Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: bingoman ที่ พฤษภาคม 01, 2020, 19:15:21
-
เศรษฐกิจไม่ค่อยดี อยากประหยัดเงินครับ
ปกติเติมแต่สังเคราะห์แท้ แล้วก็วิ่ง 10,000 โลหรือเกินนั้นนิดหน่อยครับ
แต่สงสัยว่าถ้าผมจะเติมแบบกึ่งสังเคราะห์ จะได้ไหมครับ ขับก็ขับปกติมีช้าบ้างเร็วบ้าง ไม่ได้ไปขับ หวดๆ แบบคนบ้าแต่อย่างใดครับ
แล้วถ้าใช้แบบกึ่ง แล้วเปลี่ยนที่ระยะเดิม เครื่องยนต์จะสึกหรอมากกว่าตัวสังเคราะห์แท้เหรอครับ (ถ้าใช้กึ่ง แล้วไม่ลากเกินระยะ)
เพราะไปอู่บริการข้างนอก พนักงานก็ชอบเอาแต่บอกว่า รถพวกนี้ ต้องสังเคราะห์แท้เท่านั้น (ทั้งๆ ที่ก็มีกึ่งสังเคราะห์วางขายอยู่ข้างๆ) ทำเหมือนเห็นลูกค้าเป็นตู้ ATM พูดจากึ่งบังคับกึ่งชี้นำ ว่าต้องใช้สังเคราะห์แท้เท่านั้นครับ
ถ้าผมใช้แบบกึ่ง มีอะไรที่ต้องระวังเป็นพิเศษไหมครับ ขอบคุณครับ
-
เครื่องไม่รู้หรอก ขอให้มันหล่อลื่นได้
ขอเป็นขอแท้
-
สังเคราะห์แท้ยี่ห้อทั่วไปในเน็ตถ้ามีโปรก็ไม่แพงนะครับ ถูกกว่าที่ไปเปลี่ยนถ่ายตามร้าน ส่งให้ถึงหน้าบ้านเลย
-
สังเคราะห์ ตัวล่าง ที่ ต่ำกว่า 1,000 บาท มีหลายยี่ห้อเลยครับ คุณ bingaman ลองโฉบเข้าไปดูใน Shopee ดูคร่าวๆเลยครับ ดังตัวอย่าง 5W-40 4L+ 1L = 1,049 โค๊ดส่วนลดร้าน ซื้อของเกิน 400 บาท ได้ส่วนลด 150 บาท(พิมพ์โค๊ดที่ร้านแจ้ง) เลือกส่งด้วย Best Express 65 บาท สรุปแล้วจ่าย 964 บาท
น่าจะช่วยบรรเทาได้ครับ :-* :-*
-
ปกติรถราคาหลายล้านเขาไม่ขี้เหนียวกับส่วนต่างค่าน้ำมันเครื่องอีกแค่ไม่กี่พันบาท ขนาดใช้รถไม่ถึง 5,000 กม./ปีก็ยอมเปลี่ยนสังเคราะห์ตามโรงงาน
นี่วิ่งเต็ม 10,000 กม. รถพวกนี้เซ็นเซอร์สารพัดทั้งคัน ถ้าถามว่าเครื่องจะพังไหม ผมว่าไม่พังหรอก และน่าจะมีคนเคยทำแล้วแต่ผลเป็นยังไงเขาไม่มาบอก
-
ได้ยันเกรดธรรมดาครับ ยี่ห้อน้ำมันเครื่องดังๆ เขาก็เขียนข้างกระป๋องหรือแกลลอนว่ารองรับรถอะไรบ้างด้วยซ้ำ
แต่การใช้งานได้เท่าไหร่ ถึง 10,000 ไหม ตอบไม่ได้เลย ต้องคอยชักก้านน้ำมันเครื่องยนต์ดูเอาละครับ เพราะถ้าเผลอลากยาว แต่น้ำมันเครื่องหมดสภาพหรือการหล่อลื่นไม่ดี อาจจะงานเข้าได้
-
ถ้าเป็นผมก็คงเลือกน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้แบรนด์รองที่มีราคาถูกแทน แต่ถ้าจะเสี่ยงใช้กึ่งจริงๆ คงเปลี่ยนที่ 6-7 พันโลแทนครับ
ปล. ถ้าผมได้ขับถึง Porsche นี่ คงไม่กล้าเสี่ยงกับอะไรแบบนี้เด็ดขาดเลยครับ
-
อยู่ที่รุ่นเครื่อง วิธีการขับขี่ผู้ใช้ และมาตรฐานการรองรับครับ
น้ำมันเครื่องของรถที่ว่ามา ไม่จำเป็นต้องเป็น fully synthetic เสมอไป ขึ้นกับ
1. ถ้าเป็นเครื่องยนต์แบบ ซีรี่ย์ 3 บางรุ่น, C บางรุ่น, XC40, A4 บางรุ่น ถือว่าเป็นรถบ้านที่สมรรถนะสูง เค้าจะระบุ spec ไว้ในคู่มือรถ น้ำมันเครืองตัวไหนตรงก็ใช้ได้เลย จะ fully จะ semi ได้หมด (เน้นอีกรอบว่าให้ตรงคู่มือ) แต่ถ้าเป็นรถสมรรถนะสูง เช่น C43, M2 อันนั้น fully สถานเดียว
2. เปรียบเทียบคนแรก ชอบเร่งพรวดพราดเป็นปกติ กลางวันเจอรถติดร้อนจัดในเมือง พอออกนอกเมืองก็ชอบอัดลากรอบแบบเห็นเกิน 4,000 รอบเรื่อยเลย แบบนี้ต้อง fully กลับกัน อีกคนขับเป็นผู้เป็นคน ค่อยๆเร่ง ค่อยๆชลอ อาจมี 160 บนโทลเวย์ได้บ้าง อันนี้ไป semi
3. ลอง google ดูต่างประเทศครับ จะแปลกใจมากที่เค้าไม่ได้เน้น fully synthetic กับรถทุกรุ่นอย่างบ้านเรา อย่างรถ premium เช่น Audi, BMW, MB, Volvo, Lincoln, Cadillac บางตัว เค้าก็จะมี semi-synthetic เป็น recommended lists ไว้ให้เลือกใช้ตามสะดวก เพียงแต่หลังๆนี้ไม่ได้มีรุ่นให้เลือกมากนัก เพราะสมรรถนะรถสูงขึ้นเรื่อยๆ
4 สุดท้ายดู promotion ครับ ถ้า fully มีรุ่นที่ spec ใช่ ราคาโดน ก็จัดเลย
-
เติมได้ครับแต่คงปกป้องสู้แบบสังเคราะห์ไม่ได้ ที่ต่างประเทศคนใช้รถพวกนี้จำนวนไม่น้อยที่วิ่งเข้าไปเปลี่ยนนมค.แบบธรรมดาเลยด้วยซ้ำตามร้านเปลี่ยนแบบ drive thru แต่คงเปลี่ยนทุก 10,000 กม. ไม่ได้ 5,000 ก็น่าจะต้องเปลี่ยนแล้ว
-
(https://s3-ap-southeast-1.amazonaws.com/img-in-th/bcc7dec77a33dfff46ae03a9a5aa26ed.jpg)
แนะนำให้ดูตามคู่มือรถยี่ห้อและรุ่น ว่าแนะนำมาตราฐานอย่างไรครับ
ตัวอย่าง ถ้าคู่มือรถ benz รุ่นXXX แนะนำมาตราฐาน mb229.3 เราสามารถเทียบจากตารางด้านบนกรอบสีแดง
จะเห็นว่า สามารถใช้ caltex กึ่งสังเคราะห์ 10w40 หาซื้อได้ทั่วไปราคาแกลลอนละ 800-900บาท ครับ
แต่ถ้าเป็น mb229.51 จะแนะนำเป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ครับ
ลองไปดูเพิ่มเติมที่นี่ครับ
mb229.3 https://bevo.mercedes-benz.com/bevolisten/229.3_en.html
mb229.51 https://bevo.mercedes-benz.com/bevolisten/229.51_en.html
-
ปตท สังเคราะห์แท้ก็ถูกตังดีนะ หรือ total กึ่งสังเคราะห์
รถกระบะส่งของบ้านผมใช้ total กึ่งสังเคราะห์ วิ่งงานรอบสูงข้ามจังหวัดทุกวัน
ว่ากันที่ 20,000 โลถึงเปลี่ยน คุณถาพดีไม่แพ้สังเคราะห์แท้ๆเลย
-
นมค. ใช้เกรดและค่าความหนืดตามที่รถรุ่นนั้นๆ ต้องการ
จะเป็น Full or Semi ที่แตกต่าง คือ "ความเสถียรในการคงสภาพของ นมค." นั้นมากกว่า
คนรักรถ จะบอกว่า Full ดีกว่า
ไม่ได้เถียงว่า "มันไม่ดี"
มันดี-ดีมาก และบางครั้งมันอาจจะ "ดีเกินไป"
แต่ทั้งนี้ มันขึ้นอยู่กับ "เงิน" ในกระเป๋า ไม่เดือดร้อนก็สามารถเลือกใช้ได้
รถบ้าน รถสปอร์ต ถ้าเราไม่ได้วิ่ง "Red Line" แบบรถแข่งตลอด
ขอแค่ใช้เกรดและค่าความหนืดตามที่รถรุ่นนั้นๆ ต้องการผมว่าแค่ Semi ก็พอ
หรือถ้ากังวลมาก จาก "หมื่นโล" ก็เปลี่ยนเร็วขึ้น "เจ็ด-แปดพันโล" ก็ได้ แล้วแต่ต้องการ
รถทุกคันของผม ไม่ว่าจะเก่า-ใหม่ จะใช้ "Semi" ที่ตรงรุ่นตลอด
เคยลอง "Full" เหมือนกัน แต่ "รับรู้" ถึงความแตกต่างได้นิดหน่อย ผมจึงเลือก "Semi" มาตลอด
แปลกนะ ขนาด "มอไซค์สี่สูบ" ตอนลากเสียงหวานๆ นั่น รอบจัดเป็น "หมื่นรอบ"
แถม นมค.ติดจากโรงงานก็ยังเป็น "Semi" เลย
-
ถ้าศูนย์บริการทางเลือก BQuik, ACT, PTT Fit Auto, อื่นๆ มีกรองน้ำมันเครื่องรองรับรถระดับนี้
และทางช่างมีความชำนาญ
เป็นทางเลือกให้พิจารณาครับ น้ำมันเครื่องแกลอน1-2,xxxบาท + กรองน้ำมันเครื่อง + ค่าแรง(บางที่อาจจมีค่าแรง บางที่ฟรีค่าแรง)
-
เปิดคู่มือครับ น้ำมันเบนซ์จะมีมาตรฐานของตัวเอง แล้วลองไล่ดูครับว่ากึ่งสังเคาระห์ตัวไหนผ่านมาตรฐานนั้น
-
ได้นะครับ ขอแค่เป็นน้ำมันเครื่องรุ่นใหม่ๆขึ้นมาหน่อย เกรด SM SN ขึ้นไปก็ไม่มีปัญหาครับผม
-
ก็ไม่น่าจะมีอะไรครับ น้ำมันเครื่องพื้นฐาน ธรรมดา ก็ยังดีกว่าไม่เปลี่ยนมากครับ ;)
-
mobil นะ ราคาแพงหน่อยแต่ลื่นดีจริงๆ
-
ไม่ขอเสี่ยงครับ
ไปประหยัดด้านอื่นดีกว่าครับ
-
ผมมองว่ายงไง fully syn ก็อายุการใช้งานยาวกว่า semi syn
ราคาต่างกันไม่เท่าไหร่ เปลี่ยนทีหมื่นโล รถบ้านใช้งาน ไม่ใช่รถบรรทุก หรือรถสาธารณะ หมื่นโลน่าจะขับไม่ต่ำกว่า 6 เดือน ไม่เห็นต้องประหยัดขนาดนั้นเลยครับ
-
ผมก็ว่าใช้ fully senthetized ดีกว่าครับ อุ่นใจ
-
แรกเริ่มเดิมทีผมก็ ไม่รู้เรื่อง ใช้สังเคราะห์แท้ ยี่ห้อศูนย์เหล่านั้น สังเคราะห์แท้ พอมีีีีีีีีีรถหลายคัน เข้าศูนย์ทุกคันมันไม่ไหว มาศึกษาจนเข้าใจ เลือกใช้กึ่งสังเคราะห์ ทั้งรถส่วนตัว รถพนักงาน รถส่งของ เปลี่ยนระยะถ่ายตามสภาพจราจร นับชั่วโมง คร่าวๆทุก7000กม. ก็ถ่ายน้ำมันเครื่อง ไม่ได้เปลี่ยนไส้กรองทุกครั้ง เท่าที่ลองมา สังเคราะห์แท้ก็ทนได้แค่7000-8000กิโลเมตรเหมือนกัน
ประหยัดไปปีละสองล้านกว่าบาท จากการที่เอารถทุกคันมาใช้กึ่งสังเคราะห์
รถที่ให้พนักงานใช้ 10ปี เกิน3แสนกิโลเมตรทุกคัน เบนซ์หลายคันที่ให้ผู้จัดการใช้ไม่มีปัญหาเครื่องยนต์ (ไม่นับรวมรุ่นCGI เทอร์โบและไฮบริด ที่มีปัญหาของมัน ไม่เกี่ยวกับน้ำมัน) ใช้เกิน5แสนกิโลเมตร ที่ใช้มากสุด10ปีก็ C200Kom. เกือบ 8แสนกิโลเมตร คันนี้ปรกติถ้าเข้าศูนย์ครั้งละ6000บาทถูกสุด สังเคราะห์แท้ยี่ห้อแพง พอเกินแสนโลจับมาถ่ายข้างนอก ครั้งละไม่ถึงพัน
-
สมัยก่อนตอนใช้ S5 e60 525ise ผมเคยลองเติมน้ำมันเครื่อง P.. สังเคราะห์นะ
แต่ปกติเป็นคนขับรถเร็ว วิ่งๆ ไป ไม่กี่พันโล ไฟจะเตือนขึ้นว่าน้ำมันเครื่องขาดตลอด
ลองอยู่ 3 ครับ เป็นแบบนี้ตลอด
หลังจากนั้นกลับมาใช้ยี่ห้อดีๆ เหมือนเดิม อาการดังกล่าวก็ไม่เคยเกิดขึ้นอีกเลยครับ
-
ประหยัดไปได้ไม่กี่บาทอย่าไปเสี่ยงเลยเกิดสึกหรอขึ้นมาคิดว่าไม่คุ้มกับค่าซ่อมนะค่ะ รถที่บ้าน BMW, BENZ ทุกวันนี้ยังเปลี่ยนที่ศูนย์อยู่เลย บางคันก็เลย 10 ปีแล้ว สบายใจดี :)
-
ผมดูตามคู่มือนะครับ ถ้าเค้าว่าได้ ผมก็ว่าได้
-
ถ้าไม่ระบุปี E28 520i ผมก็ใช้กึ่งสังเคราะห์ครับ หรือ mineral เลยด้วยซ้ำจำไม่ได้
ดีไหม มันก็ไม่ดีเท่าสังเคราะห์แท้น่ะแหละ
-
ผมตอบสั้นๆเชิงเทคนิคเลยนะ "ได้"
นมค มีหน้าที่ปกป้องการสึกหรอของเครื่องยนต์ ตามคู่มือเขาจะออกแบบความหนืดและ spec ของ นมค ให้เข้ากับ spec ของเครื่องยนต์ให้มีอายุการใช้งานยาวนาน
ถ้าคุณไม่เติมตามเกรดที่เขากำหนด โดยมากเครื่องจะสึกหรอเร็วขึ้น แต่แค่ระดับกึ่งสังเคราะห์คงสบายๆชิวๆ ถ้าไม่ทะลึ่งไปเอาเกรด mineral oil มาเติม ( เพราะ sensor รุ่นใหม่ๆอาจจะเจอ )
แต่...คุณอาจผิดเงื่อนไงการรับประกัน ซึ่งโดยปกติแล้วซื้อรถระดับนี้ค่า service ทีคงเกิน นมค เกรดดีๆ (2000 กว่าๆ) ไปเยอะมากๆอะ