Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: The Mechanics of Emotions ที่ พฤษภาคม 17, 2020, 12:45:41

หัวข้อ: วินัยการขับรถของไทย vs ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: The Mechanics of Emotions ที่ พฤษภาคม 17, 2020, 12:45:41
ผมไม่ได้เหมารวมนะครับ คนขับรถที่ดีๆ ก็ยังมี แต่ผมขอพูดในภาพรวมที่ส่วนตัวได้สัมผัสมาว่าเมืองไทยนิสัยการขับรถค่อนข้างแย่มาก ถ้าเทียบกับต่างประเทศอย่างที่ผมเคยไปอยู่แคนาดา จอดรถมั่วซั่วไม่ได้เลยนะ โดนยกอย่างเดียว ที่ไทยจอดแปะเปิดไฟฉุกเฉินจะขวางการจราจรยังไงไม่สนใจ การเปลี่ยนเลนแต่ละทีก็เว้นระยะห่างจากคันหลังเยอะ ไม่ใช่แค่ระยะที่ตัวเองเข้าได้ก็โยกเข้าเลย เปิดไฟเลี้ยวตลอด ไม่ค่อยเจอขับช้าแช่เลนรถเร็ว แซงปุ้ปก็เข้าเลนกลาง และหยุดให้รถในวงเวียนไปก่อนจนโล่งจริงแล้วตัวเองค่อยเข้า แต่ที่ไทยถ้าแทรกได้แทรกเลย ที่นู่นหยุดให้คนข้ามถนนทุกแยก แค่เห็นคนยืนที่มุมถนน มาเร็วแค่ไหนก็หยุดให้ข้ามหมด (บางทีจะมีไฟให้กด อันนั้นต้องรอไฟ) ให้คนไปก่อนเสมอ แต่ที่นี่รถยนต์ต้องไปก่อน คนทีหลัง ที่เจอกับตัวเองเลยทางข้ามในกทม เป็นไฟเขียวให้คนข้ามแล้วยังมีรถยนต์ มอไซค์ก็ยังมึน ถลำเข้ามาในทางข้าม บางทีไฟเขียวคนข้ามไปแล้ว 2-3 วิ รถยังไม่หยุดเลยจะชนคนอยู่แล้ว

พูดง่ายๆ คือขับรถที่นู่นทุกคนให้เกียรติกันบนถนน เคารพกฎจราจร แต่ที่ไทยคือแทรกได้แทรกเลย ฉันต้องไปก่อนใคร ปาดหน้ายูเทิร์น แช่ขวา อีกเยอะแยะ บางทีก็อยากให้รัฐแก้กฎหมายให้หนักๆ ไปเลย ใบขับขี่ทำให้มันยากๆ หน่อย แก้ที่นิสัยคนไม่ได้ก็ต้องใช้กฎหมายคุม ตรวจสภาพแบบจริงจังไปเลย ควันขาว ควันดำ ล้อยื่น สีไฟหน้า ไฟท้าย ไม่ผ่านปรับไปเลย รอบสองไม่ผ่านอีกห้ามใช้รถ อยากให้บ้านเราแก้ตรงนี้มากๆ วินัยการขับรถจะได้เจริญเหมือนต่างประเทศเค้าซะที


หัวข้อ: Re: วินัยการขับรถของไทย vs ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: Gordon Freeman ที่ พฤษภาคม 17, 2020, 12:56:33
แย่จริงครับ บางทีก็ทำให้หัวร้อนได้เลย สำหรับวินัยจราจรในประเทศไทย

แต่ก็อย่างว่า อยากทำอะไรก็ทำได้เพราะน้อยคนนักที่ทำแล้วจะโดนจับ ทั้งๆ ที่มันผิด บางคนยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่ทำๆ อยู่มันไม่ถูก
หัวข้อ: Re: วินัยการขับรถของไทย vs ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: kabokaboh ที่ พฤษภาคม 17, 2020, 13:17:56
แย่จนทำให้ ปทท เป็นประเทศที่มี speed bumper หรือ เนินสดุด มากที่สุด เท่าที่เคยไปเยือน ตปท มา

ยังไม่เคยเห็นที่ไหนเยอะเท่าบ้านเราเลย

คนดีๆ เลยซวยไปด้วยเลย
หัวข้อ: Re: วินัยการขับรถของไทย vs ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: InBkk ที่ พฤษภาคม 17, 2020, 13:25:50
จิตสำนึกก็เป็นส่วนหนึ่งที่กำหนดวินัยจราจร แต่ก็ไม่ได้มากไปกว่า การบังคับใช้กฏหมายที่เข้มงวดอย่างทั่วถึง

ต่างประเทศ กล้องวงจรปิด/กล้องตรวจจับความเร็ว ถูกติดเอาไว้ทั่วเมือง (โดยเฉพาะในเขตชุมชน) ค่าปรับก็แสนแพง มีระบบตัดแต้ม แถมเนียนไม่จ่ายก็ไม่ได้ ยังไงก็หนีไม่พ้นแน่นอน 100%

ประเทศไทย กล้องพวกนี้ ถูกติดตั้งเฉพาะที่แยกใหญ่ หรือบนทางหลวงเท่านั้น ขอแค่มีเงินจ่ายก็โดนจับได้ไม่จำกัด ต่อให้เนียนไม่จ่าย โอกาสรอดก็สูง หรือไม่ก็ให้ผู้ใหญ่คนนั้นคนนี้ช่วย
หัวข้อ: Re: วินัยการขับรถของไทย vs ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: Nismo De Alpina ที่ พฤษภาคม 17, 2020, 13:33:17
ฝรั่งแย่ๆก็มีถมไปแต่น้อยกว่าบ้านเรา แต่ที่ต่างคือกฎหมายบ้านเขาทำจริงปรับหนักจริง เจอไปครั้งแทบจำไปจนตาย
เจอแบบนี้ใครจะกล้าทำอีกถามหน่อย เพื่อนผมตอนอยู่ไทยด้วยกันขับรถบอกได้เลยว่าสันดานแย่มากๆ
แต่พอมันอยู่ที่โน่นขับดีมีวินัยสุดๆ เพราะอะไร?
ตัดกลับมาบ้านเรา......เหนื่อยใจทั้งคนบังคับใช้กฎหมาย
และคนใช้รถคือเละเทะมาก วินัยต้องสร้างตั้งแต่เด็กครับ ถ้าผู้ใหญ่แย่แต่จะให้เด็กดีก็แปลกๆนะ
หัวข้อ: Re: วินัยการขับรถของไทย vs ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: AkE ที่ พฤษภาคม 17, 2020, 13:34:38
Paragraph 2 ผมเห็นด้วยทุกอย่างครับและเข้าใจที่ จขกท. หมายถึง ผมพูดจริงๆผมเบื่อแล้วหลายปีก่อน

เคยนั่งคิด นั่งทำนู่นนี่ อยากให้ไทยดีขึ้นแบบนั้นแบบนี้ทุกวันนี้ผมเฉยๆไปแล้ว เอาไงก้เอางั้นอะครับผมเบื่อแล้ว

นั่งคิดไปพูดกันไปคนมีทุกข์คือตัวเราเองมากกว่า คนมีอำนาจที่จะตัดสินใจและทำได้เค้าไม่ได้มาสนใจอะไร

ก้อยู่กันแบบนี้ไปแหละครับ อีกอย่างยิ่งมีโอกาสไปหลายๆประเทศก้ยิ่งเจอสิ่งที่แย่ของประเทศนั้นๆมากขึ้นๆ

เรื่อยๆ ผมก้เลยเฉยๆไปแล้ว (Canada ผมยังไม่ได้ไป) ไม่ใช่แต่เรื่องท้องถนนหรอกครับเรื่องมากกว่านี้อื่นๆ

ก้เบื่อแล้ว เอาแบบนี้แหละครับ มึนๆดี

*จริงๆตัวเลขอุบัติเหตุ คนเสียชีวิตและบาดเจ็บบนถนนไทยสูงมากครับ ผู้เสียชีวิตจากโรค covid 19 ของไทยถึงตอนนี้มียอดพอๆกับคนเสียชีวิตบนถนน1วันเอง ไม่มีคนสนใจ มีแค่ไม่กี่คนที่พูดถึง จริงๆมันลดได้นะครับ ไม่ยากมากมายเลย อาจจะไม่ 0 แต่ลดลง 50% นี่ทำได้ไม่ยาก แต่ก้ปล่อยให้เป็นแบบนี้มานานแสนนานแล้ว คิดซะว่าเป็นระบบนิเวศน์ของคนไทยไปละกัน 555

*ผมไม่ได้ว่าไทยไม่ดีนะครับ ผมชอบอยู่ไทยที่สุดแล้วว่างๆค่อยไปเที่ยวต่างประเทศเอา ประเทศอื่นอยู่นานๆก้เจอเรื่องแย่ๆเยอะแยะไปครับ
หัวข้อ: Re: วินัยการขับรถของไทย vs ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: saran_1st ที่ พฤษภาคม 17, 2020, 13:42:50
สิ่งที่ประทับใจของการใช้รถใช้ถนนของประเทศฝั่งยุโรปเท่าที่เคยเห็นมา เช่น
1. มาตรฐานการสอบใบขับขี่สูงกว่าบ้านเรามาก โดยเฉพาะการสอบปฏิบัติ (Practical Test) ที่มีเจ้าหน้าที่นั่งไปกับเราจริงๆ ให้ขับเหมือนสถานการณ์ปกติ
แล้วให้คะแนน/ตัดคะแนนในจุดที่เราพลาด และสอดแทรกการจอดท่าบังคับ/การถอย เข้าไปในถนนจริงเลย
2. การใช้วงเวียน มีวินัยและมารยาทกันมาก และสำหรับแยกเล็กๆผมว่ามันช่วยลดระยะเวลาการรอได้ดี
3. Unmarked police car รถตำรวจที่ทำเนียนๆว่าเป็นรถทั่วไป คอยแอบดูว่ามีใครขับผิดกฎ หรือทำอะไรแผลงๆหรือเปล่า
4. การให้ทาง คล้ายๆประเด็นเรื่องการให้เกียรติ ที่เจ้าของกระทู้พูดถึงครับ เอาแค่ถอยออกจากช่องจอดในห้าง ถ้าเขาเห็นว่าเราถอยออก  มันมองลำบากอยู่แล้ว
ส่วนใหญ่ก็แทบจะทั้งหมดจะหยุดให้เราถอยออกสะดวกๆ เช่นเดียวกัน ถ้าเวลาเราให้ทางใคร เขาก็จะเปิดไฟฉุกเฉินกระพริบ 2-3ครั้ง เพื่อแสดงคำขอบคุณ (ถ้าให้สัญญาณมือไม่ได้)

บ้านเรา ใบขับขี่มันได้มาง่ายเกินไปครับ
หัวข้อ: Re: วินัยการขับรถของไทย vs ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: akewizard ที่ พฤษภาคม 17, 2020, 13:48:37
ผมคงไม่พูดอะไรมาก แต่แค่จะเข้ามาบอกว่ารู้สึกเหมือนกันครับ
ช่วงนี้เหมือนปลดปล่อยกันหลังจากที่โดนกักตัวอยู่แต่บ้านมานาน พอได้ขับรถกันทีนึงก็เป็นอย่างที่เจอๆกัน
หัวข้อ: Re: วินัยการขับรถของไทย vs ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: siamskunk ที่ พฤษภาคม 17, 2020, 14:05:26
เชื่อเถอะไม่ว่าที่ไหนสามัญสำนึกมันก็ไม่ต่างกันมาก แต่ผู้รักษากฏหมายแต่ละที่มีความเข้มงวดต่างกันจึงเป็นผลทำให้คนขับรถแต่ละที่มีวินัยที่ต่างกัน

ลองดูอเมริกาครับ การฝ่าฝืนกฏจราจรนั้นโทษหนักค่าปรับสูงมาก คนจึงกลัวและไม่กล้าฝ่าฝืนกัน ไม่ใช่เพราะเค้ามีวินัยด้วยตัวเองหรอกครับ
แค่คนจะข้ามถนนเหยียบลงพื้นไปก้าวนึงรถก็เบรคกันหมด เพราะอะไร ? ไม่ใช่เพราะคนพวกนั้นใจดีหรอกครับ แต่เพราะถ้าชนขึ้นมาโดนฟ้องถึงขั้นล้มละลายได้เลย
หัวข้อ: Re: วินัยการขับรถของไทย vs ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: porasit33 ที่ พฤษภาคม 17, 2020, 14:05:51
จับจริง ปรับจริง แล้วก็ไม่รับใต้โต๊ะ น่าจะช่วยได้ระดับนึง

ทุกวันนี้จากขับรถเร็ว 120-140 พอเจอกล้องบ่อยๆขึ้นก็
 110 ตลอดสายเพราะจ่ายไม่ไหว

ถ้าจับจริงไปเรื่อยๆ ก็เชื่อว่าคนไทยจูนนิสัยได้ ไม่ยาก
หัวข้อ: Re: วินัยการขับรถของไทย vs ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: V221 ที่ พฤษภาคม 17, 2020, 14:06:52
บ้านเราไม่มีใครกลัวบทลงโทษครับ ตำรวจก็มีเส้นสายแถมรับสินบนอีก ถ้าปรับกันจริงๆวันนึงน่าจะได้หลายร้อยล้านบาทเข้าหลวงครับ ผมขับอยู่ไม่มีวันไหนที่ไม่เจอคนขับรถผืดกฎหมายเลย ออกจากหน้าหมู่บ้านก็เจอมอเตอร์ไซค์สวนเลนทุกครั้ง เยอะขนาดหมู่บ้านติดป้ายให้ลูกบ้านคอยระวังรถสวนเลนก่อนจะเลี้ยวออกหน้าหมู่บ้านละครับ คิดดูเอา
หัวข้อ: Re: วินัยการขับรถของไทย vs ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: IS2000 ที่ พฤษภาคม 17, 2020, 14:15:05
ผมเริ่มขับรถเป็นและได้ใบขับขี่ตอนใช้ชีวิตในสหรัฐอเมริกาครับ กฎหมายที่นั่นโหดมากมีตำรวจพร้อมที่จะจับคนทำผิดกฎหมายจราจรตลอดเส้นทาง เรื่องวินัยถึงเมืองที่ผมเคยอยู่จะไม่ดีนักแต่ก็ดีกว่าที่ไทยเยอะครับ ที่นั่นคนใช้ถนนไม่ยอมกันด้วย แทรกคิวกันหรือทำอะไรที่ไม่แฟร์เผลอๆมีลงมาซัดกันหรือโดนโทรจ้างตำรวจเรื่องยาวอีก
หัวข้อ: Re: วินัยการขับรถของไทย vs ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: Symphonic ที่ พฤษภาคม 17, 2020, 14:46:10
เห็นด้วยทุกประการครับ  ไม่อยากว่าเรื่องเหมารวม แต่จะเหมาก็ได้นะครับ

เพราะ "ปลาเน่าตัวเดียว เหม็นทั้งข้อง"  แต่นี่ทั้งข้องมีปลาเน่ามากกว่าปลาดี

แล้วมันจะไม่ถูกเหมารวมทั้งข้องได้อย่างไร 

เดี๋ยวก็จะมีคนมาพูดว่า

1.1 คนไทยที่ขับรถดี ๆ ก็มี
1.2 คนเมืองนอกที่ขับรถแย่ๆ ก็มี

ทั้ง 1.1 และ 1.2 นั้นถูกทั้งคู่ครับ แต่ไม่มีตรรกในเชิงสัดส่วน

"น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ" ครับ

แล้วจะทำไงได้ครับ เพราะประชากรของประเทศนี้คือ "คนไทย"

คนขับรถ, คนออกกฏหมาย, คนใช้กฏหมาย และคนควบคุมดูแล ทุกคนล้วนเป็น "คนไทย"

เหมือน ๆ กับทั้งผมและพี่ๆ ชาว HLM ก็เป็น "คนไทย" 

ถ้า "คนไทย" อย่างผมและพี่ๆ ชาว HLM เริ่มต้นก่อน ขับรถตามกฏจราจร วันนึงมันก็ต้องดีขึ้นครับ
หัวข้อ: Re: วินัยการขับรถของไทย vs ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: เนื้อน่องไม่หนัง ที่ พฤษภาคม 17, 2020, 14:47:28
พื้นฐานนิสัยจะต่างชาติกับไทย ผมว่าไม่ต่างกันครับ สิ่งที่ทำให้เขามีวินัยมากกว่าคือตัวกฏหมายและผู้บังคับใช้กฏหมายเขาแข็งแรง ทุกอย่างตรวจสอบได้ บทลงโทษ รุนแรง ปรับจริง ติดคุกจริง ยึดใบขับขี่จริง โดนใบสั้งเป็นเรื่องน่าอาย ไม่ใช่เหมือนในไทย ที่โดนใบสั้งปรับใช้ความเร็วเกินกฏหมายกำหนด แล้วมาบ่นว่า ทำไมวิ่ง 120 ถึงยังโดน..

ขับรถต่างประเทศค่อนข้างสบายใจ กังวลแค่เราจะเผลอ ฝ่าฝืนกฏเขา สี่แยกมีป้าย stop ต้องหยุดก่อน เส้นทึบก็ไม่เปลี่ยนเลน Speed Limit ก็ใช้กันจริงๆ ขับเร็วเกินโดนกล้อง รถในวงเวียน รถทางหลัก ได้ไปก่อนเสมอ วิ่งบน Highway มีรถบรรทุกวิ่งเข้ามา ไม่เคยต้องกังวลว่าเข้าจะเบียดเรา พอมาที่ไทย ไม่เคยมีครั้งไหนไม่กังวล....

ที่ไทยเราเน้นเอาสะดวก ชั้นจะไปแบบนี้ ถนนสามเลนส์ชั้นจะวิ่งเลนส์ที่สี่ ชั้นจะวิ่งไหล่ทาง จะกลับรถซ้อนเลน ใครจะทำไม เส้นทึบคืออะไร ไฟเลี้ยวจะเปิดทำไม ก็เห็นๆอยู๋ว่ากำลังจะเปลี่ยนเลน
มิหนำซ้ำ ทำผิดเองก็ไม่ยอมรับว่าผิด ทั้งๆที่รู้ว่าตัวเองทำผิก อ้างนู้นอ้างนี้ อ้างน้ำใจ อ้างฉันทำแบบนี้ประจำไม่เคยเป็นอะไร อ้างจน อ้างไม่ชินทาง อ้างมันทุกอย่าง
ขับรถปาดหน้าขับแทรกคนอื่น ทางหลักบีบแตรไส่ ก็ของขึ้น แล้วมันความผิดใคร?

ผมอยากให้ที่ไทย ปรับตัวกฏหมาให้มันทันสมัยมากขึ้น ทั้งเรื่องของการจำกัดความเร็ว การจอดรถหยุดรถบนถนน ติดกล้องทุกไฟแดง ทุกทางม้าลาย ทุกทางเข้าออกทางคู่ขนาน มีภาพมีคลิปเป็นหลักฐาน ไม่เกินสัปดาห์ ยังไงคืนทุนค่ากล้องแน่นอน ค่าปรับก็เพิ่มไปสูงๆ ปรับเพิ่มตามเงินเฝ้อ ไม่จ่ายค่าปรับ ยึดรถ ยึดทรัพย์ ฟ้องล้มละลายให้รู้เรื่องกันไปเลย
หัวข้อ: Re: วินัยการขับรถของไทย vs ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: bennieT8 ที่ พฤษภาคม 17, 2020, 16:32:56
ผมคิดว่าปัญหาหลักคือผู้มีอำนาจหน้าที่ไม่ยอมทำงานครับ  อยู่แถวสาทรจำไม่ได้ว่าเห็นตำหนวดครั้งสุดท้ายมันนานแค่ไหนแล้ว 

แทนที่จะออกมาป้องปรามก่อนทำความผิดเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ  คุณพี่แกนั่งแต่ในห้องแอร์สแตมป์ใบสั่งให้จ่ายค่าปรับจากกล้องวงจรปิด  หาส่วนแบ่งรายได้หลังจากเกิดเหตุแล้วเท่านั้น  ไม่สนใจจะมาจัดระเบียบหรือป้องกันอุบัติเหตุแต่อย่างใด  จริงๆยิ่งมีเหตุก็ยิ่งมีรายได้เพิ่มอีกด้วยซ้ำ เงินเดือนจากภาษีก็มีอยู่แล้ว  เอาเงินภาษีไปซื้ออุปกรณ์มาทำมาหากินมีรายได้เพิ่มแถมสบายขึ้นอีก จะเหนื่อยและตากแดดไปทำไม  ซึ่งเข้าทางนิสัยคนไทยส่วนนึงที่พร้อมจะฝืนกฎระเบียบตลอดเวลา  ผลลัพธ์ก็อย่างที่คุยกันเนี่ย  มันเป็นผลลัพธ์ปลายเหตุครับ
หัวข้อ: Re: วินัยการขับรถของไทย vs ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: Fly to dream ที่ พฤษภาคม 17, 2020, 17:07:12
เอาง่ายๆแค่เรื่องหมวกกันน็อคกับเข็มขัดนิรภัยครับ  ย้อนศรจากเมื่อก่อนรถ 2 ล้อทำจนชิน เดี๋ยวนี้รถใหญ่เห็นเยอะขึ้น แล้วเรื่องอื่นมันจะทำกันหรอครับ
พอโดนจับบอกตำรวจรังแกประชาชน

สำหรับไทยมันต้องโดนประมาณนี้ แบบเกมจับผิดไปเลยถึงจะทำตามกัน ญี่ปุ่นวินัยดีเพราะจับจริงๆนี่แหละ ไทยต้องทำแบบนี้

https://www.youtube.com/watch?v=jpTJS8QSxzM (https://www.youtube.com/watch?v=jpTJS8QSxzM)

https://www.youtube.com/watch?v=2aqnTQ0eb0A (https://www.youtube.com/watch?v=2aqnTQ0eb0A)

ของไทยน่ะไปเน้นกล้อง ตำรวจนั่งเซ็นรอเงิน ถ้าจับสดๆบอกเลยว่าคนไทยกลัวกว่าเยอะ แม้จะปรับเท่ากัน
หรือเอาเข้มๆดุจัดๆแบบออสเตรเลีย อเมริกันไปเลย
หัวข้อ: Re: วินัยการขับรถของไทย vs ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: DiKiBoyZ ที่ พฤษภาคม 17, 2020, 18:00:20
ผมเห็นด้วยที่วินัยจราจรของคนไทยจำนวนไม่น้อย ถือว่ามารยาทและวินัยจราจรค่อนข้างต่ำ ถึง ติดลบ ซึ่งพบเห็นได้ทุกวันเลยก็ว่าได้ พฤติกรรมเหล่านี้

ทำไมผมกลับมองว่า บางประเทศ ที่ผมอยู่มา การบังคับใช้กฏหมายค่อนข้างแรง แต่ไม่จุ๊กจิก หยุมหยิม

ผมว่า "ปัญหา" จริงๆ มันอยู่ที่ "คนขับ" มากกว่า เพราะถ้าคนขับมีวินัยจราจรดีแล้ว กฏหมาย หรือ ตำรวจ แทบจะไม่มีบทบาทเลย ยังได้ แต่ที่ต้องบังคับกฏหมาย หรือ มีข้อหา มีด่าน มีกล้อง มีตำรวจเยอะๆ ก็เพราะ จุดเริ่มต้น คือ คนขับ ต่างหากครับ

ซึ่งมันควรจะสร้าง หรือ มี วินัยจราจรตั้งแต่ก่อนมีใบขับขี่แล้วด้วยซ้ำ และ ผมอยากให้ยกเลิกใบขับขี่ตลอดชีพทิ้งไปซะ ต่อใหม่ทุก 5 ปีเหมือนกันหมด เพราะคนกลุ่มนี้ 10 ปีที่แล้วขับรถอีกแบบนึง พอ 10 ผ่านไปก็ขับรถแบบหนึ่งก็ได้ ดีไม่ดีจิตสำนึกวินัยจราจรหายหมดแล้วมั้ง ผมเคยเจอรถที่ขับแช่ๆ เลี้ยวไม่เปิดไฟ เปลี่ยนเลนไม่เปิดไฟ ผมขับขึ้นไปตีคู่ดูคนขับประจำ ซึ่งเป็นคนกลุ่มมีอายุ เดาว่ากลุ่มนี้ใบขับขี่ตลอดชีพทั้งนั้นมั้ง

ผมอยู่อิตาลีมา 5-6 ปี เป็นประเทศที่ถนนไม่ใหญ่ (เพราะประเทศเรียวยาว เหมือนรองเท้าบูธ) ทำให้ถนน 4-6 เลน จะเห็นเฉพาะถนน motorway เท่านั้นเลย ถนนในเมืองอย่างโรม ฟอเร้นซ์ และ มิลาน ไปแค่ 1 เลย กลับแค่ 1 เลน ซะส่วนใหญ่ ยังรถไม่ติด อุบัติเหตุเกิดน้อยมาก ซึ่งอิตาลีเองรถก็ไม่ใช้น้อยนะครับ การได้มาซึ่งใบขับขี่ก็ยาก ซึ่งที่นั้นปรับจริง ยึดจริง แค่จอดรถที่ห้ามจอดยังจบยากเลยครับ ถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาลเลย ซึ่งคนน้อยมากที่จะกล้าแหกกฏ

ผมว่า การบริหารจัดการ การบังคับใช้กฏหมายก็ส่วนหนึ่ง แต่หลักๆ เลย คือ "คนขับ" ครับ
หัวข้อ: Re: วินัยการขับรถของไทย vs ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: Cortana ที่ พฤษภาคม 17, 2020, 18:47:56
มันเพี้ยนไปทั้งระบบแล้วอะ ที่ว่าผิดๆ คือทำกันจนกลายเป็นคิดว่าถูก แล้วพอไม่ทำจะกลายเป็นแกะดำกลางถนนเลย

มันต้องรณรงค์อย่างต่อเนื่องเ ยกตัวอย่าง การหลบหลีกรถพยาบาล 2 ปีมานี้ เห็นแล้วชื่นใจมากที่เริ่มเห็นหลบข้างทาง ให้รถแทรกด้านข้างหรือตรงกลางเลน แต่จะมีก็พวกเปิ่นๆ คือหลบให้ไม่เป็น เงอะงะไม่กล้าแทรก ถ้าอยู่นำหน้าก็ไม่กล้าขับเร็ว แต่ก็ชะลอไม่ได้ เรื่องนี้มันต้องทำ How to อย่างเป็นระบบ

ต่อกันที่เรื่องแช่ขวา เอาเป็นมอเตอร์เวย์ มีแช่เหมือนเดิม แต่เริ่มเห็นหลบกันมากขึ้น นี่ก็เริ่มเป็นสัญญาณที่ดี เรื่องนี้ก็ต้องมา How to อีก แบบไหนควรหลบ หรือแบบไหนรถข้างหลังต้องเข้าใจ อย่างรถตามกันทุกเลน จะให้หลบเข้าซ้ายก็ใช่เรื่อง

เรื่องจอดข้างทาง พวกนี้ต้องมาพูดกันที่ร้านค้าด้วย จะพูดกับแค่เจ้าของรถไม่ได้ มันต้องกดดันสองฝั่งแล้วจึงจะเกิดความเข้าอกเข้าใจกัน

เรื่องย้อนศร ในชุมชนเป็นกลุ่มเป็นก้อนผมไม่รู้จะพูดยังไงนะ คือแย่แหละ แต่กับพวกชุมชนริมทางหลวง อันนี้เห็นใจพวกนี้ แต่ก็เกลียดระบบที่ให้มีการสร้างบ้านเรือนริมถนนหลวงสายหลัก



 
หัวข้อ: Re: วินัยการขับรถของไทย vs ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: bossa26 ที่ พฤษภาคม 17, 2020, 20:08:42
เค้าไม่ได้ขับด้วยวินัยหรอก ฝรั่งมาเมืองไทยมันก็ย้อนศรไม่ใส่หมวก
แต่เค้าขับกันดีเพราะการบังคับใช้กฎหมาย
ขับมั่วซั่วโดนปรับบาน ถ้าโดนจนถึงขั้นห้ามขับก็ต้องห้ามขับ ไม่ใช่เจอพี่จ่าแล้วจะพับเล็กๆได้
บางประเทศปรับตามรายได้อีก ยิ่งรวยยิ่งโดน
บางประเทศยิ่งผิดเยอะยิ่งปรับแพง อย่างเช่น ขับเร็วเกินไปกี่กิโล เอาคูณค่าปรับ ยิ่งเร็วยิ่งโดน

ปรับจริงติดคุกจริง ใครจะเสี่ยง
หัวข้อ: Re: วินัยการขับรถของไทย vs ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ พฤษภาคม 17, 2020, 20:18:53
ปัญหาหลักเลยคือการบังคับใช้กฎหมาย      ที่คนไทยขับรถแย่  ๆ   จอดรถหน้าบ้าน   ปัญหาหลักเลยคือการใช้กฎหมายมันอ่อนมาก   
   ถ้าบังคับจริงจัง ไม่กล้ากันหรอก
หัวข้อ: Re: วินัยการขับรถของไทย vs ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: Nynewwy_JRW ที่ พฤษภาคม 17, 2020, 22:29:36
เห็นด้วยกับทุกคนเลยครับ ขนาดวันก่อนไปทำธุระที่ กทม. กำลังขึ้นทางยกระดับอุตราภิมุข ด่านลาดพร้าวขาออก เจอ Corolla ALTIS หน้าแบนสีดำ ปาดหน้ากระชั้นชิดมาก ถ้าหักหลบไม่ทันชนกันเต็ม ๆ แน่นอน ทั้ง ๆ ที่เราก็มาถูกช่องทางของเรา
นี่ผมคิดสภาพอยู่เลยนะ พวกจังหวัดใหญ่ ๆ ที่ รฟม.จะสร้างรถรางไฟฟ้า LRT หรือ Tram วิ่งอยู่บนถนนนี่จะเป็นยังไงกัน ยิ่งในเมืองโคราชบอกว่าจะสร้างวิ่งบนถนนทั้งหมด ผมว่ามีหวัง เกิดอุบัติเหตุบ่อย ชนกันเละ แน่ ๆ รถยนต์เอย มอเตอร์ไซค์เอย จะเลี้ยวทีก็ไม่เปิดไฟเลี้ยว แทรกตรงไหนได้ก็แทรก ปาดหน้ากันไปมา พอใจจะจอดตรงไหนก็จอด ขับกันเร็วอีกต่างหาก ทางก็อย่างแคบ พอเกิดอุบัติเหตุก็โทษคนอื่น แต่ไม่เคยโทษตัวเองกันเลยแม้แต่นิดเดียว กล้องมีตามแยกก็จริง แต่ตำรวจก็ไม่เคยมายืนโบกรถ ปิดสัญญาณไฟเสร็จ หายหัววับทันที
หัวข้อ: Re: วินัยการขับรถของไทย vs ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: Ultravistra ที่ พฤษภาคม 17, 2020, 23:48:17
รัสเซีย จีน อินเดีย แล้วจะรู้ว่าประเทศเรายังขับกันดีกว่า
หัวข้อ: Re: วินัยการขับรถของไทย vs ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: dht_tubes ที่ พฤษภาคม 18, 2020, 00:08:18
ทนไปครับ หวังว่ารุ่นลูกหลานจะดีขึ้น
หัวข้อ: Re: วินัยการขับรถของไทย vs ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: turbo lover ที่ พฤษภาคม 18, 2020, 02:36:30
อย่าไปเปรียบเทียบเลยครับ
เพราะมันจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
จนถึง รุ่น ลูก รุ่น หลานเรา มันก็จะเป็นแบบนี้ต่อไปครับ
มันยากครับที่จะไปเปลี่ยนแปลงใคร ให้มีจิตสำนึก  มีความเกรงใจครับ

หัวข้อ: Re: วินัยการขับรถของไทย vs ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: Sakutaro ที่ พฤษภาคม 18, 2020, 08:30:52
เริ่มจากเราครับ :)
ผมเบื่อจนข้ามจุดนั้นมาแล้ว ถ้ารุ่นเราๆยังไม่ดี ไม่ต้องลุ้นลูกหลานจะเป็นไง 8)
หัวข้อ: Re: วินัยการขับรถของไทย vs ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: Aleister TJ ที่ พฤษภาคม 18, 2020, 08:59:40
กฏหมายบ้านเขาโหดกว่าเราเยอะ​ มาบ้านเราแค่นี้นิดๆหน่อยๆไม่เป็นไร​ คนอื่นเขายังทำกัน​ จนกลายเป็นสันดานไงครับ​ ถ้าบ้านเราจับจริง, ปรับจริงแบบโหดๆเหมือนบ้านเขา​ จอดเส้นแดงเหรอ.. ยกรถไปเลย​ ปรับสัก​ 4-5​ หมื่น​ รับรองได้เลยว่าพวกเฮียๆมึนๆ​จะน้อยลงไปเยอะ
หัวข้อ: Re: วินัยการขับรถของไทย vs ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ พฤษภาคม 18, 2020, 09:00:45
ผ่าไฟแดงกันทุกแยก แค่นี้ก็ไม่ไหวแล้วครับ แต่ที่ไม่ชอบจริงๆ ก็พวกสวนเลนนี่แหละครับ

ตำรวจก็อ้างว่าเยอะ จับไม่หมดหรอก จริงๆ อยากจะสวนไปว่า ถ้าจับปรับกันจริงจัง มันก็ลดลงไปเองแหละ
หัวข้อ: Re: วินัยการขับรถของไทย vs ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: ขนุนน้อย ที่ พฤษภาคม 18, 2020, 09:13:13
เคยขับรถมอเตอร์ไซค์+จักรยานที่ Auckland, NZ อยู่ 6 เดือนครับ

เรื่องอื่นๆ หลายๆ ท่านที่เคยไปต่างประเทศมา ที่นี่ก็เหมือนกันครับ แต่ผมอาจจะเจอพวกจอดไม่เป็นที่เป็นทางเยอะหน่อย เช่น เจอคนไปจอดทับป้ายรถเมล์ คนขับตะโกนว่า อีกฝั่งก็ด่ากลับแถมแจกกล้วยเข้าไปอีก 5555 แต่โชคดีว่าไม่มีการลงมาต่อยตีอะไร ที่นี่ road rage เกิดน้อยมากครับ

เคสจอดผิดที่ ที่นี่ยกสถานเดียวครับ ค่ายก+ค่าปรับแพงด้วย ...ตู้จอดรถหยอดเหรียญ เดี๋ยวนี้ก็รับบัตร EFTPOS ได้เกือบหมดแล้ว จอดเกินเวลา เบาหน่อยก็ค่าปรับ หนักหน่อยก็ยกรถไปเลย

Speed ในเมืองที่ 50 KM/H ผมว่าเหมาะสมสำหรับการขับและการเบรคในเมืองครับ ถ้าไม่เหม่อจัดๆ ยังไงก็ไม่ชน การควบคุมความเร็วชัดเจน ถึงเราเป็นนักท่องเที่ยวก็ปรับหนักครับ ส่วน Citizen กับ PR ก็ขึ้นศาลจราจรไป

มารยาทการขับ บางอย่างผมยังเอามาใช้ที่ไทย เช่น มีคนให้ทาง ก็ยกมือ หรือ กดไฟฝ่าหมากให้กระพริบซัก 1 ที ให้อีกฝ่ายเห็นคำขอบคุณจากเรา

ต่างประเทศ คนสำคัญกว่ารถครับ เจอคนต้องหยุด
ส่วนเมืองไทย รถสำคัญกว่าคน เอาง่ายๆ คนเดินถนนเวลารถหยุดให้ บางคนยกมือไหว้ขอบคุณด้วยซ้ำ (คำพูดนี้มาจากนักวิชาการไทยท่านหนึ่ง ผมไม่แน่ใจว่าคือ อ.นิธิ เอี่ยวศรีวงศ์ หรือเปล่า ได้อ่านครั้งแรกเมื่อนานมาแล้ว)
หัวข้อ: Re: วินัยการขับรถของไทย vs ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: Devil13 ที่ พฤษภาคม 18, 2020, 09:21:44
อันนี้มีเจอประจำ ถนนเอเชีย 3 เลน

นึกจะเลี้ยวเบรคแล้วเลี้ยวเลย ไฟเลี้ยวไม่เปิด กดเบรดแล้วค่อยๆเลี้ยวสวยๆ ตีวงไป 2เลน ทำเหมือนขับ 6ล้อ

นึกจะเข้าปั๊มอยุ่ขวาสุด ปาดมาซ้ายทันทีแล้วหักดิบๆ หลังว่างๆเป็นกิโลไม่เข้า จะต้องปาดหน้า

ช่วงขึ้นสะพาน รถเยอะๆ
จะมีแถวพิเศษ 2-3-4 มาปาดเพียบ มาทีหลังได้ไปก่อน

พวกรีบ รถก็เยอะ เห็นๆอยู่ มุดประหนึ่งว่าพ่อเสียต้องรีบไปเผา
เบียด จี้ ปี้ ปาด รูดไหล่ทาง 140+

ตปท. ไม่เคยขับเอง
เคยไปแต่ญี่ปุ่นกับจีน ก็ไม่เจออะไรแย่ๆนะ (ส่วนใหญ่ดูวิว ไม่ค่อยสนใจ)
หัวข้อ: Re: วินัยการขับรถของไทย vs ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: polwath ที่ พฤษภาคม 18, 2020, 10:32:41
จริง ๆ บ้านเราควรใช้กฎหมายโหดตั้งนานแล้ว แต่ทั้งผู้บังคับใช้กฎหมายและผู้ขับขี่แย่ทั้งคู่ แถมมีข้ออ้างสารพัดอีก พอจจะออกกฎหมายก็โดนต้านอีก

ถ้าจะให้เกิดการบังคับแบบจริงจัง ต้องผลักดันกฎหมายโดยไม่สนเสียงต่อต้าน และต้องปฏิบัติจริง จับจริงด้วย ไม่ใช่ทำแค่เอาหน้าไม่กี่วัน กลับมาอีหรอบเดิม
หัวข้อ: Re: วินัยการขับรถของไทย vs ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: POKKHET ที่ พฤษภาคม 18, 2020, 11:00:28
ต้องปลูกจิตสำนึกตั้งแต่เด็กครับเรื่องพวกนี้
แต่อย่างว่าแหล่ะ คนไทยรักสบาย
เรื่องผิดเป็นถูก ถูกเป็นผิดไปหมด
ผมไม่ยอมจอดตีไฟเลี้ยวซ้อนคันเพื่อให้เพื่อนลง เพราะมีรถคันหลังตามมา
ผมโดนว่าไม่มีน้ำใจ นี่ไงไทย(บางส่วน หรือออาจจะเป็นส่วนใหญ่)
ตำรวจจังหวัดผม ตั้งด่านเต็มเมือง ตรวจหมวกกันน็อค ใบขับขี่
แต่พวกจอดขาวแดง ซ้อนคัน สวนเลน เต็มหมด ไม่เห็นทำไร
หัวข้อ: Re: วินัยการขับรถของไทย vs ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: joufo ที่ พฤษภาคม 18, 2020, 11:05:00
ผมใช้ชีวิตอยู่ญี่ปุ่นมาหลายปี ที่บริษัทให้รถประจำตำแหน่งมาใช้ 1 คัน เพราะที่โรงงานไม่มีรถสาธารณะผ่านเลย เวลาเดินทางจากออฟฟิส ไป โรงงานต้องขับรถไปครับ

แต่กว่าจะได้ขับจริงๆ ต้องรอไปอีกเดือนกว่า เพราะต้องไปทำใบขับขี่ก่อน ใช้ใบขับขี่สากลไม่ได้
โรงเรียนเขาก็ไม่สนนะครับว่า ขับเป็นมาแล้วหรือเปล่า สอนใหม่หมดตั้งแต่เริ่ม พื้นฐานความรู้ของทุกคนก็จะเหมือนกันหมด

โรงเรียนสอนขับรถเมืองไทยเหรอครับ ขับเป็น ทำข้อสอบได้ ก็ไม่สนแล้ว
ไปนั่งโง่รอลงเวลาหลอกระบบของขนส่งแค่นั้น


ผมกลับมาเมืองไทยใหม่ๆ ไม่กล้าขับรถไปเป็นเดือนเหมือนกัน
แม้แต่เดินข้ามถนน ก็ยังกล้าๆ กลัวๆ

ผมว่า คนขับรถบนถนนเมืองไทยกลัวเสียเปรียบคนอื่น กลัวคนอื่นไปได้เร็วกว่า
ต้องขับชิดคันหน้ามากๆ เพราะกลัวคันอื่นจะมาแทรก
ไม่อยากให้ทางคันอื่น เพราะเดี๋ยวจะมาพวกมั่วนิ่มมาแถม

รถติดก็ไม่แคร์ กรูลงไหล่ทางเลย จะมาโง่นั่งติดเหมือนพวกเอ็งทำไม
รูดไหล่ทางไปก่อน เดี๋ยวค่อยไปปาดเอาข้างหน้า
พอคนอื่นเห็น ก็เอาบ้าง เอ็งไปได้ ข้าก็ไปได้หละวะ

กฏหมายมีก็เหมือนไม่มี ใบสั่งก็ไม่ต้องไปจ่ายก็ได้
คนทำผิดกฏหมาย โดนจับก็สารพัดข้ออ้าง ไม่เคยยอมรับผิด เถียงจนตำรวจเอือมระอา


ถามว่าญี่ปุ่นมีขับรถกากๆ ไหม
ตอบว่า มีครับ เจอบนถนนได้ทุกวัน แต่ถ้าผิดกฏหมายปุ๊บ เช่น รูดไหล่ทาง ตำรวจก็มาปั๊บ
หรืออยู่ดีๆ ก็กลับรถบนถนนที่ไม่มีเกาะกลางถนน ก็โดนเหมือนกัน
จอดในที่ห้ามจอดก็มี แต่ก็จอดได้ไม่นาน ก็จะโดนยกไปโรงพักครับ

ผมเองก็เคยเจอคนทะเลาะบนถนนด้วยเรื่องเพียงแค่ไม่ยอมให้ทางกัน
พี่ก็จอดด่ากันบนถนนเลย คนอื่นเขาต้องมาเดือนร้อนด้วยก็ไม่สน
แต่สักพัก ตำรวจก็มาเคลียโดยให้เอารถจอดชิดข้างทาง แล้วปล่อยให้ด่ากันต่อ
(ท้าให้ลงไม้ลงมือก่อน จะได้โดนตำรวจจับ)
หัวข้อ: Re: วินัยการขับรถของไทย vs ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: +@ Krishna @+ ที่ พฤษภาคม 18, 2020, 11:45:13
ต่างประเทศ วินัยดีกว่าเราก็มี แย่กว่าเราก็มีนะครับ
ฝรั่งเศษแถววงเวียนประตูชัย ก็ขับคือกันกับวงเวียนใหญ่บ้านเรา  :P
หัวข้อ: Re: วินัยการขับรถของไทย vs ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: ภูมิใจไหม? ที่ พฤษภาคม 18, 2020, 12:40:59
มอไซคือพาหนะคันแรกของทุกคน

ซอกแซกไปได้ตลอด ไม่ต้องใส่ใจกฏ ฉวยโอกาสทุกอย่างที่ทำได้

พอเปลี่ยนจากมอไซเป็นรถยนต์ สันดานเดิมไม่เปลี่ยนตาม
หัวข้อ: Re: วินัยการขับรถของไทย vs ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: rtong ที่ พฤษภาคม 18, 2020, 13:08:09
ผมมองว่า
1.ใบขับขี่ได้มาง่ายเกินไป   ( เป็นแบบนี้มานาน )
-สอบง่าย
-สอบไม่ผ่านก็ใต้โต๊ะ
-ไม่ต้องสอบ  จ่ายอย่างเดียว
2.ผู้บังคับใช้กฏหมาย  ไม่เข็มงวดจริงจังทุกคน
-ทำไม่เต็มที่
-คนรู้จักปล่อยผ่าน  อนุโลม
-ทุจริต
3.เมื่อเกิดเหตุร้ายแรง  ไม่มีการยกเลิกใบขับขี่
-กรณีทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต  โดยการประมาท

ขับรถได้  ขับรถดี  ขับรถเป็น   ความหมายต่างกันครับ
หัวข้อ: Re: วินัยการขับรถของไทย vs ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: pladaek ที่ พฤษภาคม 18, 2020, 16:07:49
ถ้าจะใช้คำว่าต่างประเทศ ประเทศแบบไหนครับ
ต่างประเทศที่ขับห่วยแตก ไร้ระเบียบกว่าเมืองไทยก็เยอะ
ต่างประเทศที่ขับดี มีมารยาทกว่าเมืองไทยก็เพียบ

ต่างประเทศที่ขับแย่กว่าเราๆส่วนมากที่เห็นก็ประเทศด้อยพัฒนา ประเทศกำลังพัฒนา
แล้วประเทศเราอยู่ในกลุ่มไหนครับ?

ผมมองว่าการจะเปรียบเทียบกับประเทศอื่น
ถ้าไปเปรียบประเทศที่พัฒนาแล้วมันก็ดูเหมือนเราจะแย่..

หัวข้อ: Re: วินัยการขับรถของไทย vs ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: TheAxl ที่ พฤษภาคม 19, 2020, 11:04:42
การเคารพสิทธิของผู้อื่น เป็นสำนึกขั้นพิ้นฐานจากสถานบันครอบครัวที่ต้องปลูกฝังตั้งแต่เด็กครับ เหมื่อน ญี่ปุ่น ถ้าเราไม่ละเมิดสิทธิคนอื่น จะไม่มีปัญหาอะไรพวกนี้เลย ลองๆดูสิครับบ้านเมืองเรามีคลิปออกมาทุกวันๆ เกิดจากเรื่องเดียวคือคนที่ไม่เคารพสิทธิของคนในสังคม ไม่เคารพกติการสังคม ไม่เารพกติกาบ้านเมือง บนท้องถนนก็ดังที่เห็น มาที่บ้านก็จอดรถล้ำหน้าบ้านกัน ทะเลาะกันเอาเป็นเอาตาย ไปห้างก็ยืนจองที่จอดรถ

ยิ่งได้ไปเจอประเทศที่เขาพัฒนาแล้วพอกลับมาบ้านเรา สัดส่วนของความไร้ซึ้งสำนึก กับ มีสำนึกมันต่างกันมากจริงๆครับ ซึ่งเรื่องพวกนี้มันชี้วัดถึงคุณภาพชีวิตเราได้ด้วย อย่างน้อยก็เรื่องความปลอดภัยครับ  สู้ๆต่อไปครับ
หัวข้อ: Re: วินัยการขับรถของไทย vs ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: Ruksadindan ที่ พฤษภาคม 21, 2020, 18:43:18
เห็นพูดกันมาหลายครั้งคราเป็นระยะๆ ขอบอกว่า:

I've become used to it.
Not that I'll ever get to like it.