที่รถบีเซคเม้นยี่ปุ่นซิตี้ วีออสลุยฝ่านไปได้  เคยอยากได้หมดอารมณ์อยากขับไปเลย
หัวข้อ: Re: GLC 250d vs 250 เบนซิน
เริ่มหัวข้อโดย: V221 ที่ เมษายน 27, 2020, 12:47:17
ถ้าดึงยาวต้องเบนซินแน่นอน แต่ทรงต้านลมแบบนี้ซดน้ำมันเป็นว่าเล่น ดังนั้นโดยรวมดีเซลน่าใช้กว่าครับ
หัวข้อ: Re: GLC 250d vs 250 เบนซิน
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ เมษายน 27, 2020, 13:02:17
ถ้าดึงยาวต้องเบนซินแน่นอน แต่ทรงต้านลมแบบนี้ซดน้ำมันเป็นว่าเล่น ดังนั้นโดยรวมดีเซลน่าใช้กว่าครับ

+1
หัวข้อ: Re: GLC 250d vs 250 เบนซิน
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ เมษายน 27, 2020, 13:08:47
หน้าฝนปีที่แล้ว บ้านผมต่างจังหวัด วันฝนตกหนัก น้ำท่วมทาง ผมเจอ glc จอดตายขณะลุยน้ำ 4 คัน อยู่ 4 จุดในวันเดียว  ขณะที่รถบีเซคเม้นยี่ปุ่นซิตี้ วีออสลุยฝ่านไปได้  เคยอยากได้หมดอารมณ์อยากขับไปเลย
รถแบบนี้ไม่ได้ทนทาน ซ่อมง่าย อะไหล่ถูก หรือไม่จุกจิก  ไม่ว่าดีเซลเบนซิน   รถเก่าญี่ปุ่นรุ่นตลาดยังน่าไว้ใจมากกว่า
หัวข้อ: Re: GLC 250d vs 250 เบนซิน
เริ่มหัวข้อโดย: AkE ที่ เมษายน 27, 2020, 13:35:33
Glc 250 ครับ เบนซินแรงต่อเนื่องถึงจบกว่าแน่นอน สนุกกว่าแน่นอนเอาไป remap ยิ่งน่าขับครับ ดีเซล กดครึ่งคันเร่งกับเต็มคันเร่งดึงเท่ากัน ขับแล้วง่วงครับ
หัวข้อ: Re: GLC 250d vs 250 เบนซิน
เริ่มหัวข้อโดย: CarameLon ที่ เมษายน 27, 2020, 13:49:15
จากโจทย์
ขับที่ไหน?
-ขับในเมือง รถติดสลับหยุดนิ่ง ไหลๆวิ่งเร็วไม่ได้ซอยเยอะ เขตชุมชน
แนะนำ GLC250เบนซิน เพราะเกียร์สมูลไม่ยึกยัก
อยากเร่งตามช้าๆกดน้อย อยากเร่งตามดุๆกดมาก ได้ความเร็วตามรถคันหน้าได้ง่าย
(ถ้าเป็นดีเซล ค่ายนี้จะมียึกยักบาลานซ์คันเร่งยามขับตามๆกันรถติดๆได้ยากกว่า พานจะอารมณ์เสียซะเปล่าๆ)
-ขับโทรเวย์มอเตอร์เวย์ ทางด่วน ทางเลี่ยงเมือง ถนนโล่งๆ ตจว. ไปดีเซล

ปล.อัตราเร่งรถคันนี้ไปเร่งฟัดสู้พวก 330e หรือ c300e ไม่ได้หรอกครับ
เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปให้เหตุผลว่า ต้องเบนซิลถึงจะดึงยาว ดีเซลมาไวหมดไว มันไม่ใช่เลยสำหรับรถทรงนี้คันนี้  8)
หัวข้อ: Re: GLC 250d vs 250 เบนซิน
เริ่มหัวข้อโดย: Stp ที่ เมษายน 27, 2020, 13:53:27
SUV ผมยังถือฝั่งดีเซลมากกว่า แต่เครื่องยนต์ดีเซลยี่ห้อนี้เป็น Euro 6 มีค่าใช้จ่าย AdBlue การสิ้นเปลือง 10 กม. ต่อ 1 บาท เบิกศูนย์ 1,200 ข้างนอกมีราคา 900 บาท และควรเน้นเติมดีเซลพรีเมียม Euro 5/6
หัวข้อ: Re: GLC 250d vs 250 เบนซิน
เริ่มหัวข้อโดย: DiKiBoyZ ที่ เมษายน 27, 2020, 14:12:59
เชียร์ ดีเซล ครับ ผมยังไม่เห็นว่าดีเซลจะขับไม่สนุกตรงไหนเลย

มันคนละฟิลลิ่งมากกว่า แต่มันก็สนุกคนละแบบ กระแทกเป็นมา ผมมีทั้งเบนซิน และ ดีเซล ตอนนี้ชอบดีเซลซะด้วยซ้ำ  :)

SUV ผมยังถือฝั่งดีเซลมากกว่า แต่เครื่องยนต์ดีเซลยี่ห้อนี้เป็น Euro 6 มีค่าใช้จ่าย AdBlue การสิ้นเปลือง 10 กม. ต่อ 1 บาท เบิกศูนย์ 1,200 ข้างนอกมีราคา 900 บาท และควรเน้นเติมดีเซลพรีเมียม Euro 5/6

บ้านเราดีเซลยูโร 6 มีด้วยเหรอครับท่าน  ::) ::) แซวนะครับ

คนขับยุโรป หลายคนชอบเติมพรีเมี่ยมยี่ห้อนอก ที่เป็นยูโร 4 อยู่เลยครับ
หัวข้อ: Re: GLC 250d vs 250 เบนซิน
เริ่มหัวข้อโดย: Stp ที่ เมษายน 27, 2020, 14:22:43
Benz เครื่องยนต์ Euro 6 ขายมานานแล้วครับ ไม่ใช่น้ำมัน เรื่องตัวเกรดน้ำมันผมเขียนเผื่อไว้ว่าเป็น Euro 5/6

เชียร์ ดีเซล ครับ ผมยังไม่เห็นว่าดีเซลจะขับไม่สนุกตรงไหนเลย

มันคนละฟิลลิ่งมากกว่า แต่มันก็สนุกคนละแบบ กระแทกเป็นมา ผมมีทั้งเบนซิน และ ดีเซล ตอนนี้ชอบดีเซลซะด้วยซ้ำ  :)

SUV ผมยังถือฝั่งดีเซลมากกว่า แต่เครื่องยนต์ดีเซลยี่ห้อนี้เป็น Euro 6 มีค่าใช้จ่าย AdBlue การสิ้นเปลือง 10 กม. ต่อ 1 บาท เบิกศูนย์ 1,200 ข้างนอกมีราคา 900 บาท และควรเน้นเติมดีเซลพรีเมียม Euro 5/6

บ้านเราดีเซลยูโร 6 มีด้วยเหรอครับท่าน  ::) ::) แซวนะครับ

คนขับยุโรป หลายคนชอบเติมพรีเมี่ยมยี่ห้อนอก ที่เป็นยูโร 4 อยู่เลยครับ
หัวข้อ: Re: GLC 250d vs 250 เบนซิน
เริ่มหัวข้อโดย: Sgt_Meen ที่ เมษายน 27, 2020, 14:28:15
SUV ไม่ได้เอาไปซิ่งบี้มาก

ถ้ารับได้กับเสียงเครื่องดีเซล ก็จัดเลยครับ
ประหยัดน้ำมันกว่า เรี่ยวแรงช่วงใช้งานมากกว่า
หัวข้อ: Re: GLC 250d vs 250 เบนซิน
เริ่มหัวข้อโดย: IS2000 ที่ เมษายน 27, 2020, 14:58:26
ถ้า GLC ผมเลือกดีเซลครับ รถน้ำหนักขนาดนี้ล้อใหญ่ด้วยเน้นแรงบิด 500nm ดีกว่า เคยลองเทียบกับ GLC43 ช่วงรอบต้นๆดึงไม่แพ้กันเลย
หัวข้อ: Re: GLC 250d vs 250 เบนซิน
เริ่มหัวข้อโดย: shogun ที่ เมษายน 27, 2020, 18:32:08
GLC coupe รถคันใหญ่แบบนี้ ถ้ากังวลเรื่องการกินน้ำมันเลือก GLC 250d ถ้าไม่กังวลก็ GLC 43 ไปเลย

ไหนๆ ถ้าจะซื้อเบนซินแล้ว เอาแค่ GLC 250 ทำไม กินน้ำมันต่างกันไม่มากหรอกครับ แต่แรงต่างกันเยอะ
หัวข้อ: Re: GLC 250d vs 250 เบนซิน
เริ่มหัวข้อโดย: basterias ที่ เมษายน 27, 2020, 19:03:30
GLC coupe รถคันใหญ่แบบนี้ ถ้ากังวลเรื่องการกินน้ำมันเลือก GLC 250d ถ้าไม่กังวลก็ GLC 43 ไปเลย

ไหนๆ ถ้าจะซื้อเบนซินแล้ว เอาแค่ GLC 250 ทำไม กินน้ำมันต่างกันไม่มากหรอกครับ แต่แรงต่างกันเยอะ

ถ้าซื้อมือหนึ่งผมก็เชียร์ glc 43 ครับ ส่วนลดสวยมากๆ

ปล จขกทลองสอบถามส่วนลด มือหนึ่งก่อนก็ได้นะครับ เผื่อจะเปลี่ยนใจ ช่วงนี้ลดเยอะมากครับ
หัวข้อ: Re: GLC 250d vs 250 เบนซิน
เริ่มหัวข้อโดย: DiKiBoyZ ที่ เมษายน 27, 2020, 22:40:45
Benz เครื่องยนต์ Euro 6 ขายมานานแล้วครับ ไม่ใช่น้ำมัน เรื่องตัวเกรดน้ำมันผมเขียนเผื่อไว้ว่าเป็น Euro 5/6

เชียร์ ดีเซล ครับ ผมยังไม่เห็นว่าดีเซลจะขับไม่สนุกตรงไหนเลย

มันคนละฟิลลิ่งมากกว่า แต่มันก็สนุกคนละแบบ กระแทกเป็นมา ผมมีทั้งเบนซิน และ ดีเซล ตอนนี้ชอบดีเซลซะด้วยซ้ำ  :)

SUV ผมยังถือฝั่งดีเซลมากกว่า แต่เครื่องยนต์ดีเซลยี่ห้อนี้เป็น Euro 6 มีค่าใช้จ่าย AdBlue การสิ้นเปลือง 10 กม. ต่อ 1 บาท เบิกศูนย์ 1,200 ข้างนอกมีราคา 900 บาท และควรเน้นเติมดีเซลพรีเมียม Euro 5/6

บ้านเราดีเซลยูโร 6 มีด้วยเหรอครับท่าน  ::) ::) แซวนะครับ

คนขับยุโรป หลายคนชอบเติมพรีเมี่ยมยี่ห้อนอก ที่เป็นยูโร 4 อยู่เลยครับ

ทราบคับ ว่ายุโรปเครื่องยนต์เป็น Euro 5-6 (เติม Adblue) แล้ว

แต่เห็นเขียนว่าเติมน้ำมันพรีเมี่ยมยูโร 5/6 เลยคิดว่ามีน้ำมันดีเซลพรีเมี่ยมยูโร 6 ป่าวแค่นั้นครับ แค่ยูโร 5 ยังมีแค่ 2 ปั้มเอง
หัวข้อ: Re: GLC 250d vs 250 เบนซิน
เริ่มหัวข้อโดย: cutimango ที่ เมษายน 28, 2020, 09:54:36
จากประสบการณ์ที่เคยใช้ GLC250d Amg (SUV) แล้วเปลี่ยนเป็น GLC250 เบนซิน Coupe ผมเองก็ชอบถามตัวเองตลอดว่าคันไหนแรงกว่ากันเพราะจริงๆแล้วมันแทบไม่ได้แตกต่างกันครับ สำหรับความรู้สึกผมเครื่องดีเซลแรงดึงดีมากแต่เบนซินตัวนี้ก็ดึงได้ดีและลากได้ยาวกว่า เสียงเครื่องเบนซินตัวนี้เงียบมากครับยิ่งเติมน้ำมันเบนซิน 95 เครื่องจะเดินเรียบและเรียวแรงดี เรื่องความประหยัดดีเซลจะประหยัดกว่าแต่ก็ไม่ได้แตกต่างมากมายนักผมมองว่าเบนซินตัวนี้ก็ใช้ได้ครับไม่ได้กินน้ำมัน ส่วนตัวผมอยากให้มองที่สภาพรถเป็นหลักสำหรับรถมือสอง ปล. ผมเคยได้ไปลองรหัส 43 ตอนแรกคิดว่าแรงบิด 500 NM ในเครื่องดีเซลจะให้ความรู้สึกดึงได้ใกล้เคียงกัน แต่ปรากฏว่า 43 นั้นดึงสนุกกว่ามากๆครับ ตอนนี้ราคามือสองก็ลงมามากแล้วครับ ขอให้ได้รถที่ถูกใจครับ
หัวข้อ: Re: GLC 250d vs 250 เบนซิน
เริ่มหัวข้อโดย: flybigbear ที่ เมษายน 28, 2020, 11:13:44
 :) :) :)
หัวข้อ: Re: GLC 250d vs 250 เบนซิน
เริ่มหัวข้อโดย: Smith686 ที่ เมษายน 28, 2020, 12:18:00
เชียร์ ดีเซล ครับ ผมยังไม่เห็นว่าดีเซลจะขับไม่สนุกตรงไหนเลย

มันคนละฟิลลิ่งมากกว่า แต่มันก็สนุกคนละแบบ กระแทกเป็นมา ผมมีทั้งเบนซิน และ ดีเซล ตอนนี้ชอบดีเซลซะด้วยซ้ำ  :)

SUV ผมยังถือฝั่งดีเซลมากกว่า แต่เครื่องยนต์ดีเซลยี่ห้อนี้เป็น Euro 6 มีค่าใช้จ่าย AdBlue การสิ้นเปลือง 10 กม. ต่อ 1 บาท เบิกศูนย์ 1,200 ข้างนอกมีราคา 900 บาท และควรเน้นเติมดีเซลพรีเมียม Euro 5/6

บ้านเราดีเซลยูโร 6 มีด้วยเหรอครับท่าน  ::) ::) แซวนะครับ

คนขับยุโรป หลายคนชอบเติมพรีเมี่ยมยี่ห้อนอก ที่เป็นยูโร 4 อยู่เลยครับ

          ผมว่าคนละอารมณ์ครับ  ขับดีเซลเหมือนฟังเพลงลูกทุ่ง  ขับเบนซิลเหมือนฟังเพลงลูกกรุง  ขึ้นอยู่กับว่าเราชอบแบบไหน  เมื่อก่อนคนนิยมดีเซลเพราะค่าน้ำมันดีเซลถูกกว่าเบนซิลแถมต่อลิตร ดีเซลวิ่งได้ไกลกว่าอีก  แต่ปัจจุบันดีเซลแพงกว่าเบนซิลแล้ว  อีกอย่างเครื่องดีเซลปัญหาเยอะกว่าเบนซิล  ถ้าเสียแล้วเครื่องดีเซลซ่อมยากกว่าเบนซิล  ถามช่างดูแล้วช่างก็บ่นว่าดีเซลประหยัดค่าน้ำมันแต่เปลืองค่าซ่อม  เอาเงินค่าน้ำมันที่ประหยัดมาจ่ายค่าซ่อม  สรุปว่าดีเซลกับเบนซิลพอๆกัน  ถ้าราคารถเครื่องดีเซลแพงกว่าเบนซิลเกินสองแสนบาทผมว่าซื้อเบนซิลดีกว่า
หัวข้อ: Re: GLC 250d vs 250 เบนซิน
เริ่มหัวข้อโดย: DiKiBoyZ ที่ เมษายน 28, 2020, 15:51:57
เชียร์ ดีเซล ครับ ผมยังไม่เห็นว่าดีเซลจะขับไม่สนุกตรงไหนเลย

มันคนละฟิลลิ่งมากกว่า แต่มันก็สนุกคนละแบบ กระแทกเป็นมา ผมมีทั้งเบนซิน และ ดีเซล ตอนนี้ชอบดีเซลซะด้วยซ้ำ  :)

SUV ผมยังถือฝั่งดีเซลมากกว่า แต่เครื่องยนต์ดีเซลยี่ห้อนี้เป็น Euro 6 มีค่าใช้จ่าย AdBlue การสิ้นเปลือง 10 กม. ต่อ 1 บาท เบิกศูนย์ 1,200 ข้างนอกมีราคา 900 บาท และควรเน้นเติมดีเซลพรีเมียม Euro 5/6

บ้านเราดีเซลยูโร 6 มีด้วยเหรอครับท่าน  ::) ::) แซวนะครับ

คนขับยุโรป หลายคนชอบเติมพรีเมี่ยมยี่ห้อนอก ที่เป็นยูโร 4 อยู่เลยครับ

          ผมว่าคนละอารมณ์ครับ  ขับดีเซลเหมือนฟังเพลงลูกทุ่ง  ขับเบนซิลเหมือนฟังเพลงลูกกรุง  ขึ้นอยู่กับว่าเราชอบแบบไหน  เมื่อก่อนคนนิยมดีเซลเพราะค่าน้ำมันดีเซลถูกกว่าเบนซิลแถมต่อลิตร ดีเซลวิ่งได้ไกลกว่าอีก  แต่ปัจจุบันดีเซลแพงกว่าเบนซิลแล้ว  อีกอย่างเครื่องดีเซลปัญหาเยอะกว่าเบนซิล  ถ้าเสียแล้วเครื่องดีเซลซ่อมยากกว่าเบนซิล  ถามช่างดูแล้วช่างก็บ่นว่าดีเซลประหยัดค่าน้ำมันแต่เปลืองค่าซ่อม  เอาเงินค่าน้ำมันที่ประหยัดมาจ่ายค่าซ่อม  สรุปว่าดีเซลกับเบนซิลพอๆกัน  ถ้าราคารถเครื่องดีเซลแพงกว่าเบนซิลเกินสองแสนบาทผมว่าซื้อเบนซิลดีกว่า

ใช่ครับ คนละอารมณ์จริง อันนี้ก็คงแล้วแต่ชอบ และ ใช้งานมา

ผมมีรถทั้งเบนซิน และ ดีเซล ปัจจุบันแทบไม่ได้ขับเบนซินเลย

เรื่องอัตราเร่ง GLC 250d กับ GLC 250 ดูจากที่ทดสอบ 0-200 ใน Youtube ใช้เวลาประมาณ 38-40 วินาที ดังนั้น 2 คันนี้ไม่ต่างกันเลย

ดีเซล แรงเบิดเยอะ กดเป็นมา กดเป็นดึง กดเป็นไป แทบไม่ต้องคลิกดาวน์ช่วยเลย ชอบตรงนี้มากกว่าเบนซิน เพราะชีวิตส่วนใหญ่ ใช้งานความเร็วไม่เกิน 200km/h มันตอบโจทย์ผมมากกว่า

เบนซิน คนอาจจะชอบเอาไว้ลากรอบ ฟังเสียง หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่สำหรับผมถ้า top speed ของทั้ง 2 เครื่องยนต์ GLC 250d กับ GLC 250 ที่ 200 นิดๆ ผมถือว่าเท่ากัน(ต่างกันไม่มาก) ผมก็ยังเลือกดีเซลอยู่ดีครับ

เรื่องความประหยัด ซีซี ต่อ ซีซี ดีเซลก็ประหยัดกว่าครับ

ราคาน้ำมันปัจจุบัน เกรด ต่อ เกรด ก็ไกล้เคียงกันครับ ที่บอกว่า ดีเซลแพงกว่า หมายถึง ดีเซลธรรมดา(B7) ไปเทียบกับกลุ่ม E20 E85 หรือป่าวครับ เช่น พรีเมี่ยมดีเซล ก็ถูกกว่า พรีเมี่ยมเบนซิน อยู่ดีครับ
(https://image.bangkokbiznews.com/kt/media/image/fileupload1/source/158762329655.jpg?1587623297906)

เรื่องราคาตัวรถ เบนซิน vs ดีเซล ถ้าห่างกันเกิน 3-4 แสน ผมก็อาจจะมีผลนะ แต่ถ้า 1-2 แสน ผมยังเอนไปทางดีเซลอยู่

เรื่องค่าซ่อมบำรุงรักษา ยี่ห้อ Benz ผมอาจจะไม่มีข้อมูลมากนัก แต่ถ้าเป็นยี่ห้อที่ผมใช้อยู่ บอกเลยว่า ดีเซล ปัญหาน้อยกว่า และ ซ่อมง่ายกว่าเยอะ และผมก็มองว่า สมช. HLM หลายคนที่ผ่าน เบนซิน ดีเซล มา ผมว่าเรื่องซ่อมดีเซลง่ายกว่าเยอะ ช่างซ่อมดีเซลเพียบเลย ที่บอกดีเซลปัญหาเยอะ นี่หมายถึงปัญหาประจำรถ ประจำรุ่น หรือป่าวครับ
หัวข้อ: Re: GLC 250d vs 250 เบนซิน
เริ่มหัวข้อโดย: V221 ที่ เมษายน 28, 2020, 17:29:54
จากประสบการณ์ที่เคยใช้ GLC250d Amg (SUV) แล้วเปลี่ยนเป็น GLC250 เบนซิน Coupe ผมเองก็ชอบถามตัวเองตลอดว่าคันไหนแรงกว่ากันเพราะจริงๆแล้วมันแทบไม่ได้แตกต่างกันครับ สำหรับความรู้สึกผมเครื่องดีเซลแรงดึงดีมากแต่เบนซินตัวนี้ก็ดึงได้ดีและลากได้ยาวกว่า เสียงเครื่องเบนซินตัวนี้เงียบมากครับยิ่งเติมน้ำมันเบนซิน 95 เครื่องจะเดินเรียบและเรียวแรงดี เรื่องความประหยัดดีเซลจะประหยัดกว่าแต่ก็ไม่ได้แตกต่างมากมายนักผมมองว่าเบนซินตัวนี้ก็ใช้ได้ครับไม่ได้กินน้ำมัน ส่วนตัวผมอยากให้มองที่สภาพรถเป็นหลักสำหรับรถมือสอง ปล. ผมเคยได้ไปลองรหัส 43 ตอนแรกคิดว่าแรงบิด 500 NM ในเครื่องดีเซลจะให้ความรู้สึกดึงได้ใกล้เคียงกัน แต่ปรากฏว่า 43 นั้นดึงสนุกกว่ามากๆครับ ตอนนี้ราคามือสองก็ลงมามากแล้วครับ ขอให้ได้รถที่ถูกใจครับ
ราคามือหนึ่งก่อนFaceliftก็ลดกัน7แสนแล้วครับ