Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Spada_Valess ที่ สิงหาคม 09, 2020, 12:34:37
-
ใครรู้สึกแบบผมมั้งครับ อัตราเร่งแซงแบบใช้งานประจำวัน เตะคันเร่งพุ่งตามเท้า แซงแบบเงียบๆ การได้ชาจ์ฟรี เส้นทางที่ใช้ประจำมี DC charger จาก 30% > 90% ครึ่งชมเต็ม พอกลับมาขับรถน้ำมันแล้วแบบ รำคาญเสียงเครื่อง ต้องปรับตัวกับการเร่งแซงใหม่หมด :'(
-
ยังไม่เคยขับเลย แต่กับวินัยการขับขี่คนไทยอนาคตด้านอุบัติเหตุบนท้องถนนแย่แน่ๆ
-
ผมไม่เคยขับ EV ล้วน แต่ถ้าช่วงไหนขับ hybrid บ่อยๆ แล้วขับรถน้ำมัน คันที่แรงกว่าหน่อยและมี turbo รู้สึกว่ามันไม่ลื่นครับ มีช่วงหน่วงๆรถ และหน่วงๆใจเรานิดๆ (แต่ถ้าบูสมาก็ไปเลย)
แต่ถ้าไปขับคันอื่นๆที่มี ที่เป็นเครื่อง NA กับ turbo ที่แรงกว่ามากๆ ไม่รู้สึกอึดอัดครับ ปลดปล่อยโล่งสบายและฟินคับ 5555
-
เป็นเหมือนกัลคับ คือรถสปอร์ตผมใช้เป็นรถ weekend การเร่งแซง วิ่งเต่ากว่าอีก คงได้ข้ออ้างโมดิฟายเครื่องกันแล้ว ::)
-
ผมยังไม่เคยขับ EV ระดับ 0-100 :2.0-3.0 วิ ก็คงไม่รู้สึกมากครับ จะรู้สึกบ้างตอนขับต่างจังหวัด ในกทม นี่คันไหนผมก็ขับได้ ไม่รู้สึกอึดอัดครับ
-
หาคนตอบได้ค่อนข้างยากนะครับแบบนี้ เคสแบบท่านมีน้อย
-
ขึ้นกับรุ่นมากกว่าครับ ev เบบี๋ กับ na โหดๆ ก้อจะอีกแบบ
-
น่าจะหมายถึงพอได้ขับรถแรงๆ แล้วมาขับรถไม่แรงอัตราเร่งจะไม่ทันใจมากกว่านะครับ
-
30-90% ครึ่งชม.เต็ม โคตรเร็วเลย ไวกว่าสมาร์ทโฟนอีก
ผมว่ามันดีนะ ไม่ต้องรอรอบ ไม่ต้องรอบูส ไม่ต้องรอเกียร์จะอมหรือคันเร่งหน่วง
-
การชาร์จแบบ Quick ได้เต็มที่ไม่เกิน 80% ครับ เพราะแบตมันร้อน อยากให้เต็มจริงต้องต่อด้วย Normal mode
เคยใช้รถไฟฟ้า ในเมืองคล่องตัวดีครับ ไม่รู้สึกหน่วงหนืดอะไร จอดไปๆ สบายกว่ารถเครื่องพอควร
-
ผมขับ ev แล้วเครียด (bmw i3)
เพราะกลัวแบตเตอรี่จะหมดซะก่อนถึงที่ชาร์จหนะครับ
-
ฟิลเหมือนขับรถกอล์ฟแหละครับ เยียบปุ๊บมาเลย กลับมาขับน้ำมันจะหน่วงนิดหน่อยแบบอั้นๆ
-
เป็นครับ แบตหมดต้องหาชาร์ท เวลาขับๆ เครื่องยนต์ติดจะไม่ค่อยชอบละ อยากขับเงียบๆ
ส่วนเรื่องเวลากระทีบคันเร่งเหมือนโดนผลักจากข้างหลังจริงๆ ไปแบบพุ่งมากก แต่ถ้าถามเรื่องอารมร์คงเทียบกับเครื่องสับดาปล้วนไม่ได้ เลยทำให้นิสันการขับรถเปลี่ยนไปขับ กลายเป็นคนขับเรื่อยๆ นิ่มๆ ไปแทน
สรุป ข้อดีเสียคนละแบบ ไม่ถึงอึดอัด แต่ ทำให้นิ่สัยและบุคลิกการใช้งานเปลี่ยนไปตามรถครับ
-
น่ารถไฟฟ้ามันทอร์คมาตั้งแต่หยุดนิ่งเลย แต่รถปกติถ้า Turbo บูสไม่ติดก็ไม่มา ถ้า NA มาแบบ linear แล้วถ้าจะแรงเสียงต้องดังกว่า
-
ออก 530e มาได้ค่อนปี แม้ไม่ใช่ EV แท้ แต่การได้ตัวแบตใหญ่ 12 kWh มาก็ทำให้วิ่ง EV mode ในชีวิตประจำวันได้ดีทีเดียว (เฉลี่ย 35-45 กม./วัน)
เทียบกับ E220d ที่บ้าน รู้สึกเลยว่าเริ่มอึดอัดกับเสียง และอัตราเร่ง
เทียบกับ Harrier ที่บ้านอีกคัน อึดอัดมากขึ้นกับอัตราเร่ง และความประหยัดที่ต่างกันลิบ
คันถัดไปกำลังเล็ง Volvo V60t8 มาแทน Civic fd 2.0 ที่บ้าน แต่ขอรอแบตให้ใหญ่ขึ้นอีกซักหน่อย กะว่าปีหน้าแบตแบบ 15 kWh น่าจะได้ประจำการใน Volvo ตามราคา Lithium ที่ถูกลงเรื่อยๆ
ผมว่ารถ EV/PHEV ใครได้ใช้แล้วติดใจหมด เต็มที่อาจมีเครื่องสันดาบเอาไว้ขับสนุก แบบ Civic type-r, MB C63, BMW M3, Mazda MX-5 อะไรพวกนั้นมากกว่า
-
ใครรู้สึกแบบผมมั้งครับ อัตราเร่งแซงแบบใช้งานประจำวัน เตะคันเร่งพุ่งตามเท้า แซงแบบเงียบๆ การได้ชาจ์ฟรี เส้นทางที่ใช้ประจำมี DC charger จาก 30% > 90% ครึ่งชมเต็ม พอกลับมาขับรถน้ำมันแล้วแบบ รำคาญเสียงเครื่อง ต้องปรับตัวกับการเร่งแซงใหม่หมด :'(
รู้สึกครับ
บ้านผมมี Crv Diesel, Jazz Ge , Chr HV, ZS EV
ความทันใจกดแล้วมาเลยไม่นับแรงนะครับ ZS > Chr > Jazz > Crv
ความรู้สึกแบบถ้าเป็น ไฟฟ้า หรือ Hybrid กดคันเร่งคือมาเลย จะตามรถคันข้างหน้าทันสบายๆ เลยรู้สึกว่าเวลาขับรถน้ำมันทำไมต้องมาเสียจังหวะ Kickdown ความรู้สึกแบบนี้คือประจำ นอกเมือง ในเมืองรู้สึกหมด
จนตอนนี้ชอบขับแต่ Chr (ZS กดแล้วก็ทันใจดีแต่เกลียด Setting เบรค ช่วงล่าง และตำแหน่งคันเร่งและเบรคที่ MG ขยับเข้ามาอยู่ตรงกลางเพราะฝั่งขวาติดซุ้มล้อ)
ชาร์จฟรีนี่ไม่ได้ชาร์ทเลยส่วนใหญ่ขับไม่ไกล ชาร์ทที่บ้าน
เสียงเครื่องผมเฉยๆไม่ได้รำคาญอะไรนะครับ
เร่งแซงก็แล้วแต่คัน แต่ถ้าเป็น Crv เวลาขับในเมืองโคตรน่ารำคาญ รอ Kickdown ไม่พอ รอรอบ รอ Turbo อีก