Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: 6229 ที่ สิงหาคม 09, 2020, 21:29:02
-
โปรเปิดตัวที่ลดราคาจาก 989,000 เหลือ 959,000 จำกัดช่วงเวลาที่ได้ราคาพิเศษถึงเดือนกันยายน อยากทราบว่าถ้าแพลนซื้อต้น-กลางปีหน้า ซึ่งเข้าใจว่าค่ายรถหลังผ่านช่วงเปืดตัวไป 6 เดือนจะมีงบการตลาดสำหรับทำแคมเปญ (จับประเด็นจากพี่จิมมี่ในรายการ)
เลยอยากทราบว่างบการตลาดที่ให้มานี่ถ้าเป็นดีลเลอร์ใหญ่ๆ (buzz,k) ถ้าได้ราคาเบ็ดเสร็จพอๆกับ 959,000ไหมครับ หรืออาจถูกกว่านี้/แพงกว่านี้
-
ผมเกรงว่าเครื่อง 1.8 เพียวๆจะไม่มีขายอีกต่อไปแล้วเหมือน CH-R
เพราะหลังๆเหมือน TOYOTA จะพลักดันให้คนไปออกรุ่น Hybrid สะมากกว่า
อาจจะแทนที่ด้วย 1.8 Hybrid Base ราคา 9.59 แสน ส่วนตัวท๊อปจะเปลี่ยนไปใช้ 2.0 Hybrid ไรงี้
-
น่าจะกลับมาปกติ แต่อย่าลืม ส่วนลดของ Toyota เยอะมากนะ
ตามยุทธศาตร์โลกและชาติ
ยังไงก็ต้องไป HV เพื่อที่จะขยับไป PHEV หรือ BEV
ผลิตรถ ตาม อุปสงค์ ของคนหมู่มากจากทีมการตลาด หากต้องการผลกำไรทางธุรกิจ
ยังไง HV ก็ได้ภาษีถูกกว่ารถ ปกติ คือหากประกอบในไทย เสียภาษีแค่ 4 % แต่รถทั่วไป จะเป็น 20-30 %
พูดง่ายๆ ผลิตรถน้ำมันล้วน บริโภคน้ำมันเยอะๆ ก็ ขายราคาได้ไม่ต่างกับ HV
แต่ที่แน่ๆ คงไม่มี ค่ายไหนเปิดตัวผลิต BEV ในไทยในเร้วๆนี้ เพราะ การลงทุนมันไม่คุ้มค่า ส่งออกก็ไม่รู้จะไปขายใคร ขนาดบ้านเกิด OEM ยังไม่นิยม
ต่อให้ผลิตได้ จะไปขายใคร ในเมื่อ ขนาด ญี่ปุ่น ยังใช้ กันแต่ Hybrid พึ่งจะมา สร้งปรากฏการ ด้วย S-EV Kick
ภายใน 3 ปี อัตราส่วน HV รวมถึง PHEV ที่ผลิตในไทย ก็ค่อยๆ เติบโต
วันนี้ เราจากที่รอคอย เรามี PHEV เจ้าแรก ที่ผลิตไทย รอดูราคา ได้ภาษี BOI น่าจะ 4 % มั้ง
และ มี S-EV
รวมถึง HV จากเจ้าตลาดที่ราคาต่ำกว่า ล้าน
ผมเคยบอกไว่นานแล้ว ก่อนจะไป BEV
ยังไงก็ต้องผ่าน HV และ PHEV ไปก่อน
รถท้าย รถก็คือรถ
คนซื้อรถที่ องค์ประกอบรวม ไม่ใช่แค่ ว่ามัน ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์อะไร
แต่ที่แน่ๆ ผมไม่เอารถจีนแน่นอน เห็นขึ้นรถสไลดฺ และ ช่วงล่างผุ แบบ รับไม่ได้
และผมคงไม่ซื้อรถ ราคาเป็นล้าน เพื่อขับได้ต่อครั้งแค่ 300-400 กิโล โดยที่ ชาร์ไฟที่ 30 นาที แล้วไม่มีหัวชาร์ระหว่างทางอีก
ดังนั้น วันนี้ ยังไง รถที่ประหยัดน้ำมัน คือคำตอบ เพราะ บ้านเรายังขายน้ำมันอยู่โดย ปตท
-
ต้องดูภาวะการเงิน การตลาดขณะนั้นด้วย
ถ้าคุณมองว่าเศรษฐกิจแย่ลง ราคาก็น่าจะมีส่วนลดมากขึ้น
ถ้ามองว่าฟื้นตัว ส่วนลดก็น้อยลง
ธรรมชาติการค้าครับ
-
ความเห็นส่วนตัว ผมมองว่า ราคาถึงจะขึ้นไปจาก 959,000 เป็น 989,000 นั้น
ดีลเลอร์น่าจะมีส่วนลดมาชดเชย ให้ราคารวม+ของแถมไม่ต่างจากเดิมมมากครับ
พร้อมเมื่อไรออกเมื่อนั้นครับ
-
ถ้าเค้าอยากได้ยอด โปรลับมันออกมาเองแหละ
-
มั่นใจว่าถ้ารอถึง 3 ปีมีสิทธิ์ลดเป็นแสนแน่นอน (เหมือน c-hr เบนซินในขณะนี้)
-
กลัวจะเลิกผลิตแบบ CHR มากกว่าครับ
แต่ตอนนี้คิดว่าถ้าหมดราคาโปรแล้ว ก็คงมีส่วนลดมาชดเชยแหละครับ
-
เต็มที่ก็อัดโปร มีส่วนลดเพิ่มครับ
แต่รถใหม่อายุไม่ถึง 1 ปี ผมว่าคงลดไม่เยอะเท่าไหร่
ดีไม่ดีถ้ายอดขายเยอะ อาจลดพอๆกับตอนนี้แหละ กระตุ้นตอนแกระแสตกอีก 2ปีให้หลังทีเดียว
-
ตัว 1.8 ไปลองจับๆ มาแล้ว น่าใช้มากๆ แต่ภายนอกดูโล้นๆ แปลกๆ
ซื้อมายังไงต้องเปลี่ยนล้อก่อนเลยอันดับแรก
-
ราคาอัพขึ้น แต่จัดโปรเพิ่มจนราคาลงมาพอกันหรือถูกกว่าแน่ครับ เมื่อวันเวลาผ่านไปถ้าไม่มีอะไรใหม่ก็ไม่มีทางแพงขึ้น
แต่กลัว Toyota จะผลิตน้อยจนรอนาน หรือเลิกผลิตไปมากกว่า C-HR เบนซินมีอายุได้ 2 ปีกว่า
ปล. ผมไปลองขับมาสั้นๆ ไม่รู้คิดไปเองมั้ย ผมว่าน้ำหนักพวงมาลัยหนักกว่าตัว Hybrid ล้อ 18" นิดนึงนะ
-
1.8 ลิตร ขายกันไปเรื่อยๆ ถ้ายอดขายดี ก็อาจมีรุ่นปรับอุปกรณ์ออกมา หวังว่าคงไม่ใช่รุ่น GR เหมือนที่ทำกับ Altis 1.8 GR Sport
แต่เท่าที่เดินชม collora cross มารอบๆคัน เซลล์ก็ตามเชียร์แต่รุ่น hybrid มากกว่า 1.8 สงสัยโดนใบสั่งมาต้องเน้นยอด hybrid
-
ลองถามส่วนลดอัลติส 1.8 GR เบนซินล้วน ดูครับ ( เห็นแว๊บๆ ว่าลด 70,000 )
ถ้า cross 1.8 เบนซิน ขายไปซักระยะ น่าจะได้ส่วนลดประมาณนี้ :-* :-* :-*
-
อะไรก็เกิดขึ้นได้ ขนาด ppv ทุกวันนี้ราคายังเกือบสองล้าน ;D
-
โดยทั่วไป เปิดตัวสินค้าใหม่ มักจะมี Sale promotion ส่วนลดเรื่องราคา เพื่อให้สินค้าเข้าทำตลาด
หมดช่วง Promotion ก็กลับสู่ราคาปกติ ที่ประกาศไว้
แถม รถยนต์ แต่ละรุ่นจะปรับราคาขายขึ้นทุก 6-12เดือน, Minor Change
แต่ ก็จะมี Campaign, Promotion ต่างๆ เพื่อกระตุ้นยอดขาย
ตามภาวะสถานะการ การตลาด การแข่งขัน ตามฤดูการ ช่วงปลายอายุสินค้า ครับ