Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Thetree ที่ มิถุนายน 09, 2020, 21:17:57
-
เห็นข่าวล่าสุด corolla cross จากทั้งพี่จิมมี่และ autolifethailand พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ในรุ่นท๊อป hybrid ก็ใช้เครื่องยนต์เดียวกับ c-hr ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ที่ใครก็รู้ๆกันว่าอืดมากก อีกทั้งเป็นที่คาดการณ์ว่าขนาดจะใหญ่ขึ้น น่าจะทำให้อืดมากยิ่งขึ้น ในขณะที่เมืองนอกบางประเทศ ลง 2.0 hybrid ซึ่งพละกำลังน่าจะดีกว่านี้
ผมเสียดาย corolla cross มากๆ ทั้งๆที่ข่าวลือบอก option น่าจะจัดเต็ม แต่ก็ยังมีข้อเสียใหญ่ๆนั่นคือเครื่องยนต์ (ถ้าข่าวลือนี้จริง)
-
เปลี่ยนแบตเป็นลิเทียม เพิ่มขนาดแบต เพิ่มขนาดมอเตอร์ ก็ได้มั้งครับ ถ้าไม่คิดจะเปลี่ยนเครื่องใหม่
-
มันไม่ใช่แนวของโตโยต้าที่จะทำรถเครื่องแรง ๆ ลงกับรถที่ขายทั่วไป
-
ไม่คิดครับ และไม่เปลี่ยนรายละเอียดใดๆครับ อัตราเร่งที่ว่าไม่ค่อยดี 0-100 ประมาณ 12 วิอ้างอิงจาก
Chr สำหรับคนที่ไม่ได้ชอบหรือติดตามเรื่องรถอะไรมาก และไม่ได้ชอบขับเร็วมันเพียงพอแล้วครับ
ไม่ได้บ่นอะไรกัน ผมมีของที่บ้านคันนึงขับแล้วยังไงก้รู้สึกว่าอยากได้เครื่องที่แรงเพราะช่วงล่างพร้อมขับเร็ว
เลยล่ะ แต่คนที่ใช้ประจำเค้าบอกโอเคขับได้สบาย ขับในกทม ไม่ต้องเร็ว
*รถ Toyota ถ้าไม่ใช่พวกรถพิเศษๆ จะถูกจูนมาให้เน้นประหยัดมากกว่าแรงครับ
-
ยืนยันครับ Corolla cross มี 1.8 กับ HV ที่ยกมาจาก CHR เลย แต่ตัว HV ของ CHR ผมว่าก็ไม่แย่นะ แต่ถ้าชอบแรงๆ คงต้อง Kicks
ขนาดตัวรถก็ดู Subaru XV เอาไว้ พอๆ กันเลย น้ำหนักรถน่าจะทะลุ 1.5 ตัน
ออพชั่นจัดเต็มมาก แบบที่ Fortuner Legender มีโกรธอ่ะ และแน่นอน ออพชั่นไปกองที่ HV เช่นเคย
แต่ผมว่าระดับโตโยต้า คงมีวิธีจูนให้ไม่อืดหรอก และประหยัดแน่นอน แบบอัลติสนี่แรงในระดับนึง เพียงพอต่อการใช้งาน แต่ความประหยัดนี่สุดติ่งมาก
อ้อ ลืมบอกไป ผมได้ยินมาว่า Corolla cross ล้อ 18 นิ้วด้วยนะ แต่ Altis กับ CHR ล้อ 17 นิ้วเพราะกลัว CO2 เกิน ผมว่าถ้าโตโยต้ากล้าใส่ล้อ 18 นิ้วทั้งๆ ที่รถใหญ่และหนักกว่า CHR คงยังมีทีเด็ดเก็บไว้อยู่ละมั้ง (หวังว่าคงไม่ใช่ปล่อยให้ CO2 เกินแล้วเสียภาษีแพงขึ้นนะ 555)
-
1.8 Hybrid มันได้
แต่ไม่ใช่ราคาแพงกว่า C-HR ถ้าแพงกว่า 1.3 ล้าน ผมว่าเยอะเกินไปละ
และถ้าใหญ่กว่า C-HR Hybrid ก็น่าจะหนักกว่า C-HR Hybrid ซึ่ง 0-100 12 วิกว่า ถ้าตัวนี้ 13 วิ... ก็ไม่รู้จะพูดไรดี กับรถราคานี้
และแน่นอน ถ้าทำราคามาชน C-HR ก็อาจต้องพับ C-HR ออกไปก็เป็นได้ เพราะรถแพงขนาดเล็กเมืองไทยขายยาก ดู CX3 เป็นตัวอย่าง
-
ตอนได้ chr มาเทส ไม่อืดนะครับ กำลังดีสมุทสบายๆ 8) 8)
-
เหตุผลที่ไม่ลงเครื่องแรงอย่าง 2.0 Hybrid (M20A-FXS I4)
ทำราคาไม่ได้!!
ถ้ามีคิดว่าแตะ 1.4-1.5 ล้านแน่ๆ
-
เค้าคงไม่มีเครื่องใหม่ๆมาใส่แล้วล่ะ
ถึงยุครถไฟฟ้าแล้ว เราคงต้องรอวันนั้นอย่างเดียวแล้วล่ะ
เต็มที่ที่สุดที่ c suv จะได้ก็คงเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าที่ใหญ่ขึ้น
-
เราไม่ชอบอย่าไปซื้อครับ ให้เค้าขายคนที่รับได้ไปครับ
ผมได้ขับรุ่นนี้มาครึ่งเดือนเต็มๆ ไม่ประทับใจทั้งอัตราเร่ง และความประหยัด ซึ่งผมรู้สึกว่ามันค่อนมาทาง eco car ซื้อ eco car ก็ได้ครับ
จ่าย1.1ล้าน มีตัวเลือกอีกมากครับ
-
เราไม่ชอบอย่าไปซื้อครับ ให้เค้าขายคนที่รับได้ไปครับ
ผมได้ขับรุ่นนี้มาครึ่งเดือนเต็มๆ ไม่ประทับใจทั้งอัตราเร่ง และความประหยัด ซึ่งผมรู้สึกว่ามันค่อนมาทาง eco car ซื้อ eco car ก็ได้ครับ
จ่าย1.1ล้าน มีตัวเลือกอีกมากครับ
ตรงใจมากครับพี่ จริงๆนะถ้าไปอุดหนุนก็จะลากแต่เครื่องไฮบริดเหล่านี้ยัดเยียดขายกับคนไทยทุกรุ่นครับ. แถมอะไหล่ไม่ถูกด้วย
-
ขับ chr แล้วรู้สึกอยากเอาเครื่อง camry มาใส่จริงๆ รถมันรับได้สบาย
1.8 hybrid นี่แซงเลนสวนโคตรน่ากลัวเลย กดจนมิดขึ้นช้ามาก (นั่งสี่คน
วิ่งคนละเรื่องกับ camry hybrid เลย)
-
ผมว่า toyota เริ่มไม่สนความแรง และไม่สนใจเครื่องสันดาปเท่าไรแล้ว เน้นดัน hybrid เวอร์ชั้นประหยัดพลังงานแบบสุดๆ
-
ก็มันยังขายได้ มีคนอยากซื้อกันเยอะแยะ เรื่องอะไรต้องดิ้นรนเปลี่ยนสิ่งที่ยังขายได้
ผมคนนึงล่ะที่ไม่ซื้อ แต่คนที่เห็นต่างและยินดีจ่ายก็มีมากจนโตโยต้าไม่เห็นความจำเป็นต้องเปลี่ยนสเป็ค
-
ตัวแรงน่ะมีครับ แต่ไม่มา มาในร่าง Lexus UX แทน
ตัว 2.0 Hybrid นี่แรงน้องๆ Camry Hybrid เลย
ผมว่ามาแน่ๆ แต่คงต้องรอสักระยะ ให้ลากขายของเก่าไปพักใหญ่ๆ ถึงจะมา
แต่ก็แปลก แทนที่จะรีบปรับไลน์ผลิตไปทำ Dynamic Force ให้หมด จะได้แชร์ๆ อะไหล่กับ camry ได้ ก็ไม่ทำแฮะ
เอาจริงๆ ตัว hybrid มันไม่ได้แย่นะ ผมว่าพอๆกับขับ 1.8 แหละ แต่รถโตโยต้าไฮบริด ไม่ว่ารุ่นไหนก็ตาม จะแซงหรือทำอะไรควรจะออกจาก eco mode ก่อน คือโหมดนี้มันอืดมาก จะแรงได้เนี่ยกดเต็มคันเร่งอย่างเดียวเลย. เหมือนรถมันมีระยะฟรีเกือบๆครึ่งคันเร่งเลย แล้วก็ต้องทำความเข้าใจกับ CVT สักนิดนึง ว่ารออัตราทดมันมา แล้วความเร็วจะไต่ไปในแบบของมัน คือไม่ดึงแต่แซงไหลๆ ตามสไตล์ CVT แล้วจะสนุกไปอีกแบบครับ
ขับๆไปถ้ารู้จัก torque band ของเครื่องยนต์และมอเตอร์ จะแซงสบายๆ โดยไม่ต้องลากรอบ หรือเค้นเครื่องเลย เน้นทำความเร็วโดยเล่นกับอัตราทดเป็นหลัก ซึ่งผู้หญิงหรือคนทั่วไปขับน่าจะชอบ เพราะกดไม่เยอะแต่รถมันไปเรื่อยๆของมัน เสียงเครื่องไม่ค่อยดังด้วย
https://youtu.be/eOkIT9M0-Bw
-
ไม่เปลี่ยนก็ขายได้ จะเปลี่ยนให้เพิ่มต้นทุนทำไม แถมคู่แข่งก็ไม่ได้เหนือกว่ากันมากนะ ต้องรอดู hr-v ตัวใหม่ ว่าจะมีอะไรพอกระตุ้น โตโยต้า ให้ทำอะไรกับเครื่อง 1.8 hybrid ตัวนี้บ้าง
-
เราไม่ชอบอย่าไปซื้อครับ ให้เค้าขายคนที่รับได้ไปครับ
ผมได้ขับรุ่นนี้มาครึ่งเดือนเต็มๆ ไม่ประทับใจทั้งอัตราเร่ง และความประหยัด ซึ่งผมรู้สึกว่ามันค่อนมาทาง eco car ซื้อ eco car ก็ได้ครับ
จ่าย1.1ล้าน มีตัวเลือกอีกมากครับ
:) :) พี่ Newhang ได้ขับ CHR hybrid แล้วเคยได้ลองขับ
Almera 1.0 turbo ด้วยไหมครับ ส่วนตัวคิดว่า
เวลาขับจริง อัตตาเร่ง และ feeling ในการขับ เทียบกันเป็นอย่างไรครับ
-
2ZR-FXE มีมาเป็น 10 ปี ตั้งแต่ PRIUS และ
มันก็ ok ในยุคของมัน แต่มา ณ วันนี้ อัตราเร่งมันธรรมดาไปแล้ว
ถ้า Corolla Cross ได้เครื่องที่สด และ แรงกว่านี้จะดีมาก
-
อยากได้เครื่องแรงกว่านี้เหมือนกัน ไม่รุ้ทำไม 1.8 Hybrid มันอืดจัง อย่างน้อยก็ควรมีอัตราเร่งเท่ากับ 1.8 เบนซิล
กลายเป็นทุกคันมีจุดอ่อนหมด ใน Segment นี้ ถ้ามีใคร Perfect สักคัน คันอื่นน่าจะตายเรียบ
-
1.8 Hybrid มาไม่กลัว กลัวแพงครับ
กลัวว่าถ้าเครื่องอื่นที่แรงกว่ามาจะดันราคาไป 1.2-1.3 ล้านเลย
ขอบล็อคนี้แล้วขายไม่เกิน 1.19 ล้านก็พอครับ
-
ผมว่าราคาคงพอๆ CHR แต่อาจจะแพงกว่าหน่อยเพราะอ้อพชั่นที่มากกว่า
CHR สำหรับคนชอบแนวสปอรตทรงคูเป้
ส่วนตัวที่จะมาก็เน้นโปร่ง แนวครอบครัวอะไรแบบนี้ เดาล้วนๆ
-
ต่างกว่ากัน200ccไม่เร็วกว่าเดิมเท่าไหร่แต่ราคาก็จะโดดขึ้นไปอีก ::) จะแรงแบบแตกต่างต้องเอาเครื่อง2500ccมาใส่เลยแต่ก็ราคาดีดขึ้นไปอีกและขายยาก ยังไงคนไทยก็ซื้อโตโยต้าอยู่แล้วเค้าคงไม่ทำให้ตัวเองเดือดร้อนขายยากขึ้น ??? โตโยต้ายัดเยียดไฮบริดมาให้ในสินค้าตัวเองแบบนี้ไม่ดีเลยพอถึงระยะเวลาที่ระบบไฮบริดเสียขึ้นมาปัญหาตกอยู่ที่เจ้าของรถแล้วค่าซ่อมเกือบครึ่งหนึ่งของมูลค่ารถตอนเป็นมือสอง จะขายต่อก็ราคาหาย คนจะซื้อต่อก็ลำบากใจเพราะไฮบริด :-\
-
มันคิดว่ามันเป็น B-SUV ครับ เลยวางเครื่องยนต์เดียวกับ C-HR
-
ทั้งหมดนี้ เดาล้วนๆ นะ แต่เดาแบบมีเหตุผล
1. เค้าผลิต B SUV เก๋ๆ อย่าง C-HR แล้ว ถ้าจะผลิต C SUV จะขายราคาเท่าๆ กัน ได้ไง ?
เค้าก็ต้องขายแพงกว่า แต่มากนักก็คงไม่ได้ เพราะมันมี Fortuner เป็นตัวเทียบ / กดหัวอยู่
2. ราคาที่มันแพงมากนักไม่ได้ มันก็เลยไม่คุ้มที่จะต้องลงทุนทำระบบใหม่ (เครื่อง 2.0 พ่วงระบบ Hybrid)
เพราะแค่ตัวถังใหม่หมด + ใหญ่กว่า หนักกว่า ต้นทุนมันก็สูงกว่า B SUV อยู่ระดับนึงแล้วครับ
ที่ผมยังงงอยู่ คือ ... Toyota คิดยังไง ถึงจะผลิต C SUV มาขาย ... ทั้งๆ ที่ก็มี Fortuner ขายมา 15 ปี 2 บอดี้แล้ว
แล้วก็ไม่ได้ ล้มเหลว ขายได้น้อย / ขายไม่ออก ตรงไหนเลย ...
ผมว่า งานนี้ Toyota ตัดสินใจผิดมหันต์
หรือ .. ไม่งั้น .. ก็ไม่ควรจะออก C-HR มาแต่แรก เลยมากกว่า
-
อยากให้เปลี่ยนเครื่องใหม่เหมือนกันครับ
เพราะเคยลองขับ chr hybrid แล้วไม่ชอบเลย มันอืด
สิ่งที่ไม่ชอบอีกอย่างคือ วัสดุพลาสติกภายใน ถ้ามาแนวเดียวกับ chr ก็ bye bye ครับ
-
มันคิดว่ามันเป็น B-SUV ครับ เลยวางเครื่องยนต์เดียวกับ C-HR
ถ้าสรุปตามนี้ มันก็คือ C-suv ที่คาดหวังว่าจะมาแก้เกมส์ของ CHR
แต่พี่โตไม่ใช้ C กลับใช้ B-suv แทน สื่อว่าจะให้มันอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า CHR มั้ง
แล้วอาจจะกดราคาลงมาในระดับเดียวกับ corolla เพื่อให้กดดัน e-power
ดังนั้น การที่มันชื่อ corolla cross ก็อาจจะเหมาะก็ได้
-
สำหรับคนทั่วไป 1.8 hybrid ก็ถือว่าเพียงพอแล้วนะครับ
mg zs อืด ๆ ยังขายได้เรื่อย ๆ เลย (ปาดหน้ารถผมหลายคันละ) ;D
-
ผมว่าเค้าวาง ตลาดมาเเบบนี้ เพื่อเว้นที่ว่าง ให้ห่างจากฟอจูนเนอ อารมว่าไม่อยากเเย่งตลาด กันเอง
-
คงไม่เอามาหลายตัวหรอกครับ เพิ่มต้นทุนไปเปล่าๆด้วย
-
เพลียกับโตโยต้าจริงๆครับ
CHR ช่วงล่างดีๆ ลงเครื่องอืดๆมา
Revo โคลงๆร่อนๆ ดันจูนให้แรงเอาแรงเอา VSC ก็กั๊กๆ
เซ็งจิต
-
ทั้งหมดนี้ เดาล้วนๆ นะ แต่เดาแบบมีเหตุผล
1. เค้าผลิต B SUV เก๋ๆ อย่าง C-HR แล้ว ถ้าจะผลิต C SUV จะขายราคาเท่าๆ กัน ได้ไง ?
เค้าก็ต้องขายแพงกว่า แต่มากนักก็คงไม่ได้ เพราะมันมี Fortuner เป็นตัวเทียบ / กดหัวอยู่
2. ราคาที่มันแพงมากนักไม่ได้ มันก็เลยไม่คุ้มที่จะต้องลงทุนทำระบบใหม่ (เครื่อง 2.0 พ่วงระบบ Hybrid)
เพราะแค่ตัวถังใหม่หมด + ใหญ่กว่า หนักกว่า ต้นทุนมันก็สูงกว่า B SUV อยู่ระดับนึงแล้วครับ
ที่ผมยังงงอยู่ คือ ... Toyota คิดยังไง ถึงจะผลิต C SUV มาขาย ... ทั้งๆ ที่ก็มี Fortuner ขายมา 15 ปี 2 บอดี้แล้ว
แล้วก็ไม่ได้ ล้มเหลว ขายได้น้อย / ขายไม่ออก ตรงไหนเลย ...
ผมว่า งานนี้ Toyota ตัดสินใจผิดมหันต์
หรือ .. ไม่งั้น .. ก็ไม่ควรจะออก C-HR มาแต่แรก เลยมากกว่า
ประเด็นคือรุ่นใหม่นี้ไม่ได้ขายเฉพาะที่ไทยนี่สิ อย่างที่พี่จิมมี่บอกคือเป็น world premiere
ตัวนี้น่าจะมีขายทั่วโลก ส่วนของไทยเค้าคงตั้งใจไว้แล้วว่าจะผลิตไทยแล้วส่งอาเซียน
-
ขนาดความจุแบตลิเทียม ขนาดมอเตอร์ที่แรงขึ้นแต่ต้องประหยัดด้วย คิดว่า คงทดสอบอยู่ อีกหลายปีถึงจะเอามาลง แถมปีนี้มีโควิด19ด้วย ยิ่งเลื่อนแพลนทุกอย่างออกไป
-
ถามว่าคิดไหม ก็คงคิด
แต่จะขายไหมอีกเรื่อง
เพราะเหตุหลักๆ เลย คือ ราคา
ของมีอยู่แล้ว ยกไปใส่อีก body ง่ายกว่า จบกว่า
ถ้าจะไปมองหาโน่น นี่ นั้น เครื่องเล็กไป อืดไป ต้องมานั่งคิดไหม่ เป็นผม ยก RAV4 มาเลย ไม่จบกว่าเหรอ???
-
มองในมุมซ่อมบำรุง เครื่องหรือระบบหลักๆ ใช้แบบสหกรณ์ ก้อดีนะครับ
จูนแรงม้าให้ไม่เท่ากัน ก้อไม่น่ายาก ช่วงหลังมาจอยกับบีเอม คงมาแนวๆเดียวกัน เครื่องบล้อคเดียวจูนแรงม้าต่างได้ง่ายๆ
-
ยังไงเจนนี่ก็คงยัดเครื่องเดิมไปก่อน แค่นี้ราคาคาดว่าคงเพิ่มไปจากchr 3-5 หมื่นในตัวท็อป หากยัดเครื่องใหม่ราคาตัวท็อปคงทะลุ1.2ล้านกระมังครับ