Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Red Bicycle ที่ พฤษภาคม 19, 2020, 09:59:03
-
:) :) หลายท่านคงมีที่ชอบรถยุโรป เคยตั้งความหวัง
ว่าอยากจะมีโอกาสเป็นเจ้าของให้ได้ซักคัน
ตั้งแต่เริ่มทำงาน แต่ด้วยเหตุใดก็ตาม
จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ได้ออกซักคัน
แต่ก็ยังชอบดูคอยติดตามรถยุโรปที่ออกรุ่นใหม่ๆ
มาตลอด
:) :) ถ้าผ่านมาจนอายุขึ้น เลข5 แล้ว
การเงินไม่มีปัญหาที่จะซื้อรถยุโรปป้ายแดง
เงินสดได้สบายๆ
:) ท่านยังจะซื้ออยู่ไหมครับ
Passion ยังเหมือนเดิมอยู่ไหม 555
-
เคยคิดจะซื้อมาตลอดครับ
ตอนแรกเล็งมือ2
หลังๆเห็น 320D ประกอบไทย ใจอยากได้มือ 1 ซึ่งเอาจริงๆก็ซื้อได้แต่ออกรถ7ที่นั่งเพราะตอบโจทย์การใช้งานครอบครัว
ตอนนี้ลูกเริ่มโต เปลี่ยนใจแล้วครับ
เก็บเงินไว้กินตอนแก่ดีกว่า ไม่อยากเหนื่อยทำงานอีกแล้ว (ผมรายได้ไม่เยอะมาก)
อายุผมไกล้ๆเลข 4 ครับ
ผมว่ารถยุโรปซื้อผ่อนก็ได้นะ ถ้ารายได้ถึงไม่ใช่ปัญหาอยู่แล้ว หมอที่รู้จักเปิดคลิกนิค(เฉพาะ ส-อ)ได้วันละ 1.5-2 แสน ก็ขับซีรีย์5 แบบผ่อนครับ
-
ยุโรปซื้อแต่มือสองใช้ อายุมากเปลี่ยนมองแนวsuv แทนแล้ว
-
ส่วนตัวมองว่า ถ้าเงินไม่ใช่ปัญหา ก็น่าลองนะครับ ได้ทำอะไรไรให้ตัวเองมีความสุขบ้างไรบ้างครับ
ผมอายุใกล้เลข 4 ชอบค่ายยุโรปหลายตัวเลย
ทุกวันนี้ ดูรถยุโรปมือสองบ่อยๆ แฟนก็ถามว่าจะดูไปทำไม ก็แหม ไม่ได้ซื้อขอแค่ดูก็ยังดี
-
ขึ้นเลขสี่ เริ่มมอง "รถที่ฝัน" น้อยลงแบบรู้สึกได้เลยครับ
"รถที่ฝัน" ในอดีตหลายคันแม้จะมีเงินซื้อมีเงินซ่อม วันนี้เริ่มทำใจแล้วว่าอาจจะได้ใช้แล้วในชีวิตนี้ เพราะไม่มี "ที่ว่าง" สำหรับมันแล้ว (เช่น E39 530 E46 330 156 Altezza Aristo)
"รถในฝัน" ในปัจจุบัน ก็เริ่มรู้สึกว่าไม่รู้จะเอาไปใช้ตอนไหน เลยเริ่มกร่อยๆไปบ้าง
-
ถ้าการเงินไม่มีปัญหา จัดเลยครับ ขนาดคุณพ่อผม อายุ 65 ยังอยากได้อยู่เลยครับ
เหมือนเติมเต็มความฝันวัยเด็ก ;D
-
เด็กๆ อยากได้มาก แล้วความอยากได้ มันก็ค่อยๆหายลงไปเรื่อยๆ
คิดเอาไว้ว่า ถ้าจะต้องเปลี่ยนรถแทน CRV คันนี้ คันต่อไป ก็ต้องเป็นยุโรป หรือไม่ก็ ญี่ปุ่นพวก subaru outback หรือ Forester XT เท่านั้น ไม่งั้นก็ไม่เปลี่ยน แต่ก็ตั้งไว้ว่า ต้องมีก่อนอายุ 50 ปีนะ (แต่ก่อนจะมีรถพวกนั้น ก็ตั้งเป้าก่อนหน้านี้ว่า pulsar ต้องผ่อนหมด / บ้านต้องเคลียร์หมดก่อน ถึงจะฟุ่มเฟือยได้)
เพราะพอ 50 แล้ว ผมเหลือเวลาทำงานอีกแค่ 5 ปีเอง ก็จะเกษียณแล้ว เดี๋ยวไม่มีปัญญาดูแล เพราะตั้งใจว่า หลังเกษียณแล้ว อยากนั่งๆนอนๆ ปลูกต้นไม้ ทำสวนเบาๆ แล้วก็ขับรถเที่ยว ไม่อยากทำงานอีกแล้ว (ปล. จริงๆตอนนี้ ก็เริ่มหันมาดูกระบะ 4WD เผื่อจะเอาไป ทำไร่ ทำสวนละ เผื่อหาซื้อที่ ตาม ตจว ไกลๆลึกๆ)
-
:)ขอแจมนะครับ แม้จะ3ต้นๆ ผ่านเรื่องราวที่ต้องใช้อารมณ์มาเยอะ ตอนนี้สุขุมขึ้นมาก 8)
วนมาเรื่อง รถเนื่องจากเป็นคนชอบสมรรถนะ ปัจจุบันเบื่องานประจำที่ทำอยู่มาก ขานึงจึงลงไปสู่ธุรกิจที่ผลตอบแทนดีกว่า แต่ยังก้าวไม่ถึงจุดที่ว่าซื้อแล้วไม่เดือดร้อน เลยผลัดความพอใจไปไว้อนาคตแทน เงื่อนไขว่าชีวิตไม่เดือนร้อน ตอบแทนบุพการีได้ ผมซื้อแน่นอนไม่ลังเลครับพี่ :)
-
เบื่อซ่อมแล้วครับ
-
ซื้อครับ อาจจะเป็นแบบ 5 ปีเปลี่ยนที เพราะบั้นปลาย นอกจากเงินเก็บแล้ว ส่วนที่เหลือใช้ตามใจ กับอายุที่เหลือ คงเปลี่ยนได้เต็มที่แค่สองครั้ง เพราะถ้าตัวเอง เจ็บสิบ คงเลิกขับรถแน่นอน
-
ความอยากมันเปลี่ยนตามอายุ และเงินในกระเป๋าครับ
มันไม่มีหมดแน่ๆ พร้อมก้อจัดไปครับ
-
ของผมตอนนี้ 40 ต้น มียุโรปคันที่ 2 แล้ว แต่ก็ยังดูรถสวยๆหล่อๆ บนถนน อยากครอบครองเป็นเจ้าของอยู่ไม่จบ
แต่ไอ้ที่หายไปจากความคิดตอนนี้เลยคือ " เลิกแต่ง " ครับ ไม่ว่าจะเปลี่ยนชิ้นเล็กชิ้นน้อยก็ไม่เอาแล้ว
-
ญาติผมอายุ 75 ข้าราชการบำนาน ไม่มีภาระใดๆ จะเปลี่ยน camry เป็น e class สักครั้งในชีวิต ปรากฎว่าผมเล่า service ค่าซ่อมของรถผมให้แกฟัง แกเปลี่ยนใจไปเอาแคมรี่ใหม่แทน โดยให้เหตุผลว่าเหลือดีกว่าขาดเพราะแกอายุเยอะแล้ว ถ้าขาดมันจะเดือดร้อน ผมยังไม่ใกล้เลข 5 แต่ก็สัมผัสได้ว่า 10 ปีที่ผ่านมา passion เรื่องรถมันลดลงเยอั อาจจะเพราะรายได้มันไม่ได้เหลือขนาดซื้อรถทิ้งๆ ขว้างๆ ได้ สำหรับผมยิ่งโตเหตุผลซื้อรถยิ่งมากขึ้น ::)
-
แต่ก่อนวัยรุ่นอยากซื้อรถยุโรป เลยซื้อมือ 2 มาใช้
แต่เจ็บหนักเลย (ซ่อมห้างของยนตกิจ :P)
ตอนนี้เริ่มเฉย ๆ กับรถยุโรป แต่หากมีเงินเหลือมาก ๆ ก็จะซื้อมือ 1 ครับ ( suv )
ภาษีบ้านเราแพงมาก รู้สึกไม่คุ้มกับเงินที่เสียไป
ปัจจุบัน ต้องการแค่รถที่ดูแลง่ายไม่เรื่องเยอะ สะอาดเงางาม ถึงที่หมายปลอดภัย
ผมไม่มีครอบครัว วางแผนเก็บเงินไว้เที่ยว+ใช้สบาย ๆ ในปั้นปลายยาว ๆ ครับผม 8)
-
ตอนหนุ่มๆอายุ 30 ได้ใช้ E36 มือสองไปแล้วครับ ซิ่ง-ซ่อม-วิ่งหาอะไหล่ ตอนนั้นรู้สึกสนุก มีความสุขที่ได้ขับ แต่ด้วยความจำเป็นก็ปล่อยไป มาใช้รถญี่ปุ่นป้ายแดงยี่ห้อนึง แล้วก็เปลี่ยนมาเป็นอีกยี่ห้อนึง ซึ่งไม่เคยชอบมาก่อนเลย เพราะรู้สึกไม่ชอบการออกแบบ แต่ปรากฎว่า พอได้ใช้ สัมผัสเลยว่ามันทนทาน ประสิทธิภาพการขับขี่อยู่ในระดับที่ดี แล้วพอขายไปมาซื้อรถมือสองที่คลาสสูงขึ้น (MPV) รู้เลยว่า มันแพงเพราะมันดี และมือสองมันก็ใช้ดีในราคาที่ถูกลงจริงๆ (ถ้าเลือกรถเป็น)
คันต่อไปคงใช้แต่ยี่ห้อนี้ที่คลาสสูงขึ้นครับ ยุโรปคงไม่เอาแล้ว แต่จะป้ายแดงหรือมือสองขึ้นกับงบตอนนั้นครับ ;)
-
ถ้าพร้อมก็เอาเลยครับ จะได้ลอง อายุ50 60 70 ก็ยังไม่สาย
สำหรับผมเรียนรู้ว่า รถยุโรปไม่ได้วิเศษวิโสอะไรสักนิด ฝรั่งปั้นมาให้มันดีกว่ารถยี่ปุ่น เกาหลีนิดหน่อย และแค่นั้น
-
เบื่อซ่อมแล้วครับ
ถ้าเบื่อซ่อม แนะนำให้เปลี่ยนใหม่เรื่อยๆครับ
.
.
.
.
.
.
.
.
555+ ล้อเล่นนะครับ
-
อารมณ์ไม่เคยอยู่เหนือเหตุผล สำหรับเรื่องรถครับ
เพราะรถญี่ปุ่น ปัจจุบันดีจนเหลือพอที่จะขับใช้งานตามปกติ ในแง่ความคุ้มค่าก็ทำได้ดี
และ ในเงินก้อนเดียวกัน สามารถเปลี่ยนเป็นรถญีปุ่นได้ 3 คัน ในการใช้งานหลายๆรูปแบบ ซึ่งผมพอใจและสนุกกับรถ 3 คัน มากกว่ามีใช้คันเดียวครับ
ส่วนอยากขับรถยุโรป ก็สามารถเช่าขับได้ เลือกรุ่นได้มากมายในยุโรป อยากขับแบบไหนมีให้หมด แถมถนนที่ให้วิ่งได้เต็มที่ที่รถวิ่งได้ ไม่ต้องลงทุนซื้อขับเอง แถมเปลี่ยนรุ่นรถได้เรื่อยๆตามต้องการ
เคยนึก 2-3 ครั้งว่าอยากขับไหม แต่ก็เพียงแว๊บเดียว เพราะมันไม่สามารถหักล้างเหตุผลข้างบนได้เลย
-
คุยกับคุณพ่อ (ห้าสิบต้นๆ) คุณพ่อบอกว่าถ้า 45 ยังไม่ได้ซื้อ คงไม่ซื้ออีกแล้วค่ะ เพราะต้องเริ่มคิดเรื่องเกษียณมากกว่า
ตอนนี้ที่บ้านมีอยู่สองคัน เคยคิดจะเปลี่ยนใหม่มาหลายรอบ แต่ถ้าดูจากอายุคุณพ่อคุณแม่แล้ว คิดว่ารถญี่ปุ่น น่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะกว่าค่ะ ^^
-
เมื่อก่อนที่อยากได้เพราะ option อำนวยความสะดวก safety หลายๆอย่างมันมีแต่ในรถยุโรป
ตอนนี้ได้รถจีนรุ่นนึงมาขับ option safety ครบ วิ่งเองหยุดเอง เลี้ยวเอง ไฟสูงต่ำเอง ฯลฯ ได้ลองหมดแล้ว ขับมา 7 เดือนละ เลิกเห่อแล้วครับ
-
เคยซื้อ X3 ป้ายแดงเงินสดครับ ขับได้ปีกว่าขายไปออก Accord ป้ายแดงเหมือนกัน
แต่ล่าสุดก็ขายให้หลานสาวไปอีก เดี๋ยวจะกลับไปยุโรปอีกรอบ แต่กำลังเลือกว่าไปตัวไหนดี
ความเห็นส่วนตัวผมยังไงก็ยังชอบขับยุโรปอยู่ดี(ผมชอบกลิ่นภายในของหนังครับ)
-
ความคาดหวังของแต่ละคนไม่เหมือนกันกับรถยุโรป เช่น ความปลอดภัย (passive/active) ฟิลลิ่งการใช้งาน ภาพลักษณ์ ความสะดวกสบาย ประสิทธิภาพ ฯลฯ สำหรับครอบครัวผมผมก็จัดไปแล้วเพราะเน้นความปลอดภัยเป็นหลัก แต่ถ้าเอาเพื่อตัวเองจริงๆผมไม่เอา...อาจจะเพราะมองแง่เศรษฐกิจที่ไม่ได้มีเหลือเฟือด้วยครับ.
-
ถ้าคนหรือเจ้าของรถอายุเยอะ
แล้วยังจะเอายุโรปนะ
ผมว่าเป็นเรื่องดี ที่ต้องเน้น ป้ายแดง สถานเดียวเลย อย่างน้อยก็มี warranty 3-5 ปี ไว้ อุ่นใจในระดับนึง เพราะอายุประมาณนี้ คงไม่อยากจุกจิกอะไรมาก เรียกว่าเน้นใช้งานก็ได้
เพราะจะเล่นมือสอง บางทีต้องหาอู่ หาอะไหล่ หรือ สังคมรถคันนั้นๆ อยู่บ้าง เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ปัญหา และ วิธีแก้ไขเบื้องต้น ไว้บ้าง
แต่ถ้าเงินไม่ใช่ปัญหา จะเล่นมือสอง แล้วเข้าศูนย์ 100% เลย ก็ไม่ว่ากัน เล่นได้ครับ
-
ซื้อสิครับ!!! ตราบใดที่ยังชอบและยังอยากได้อยู่
ในเมื่อเงินก็ไม่ใช่ปัญหา หรือต้องรอให้ 60 70 ก่อนครับ(แซวๆนะครับ ::))
เมื่อไรที่เงินซื้อความสุขได้ ไม่เดือดร้อนใคร จัดไปเถอะครับ ยังไงก็มีความแตกต่างกันทั้งญี่ปุ่นและยุโรป ลองดูครับ
-
ยุโรปซื้อแต่มือสองใช้ อายุมากเปลี่ยนมองแนวsuv แทนแล้ว
เหมือนกันเลย แต่กลับเป็นว่าดีคือราคาที่ตกมามากเหลือแค่ 25-30 เปอร์เซ็นด์ แถมได้เห็นว่ารุ่นไหนทนหรือปัญหาเยอะไหมแค่อาจไม่ใช่รุ่นปัจุบันเท่านั้น ตอนนี้ยังใช้ w203 เต็มที่็อาจจะใช้อีกครั้ง น่าจะเป็น w212-3
โดยตอนนี้มี mpv พี่ โตInnova crysta ที่ทนๆดูแลง่ายเลยไม่กังวลมากหากมีปัญหา
-
ผมโชคดีที่ตอน 20-25 ทางบ้านให้ใช้แต่ยุโรปมือสองมาตลอด พอทำงานแล้วก็รุ้สึกเฉยๆกับยุโรปไป แถมเอียงไม่ทางไม่อยากใช้ด้วย ถ้ารถยุโรปนั้นอายุเกิน 5 ปี ไมล์เกินแสนไป เพราะทุกคันที่ผ่านมา ผ่านจุดนั้นมาเสียเวลาหาอู่ ตีซี้อู่ ขับไกลๆไปซ่อมรถ ซึ่งย้อนกลับไปได้ ผมอยากได้เวลานั้นกลับคืนมาแล้วใช้แค่ญี่ปุ่น แต่มีเวลาพาแฟนไปดูหนังกินข้าวมากกว่าครับ
สรุปคือถ้าซื้อป้ายแดง แล้วรับได้ว่า 5-7 ปีก็เริ่มจุกจิก และเงินไม่ใช่ปัญหา ก็ซื้อเลยครับ แต่สำหรับผมตอนนี้ผมความคุ้มค่า และความชัวร์ เลยไม่มีความอยากได้ยุโรปเลย
-
ถ้าเงินไม่ใช่ปัญหา ซื้อแน่นอนครับ
-
Passion ยังมี เงินสดถึง อย่างไรก็ต้องซื้อครับ .. ครั้งนึงในชีวิต
-
ที่บ้านเล่นตอนหลังเกษียณ opel vectra b
รถถูกเป็นขี้ ขับดี เร็วปลาย หนักแน่น แต่ต้องแลกด้วยค่าอะไหล่ที่เอาเรื่องเพราะหายาก แถมต้องไล่เปลี่ยนแทบทุกชิ้นด้วยอายุรถที่มากแล้ว
ถ้าไม่ติดว่ามีรถคันใหม่เข้า ที่บ้านคงจะไม่ขายทิ้งเป็นอันขาด
-
คนที่รู้จักบางคนเค้าเกษียณก็พอมีเวลาศึกษา ซ่อม หาอะไหล่ คุยกับอู่ ก็เห็นมีความสุขดีครับ ชอบมาโม้ให้ฟังบ่อยๆ ว่าซ่อมถูก หรือบางอย่างเสียก็ให้ช่างดัดแปลงแก้ไขเอา แบบไม่ต้องเข้า 0 ผมฟังแกก็เออซ่อมถูกจริงๆ ถูกกว่าผมเอารถญี่ปุ่นซ่อมอู่แถวบ้านอีก เคสนี้รถตราดาวนะครับ
-
ถ้าเงินถึงผมซื้อนะครับ ความเห็นส่วนตัวผมนะ ชีวิตคนเรามันโคตรสั้นเลยวัยรุ่นก็ผ่านไปแล้ว มีเงินก็ตอบสนองความสุขให้ตัวเองนี่แหละ เดี๋ยวแก่ไปก็ไม่ไหวละนั่งๆนอนๆอยู่บ้าน มาเสียดายชีวิตตอนมีแรง ไม่ยอมใช้เงินกลัวเงินไม่มี ผมขอมีชีวิตแบบมีความสุขดีกว่าวันๆทำแต่งานหาเงินเยอะๆแล้วไม่มีเวลาอ่ะครับ
-
ถ้าโสดคงซื้อแบบไม่คิดมาก แต่ตอนนี้รอส่งลูกถึงฝั่งก่อนค่อนซื้อครับ
-
ใครชอบรถยนต์ละต้องชอบมองรถยุโรปไว้บ้างอยู่แล้ว
ผมเองเคยใช้ e36 318 โดยได้มาแบบบังเอิญ จากคนรู้จักมีรถหลายคัน จนต้องขาย daewoo espero รถเกาหลีไส้ใน opel
โชคดีที่ e36 ผมไม่เคยเกเร ใช้ตั้งแต่เดิมๆ ใส่ล้อ acIII ปริงค์เดิม เอาไปโหลดโช๊คบิวเหลือง+H&R ปลายท่อ ก็สนุกที่ได้แต่งรถ
พอจะมีครอบครัว เลยได้ขายตามอายุรถ และใช้รถญี่ปุ่นละครับ เคยขับ volvo peugeot opel ที่บ้านอยู่
e46 330 ราคาลงมามาก e90 e39 f10 แต่ไม่กล้าครับ ถ้าเงินเหลือๆ ก็อยากเอามาขับอีกซักครั้งอยู่เหมือนกันครับ
-
ที่บ้านเค้าไม่มีความคิดนี้เลยครับตั้งแต่มีรถ SUV มะกันใช้มายาวๆ แต่พอวันนึงได้ลองเค้าชอบนะความประหยัดน้ำมันของรถยุโรป
ถ้าได้มาโปรดีๆคงเอานะแต่ดูไปในทางไม่ซื้อมากกว่า ตอนนี้เค้าไปดู ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ด้วยซ้ำ
-
ผมอายุยังไม่มาก เรียนจบทำงานได้ไม่กี่ปี ไม่มีเงินถุงเงินถังจะไปซื้อยุโรปป้ายแดงแบบคนอื่น แต่ด้วยใจชอบ BMW ตั้งแต่เด็กแล้วพอมีโอกาสหาเงินด้วยตัวเองได้จึงลองตามใจตัวเองสักครั้งครับ รถ 9 ปีกว่า ไมล์ 110k km. เอามาลองเป็นยุโรปมือสองคันแรกดู แรกๆ หวั่นใจ แต่ไม่กลัวเพราะผมเองหาข้อมูลเป็น ดูแลรถเป็น สังเกตรถตลอด และเป็นคนละเอียด เรื่องรถผมไม่มีคำว่าประหยัดครับ วิ่งเก็บงานซ่อมนู่นซ่อมนี่ เบิกพาร์ทเปลี่ยนใหม่หมด เป็นรอยตรงไหนทำใหม่หมด รถต้องใช้ของดีสุด
ผมอายุยังไม่เยอะ ไม่มีภาระใดๆ แบ่งเก็บไว้อยู่แล้ว ผมขอทำตามความฝันก่อนเลยครับ ตอนนี้ยังมีไฟรีบทำฝันให้เป็นจริงก่อน แค่ได้มาครอบครองนั่งมองก็มีความสุขครับ ยังจำสภาพรถวันแรกที่ได้รถมาพร้อมกับปัญหานู่นนั่นนี่ จนกระทั่งวันนี้รถสมบูรณ์ สภาพเนี้ยบๆ เก็บงานครบเห็นแล้วมันชื่นใจจริงๆ ครับ ทำงานมาเหนื่อยแค่ได้ขับก็ภูมิใจทุกครั้งแม้จะเป็นมือสอง 9 ปี ตอนนี้จบทุกปัญหา ได้สมรรถนะแบบรถยุโรปในราคาอีโคคาร์
ผมว่ารถยุโรปนี่แหละเหมาะกับการซื้อมือสองมากๆ (ถ้าดูรถเป็น ไม่จมน้ำ ไม่ชนหนัก) เพราะราคามันหายไปจากมือหนึ่งเยอะ ถ้าผมซื้อมือ 1 ขายต่อคงใจหายน่าดู แต่ถ้าเงินไม่ใช่ปัญหาก็จัดเลยครับ ทำตามความฝันสักครั้งนึงในชีวิต ผมใช้คู่กับ CX-5 เผื่อวันนึงคันใดพังก็ยังมีรถสำรอง ;D ;D
-
ผมยังอีกนานกว่าจะถึงเลข 5 แต่ก็ขอแจมด้วย ง่ายๆ เลยครับ ถ้าซื้อแล้วยังเหลือกิน เหลือใช้ เหลือเก็บ ก็ซื้อ ถ้าซื้อแล้วขัดสน ก็ไม่ซื้อครับ แน่นอนว่าก่อนจะตัดสินใจก็ต้องคำนวนค่าใช้จ่ายทั้งหมดก่อน รวมถึง Forecast ราคาขายต่อด้วย
-
ถ้ามีเงิน ก็ซื้อสิครับ สักครั้งในชีวิต เรื่องซ่อมมันเป็นปกติของรถยุโรปอยู่แล้ว
-
ตอนนี้อายุ 40 กลางๆ สมัย 30 ต้นๆขับ E46 ฝันมาตลอดว่าอยากได้รถยุโรปป้ายแดง
รอบ 1 ไปลอง E90 ได้ Teana
รอบ 2 ไปดู X1 แฟนบอกใส่ของลูกได้น้อย เลยได้ Sienta
รอบ 3 มอเตอร์โชวจะไปดู 320d GT เดินผ่านบูธมิตซูได้กระบะ 4x4 มาเพิ่มอีกคันได้ไงไม่รู้
รอบ 4 เดือนนี้มาดู 330e แต่แฟนบอกชอบ Kick e ราคาดี น่าสนุก เข้ามาหาข้อมูลนี่ละครับ พรุ่งนี้ไปดาวน์
ถ้าใช้ความฝันแปลว่าสุดจะเอื้อมถึง รอให้มันสูงแค่เอวแล้วค่อยหยิบสบายๆก็ได้นะครับ
-
ถ้าหาเงินได้ก็ใช้ได้ครับ รอเก็บตังค์อีกนิดจะไปถอยPorscheป้ายแดงกับเค้าบ้างเหมือนกัน เพื่อนผมไปSuper Carกันแร้ว
-
รถที่หรูหราทั้งภายนอกภายใน ขนาดไซส์กลาง ๆ ค่อนไปทางใหญ่ ขับง่าย ขึ้นลงสะดวก ช่วงล่างสบาย เงียบ
นี่คือรถของผมตอนอายุ 50 - 60 ปี
ถ้าเลย 65 ผมก็จะไม่ซื้ออะไรแล้ว อยู่กับความสงบและธรรมชาติครับ
-
ตอนอายุน้อยก็อยากได้ พออายุแค่เลข4ก็ไม่เอาแล้ว ไม่มีเวลาดูแล ที่ขับอยู่ล้างเดือนละ1-2ครั้ง :'(
-
ตอนอายุน้อยก็อยากได้ พออายุแค่เลข4ก็ไม่เอาแล้ว ไม่มีเวลาดูแล ที่ขับอยู่ล้างเดือนละ1-2ครั้ง :'(
ถูกต้อง ตอนนี้ใช้ Kia carnival ทุกวัน ห้องโดยสารกว้างขวาง ดีเซลประหยัดกับช่วงล่างเฟิร์มดี รถยุโรปจอดตายอยู่บ้าน
-
แล้วแต่มอง
ยุโรปใหม่ป้ายแดง ยี่ห้อนิยม "ไว้ใจ" ได้น้อยลง
แต่ถ้า "มันเหลือ" จริงๆ ทั้งเงินและเวลา ก็เล่นได้
และจะเล่นได้แบบสบายใจด้วย
สำหรับผมโดยส่วนตัว ได้ "ลิ้มลอง" ยุโรปมาแล้ว จนรู้ซึ้งดีว่า "โก้-เจ็บ"
ปัจจุบัน รถ "Jap" ดีที่สุด แต่ก็มีบางอารมณ์ "คันๆ" อยากได้ "Euro" กับเขาเหมือนกัน
แต่พอมีอารมณ์แบบนี้ ก็จะแก้โดย หามอง นาฬิกาดีๆ ยี่ห้อยอดนิยมมา "ชดเชย" แทน
เพราะ นาฬิกาพวกนี้ ถ้าถือรุ่น "Sport" ไว้ มีโอกาสตกน้อย แถมมีโอกาสขึ้น เป็นวิธี "แก้คัน" ได้ดี
พอจอดรถแล้ว เข้าไปในห้างหรือที่อื่นๆ ก็ยังมี Luxury Watch ประดับข้อ
มันก็เป็นความรู้สึก "ที่ดีมาก" จริงๆ
แต่สำคัญ "ต้องแท้" เท่านั้น
-
ยุโรป เบนซ์ป้ายแดง เคยซื้อมาสองคันแล้ว ยังดี ไม่ได้มีปัญหาอะไรมากมาย เรียกว่า ทน ก็ว่าได้ ประทับใจนะ คันต่อไป ก็ต้องดูตามสถานะการเงินเป็นสำคัญ
-
มีตังค์ก็ซื้อครับ ด้วยหน้าที่การงานแล้วคนซื้อรถพวกนี้ก็คิดกลั่นกรองมาระดับเพราะไม่งั้นคงไม่มีรายได้มาซื้อได้
ส่วนตัวซื้อคันแรกตอนเลข 3 ต้นๆ ตอนนี้เข้าเลข 4 ก็มี 3 คันไปแล้ว
มีหลายสิ่งที่รถญี่ปุ่นบ้านๆยังให้ไม่ได้ ทั้งในด้านสมรรถนะและภาพลักษณ์
-
ผมดูตามสถานการณ์ตอนนั้นๆครับ ถ้าไม่มีปัญหาอะไร ก็คงซื้อครับ แต่ยอมรับว่า พอแก่ขึ้นเรื่อยๆ เรื่องภาพลักษณ์ต่างๆ ผมไม่สนใจเลย
-
ที่ซื้อรถยุโรป เพราะมันขับหลัง
เรื่องภาพลักษณ์เอาไว้ตอนขายของที่ต้องการสร้างความมั่นใจ ขายงานทีี่ต้องทำต่อเนื่อง เคยให้เซลขับกระบะไปขายหลายเจ้า ปิดงานไม่ได้ แพ้คู่แข่งขับแคมรี่ เปลี่ยนใหม่ให้C-Class จบได้้ก็มี ลูกค้าบางรายบอกซื้อเพราะดูน่าเชื่อถือกว่าอีกราย และก็มีที่ลูกค้าขับรถยุโรปเหมือนกัน แนะนำอู่ให้เขาคุยเเรื่องรถกันสนิทกัน กลายเป็นสนิทกันอีกหลายคน
และมันต้องทนด้วย ถ้ารุ่นใหม่ๆ ยังทำชุ่ยๆ ไม่ทนแบบนี้ จะเลิกซื้อแล้ว
ทีาผ่านมาใช้8แสนโลได้สบายๆ รุุ่นใหม่ไม่ถึงสองแสนโลพังเยอะเกิน
-
ก่อนอายุ 20 มีมากเลยครับ เงินก็ยังไม่ได้หาเอง แต่อยากได้ๆ
พอก่อน 30 ก็ยังพอมีความอยากได้ หาเงินเองแล้ว ก็เก็บเงินไว้เรื่อยๆ
พอตอนนี้ 30 กลางๆ กำลังจะมีตัวเล็ก เงินเก็บเอย แพลนเก็บเงินเพื่อเป้าหมายต่างๆเอย
ก็เปลี่ยนมาโฟกัสที่ตัวเล็กเกือบ 80% อายุมากขึ้น ภาระมากขึ้น คนที่ต้องดูแลมากขึ้น ความคิด มันเปลี่ยนจริงๆครับ
-
อายุขึ้นเลข 5 มานานแล้ว มาตอบว่าซื้อครับแต่ซื้อให้แฟนให้ลูกใช้ ตัวเองใช้รถญี่ปุ่น D segment ไปเรื่อยๆพอ
นี่กะว่าปีหน้าจะออก suv ญี่ปุ่นมาใช้เพราะว่ารถซีดานเวลาจะลุกลงรถชักจะลำบากข้อเข่าขึ้นทุกทีแล้ว อิอิ
พออายุ 60 กว่ารถคันสุดท้ายกะว่าจะเป็นรถเล็ก B-segment เลย แก่แล้วการกะระยะคงไม่แม่นเหมือนคนหนุ่ม
เอารถเล็กๆ ที่ขับง่าย จอดง่ายไว้ก่อนดีกว่า ....