Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: nuttaponckj ที่ พฤษภาคม 19, 2020, 22:13:23
-
AUDI HYBRID มีอะไรน่ากังวลมั้ยครับกับระบบ
เห็น A5 น่าสนใจมากครับแต่เป็น HYBRID เลยชะงักครับ
แต่ละท่านมีความเห็นอย่งไรบ้างครับ กับ HYBRID AUDI
-
อย่าสนใจชื่อ account ผมนะ ไม่ได้มาอวย
เท่าที่ผมตามอ่านมาในกลุ่ม ในคลับ รวมถึงฟังในวิทยุ
- Mild Hybrid จะว่าเป็น Hybrid เสียทีเลยมันก็ไม่ได้ครับ Mild Hybrid ถ้ามองง่ายๆมันแทบจะเป็นรถสันดาปปกติที่มีไฟฟ้ามาช่วยบางย่านความเร็ว ถ้าจะกังวลคงต้องกังวลรหัสอื่นอย่าง 55TFSIe แทนซึ่งเป็น PHEV ที่ยังไม่นำจำหน่าย
- รุ่นพี่อย่าง Q8 A7 A6 ทั้งรหัส 55 45 TFSI ใช้ ระบบ Mild Hybrid ทั้งหมด และ จากที่สิงตามกลุ่มเท่าที่ผมเห็นคือ ยังไม่มีงอแงเลยแม้แต่คันเดียว
- แม้ต่อให้มีการงอแง เชื่อว่าเค้าแก้จบแน่นอนสำหรับศูนย์บริการ,และทัศนะของผู้บริหาร ช่วงตีตลาดแบบนี้ หากรถลูกค้าที่ซื้อไปมีปัญหาแล้วแก้ไม่จบ ไม่เป็นผลดีแน่ๆ
-
Mild hybridเป็นระบบจุ๋มจิ๋มครับ ไม่ได้ใหญ่โตเหมือนรถไฮบริดทั่วๆไป อีกอย่างศูนย์Audi Thailandก็ถือว่าตั้งใจทำงานใช้ได้เพราะA8ผมก็แก้ปัญหาน้ำรั่วซึึมจบแต่ก็ต้องรื้อกันยกใหญ่ขนาดถอดกันชนหน้าเพื่อตรวจซีลหน้าเครื่องกันทีเดียว ผจก.ศูนย์เลียบด่วนก็มาจากAASและเป็นลูกชายเจ้าของอู่ซ่อมVolvo SAที่ศูนย์เพชรบุรีตัดใหม่ก็เป็นถึงวิศวกรรุ่นน้องผมเลยครับ ไม่ค่อยได้เจอว่ารับวิศวกรมาเป็นSA
-
ผมว่าไม่น่ากลัวนะแต่ถ้าเป็นผมๆซื้อ แล้วเอาไปรีแมพ วิ่งดีโคดๆแน่นอน ศูนย์บริการตอนนี้ก้ไม่น่าห่วง
อะไรครับ ตอนนี้ bmw & audi & volvo น่าใช้นะครับ สำหรับรถ eu
-
ผมคิดว่าไม่น่ากังวลนะครับ เพราะระบบนี้พวกค่ายรถต่างๆ มีการผลิตขายตามตลาดทั่วโลกแล้ว เพียงแต่ว่าในไทยจะเลือกเครื่องรุ่นนั้นๆมาใส่ model ของแต่ละยี่ห้อ ที่จะขายในไทยรุ่นไหนบ้างเท่านั้นเอง
และ Audi เองก็เริ่มใช้ระบบนี้มาได้ประมาณ 2-3 ปี คงจะพัฒนามาจนสเถียรระดับหนึ่งแล้วครับ
-
ผมว่าไม่น่ากลัวนะแต่ถ้าเป็นผมๆซื้อ แล้วเอาไปรีแมพ วิ่งดีโคดๆแน่นอน ศูนย์บริการตอนนี้ก้ไม่น่าห่วง
อะไรครับ ตอนนี้ bmw & audi & volvo น่าใช้นะครับ สำหรับรถ eu
mild hybridมันรีแมพได้ใช่ไหมครับ เพราะมันมีมอร์เตอร์มาช่วยด้วย มันจะซับซ้อนกว่ารีแมพเครื่องธรรมดารึเปล่า
-
ผมว่าไม่น่ากลัวนะแต่ถ้าเป็นผมๆซื้อ แล้วเอาไปรีแมพ วิ่งดีโคดๆแน่นอน ศูนย์บริการตอนนี้ก้ไม่น่าห่วง
อะไรครับ ตอนนี้ bmw & audi & volvo น่าใช้นะครับ สำหรับรถ eu
เห็นด้วยมาก remap นิดเดียวไปไกลมากโดยเฉพาะ bmw กับ audi
-
โดยส่วนตัว จะ Hybrid แบบไหน
จะเศษเสี้ยวความเป็น Hybrid หรือจะ Full Hybrid ไปยันจน PHEV จะแบบไหน ยังไงมันก็ Hybrid เหมือนกันละครับ ต่างกันแค่ scale ของ motor และ battery
ดังนั้น ถ้าถามน่ากังวลไหม สำหรับผมยังไงก็กังวลครับ ถ้ามันพังไม่อยากซ่อม รื้อทิ้งได้ ใช้เครื่องยนต์ล้วน ว่าไปอย่าง หรือ รับประกันสัก 10 ปีทั้งระบบก็พอสบายใจได้หน่อย
แต่ถ้าไม่มีความมั่นใจ Hybrid ผมว่ายี่ห้อไหนก็พอกัน แตกต่างกันแค่ว่า ยี่ห้อไหนพิสูจน์มาแล้วว่า ปัญหา มีไหม แก้ไขยังไง และ จุกจิกหรือไม่ มากกว่า
ผมไม่ได้แอนตี้ Hybrid นะครับ ผมชอบซะด้วยซ้ำ ประหยัดดี แรงด้วย แต่อย่างที่บอก การใช้งานต้องไม่ปัญหา ไม่จุกจิ๊ก และ มีรับประกัน เพื่อความสบายใจครับ
-
โดยส่วนตัว จะ Hybrid แบบไหน
จะเศษเสี้ยวความเป็น Hybrid หรือจะ Full Hybrid ไปยันจน PHEV จะแบบไหน ยังไงมันก็ Hybrid เหมือนกันละครับ ต่างกันแค่ scale ของ motor และ battery
ดังนั้น ถ้าถามน่ากังวลไหม สำหรับผมยังไงก็กังวลครับ ถ้ามันพังไม่อยากซ่อม รื้อทิ้งได้ ใช้เครื่องยนต์ล้วน ว่าไปอย่าง หรือ รับประกันสัก 10 ปีทั้งระบบก็พอสบายใจได้หน่อย
แต่ถ้าไม่มีความมั่นใจ Hybrid ผมว่ายี่ห้อไหนก็พอกัน แตกต่างกันแค่ว่า ยี่ห้อไหนพิสูจน์มาแล้วว่า ปัญหา มีไหม แก้ไขยังไง และ จุกจิกหรือไม่ มากกว่า
ผมไม่ได้แอนตี้ Hybrid นะครับ ผมชอบซะด้วยซ้ำ ประหยัดดี แรงด้วย แต่อย่างที่บอก การใช้งานต้องไม่ปัญหา ไม่จุกจิ๊ก และ มีรับประกัน เพื่อความสบายใจครับ
มุมมนี่น่าคิดครับ
-
Mild Hybrid ใน Audi ไม่ใช่ระบบ Hybrid ในแบบที่เราเข้าใจนะครับ
เนื่องจากว่ามันไม่มีเตอร์ไฟฟ้ามาใช้ในการขับเคลื่อนเลย
ระบบของมันประกอบไปด้วยแบตเตอรี่ที่เพิ่มมา 48 โวลต์ (แบตเตอรี่รถยนต์ปกติ 12 โวลต์)
ฟังก์ชั่นหลักๆ ของมันมีประมาณนี้ครับ
1. คือช่วยจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าในรถ เช่น ไฟหน้า Matrix อุปกรณ์ต่างๆ เพื่อระบบไฟเพียงพอ
2. ช่วยให้ระบบ Auto Start Stop ทำงานได้เร็วขึ้น (จังหวะเบรกก่อนรถหยุดสนิท) เสถียรขึ้น และสมูทขึ้นไม่สั่นแรงเหมือนรถทั่วๆ ไป
3. ในจังหวะที่ความเร็วลอยตัวแล้วเราละคันเร่ง (Coasting) มันจะช่วยให้เครื่องยนต์ดับได้สูงสุด 40 วินาที ซึ่งมันจะเชื่อมกับ alternator ที่เชื่อมกับ เครื่องยนต์ ได้ลองมาแล้วครับ ไม่รู้สึกเลยเวลาโหมดนี้ทำงาน สังเกตได้ที่เกียร์ ปกติจะขึ้น D1-D7 หรือ 8 แต่ถ้าโหมดนี้ทำงาน มันจะขึ้น D เฉยๆ
หลักการของมันพื้นฐานและง่ายมากครับ เปรียบเสมือนมีแบตเตอรี่ช่วยจ่ายไฟอีก 1 ลูก ไม่เหมือนพวกรถไฮบริด ที่มีแบต 100 โวลต์ขึ้นไปครับ
-
48V ได้ภาษีรถ Hybrid ด้วยหรือครับ
ไม่งั้นแบบนี้ Suzuki Mild hybrid 1.2 ถ้าเอาเข้าไทยก็ต้องได้นะครับ
-
48V ได้ภาษีรถ Hybrid ด้วยหรือครับ
ไม่งั้นแบบนี้ Suzuki Mild hybrid 1.2 ถ้าเอาเข้าไทยก็ต้องได้นะครับ
Mild hybrid ทุกรุ่นไม่ได้สิทธิ์ภาษีใดๆ ครับ เนื่องจากไม่เข้าเงื่อนไข
-
โดยส่วนตัว จะ Hybrid แบบไหน
จะเศษเสี้ยวความเป็น Hybrid หรือจะ Full Hybrid ไปยันจน PHEV จะแบบไหน ยังไงมันก็ Hybrid เหมือนกันละครับ ต่างกันแค่ scale ของ motor และ battery
ดังนั้น ถ้าถามน่ากังวลไหม สำหรับผมยังไงก็กังวลครับ ถ้ามันพังไม่อยากซ่อม รื้อทิ้งได้ ใช้เครื่องยนต์ล้วน ว่าไปอย่าง หรือ รับประกันสัก 10 ปีทั้งระบบก็พอสบายใจได้หน่อย
แต่ถ้าไม่มีความมั่นใจ Hybrid ผมว่ายี่ห้อไหนก็พอกัน แตกต่างกันแค่ว่า ยี่ห้อไหนพิสูจน์มาแล้วว่า ปัญหา มีไหม แก้ไขยังไง และ จุกจิกหรือไม่ มากกว่า
ผมไม่ได้แอนตี้ Hybrid นะครับ ผมชอบซะด้วยซ้ำ ประหยัดดี แรงด้วย แต่อย่างที่บอก การใช้งานต้องไม่ปัญหา ไม่จุกจิ๊ก และ มีรับประกัน เพื่อความสบายใจครับ
ผมก็เห็นด้วยครับ แต่สำหรับผมมีแค่ โต กับ ฮอน ที่พอจะซื้อมาใช้ได้ ส่วนยุโรป เนื่องจากรถยังใหม่ น่าจะไม่แตะ 8-10 ปี ผมว่าไม่น่ามีปัญหาอะไรให้จุกจิก เพราะอุปกรณ์ทุกอย่างมันยังไม่เสื่อม แต่ถ้าถึงเวลานั้นแล้วผมคิดว่ายังไงเครื่องสันดาปเพียว ใช้งานได้ไม่จุกจิกกว่าแน่นอน
-
Audi A5 ที่เข้ามาขายเป็นเครื่อง4สูบติดตั้งระบบMild Hybrid 12 V. ครับ ถ้าเป็นเครื่อง6สูบจะเป็นระบบ 48 V. ครับ
-
รถยังไม่มาก จำนวนปีก็ยังไม่นาน ผมว่าตอบยากอยู่นะครับ
ถ้ากังวล อย่าเพิ่งดีกว่าครับ ศูนย์ audi ก็ยังมีไม่มากด้วย โดยเฉพาะถ้าต้องออก ตจว บ่อยๆ
-
Mild Hybrid ใน Audi ไม่ใช่ระบบ Hybrid ในแบบที่เราเข้าใจนะครับ
เนื่องจากว่ามันไม่มีเตอร์ไฟฟ้ามาใช้ในการขับเคลื่อนเลย
ระบบของมันประกอบไปด้วยแบตเตอรี่ที่เพิ่มมา 48 โวลต์ (แบตเตอรี่รถยนต์ปกติ 12 โวลต์)
ฟังก์ชั่นหลักๆ ของมันมีประมาณนี้ครับ
1. คือช่วยจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าในรถ เช่น ไฟหน้า Matrix อุปกรณ์ต่างๆ เพื่อระบบไฟเพียงพอ
2. ช่วยให้ระบบ Auto Start Stop ทำงานได้เร็วขึ้น (จังหวะเบรกก่อนรถหยุดสนิท) เสถียรขึ้น และสมูทขึ้นไม่สั่นแรงเหมือนรถทั่วๆ ไป
3. ในจังหวะที่ความเร็วลอยตัวแล้วเราละคันเร่ง (Coasting) มันจะช่วยให้เครื่องยนต์ดับได้สูงสุด 40 วินาที ซึ่งมันจะเชื่อมกับ alternator ที่เชื่อมกับ เครื่องยนต์ ได้ลองมาแล้วครับ ไม่รู้สึกเลยเวลาโหมดนี้ทำงาน สังเกตได้ที่เกียร์ ปกติจะขึ้น D1-D7 หรือ 8 แต่ถ้าโหมดนี้ทำงาน มันจะขึ้น D เฉยๆ
หลักการของมันพื้นฐานและง่ายมากครับ เปรียบเสมือนมีแบตเตอรี่ช่วยจ่ายไฟอีก 1 ลูก ไม่เหมือนพวกรถไฮบริด ที่มีแบต 100 โวลต์ขึ้นไปครับ
ใช่ครับ AUDI MILD HYBRID จะเป็น Battery ที่สำหรับจ่ายไฟในรูปแบบไฟเลี้ยงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในรถ
แต่ก็อย่างว่า มันก็คงหนีไม่พ้นว่ามีปัญหาตามมาหรือป่าว ก็คงต้องพิสูจน์ตัวเองกันอีกสักระยะละครับ
โดยส่วนตัว จะ Hybrid แบบไหน
จะเศษเสี้ยวความเป็น Hybrid หรือจะ Full Hybrid ไปยันจน PHEV จะแบบไหน ยังไงมันก็ Hybrid เหมือนกันละครับ ต่างกันแค่ scale ของ motor และ battery
ดังนั้น ถ้าถามน่ากังวลไหม สำหรับผมยังไงก็กังวลครับ ถ้ามันพังไม่อยากซ่อม รื้อทิ้งได้ ใช้เครื่องยนต์ล้วน ว่าไปอย่าง หรือ รับประกันสัก 10 ปีทั้งระบบก็พอสบายใจได้หน่อย
แต่ถ้าไม่มีความมั่นใจ Hybrid ผมว่ายี่ห้อไหนก็พอกัน แตกต่างกันแค่ว่า ยี่ห้อไหนพิสูจน์มาแล้วว่า ปัญหา มีไหม แก้ไขยังไง และ จุกจิกหรือไม่ มากกว่า
ผมไม่ได้แอนตี้ Hybrid นะครับ ผมชอบซะด้วยซ้ำ ประหยัดดี แรงด้วย แต่อย่างที่บอก การใช้งานต้องไม่ปัญหา ไม่จุกจิ๊ก และ มีรับประกัน เพื่อความสบายใจครับ
ผมก็เห็นด้วยครับ แต่สำหรับผมมีแค่ โต กับ ฮอน ที่พอจะซื้อมาใช้ได้ ส่วนยุโรป เนื่องจากรถยังใหม่ น่าจะไม่แตะ 8-10 ปี ผมว่าไม่น่ามีปัญหาอะไรให้จุกจิก เพราะอุปกรณ์ทุกอย่างมันยังไม่เสื่อม แต่ถ้าถึงเวลานั้นแล้วผมคิดว่ายังไงเครื่องสันดาปเพียว ใช้งานได้ไม่จุกจิกกว่าแน่นอน
ก็ต้องดูยาวๆ ไปละครับ เพราะ AUDI เอง น่าจะต้องพิสูจน์ตัวเองอีกสักระยะ ถ้าใช้รถไม่เยอะ เปลี่ยนรถบ่อย ก็คงไม่ต้องคิดมากเรื่องนี้ แต่ถ้าคนใช้รถยาวๆ หน่อย ผมว่าไม่เสียหายที่ต้องคิดเรื่องนี้ครับ
ขนาด 2 ค่าย ที่ยกมา พอรถ Hybrid ตกไปเป็นมือสองแล้ว ราคาก็ร่วงฮวบๆ เพราะคนก็ยังไม่ไว้ใจเลย เพราะถ้าหมดประกันไปแล้ว มันเป็นเรื่องที่เสี่ยงมากพอสมควร อย่างที่บอกแหละ ถ้ามีประกันอยู่ก็สบายใจได้พอสมควร
-
ถ้ามันตรงกับการใช้งานเรา และเราชอบ ก็ไม่มีอะไรน่ากังวลครับ ดูแลตามคู่มือ ปัญหาก็ไม่ค่อยเจอแล้วถ้าไม่โชคร้าย
ขนาดรถน้ำมันปกติ ยังมีปัญหาเลย ไม่ใช่ว่าไม่มี