Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: MacH1 ที่ มิถุนายน 28, 2020, 00:09:18

หัวข้อ: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: MacH1 ที่ มิถุนายน 28, 2020, 00:09:18
ผมสังเกตเห็นตั้งแต่ FTA ACFTA เริ่มใช้แล้วไทยคิดภาษีนำเข้า 0% สำหรับรถ BEV ผลิตและนำเข้าจากจีน ในโลกออนไลน์มักมีพวกชาตินิยม (มั้ง) มาโอดครวนว่า ไม่ดีโน้นนี้ คนไทยไม่ได้ประโยชน์ไรเลย (หรอ) มัน_ัดจริตกันหรือเปล่าครับ ถ้าตั้งเป้าจ้องรถนำเข้า มองรวมๆ งั้นต้องโวยวายด้วยว่า คนไทยไม่ได้ประโยชน์จากนำเข้ารถประกอบมาจากมาเลย์ อินโด เวียดนาม ญป. บลาๆ แต่นี้เงียบทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น  ;D ถัดมามองเฉพาะBEV อย่างเดียว อย่าลืมไปต่อต้านรถอีวีที่จะนำเข้ามาจากอินโดด้วย  8)  พวกเราคิดยังไงกันบ้างคับ

คหสต. พูดแบบตรงๆไม่ต้องอ้อม ทำไมพวกผู้บริโภคแบบพวกผมต้องยอมทนใช้ของเทคโนเก่าๆโละมาขาย ประกอบห่วยๆ ในราคาหวดแบบแพงๆด้วยคับ เพื่ออุตสาหกรรมภายในสี่แสนคน ที่ทำตัวได้น่าสงสารมากๆ? ทุกคนอยากใช้ของดีมีคุณภาพทั้งนั้น ในเมื่ออุตสาหกรรมภายในมันไร้ความสามารถ ห่วย แข่งขันในยุคการค้าเสรีไม่ได้  :P :P ผู้บริโภคที่เค้าอยากขี่รถอีวี ก้อไปซื้อรถอีวีนำเข้าผลิตจากจีนแทน ตอนนี้แบรนด์จีนที่กำลังจะขนของไฮเทค สมรรถนะแรงๆ ในราคาฆ่ายุ่นไฮบริดตายเรียบเข้ามาเพิ่ม อีกไม่นานแบรนด์ฝรั่งด้วย ยังไม่พอกำลังจะมีแบรนด์เกาผลิตจากอินโดเข้ามาอีก

ผมมองว่า มุขชาตินิยมที่ใช้กันเกลื่อนๆมาตลอดเวลาในวงการนี้ มันแค่มุขเอาไว้ใช้เพื่อ ข้ออ้างเอาเปรียบ มัดมือชกผู้บริโภคไปวันๆ 
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: Smith686 ที่ มิถุนายน 28, 2020, 02:20:04
          ของแบบนี้ต้องดูยาวๆ  ผมศึกษาเรืองเครื่องบินนะ  อายุการใช้งานเครื่องยนต์สำหรับเรื่องบินของรัสเซียจะสั้นกว่าเครื่องยนต์อเมริกาครึ่งหนึ่ง  ส่วนเครื่องยนต์ของจีนจะสั้นกว่าเครื่องยนต์ของรัสเซียครึงหนึ่ง  สรุปว่าอายุการใช้งานเครื่องยนต์เครื่องบินของจีนแค่หนึ่งในสี่ของเครื่องยนต์เครื่องบินอเมริกา  ไม่ทราบว่าเครื่องยนต์สำหรับรถยนต์จะคล้ายๆกันหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: kumpol2511 ที่ มิถุนายน 28, 2020, 11:16:57
          ของแบบนี้ต้องดูยาวๆ  ผมศึกษาเรืองเครื่องบินนะ  อายุการใช้งานเครื่องยนต์สำหรับเรื่องบินของรัสเซียจะสั้นกว่าเครื่องยนต์อเมริกาครึ่งหนึ่ง  ส่วนเครื่องยนต์ของจีนจะสั้นกว่าเครื่องยนต์ของรัสเซียครึงหนึ่ง  สรุปว่าอายุการใช้งานเครื่องยนต์เครื่องบินของจีนแค่หนึ่งในสี่ของเครื่องยนต์เครื่องบินอเมริกา  ไม่ทราบว่าเครื่องยนต์สำหรับรถยนต์จะคล้ายๆกันหรือเปล่า

เครื่องยนต์หรือเครื่องขับกำเนิดไฟฟ้าเรือก็เหมือนกันครับ ในฐานะฝ่ายควบคุมคุณภาพ หน้าตาเหมือนเครื่องยนต์เยอรมันแบบเกือบร้อยเปอร์เซ็นด์(คล้ายๆแบบรถจีนที่เลียนแบบรถยุโรป)ทดสอบการจ่ายโหลดได้ 70 เปอร์เซ็นด์ เท่านั้นเครื่องไปต่อไม่ได้ ขืนฝืนพังแน่ๆขนาดทดสอบแบบช่วงเวลาสั้นๆ ไม่ได้ทดสอบความทนทานเลย (หลายปีแล้ว อาจะดีขึ้นแล้วก็ได้ แต่ที่ทำงานไม่ได้จัดหามาอีกเลยไม่ทราบ)
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: e:smart Hybrid ที่ มิถุนายน 28, 2020, 11:36:48
คุณทำงานสายไหนครับ (สายที่มันไม่กระทบเรื่องการนำเข้าสินค้ามาขายหรือไม่) ถ้าใช่คุณคงไม่เข้าใจเรื่องที่เขากลัวหรอกครับ

สิ่งที่เขากลัว มันก็เหมือน อเมริกาและสหภาพยุโรปที่ตำแหน่งงานมันโดนแย่งไปจากประเทศกำลังพัฒนา

เรื่องรถบ้านเรามันห่วยและแพงก็จริง แต่ส่วนนึงก็ภาษีด้วย

ดังนั้น ผมว่าก็คงต้องหาสมดุลพอสมควรครับ เราก็ควรได้ใช้เทคโนโลยี่ใหม่ๆ ในราคาไม่แพง และยังสร้างงานให้กับคนในประเทศเราได้ครับ
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: deertesla ที่ มิถุนายน 28, 2020, 11:40:11
มองแยกเป็นประเด็นครับ. อย่างแรกภาษีนำเข้าจีน0% อาเซียน0%  อาเซียนเรายังได้เกินดุลและขาดดุลสลับกันไป. แต่กับจีนเสียเปรียบเต็มๆๆ.    สินค้าที่เราส่งไปให้เค้ามีไม่กี่อย่าง. และการนำเข้ามีแต่ทำให้เงินรั่วไหลในประเทศแถมเสี่ยงฟองสบู่แตกร้ายแรงแบบวิกฤตการณ์ปี39. อีก. ประการต่อมาเทคโนโลยีรถไฟฟ้าที่ว่า รูปแบบมันไม่ซับซ้อนอะไรทั้งสิ้น. ตอนนี้มีแค่ระบบแบตเตอรี่ที่เป็นคอขวด. ยังไม่มีระบบแบตที่มันประจุได้เร็วทันใจ. บรรจุไฟได้เยอะแต่ราคาถูก ความปลอดภัยจากการเกิดอุบัติเหตุ  เรื่องอายุการใช้งานที่เป็นข้อกังขาสำหรับประเทศไทย. รวมไปถึงการกำจัดแบตเตอรี่หรือนำกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งแบตเตอรี่รถไฟฟ้ามีมลพิษพอสมควร. ส่วนเครื่องยนต์สันดาปภายในมองว่าไม่ได้ล้าสมัยอะไร หากเป็นคนที่ชอบขับรถ ต้องชอบเสียงเครื่องและท่อหวานๆจนไปถึงการเปลี่ยนเกียร์แบบสนุกสนานไม่ว่าจะมาจากเกียร์ธรรมดาหรอเกียร์ออโต้ก็ตาม ประการต่อมารถที่ผลิตในไทยทั้งแพงและออพชั่นน้อย. อย่างคิก หรือchr. หรือhrv มันไม่ต่างอะไรจากเก๋งแฮชแบคทั่วไปที่สูงขึ้นไม่กี่CM.  แต่ราคาแพงเก้าแสนถึงล้านแต่รถจีนกลับทำราคาและิออพชั่นได้ดีกว่า แต่กินน้ำมันชิบหายวายป่วง อัตราเร่งห่วย วัสดุด้อยกว่าและไม่ทนเท่ารถยุ่น. ซึ่งก็เหมือนกับเครื่องยนต์เครื่องบินแบบที่ข้างบนพูดถึง. ส่งนประการต่อมา ไปอุดหนุนต่างชาติ ทำให้แรงงานไทยตกงาน. ต้องยอมรับว่าแรงงานเป็นจอมเรียกร้อง. เรียกร้องขอโบนัสเยอะแยะ ทั้งที่พนง.ออฟฟิศ ทั่วไป ได้โบนัสแค่สามเดือนก็วิเศษแล้ว. แต่นี่ขอกัน6เดือน8เดือน. กะล้างผลาญให้เค้าล้มละลาย แต่ทั้งนี้ถ้าแรงงานเหล่านี้ตกงานคือเศรษฐกิจพัง. ปัญหาสังคมอีก. ซึ่งคนเกิดบนกองเงินกองทองแบบคุณนั้นไม่รู้สึกอะไรหรอกกับความเกี่ยวเนื่องกันแบบนี้ ถึงแม้ผมจะเกลียดรถญี่ปุ่นอย่างเจ้าตลาดทั้งหลายที่มันทั้งกั๊กทั้งแพง แถมหน้าตาไม่สวย. ผมก็ไปอุดหนุนแบรนด์รองที่มีโรงงายในไทยที่ดีกว่าแทน. อย่างน้อยภาษีที่จ่ายไปแม้มันจะโดนโกงกินแต่คุณก็ต้องใช้อย่างเช่นถนน โรงพยาบาล. สาธารณูปโภคต่างๆ. ไม่ใช่คิดเหมือนเด็กไม่รู้จักโตไม่ยอมมองผลกระทบอะไร มีแต่อยากได้เพียงอย่างเดียว
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: dht_tubes ที่ มิถุนายน 28, 2020, 12:32:42
ลองมองอีกมุมครับว่า

ศักยภาพคนของเรา เน้นว่า คนไทยจริงๆเลยนะครับ ว่าจะไปถึงจุดที่เจ้าของกระทู้ได้จริงหรือเปล่า

โลกทุนนิยม ถูกปูพื้นฐานมาหลายสิบปี ฝังอยู่ในวิธีคิด มุมมองการให้ความสำคัญในการใช้ชีวิตของคนรุ่นนึงๆ

มันไม่สามารถแก้ได้หรอกครับ เศรษฐกิจเรามันถูกดูดเข้าไปอยู่ในระบบทุน ที่ต้องเติบโต ก้าวหน้า เพิ่มๆๆๆ ในทุกด้านโดยไม่คำนึงว่า อีก 30ปี จะเปนไง

เราเพิ่มเป้า gdp ทุกอย่าง ใช้เงินอนาคต ผ่อน หรู ตามแนวทางระบบทุนมานาน จนคนทั้งประเทศอยู่ในกลไกนี้เกือบหมด ทุกเรื่องแล้ว พึ่งพาแหล่งทุน การร่วมทุนการค้าจากต่างชาติแทบทั้งนั้น

เศรษฐีไทย มีใครรวยจากการธุรกิจรากเหง้าพื้นฐานของประเทศคือเกษตรกรรมมั้ย แทบทั้งหมดก้อร่วมมือกับต่างชาติ อาศัยกลไก อำนาจทุนทั้งนั้น

แบบที่ยี่ปุ่น เยอรมัน รวยจากอุตสาหกรรมรถยนต์ข้ามชาติ ที่เริ่มจากความชาตินิยม หลายสิบปี บริษัทมาค้าขายต่างแดน ก้อใช้แต่ของประเทศตัวเอง เราทำได้อย่างเค้ามั้ย

เยอรมัน เรื่องเทคโนฯ ก้อข้ามชาติ แพ้สงคาม

เราติดเข้ามาอยู่ตรงนี้แล้ว ยากที่จะถอนตัวครับ ไม่ต่างจากแค่กบเลือกนาย เปลี่ยนแปรตามกระแสทุนไป ไม่สามารถเป็นผู้กำหนดได้

การแข่งขันเดียวที่ทำได้คือพัฒนาตัวเองให้เก่งกว่าประเทศอื่นที่ตกเป็นเบี้ยล่างในระบบทุนเหมือนกันก้อแค่นั้นแหละครับ

คนไทย รักบ้านเกิดทุกคนแหละผมเชื่ออย่างนั้น แต่คนเราสามัคคีกันไม่พอมากกว่า โดนเค้าจิ้มให้แยกฝัก แยกฝ่าย โดยใช้คำว่าอิสระทางความคิดมาครอบไว้ คิดกันคนละทาง โดยไม่ฟังฝ่ายที่คิดต่าง

ก้มหน้าก้มตาทำงาน พัฒนาตัวเรา ลูกหลานเราดีกว่า สำหรับผมๆคิดว่ามันทำได้แค่นั้นจริงๆ

แลกเปลี่ยนความเห็นกันนะครับ อย่างน้อยก้อเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่เห็นคนรุ่นใหม่ๆ มีความคิดว่าเราถูกกดโดยระบบทุนอยู่แล้วอยากเห็นการเปลี่ยรแปลงครับ



หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: Underseven ที่ มิถุนายน 28, 2020, 13:23:32
ผู้บริโภคก็มีส่วนในการตัดสินใจ
ถ้าผบภ.ส่วนใหญ่ตอบสนองหรือรับได้ก็ได้ไปต่อ
แต่ถ้าส่วนใหญ่ไม่รับก็จบเกมส์

บางคนอาจไม่คิดอะไรมาก บางคนอาจคิดมาก ลำดับความจำเป็นและสิ่งสำคัญในชีวิตมีความแตกต่างกัน
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: Symphonic ที่ มิถุนายน 28, 2020, 13:31:26
พี่บอกว่าอุตสาหกรรมภายในมันห่วย

รถประกอบในประเทศเนี่ยเหรอฮะที่ห่วย
คนไทยประกอบรถห่วยเหรอฮะ

โทษที พี่ก็คนไทยนะ แล้วพี่อาชีพอะไร
ทำงานอะไรอ่ะ

แล้ว...

พี่ทำงานห่วยยยย ป่ะครับ
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: fishfinger ที่ มิถุนายน 28, 2020, 13:36:47
อุตสาหกรรมรถยนต์แรงงานมีประมาณ 5-6 แสนคน มูลค่านับเป็น 6-7% ของ GDP
ส่วนตัวผมไม่เดือดร้อนเพราะไม่เกี่ยวกับ sector นี้เลย แต่น้ำผึ้งหยดเดียวผมว่ารวนหมดแน่นอน
แต่ต้องยอมรับว่า 5-6 แสนคนเหล่านี้ถ้าไม่คิดหางานอื่นไว้เพิ่ม อีกไม่นานคงตายกันหมด
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: deertesla ที่ มิถุนายน 28, 2020, 13:38:53
พี่บอกว่าอุตสาหกรรมภายในมันห่วย

รถประกอบในประเทศเนี่ยเหรอฮะที่ห่วย
คนไทยประกอบรถห่วยเหรอฮะ

โทษที พี่ก็คนไทยนะ แล้วพี่อาชีพอะไร
ทำงานอะไรอ่ะ

แล้ว...

พี่ทำงานห่วยยยย ป่ะครับ
นั่นสิครับ ทำงานทำอาชีพอะไรกันถึงมีความคิดเหมือนเด็กแว้นอยากได้รถทั้งที่ครอบครัวจน. จนต้องตีพ่อแม่  อุตสาหกรรมไทย เคยมีผลิตแบรนด์เองก็จริง แต่ขายไม่ออกขายไม่ได้อันมาจากหลายปัจจัย. แต่ถ้าไม่รักประเทศก็ไปอยู่ประเทศอื่นเถอะ. มาต่อเรื่องแรงงาน ต่อไปใช้หุ่นยนต์ผลิตมากขึ้น ถ้าหวังขายแต่แรงงานการผลิตรับรองตกงานกันเยอะแน่นอน
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: bossa26 ที่ มิถุนายน 28, 2020, 13:55:43
คุณทำงานสายไหนครับ (สายที่มันไม่กระทบเรื่องการนำเข้าสินค้ามาขายหรือไม่) ถ้าใช่คุณคงไม่เข้าใจเรื่องที่เขากลัวหรอกครับ

สิ่งที่เขากลัว มันก็เหมือน อเมริกาและสหภาพยุโรปที่ตำแหน่งงานมันโดนแย่งไปจากประเทศกำลังพัฒนา

เรื่องรถบ้านเรามันห่วยและแพงก็จริง แต่ส่วนนึงก็ภาษีด้วย

ดังนั้น ผมว่าก็คงต้องหาสมดุลพอสมควรครับ เราก็ควรได้ใช้เทคโนโลยี่ใหม่ๆ ในราคาไม่แพง และยังสร้างงานให้กับคนในประเทศเราได้ครับ

ประเทศต้องพัฒนา ไม่ใช่ต้องมาคอยอุ้มค่อม เราค้องหาจุดแข็งต้องหาโปรดักส์แล้วพัฒนาให้เป็นเครื่องมือทำเงินให้ประเทศ รับจ้างเค้าผลิตอย่างเดียว ยังไงวันนึงก็ต้องจบ จะเอาเงินทั้งประเทศมาอุ้มคนบางกลุ่มไม่ถูกหรอก เหมือข้าวเหมือนยาง แทนที่จะพัฒนา อยากทำอะไรเดิมๆ ได้เงินเยอะเหมือนเดิมไปทั้งชาติ ผมว่ามันอภิสิทธ์ชนเกินไปแล้ว
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: Fly to dream ที่ มิถุนายน 28, 2020, 13:58:17
เข้ามาดูเริ่มสนุก แต่เกลียดคำๆนึง ;D ;D

https://www.youtube.com/watch?v=iTViXMaKlWo (https://www.youtube.com/watch?v=iTViXMaKlWo)

 ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: MacH1 ที่ มิถุนายน 28, 2020, 14:12:25
พี่บอกว่าอุตสาหกรรมภายในมันห่วย

รถประกอบในประเทศเนี่ยเหรอฮะที่ห่วย
คนไทยประกอบรถห่วยเหรอฮะ

โทษที พี่ก็คนไทยนะ แล้วพี่อาชีพอะไร
ทำงานอะไรอ่ะ

แล้ว...

พี่ทำงานห่วยยยย ป่ะครับ
นั่นสิครับ ทำงานทำอาชีพอะไรกันถึงมีความคิดเหมือนเด็กแว้นอยากได้รถทั้งที่ครอบครัวจน. จนต้องตีพ่อแม่  อุตสาหกรรมไทย เคยมีผลิตแบรนด์เองก็จริง แต่ขายไม่ออกขายไม่ได้อันมาจากหลายปัจจัย. แต่ถ้าไม่รักประเทศก็ไปอยู่ประเทศอื่นเถอะ. มาต่อเรื่องแรงงาน ต่อไปใช้หุ่นยนต์ผลิตมากขึ้น ถ้าหวังขายแต่แรงงานการผลิตรับรองตกงานกันเยอะแน่นอน

ฮั่นแน่ และแล้วก็มามุขคลาสลิก ไล่ออกจากประเทศ  ผมคงพูดแทงใจดำ แดกดันเกี่ยวกับความจริงของอุตสาหกรรมสุดที่เลิฟของคุณ จนคุณรับกับความจริงไม่ได้สินะคับ ถึงออกทะเล ด่ากราดไปเรื่องอื่นแบบนั่น รีบๆกลับมาแถให้ตรงหัวข้อหน่อยนะคับ ดูแล้วขำอะ 
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: MacH1 ที่ มิถุนายน 28, 2020, 14:13:35
เข้ามาดูเริ่มสนุก แต่เกลียดคำๆนึง ;D ;D

https://www.youtube.com/watch?v=iTViXMaKlWo (https://www.youtube.com/watch?v=iTViXMaKlWo)

 ;D ;D ;D

เข้ามาขำด้วยครับ  ;D ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: Yeahyeahs ที่ มิถุนายน 28, 2020, 14:26:47
อาชีพหรือธุรกิจที่คุณและครอบครัวทำอยู่ แน่ใจว่าไม่มีสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีเข้ามาเกี่ยวข้อง?
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: MacH1 ที่ มิถุนายน 28, 2020, 14:32:14
อาชีพหรือธุรกิจที่คุณและครอบครัวทำอยู่ แน่ใจว่าไม่มีสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีเข้ามาเกี่ยวข้อง?

Discuss ให้ตรงหัวข้อกระทู้คับ
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: Yeahyeahs ที่ มิถุนายน 28, 2020, 14:39:30
อาชีพหรือธุรกิจที่คุณและครอบครัวทำอยู่ แน่ใจว่าไม่มีสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีเข้ามาเกี่ยวข้อง?

Discuss ให้ตรงหัวข้อกระทู้คับ

ไม่ตรงยังไงครับ คุณมองแต่อุตสาหกรรมอื่น ว่ารัฐอุ้มอย่างนู้นอย่างนี้
ผมก็จะบอกว่าขึ้นชื่อว่าธุรกิจ ที่มีแรงงานซึ่งเป็นประชาชนของประเทศมาเกี่ยวข้อง มันมีข้อยกเว้นทางด้านภาษีเสมอแหละครับไม่ว่าจะอุตสาหกรรมไหน
แปลกใจนะ เคยอ่านกระทู้คุณเก่าๆน่าจะมีฐานะและ background ทางด้านการศึกษาที่ดีพอสมควร(จำชื่อได้ ไม่ได้กลับไปขุดนะครับ)
เรื่อง basic แบบนี้มันเข้าใจได้ไม่ยากเลยว่าทำไมต้องรักษาอุตสาหกรรมนี้ในประเทศนี้ไว้

แล้วก็อีกอย่างนึง คุณมาดูถูกอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศว่ากระจอก ในบอร์ดรถยนต์ ซึ่งต้องมีคนในอุตสาหกรรมนี้ผ่านไปผ่านมาอยู่แล้ว มันไม่แปลกที่เขาจะย้อนไปหาคุณบ้างหรอกครับ
อายุไม่น่าจะน้อยแล้ว ถ้าอยาก discuss จริงๆก็ควรใช้ภาษาให้สมกับเป็นคนที่ผ่านการศึกษาขึ้นพื้นฐานหน่อย ให้เกียรติเพื่อนร่วมบอร์ดบ้าง
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: MacH1 ที่ มิถุนายน 28, 2020, 14:48:54
อาชีพหรือธุรกิจที่คุณและครอบครัวทำอยู่ แน่ใจว่าไม่มีสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีเข้ามาเกี่ยวข้อง?

Discuss ให้ตรงหัวข้อกระทู้คับ

ไม่ตรงยังไงครับ คุณมองแต่อุตสาหกรรมอื่น ว่ารัฐอุ้มอย่างนู้นอย่างนี้
ผมก็จะบอกว่าขึ้นชื่อว่าธุรกิจ ที่มีแรงงานซึ่งเป็นประชาชนของประเทศมาเกี่ยวข้อง มันมีข้อยกเว้นทางด้านภาษีเสมอแหละครับไม่ว่าจะอุตสาหกรรมไหน
แปลกใจนะ เคยอ่านกระทู้คุณเก่าๆน่าจะมีฐานะและ background ทางด้านการศึกษาที่ดีพอสมควร(จำชื่อได้ ไม่ได้กลับไปขุดนะครับ)
เรื่อง basic แบบนี้มันเข้าใจได้ไม่ยากเลยว่าทำไมต้องรักษาอุตสาหกรรมนี้ในประเทศนี้ไว้

แล้วก็อีกอย่างนึง คุณมาดูถูกอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศว่ากระจอก ในบอร์ดรถยนต์ ซึ่งต้องมีคนในอุตสาหกรรมนี้ผ่านไปผ่านมาอยู่แล้ว มันไม่แปลกที่เขาจะย้อนไปหาคุณบ้างหรอกครับ
อายุไม่น่าจะน้อยแล้ว ถ้าอยาก discuss จริงๆก็ควรใช้ภาษาให้สมกับเป็นคนที่ผ่านการศึกษาขึ้นพื้นฐานหน่อย ให้เกียรติเพื่อนร่วมบอร์ดบ้าง

อุ้มแบบสไตล์ infant industry argument หรือุตสาหกรรมเฒ่าทารกมาตลอดหลายสิบปี พวกอุตสาหกรรมภายในประเทศมันถึงอ่อนแอ แข่งขันไม่ได้ในยุคใหม่  ไม่สามารถขยับไปทำของ value added เทคโนโลยีใหม่ๆได้งัยคับ ได้แต่ทำของเก่าๆรถพ่นควันกันต่อไป เพราะไม่มีการพัฒนาสกิล และ human capital มาตลอดทาง ตอนนี้มาฝันอยากทำรถอีวี ช้าไปละคับ

เพราะอุ้มกันแบบหัวทิ่มแบบนี้ พวกนี้ถึงได้ใจ กั๊ก โน้นนี้ หวดราคาแพงๆ การประกอบไม่ต้องดี ผู้บริโภคช่างมันไม่ต้องสนใจ เพราะโดนมัดมือชกไม่มีทางเลือกอยู่แล้วไงคับ นี้คือไอเดียของพวกในอุตสาหกรรมรถพ่นควันภายในประเทศ
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: HHHsung ที่ มิถุนายน 28, 2020, 15:50:22
คิดให้กว้างแล้วจะเข้าใจ มองในมุมประเทศ ถ้าไม่มี เงิน จากการขายสินค้า จะมี เงิน ไปซื้อสินค้า ได้อย่างไร

ถ้าไม่รับจะเอาจากไหนไปจ่าย จีนต้นทุนสินค้าเค้าต่ำกว่าเรา ซื้อของเขาแล้วเราจะเอาอะไรไปขายเค้าเพื่อให้ได้เงินที่ซื้อกลับมา

คิดแต่อยากได้ของถูก อย่าลืมว่า ต้องแลกกับอะไร ระบบเงินมันหมุนไปมาเป้นห่วงโซ่ ขาดไปแค่ท่อนเดียว อาจล้มละลายได้
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: MacH1 ที่ มิถุนายน 28, 2020, 16:03:24
คิดให้กว้างแล้วจะเข้าใจ มองในมุมประเทศ ถ้าไม่มี เงิน จากการขายสินค้า จะมี เงิน ไปซื้อสินค้า ได้อย่างไร

ถ้าไม่รับจะเอาจากไหนไปจ่าย จีนต้นทุนสินค้าเค้าต่ำกว่าเรา ซื้อของเขาแล้วเราจะเอาอะไรไปขายเค้าเพื่อให้ได้เงินที่ซื้อกลับมา

คิดแต่อยากได้ของถูก อย่าลืมว่า ต้องแลกกับอะไร ระบบเงินมันหมุนไปมาเป้นห่วงโซ่ ขาดไปแค่ท่อนเดียว อาจล้มละลายได้

ถ้าใช้ตรรกะแบบเดียวกัน งั้นคงต้องต่อต้านไม่เอา โทรศัพท์มือถือ, สินค้าอิเล็กทรอนิกส์, หูฟัง true wireless, ชุดเครื่องเสียง, เครื่องใช้ไฟฟ้า, เสื้อผ้า, เครื่องหนัง, SSDบลาๆ ที่ผลิตและนำเข้าจากจีนด้วยคับ ::) แต่นี้ผมไม่เห็นพวกชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถในประเทศพูดอะไรนะ 
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: deertesla ที่ มิถุนายน 28, 2020, 16:10:22
คิดให้กว้างแล้วจะเข้าใจ มองในมุมประเทศ ถ้าไม่มี เงิน จากการขายสินค้า จะมี เงิน ไปซื้อสินค้า ได้อย่างไร

ถ้าไม่รับจะเอาจากไหนไปจ่าย จีนต้นทุนสินค้าเค้าต่ำกว่าเรา ซื้อของเขาแล้วเราจะเอาอะไรไปขายเค้าเพื่อให้ได้เงินที่ซื้อกลับมา

คิดแต่อยากได้ของถูก อย่าลืมว่า ต้องแลกกับอะไร ระบบเงินมันหมุนไปมาเป้นห่วงโซ่ ขาดไปแค่ท่อนเดียว อาจล้มละลายได้

ถ้าใช้ตรรกะแบบเดียวกัน งั้นคงต้องต่อต้านไม่เอา โทรศัพท์มือถือ, สินค้าอิเล็กทรอนิกส์, หูฟัง true wireless, ชุดเครื่องเสียง, เครื่องใช้ไฟฟ้า, เสื้อผ้า, เครื่องหนัง, SSDบลาๆ ที่ผลิตและนำเข้าจากจีนด้วยคับ ::) แต่นี้ผมไม่เห็นพวกชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถในประเทศพูดอะไรนะ
ถ้าคิดได้แค่นี้ย้ายสำมะโนครัวไปจีนเถอะครับ. ไม่ได้ชาตินิยมอะไรกัน. ไม่อุดหนุนในประเทศ แล้วจะมีเงินหมุนเวียนในปนะเทศได้ไง. คิดได้แค่นี้ เอาแต่ได้อย่างเดียวอย่าอยู่ประเทศไทยเถอะขอร้อง. ขับรถก็อย่ามาวิ่งบนถนนที่ทำมาจากภาษี  เจ็บป่วยก็อย่ามาใช้ประกันสังคม หรือ30 น้ำประปา ก็ขุดน้ำบาดาลเองเถอะคิดได้แค่นี้เอง เหมือนเกลียดกรรมกรแต่ต้องพึ่งพากรรมกรสร้างตึก
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: MacH1 ที่ มิถุนายน 28, 2020, 16:18:17
คิดให้กว้างแล้วจะเข้าใจ มองในมุมประเทศ ถ้าไม่มี เงิน จากการขายสินค้า จะมี เงิน ไปซื้อสินค้า ได้อย่างไร

ถ้าไม่รับจะเอาจากไหนไปจ่าย จีนต้นทุนสินค้าเค้าต่ำกว่าเรา ซื้อของเขาแล้วเราจะเอาอะไรไปขายเค้าเพื่อให้ได้เงินที่ซื้อกลับมา

คิดแต่อยากได้ของถูก อย่าลืมว่า ต้องแลกกับอะไร ระบบเงินมันหมุนไปมาเป้นห่วงโซ่ ขาดไปแค่ท่อนเดียว อาจล้มละลายได้

ถ้าใช้ตรรกะแบบเดียวกัน งั้นคงต้องต่อต้านไม่เอา โทรศัพท์มือถือ, สินค้าอิเล็กทรอนิกส์, หูฟัง true wireless, ชุดเครื่องเสียง, เครื่องใช้ไฟฟ้า, เสื้อผ้า, เครื่องหนัง, SSDบลาๆ ที่ผลิตและนำเข้าจากจีนด้วยคับ ::) แต่นี้ผมไม่เห็นพวกชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถในประเทศพูดอะไรนะ
ถ้าคิดได้แค่นี้ย้ายสำมะโนครัวไปจีนเถอะครับ. ไม่ได้ชาตินิยมอะไรกัน. ไม่อุดหนุนในประเทศ แล้วจะมีเงินหมุนเวียนในปนะเทศได้ไง. คิดได้แค่นี้ เอาแต่ได้อย่างเดียวอย่าอยู่ประเทศไทยเถอะขอร้อง. ขับรถก็อย่ามาวิ่งบนถนนที่ทำมาจากภาษี  เจ็บป่วยก็อย่ามาใช้ประกันสังคม หรือ30 น้ำประปา ก็ขุดน้ำบาดาลเองเถอะคิดได้แค่นี้เอง เหมือนเกลียดกรรมกรแต่ต้องพึ่งพากรรมกรสร้างตึก

ขำอะ มุขคลาสลิก ไล่ออกจากประเทศ มโนไปเองอะป่าว แค่ผมนิยมรถอีวีนำเข้า เพราะของเค้าทำเหนือกว่า เทคโนดีกว่า ราคาโอเคกว่า คุณก็รับไม่ได้ คลั่งสุดๆ ด่ากราดไปโน้นนี้ทำยังกะผมไม่ได้เสียภาษี  ;D ;D  ผมดูแล้วสยอง ตรรกะพวกชาตินิยมหัวทิ่มนี้โคตรเพี้ยนคับ 
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดราม่า ที่ มิถุนายน 28, 2020, 16:38:04
ผมว่า จขกท. ตั้งกระทู้ดีนะ แต่ตอบกระทู้แบบหัวรุนแรงไป มันจะขัดแย้งกันเปล่าๆ ใจเย็นกันนิดนึง

เข้าใจครับ ว่าประเด็นการเปิดตลาดแบบเอื้ออำนวย... แบบโปรจีน จนกระเทือนอุตสาหกรรมรถ ICE ที่ ไทยเป็นในขณะนี้แค่โรงงานประกอบของญี่ปุ่น และอื่นๆ ไม่ใช่ประเทศที่สามารถพัฒนาการแข่งขันได้ กระนั้นการทำให้คนอื่นเข้าใจว่า ประเด็นการพัฒนารถไฟฟ้าที่มีความซับซ้อนน่าจะน้อยกว่ารถสันดาป แม้จะชื่อรถเหมือนกัน แต่หากจะเอื้อเฉพาะจีนมันก็มีข้อน่าสงสัย แฮ่ๆ

คหสต. ผมคือไม่ใช่ว่าคนไทยไม่อยากใช้รถไฟฟ้า กระแสมันมา มันโดนจุดมาพักใหญ่แล้ว แต่ลักษณะการพัฒนาสาธารณูปโภคในบ้านเรามันไม่ได้เอื้ออำนวยที่จะใช้จริงๆ ณ เวลานี้ เอาง่ายๆ มนุษย์เงินเดือนระดับทำงานใหม่ๆ โครงสร้างรายได้กับราคารถก็กดได้ไม่เกินราคา B-C Segment การที่เอาของที่ผลิตไม่ใช่ Mass มาแทนทันที ยกตัวอย่างเช่น MG ZS EV มันเป็น Trendsetter รถไฟฟ้าราคาถูกลงมาหน่อยได้ก็จริง แต่ก็คงไม่ได้ตอบโจทย์ความต้องการและกำลังการซื้อในบ้านเรา แล้วจะขายใคร อุตสาหกรรมพร้อมจะมาตั้งเป็นหมื่นๆ ล้าน ทุบราคาทันทีใน 3-5 ปีคงไม่ได้ ผมว่าสิบปีโน่นกว่าเราจะเริ่มพ้นยุคเปลี่ยนผ่าน

ถึงแม้ จขกท. จะมองว่า โครงสร้างที่เราซื้อที่เราเป็น มันจะฝังหัว+บิดเบือนกันมาหลายสิบปีได้ แต่ผมมองว่า หากเปลี่ยนแล้วล้างไพ่ทันที มันก็ตอบโจทย์ได้เฉพาะกลุ่ม Niche หรือมีกำลังซื้อสูงอย่าง จขกท. ในขณะที่อุตสาหกรรมที่เดินด้วย "สี่ห้าแสนคน" บนรถเทคโนโลยีเดิม มันยังตอบโจทย์การใช้งานที่สอดคล้องกับบริบทความต้องการของสังคมไทยส่วนใหญ่อยู่

การที่ยังคงอุตสาหกรรม ICE ที่น่าจะพัฒนาตัวมันเองได้อีกนิด พัฒนาในระยะเปลี่ยนผ่านเป็นน้ำมันกึ่งไฟฟ้าหลายๆ เทคนิคได้อีกหน่อย ก่อนที่รถไฟฟ้าเต็มตัวจะมาพร้อมกับที่ไทยมีโรงไฟฟ้ายุคใหม่ มันก็ไม่ใช่เรื่องผิด และญี่ปุ่นเอง (?) ก็ไม่ได้จบแค่ ICE เฉยๆ เสียหน่อย จะว่าล้าหลัง หรือทำให้เราที่โดนมองว่าเฮ้ย เป็นแค่ผู้ผลิตซัพพลายเออร์และประกอบรถในนามญี่ปุ่น คงไม่ไปไกลได้มากกว่านั้น ก็คงไม่ใช่ซะทีเดียวครับ...

ระหว่าง เปลี่ยนผ่าน หรือตัดฉับเลย ผมไม่เชื่อว่าใครอยากตัดฉับโครมเดียวล้มทั้งภาค ล้มทั้งซัพพลายเออร์ทั้งแผง เพื่อตอบสนองความต้องการกลุ่มย่อย แล้วสร้างความขัดแย้งโดยไม่จำเป็น หากพูดถึง ACFTA ก็ต้องพูดถึง JTEPA พูดถึง ATIGA ไปจนถึง TAFTA ว่าเรากำลังจะได้ประโยชน์อะไรมั้ย เราอาจจะได้ประโยชน์บวกมากกว่าขณะนี้ถ้ายังทำ ICE อยู่ด้วยซ้ำ
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: DiKiBoyZ ที่ มิถุนายน 28, 2020, 16:42:56
โดยส่วนตัวนะ

- ผมว่าที่เขากลัว หรือ โวยวาย คือ 0% ในอาเซียน ไม่แปลก แต่ 0% จากจีน(ที่ใช่อาเซียน) มันกระไรๆ อยู่ไหม โอเคละ จะมีข้อตกลงอะไรกันกับจีนก็ตาม แต่มันก็จะทำให้ AFTA พังทะลายไปเลย นำเข้าจากจีน 0% เหมือนอาเซียน แต่เราส่งออกไปอาเซียนได้ภาษีพิเศษ แต่ส่งไปจีนละ?

- ผมว่า รถยุโรป หรือ เมกา เขาไม่ได้กลัวเลยนะ เพราะถ้านำเข้าจากจีนได้ รถแบรนด์ยุโรป เมกา อาจจะดีใจซะด้วย เพราะฐานผลิตรถ EV ของยุโรป กับ เมกา ในจีนก็มี supplier เยอะกว่า กำลังการผลิตเยอะกว่า ชาติอาเซียนด้วยซ้ำ ดังนั้นแบรนด์ยุโรปกับเมกา จะชอบซะด้วย ถ้าแบรนด์เหล่านั้นไม่ได้ตั้งใจจะลงทุนในไทยแต่แรก

- เข้าใจว่า ถ้าในกลุ่มรถยนต์ จะมีแบรนด์จีน เข้ามาในไทยเยอะขึ้น แต่ถ้าเป็นรถที่ china design language เอง ผมว่าเกิดยาก ผมไปอยู่จีนหลายปี บอกเลยว่า ทั้งหน้าตา ออฟชั่น ภายนอก ภายใน วิ่งผ่านนี่ดูรู้เลยว่ารถจีน มันจะมีสไตล์ของมันเอง แต่โอเคละแบรนด์หรือรุ่นที่เขา "ลอกเลียนแบบ" ของหลายๆ รุ่นมารวมกัน มันดูดีขึ้นกว่ารถจีนแท้ๆ เยอะ และที่สำคัญ สิ่งที่ทำให้เกิดได้ คือ "ราคา" ที่ถูกกว่า แบรนด์ดัง ซึ่งจุดนี้นี่แหละที่ทำให้น่าสนใจ


 :) ผมไม่เคยดูถูกของจีน ผมก็เคยไปอยู่จีน ของที่ใช้หลายอย่างก็เป็นของ made in china มีทั้งแบรนด์จันและที่ไม่ใช่แบรนด์จีน
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: cpesiit ที่ มิถุนายน 28, 2020, 16:52:01
สั้นๆ ผมว่ามันไปต่อยากแล้วล่ะ กลัวประเทศขาดดุลก็เอาอุตสาหกรรมที่ไทยแข่งขันได้กับนานาชาติมาชดเชย
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: MacH1 ที่ มิถุนายน 28, 2020, 16:53:40
โดยส่วนตัวนะ

- ผมว่าที่เขากลัว หรือ โวยวาย คือ 0% ในอาเซียน ไม่แปลก แต่ 0% จากจีน(ที่ใช่อาเซียน) มันกระไรๆ อยู่ไหม โอเคละ จะมีข้อตกลงอะไรกันกับจีนก็ตาม แต่มันก็จะทำให้ AFTA พังทะลายไปเลย นำเข้าจากจีน 0% เหมือนอาเซียน แต่เราส่งออกไปอาเซียนได้ภาษีพิเศษ แต่ส่งไปจีนละ?

- ผมว่า รถยุโรป หรือ เมกา เขาไม่ได้กลัวเลยนะ เพราะถ้านำเข้าจากจีนได้ รถแบรนด์ยุโรป เมกา อาจจะดีใจซะด้วย เพราะฐานผลิตรถ EV ของยุโรป กับ เมกา ในจีนก็มี supplier เยอะกว่า กำลังการผลิตเยอะกว่า ชาติอาเซียนด้วยซ้ำ ดังนั้นแบรนด์ยุโรปกับเมกา จะชอบซะด้วย ถ้าแบรนด์เหล่านั้นไม่ได้ตั้งใจจะลงทุนในไทยแต่แรก

- เข้าใจว่า ถ้าในกลุ่มรถยนต์ จะมีแบรนด์จีน เข้ามาในไทยเยอะขึ้น แต่ถ้าเป็นรถที่ china design language เอง ผมว่าเกิดยาก ผมไปอยู่จีนหลายปี บอกเลยว่า ทั้งหน้าตา ออฟชั่น ภายนอก ภายใน วิ่งผ่านนี่ดูรู้เลยว่ารถจีน มันจะมีสไตล์ของมันเอง แต่โอเคละแบรนด์หรือรุ่นที่เขา "ลอกเลียนแบบ" ของหลายๆ รุ่นมารวมกัน มันดูดีขึ้นกว่ารถจีนแท้ๆ เยอะ และที่สำคัญ สิ่งที่ทำให้เกิดได้ คือ "ราคา" ที่ถูกกว่า แบรนด์ดัง ซึ่งจุดนี้นี่แหละที่ทำให้น่าสนใจ


 :) ผมไม่เคยดูถูกของจีน ผมก็เคยไปอยู่จีน ของที่ใช้หลายอย่างก็เป็นของ made in china มีทั้งแบรนด์จันและที่ไม่ใช่แบรนด์จีน

ตอบตามนี้นะคับ

- ACFTA ไม่ได้เปิดให้ BEV ผลิตจากจีน 0% ทุกประเทศคับ ลองเช็คดูภาษีนำเข้าจะลดลงต่างกันไปในสมาชิกอาเซียน มาเลย์เหลือประมาณ 10% อินโดก็10-20% ไทยจะอยู่กลุ่มเดียวกับ ลาว กัมพูชา และบรูไนที่เปิดเต็มที่ เราเลือกแบบนั่นเองตั้งแต่ปี 2004 จะโทษใครละ ผมว่าการเปิดเสรีทำให้อุตภายในที่รักสบายมาตลอด มันถึงเวลาต้องขยันดิ้นรนแล้ว ผู้บริโภคก้อคนไทยนี้ละได้ surplus ไปเต็มๆ

ตามข้อตกลง นำเข้าจากจีน 0% และไทยสามารถส่งออกไปจีน ไม่โดนภาษีนำเข้าเหมือนกัน ก็แฟร์ดี การค้าเสรีมันก็เป็นแบบนี้ มีแต่พวกชาตินิยมหัวทิ่มนี้ละคับที่คิดจะเอาแต่ได้อย่างเดียว เพราะกลัวไม่ได้เอาเปรียบผู้บริโภคคนไทยต่อ กลัวไม่ได้โบนัสเยอะๆ

- แบรนด์ฝรั่งรอนำเข้ามาแล้วคับ อย่างน้อยก็ Volvo/Polestar, Bimmer, Mini  บีเอ็มยุทธศาสตร์อีวีในภูมิภาคนี้คือจีนเป็นฐานผลิตอยู่แล้ว 
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: เนื้อน่องไม่หนัง ที่ มิถุนายน 28, 2020, 16:56:40
ผมเห็นด้วยกับคุณ IVY นะ
คือรัฐบาล อุ้มธุรกิจผลิตและส่งออกรถยนต์มาก โอเค มันช่วยเรื่องกระจายแรงงาน เพิ่มการส่งออก เพิ่มGPD
แต่ต้องไม่ลืมว่าเราเป็นเพียงผู้ถูกจ้าง ซึ่งวันหนึ่งถ้าเค้าเพิ่มเครื่องจักรแล้วลดแรงงานคน เราก็ทำอะไรไม่ได้ ถ้าเราปรับภาษีขึ้น
เขาก็หนีไปประเทศอื่น ซึ่งเขาเองก็มี ฐานการผลิตอื่นนอกจากไทย แล้วคนที่เสียผลประโยนช์คือเรา

ในเรื่อง EV ทำไทยนี่ไม่ต้องลุ้นเลย ถ้านำเข้าจากจีน0% คือจบแล้ว
ทุกค่ายที่ขาย EV ในไทยผลิตจากจีน แล้วนำเข้าเอาหมดแทน ยังไงเอามาทำในไทยก็ต้องนำเข้า Part มาอีกอยุ่ดี
แล้วถึงเราจะรถEVแบรนไทย แต่ด้วย Volumn และ KnowHow ที่น้อยกว่าเขา มันไม่มีทางที่เราจะทำรถที่ดีเท่าเขาในราคาเท่าเขาได้เลย
ถ้าไทยเรา ทำของดี ในราคาที่เหมาะสม คิดว่าคนไทยยินดีสนับสนุนครับ เพราะคนส่วนใหญ่มองที่ความคุ้มค่าในการจับจ่ายใช้สอยเป็นหลักอยุ่แล้ว
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ มิถุนายน 28, 2020, 17:26:42
จขกท  ก็หน้าเดิม  ๆ ที่ตั้งแล้วตอบกระทู้แบบนี้   พยายามจะให้นำเข้ารถสินค้าจากประเทศอื่น  ๆ มาขายแข่งในประเทศ 
ที่จริงมันก็ทำมาตั้งนานแล้ว  สมอ ก็เป็นคนกำหนดมาตรฐานการนำเข้าและรถยนต์ในประเทศ   ใครใคร่ซื้อ   มีกำลังเท่าไหร่ก็ซื้อไป    แต่จะหวังให้ราคามันถูก ๆ  แบบบางประเทศมันเป็นไปไม่ได้  เพราะสินค้าทุกชนิดมันต้อง เก็บภาษี และมีกำแพงภาษีของมัน  ภายใต้ข้อตกลงการค้าร่วมกัน       จะเปิดให้เขาเอารถเข้ามาโดยที่ประเทศไทยไม่ได้อะไรเลย   ใครจะทำละ

 ส่วนเรื่องรถไฟฟ้า   อ พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ  ตอบไว้ตลอดตอนเย็น  ๆ      รถไฟฟ้าให้ลองยกตัวอย่างประเทศไหนก็ได้ที่มีการขายรถไฟฟ้าเป็นจำนวนมากกว่า 5%  ของยอดขายทั้งหมดในประเทศ มีไหม       หลายประเทศขายรถไฟฟ้ามา 10 ปีแล้วยอดขายยังไม่เกิน 5%  ในแต่ละปีเลย         แล้วให้เลิกคิดเรื่องการลงทุนพื้นฐาน ที่ชาร์จไฟฟ้า จากที่นั่นที่นี่ ที่ทำงาน   เลิกคิดไปได้เลย        ถ้า ปชช เองไม่พร้อมจะใช้ไม่ต้องไปหวังให้รัฐบาลหรือเอกชนตั้งสถานีชาร์จให้หรอก  ถ้าจะใช้ก็ดูว่าพร้อมในการชาร์จที่บ้านหรือเปล่า   นอกจากนี้อ พัฒนเดชยังกล่าวอีกว่า สายมโนทั้งหลายที่บอกว่าผลิตเยอะ  ๆ แล้วรถไฟฟ้ามันจะถูกลง    เค้ายกตัวอย่าง ไอโฟนมันถูกลงไหม   รถยนต์สมัยนี้ราคาเท่าไหร่ถูกลงไหม     รถไฟฟ้าก็เหมือนกันไม่มีทางที่ราคามันจะถูกลงแบบที่คนทั่วไปจับต้องได้
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: MacH1 ที่ มิถุนายน 28, 2020, 17:42:38
จขกท  ก็หน้าเดิม  ๆ ที่ตั้งแล้วตอบกระทู้แบบนี้   พยายามจะให้นำเข้ารถสินค้าจากประเทศอื่น  ๆ มาขายแข่งในประเทศ 
ที่จริงมันก็ทำมาตั้งนานแล้ว  สมอ ก็เป็นคนกำหนดมาตรฐานการนำเข้าและรถยนต์ในประเทศ   ใครใคร่ซื้อ   มีกำลังเท่าไหร่ก็ซื้อไป    แต่จะหวังให้ราคามันถูก ๆ  แบบบางประเทศมันเป็นไปไม่ได้  เพราะสินค้าทุกชนิดมันต้อง เก็บภาษี และมีกำแพงภาษีของมัน  ภายใต้ข้อตกลงการค้าร่วมกัน       จะเปิดให้เขาเอารถเข้ามาโดยที่ประเทศไทยไม่ได้อะไรเลย   ใครจะทำละ

 ส่วนเรื่องรถไฟฟ้า   อ พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ  ตอบไว้ตลอดตอนเย็น  ๆ      รถไฟฟ้าให้ลองยกตัวอย่างประเทศไหนก็ได้ที่มีการขายรถไฟฟ้าเป็นจำนวนมากกว่า 5%  ของยอดขายทั้งหมดในประเทศ มีไหม       หลายประเทศขายรถไฟฟ้ามา 10 ปีแล้วยอดขายยังไม่เกิน 5%  ในแต่ละปีเลย         แล้วให้เลิกคิดเรื่องการลงทุนพื้นฐาน ที่ชาร์จไฟฟ้า จากที่นั่นที่นี่ ที่ทำงาน   เลิกคิดไปได้เลย        ถ้า ปชช เองไม่พร้อมจะใช้ไม่ต้องไปหวังให้รัฐบาลหรือเอกชนตั้งสถานีชาร์จให้หรอก  ถ้าจะใช้ก็ดูว่าพร้อมในการชาร์จที่บ้านหรือเปล่า   นอกจากนี้อ พัฒนเดชยังกล่าวอีกว่า สายมโนทั้งหลายที่บอกว่าผลิตเยอะ  ๆ แล้วรถไฟฟ้ามันจะถูกลง    เค้ายกตัวอย่าง ไอโฟนมันถูกลงไหม   รถยนต์สมัยนี้ราคาเท่าไหร่ถูกลงไหม     รถไฟฟ้าก็เหมือนกันไม่มีทางที่ราคามันจะถูกลงแบบที่คนทั่วไปจับต้องได้

แค่ journalist ไม่มีทั้งความรู้ technical, practical เรื่องอีวี และประสบการณ์ user experience แบบของจริง ผมไม่ให้ราคาเลยคับ คุณตาม Bjorn Nyland ยังรู้ลึกรู้จริงกว่าพวกรีวิวหลายแลในบ้านเรา

รถอีวีแบบราคาถูกๆ คนจับต้องได้ คุณทำการบ้านลองค้นข้อมูลดูยังคับเช่น BYD E1, E2, E3 ผมได้ยินวงในว่ามาเล็งๆราคาตั้งในไทยไม่เกินสี่แสนบาท ระยะทางอาจยังน้อยกว่าพี่เม้ง ZS แต่แน่นอนคนทั่วไปจับต้องได้แล้ว   

เรื่องสถานนี้ชาร์จก้อปรับปรุงข้อกฏหมายกันไป ค่อยๆมีสถานีชาร์จเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทั้งจาก เอกชนและ SOE นี้รู้ยังว่าเค้าแก้กฏหมาย peak demand charge กันแล้ว  ::) ราคาค่าชาร์จ fast charge ก็พอรู้คร่าวๆกันแล้ว 

คนที่ไม่พร้อมก็มีแต่พวกอุตสาหกรรมภายในนี้ละ คือไม่พร้อมทำอีวีเอง ผู้บริโภคแบบพวกผมพร้อมอยากใช้แล้ว ก็มันขับโคตรดี ประหยัดค่าเชื้อเพลิงสุดๆ ในเมื่อพวกคุณไม่พร้อม พวกผมก็ไปซื้อรถนำเข้าสิ ไม่แปลก แต่นี้พวกคุณยังมาโวยวายหาว่าซื้อรถอีวีผลิตจากจีนทำไม ทำไมไม่ซื้อรถเทคโนเก่าๆไฮบริดโละมาขาย ในราคาแพงๆผลิตในไทยแต่พาร์ทนำเข้าจากจีนและญป.     
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: Mr. RO ที่ มิถุนายน 28, 2020, 17:52:48
ต่อไปมันจะมีการเปลี่ยนแปลงเยอะครับ
และลัทธิชาตินิยม ในอุตสาหกรรม รถยนต์ไทย ผมว่า เราควรมองด้วยไหมว่าโลกข้างหน้าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปยังไง
ส่วนตัวมอง ต้องมองเรื่องสิ่งแวดล้อม และการประหยัดพลังงานให้มากครับ การเดินทางไกลๆถ้าไม่ได้ต้องขนของเยอะหรือไปเป็นหมู่คณะ
ก็ควรเดินทางด้วยระบบสาธารณะเช่น รถไฟ เครื่องบิน ไหม ส่วนในเมืองก็ควรจะเป็นรถที่มีขนาดเล็กประหยัดพลังงาน ประหยัดพื้นที่ไหม และให้ดีก็ปล่อยมลพิษต่ำ หรือ ไม่ปล่อยมลพิษขณะใช้งานเลยก็ยิ่งดี
แต่ ณ ปัจจุบันอุตสาหกรรมรถยนต์บ้านเรา ผลิตรถ เพื่อเป็นฐานการผลิตต่างชาติ เพื่อมองว่าใช้ส่งออกเท่านั้นหรือเปล่า คนไทยกำหนดรูปแบบ spec รูปแบบได้ไม่ได้เต็มที่ ที่มีที่เห็นก็ Eco Car แต่ว่ารัฐก็ไม่ได้จัดระบบขนส่งสาธารณะให้ดีได้หรือไม่จัดระเบียบเมืองเพื่อส่งเสริมการใช้รถ Eco Car เท่าไรนักเลย
ส่วนตัวจะชาตินิยม ควรออกแบบอุตสาหกรรม เพื่อช่วยให้ การใช้ขีวิตในสังคมมันมีคุณภาพ มีความปลอดภัยในชีวิตสูงด้วย 
เช่นถนน ไม่ควรสรัางถนนเพื่อรถใหญ่ หรือรถแรงๆอะไร มากมายนัก รถยิ่งวิ่งเร็ว ความเสี่ยงจะเกิดอุบัติเหตุยิ่งสูง
ส่วนตัวควรออกแบบ ให้มีการผลิตรถคันเล็กประหยัดพลังงาน เพียงแต่ต้องมีการออกแบบ ถนน หรือผังเมือง สำหรับรถขนาดเล็กให้มากๆด้วยและมีการบังคับ ให้จอดรถในอาคารจอดรถ และเก็บค่าที่จอดรถตามขนาดการใช้พื้นที่ของรถ เป็นหน่วยคิดต่อตรม เซ็นติเมตร เช่นคิดๆไป  1 บาทต่อตรมเมตรต่อ 15 นาทีอะไรแบบนี้อ่ะ
หลักคือได้มีพื้นที่ถนนสำหรับรถคันใหญ่ และรถคันที่มีขนาดเล็ก และพยายามส่งเสริมการใช้รถคันเล็กในเขตเมือง หรือใช้ระบบสาธารณ ในเขตเมือง และ ไม่ให้คนมาจอดรถกันบนท้องถนน
และถ้าทำได้ อย่างที่บอก
รถคันเล็กๆ การต้องมีการตรวจสอบเรื่องระบบความปลอดภัยก็ลดลง เพราะ การใช้รถขนาดเล็กที่ความเร็วต่ำเช่นไม่เกิน 60 km/h การออกแบบ ต่างและต้นทุนการออกแบบก็จะลดลง ส่งผลให้ อาจมีผู้ประกอบการในประเทศสามารถจะทำการผลิตหรือประกอบ เพื่อให้ผ่านเกณฑ์มาตรฐานเพื่อใช้งานรถในเขตเมือง และในถนนที่ถูกออกแบบสำหรับรถเล็กได้สะดวกและง่ายกว่า แต่ช่วงแรกเราอาจต้องมีการจูงใจให้ต่างชาติมาช่วยผลิตออกแบบรถแบบนั้นขึ้นมาก่อน และที่สำคัญ รถขนาดนั้นก็ทำให้คนรายได้ไม่เยอะสามารถจะซื้อใช้งานได้สะดวกขึ้น เช่นราคาระหว่าง 80,000-250,000 แล้วแต่คุณสมบัติของรถ แต่เป้นรถขนาดเล็กที่มีขนาดเพียง 1.5-4 ตรม โดยรถแบบนี้จะใช้พื้นที่ผิวถนน หรือ พื้นที่เพื่อจอดในอาคารจอดรถน้อยกว่า รถขนาดที่ทำตลาดและวิ่งส่วนใหญ่อยู่ในปัจจุบัน เพียงแต่ว่า ต้องมีการออกแบบและทำถนนเพื่อรถขนาดเล็กเหล่านี้แยกออกจากถนนเดิมอย่างชัดเจนเพื่อความปลอดภัยด้วย
แต่ต้องมีการกำหนดมาตรการทางภาษี รวมถึงการจัดเก็บค่าใช้พื้นที่ถนนหรือที่จอดรถ ที่เหมาะสมเพื่อส่งเสริมการใช้รถขนาดเล็กครับ แต่ใครจะทำการค้าขายจะใช้รถกระบะก็ใช้กันต่อไปครับ แต่ขอให้ต้องมีการตรวจจับมลพิษที่เข้มงวด รวมถึงการตรวจจับความเร็วที่ดีครับ  ใครขับรถเกิดอุบัติเหตุ โดยไม่ใช่เกิดจากความผิดพลาดชำรุดของรถ ก็ควรงดใบอนุญาติตลอดชีวิตสำหรับการขับรถที่สามารถทำความเร็วได้เกิน 60 km/h
ถ้ามีมาตรการแบบนี้ รถEV นำเข้าจากจีนคงเข้ามาได้พอควรแต่ผมว่าถ้าเริ่มมีนำเข้ามามากก็อาจส่งเสริมให้มีบุคลากรหรือธุรกิจได้เรียนรู้เพื่อพัฒนาต่อยอดจากรุปแบบรถ EV ขนาดเล็กของจีนได้ต่อไปด้วยนะ
เราต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลง และพยายามพัฒนาปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมในอนาคตนะ
อันนี้คือมุมมองผมครับ
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: H3T ที่ มิถุนายน 28, 2020, 18:06:31
เนื้อหาเรื่องนี้ ผมว่าเหมาะที่จะนำมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันนะครับ มุมมองจะได้หลากหลายจากจุดยืนของทุกๆคน ซึ่งมีความเกี่ยวข้องไม่มากก็น้อย

 เรื่องข้อตกลงที่ทำไว้ ซึ่งก็ประกาศล่วงหน้ามาหลายปี รับรู้กันทั่วกันโดยเฉพาะกลุ่มที่เกี่ยวข้องได้รับผลกระทบโดยตรง เท่าที่ผมสัมผัส มีการปรับตัวกันมาเรื่อยๆนะครับ
 
 ส่วนตัวถามว่าการนำเข้าจากจีนแล้วไม่มีมาตรการทางภาษีช่วยผู้ผลิตที่มาตั้งโรงงานในไทยเลย จุดนี้อาจจะไม่ถูกต้องนะครับ
 เพราะว่า นำเข้าจากจีน จะต้องเสียภาษีสรรพสามิต 8% แต่ถ้าขอ BOI ในไทย สรรพสามิตจะเป็น 0%

 ถ้าจะมองว่า 8% ถ้านำเข้าจากจีนแทบจะไม่มีผลในต้นทุนรวม เพราะต้นทุนการบริหารจัดการจากจีน ค่าแรง ราคาวัตถุดิบ แล้วยังต้องรวมค่าขนส่งรวม ยังถูกกว่าในไทย ข้อนี้มันคือความจริงครับ ผู้ประกอบการรวมไปถึงภาครัฐต้องช่วยกันแก้ปัญหาในรูปแบบที่ยั่งยืนแทน

 Tesla model 3 ที่จะมาทำตลาดในไทย ผมถือว่ายังไม่ใช่คู่แข่งของรถตลาดที่มีส่วนแบ่งหลักของประเทศครับ
 ด้วยตำแหน่งของราคาในพิกัด 2-3 ล้านบาท มันจะชนกับ BMW 3-series , MB C klass , Volvo 60 series ซึ่งส่วนแบ่งการตลาด segment นี้ปีนึงประมาณ 5 พันคัน สมมุติ model 3 มาแชร์ส่วนแบ่งได้ 20% ก็แค่ 1 พันคัน ไม่มากไม่น้อย แต่น่าจะช่วยลดมลพิษในเมืองได้บ้างนะครับ

 ถ้ามองมุมที่จะส่งผลกระทบกับคนส่วนใหญ่ ผมมองว่าก็ต้องเป็นรถไฟฟ้าแบรนด์จีน ทำราคามาอยู่ในช่วงต่ำกว่า 1 ล้านบาท แต่จุดนี้ก็จะต้องมาสู้กับมุมมองของผู้บริโภคว่าจะยอมรับในคุณภาพมากน้อยแค่ไหน ต้องใช้เวลาในการพิสูจน์เท่าไหร่ ซึ่งเวลานั้นทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะช่วยกันหาทางออกที่ดีพอหรือเปล่านะครับ
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: Fly to dream ที่ มิถุนายน 28, 2020, 19:30:14
ขอตอบบ้างนะครับ ผมเข้าใจนะว่ารถ EV ถ้านำเข้ามาแบบ 0% ผมมองนะว่าไทยเป็นประเทศที่คนไม่ปรับตัวเข้ากับรถ EV จนกว่ามันจะราคาถูกแบบประเทศเช่น จีน แน่นอน และถึงแม้จีนค่อยไปหักดิบขึ้นภาษีทีหลังก็เถอะ   ปัจจุบันใช่ รัฐไทยบอกว่าสนับสนุนรถ EV แต่อะไรอย่างอื่นมันไม่เอื้อให้บริษัทรถยนต์มาผลิตรถ EV ขายในประเทศเลย  ดังนั้นผมเห็นด้วยนะว่า 0% มาเลย เอาให้ราคาไม่กระโดดแล้วเริ่มมีคนกลุ่มใหม่ๆมาใช้รถนี้โดยสมัครใจ ไม่ใช่เป็นแค่ของเล่นคนรวยไปสัก 5 ปี 10 ปีก็ว่าไป ขึ้นภาษีนำเข้าไปเป็นขั้นๆ จนคิดว่าคนทั่วไปใช้รถ EV เป็นเรื่องพื้นฐาน ถึงตอนนั้นบริษัทรถยนต์น่าจะพร้อมมาตั้งฐาน หรือประกอบในไทยเองนั่นแหละ  และคิดว่าตอนนั้นระบบชาร์จในไทยคงมีทั่วไปแล้วแน่นอน

ผมว่านี่แหละแนวทางให้คนไทยใช้รถ EV มากขึ้น ไม่ใช่แค่เป็นของเล่นคนรวย
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ มิถุนายน 28, 2020, 20:30:20
ผมสังเกตเห็นตั้งแต่ FTA ACFTA เริ่มใช้แล้วไทยคิดภาษีนำเข้า 0% สำหรับรถ BEV ผลิตและนำเข้าจากจีน ในโลกออนไลน์มักมีพวกชาตินิยม (มั้ง) มาโอดครวนว่า ไม่ดีโน้นนี้ คนไทยไม่ได้ประโยชน์ไรเลย (หรอ) มัน_ัดจริตกันหรือเปล่าครับ ถ้าตั้งเป้าจ้องรถนำเข้า มองรวมๆ งั้นต้องโวยวายด้วยว่า คนไทยไม่ได้ประโยชน์จากนำเข้ารถประกอบมาจากมาเลย์ อินโด เวียดนาม ญป. บลาๆ แต่นี้เงียบทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น  ;D ถัดมามองเฉพาะBEV อย่างเดียว อย่าลืมไปต่อต้านรถอีวีที่จะนำเข้ามาจากอินโดด้วย  8)  พวกเราคิดยังไงกันบ้างคับ

คหสต. พูดแบบตรงๆไม่ต้องอ้อม ทำไมพวกผู้บริโภคแบบพวกผมต้องยอมทนใช้ของเทคโนเก่าๆโละมาขาย ประกอบห่วยๆ ในราคาหวดแบบแพงๆด้วยคับ เพื่ออุตสาหกรรมภายในสี่แสนคน ที่ทำตัวได้น่าสงสารมากๆ? ทุกคนอยากใช้ของดีมีคุณภาพทั้งนั้น ในเมื่ออุตสาหกรรมภายในมันไร้ความสามารถ ห่วย แข่งขันในยุคการค้าเสรีไม่ได้  :P :P ผู้บริโภคที่เค้าอยากขี่รถอีวี ก้อไปซื้อรถอีวีนำเข้าผลิตจากจีนแทน ตอนนี้แบรนด์จีนที่กำลังจะขนของไฮเทค สมรรถนะแรงๆ ในราคาฆ่ายุ่นไฮบริดตายเรียบเข้ามาเพิ่ม อีกไม่นานแบรนด์ฝรั่งด้วย ยังไม่พอกำลังจะมีแบรนด์เกาผลิตจากอินโดเข้ามาอีก

ผมมองว่า มุขชาตินิยมที่ใช้กันเกลื่อนๆมาตลอดเวลาในวงการนี้ มันแค่มุขเอาไว้ใช้เพื่อ ข้ออ้างเอาเปรียบ มัดมือชกผู้บริโภคไปวันๆ

ขอเก็บคำพูดเหยียดเชื้อชาติ คุณไว้ก่อนมาแก้ไขนะครับ
รู้ สึกว่า ผมไม่จำเป็นต้องตอบอะไรคุณเลย
เพราะ สุดท้าย รัฐบาลก็ต้อง ทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติ ทั้งระบบ ไม่ได้ทำหน้า ที่ ทำให้ แค่คนบางคนพอใจ
กฏหมาย ก็เอื้อ ประโยชน์ ให้ ทุกชนชาติเท่ากัน มีแค่ จีนได้ สิทธิพิเศษ นิดหน่อย

ผมว่าคุณเงิบไป ตั้งแต่ที่บอก Toyota จะล่มสลายแบบ Koduc ละครับ
อีกอย่าง
ผมว่า คุณโพสเรียกแขกซะแล้วละครับ

ว่าแล้วก็ขอตอบ ให้ตรงประเด็นหน่อย
1.พวกชาตินิยม (มั้ง) มาโอดครวนว่า ไม่ดีโน้นนี้ 
ตอบ =  คนที่โอดไม่ใช่ ชาตินิยมหรอกครับ  พวกเสียผลประโยชน์มากกว่า คนบ่น ก็ ทุกค่าย รถที่ไม่ได้ สิทธิประโยชน์นั่นละ คนไทยไม่มี รถเป็นของตัวเองอยู่แล้ว ทุกวันนี้ก็แค่รับจ้างผลิต สร้างงาน ตาม อุตสหกรรม
ส่วนผมไม่โวยวายครับ ดีออก ได้ ตัวเลือกเพิ่ม
2.ทำไมพวกผู้บริโภคแบบพวกผมต้องยอมทนใช้ของเทคโนเก่าๆโละมาขาย ประกอบห่วยๆ ในราคาหวดแบบแพงๆด้วยคับ เพื่ออุตสาหกรรมภายในสี่แสนคน ที่ทำตัวได้น่าสงสารมากๆ?
ตอบ : ไม่ต้องทนครับ  ก็ซื้อไป สิ MG และ ไม่มีใครห้ามครับ ถ้า MG ไม่ดีพอก็ ซื้อ Great Wall Motors ที่กำลังจะเปิดตัวนะ
ซื้อแล้ว ช่วย โพส บอก เพื่อนในนี้ ด้วยนะครับ
ว่าคุณได้ซื้อ รถ ที่เทคโนโลยี สูงส่ง ประกอบดีเยียม เหนือ กว่า รถ กากๆ ที่ผลิตในไทยแบบห่วยๆ นะ
1. สำหรับผม รถที่ผลิตบ้านเราประกอบ ดีกว่า จีนเยอะครับ ถ้ารถมันดี มัน ถูก เดี่ยวก็มีคนซื้อเอง
2. เพื่ออุตสาหกรรมภายในสี่แสนคน ที่ทำตัวได้น่าสงสารมาก - ถูกต้องครับ กินของไทยใช้ของไทย เพราะผมคนไทย ยังไงก็ต้องช่วยชาติมาก่อนตัวเอง

3. สุดท้ายไม่ว่ายังไง ถ้า ของ ผลิตในชาติไทยไทยมันไม่ได้แย่ กาก แบบที่คุณพูด ผมก็เลือกของที่ทำในไทย
เพราะ ผมคือ ตนไทย นิยมไทย วะครับ

ผมคงไม่ต้องไล่คุณออกประเทศหรอกครับ
เพราะ สุดท้ายตัว คุณนั่นละ ที่น่า สงสาร ไม่สามารถ ที่จะอยู่ในประเทศนี้อย่างไม่มีความสุข
น่าสงสาร คุณจริงๆ ครับ


สุดท้าย ผมก็ไม่เห็น ว่าจะเป็นอะไร ที่จะมีรถ BEV  จากจีน มาโลดแล่น เพิ่มเติม
ประเทศ หากไม่ เน้น อุตสหกรรม ก็ ต้องไปหาอย่างอื่นทำ ก็ไม่มีเงินมาซื้อรถ เพราะ ขาดกลุ่ม คน 400000 คน ที่คุณบอก กำลังจะตกงาน
และ ระบบ Supplier Chain มันไม่ได้ กระทบ แค่ 400000 คนหรอกครับ
คุณยิ่งๆโพส
มันก็ บ่งบอก ความเป็น เด็กน้อย ไร้ความคิด คิดได้แคบบบบบ มากๆ
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ มิถุนายน 28, 2020, 21:14:21
  จะเปิดให้นำเข้า 0%  จะเอื้อประโยชน์ให้เขาเพื่ออะไร      ทุกวันนี้รัฐบาลก็ส่งเสริมอยู่แล้ว แต่จะให้นำเข้าโดยใช้สิทธิ์ 0%  ส่วนใหญ่ไม่มีใครเอาด้วยหรอกมั้ง   มันต้องมีข้อแลกเปลี่ยนที่รัฐบาลเล็งเห็นแล้วได้ประโยชน์สูงสุด 

  ส่วน สมอและ สถาบันยานยนต์   มีวิศวกรที่ทรงคุณวุฒิหลายคน  ที่เป็นคนร่างระเบียบ กำหนดเสปก มาตรฐาน รวมถึงขนาดของรถ ความปลอดภัย  เพื่อเอามาสกัดกั้นรถที่ไร้คุณภาพ หรือคุณภาพที่ไม่เป็นไปตามกำหนด   ไม่ให้หลั่งไหลเข้ามาจนขาดมาตรฐาน  รวมถึงความปลอดภัยบนถนนในการใช้ถนนร่วมกัน       ไม่ใช่ให้รัฐบาลไปสร้างถนนเพิ่มเพื่อกำหนดเลนวิ่งให้รถไฟฟ้าจากประเทศใดประเทศนึง     คือมันต้องคิดส่วนรวมมาก่อนไม่ใช่คิดถึงคนกลุ่มนึงที่อยากได้           

     ส่วนสถานีชาร์จไฟฟ้า  ผมยังเชื่อ  อ พัฒนเดช  อาสาสรรพกิจ กับคุณวรพล สิงห์เขียวพงษ์ ที่พูดไว้ในรายการ  ถ้าจะใช้รถไฟฟ้าก็ควรดูความพร้อมและพฤติกรรมการใช้รถของตนเอง ว่าสามารถชาร์จที่บ้านได้ไหม      เรื่องที่จะมีสถานีชาร์จไฟฟ้าตามสถานที่ต่าง  ๆ เลิกคิดได้  ทุกประเทศไม่มีใครลงทุนเรื่องแบบนี้  ทุกวันนี้ก็ไม่มีใครทำแบบนั้นต่อให้ปริมาณรถไฟฟ้ามันจะเพิ่มขึ้นก็ตาม     

    ในด้านภาคประชาชน  การไฟฟ้าให้ใช้ไฟฟ้าห  หน่วยล่ะ .... บาท   ถ้าเกิดปริมาณการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นค่าไฟฟ้าอนาคตจะมีการเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้รถไฟฟ้าไปทำงาน   ต้องรับภาระในส่วนนี้ด้วยหรือเปล่า     รัฐบาลจะช่วยเหลือคนที่ไม่ได้ซื้อรถไฟฟ้าใช้งานได้อย่างไร ให้จ่ายค่าไฟเท่าเดิมและเก็บภาษีเพิ่มเฉพาะคนที่ชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้าน 
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: MacH1 ที่ มิถุนายน 28, 2020, 21:36:06
ผมสังเกตเห็นตั้งแต่ FTA ACFTA เริ่มใช้แล้วไทยคิดภาษีนำเข้า 0% สำหรับรถ BEV ผลิตและนำเข้าจากจีน ในโลกออนไลน์มักมีพวกชาตินิยม (มั้ง) มาโอดครวนว่า ไม่ดีโน้นนี้ คนไทยไม่ได้ประโยชน์ไรเลย (หรอ) มัน_ัดจริตกันหรือเปล่าครับ ถ้าตั้งเป้าจ้องรถนำเข้า มองรวมๆ งั้นต้องโวยวายด้วยว่า คนไทยไม่ได้ประโยชน์จากนำเข้ารถประกอบมาจากมาเลย์ อินโด เวียดนาม ญป. บลาๆ แต่นี้เงียบทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น  ;D ถัดมามองเฉพาะBEV อย่างเดียว อย่าลืมไปต่อต้านรถอีวีที่จะนำเข้ามาจากอินโดด้วย  8)  พวกเราคิดยังไงกันบ้างคับ

คหสต. พูดแบบตรงๆไม่ต้องอ้อม ทำไมพวกผู้บริโภคแบบพวกผมต้องยอมทนใช้ของเทคโนเก่าๆโละมาขาย ประกอบห่วยๆ ในราคาหวดแบบแพงๆด้วยคับ เพื่ออุตสาหกรรมภายในสี่แสนคน ที่ทำตัวได้น่าสงสารมากๆ? ทุกคนอยากใช้ของดีมีคุณภาพทั้งนั้น ในเมื่ออุตสาหกรรมภายในมันไร้ความสามารถ ห่วย แข่งขันในยุคการค้าเสรีไม่ได้  :P :P ผู้บริโภคที่เค้าอยากขี่รถอีวี ก้อไปซื้อรถอีวีนำเข้าผลิตจากจีนแทน ตอนนี้แบรนด์จีนที่กำลังจะขนของไฮเทค สมรรถนะแรงๆ ในราคาฆ่ายุ่นไฮบริดตายเรียบเข้ามาเพิ่ม อีกไม่นานแบรนด์ฝรั่งด้วย ยังไม่พอกำลังจะมีแบรนด์เกาผลิตจากอินโดเข้ามาอีก

ผมมองว่า มุขชาตินิยมที่ใช้กันเกลื่อนๆมาตลอดเวลาในวงการนี้ มันแค่มุขเอาไว้ใช้เพื่อ ข้ออ้างเอาเปรียบ มัดมือชกผู้บริโภคไปวันๆ

ขอเก็บคำพูดเหยียดเชื้อชาติ คุณไว้ก่อนมาแก้ไขนะครับ
รู้ สึกว่า ผมไม่จำเป็นต้องตอบอะไรคุณเลย
เพราะ สุดท้าย รัฐบาลก็ต้อง ทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติ ทั้งระบบ ไม่ได้ทำหน้า ที่ ทำให้ แค่คนบางคนพอใจ
กฏหมาย ก็เอื้อ ประโยชน์ ให้ ทุกชนชาติเท่ากัน มีแค่ จีนได้ สิทธิพิเศษ นิดหน่อย

ผมว่าคุณเงิบไป ตั้งแต่ที่บอก Toyota จะล่มสลายแบบ Koduc ละครับ
อีกอย่าง
ผมว่า คุณโพสเรียกแขกซะแล้วละครับ

ว่าแล้วก็ขอตอบ ให้ตรงประเด็นหน่อย
1.พวกชาตินิยม (มั้ง) มาโอดครวนว่า ไม่ดีโน้นนี้ 
ตอบ =  คนที่โอดไม่ใช่ ชาตินิยมหรอกครับ  พวกเสียผลประโยชน์มากกว่า คนบ่น ก็ ทุกค่าย รถที่ไม่ได้ สิทธิประโยชน์นั่นละ คนไทยไม่มี รถเป็นของตัวเองอยู่แล้ว ทุกวันนี้ก็แค่รับจ้างผลิต สร้างงาน ตาม อุตสหกรรม
ส่วนผมไม่โวยวายครับ ดีออก ได้ ตัวเลือกเพิ่ม
2.ทำไมพวกผู้บริโภคแบบพวกผมต้องยอมทนใช้ของเทคโนเก่าๆโละมาขาย ประกอบห่วยๆ ในราคาหวดแบบแพงๆด้วยคับ เพื่ออุตสาหกรรมภายในสี่แสนคน ที่ทำตัวได้น่าสงสารมากๆ?
ตอบ : ไม่ต้องทนครับ  ก็ซื้อไป สิ MG และ ไม่มีใครห้ามครับ ถ้า MG ไม่ดีพอก็ ซื้อ Great Wall Motors ที่กำลังจะเปิดตัวนะ
ซื้อแล้ว ช่วย โพส บอก เพื่อนในนี้ ด้วยนะครับ
ว่าคุณได้ซื้อ รถ ที่เทคโนโลยี สูงส่ง ประกอบดีเยียม เหนือ กว่า รถ กากๆ ที่ผลิตในไทยแบบห่วยๆ นะ
1. สำหรับผม รถที่ผลิตบ้านเราประกอบ ดีกว่า จีนเยอะครับ ถ้ารถมันดี มัน ถูก เดี่ยวก็มีคนซื้อเอง
2. เพื่ออุตสาหกรรมภายในสี่แสนคน ที่ทำตัวได้น่าสงสารมาก - ถูกต้องครับ กินของไทยใช้ของไทย เพราะผมคนไทย ยังไงก็ต้องช่วยชาติมาก่อนตัวเอง

3. สุดท้ายไม่ว่ายังไง ถ้า ของ ผลิตในชาติไทยไทยมันไม่ได้แย่ กาก แบบที่คุณพูด ผมก็เลือกของที่ทำในไทย
เพราะ ผมคือ ตนไทย นิยมไทย วะครับ

ผมคงไม่ต้องไล่คุณออกประเทศหรอกครับ
เพราะ สุดท้ายตัว คุณนั่นละ ที่น่า สงสาร ไม่สามารถ ที่จะอยู่ในประเทศนี้อย่างไม่มีความสุข
น่าสงสาร คุณจริงๆ ครับ


สุดท้าย ผมก็ไม่เห็น ว่าจะเป็นอะไร ที่จะมีรถ BEV  จากจีน มาโลดแล่น เพิ่มเติม
ประเทศ หากไม่ เน้น อุตสหกรรม ก็ ต้องไปหาอย่างอื่นทำ ก็ไม่มีเงินมาซื้อรถ เพราะ ขาดกลุ่ม คน 400000 คน ที่คุณบอก กำลังจะตกงาน
และ ระบบ Supplier Chain มันไม่ได้ กระทบ แค่ 400000 คนหรอกครับ
คุณยิ่งๆโพส
มันก็ บ่งบอก ความเป็น เด็กน้อย ไร้ความคิด คิดได้แคบบบบบ มากๆ

เชิญเก็บข้อความไว้ได้เลยคับ ผมแค่พูดแทงใจดำ แดกดันนิดๆหน่อยๆ พวกอวยอุตสาหกรรมภายในประเทศก้อรับความจริงกันไม่ได้เอง

"ผมว่าคุณเงิบไป ตั้งแต่ที่บอก Toyota จะล่มสลายแบบ Koduc ละครับ"
นี่นั่งตากแอร์ในรถ bev ฟังเพลงไปพลางๆรออยู่คับ ดูจากพฤติกรรมทำตัวช้าๆทั้งในเมืองนอกกับในไทยแล้ว forecast ไว้ล่วงหน้า แผลมันจะเลือดออกเห็นชัดในช่วงปลายยุค 2020s ต้นยุค 2030s ส่วนอุตสาหกรรมภายในของไทยหรอ ระดับความแย่ มันจะเละแย่ ยิ่งกว่า quartz crisis ที่พวกสวิสเจอในยุค 70s-80s ทั้งหมดเพราะพวกคุณทำตัวเองกันทั้งนั้นคับ

ส่วนรถ bev ลองซื้แมาคันนึงละคับ รอจัดเพิ่ม เล่นพวกคันใหญ่กว่า แรงกว่า ระยะทางมากกว่านี้ เช่น marvel x, e-motion, han

"สำหรับผม รถที่ผลิตบ้านเราประกอบ ดีกว่า จีนเยอะครับ"
มีรถsuv เล็กรุ่นนึงขายดีมาก เป็นแชมป์มานาน จนกระทั่งมีรถแนวเดียวกันของจีนมาตีตลาดกระจุย ปรากฏว่ารถแชมป์เก่า กันชนหน้า พุยึดกันชนทำไม่ดี มีช่องไฟเอียงลงมาเหมือน  เป็นกันทุกคัน แบบนี้ผมไม่ได้เรียกว่าประกอบดี วัสดุดีคับ ชุยมากกก ทำแบบขอไปที มันเป็นการประจานค่ายรถตัวเอง ขณะที่รถจีนแชมป์ปัจจุบัน ยกตัวอย่างตัว EV นำเข้ามา พุยึดกันชนใช้สครูน๊อตยึดอย่างเนียบ งานช่องไฟจึงเรียบร้อยเนียน เสียงปิดประตูหนึบๆเพราะมากเช่นเดียวกัน (อันนี้สื่อนอกก้อชมมา)

"สุดท้ายตัว คุณนั่นละ ที่น่า สงสาร ไม่สามารถ ที่จะอยู่ในประเทศนี้อย่างไม่มีความสุข น่าสงสาร คุณจริงๆ ครับ"
ทุกวันนี้ผม happy ดียิ่งกว่าเดิมเพราะผูบริโภคไทยมีตัวเลือกเพิ่มมากขึ้นด้วยการค้าเสรี ได้ใช้ของเทคโนโลยีใหม่ๆ ในราคาโอเค ส่วนอุตภายในก็ต้องดิ้นรน ขยันมากขึ้น เพราะสกิลมันไม่ได้พัฒนาเผื่อสะสมไว้ เจอการแข่งขันมากขึ้น ผู้บริโภคฟินออก

"คุณยิ่งๆโพสมันก็ บ่งบอก ความเป็น เด็กน้อย ไร้ความคิด คิดได้แคบบบบบ มากๆ"
ผมแค่พูดความจริงแบบแดกดัน ถากถางซึ่งพวกคุณรับกันไม่ได้เอง ช่วยไม่ได้  8)

สุดท้ายไม่มีใครห้ามไม่ให้คุณยืนหยัด ช่วยซื้อรถเทคโนเก่าๆ โละมาขาย โดนกั๊กสเปค แต่จะเหลือพวกชาตินิยมสุดๆแบบคุณอีกกี่คนที่ใจรักยอมโดนเอาเปรียบในยุคที่อีวีนำเข้ามันเป็นที่นิยมมากกว่าของเก่าๆผลิตในประเทศคับ?
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: kabokaboh ที่ มิถุนายน 28, 2020, 22:15:05
เทคโนโลยีเก่า เจอ เก่ากว่า

https://voicetv.co.th/read/-8BnD6iwI

ปล ไม่ต้องรีบตัดสินใจ รอดูยอด zs ev อีกสักพัก เด่วก็รู้ว่าทำไม เพื่อนไม่รีบปล่อยของ

ขนาดได้เปรียบอัตราภาษีเพื่อนมากหลายอยู่อ่ะนะ




หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ มิถุนายน 28, 2020, 22:35:45
ผมสังเกตเห็นตั้งแต่ FTA ACFTA เริ่มใช้แล้วไทยคิดภาษีนำเข้า 0% สำหรับรถ BEV ผลิตและนำเข้าจากจีน ในโลกออนไลน์มักมีพวกชาตินิยม (มั้ง) มาโอดครวนว่า ไม่ดีโน้นนี้ คนไทยไม่ได้ประโยชน์ไรเลย (หรอ) มัน_ัดจริตกันหรือเปล่าครับ ถ้าตั้งเป้าจ้องรถนำเข้า มองรวมๆ งั้นต้องโวยวายด้วยว่า คนไทยไม่ได้ประโยชน์จากนำเข้ารถประกอบมาจากมาเลย์ อินโด เวียดนาม ญป. บลาๆ แต่นี้เงียบทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น  ;D ถัดมามองเฉพาะBEV อย่างเดียว อย่าลืมไปต่อต้านรถอีวีที่จะนำเข้ามาจากอินโดด้วย  8)  พวกเราคิดยังไงกันบ้างคับ

คหสต. พูดแบบตรงๆไม่ต้องอ้อม ทำไมพวกผู้บริโภคแบบพวกผมต้องยอมทนใช้ของเทคโนเก่าๆโละมาขาย ประกอบห่วยๆ ในราคาหวดแบบแพงๆด้วยคับ เพื่ออุตสาหกรรมภายในสี่แสนคน ที่ทำตัวได้น่าสงสารมากๆ? ทุกคนอยากใช้ของดีมีคุณภาพทั้งนั้น ในเมื่ออุตสาหกรรมภายในมันไร้ความสามารถ ห่วย แข่งขันในยุคการค้าเสรีไม่ได้  :P :P ผู้บริโภคที่เค้าอยากขี่รถอีวี ก้อไปซื้อรถอีวีนำเข้าผลิตจากจีนแทน ตอนนี้แบรนด์จีนที่กำลังจะขนของไฮเทค สมรรถนะแรงๆ ในราคาฆ่ายุ่นไฮบริดตายเรียบเข้ามาเพิ่ม อีกไม่นานแบรนด์ฝรั่งด้วย ยังไม่พอกำลังจะมีแบรนด์เกาผลิตจากอินโดเข้ามาอีก

ผมมองว่า มุขชาตินิยมที่ใช้กันเกลื่อนๆมาตลอดเวลาในวงการนี้ มันแค่มุขเอาไว้ใช้เพื่อ ข้ออ้างเอาเปรียบ มัดมือชกผู้บริโภคไปวันๆ

ขอเก็บคำพูดเหยียดเชื้อชาติ คุณไว้ก่อนมาแก้ไขนะครับ
รู้ สึกว่า ผมไม่จำเป็นต้องตอบอะไรคุณเลย
เพราะ สุดท้าย รัฐบาลก็ต้อง ทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติ ทั้งระบบ ไม่ได้ทำหน้า ที่ ทำให้ แค่คนบางคนพอใจ
กฏหมาย ก็เอื้อ ประโยชน์ ให้ ทุกชนชาติเท่ากัน มีแค่ จีนได้ สิทธิพิเศษ นิดหน่อย

ผมว่าคุณเงิบไป ตั้งแต่ที่บอก Toyota จะล่มสลายแบบ Koduc ละครับ
อีกอย่าง
ผมว่า คุณโพสเรียกแขกซะแล้วละครับ

ว่าแล้วก็ขอตอบ ให้ตรงประเด็นหน่อย
1.พวกชาตินิยม (มั้ง) มาโอดครวนว่า ไม่ดีโน้นนี้ 
ตอบ =  คนที่โอดไม่ใช่ ชาตินิยมหรอกครับ  พวกเสียผลประโยชน์มากกว่า คนบ่น ก็ ทุกค่าย รถที่ไม่ได้ สิทธิประโยชน์นั่นละ คนไทยไม่มี รถเป็นของตัวเองอยู่แล้ว ทุกวันนี้ก็แค่รับจ้างผลิต สร้างงาน ตาม อุตสหกรรม
ส่วนผมไม่โวยวายครับ ดีออก ได้ ตัวเลือกเพิ่ม
2.ทำไมพวกผู้บริโภคแบบพวกผมต้องยอมทนใช้ของเทคโนเก่าๆโละมาขาย ประกอบห่วยๆ ในราคาหวดแบบแพงๆด้วยคับ เพื่ออุตสาหกรรมภายในสี่แสนคน ที่ทำตัวได้น่าสงสารมากๆ?
ตอบ : ไม่ต้องทนครับ  ก็ซื้อไป สิ MG และ ไม่มีใครห้ามครับ ถ้า MG ไม่ดีพอก็ ซื้อ Great Wall Motors ที่กำลังจะเปิดตัวนะ
ซื้อแล้ว ช่วย โพส บอก เพื่อนในนี้ ด้วยนะครับ
ว่าคุณได้ซื้อ รถ ที่เทคโนโลยี สูงส่ง ประกอบดีเยียม เหนือ กว่า รถ กากๆ ที่ผลิตในไทยแบบห่วยๆ นะ
1. สำหรับผม รถที่ผลิตบ้านเราประกอบ ดีกว่า จีนเยอะครับ ถ้ารถมันดี มัน ถูก เดี่ยวก็มีคนซื้อเอง
2. เพื่ออุตสาหกรรมภายในสี่แสนคน ที่ทำตัวได้น่าสงสารมาก - ถูกต้องครับ กินของไทยใช้ของไทย เพราะผมคนไทย ยังไงก็ต้องช่วยชาติมาก่อนตัวเอง

3. สุดท้ายไม่ว่ายังไง ถ้า ของ ผลิตในชาติไทยไทยมันไม่ได้แย่ กาก แบบที่คุณพูด ผมก็เลือกของที่ทำในไทย
เพราะ ผมคือ ตนไทย นิยมไทย วะครับ

ผมคงไม่ต้องไล่คุณออกประเทศหรอกครับ
เพราะ สุดท้ายตัว คุณนั่นละ ที่น่า สงสาร ไม่สามารถ ที่จะอยู่ในประเทศนี้อย่างไม่มีความสุข
น่าสงสาร คุณจริงๆ ครับ


สุดท้าย ผมก็ไม่เห็น ว่าจะเป็นอะไร ที่จะมีรถ BEV  จากจีน มาโลดแล่น เพิ่มเติม
ประเทศ หากไม่ เน้น อุตสหกรรม ก็ ต้องไปหาอย่างอื่นทำ ก็ไม่มีเงินมาซื้อรถ เพราะ ขาดกลุ่ม คน 400000 คน ที่คุณบอก กำลังจะตกงาน
และ ระบบ Supplier Chain มันไม่ได้ กระทบ แค่ 400000 คนหรอกครับ
คุณยิ่งๆโพส
มันก็ บ่งบอก ความเป็น เด็กน้อย ไร้ความคิด คิดได้แคบบบบบ มากๆ

เชิญเก็บข้อความไว้ได้เลยคับ ผมแค่พูดแทงใจดำ แดกดันนิดๆหน่อยๆ พวกอวยอุตสาหกรรมภายในประเทศก้อรับความจริงกันไม่ได้เอง

"ผมว่าคุณเงิบไป ตั้งแต่ที่บอก Toyota จะล่มสลายแบบ Koduc ละครับ"
นี่นั่งตากแอร์ในรถ bev ฟังเพลงไปพลางๆรออยู่คับ ดูจากพฤติกรรมทำตัวช้าๆทั้งในเมืองนอกกับในไทยแล้ว forecast ไว้ล่วงหน้า แผลมันจะเลือดออกเห็นชัดในช่วงปลายยุค 2020s ต้นยุค 2030s ส่วนอุตสาหกรรมภายในของไทยหรอ ระดับความแย่ มันจะเละแย่ ยิ่งกว่า quartz crisis ที่พวกสวิสเจอในยุค 70s-80s ทั้งหมดเพราะพวกคุณทำตัวเองกันทั้งนั้นคับ

ส่วนรถ bev ลองซื้แมาคันนึงละคับ รอจัดเพิ่ม เล่นพวกคันใหญ่กว่า แรงกว่า ระยะทางมากกว่านี้ เช่น marvel x, e-motion, han

"สำหรับผม รถที่ผลิตบ้านเราประกอบ ดีกว่า จีนเยอะครับ"
มีรถsuv เล็กรุ่นนึงขายดีมาก เป็นแชมป์มานาน จนกระทั่งมีรถแนวเดียวกันของจีนมาตีตลาดกระจุย ปรากฏว่ารถแชมป์เก่า กันชนหน้า พุยึดกันชนทำไม่ดี มีช่องไฟเอียงลงมาเหมือน  เป็นกันทุกคัน แบบนี้ผมไม่ได้เรียกว่าประกอบดี วัสดุดีคับ ชุยมากกก ทำแบบขอไปที มันเป็นการประจานค่ายรถตัวเอง ขณะที่รถจีนแชมป์ปัจจุบัน ยกตัวอย่างตัว EV นำเข้ามา พุยึดกันชนใช้สครูน๊อตยึดอย่างเนียบ งานช่องไฟจึงเรียบร้อยเนียน เสียงปิดประตูหนึบๆเพราะมากเช่นเดียวกัน (อันนี้สื่อนอกก้อชมมา)

"สุดท้ายตัว คุณนั่นละ ที่น่า สงสาร ไม่สามารถ ที่จะอยู่ในประเทศนี้อย่างไม่มีความสุข น่าสงสาร คุณจริงๆ ครับ"
ทุกวันนี้ผม happy ดียิ่งกว่าเดิมเพราะผูบริโภคไทยมีตัวเลือกเพิ่มมากขึ้นด้วยการค้าเสรี ได้ใช้ของเทคโนโลยีใหม่ๆ ในราคาโอเค ส่วนอุตภายในก็ต้องดิ้นรน ขยันมากขึ้น เพราะสกิลมันไม่ได้พัฒนาเผื่อสะสมไว้ เจอการแข่งขันมากขึ้น ผู้บริโภคฟินออก

"คุณยิ่งๆโพสมันก็ บ่งบอก ความเป็น เด็กน้อย ไร้ความคิด คิดได้แคบบบบบ มากๆ"
ผมแค่พูดความจริงแบบแดกดัน ถากถางซึ่งพวกคุณรับกันไม่ได้เอง ช่วยไม่ได้  8)

สุดท้ายไม่มีใครห้ามไม่ให้คุณยืนหยัด ช่วยซื้อรถเทคโนเก่าๆ โละมาขาย โดนกั๊กสเปค แต่จะเหลือพวกชาตินิยมสุดๆแบบคุณอีกกี่คนที่ใจรักยอมโดนเอาเปรียบในยุคที่อีวีนำเข้ามันเป็นที่นิยมมากกว่าของเก่าๆผลิตในประเทศคับ?

จ้างผมก็ไม่ซื้อ EV มาใช้ตอนนี้หรอกครับ ผมไม่มีเวลามานั่งชาร์ทแบตเพื่อให้มันวันวิ่งได้ 200 กิโล แล้วออกตจว ไม่ได้
เพระาผมขับรถ ครั้งละ 600 + ต่อวัน บ่อยๆ ครับ ไอ้จะไปซื้อ BEV ที่วิ่งได้ 600 + ต่อวันก็ไม่มีปัญญษครับ
ดูยอดขายก็รู้ครับ  ค่ายรถเค้าทำรถให้คน ทั้งประเทศ ไม่ได้ทำรถให้ คนฉลาด รวย เก่งแบบคุณนี่ครับ
มีการทำนายด้วย 2020s ต้นยุค 2030s
คิดว่าค่ายรถเค้าไม่รู้รึไงครับ ก็บอกเองไม่ใช่เหรอ ปลายยุค 2030s
ถึง ตอนนั้น คิดว่า ค่ายรถเค้าไม่ปรับตัวรึไง
คิดว่าตัวเอง ฉลาดว่า ค่ายรถนยต์ หรือ รัฐบาลรึไง โถๆๆๆ เด็กน้อยเอย

เราก็เป็นแค่ มดตัวน้อยๆ ในประเทศ ที่ มีกลุ่มทุน บงการประเทศชาติแค่นั้นละ อย่าคิดมากมาย
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: MacH1 ที่ มิถุนายน 28, 2020, 22:45:47
ผมสังเกตเห็นตั้งแต่ FTA ACFTA เริ่มใช้แล้วไทยคิดภาษีนำเข้า 0% สำหรับรถ BEV ผลิตและนำเข้าจากจีน ในโลกออนไลน์มักมีพวกชาตินิยม (มั้ง) มาโอดครวนว่า ไม่ดีโน้นนี้ คนไทยไม่ได้ประโยชน์ไรเลย (หรอ) มัน_ัดจริตกันหรือเปล่าครับ ถ้าตั้งเป้าจ้องรถนำเข้า มองรวมๆ งั้นต้องโวยวายด้วยว่า คนไทยไม่ได้ประโยชน์จากนำเข้ารถประกอบมาจากมาเลย์ อินโด เวียดนาม ญป. บลาๆ แต่นี้เงียบทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น  ;D ถัดมามองเฉพาะBEV อย่างเดียว อย่าลืมไปต่อต้านรถอีวีที่จะนำเข้ามาจากอินโดด้วย  8)  พวกเราคิดยังไงกันบ้างคับ

คหสต. พูดแบบตรงๆไม่ต้องอ้อม ทำไมพวกผู้บริโภคแบบพวกผมต้องยอมทนใช้ของเทคโนเก่าๆโละมาขาย ประกอบห่วยๆ ในราคาหวดแบบแพงๆด้วยคับ เพื่ออุตสาหกรรมภายในสี่แสนคน ที่ทำตัวได้น่าสงสารมากๆ? ทุกคนอยากใช้ของดีมีคุณภาพทั้งนั้น ในเมื่ออุตสาหกรรมภายในมันไร้ความสามารถ ห่วย แข่งขันในยุคการค้าเสรีไม่ได้  :P :P ผู้บริโภคที่เค้าอยากขี่รถอีวี ก้อไปซื้อรถอีวีนำเข้าผลิตจากจีนแทน ตอนนี้แบรนด์จีนที่กำลังจะขนของไฮเทค สมรรถนะแรงๆ ในราคาฆ่ายุ่นไฮบริดตายเรียบเข้ามาเพิ่ม อีกไม่นานแบรนด์ฝรั่งด้วย ยังไม่พอกำลังจะมีแบรนด์เกาผลิตจากอินโดเข้ามาอีก

ผมมองว่า มุขชาตินิยมที่ใช้กันเกลื่อนๆมาตลอดเวลาในวงการนี้ มันแค่มุขเอาไว้ใช้เพื่อ ข้ออ้างเอาเปรียบ มัดมือชกผู้บริโภคไปวันๆ

ขอเก็บคำพูดเหยียดเชื้อชาติ คุณไว้ก่อนมาแก้ไขนะครับ
รู้ สึกว่า ผมไม่จำเป็นต้องตอบอะไรคุณเลย
เพราะ สุดท้าย รัฐบาลก็ต้อง ทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติ ทั้งระบบ ไม่ได้ทำหน้า ที่ ทำให้ แค่คนบางคนพอใจ
กฏหมาย ก็เอื้อ ประโยชน์ ให้ ทุกชนชาติเท่ากัน มีแค่ จีนได้ สิทธิพิเศษ นิดหน่อย

ผมว่าคุณเงิบไป ตั้งแต่ที่บอก Toyota จะล่มสลายแบบ Koduc ละครับ
อีกอย่าง
ผมว่า คุณโพสเรียกแขกซะแล้วละครับ

ว่าแล้วก็ขอตอบ ให้ตรงประเด็นหน่อย
1.พวกชาตินิยม (มั้ง) มาโอดครวนว่า ไม่ดีโน้นนี้ 
ตอบ =  คนที่โอดไม่ใช่ ชาตินิยมหรอกครับ  พวกเสียผลประโยชน์มากกว่า คนบ่น ก็ ทุกค่าย รถที่ไม่ได้ สิทธิประโยชน์นั่นละ คนไทยไม่มี รถเป็นของตัวเองอยู่แล้ว ทุกวันนี้ก็แค่รับจ้างผลิต สร้างงาน ตาม อุตสหกรรม
ส่วนผมไม่โวยวายครับ ดีออก ได้ ตัวเลือกเพิ่ม
2.ทำไมพวกผู้บริโภคแบบพวกผมต้องยอมทนใช้ของเทคโนเก่าๆโละมาขาย ประกอบห่วยๆ ในราคาหวดแบบแพงๆด้วยคับ เพื่ออุตสาหกรรมภายในสี่แสนคน ที่ทำตัวได้น่าสงสารมากๆ?
ตอบ : ไม่ต้องทนครับ  ก็ซื้อไป สิ MG และ ไม่มีใครห้ามครับ ถ้า MG ไม่ดีพอก็ ซื้อ Great Wall Motors ที่กำลังจะเปิดตัวนะ
ซื้อแล้ว ช่วย โพส บอก เพื่อนในนี้ ด้วยนะครับ
ว่าคุณได้ซื้อ รถ ที่เทคโนโลยี สูงส่ง ประกอบดีเยียม เหนือ กว่า รถ กากๆ ที่ผลิตในไทยแบบห่วยๆ นะ
1. สำหรับผม รถที่ผลิตบ้านเราประกอบ ดีกว่า จีนเยอะครับ ถ้ารถมันดี มัน ถูก เดี่ยวก็มีคนซื้อเอง
2. เพื่ออุตสาหกรรมภายในสี่แสนคน ที่ทำตัวได้น่าสงสารมาก - ถูกต้องครับ กินของไทยใช้ของไทย เพราะผมคนไทย ยังไงก็ต้องช่วยชาติมาก่อนตัวเอง

3. สุดท้ายไม่ว่ายังไง ถ้า ของ ผลิตในชาติไทยไทยมันไม่ได้แย่ กาก แบบที่คุณพูด ผมก็เลือกของที่ทำในไทย
เพราะ ผมคือ ตนไทย นิยมไทย วะครับ

ผมคงไม่ต้องไล่คุณออกประเทศหรอกครับ
เพราะ สุดท้ายตัว คุณนั่นละ ที่น่า สงสาร ไม่สามารถ ที่จะอยู่ในประเทศนี้อย่างไม่มีความสุข
น่าสงสาร คุณจริงๆ ครับ


สุดท้าย ผมก็ไม่เห็น ว่าจะเป็นอะไร ที่จะมีรถ BEV  จากจีน มาโลดแล่น เพิ่มเติม
ประเทศ หากไม่ เน้น อุตสหกรรม ก็ ต้องไปหาอย่างอื่นทำ ก็ไม่มีเงินมาซื้อรถ เพราะ ขาดกลุ่ม คน 400000 คน ที่คุณบอก กำลังจะตกงาน
และ ระบบ Supplier Chain มันไม่ได้ กระทบ แค่ 400000 คนหรอกครับ
คุณยิ่งๆโพส
มันก็ บ่งบอก ความเป็น เด็กน้อย ไร้ความคิด คิดได้แคบบบบบ มากๆ

เชิญเก็บข้อความไว้ได้เลยคับ ผมแค่พูดแทงใจดำ แดกดันนิดๆหน่อยๆ พวกอวยอุตสาหกรรมภายในประเทศก้อรับความจริงกันไม่ได้เอง

"ผมว่าคุณเงิบไป ตั้งแต่ที่บอก Toyota จะล่มสลายแบบ Koduc ละครับ"
นี่นั่งตากแอร์ในรถ bev ฟังเพลงไปพลางๆรออยู่คับ ดูจากพฤติกรรมทำตัวช้าๆทั้งในเมืองนอกกับในไทยแล้ว forecast ไว้ล่วงหน้า แผลมันจะเลือดออกเห็นชัดในช่วงปลายยุค 2020s ต้นยุค 2030s ส่วนอุตสาหกรรมภายในของไทยหรอ ระดับความแย่ มันจะเละแย่ ยิ่งกว่า quartz crisis ที่พวกสวิสเจอในยุค 70s-80s ทั้งหมดเพราะพวกคุณทำตัวเองกันทั้งนั้นคับ

ส่วนรถ bev ลองซื้แมาคันนึงละคับ รอจัดเพิ่ม เล่นพวกคันใหญ่กว่า แรงกว่า ระยะทางมากกว่านี้ เช่น marvel x, e-motion, han

"สำหรับผม รถที่ผลิตบ้านเราประกอบ ดีกว่า จีนเยอะครับ"
มีรถsuv เล็กรุ่นนึงขายดีมาก เป็นแชมป์มานาน จนกระทั่งมีรถแนวเดียวกันของจีนมาตีตลาดกระจุย ปรากฏว่ารถแชมป์เก่า กันชนหน้า พุยึดกันชนทำไม่ดี มีช่องไฟเอียงลงมาเหมือน  เป็นกันทุกคัน แบบนี้ผมไม่ได้เรียกว่าประกอบดี วัสดุดีคับ ชุยมากกก ทำแบบขอไปที มันเป็นการประจานค่ายรถตัวเอง ขณะที่รถจีนแชมป์ปัจจุบัน ยกตัวอย่างตัว EV นำเข้ามา พุยึดกันชนใช้สครูน๊อตยึดอย่างเนียบ งานช่องไฟจึงเรียบร้อยเนียน เสียงปิดประตูหนึบๆเพราะมากเช่นเดียวกัน (อันนี้สื่อนอกก้อชมมา)

"สุดท้ายตัว คุณนั่นละ ที่น่า สงสาร ไม่สามารถ ที่จะอยู่ในประเทศนี้อย่างไม่มีความสุข น่าสงสาร คุณจริงๆ ครับ"
ทุกวันนี้ผม happy ดียิ่งกว่าเดิมเพราะผูบริโภคไทยมีตัวเลือกเพิ่มมากขึ้นด้วยการค้าเสรี ได้ใช้ของเทคโนโลยีใหม่ๆ ในราคาโอเค ส่วนอุตภายในก็ต้องดิ้นรน ขยันมากขึ้น เพราะสกิลมันไม่ได้พัฒนาเผื่อสะสมไว้ เจอการแข่งขันมากขึ้น ผู้บริโภคฟินออก

"คุณยิ่งๆโพสมันก็ บ่งบอก ความเป็น เด็กน้อย ไร้ความคิด คิดได้แคบบบบบ มากๆ"
ผมแค่พูดความจริงแบบแดกดัน ถากถางซึ่งพวกคุณรับกันไม่ได้เอง ช่วยไม่ได้  8)

สุดท้ายไม่มีใครห้ามไม่ให้คุณยืนหยัด ช่วยซื้อรถเทคโนเก่าๆ โละมาขาย โดนกั๊กสเปค แต่จะเหลือพวกชาตินิยมสุดๆแบบคุณอีกกี่คนที่ใจรักยอมโดนเอาเปรียบในยุคที่อีวีนำเข้ามันเป็นที่นิยมมากกว่าของเก่าๆผลิตในประเทศคับ?

จ้างผมก็ไม่ซื้อ EV มาใช้ตอนนี้หรอกครับ ผมไม่มีเวลามานั่งชาร์ทแบตเพื่อให้มันวันวิ่งได้ 200 กิโล แล้วออกตจว ไม่ได้
เพระาผมขับรถ ครั้งละ 600 + ต่อวัน บ่อยๆ ครับ ไอ้จะไปซื้อ BEV ที่วิ่งได้ 600 + ต่อวันก็ไม่มีปัญญษครับ
ดูยอดขายก็รู้ครับ  ค่ายรถเค้าทำรถให้คน ทั้งประเทศ ไม่ได้ทำรถให้ คนฉลาด รวย เก่งแบบคุณนี่ครับ
มีการทำนายด้วย 2020s ต้นยุค 2030s
คิดว่าค่ายรถเค้าไม่รู้รึไงครับ ก็บอกเองไม่ใช่เหรอ ปลายยุค 2030s
ถึง ตอนนั้น คิดว่า ค่ายรถเค้าไม่ปรับตัวรึไง
คิดว่าตัวเอง ฉลาดว่า ค่ายรถนยต์ หรือ รัฐบาลรึไง โถๆๆๆ เด็กน้อยเอย

ในมุมมองผู้บริโภค ก็คิดวิเคราะห์ไปเรื่อย ยังดีกว่าบางคนอวยหัวทิ่ม เชื่อที่ค่ายรถเค้าพูดหมดทั้งๆที่ค่ายรถมันพยายามตะลอมเพื่อเอาเปรียบงัยคับ LoL

เคสตัวอย่างก็มีเห็นๆกันตรึมในไทย ทั้งเจ้าตลาดจอมกั๊ก และค่ายรองตลาดวายที่อ้างตัวเป็นเซียนอีวีแต่เทคโนโลยีด้อยกว่าชาวบ้านเช่นไร้ cooling และโลภมากอยากได้ margin เป็นล้านบาท

ส่วนรัฐบวมหรอคับ.... ยังมโนหลอกตัวเองไปวันๆอยู่เลยมั้งว่าเป็นฮับ (ของรถพ่นควัน และขยับไปทำของไฮเทคไม่ได้) คุณเชื่อโคสะนาชวนเชื่อ โบว์ชัวร์ส่งเสริมลงทุนด้วยหรอ  ::) ::)
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: Odd_yim ที่ มิถุนายน 29, 2020, 00:55:29
เห็นด้วยนะครับกับการส่งเสริมให้มีการใช้รถ EV ซึ่งมีการจัดการมลพิษได้ดีกว่ารถสันดาปมาก ๆ แต่สิ่งที่รัฐควรทำคือ การควบคุมคุณภาพให้ได้ตามมาตรฐาน และป้องกันการทุ่มตลาด ยกตัวอย่างเช่น อุตสาหกรรมเหล็ก ที่ตอนนี้แทบจะเอาตัวไม่รอดกันหมด ผมเคยเจอโรงงานรีดเหล็กที่ทั้งเดือน เดินเครื่องผลิตอยู่ 1 อาทิตย์ เพราะขายได้แต่เกรดพรีเมี่ยม ลดต้นทุนกันสุด ๆ ขนาดใช้น้ำมันไพโรไลซิสจากยางรถยนต์ ก็ยังแค่พออยู่ได้ ผมเชื่อว่ายังไงอุตสาหกรรมรถยนต์ของไทยก็ต้องปรับตัว แต่ถ้าทั้งอุตสาหกรรมไปไม่รอดจริง ปัญหาเรื่องการว่างงานน่าจะมีตลาดอื่นพอรองรับได้ แต่รายได้จากภาษี VAT ตัังแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ จะหายไปเยอะมาก อันนี้ต้องประเมินให้ดี ๆ อีกอย่างคือ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานมารองรับ เช่น สถานีชาร์จ การคิดค่าไฟฟ้าประเภทรถ EV ที่อาจจะมีอัตราพิเศษก็ได้ สุดท้าย ผมก็ยังอยากเห็น รถยนต์ที่เป็นสัญชาติไทยแท้  ๆ สักยี่ห้อ ส่วนผมจะอุดหนุน หรือเปล่าก็ขึ้นอยู่กับตัวเลือกและการใช้งาน ณ ตอนนั้นครับ
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ มิถุนายน 29, 2020, 07:49:35

ยังไง​  โดยรวมผมก้เห้นด้วยกับ
จขกท  นั่นละครับ​ ถึงจะไม่ชอบวิธีการ

ถ้ารถมันจะขายตัวมันเองได้ก้เสรีไปจริงๆนั่นละ
แล้วก้มาเก้บภาษีการใช้รถ​ ให่โหดๆ
เลิกอุ้ม​ แค่นานทุน

เพราะจริงๆ​ ผมก้ทำงานในกลุ่มผลิตรถยนต์นี้
แต่มองดูจริงที่​ นายจ้างทำกับเรา
เราก้แค่​ ทาสทางการเงินอยู่ดี

แต่อย่าลืมนะ
ทาสกลุ่มนี้ละ​ ที่ก้เป้นส่วนในกำลังซื้อ
และน่าจะเยอะกว่า​ 400000  คน
หากไล่เช้ค​  ความต่อเนื่องตั้งแต่
ระดับโรงงานไปจนระดับแม่บ้านจนถึงคนสวนรวมไปถึงคนขายทิชชู่ให้  ​ น่าจะเกี่ยวข้องหลายล้านเลยละ
ซึ่งสุดท้าย​ รัฐบาลก้ต้องดูแลคนทั่งประเทศ
เหมือนอุ้มการบินไทยนัานละ

แต่ก็อย่าลืมนะ
รัฐบาลไทย เรียก เค้ามาลงทุน เค้าลงทุนกันระดับแสนล้าน นะครับ มาอีกวันจะบอก เอาตัวรอดเองเหรอ ตลกดีนะ
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: O_o" ที่ มิถุนายน 29, 2020, 10:58:56
เหมือนอยู่ในวงวน ดีทรอยต์แห่งเอเชีย
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: kiwiwi ที่ มิถุนายน 29, 2020, 11:07:19
ในบทความมี 2 ประเด็น ซึ่งไม่เกี่ยวกันเลย

1.เอารถไฟฟ้ามา 0%
2.ทำรถห่วยและทำรถดี

ถ้าเอามาปนกันเมื่อไหร่ มันจะเละครับ
จับประเด็นไม่ถูก ดราม่าก็เกิด

ถ้าเล่นประเด็นที่2 อย่างเดียว สมมติคันนึงประกอบเนี้ยบ แต่ 0บรืการไม่เวิร์ค กับอีกคันประกอบไม่เนี๊ยบ แต่ใช้แลเวสบายใจ ผมขอเลือกคันที่ใช้แล้วสบายใจครับ รถคันนึงมันอยู่กับเราแค่ 5-7 ปีเท่านั้นแหละ

แต่มันก็ไม่เกียวกับประเด็นรถไฟฟ้าตรงไหนเลยนี่ครับ
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: blitzpao ที่ มิถุนายน 29, 2020, 11:16:44
เป็นกระทู้ที่อ่านสนุกไม่นับเรื่องการเถียงแบบไม่เกี่ยวกับเรื่อง EV

ผมมองว่ายังงี้ครับผู้บริโภคไทยไม่เคยพร้อมเอาจริงทุกสิ่งประดิษฐ์ที่เกิดขึ้นมันไม่เคยพร้อมมันมีคนพร้อมที่จะยึดติดแบบเดิมอยู่แล้ว รถ EV ในไทยก็เช่นกัน ที่บอกว่าสถานีชาร์ทไม่พร้อมอันนี้ผมว่าเค้ามองในแบบสุดโต่งเกินไปคนขับรถในไทยไม่นับรถกระบะ ส่วนใหญ่ขับวันนึงไม่เกิน 100 กิโลหรอกครับ เว้นแต่จะไปเที่ยวซึ่งเป็นส่วนน้อยนะผมว่ารถ EV ปัจจุบันสามารถขับไปกลับเขาใหญ่ได้พัทยาก็ได้  คือถ้าเมกามันขับได้คุณก็ขับได้อ่ะครับเพราะคนที่นู่ใช้รถกันไกล

แล้วอีกอย่างเรื่องจุดชาร์ทที่หลายคนกลัวในไทยวางจุดชาร์ทได้ งง มากแทนที่จะไปวางระหว่างทางไปต่างจังหวัดพี่เล่นไปวางในกรุงเทพชุมชน คืออะไร การไฟฟ้าเนี่ยตัวดีเลย เอาไปวางตรงฝั่งธนใน 7-11 เพื่ออะไรอันนี้มันชาร์ทในบ้านได้อยู่แล้ว แทนที่จะไปวางระหว่างทางเขาใหญ่อะไรก็ว่าไป

เรื่องอุ้มอุตสาหกรรมในประเทศอันนี้ต้องมองภาพใหญ่แล้วครับ ทุกคนรู้แน่ว่ามันกระทบถึงถ้าไม่เปิดให้เข้ามาไทย แต่สุดท้ายแล้วความต้องการรถ ICE ลดลงพวก Supplier ในไทยก็อยู่ไม่ได้กันอยู่แล้วเพราะฉะนั้นคุณต้องเปลี่ยนธุรกิจหรือหาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆครับ นี้ยังไม่นับเรื่องสังคมไทยเข้าสู่สูงวัยแล้วแรงงานเราก็น้อยลงเรื่อยๆ พวก Robotic ในการประกอบรถอีก เอาง่ายๆคืออุตสาหกรรมรถไทยมันใกล้ดับไปเองอ่ะครับ รถEV คงใช้เวลาอย่างน้อย 20 ปี ส่วนแบ่งการตลาดถึงจะได้ 50% ทั้วโลก
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ มิถุนายน 29, 2020, 11:28:36

ตอบ หัวข้อ ข้างบน
ก็เพราะ  สาระ ตัว กระทู้ มันไม่ได้เกี่ยวกับ EV โดยตรงนะสิครับ
ถามว่า ทุกวันนี้ EV มีขายไหม ก็เยอะนะ ยอดก็ตามที่เห็น  คงต้องใช้เวลาอีกสักพัก

ตอนนี้ ก็ของเล่นคนรวย จริงๆนั่นละครับ เขาใหญ่ ก็ ที่พักคนรวย กทม
สรุป หลักก็ขาย กทม ให้ได้เยอะไปก่อน

ซึ่ง กลับมาที่ EV ภาพรวมตลาดโลก ก็คงไม่ต้องพูดเยอะ อีกนาน นานมากจริงๆ นั่นละ
เอาจริงๆ การที่ ต้องไปจอดชาร์ท ตามสถานี ก็เป้นไปได้ยากครับ เวลาเดินทางจริงๆ
ตปท แม้ อเมริกาเอง ก็ ไม่ค่อยจะมี ในวงกว้าง

ในเมื่อ ที่นี่คือ ประเทศไทย
ก็ต้องฟังเสียง คนส่วนใหญ่อยู่ดีครับ
เอาแต่ความคิดตนเองมาตัด สิน คนทั้งประเทศก็ไม่ถูกนะ
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: blitzpao ที่ มิถุนายน 29, 2020, 11:40:55

ตอบ หัวข้อ ข้างบน
ก็เพราะ  สาระ ตัว กระทู้ มันไม่ได้เกี่ยวกับ EV โดยตรงนะสิครับ
ถามว่า ทุกวันนี้ EV มีขายไหม ก็เยอะนะ ยอดก็ตามที่เห็น  คงต้องใช้เวลาอีกสักพัก

ตอนนี้ ก็ของเล่นคนรวย จริงๆนั่นละครับ เขาใหญ่ ก็ ที่พักคนรวย กทม
สรุป หลักก็ขาย กทม ให้ได้เยอะไปก่อน

ซึ่ง กลับมาที่ EV ภาพรวมตลาดโลก ก็คงไม่ต้องพูดเยอะ อีกนาน นานมากจริงๆ นั่นละ
เอาจริงๆ การที่ ต้องไปจอดชาร์ท ตามสถานี ก็เป้นไปได้ยากครับ เวลาเดินทางจริงๆ
ตปท แม้ อเมริกาเอง ก็ ไม่ค่อยจะมี ในวงกว้าง

ในเมื่อ ที่นี่คือ ประเทศไทย
ก็ต้องฟังเสียง คนส่วนใหญ่อยู่ดีครับ
เอาแต่ความคิดตนเองมาตัด สิน คนทั้งประเทศก็ไม่ถูกนะ

เทคโนโลยีเกือบทุกอย่างเริ่มจากตลาดบนน่าจะใช้เวลากว่าจะทำให้ถูกและก้าวข้ามข้อจำกัดแบตได้ ผมคิดว่ายังไงก็ต้องเริ่มกับคน กทม และรอบๆก่อน ส่วนภูมิภาคยังไงผมมองว่าพี่น้องเค้าก็ยังรักกระบะอยู่เหมือนเดิมและมันก็เหมาะกับถนน ตจว บางเส้นมากกว่าด้วยครับ


ส่วนเรื่องเสียงส่วนใหญ่ ถ้าให้โครงสร้างทุกอย่างเท่ากันยังไงคนก็เลือก EV ครับ ค่าบำรุงน้อยกว่า น้ำมันก็ไม่ต้องเติม ถ้าเวลาชาร์ทเหลือสัก30 นาทีก็โอเคแล้ว จริงๆแล้วรถพลังงานไฟฟ้าเค้าเน้นการชาร์ทถี่ๆประมาณวิ่งเหลือ 10% ชาร์ทถึง 70% เพราะมันสามารถชาร์ทได้เร็ว ส่วนเรื่องภาพรวมถ้ามองในมุมประเทศลงทุนในพลังงานสะอาดสัก 30% ของโครงสร้างพลังงาน เราจะสามารถลดการนำเข้าน้ำมันเยอะเลยนะครับ 
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ มิถุนายน 29, 2020, 12:56:41
รถไฟฟ้าบ้านเรา คงต้องรอนานหน่อย กว่าจะ mass ได้จริงๆ

นโยบายก็สำคับ เครื่องไม้เครื่องมือ ที่จะต้องออกมารองรับอีก ผมว่าเรื่องใหญ่พอสมควรครับ
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: MacH1 ที่ มิถุนายน 29, 2020, 13:25:50
ในบทความมี 2 ประเด็น ซึ่งไม่เกี่ยวกันเลย

1.เอารถไฟฟ้ามา 0%
2.ทำรถห่วยและทำรถดี

ถ้าเอามาปนกันเมื่อไหร่ มันจะเละครับ
จับประเด็นไม่ถูก ดราม่าก็เกิด

ถ้าเล่นประเด็นที่2 อย่างเดียว สมมติคันนึงประกอบเนี้ยบ แต่ 0บรืการไม่เวิร์ค กับอีกคันประกอบไม่เนี๊ยบ แต่ใช้แลเวสบายใจ ผมขอเลือกคันที่ใช้แล้วสบายใจครับ รถคันนึงมันอยู่กับเราแค่ 5-7 ปีเท่านั้นแหละ

แต่มันก็ไม่เกียวกับประเด็นรถไฟฟ้าตรงไหนเลยนี่ครับ

ถ้าเอามาปนกันก็ประมาณ....

ตลาด mass รถอีวีนำเข้าจากจีน เทียบกับรถน้ำมันหรือรถไฮบริดเทคโนโลยีเก่าๆที่ผลิตหรือประกอบในบ้านเรา แต่สมรรถนะและเทคโนโลยีที่ได้เหนือกว่ามาก แถมราคายังเท่าๆกันหรือถูกกว่า ตอนนี้เริ่มใน B-SUV ต่อไปจะเข้าไปกิน C-SUV (Marvel X/R, Tang EV600D, ES6) และ D-segment (Han EV, Xpeng P7) รวมถึงรถสปอร์ตกลุ่มเดียวกับ Miata, 86/BRZ  รถอีวีทนมาก ไม่มีความจุกจิกเลย ขับโคตรสนุก ประหยัดค่าเชื้อเพลิงอีก

ไทยอยากผลิตอีวีบ้าง แต่ขยับไปทำไม่ได้ แข่งต้นทุนไม่ได้ สกิลการผลิตระดับเซลแบตไม่มี แร่ธาตุไม่มี ตอนนี้นั่งประกอบโมดุลแบตนำเข้ามาจากนอกเป็นแพคแบต บวกกับสไตล์อยากได้ margin หนักๆ ลดต้นทุนเยอะๆ ราคาที่ตั้งสำหรับรถอีวี CKD ถ้ายังดื้อด้านจะประกอบในประเทศให้ได้เลยแพงกว่าของนำเข้ามาจากจีน รุ่นต่อรุ่น segment ต่อ segment ยังไม่พอ รถประกอบหรือผลิตในประเทศ ขายในตลาดในประเทศ งานประกอบยังไม่เนียบเนียนเหมือนของนำเข้า มีความความชุย ทำขอไปทีให้เห็นทั่วไป ตั้งแต่ยังไม่มีรถอีวีผลิตหรือประกอบในประเทศ
 
แล้วคุณคิดว่า ผู้บริโภคจะเลือกอะไรคับ  ถ้าตรรรกะชาตินิยมมันไม่บังตานะ
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ มิถุนายน 29, 2020, 14:05:37


เพื่อหลายคนงง Ivy Modernist  โพส วกไปวนมา มั่ว สับสนในตัวเอง
สรุปประเด่นให้คือ

1.ประเด็น รถสิทธิพิเศษ ทำลายกำแพงภาษ๊  BEV นำเข้าจากจีน (CBU) แต่ดันเอามาเทียบกับ  Hybrid  ผลิตในไทย หรือ E-Power  ซึ่ง มีราคาแตกต่างกัน

1-1.รถ EV ที่จะผลิตที่ไทย ขายให้คนไทย ในราคาทุนแล้วได้ยกเว้นภาษา สรรพสามิต  ต้อง ลงทุน ประกอบแบตในไทย สร้างงานให้คนไทย  ตอนนี้ยังไม่มีสักคันมั้ง มีแค่ Hybrid และ E-power  ซึ่ง มันก็เทียบกันไม่ได้ แต่ จขกท อยากเอามาเทียบ
1-2 .ยกเว้น รถ EV จาก จีน สามารถ เอามายกคัน ปลอดภาษี ปลอดการลงทุนเพิ่ม ขายราคา เกือบเท่าจีนได้เลย เอาที่เอื้มถึงได้ก็ MG ZS EV

2.ประเด็น รถนำเข้า BEV เทคโนโลยีสูงกว่า รถในประเทศที่มีอยู่ อ้าว เอา  BEV  Hybid และ E-power   ในไทย แล้วบอกว่า BEV จีน เหนือกว่า  Hybid และ E-power ในไทย ทุกอย่าง ทั้ง ราคา และ เทคโนโลยี และ คุณภาพ


3.ประเด็น งานประกอบ ไทย ห่วย ไม่มีคุณภาพ ทำแบบลดต้นทุน กาก
4.ประเด็น ต้นทุนไทย B-EV ยังไงก็แพงกว่าจีน ไม่มีปัญญา ทำราคา สู้จีนได้ เพราะไม่มีเทคโนโลยี
5.ประเด็น ชาตินิยม ใช้รถแต่ในประเทศ แม้มันจะแพงกว่า ( บอกคนที่ซื้อรถ E-power ,  Hybrid ในไทยตอนนี้ ว่าไม่ฉลาดซื้อ ประมาณนั้น )
6.ประเด็น รัฐบวม ที่ คิดแต่จะอุ้ม ค่ายรถ เดิมๆ ในไทย แบบไม่โงหัว



หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: a@s ที่ มิถุนายน 29, 2020, 14:31:40
ช่วยซื้อคันนี้ให้ญาติๆขับ ช่วยบริษัทในไทย ราคาตอนนี้ 5-6 แสน :)
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: Ty ESC ที่ มิถุนายน 29, 2020, 15:27:33
มาบอกว่า เห็นด้วยกับท่าน จขกท ครับ

เราอุตหนุน บิดเบือน กลไกลตลาด โดยคิดว่ามันจะดีต่อประเทศ

แต่กลับกลายเป็นการ อุ้มชู บ ข้ามชาติ และ กลุ่มทุนบางกลุ่ม ได้สิทธิปรธโยชน์

ที่สุดท้ายแล้ว ประเทศ และคนส่วนใหญ่


ได้ไม่คุ้มเสีย และ อ่อนแอ ในระยะยาว จนถึงตอนนี้เรามีปัญหาทางโครงสร้าง

สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ ภาคการผลิตอุตสาหกรรมรถยนต์ครับ

มีอีกหลายธุรกิจ หลายหน่วยหลายมิติ ที่มีการอ้าง XYZ  พยายาม A2Z โดยบอกว่าเพื่อประเทศ แต่ ผลประโยชน์ทั้งระยะสั้นระยะยาว มันไม่ใช่



ส่วนเรื่อง แนวทางความคิดการเขียนสำนวน ขออ่านแต่ประเด็นครับ
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: kabokaboh ที่ มิถุนายน 29, 2020, 15:31:22
ฆ่าช้างเอางา มองแต่มุมตัวเอง ก็แค่นั้น

คงลืมไปว่า บ้านเรา ไม่ได้มีแต่รถยนต์นั่ง ice

ถ้าตัดสินใจอุ้ม แต่  ev ที่ มี portion นิดเดียว

ปิคอัพ รถตู้ SUV ppv มอไซส์ ตายทั้งตลาด

เค้าก็คงต้องลุกมาขอ สิทธิภาษีบ้าง เอาไงดี เอา รถ ev ไปบรรทุกปุ๋ย ก็ไม่ได้อีก

มอไซส์ไฟฟ้าจีน ราคาถูกกว่า จักรยาน ทะลักเข้าไทย เต็มเพจ
จดทะเบียนได้ แต่ ไม่มีใครซื้อเท่าไหร่ ทำไมอ่ะ ทำไมนะทำไม

ส่วนคนที่จะซื้อ bev ก็ยังไม่พร้อม คนใช้ก็มีจำกัด คนที่เจ็บ กับ hb แถวแรก ยังมีอีกเยอะ

เอาเข้ามา ตอนนี้ ก็มีแต่จะเหงาอ่ะนะ

ปล เบื่อวาทกรรม เทคโนโลยี เก่าๆ อ่ะนะ

เปลี่ยนเป็นคำว่า ไร้ไอเสียจะดูดีเสียกว่า

เพราะ

รถไฟฟ้า Bev มันก็ไม่ได้ ซับซ้อนอะไร

ที่มันแพง แพงตรงแบต

ที่มันยังไปไหนไม่ไกล ไม่รุ่ง

ทั้งระยะทาง และ ยอดขาย

ก็ติดที่แบต นี่หล่ะ

ส่วนเรื่องรถจีน ก็รอดูอีกสักพัก ค่อยว่ากัน ว่าดีจริงหรือเปล่า

หรือ แค่ได้ในสิ่งที่จ่ายอ่ะนะ



หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: MacH1 ที่ มิถุนายน 29, 2020, 16:11:06
ฆ่าช้างเอางา มองแต่มุมตัวเอง ก็แค่นั้น

คงลืมไปว่า บ้านเรา ไม่ได้มีแต่รถยนต์นั่ง ice

ถ้าตัดสินใจอุ้ม แต่  ev ที่ มี portion นิดเดียว

ปิคอัพ รถตู้ SUV ppv มอไซส์ ตายทั้งตลาด

เค้าก็คงต้องลุกมาขอ สิทธิภาษีบ้าง เอาไงดี เอา รถ ev ไปบรรทุกปุ๋ย ก็ไม่ได้อีก

มอไซส์ไฟฟ้าจีน ราคาถูกกว่า จักรยาน ทะลักเข้าไทย เต็มเพจ
จดทะเบียนได้ แต่ ไม่มีใครซื้อเท่าไหร่ ทำไมอ่ะ ทำไมนะทำไม

ส่วนคนที่จะซื้อ bev ก็ยังไม่พร้อม คนใช้ก็มีจำกัด คนที่เจ็บ กับ hb แถวแรก ยังมีอีกเยอะ

เอาเข้ามา ตอนนี้ ก็มีแต่จะเหงาอ่ะนะ

ปล เบื่อวาทกรรม เทคโนโลยี เก่าๆ อ่ะนะ

เปลี่ยนเป็นคำว่า ไร้ไอเสียจะดูดีเสียกว่า

เพราะ

รถไฟฟ้า Bev มันก็ไม่ได้ ซับซ้อนอะไร

ที่มันแพง แพงตรงแบต

ที่มันยังไปไหนไม่ไกล ไม่รุ่ง

ทั้งระยะทาง และ ยอดขาย

ก็ติดที่แบต นี่หล่ะ

ส่วนเรื่องรถจีน ก็รอดูอีกสักพัก ค่อยว่ากัน ว่าดีจริงหรือเปล่า

หรือ แค่ได้ในสิ่งที่จ่ายอ่ะนะ

ผมยังไม่เห็นรัฐบวมมีท่าทีอุ้มอีวีนะ พูดอย่างทำอย่าง

มอไซด์ไฟฟ้าจีนเข้ามาทำตลาดนานแล้ว หน้าใหม่มาอยุ่ไม่นาน ล้มปิดธุรกิจกันไปเพราะไม่ได้ลงเรื่อง aftersale service เน้นขายอย่างเดียว แบตเป็น lead acid เสื่อมเร็ว พอลูกค้าซื้อไปถึงเวลาต้องเปลี่ยนแบตแล้ว ก็ไม่มีอะไหล่ให้เปลี่ยน สุดท้ายต้องทิ่งมอไซด์ไป ตอนนี้แบตเป็น litium กันส่วนใหญ่แล้ว รอดูฝีมือแบรนด์ swag ที่แบตถอดเปลี่ยนไปเหมือน gogoro ว่าเป็นยังไงกันบ้าง

เทคโนเก่าๆ ที่ผมหมายถึงคือพวก ไฮบริด มันเก่าจริง โละมาขายโดยค่ายรถเจ้าตลาดสุดที่เลิฟของพวกชาตินิยมหลายๆคน

มองเผินๆ รถอีวีมันไม่ได้ซับซ้อน แต่อุตในไทยมันไม่มีสกิลผลิตแบตไง วัตถุดิบยังไม่มีเลย นี่ยังกล้าอ้างตัวขายฝันจะเป็นฮับ

ระยะทางในวงการ mass เค้าเล็งกันที่ 500-600 กิโลกันแล้ว ราคาก็ประมาณ B-SUV ทั่วไป

"ส่วนเรื่องรถจีน ก็รอดูอีกสักพัก ค่อยว่ากัน ว่าดีจริงหรือเปล่า" ไม่ต้องห่วงคับ เดี่ยวมีมาให้เลือกทั้งแบรนด์จีนเอง และแบรนด์ฝรั่งที่เมินไทยแลนด์ฮับไปผลิตที่จีน  :P

"หรือ แค่ได้ในสิ่งที่จ่ายอ่ะนะ" ได้ลองขับหรือลองใช้ในชีวิตจิงยังคับ? จากประสบการณ์ใช้ มันก็ value for money จริง แม้แบต CATL อาจยังไม่ได้มีประสิทธิภาพเท่ากับแบตของพวก LG chem, SK, SDI แต่ผมก็มี active cooling ทั้งมอเตอร์ และชุดแบต  แถม obc ยังได้พอโอเคที่ 6.6 kw สำหรับ normal charge และ 75-80kw สำหรับ fast charge ถ้าผมจ่าย 1.5-2.0 ล้านแต่ได้ obc อย่างเต่าที่ 2-3 kw หัวชาร์จหาโคตรยาก fast charge ยังได้แค่ 50kw แถมไม่มีระบบ cooling เรียกว่าอะไรดีคับ 
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: +@ Krishna @+ ที่ มิถุนายน 29, 2020, 16:15:47
เข้ามาดูเริ่มสนุก แต่เกลียดคำๆนึง ;D ;D

https://www.youtube.com/watch?v=iTViXMaKlWo (https://www.youtube.com/watch?v=iTViXMaKlWo)

 ;D ;D ;D
+555  ;D ดันเข้าใจอีกอย่าง
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ มิถุนายน 29, 2020, 16:45:47
ผมยังไม่เห็นรัฐบวมมีท่าทีอุ้มอีวีนะ พูดอย่างทำอย่าง
มอไซด์ไฟฟ้าจีนเข้ามาทำตลาดนานแล้ว หน้าใหม่มาอยุ่ไม่นาน ล้มปิดธุรกิจกันไปเพราะไม่ได้ลงเรื่อง aftersale service เน้นขายอย่างเดียว แบตเป็น lead acid เสื่อมเร็ว พอลูกค้าซื้อไปถึงเวลาต้องเปลี่ยนแบตแล้ว ก็ไม่มีอะไหล่ให้เปลี่ยน สุดท้ายต้องทิ่งมอไซด์ไป ตอนนี้แบตเป็น litium กันส่วนใหญ่แล้ว รอดูฝีมือแบรนด์ swag ที่แบตถอดเปลี่ยนไปเหมือน gogoro ว่าเป็นยังไงกันบ้าง
เทคโนเก่าๆ ที่ผมหมายถึงคือพวก ไฮบริด มันเก่าจริง โละมาขายโดยค่ายรถเจ้าตลาดสุดที่เลิฟของพวกชาตินิยมหลายๆคน
มองเผินๆ รถอีวีมันไม่ได้ซับซ้อน แต่อุตในไทยมันไม่มีสกิลผลิตแบตไง วัตถุดิบยังไม่มีเลย นี่ยังกล้าอ้างตัวขายฝันจะเป็นฮับ
ระยะทางในวงการ mass เค้าเล็งกันที่ 500-600 กิโลกันแล้ว ราคาก็ประมาณ B-SUV ทั่วไป
"ส่วนเรื่องรถจีน ก็รอดูอีกสักพัก ค่อยว่ากัน ว่าดีจริงหรือเปล่า" ไม่ต้องห่วงคับ เดี่ยวมีมาให้เลือกทั้งแบรนด์จีนเอง และแบรนด์ฝรั่งที่เมินไทยแลนด์ฮับไปผลิตที่จีน  :P
"หรือ แค่ได้ในสิ่งที่จ่ายอ่ะนะ" ได้ลองขับหรือลองใช้ในชีวิตจิงยังคับ? จากประสบการณ์ใช้ มันก็ value for money จริง แม้แบต CATL อาจยังไม่ได้มีประสิทธิภาพเท่ากับแบตของพวก LG chem, SK, SDI แต่ผมก็มี active cooling ทั้งมอเตอร์ และชุดแบต  แถม obc ยังได้พอโอเคที่ 6.6 kw สำหรับ normal charge และ 75-80kw สำหรับ fast charge ถ้าผมจ่าย 1.5-2.0 ล้านแต่ได้ obc อย่างเต่าที่ 2-3 kw หัวชาร์จหาโคตรยาก fast charge ยังได้แค่ 50kw แถมไม่มีระบบ cooling เรียกว่าอะไรดีคับ

ช่วยแนะนำผมที่ BEV จีน  ที่ fast charge 75-80kw  แล้วแท่น fast charge ที่รองรับ 75-80kw  นี่ บ้านเรามีที่ไหนบ้างครับ
ราคารถ นำเข้ามาเท่าไหร่ครับ ที่ fast charge 75-80kw
แล้ว ไอ้รถ BEV จีนที่เอามาขายแล้ว  ที่วิ่งได้ 500-600  ตอนนี้อยู่ไหน ครับ ?

เท่าที่คุณ พูดมา ผมก็ไม่แปลกใจหรอก หาก Spec ขนาดนี้ ยอดขายก็คงไม่เท่าไหร่



หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ มิถุนายน 29, 2020, 16:49:05

สุดท้ายไม่มีใครห้ามไม่ให้คุณยืนหยัด ช่วยซื้อรถเทคโนเก่าๆ โละมาขาย โดนกั๊กสเปค แต่จะเหลือพวกชาตินิยมสุดๆแบบคุณอีกกี่คนที่ใจรักยอมโดนเอาเปรียบในยุคที่อีวีนำเข้ามันเป็นที่นิยมมากกว่าของเก่าๆผลิตในประเทศคับ?

ผมอยากใช้อะไรมันก็เรื่องของผมครับ
เงินผม ความพอใจผม 
ไม่มีใครอยมโดนเอาเปรียบหรอกครับ
ต่อให้ ยกมาจากจีนเยอะ
ถ้ามันตอบโจทย์ ในภาพรวม ไม่ได้ ก็เท่านั้น
การซื้อ รถ ที่มันเหมาะ สมกับฐานะ และความพอใจ
มันเกี่ยวกับชาตินิยมตรงไหนเหรอ ?

ให้เดาคุณก็คงเป็น พวก ไม่เติม น้ำมัน  ปั้ม ปตท อีกรึเปล่าเนี่ย
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: MacH1 ที่ มิถุนายน 29, 2020, 16:56:10
ผมยังไม่เห็นรัฐบวมมีท่าทีอุ้มอีวีนะ พูดอย่างทำอย่าง
มอไซด์ไฟฟ้าจีนเข้ามาทำตลาดนานแล้ว หน้าใหม่มาอยุ่ไม่นาน ล้มปิดธุรกิจกันไปเพราะไม่ได้ลงเรื่อง aftersale service เน้นขายอย่างเดียว แบตเป็น lead acid เสื่อมเร็ว พอลูกค้าซื้อไปถึงเวลาต้องเปลี่ยนแบตแล้ว ก็ไม่มีอะไหล่ให้เปลี่ยน สุดท้ายต้องทิ่งมอไซด์ไป ตอนนี้แบตเป็น litium กันส่วนใหญ่แล้ว รอดูฝีมือแบรนด์ swag ที่แบตถอดเปลี่ยนไปเหมือน gogoro ว่าเป็นยังไงกันบ้าง
เทคโนเก่าๆ ที่ผมหมายถึงคือพวก ไฮบริด มันเก่าจริง โละมาขายโดยค่ายรถเจ้าตลาดสุดที่เลิฟของพวกชาตินิยมหลายๆคน
มองเผินๆ รถอีวีมันไม่ได้ซับซ้อน แต่อุตในไทยมันไม่มีสกิลผลิตแบตไง วัตถุดิบยังไม่มีเลย นี่ยังกล้าอ้างตัวขายฝันจะเป็นฮับ
ระยะทางในวงการ mass เค้าเล็งกันที่ 500-600 กิโลกันแล้ว ราคาก็ประมาณ B-SUV ทั่วไป
"ส่วนเรื่องรถจีน ก็รอดูอีกสักพัก ค่อยว่ากัน ว่าดีจริงหรือเปล่า" ไม่ต้องห่วงคับ เดี่ยวมีมาให้เลือกทั้งแบรนด์จีนเอง และแบรนด์ฝรั่งที่เมินไทยแลนด์ฮับไปผลิตที่จีน  :P
"หรือ แค่ได้ในสิ่งที่จ่ายอ่ะนะ" ได้ลองขับหรือลองใช้ในชีวิตจิงยังคับ? จากประสบการณ์ใช้ มันก็ value for money จริง แม้แบต CATL อาจยังไม่ได้มีประสิทธิภาพเท่ากับแบตของพวก LG chem, SK, SDI แต่ผมก็มี active cooling ทั้งมอเตอร์ และชุดแบต  แถม obc ยังได้พอโอเคที่ 6.6 kw สำหรับ normal charge และ 75-80kw สำหรับ fast charge ถ้าผมจ่าย 1.5-2.0 ล้านแต่ได้ obc อย่างเต่าที่ 2-3 kw หัวชาร์จหาโคตรยาก fast charge ยังได้แค่ 50kw แถมไม่มีระบบ cooling เรียกว่าอะไรดีคับ

ช่วยแนะนำผมที่ BEV จีน  ที่ fast charge 75-80kw  แล้วแท่น fast charge ที่รองรับ 75-80kw  นี่ บ้านเรามีที่ไหนบ้างครับ
ราคารถ นำเข้ามาเท่าไหร่ครับ ที่ fast charge 75-80kw
แล้ว ไอ้รถ BEV จีนที่เอามาขายแล้ว  ที่วิ่งได้ 500-600  ตอนนี้อยู่ไหน ครับ ?

เท่าที่คุณ พูดมา ผมก็ไม่แปลกใจหรอก หาก Spec ขนาดนี้ ยอดขายก็คงไม่เท่าไหร่

พี่เม้ง ZS รองรับ QCสูงสุดที่ 75-80 kw คับ Kona กับ Ioniq ก็ใกล้เคียงกัน

แท่น fast charge ในไทยนี้ capacity จริงๆไปเกิน 80kw แล้วนะ ผมไปมาหลายสถานีชาร์จ อย่างตู้ QC ของ EA ตามที่ชาร์จต่างๆ จิงๆปล่อยได้อย่างน้อย 120 kw แต่ตอนนี้detune ลงมาเหลือ 50kw 

รอดู facelift ของพี่เม้ง ZS EV น้ำหนักรถใกล้เคียงกับก่อน facelift  spec เหมือนกับ VW ID4 ที่เพิ่งเปิดตัวไปที่จีน 204 ม้า ระยะทาง 500 กิโล  ราคาขึ้นอีกหน่อยๆ

ส่วนพวกคันใหญ่กว่าอย่าง marvel X/R, Tang EV600d ระยะทางก็แตะ 600 หรือมากกว่านั่น แต่ความแรงไปไกลกว่าพี่เม้ง ZS อีกอย่างน้อยสองเท่า ราคามาไทยก็ไล่ๆกับ D-segment คุณคิดว่าเซกเมนต์นั่นที่หร่อแรอยู่แล้วจะเหลือหรอ
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: MacH1 ที่ มิถุนายน 29, 2020, 16:58:13

สุดท้ายไม่มีใครห้ามไม่ให้คุณยืนหยัด ช่วยซื้อรถเทคโนเก่าๆ โละมาขาย โดนกั๊กสเปค แต่จะเหลือพวกชาตินิยมสุดๆแบบคุณอีกกี่คนที่ใจรักยอมโดนเอาเปรียบในยุคที่อีวีนำเข้ามันเป็นที่นิยมมากกว่าของเก่าๆผลิตในประเทศคับ?

ผมอยากใช้อะไรมันก็เรื่องของผมครับ
เงินผม ความพอใจผม 
ไม่มีใครอยมโดนเอาเปรียบหรอกครับ
ต่อให้ ยกมาจากจีนเยอะ
ถ้ามันตอบโจทย์ ในภาพรวม ไม่ได้ ก็เท่านั้น
การซื้อ รถ ที่มันเหมาะ สมกับฐานะ และความพอใจ
มันเกี่ยวกับชาตินิยมตรงไหนเหรอ ?

ให้เดาคุณก็คงเป็น พวก ไม่เติม น้ำมัน  ปั้ม ปตท อีกรึเปล่าเนี่ย

ผมรอชาร์จ QC ที่ปั้ม PTT คับ
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: kabokaboh ที่ มิถุนายน 29, 2020, 17:09:21
ฆ่าช้างเอางา มองแต่มุมตัวเอง ก็แค่นั้น

คงลืมไปว่า บ้านเรา ไม่ได้มีแต่รถยนต์นั่ง ice

ถ้าตัดสินใจอุ้ม แต่  ev ที่ มี portion นิดเดียว

ปิคอัพ รถตู้ SUV ppv มอไซส์ ตายทั้งตลาด

เค้าก็คงต้องลุกมาขอ สิทธิภาษีบ้าง เอาไงดี เอา รถ ev ไปบรรทุกปุ๋ย ก็ไม่ได้อีก

มอไซส์ไฟฟ้าจีน ราคาถูกกว่า จักรยาน ทะลักเข้าไทย เต็มเพจ
จดทะเบียนได้ แต่ ไม่มีใครซื้อเท่าไหร่ ทำไมอ่ะ ทำไมนะทำไม

ส่วนคนที่จะซื้อ bev ก็ยังไม่พร้อม คนใช้ก็มีจำกัด คนที่เจ็บ กับ hb แถวแรก ยังมีอีกเยอะ

เอาเข้ามา ตอนนี้ ก็มีแต่จะเหงาอ่ะนะ

ปล เบื่อวาทกรรม เทคโนโลยี เก่าๆ อ่ะนะ

เปลี่ยนเป็นคำว่า ไร้ไอเสียจะดูดีเสียกว่า

เพราะ

รถไฟฟ้า Bev มันก็ไม่ได้ ซับซ้อนอะไร

ที่มันแพง แพงตรงแบต

ที่มันยังไปไหนไม่ไกล ไม่รุ่ง

ทั้งระยะทาง และ ยอดขาย

ก็ติดที่แบต นี่หล่ะ

ส่วนเรื่องรถจีน ก็รอดูอีกสักพัก ค่อยว่ากัน ว่าดีจริงหรือเปล่า

หรือ แค่ได้ในสิ่งที่จ่ายอ่ะนะ

ผมยังไม่เห็นรัฐบวมมีท่าทีอุ้มอีวีนะ พูดอย่างทำอย่าง

มอไซด์ไฟฟ้าจีนเข้ามาทำตลาดนานแล้ว หน้าใหม่มาอยุ่ไม่นาน ล้มปิดธุรกิจกันไปเพราะไม่ได้ลงเรื่อง aftersale service เน้นขายอย่างเดียว แบตเป็น lead acid เสื่อมเร็ว พอลูกค้าซื้อไปถึงเวลาต้องเปลี่ยนแบตแล้ว ก็ไม่มีอะไหล่ให้เปลี่ยน สุดท้ายต้องทิ่งมอไซด์ไป ตอนนี้แบตเป็น litium กันส่วนใหญ่แล้ว รอดูฝีมือแบรนด์ swag ที่แบตถอดเปลี่ยนไปเหมือน gogoro ว่าเป็นยังไงกันบ้าง

เทคโนเก่าๆ ที่ผมหมายถึงคือพวก ไฮบริด มันเก่าจริง โละมาขายโดยค่ายรถเจ้าตลาดสุดที่เลิฟของพวกชาตินิยมหลายๆคน

มองเผินๆ รถอีวีมันไม่ได้ซับซ้อน แต่อุตในไทยมันไม่มีสกิลผลิตแบตไง วัตถุดิบยังไม่มีเลย นี่ยังกล้าอ้างตัวขายฝันจะเป็นฮับ

ระยะทางในวงการ mass เค้าเล็งกันที่ 500-600 กิโลกันแล้ว ราคาก็ประมาณ B-SUV ทั่วไป

"ส่วนเรื่องรถจีน ก็รอดูอีกสักพัก ค่อยว่ากัน ว่าดีจริงหรือเปล่า" ไม่ต้องห่วงคับ เดี่ยวมีมาให้เลือกทั้งแบรนด์จีนเอง และแบรนด์ฝรั่งที่เมินไทยแลนด์ฮับไปผลิตที่จีน  :P

"หรือ แค่ได้ในสิ่งที่จ่ายอ่ะนะ" ได้ลองขับหรือลองใช้ในชีวิตจิงยังคับ? จากประสบการณ์ใช้ มันก็ value for money จริง แม้แบต CATL อาจยังไม่ได้มีประสิทธิภาพเท่ากับแบตของพวก LG chem, SK, SDI แต่ผมก็มี active cooling ทั้งมอเตอร์ และชุดแบต  แถม obc ยังได้พอโอเคที่ 6.6 kw สำหรับ normal charge และ 75-80kw สำหรับ fast charge ถ้าผมจ่าย 1.5-2.0 ล้านแต่ได้ obc อย่างเต่าที่ 2-3 kw หัวชาร์จหาโคตรยาก fast charge ยังได้แค่ 50kw แถมไม่มีระบบ cooling เรียกว่าอะไรดีคับ


ผมยังไม่เห็นรัฐบวมมีท่าทีอุ้มอีวีนะ พูดอย่างทำอย่าง,.......


เห็นชอบลดภาษีรถไฟฟ้าเหลือ 0% เวลา 3 ปี คาดสูญรายได้ 1.5 พันล้าน


https://voicetv.co.th/read/kwHU-mH12

เค้าก็มีมาตรการ มาเรื่อยๆ ตั้งแต่ต้องการลดฝุ่น

มอไซด์ไฟฟ้าจีนเข้ามาทำตลาดนานแล้ว หน้าใหม่มาอยุ่ไม่นาน ล้มปิดธุรกิจกันไปเพราะไม่ได้ลงเรื่อง aftersale service.......

เพราะ ถ้าใช้ของดีมาก ราคาก็จะโดด ขายไม่ได้

ถ้าบริการดีมาก ก็จะแพง สุดท้าย ตายอยู่ดี

ที่สำคัญคือ มันไม่ตอบโจทย์คนไทย ขาแว้นส่วนมาก รถใช้งาน มามัวชาา์ทแบต มันยังไม่ใช่ อย่างน้อย ก็ชั่งโมงนี้

คงไม่ต่างจาก bev ชั่วโมงนี้ มันไม่ใช่สำหรับ รถคันแรก มันไม่ใช่ รถสำหรับทุกคน มันไม่ใช่ สำหรับ สินค้า ที่ถูกจัดว่าอยู่ในกลุ่มฟุ่มเฟือย



เทคโนเก่าๆ ที่ผมหมายถึงคือพวก ไฮบริด มันเก่าจริง โละมาขายโดยค่ายรถเจ้าตลาดสุดที่เลิฟของพวกชาตินิยมหลายๆคน,........

ถ้าตามวงการรถยนต์มาตั้งแต่ ปี 80-90

Hybrid ทำมาเพื่อ ทดแทนข้อเสีย ของรถไฟฟ้าล้วน ที่ระยะทางไปได้ไม่ไกล ความสะดวกในการ ชาร์ท และ แบตเตอรี่ ราคาแพง  และมีขนาดหนัก โดยการรวบรวมเอาข้อดี ของเครื่องยนต์ทั้งสองแบบ ไว้ด้วยกัน  (ไม่นับเรื่อง Atkinson's cycle)

ซึ่งถ้าจะทำแบบ เนียนๆ ทนๆ สำหรับผม มันทำยากกว่า Bev มากมายนัก ขนาด รถจาก เยอรมัน หลายค่าย ยังอ้วกแตก มาหลายรอบ ทุกวันนี้ยังไม่นิ่งเท่าไหร่ รถค่ายเมกา เริ่มมาพร้อมกัน ตายกลางทาง ซะงั้น

ส่วนจีน ขอเอาดีทาง Bev เพราะ อันตัวข้า ครองแหล่งลิเธียม ไว้เยอะ แถม ยังช่วยเงินแถมให้เวลาซื้อ Bev อีกด้วย พอลดเงิน ยอดก็ตก ลองไปหาดูละกัน

ระยะทางในวงการ mass เค้าเล็งกันที่ 500-600 กิโลกันแล้ว ราคาก็ประมาณ B-SUV ทั่วไป

ทำได้ก็ดีครับ อันนี้ สนับสนุน แต่ต้องรับผิดชอบเรื่องกำจัดแบตด้วยนะ เพราะ ใช้แบตเยอะมาก ทิ้งเป็นขยะ ไม่ได้

อย่ามาทำธุรกิจ ตีหัวเข้าบ้าน  ไม่ดีไม่เอา



ย้อนกลับไปเรื่องภาษี ตอนนี้ก็ได้เปรียบ เพื่อนเยอะอยู่

ถ้าเอาของดีมาขาย มีความทนทาน งานบริการดี ในราคาที่ไม่แพง เด๋วมันก็เกิดเองละครับ ผู้บริโภค เป็นตนตัดสิน

รอดู mg อีกสักนิด ยังไม่สาย ราคาพอๆกับรถน้ำมันขนาดเดียวกัน สินค้า ก็ไม่น่าจะไก่กา (ไม่นับสปริงหัก)

 ถ้าไปได้ดี เด่วรุ่นอื่น ตามมาเอง

รัฐบาล ก็ควรจะพิจารณา ปรับเปลี่ยนอะไรก็ว่าไป ตามพฤติกรรม ผู้บริโภค

แต่ถ้าไม่รุ่ง เอาไงดีหว่า

เสร็จงานฆ่าโคถึก ไปซะและ
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ มิถุนายน 29, 2020, 17:29:45
ผมรอชาร์จ QC ที่ปั้ม PTT คับ

ตามสบายครับ ถ้าผมต้องจอด ชาร์จ QC  ที่ PTT คือผมไม่มีวัน ซื้อรถ BEV ครับ
ยอมขับ Eco car หรือ HB / PHEV ที่ จอดแวะ เยี่ยว กินกาแฟ เติมน้ำมัน ไม่เกิน 10 นาที พอ
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: deertesla ที่ มิถุนายน 29, 2020, 19:03:45
  จะเปิดให้นำเข้า 0%  จะเอื้อประโยชน์ให้เขาเพื่ออะไร      ทุกวันนี้รัฐบาลก็ส่งเสริมอยู่แล้ว แต่จะให้นำเข้าโดยใช้สิทธิ์ 0%  ส่วนใหญ่ไม่มีใครเอาด้วยหรอกมั้ง   มันต้องมีข้อแลกเปลี่ยนที่รัฐบาลเล็งเห็นแล้วได้ประโยชน์สูงสุด 

  ส่วน สมอและ สถาบันยานยนต์   มีวิศวกรที่ทรงคุณวุฒิหลายคน  ที่เป็นคนร่างระเบียบ กำหนดเสปก มาตรฐาน รวมถึงขนาดของรถ ความปลอดภัย  เพื่อเอามาสกัดกั้นรถที่ไร้คุณภาพ หรือคุณภาพที่ไม่เป็นไปตามกำหนด   ไม่ให้หลั่งไหลเข้ามาจนขาดมาตรฐาน  รวมถึงความปลอดภัยบนถนนในการใช้ถนนร่วมกัน       ไม่ใช่ให้รัฐบาลไปสร้างถนนเพิ่มเพื่อกำหนดเลนวิ่งให้รถไฟฟ้าจากประเทศใดประเทศนึง     คือมันต้องคิดส่วนรวมมาก่อนไม่ใช่คิดถึงคนกลุ่มนึงที่อยากได้           

     ส่วนสถานีชาร์จไฟฟ้า  ผมยังเชื่อ  อ พัฒนเดช  อาสาสรรพกิจ กับคุณวรพล สิงห์เขียวพงษ์ ที่พูดไว้ในรายการ  ถ้าจะใช้รถไฟฟ้าก็ควรดูความพร้อมและพฤติกรรมการใช้รถของตนเอง ว่าสามารถชาร์จที่บ้านได้ไหม      เรื่องที่จะมีสถานีชาร์จไฟฟ้าตามสถานที่ต่าง  ๆ เลิกคิดได้  ทุกประเทศไม่มีใครลงทุนเรื่องแบบนี้  ทุกวันนี้ก็ไม่มีใครทำแบบนั้นต่อให้ปริมาณรถไฟฟ้ามันจะเพิ่มขึ้นก็ตาม     

    ในด้านภาคประชาชน  การไฟฟ้าให้ใช้ไฟฟ้าห  หน่วยล่ะ .... บาท   ถ้าเกิดปริมาณการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นค่าไฟฟ้าอนาคตจะมีการเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้รถไฟฟ้าไปทำงาน   ต้องรับภาระในส่วนนี้ด้วยหรือเปล่า     รัฐบาลจะช่วยเหลือคนที่ไม่ได้ซื้อรถไฟฟ้าใช้งานได้อย่างไร ให้จ่ายค่าไฟเท่าเดิมและเก็บภาษีเพิ่มเฉพาะคนที่ชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้าน
ใช่ครับ จะให้เหลือ 0%เพื่อให้คนบางกลุ่มซื้อรถราคาถูกและรุฐต้องมาเสียรายได้ในการนำมาบริหารประเทศมันก็ไม่ใช่เรื่อง แล้วรถยนต์ไฟฟ้าใช่ว่าจะไม่ทิ้งมลพิษ แต่มลพิษไปอยู่ที่โรงไฟฟ้าและการจัดารแบตเตอรรี่ที่หมดอายุซึ่งเป้นอันตราย รวมไปถึงค่าไฟที่แพงอยู่แล้วต้องมาแพงขึ้นอีก คนอะไรเห็นแก่ตัวชะมัด

ผมรอชาร์จ QC ที่ปั้ม PTT คับ

ตามสบายครับ ถ้าผมต้องจอด ชาร์จ QC  ที่ PTT คือผมไม่มีวัน ซื้อรถ BEV ครับ
ยอมขับ Eco car หรือ HB / PHEV ที่ จอดแวะ เยี่ยว กินกาแฟ เติมน้ำมัน ไม่เกิน 10 นาที พอ
ถึงแม้ผมมีเรื่องไม่เห็นด้วยกับพี่ในคราวก่อน แต่ครั้งนี้ผมสนับสนุนพี่เเรื่องที่พี่ตอบโต้นะ ในกรณีที่ตอบคนอะไรมองโลกแคบ มองอะไรเป็นเรื่องง่ายไปเสียหมด  แล่วอย่างพวกรถไฟฟ้าฟ้ามาเวลวิ่งได้500กมต่อการชาร์จ1ครั้งก็จริง แต่การใช้งานจริงหละเหลือเท่าไหร่รวมไปถึงการชาร์จแต่ละครั้งที่ใช้เวลานานแม้จะเป็น quick charge แต่ผู้ผลิตรถหลายค่ายก็ไม่แนะนำให้ชาร์จบ่อยๆ แล้วใครจะมามัวเสียเวลารอชาร์จได้บ่อยทุก00-300กม.กันหละครับ แถมที่ชาร์จตามทางหลวงยังไม่เยอะเท่าไรด้วย
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: MacH1 ที่ มิถุนายน 29, 2020, 20:00:58
  จะเปิดให้นำเข้า 0%  จะเอื้อประโยชน์ให้เขาเพื่ออะไร      ทุกวันนี้รัฐบาลก็ส่งเสริมอยู่แล้ว แต่จะให้นำเข้าโดยใช้สิทธิ์ 0%  ส่วนใหญ่ไม่มีใครเอาด้วยหรอกมั้ง   มันต้องมีข้อแลกเปลี่ยนที่รัฐบาลเล็งเห็นแล้วได้ประโยชน์สูงสุด 

  ส่วน สมอและ สถาบันยานยนต์   มีวิศวกรที่ทรงคุณวุฒิหลายคน  ที่เป็นคนร่างระเบียบ กำหนดเสปก มาตรฐาน รวมถึงขนาดของรถ ความปลอดภัย  เพื่อเอามาสกัดกั้นรถที่ไร้คุณภาพ หรือคุณภาพที่ไม่เป็นไปตามกำหนด   ไม่ให้หลั่งไหลเข้ามาจนขาดมาตรฐาน  รวมถึงความปลอดภัยบนถนนในการใช้ถนนร่วมกัน       ไม่ใช่ให้รัฐบาลไปสร้างถนนเพิ่มเพื่อกำหนดเลนวิ่งให้รถไฟฟ้าจากประเทศใดประเทศนึง     คือมันต้องคิดส่วนรวมมาก่อนไม่ใช่คิดถึงคนกลุ่มนึงที่อยากได้           

     ส่วนสถานีชาร์จไฟฟ้า  ผมยังเชื่อ  อ พัฒนเดช  อาสาสรรพกิจ กับคุณวรพล สิงห์เขียวพงษ์ ที่พูดไว้ในรายการ  ถ้าจะใช้รถไฟฟ้าก็ควรดูความพร้อมและพฤติกรรมการใช้รถของตนเอง ว่าสามารถชาร์จที่บ้านได้ไหม      เรื่องที่จะมีสถานีชาร์จไฟฟ้าตามสถานที่ต่าง  ๆ เลิกคิดได้  ทุกประเทศไม่มีใครลงทุนเรื่องแบบนี้  ทุกวันนี้ก็ไม่มีใครทำแบบนั้นต่อให้ปริมาณรถไฟฟ้ามันจะเพิ่มขึ้นก็ตาม     

    ในด้านภาคประชาชน  การไฟฟ้าให้ใช้ไฟฟ้าห  หน่วยล่ะ .... บาท   ถ้าเกิดปริมาณการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นค่าไฟฟ้าอนาคตจะมีการเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้รถไฟฟ้าไปทำงาน   ต้องรับภาระในส่วนนี้ด้วยหรือเปล่า     รัฐบาลจะช่วยเหลือคนที่ไม่ได้ซื้อรถไฟฟ้าใช้งานได้อย่างไร ให้จ่ายค่าไฟเท่าเดิมและเก็บภาษีเพิ่มเฉพาะคนที่ชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้าน
ใช่ครับ จะให้เหลือ 0%เพื่อให้คนบางกลุ่มซื้อรถราคาถูกและรุฐต้องมาเสียรายได้ในการนำมาบริหารประเทศมันก็ไม่ใช่เรื่อง แล้วรถยนต์ไฟฟ้าใช่ว่าจะไม่ทิ้งมลพิษ แต่มลพิษไปอยู่ที่โรงไฟฟ้าและการจัดารแบตเตอรรี่ที่หมดอายุซึ่งเป้นอันตราย รวมไปถึงค่าไฟที่แพงอยู่แล้วต้องมาแพงขึ้นอีก คนอะไรเห็นแก่ตัวชะมัด

ผมรอชาร์จ QC ที่ปั้ม PTT คับ

ตามสบายครับ ถ้าผมต้องจอด ชาร์จ QC  ที่ PTT คือผมไม่มีวัน ซื้อรถ BEV ครับ
ยอมขับ Eco car หรือ HB / PHEV ที่ จอดแวะ เยี่ยว กินกาแฟ เติมน้ำมัน ไม่เกิน 10 นาที พอ
ถึงแม้ผมมีเรื่องไม่เห็นด้วยกับพี่ในคราวก่อน แต่ครั้งนี้ผมสนับสนุนพี่เเรื่องที่พี่ตอบโต้นะ ในกรณีที่ตอบคนอะไรมองโลกแคบ มองอะไรเป็นเรื่องง่ายไปเสียหมด  แล่วอย่างพวกรถไฟฟ้าฟ้ามาเวลวิ่งได้500กมต่อการชาร์จ1ครั้งก็จริง แต่การใช้งานจริงหละเหลือเท่าไหร่รวมไปถึงการชาร์จแต่ละครั้งที่ใช้เวลานานแม้จะเป็น quick charge แต่ผู้ผลิตรถหลายค่ายก็ไม่แนะนำให้ชาร์จบ่อยๆ แล้วใครจะมามัวเสียเวลารอชาร์จได้บ่อยทุก00-300กม.กันหละครับ แถมที่ชาร์จตามทางหลวงยังไม่เยอะเท่าไรด้วย

เชิญไปโวยวายเรื่องภาษีนำเข้า 0% กันเองคับ ไปชูป้ายที่กระทรวงการคลัง, DTN เลย เค้าเซ็นกันไปตั้งแต่ปี 2004 โน้น อีวีมันอยู่ในหมวด others ของพิกัดรถยนต์ HS code เวอร์ชั่นสมัยโน้น ที่พวกคุณจะซวยกันก็พวกคุณมันไม่มีศักยภาพที่จะแข่งขันได้เอง อีกเรื่อง ตามข้อตกลง ไทยก็สามารถส่งออกรถอีวีไปขายที่จีนได้โดยไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าเหมือนกัล ก็แฟร์ดี ตามการค้าแบบเสรีซึ่งพวกชาตินิยมหัวทิ่มแบบพวกคุณรับกันไม่ได้เอง 

0% ก็ดีแล้วพวกที่เอาเปรียบ มัดมือชกมาตลอด มันได้เวลาขยัน ดิ้นรนกันซะที จากไม่เคยเห็นหัวผู้บริโภค แข่งขันสูงขึ้น ตลาดก็คึกคักดี สิ่งนี้พวกคุณคงไม่ชอบกัน เพราะจะอดผูกขาด หลบอยู่หลัง มุขเดิมๆข้ออ้างชาตินิยม ต้องปกป้องอุตเฒ่าทารก บลาๆ

ได้ตามข่าวเทรนด์เทคโนโลยีการชาร์จเร็วกันบ้างปะคับ เค้าไปกันถึงไหนแล้ว ได้มีประสบการณ์ไปชาร์จสักทียังคับ นี้คณยังมโนหลอกตัวเองอยู่ไปวันๆว่า ชาร์จช้า รอนานตลอดกาลและตลอดไป และไม่มีการขยาย network charging station เลย ออกจากกะลาที่พวกค่ายรถพ่นควันมันครอบคุณไว้ ไปดูข้อมูลวิเคราะห์ซะบ้าง 

อีกเรื่อง ผมรอมุขไล่ออกจากประเทศจากคุณอยู่นะ ดูแล้วอนาจมาก
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: deertesla ที่ มิถุนายน 29, 2020, 20:17:49
  จะเปิดให้นำเข้า 0%  จะเอื้อประโยชน์ให้เขาเพื่ออะไร      ทุกวันนี้รัฐบาลก็ส่งเสริมอยู่แล้ว แต่จะให้นำเข้าโดยใช้สิทธิ์ 0%  ส่วนใหญ่ไม่มีใครเอาด้วยหรอกมั้ง   มันต้องมีข้อแลกเปลี่ยนที่รัฐบาลเล็งเห็นแล้วได้ประโยชน์สูงสุด 

  ส่วน สมอและ สถาบันยานยนต์   มีวิศวกรที่ทรงคุณวุฒิหลายคน  ที่เป็นคนร่างระเบียบ กำหนดเสปก มาตรฐาน รวมถึงขนาดของรถ ความปลอดภัย  เพื่อเอามาสกัดกั้นรถที่ไร้คุณภาพ หรือคุณภาพที่ไม่เป็นไปตามกำหนด   ไม่ให้หลั่งไหลเข้ามาจนขาดมาตรฐาน  รวมถึงความปลอดภัยบนถนนในการใช้ถนนร่วมกัน       ไม่ใช่ให้รัฐบาลไปสร้างถนนเพิ่มเพื่อกำหนดเลนวิ่งให้รถไฟฟ้าจากประเทศใดประเทศนึง     คือมันต้องคิดส่วนรวมมาก่อนไม่ใช่คิดถึงคนกลุ่มนึงที่อยากได้           

     ส่วนสถานีชาร์จไฟฟ้า  ผมยังเชื่อ  อ พัฒนเดช  อาสาสรรพกิจ กับคุณวรพล สิงห์เขียวพงษ์ ที่พูดไว้ในรายการ  ถ้าจะใช้รถไฟฟ้าก็ควรดูความพร้อมและพฤติกรรมการใช้รถของตนเอง ว่าสามารถชาร์จที่บ้านได้ไหม      เรื่องที่จะมีสถานีชาร์จไฟฟ้าตามสถานที่ต่าง  ๆ เลิกคิดได้  ทุกประเทศไม่มีใครลงทุนเรื่องแบบนี้  ทุกวันนี้ก็ไม่มีใครทำแบบนั้นต่อให้ปริมาณรถไฟฟ้ามันจะเพิ่มขึ้นก็ตาม     

    ในด้านภาคประชาชน  การไฟฟ้าให้ใช้ไฟฟ้าห  หน่วยล่ะ .... บาท   ถ้าเกิดปริมาณการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นค่าไฟฟ้าอนาคตจะมีการเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้รถไฟฟ้าไปทำงาน   ต้องรับภาระในส่วนนี้ด้วยหรือเปล่า     รัฐบาลจะช่วยเหลือคนที่ไม่ได้ซื้อรถไฟฟ้าใช้งานได้อย่างไร ให้จ่ายค่าไฟเท่าเดิมและเก็บภาษีเพิ่มเฉพาะคนที่ชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้าน
ใช่ครับ จะให้เหลือ 0%เพื่อให้คนบางกลุ่มซื้อรถราคาถูกและรุฐต้องมาเสียรายได้ในการนำมาบริหารประเทศมันก็ไม่ใช่เรื่อง แล้วรถยนต์ไฟฟ้าใช่ว่าจะไม่ทิ้งมลพิษ แต่มลพิษไปอยู่ที่โรงไฟฟ้าและการจัดารแบตเตอรรี่ที่หมดอายุซึ่งเป้นอันตราย รวมไปถึงค่าไฟที่แพงอยู่แล้วต้องมาแพงขึ้นอีก คนอะไรเห็นแก่ตัวชะมัด

ผมรอชาร์จ QC ที่ปั้ม PTT คับ

ตามสบายครับ ถ้าผมต้องจอด ชาร์จ QC  ที่ PTT คือผมไม่มีวัน ซื้อรถ BEV ครับ
ยอมขับ Eco car หรือ HB / PHEV ที่ จอดแวะ เยี่ยว กินกาแฟ เติมน้ำมัน ไม่เกิน 10 นาที พอ
ถึงแม้ผมมีเรื่องไม่เห็นด้วยกับพี่ในคราวก่อน แต่ครั้งนี้ผมสนับสนุนพี่เเรื่องที่พี่ตอบโต้นะ ในกรณีที่ตอบคนอะไรมองโลกแคบ มองอะไรเป็นเรื่องง่ายไปเสียหมด  แล่วอย่างพวกรถไฟฟ้าฟ้ามาเวลวิ่งได้500กมต่อการชาร์จ1ครั้งก็จริง แต่การใช้งานจริงหละเหลือเท่าไหร่รวมไปถึงการชาร์จแต่ละครั้งที่ใช้เวลานานแม้จะเป็น quick charge แต่ผู้ผลิตรถหลายค่ายก็ไม่แนะนำให้ชาร์จบ่อยๆ แล้วใครจะมามัวเสียเวลารอชาร์จได้บ่อยทุก00-300กม.กันหละครับ แถมที่ชาร์จตามทางหลวงยังไม่เยอะเท่าไรด้วย

เชิญไปโวยวายเรื่องภาษีนำเข้า 0% กันเองคับ ไปชูป้ายที่กระทรวงการคลัง, DTN เลย เค้าเซ็นกันไปตั้งแต่ปี 2004 โน้น อีวีมันอยู่ในหมวด others ของพิกัดรถยนต์ HS code เวอร์ชั่นสมัยโน้น ที่พวกคุณจะซวยกันก็พวกคุณมันไม่มีศักยภาพที่จะแข่งขันได้เอง อีกเรื่อง ตามข้อตกลง ไทยก็สามารถส่งออกรถอีวีไปขายที่จีนได้โดยไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าเหมือนกัล ก็แฟร์ดี ตามการค้าแบบเสรีซึ่งพวกชาตินิยมหัวทิ่มแบบพวกคุณรับกันไม่ได้เอง 

0% ก็ดีแล้วพวกที่เอาเปรียบ มัดมือชกมาตลอด มันได้เวลาขยัน ดิ้นรนกันซะที จากไม่เคยเห็นหัวผู้บริโภค แข่งขันสูงขึ้น ตลาดก็คึกคักดี สิ่งนี้พวกคุณคงไม่ชอบกัน เพราะจะอดผูกขาด หลบอยู่หลัง มุขเดิมๆข้ออ้างชาตินิยม ต้องปกป้องอุตเฒ่าทารก บลาๆ

ได้ตามข่าวเทรนด์เทคโนโลยีการชาร์จเร็วกันบ้างปะคับ เค้าไปกันถึงไหนแล้ว ได้มีประสบการณ์ไปชาร์จสักทียังคับ นี้คณยังมโนหลอกตัวเองอยู่ไปวันๆว่า ชาร์จช้า รอนานตลอดกาลและตลอดไป และไม่มีการขยาย network charging station เลย ออกจากกะลาที่พวกค่ายรถพ่นควันมันครอบคุณไว้ ไปดูข้อมูลวิเคราะห์ซะบ้าง 

อีกเรื่อง ผมรอมุขไล่ออกจากประเทศจากคุณอยู่นะ ดูแล้วอนาจมาก
ใครกันแน่ที่อยู่กะลากัน  ชาร์จเร็วที่ว่านี่มันไม่ได้ส่งผลดีต่อแบตเลย ทำให้แบตเสื่อมเร็ว การที่อัดไฟสูงๆย่อมเกิดความร้อนที่แบตและสายไฟ เพราะโลหะยังมีค่าความต้านทานไฟฟ้าอยู่ อัดไฟเยอะขึ้นยิ่งเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ได้ง่าย แล้วเรื่องพ่นควันหนะ  รถไฟฟ้าคิดว่าไม่ปล่อยมลพิษสักแอะเลยหรอ  ไปดูที่แบตเตอรรี่ได้เลย  เวลาเค้ากำจัดแบตเตอรี่ การรีไซเคิลแบตเตอรี่และการหาแร่มาผลิตแบตเตอรี่ก็สร้างมลภาวะทั้งนั้น   ใครกันแน่กะลาครอบตัวคิดอะไรไม่เป็น บ้านรวยแต่เห็นแก่ตัวแบบนี้ ขนาดแค่คำว่าครับ ยังสะกดว่าแบบนี้ คงจะเป็นพวกพ่อแม่โอ๋เอาใจอย่างเดียวหละนะ
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: MacH1 ที่ มิถุนายน 29, 2020, 20:18:55
ฆ่าช้างเอางา มองแต่มุมตัวเอง ก็แค่นั้น

คงลืมไปว่า บ้านเรา ไม่ได้มีแต่รถยนต์นั่ง ice

ถ้าตัดสินใจอุ้ม แต่  ev ที่ มี portion นิดเดียว

ปิคอัพ รถตู้ SUV ppv มอไซส์ ตายทั้งตลาด

เค้าก็คงต้องลุกมาขอ สิทธิภาษีบ้าง เอาไงดี เอา รถ ev ไปบรรทุกปุ๋ย ก็ไม่ได้อีก

มอไซส์ไฟฟ้าจีน ราคาถูกกว่า จักรยาน ทะลักเข้าไทย เต็มเพจ
จดทะเบียนได้ แต่ ไม่มีใครซื้อเท่าไหร่ ทำไมอ่ะ ทำไมนะทำไม

ส่วนคนที่จะซื้อ bev ก็ยังไม่พร้อม คนใช้ก็มีจำกัด คนที่เจ็บ กับ hb แถวแรก ยังมีอีกเยอะ

เอาเข้ามา ตอนนี้ ก็มีแต่จะเหงาอ่ะนะ

ปล เบื่อวาทกรรม เทคโนโลยี เก่าๆ อ่ะนะ

เปลี่ยนเป็นคำว่า ไร้ไอเสียจะดูดีเสียกว่า

เพราะ

รถไฟฟ้า Bev มันก็ไม่ได้ ซับซ้อนอะไร

ที่มันแพง แพงตรงแบต

ที่มันยังไปไหนไม่ไกล ไม่รุ่ง

ทั้งระยะทาง และ ยอดขาย

ก็ติดที่แบต นี่หล่ะ

ส่วนเรื่องรถจีน ก็รอดูอีกสักพัก ค่อยว่ากัน ว่าดีจริงหรือเปล่า

หรือ แค่ได้ในสิ่งที่จ่ายอ่ะนะ

ผมยังไม่เห็นรัฐบวมมีท่าทีอุ้มอีวีนะ พูดอย่างทำอย่าง

มอไซด์ไฟฟ้าจีนเข้ามาทำตลาดนานแล้ว หน้าใหม่มาอยุ่ไม่นาน ล้มปิดธุรกิจกันไปเพราะไม่ได้ลงเรื่อง aftersale service เน้นขายอย่างเดียว แบตเป็น lead acid เสื่อมเร็ว พอลูกค้าซื้อไปถึงเวลาต้องเปลี่ยนแบตแล้ว ก็ไม่มีอะไหล่ให้เปลี่ยน สุดท้ายต้องทิ่งมอไซด์ไป ตอนนี้แบตเป็น litium กันส่วนใหญ่แล้ว รอดูฝีมือแบรนด์ swag ที่แบตถอดเปลี่ยนไปเหมือน gogoro ว่าเป็นยังไงกันบ้าง

เทคโนเก่าๆ ที่ผมหมายถึงคือพวก ไฮบริด มันเก่าจริง โละมาขายโดยค่ายรถเจ้าตลาดสุดที่เลิฟของพวกชาตินิยมหลายๆคน

มองเผินๆ รถอีวีมันไม่ได้ซับซ้อน แต่อุตในไทยมันไม่มีสกิลผลิตแบตไง วัตถุดิบยังไม่มีเลย นี่ยังกล้าอ้างตัวขายฝันจะเป็นฮับ

ระยะทางในวงการ mass เค้าเล็งกันที่ 500-600 กิโลกันแล้ว ราคาก็ประมาณ B-SUV ทั่วไป

"ส่วนเรื่องรถจีน ก็รอดูอีกสักพัก ค่อยว่ากัน ว่าดีจริงหรือเปล่า" ไม่ต้องห่วงคับ เดี่ยวมีมาให้เลือกทั้งแบรนด์จีนเอง และแบรนด์ฝรั่งที่เมินไทยแลนด์ฮับไปผลิตที่จีน  :P

"หรือ แค่ได้ในสิ่งที่จ่ายอ่ะนะ" ได้ลองขับหรือลองใช้ในชีวิตจิงยังคับ? จากประสบการณ์ใช้ มันก็ value for money จริง แม้แบต CATL อาจยังไม่ได้มีประสิทธิภาพเท่ากับแบตของพวก LG chem, SK, SDI แต่ผมก็มี active cooling ทั้งมอเตอร์ และชุดแบต  แถม obc ยังได้พอโอเคที่ 6.6 kw สำหรับ normal charge และ 75-80kw สำหรับ fast charge ถ้าผมจ่าย 1.5-2.0 ล้านแต่ได้ obc อย่างเต่าที่ 2-3 kw หัวชาร์จหาโคตรยาก fast charge ยังได้แค่ 50kw แถมไม่มีระบบ cooling เรียกว่าอะไรดีคับ


ผมยังไม่เห็นรัฐบวมมีท่าทีอุ้มอีวีนะ พูดอย่างทำอย่าง,.......


เห็นชอบลดภาษีรถไฟฟ้าเหลือ 0% เวลา 3 ปี คาดสูญรายได้ 1.5 พันล้าน


https://voicetv.co.th/read/kwHU-mH12

เค้าก็มีมาตรการ มาเรื่อยๆ ตั้งแต่ต้องการลดฝุ่น

มอไซด์ไฟฟ้าจีนเข้ามาทำตลาดนานแล้ว หน้าใหม่มาอยุ่ไม่นาน ล้มปิดธุรกิจกันไปเพราะไม่ได้ลงเรื่อง aftersale service.......

เพราะ ถ้าใช้ของดีมาก ราคาก็จะโดด ขายไม่ได้

ถ้าบริการดีมาก ก็จะแพง สุดท้าย ตายอยู่ดี

ที่สำคัญคือ มันไม่ตอบโจทย์คนไทย ขาแว้นส่วนมาก รถใช้งาน มามัวชาา์ทแบต มันยังไม่ใช่ อย่างน้อย ก็ชั่งโมงนี้

คงไม่ต่างจาก bev ชั่วโมงนี้ มันไม่ใช่สำหรับ รถคันแรก มันไม่ใช่ รถสำหรับทุกคน มันไม่ใช่ สำหรับ สินค้า ที่ถูกจัดว่าอยู่ในกลุ่มฟุ่มเฟือย



เทคโนเก่าๆ ที่ผมหมายถึงคือพวก ไฮบริด มันเก่าจริง โละมาขายโดยค่ายรถเจ้าตลาดสุดที่เลิฟของพวกชาตินิยมหลายๆคน,........

ถ้าตามวงการรถยนต์มาตั้งแต่ ปี 80-90

Hybrid ทำมาเพื่อ ทดแทนข้อเสีย ของรถไฟฟ้าล้วน ที่ระยะทางไปได้ไม่ไกล ความสะดวกในการ ชาร์ท และ แบตเตอรี่ ราคาแพง  และมีขนาดหนัก โดยการรวบรวมเอาข้อดี ของเครื่องยนต์ทั้งสองแบบ ไว้ด้วยกัน  (ไม่นับเรื่อง Atkinson's cycle)

ซึ่งถ้าจะทำแบบ เนียนๆ ทนๆ สำหรับผม มันทำยากกว่า Bev มากมายนัก ขนาด รถจาก เยอรมัน หลายค่าย ยังอ้วกแตก มาหลายรอบ ทุกวันนี้ยังไม่นิ่งเท่าไหร่ รถค่ายเมกา เริ่มมาพร้อมกัน ตายกลางทาง ซะงั้น

ส่วนจีน ขอเอาดีทาง Bev เพราะ อันตัวข้า ครองแหล่งลิเธียม ไว้เยอะ แถม ยังช่วยเงินแถมให้เวลาซื้อ Bev อีกด้วย พอลดเงิน ยอดก็ตก ลองไปหาดูละกัน

ระยะทางในวงการ mass เค้าเล็งกันที่ 500-600 กิโลกันแล้ว ราคาก็ประมาณ B-SUV ทั่วไป

ทำได้ก็ดีครับ อันนี้ สนับสนุน แต่ต้องรับผิดชอบเรื่องกำจัดแบตด้วยนะ เพราะ ใช้แบตเยอะมาก ทิ้งเป็นขยะ ไม่ได้

อย่ามาทำธุรกิจ ตีหัวเข้าบ้าน  ไม่ดีไม่เอา



ย้อนกลับไปเรื่องภาษี ตอนนี้ก็ได้เปรียบ เพื่อนเยอะอยู่

ถ้าเอาของดีมาขาย มีความทนทาน งานบริการดี ในราคาที่ไม่แพง เด๋วมันก็เกิดเองละครับ ผู้บริโภค เป็นตนตัดสิน

รอดู mg อีกสักนิด ยังไม่สาย ราคาพอๆกับรถน้ำมันขนาดเดียวกัน สินค้า ก็ไม่น่าจะไก่กา (ไม่นับสปริงหัก)

 ถ้าไปได้ดี เด่วรุ่นอื่น ตามมาเอง

รัฐบาล ก็ควรจะพิจารณา ปรับเปลี่ยนอะไรก็ว่าไป ตามพฤติกรรม ผู้บริโภค

แต่ถ้าไม่รุ่ง เอาไงดีหว่า

เสร็จงานฆ่าโคถึก ไปซะและ

รัฐบวมนี้นโยบายขัดๆกันเพี้ยนๆ ลองไปค้นๆข้อมูลดูนะคับ ตัวอย่างทีเด็ดมีทั้ง ภาษีสรรพสามิตโหดๆสำหรับแบตเตอรี่ และสูตรคำนวณโควต้านำเข้าอีวี ไม่ต้องเสียภาษีของบีโอไอ และ Freezone scheme ที่โหดสุดๆทำเอา local content value แทบจะเกือบ 100% ข้อมูล official หาได้จากเว็บรัฐง่ายๆ นโยบายพิสดารพวกนี้สื่อถึงความพยายามหลอกตัวเองว่าข้านี้เป็นฮับของรถพ่นควันได้อย่างดี

สำหรับ HEV คุณจะอ้างว่า จะทำเนียนๆให้สมดุลกันยาก ดูเก่งยังไง ผมก็มอง แล้วยังไง มันแค่เพื่อประหยัดน้ำมันมากขึ้น แต่พ่นควันกันเหมือนเดิม  แต่ก็มีค่ายรถสุดที่เลิฟของหลายๆคนพยายามบิดเบือนทั้งในสื่อและในโคสะนาต่างๆ ว่ามันคือรถอีวี  ;D

ส่วนเรื่องสปริงหักนี่ ผมดูเนื้องานแล้ว เบื้องหลัง ได้ยินจากในวงใน ไม่เนียนเลยจิงๆ รอยแผลแบบนั้น ซุ้มล้อทะลุ รถมันพลิกคว่ำไปถึงไหนแล้ว คนเล่าเรื่องไม่ได้มีโอกาสมาเล่ามโนสตอรี่ยาว อาการเหมือนถอดมาใช้แก๊สตัดเหล็กทำให้เสียหาย มันมีพิรุธขนาดนั้น เลยรีบถอนคำหาเรื่องทั้งหมดแบบจากหน้ามือเป็นหลังมือ  ไม่ใช่ว่าผมเข้าข้างพี่เม้ง เพราะเรื่องมันมีความแปลก ก็วิจารณ์กันไป ผมเองยังวิจารณ์พี่เม้งทั้งหนักๆ แดกดันไปบ้างเช่น วิทยุยัดแอ๊พขยะ _rue music มา แล้วตัด carplay/android auto ออก  ติเพื่อก่อ ให้ปรับปรุงแก้ไขเรื่อยๆไป

ส่วนรุ่นอื่นๆที่พลังแรงกว่า หรูกว่า ระยะทางมากกว่า เตรียมรอ Marvel X, E-motion กันได้คับ ราคาไปฆ่าพวก camry, accord นั่นแหระ
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: MacH1 ที่ มิถุนายน 29, 2020, 20:24:30
  จะเปิดให้นำเข้า 0%  จะเอื้อประโยชน์ให้เขาเพื่ออะไร      ทุกวันนี้รัฐบาลก็ส่งเสริมอยู่แล้ว แต่จะให้นำเข้าโดยใช้สิทธิ์ 0%  ส่วนใหญ่ไม่มีใครเอาด้วยหรอกมั้ง   มันต้องมีข้อแลกเปลี่ยนที่รัฐบาลเล็งเห็นแล้วได้ประโยชน์สูงสุด 

  ส่วน สมอและ สถาบันยานยนต์   มีวิศวกรที่ทรงคุณวุฒิหลายคน  ที่เป็นคนร่างระเบียบ กำหนดเสปก มาตรฐาน รวมถึงขนาดของรถ ความปลอดภัย  เพื่อเอามาสกัดกั้นรถที่ไร้คุณภาพ หรือคุณภาพที่ไม่เป็นไปตามกำหนด   ไม่ให้หลั่งไหลเข้ามาจนขาดมาตรฐาน  รวมถึงความปลอดภัยบนถนนในการใช้ถนนร่วมกัน       ไม่ใช่ให้รัฐบาลไปสร้างถนนเพิ่มเพื่อกำหนดเลนวิ่งให้รถไฟฟ้าจากประเทศใดประเทศนึง     คือมันต้องคิดส่วนรวมมาก่อนไม่ใช่คิดถึงคนกลุ่มนึงที่อยากได้           

     ส่วนสถานีชาร์จไฟฟ้า  ผมยังเชื่อ  อ พัฒนเดช  อาสาสรรพกิจ กับคุณวรพล สิงห์เขียวพงษ์ ที่พูดไว้ในรายการ  ถ้าจะใช้รถไฟฟ้าก็ควรดูความพร้อมและพฤติกรรมการใช้รถของตนเอง ว่าสามารถชาร์จที่บ้านได้ไหม      เรื่องที่จะมีสถานีชาร์จไฟฟ้าตามสถานที่ต่าง  ๆ เลิกคิดได้  ทุกประเทศไม่มีใครลงทุนเรื่องแบบนี้  ทุกวันนี้ก็ไม่มีใครทำแบบนั้นต่อให้ปริมาณรถไฟฟ้ามันจะเพิ่มขึ้นก็ตาม     

    ในด้านภาคประชาชน  การไฟฟ้าให้ใช้ไฟฟ้าห  หน่วยล่ะ .... บาท   ถ้าเกิดปริมาณการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นค่าไฟฟ้าอนาคตจะมีการเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้รถไฟฟ้าไปทำงาน   ต้องรับภาระในส่วนนี้ด้วยหรือเปล่า     รัฐบาลจะช่วยเหลือคนที่ไม่ได้ซื้อรถไฟฟ้าใช้งานได้อย่างไร ให้จ่ายค่าไฟเท่าเดิมและเก็บภาษีเพิ่มเฉพาะคนที่ชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้าน
ใช่ครับ จะให้เหลือ 0%เพื่อให้คนบางกลุ่มซื้อรถราคาถูกและรุฐต้องมาเสียรายได้ในการนำมาบริหารประเทศมันก็ไม่ใช่เรื่อง แล้วรถยนต์ไฟฟ้าใช่ว่าจะไม่ทิ้งมลพิษ แต่มลพิษไปอยู่ที่โรงไฟฟ้าและการจัดารแบตเตอรรี่ที่หมดอายุซึ่งเป้นอันตราย รวมไปถึงค่าไฟที่แพงอยู่แล้วต้องมาแพงขึ้นอีก คนอะไรเห็นแก่ตัวชะมัด

ผมรอชาร์จ QC ที่ปั้ม PTT คับ

ตามสบายครับ ถ้าผมต้องจอด ชาร์จ QC  ที่ PTT คือผมไม่มีวัน ซื้อรถ BEV ครับ
ยอมขับ Eco car หรือ HB / PHEV ที่ จอดแวะ เยี่ยว กินกาแฟ เติมน้ำมัน ไม่เกิน 10 นาที พอ
ถึงแม้ผมมีเรื่องไม่เห็นด้วยกับพี่ในคราวก่อน แต่ครั้งนี้ผมสนับสนุนพี่เเรื่องที่พี่ตอบโต้นะ ในกรณีที่ตอบคนอะไรมองโลกแคบ มองอะไรเป็นเรื่องง่ายไปเสียหมด  แล่วอย่างพวกรถไฟฟ้าฟ้ามาเวลวิ่งได้500กมต่อการชาร์จ1ครั้งก็จริง แต่การใช้งานจริงหละเหลือเท่าไหร่รวมไปถึงการชาร์จแต่ละครั้งที่ใช้เวลานานแม้จะเป็น quick charge แต่ผู้ผลิตรถหลายค่ายก็ไม่แนะนำให้ชาร์จบ่อยๆ แล้วใครจะมามัวเสียเวลารอชาร์จได้บ่อยทุก00-300กม.กันหละครับ แถมที่ชาร์จตามทางหลวงยังไม่เยอะเท่าไรด้วย

เชิญไปโวยวายเรื่องภาษีนำเข้า 0% กันเองคับ ไปชูป้ายที่กระทรวงการคลัง, DTN เลย เค้าเซ็นกันไปตั้งแต่ปี 2004 โน้น อีวีมันอยู่ในหมวด others ของพิกัดรถยนต์ HS code เวอร์ชั่นสมัยโน้น ที่พวกคุณจะซวยกันก็พวกคุณมันไม่มีศักยภาพที่จะแข่งขันได้เอง อีกเรื่อง ตามข้อตกลง ไทยก็สามารถส่งออกรถอีวีไปขายที่จีนได้โดยไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าเหมือนกัล ก็แฟร์ดี ตามการค้าแบบเสรีซึ่งพวกชาตินิยมหัวทิ่มแบบพวกคุณรับกันไม่ได้เอง 

0% ก็ดีแล้วพวกที่เอาเปรียบ มัดมือชกมาตลอด มันได้เวลาขยัน ดิ้นรนกันซะที จากไม่เคยเห็นหัวผู้บริโภค แข่งขันสูงขึ้น ตลาดก็คึกคักดี สิ่งนี้พวกคุณคงไม่ชอบกัน เพราะจะอดผูกขาด หลบอยู่หลัง มุขเดิมๆข้ออ้างชาตินิยม ต้องปกป้องอุตเฒ่าทารก บลาๆ

ได้ตามข่าวเทรนด์เทคโนโลยีการชาร์จเร็วกันบ้างปะคับ เค้าไปกันถึงไหนแล้ว ได้มีประสบการณ์ไปชาร์จสักทียังคับ นี้คณยังมโนหลอกตัวเองอยู่ไปวันๆว่า ชาร์จช้า รอนานตลอดกาลและตลอดไป และไม่มีการขยาย network charging station เลย ออกจากกะลาที่พวกค่ายรถพ่นควันมันครอบคุณไว้ ไปดูข้อมูลวิเคราะห์ซะบ้าง 

อีกเรื่อง ผมรอมุขไล่ออกจากประเทศจากคุณอยู่นะ ดูแล้วอนาจมาก
ใครกันแน่ที่อยู่กะลากัน  ชาร์จเร็วที่ว่านี่มันไม่ได้ส่งผลดีต่อแบตเลย ทำให้แบตเสื่อมเร็ว การที่อัดไฟสูงๆย่อมเกิดความร้อนที่แบตและสายไฟ เพราะโลหะยังมีค่าความต้านทานไฟฟ้าอยู่ อัดไฟเยอะขึ้นยิ่งเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ได้ง่าย แล้วเรื่องพ่นควันหนะ  รถไฟฟ้าคิดว่าไม่ปล่อยมลพิษสักแอะเลยหรอ  ไปดูที่แบตเตอรรี่ได้เลย  เวลาเค้ากำจัดแบตเตอรี่ การรีไซเคิลแบตเตอรี่และการหาแร่มาผลิตแบตเตอรี่ก็สร้างมลภาวะทั้งนั้น   ใครกันแน่กะลาครอบตัวคิดอะไรไม่เป็น บ้านรวยแต่เห็นแก่ตัวแบบนี้ ขนาดแค่คำว่าครับ ยังสะกดว่าแบบนี้ คงจะเป็นพวกพ่อแม่โอ๋เอาใจอย่างเดียวหละนะ

และแล้วก็ยังคงมโนกันต่อไปว่า เทคโนโลยีแบตมันจะไม่มีการปรับปรุงพัฒนาให้ทนถึก รับquick charge kw เยอะๆได้ ซึ่งอุตสาหกรรมภายในแค่แบตเจนปัจจุบันมันยังไม่มีสกิลผลิตได้เองเลย ไม่ต้องคิดถึงแบตเจนใหม่ๆ

มาเร็วๆคับ มุขไล่ออกจากประเทศเนี่ย  ;D ;D
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: akewizard ที่ มิถุนายน 29, 2020, 21:07:26
ผมตามอ่านอยู่คับ... แต่ขอโทษที่พูดตามตรงผมจับประเด็นไม่ค่อยได้จริงๆ
งั้นขอแสดงความเห็นตามหัวข้อก็แล้วกัน

ถ้าจะบอกว่าการมีกำแพงภาษีนำเข้าคือการดันทุรังอุ้มอุตสาหกรรมในประเทศ+ชาตินิยม ผมมองเป็นเรื่องปกติ
เพราะมันก็มีกำแพงภาษีนำเข้าในหลายๆสินค้าที่มีการผลิตในประเทศ สากกะเบือยันเรือรบ ไม่ใช่กับแค่รถยนต์

เรื่องนี้ถ้ารถยนต์ EV จากนอกประเทศเช่นจีนอยากจะเข้ามาแข่งขันภายในประเทศแล้วได้สิทธิพิเศษทางภาษีเหมือนค่ายรถอื่น
ก็เข้ามาผลิตในประเทศกลุ่มอาเซียนแล้วใช้ชิ้นส่วน supply ในภูมิภาคตามกำหนด ก็น่าจะทำราคาแข่งกับเจ้าอื่นได้
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ มิถุนายน 29, 2020, 21:56:03
ประเด็น จขกท คืออะไร    เห็นโพสต์แบบนี้มาเยอะ 

    จะให้รัฐบาลเลิกอุ้มอุตสาหกรรมยานยนต์งั้นเหรอ  ?   
      ประโยชน์ที่ได้รับ คืออะไร ใครได้ประโยชน์บ้าง  มีคำตอบหรือยัง ?
 
    แล้วมีคำตอบหรือยังว่าคนส่วนใหญ่ของประเทศที่ไม่ได้ซื้อรถ    จะได้ประโยชน์อะไรกับเรื่องดังกล่าว รัฐบาล หรือประทศไทยได้อะไรบ้าง   เมื่อพวกเขาไม่ได้อะไร   จะมีคนยอมทำตามที่ จขกท อยากให้เป็น   คงไม่มีทาง   
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: MacH1 ที่ มิถุนายน 29, 2020, 22:10:35
ผมตามอ่านอยู่คับ... แต่ขอโทษที่พูดตามตรงผมจับประเด็นไม่ค่อยได้จริงๆ
งั้นขอแสดงความเห็นตามหัวข้อก็แล้วกัน

ถ้าจะบอกว่าการมีกำแพงภาษีนำเข้าคือการดันทุรังอุ้มอุตสาหกรรมในประเทศ+ชาตินิยม ผมมองเป็นเรื่องปกติ
เพราะมันก็มีกำแพงภาษีนำเข้าในหลายๆสินค้าที่มีการผลิตในประเทศ สากกะเบือยันเรือรบ ไม่ใช่กับแค่รถยนต์

เรื่องนี้ถ้ารถยนต์ EV จากนอกประเทศเช่นจีนอยากจะเข้ามาแข่งขันภายในประเทศแล้วได้สิทธิพิเศษทางภาษีเหมือนค่ายรถอื่น
ก็เข้ามาผลิตในประเทศกลุ่มอาเซียนแล้วใช้ชิ้นส่วน supply ในภูมิภาคตามกำหนด ก็น่าจะทำราคาแข่งกับเจ้าอื่นได้

ไม่จำเป็นต้องมาลงทุนในประเทศนี้เลยคับ ทั้งแบรนด์จีนและแบรนด์ฝรั่ง ถ้าอยากขายอีวีในประเทศนี้ ง่ายมาก สั่งมาจากจีน เพราะภาษีนำเข้ามันเป็น 0% ตามข้อตกลงการค้า ACFTA ตอนนี้คุณเริ่มเห็นเม้งกวงเอารุ่นนึงเข้ามาแล้ว ต่อไปมีรุ่นอื่นๆมาเพิ่มอย่างน้อยสามรุ่น บีวายดีรอรุ่นที่เน้น passenger car อย่าง tang, han ทำขับขวาก็จะนำเข้ามาขาย ส่วนวอลโว่ บีเอ็ม มินิรอสั่งข้ามาขายเช่นเดียวกัน  ผู้บริโภคฟินดีคับ

ถ้ามาดื้อด้านลงทุนประกอบที่นี้ คุณเจอต้นทุนแพงกว่าทุกอย่าง จะทำเพื่อ?
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: MacH1 ที่ มิถุนายน 29, 2020, 22:15:27
ประเด็น จขกท คืออะไร    เห็นโพสต์แบบนี้มาเยอะ 

    จะให้รัฐบาลเลิกอุ้มอุตสาหกรรมยานยนต์งั้นเหรอ  ?   
      ประโยชน์ที่ได้รับ คืออะไร ใครได้ประโยชน์บ้าง  มีคำตอบหรือยัง ?
 
    แล้วมีคำตอบหรือยังว่าคนส่วนใหญ่ของประเทศที่ไม่ได้ซื้อรถ    จะได้ประโยชน์อะไรกับเรื่องดังกล่าว รัฐบาล หรือประทศไทยได้อะไรบ้าง   เมื่อพวกเขาไม่ได้อะไร   จะมีคนยอมทำตามที่ จขกท อยากให้เป็น   คงไม่มีทาง   

ไม่ได้โวยวายให้รัฐบวมเลิกอุ้มอุตสาหกรรมเฒ่าทารกของพวกคุณสักหน่อย กลับกัน ผมอยากให้ดื้อๆ อุ้มแบบนี้ไปเลย ให้สมชื่อที่มั่นสุดท้ายของรถพ่นควัน เพราะอุ้มแบบนี้นั่นละ ทำให้พวกคุณโคตรอ่อนแอ ไร้ซึ่งสกิลในการทำของเทคโนใหม่ๆ ถึงดื้อด้านเอามาประกอบให้ได้ ต้นทุนพวกคุณก็สูงกระจาย ทำให้ราคาตั้งแพงกว่าของนำเข้าจากจีน และอินโดไม่ได้ แถมออฟชั่นยังกั๊ก และงานประกอบเป็นรองอีก แถมไม่เห็นหัวผู้บริโภคกันอยู่แล้ว

อุ้มไปดีแล้วคับ  ::)
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: akewizard ที่ มิถุนายน 29, 2020, 23:47:11
ผมตามอ่านอยู่คับ... แต่ขอโทษที่พูดตามตรงผมจับประเด็นไม่ค่อยได้จริงๆ
งั้นขอแสดงความเห็นตามหัวข้อก็แล้วกัน

ถ้าจะบอกว่าการมีกำแพงภาษีนำเข้าคือการดันทุรังอุ้มอุตสาหกรรมในประเทศ+ชาตินิยม ผมมองเป็นเรื่องปกติ
เพราะมันก็มีกำแพงภาษีนำเข้าในหลายๆสินค้าที่มีการผลิตในประเทศ สากกะเบือยันเรือรบ ไม่ใช่กับแค่รถยนต์

เรื่องนี้ถ้ารถยนต์ EV จากนอกประเทศเช่นจีนอยากจะเข้ามาแข่งขันภายในประเทศแล้วได้สิทธิพิเศษทางภาษีเหมือนค่ายรถอื่น
ก็เข้ามาผลิตในประเทศกลุ่มอาเซียนแล้วใช้ชิ้นส่วน supply ในภูมิภาคตามกำหนด ก็น่าจะทำราคาแข่งกับเจ้าอื่นได้

ไม่จำเป็นต้องมาลงทุนในประเทศนี้เลยคับ ทั้งแบรนด์จีนและแบรนด์ฝรั่ง ถ้าอยากขายอีวีในประเทศนี้ ง่ายมาก สั่งมาจากจีน เพราะภาษีนำเข้ามันเป็น 0% ตามข้อตกลงการค้า ACFTA ตอนนี้คุณเริ่มเห็นเม้งกวงเอารุ่นนึงเข้ามาแล้ว ต่อไปมีรุ่นอื่นๆมาเพิ่มอย่างน้อยสามรุ่น บีวายดีรอรุ่นที่เน้น passenger car อย่าง tang, han ทำขับขวาก็จะนำเข้ามาขาย ส่วนวอลโว่ บีเอ็ม มินิรอสั่งข้ามาขายเช่นเดียวกัน  ผู้บริโภคฟินดีคับ

ถ้ามาดื้อด้านลงทุนประกอบที่นี้ คุณเจอต้นทุนแพงกว่าทุกอย่าง จะทำเพื่อ?

ถ้างั้นก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรนะครับ ใครอยากลองรถ EV ก็ซื้อรถนำเข้าจากจีนในราคา (ที่คิดว่า) คุ้มค่า
ส่วนคนที่ยังนิยมรถเครื่องยนต์น้ำมันที่ผลิตและประกอบในประเทศ จะด้วยเหตุผลอะไรหรือมุกอะไรก็ตามก็ไม่น่าจะมีปัญหาเช่นกัน ผมว่ามันก็รับฟังได้นะ
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: deertesla ที่ มิถุนายน 30, 2020, 04:03:43
ประเด็น จขกท คืออะไร    เห็นโพสต์แบบนี้มาเยอะ 

    จะให้รัฐบาลเลิกอุ้มอุตสาหกรรมยานยนต์งั้นเหรอ  ?   
      ประโยชน์ที่ได้รับ คืออะไร ใครได้ประโยชน์บ้าง  มีคำตอบหรือยัง ?
 
    แล้วมีคำตอบหรือยังว่าคนส่วนใหญ่ของประเทศที่ไม่ได้ซื้อรถ    จะได้ประโยชน์อะไรกับเรื่องดังกล่าว รัฐบาล หรือประทศไทยได้อะไรบ้าง   เมื่อพวกเขาไม่ได้อะไร   จะมีคนยอมทำตามที่ จขกท อยากให้เป็น   คงไม่มีทาง   

ไม่ได้โวยวายให้รัฐบวมเลิกอุ้มอุตสาหกรรมเฒ่าทารกของพวกคุณสักหน่อย กลับกัน ผมอยากให้ดื้อๆ อุ้มแบบนี้ไปเลย ให้สมชื่อที่มั่นสุดท้ายของรถพ่นควัน เพราะอุ้มแบบนี้นั่นละ ทำให้พวกคุณโคตรอ่อนแอ ไร้ซึ่งสกิลในการทำของเทคโนใหม่ๆ ถึงดื้อด้านเอามาประกอบให้ได้ ต้นทุนพวกคุณก็สูงกระจาย ทำให้ราคาตั้งแพงกว่าของนำเข้าจากจีน และอินโดไม่ได้ แถมออฟชั่นยังกั๊ก และงานประกอบเป็นรองอีก แถมไม่เห็นหัวผู้บริโภคกันอยู่แล้ว

อุ้มไปดีแล้วคับ  ::)
คนอะไรน่าสมเพศ พูดเหยียดคนอื่นตลอดแบบนี้ ทุเรศมาก แล้วไอ้รถไฟฟ้ามันซับซ้อนตรงไหนกันแค่รถใส่ถ่านระบบเกียร์ก็เกียร์เดียวเน้นการมอเตอร์แรงม้าสูงอัดไฟเยอะแต่ปลายเหี่ยว.  และที่สำคัญแบตโซลิตสเตทก็ยังไม่มีวางจำหน่ายยังอยู่ในขั้นพัฒนา. และที่สำคัญอันตรายจากการเกิดไฟไหม้ยังให้เห็นบ่อยในเทสล่า. อีกอย่างนะคนที่อยู่คอนโดหรือหอพักเค้าไม่สะดวกหรอกที่จะมาชาร์จข้ามคืนเพราะระบบที่ชาร์จทั้งคอนโดและหอพักยังไม่มี แถมการเสียบข้าทคืนก็ยังเสี่ยงต่อเหตุไฟไหม้แบบที่เคยเกิดกับพอร์ช ปลั๊กอินไฮบริดของพูดบางคนอีก. ถ้ามันตอบโจทย์ผู้บริโภคคนก็ซื้อใช้กันเยอะแล้วนะคนรวยขี้เหยียด. แล้วมีพ่อเป็นจีนหรือไงครับถึงจะให้ประกอบแต่จีนเพราะราคาถูกแต่ทำให้คนในประเทศอดตายเกิดปัญหาอาชญากรรมปล้นจี้กันเพราะคนตกงานไม่มีอะไรจะกิน
หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: kabokaboh ที่ มิถุนายน 30, 2020, 08:04:13
อ้างถึง
รัฐบวมนี้นโยบายขัดๆกันเพี้ยนๆ ลองไปค้นๆข้อมูลดูนะคับ ตัวอย่างทีเด็ดมีทั้ง ภาษีสรรพสามิตโหดๆสำหรับแบตเตอรี่ และสูตรคำนวณโควต้านำเข้าอีวี 

เรื่องภาษี ก็ดีแล้วนิครับ ระบบภาษี มีไว้ต่อรอง เพื่อผลประโยชน์ชาติ ไม่ให้ใคร มาเอาเปรียบ หรือ เป็นแรงจูงใจ ให้มาลงทุน เหมือนกับที่ทำสำเร็จมาแล้ว ในหลายๆเรื่อง

ระบบภาษี การค้า ที่ไหนๆ บนจักรวาล นี้เค้าก็ใช้กันไม่ใช่หรือ

ส่วนที่ โปรจีน ลดภาษี อีวี  รฐบ ก็ทำอยู่ ในระดับนึงละ ถ้ายังไม่ดี ผลเสียเยอะ เด่วเค้าก็ปรับใหม่เอง  ทำใจเย็นๆ


อ้างถึง
  สำหรับ HEV คุณจะอ้างว่า จะทำเนียนๆให้สมดุลกันยาก ดูเก่งยังไง ผมก็มอง แล้วยังไง มันแค่เพื่อประหยัดน้ำมันมากขึ้น แต่พ่นควันกันเหมือนเดิม


รถยนต์ไฟฟ้า มันเกิดมาก่อน รถยนต์สันดาปภายใน หลายสิบปี

แต่ มาเสียพื้้นที่ยืน บนโลกนี้ ให้เครื่องยนต์ ice มากว่าร้อยปี ก็เพราะ แบตเตอรี่ เป็นข้อจำกัด

มันไม่ใช่ของใหม่แต่อย่างใด

อันนี้ ไม่ขอโต้ตอบใดๆ เพราะ ถือว่า ชัดเจนอยู่แล้ว ที่ผู้ผลิตพัฒนาระบบ hybrid มาเพื่อทดแทน รถ Bev ในวันที่ battery เทพ ความจุสูง น้ำหนักเบา ราคาไม่แพง ไม่ทำลายสิ่งล้อม

มันยังมาไม่ถึง

และ ผมก็เชื่อว่า คนไทยทุกคน หรือ อย่างน้อย ก็ส่วนมาก

อยากใช้รถไฟฟ้า เหมือนกับท่าน แต่ ทุกอย่างมันต้องเหมาะสมกับผู้ใช้งานด้วย เขาถึงจะเลือกใช้กัน

ไม่ใช่แต่ราคา ถูก เพราะ ลดภาษี อย่างเดียว

ชั่วโมงนี้ ev ยังเหมาะ กับเฉพาะ คนกลุ่มเล็กไป แล้ว รฐบ เค้าจะอุ้ม ไปทำไม คนส่วนใหญ่ไม่ได้อะไร

ขนาดจีนเอง เพื่อ ธุรกิจ ของเขา รฐบ จีน ยังแจกตังค์ ให้ ถ้าซื้อ Bev เยอะด้วย

เพราะ คนเค้าเอง ก็ใช่ว่าจะพร้อมใช้กันทุกคน

แล้ว เราหล่ะ มันดีพอสำหรับทุกคนหรือยัง

คนไทย ไม่ได้มีฐานะ เหมือนท่านทุกคน ที่จะเอาเงิน หลายแสน หรือ หลักล้าน มาเสี่ยงกับเรื่องนี้

ถ้าอยากได้อากาศสะอาดๆ ไปดูเรื่อง รถเก่า รถดีเซล รถดัดแปลง ดันราง ควันดำ คัด egr เพิ่มขนส่งสาธารณะ  หรือแม้กระทั่ง online platform หรือ WFH เพื่อบดการเดินทาง จะตรงประเด็นกว่า

ที่จะคิดเทน้ำสะอาด ราคาแพง นิดหน่อย ลงไปใสบ่อน้ำเสีย แล้วหวังว่า มันจะสะอาด ทั้งบ่อ

อ้างถึง
  ส่วนเรื่องสปริงหักนี่ ผมดูเนื้องานแล้ว เบื้องหลัง ได้ยินจากในวงใน ไม่เนียนเลยจิงๆ รอยแผลแบบนั้น ซุ้มล้อทะลุ


ถ้าไม่จริง อย่างที่ เป็นข่าว ทั้ง qc และ การบริการ

mg ควรชี้แจง เพราะ เป็นเรื่อง ที่ทำให้ mg เสื่อมเสียชื่อเสียง

โดยตรง

วงใน วงนอก วงไฮโล ไม่นับเป็นเหล่งข้อมูลอ้างอิง

แต่ผมเองยังไม่เคยเห็นข่าวนั้นเลย  หรือ ผมอาจจะตกข่าว ถ้ามีการชี้แจงจาก mg  ถ้ามีรบกวนช่วยบอกด้วย


หัวข้อ: Re: รถอีวีนำเข้ากับลัทธิชาตินิยมในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
เริ่มหัวข้อโดย: madboy ที่ มิถุนายน 30, 2020, 11:27:51
ถ้ามีรถไฟฟ้าล้วน เพิ่มขึ้นสัก 10% เราเอาไฟฟ้าจากไหนครับ !!!!!